“เฮือก!”
บัวรัตนาลืมตาขึ้นอย่างตื่นตระหนก ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือกระจกบานใหญ่ และเธอก็ยืนอยู่ตรงนั้นในชุดแต่งงานสีขาวสะอาดตา ประดับด้วยประกายมุกและลายลูกไม้แสนประณีต ร่างกายของเธอยังคงรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่หลงเหลือ แต่สิ่งที่ทำให้เธอตกตะลึงคือภาพสะท้อนในกระจก
เธอค่อย ๆ หมุนตัวไปมา มองตัวเองในกระจกอย่างไม่เชื่อสายตา ความสงสัยและความสับสนพลุ่งพล่านในใจ ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้? ความทรงจำสุดท้ายก่อนที่จะลืมตาขึ้นมาในตอนนี้คือความเจ็บปวดจากการถูกชน แต่กลับกลายเป็นว่าเธอยืนอยู่ตรงนี้ ในชุดเจ้าสาวที่ดูสวยงามราวกับอยู่ในฝัน
หรือว่าทั้งหมดนี่เป็นเพียงความฝัน? เธอค่อย ๆ ยื่นมือไปแตะที่กระจกเงาเย็น ๆ บานนั้น ความรู้สึกที่กลับมาคือช่างเหมือนจริง ทั้งความรู้สึกของผ้าไหมที่สัมผัสกับผิวของเธอ ทุกอย่างชัดเจนเกินกว่าที่จะเป็นเพียงภาพลวงตาหรือความฝัน...
แต่ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
บัวรัตนากวาดตามองไปรอบ ๆ ห้อง จากนั้นจึงตระหนักได้ว่านี่คือห้องแต่งตัวเดียวกับในวันแต่งงานของเธอ แต่มันเกิดขึ้นได้ยังไง? เธอแต่งงานไปแล้วไม่ใช่หรือ? แล้วเธอก็ยังจำได้ชัดเจนว่าเธอวิ่งตามรถของนรกานต์ก่อนจะถูกรถชนอย่างจัง...
“โอ๊ย!”
ทันใดนั้นเองในหัวของบัวรัตนาก็พลันเกิดอาการเจ็บแปลบขึ้นมากะทันหันราวกับมีเข็มนับพันทิ่มแทง ก่อนที่ข้อมูลของเรื่องราวจำนวนมากจะหลั่งไหลเข้ามาในจิตสำนึกของเธอ ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ผุดขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมกับความเจ็บปวดที่ทะลักเข้ามาจนทำให้หัวเธอแทบระเบิด
เมื่อความทรมานทุกอย่างสิ้นสุดลง ในที่สุดบัวรัตนาก็ตระหนักได้ถึงความจริงที่น่าตกใจยิ่งกว่า ชีวิตที่เธอเคยคิดว่าช่างเหมือนพลอตนิยายน้ำเน่า แท้จริงแล้วไม่ใช่เพียงแค่เรื่องบังเอิญ แต่กลับกลายเป็นว่าเธอคือหนึ่งในตัวละครในนิยายน้ำเน่าเรื่องหนึ่งจริง ๆ
และยิ่งไปกว่านั้น เธอก็คือตัวร้ายในนิยายเรื่องนั้น!
“คุณบัวรัตนา อีกเดี๋ยวต้องออกไปแล้วนะคะ”
เสียงของหญิงสาววัยรุ่นดึงสติของเธอกลับมา บัวรัตนาจำใบหน้าของเธอได้ เด็กคนนี้คือหนึ่งในทีมงานของบริษัทออแกไนซ์ นี่คือวันแต่งงานของเธอเองจริง ๆ
“หรือว่า...ฉันได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง ฉันทะลุมิติมาเกิดใหม่อีกครั้ง!” บัวรัตนารู้สึกตื่นเต้นจนหัวใจเต้นแรงไม่หยุด ถึงจะเคยอ่านนิยายหรือดูซีรีส์แนวทะลุมิติมาไม่น้อย แต่อัลฟ่าสาวไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้กับตัวเอง
“คะ? เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะคะ?” พนักงานสาวถามอย่างสับสนกับท่าทีของบัวรัตนา
“สามีฉัน…ไม่สิ คนที่ฉันจะแต่งงานด้วยคือใคร?” เธอถามพนักงานตรงหน้า สีหน้าของพนักงานเริ่มไม่ดีนัก ดูใกล้จะรับมือไม่ถูกกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“คุณนรกานต์ค่ะ นรกานต์ เจริญผลวัฒนา” พนักงานสาวตอบอ้ำอึ้ง
ชัดเจนแล้ว!
นี่คงเป็นโอกาสที่โชคชะตาหรือเบื้องบนประทานมาให้แน่นอน! เพื่อให้เธอได้กลับมาเริ่มต้นใหม่แก้ไขความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น ชีวิตที่แล้วเธอต้องจบชีวิตอย่างอนาถเพราะยึดติดกับความรักโง่ ๆ แต่ในครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมให้ชะตากรรมของนางร้ายกำหนดจุดจบของเธออีกต่อไป เธอจะต้องเปลี่ยนแปลงมันให้ได้ ไม่ว่าจะต้องเจอกับอุปสรรคใดก็ตาม
ส่วนสามีเฮงซวยอย่างนรกานต์ก็ต้องถูกเอาคืนอย่างสาสม!
นิยายเรื่องนี้ชื่อว่า หวนรักพันธะหัวใจ
เรื่องราวเกิดขึ้นในโลกที่เพศรองไม่ใช่เพียงแค่ปัจจัยของความแตกต่าง แต่เป็นสิ่งที่นิยามความเป็นไปของสังคมทั้งมวล อัลฟ่าครอบครองตำแหน่งสูงสุดบนพีระมิด ด้วยมีความสามารถเหนือกว่าทั้งสามเพศรองทั้งรูปร่างหน้าตา สติปัญญา และฟีโรโมนที่สามารถข่มขวัญเพศรองอื่นให้ยอมสยบ พวกเขาคือยอดคนที่มีจำนวนน้อยนิด แต่มีอำนาจเหลือล้น
ในทางตรงกันข้าม เบต้าคือคนธรรมดาที่มีจำนวนมากที่สุด นับเป็นประชากรทั่วไปของโลก สมรรถนะทางร่างกายและด้านอื่น ๆ อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ไม่โดดเด่น ไม่ถูกดึงดูดด้วยฟีโรโมนของโอเมก้า เบต้าหญิงสามารถตั้งครรภ์ได้
โอเมก้า เพศรองที่มีความสามารถในการเจริญพันธุ์สูง สามารถตั้งครรภ์ได้ทั้งโอเมก้าชายและหญิง ทุกเดือนจะมีรอบฮีตซึ่งช่วงนี้โอเมก้าจะปล่อยฟีโรโมนออกมาเพื่อดึงดูดอัลฟ่าให้มาจับคู่ ด้วยเหตุนี้โอเมก้าจึงมักมีรูปร่างหน้าตางดงามเปราะบางชวนทะนุถนอม เพื่อดึงดูดให้อัลฟ่าซึ่งเป็นผู้แข็งแกร่งเข้ามาแย่งชิง
ตระกูลก้องเกษมทรัพย์ของบัวรัตนาเป็นหนึ่งในตระกูลที่ปกครองด้วยอัลฟ่ามาอย่างยาวนาน บรรพบุรุษของพวกเขาครอบครองที่ดินหลายผืน ทั้งในเมืองใหญ่และพื้นที่เกษตรกรรม ทายาทรุ่นถัดมาได้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรู คอนโดมิเนียม หรือบ้านพักตากอากาศ กิจการของพวกเขาเข้าถึงลูกค้าทุกระดับ
ตระกูลเจริญผลวัฒนาของนรกานต์เคยเป็นหนึ่งในตระกูลที่ทรงอิทธิพลในวงการธุรกิจโรงแรมหรูและรีสอร์ทระดับพรีเมียมเช่นกัน ธุรกิจที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชั้นสูงจากทั่วโลก แต่ความยิ่งใหญ่ของตระกูลกลับสั่นคลอนจากการบริหารที่ผิดพลาดของท่านชายปิยวัฒน์—พ่อของนรกานต์ ทำให้ธุรกิจเริ่มประสบปัญหาขาดทุนอย่างต่อเนื่องจนเกือบล้มละลาย
เพื่อรักษาสถานะและชื่อเสียงของตระกูลที่สั่งสมมานาน ท่านชายปิยวัฒน์จำเป็นต้องหันกลับไปพึ่งความสัมพันธ์ครั้งเก่ากับท่านชายวรชัย—พ่อของบัวรัตนา โดยทวงถามถึงสัญญาแต่งงานที่เคยตกลงกันไว้ตั้งแต่พวกเขายังเป็นวัยรุ่น เพื่อสร้างความเชื่อมโยงระหว่างสองตระกูลอีกครั้ง หวังว่าการแต่งงานครั้งนี้จะช่วยกอบกู้ตระกูลเจริญผลวัฒนาจากวิกฤตและนำพาความมั่งคั่งกลับมา
ที่บ้านพักตากอากาศสุดหรูแบบพูลวิลล่าขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ติดริมทะเลภูเก็ตซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ทั้งคนไทยและต่างชาตินิยมมาพักผ่อน แม้ว่าจะไม่ใช่ช่วงไฮซีซั่นก็ตาม คนไทยที่มีฐานะส่วนใหญ่ ถ้าชื่นชอบการเที่ยวทะเล มักจะซื้อบ้านพักตากอากาศไว้ตามที่ต่าง ๆ บางคนถึงกับลงทุนหลายล้านเพื่อครอบครองที่ดินและบ้านพักริมทะเลที่ตนเองชอบนรกานต์ บัวรัตนา และชลธารเดินทางมาถึงบ้านพักตากอากาศแห่งนี้ในช่วงค่ำ เนื่องจากบัวรัตนามีงานสำคัญในช่วงกลางวันที่ต้องจัดการก่อน แม้ว่าทั้งสามคนจะตกลงกันไว้แล้วว่าจะมาฮันนีมูนที่นี่ แต่สำหรับบัวรัตนา งานก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยบ้านหลังนี้เป็นบ้านของบัวรัตนาที่เธอตัดสินใจซื้อไว้หลังจากถูกใจบ้านนี้เข้าเต็มเปา แต่ด้วยงานที่รัดตัว ทำให้เธอแทบไม่มีเวลาได้มาใช้ชีวิตในบ้านพักหลังนี้เลย ทั้งที่เธอเคยเป็นคนชอบเที่ยวทะเลมาก นอกจากนี้ บัวรัตนายังเป็นหุ้นส่วนในรีสอร์ทที่มีพูลวิลล่าหลายหลังอีกด้วยเมื่อมาถึง บัวรัตนาก็ทิ้งตัวลงนอนแผ่หราบนเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน นรกานต์มองดูเธอด้วยความเอ็นดูเล็กน้อย เพราะเขาไม่ค่อยได้เห็นบัวรัตนาแสดงออกถึงความเหนื่อยล้าแบบนี้บ่อยนัก งานที่เธอเผ
เรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้กลับกลายเป็นความจริงในโลกของบัวรัตนา จากความสับสนและความไม่แน่นอนที่เคยบดบังเส้นทางของเธอไป เมื่อเวลาผ่านไป เธอได้เรียนรู้และเข้าใจตัวเองมากขึ้น รวมถึงคนสำคัญที่อยู่เคียงข้างในชีวิต ความเข้าใจนี้ทำให้เธอตระหนักว่าเธอรักทั้งนรกานต์และชลธารพร้อมกันอย่างแท้จริงความเคียดแค้นที่เคยมีต่อนรกานต์ได้ถูกลบล้างจนหมดสิ้น เมื่อบัวรัตนาเริ่มเห็นความเปราะบางในตัวเขาแทนที่ความเย่อหยิ่ง ความรู้สึกเหล่านี้เปลี่ยนเป็นความรักและความปรารถนาที่จะดูแล ส่วนชลธารที่เริ่มต้นด้วยความสบายใจ กลับค่อย ๆ พัฒนาเป็นความรักที่มั่นคงและลึกซึ้งยิ่งขึ้นการใช้ชีวิตร่วมกันทั้งสามคน แม้จะเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาและท้าทาย แต่กลับเป็นสิ่งที่เติมเต็มชีวิตของพวกเขาอย่างที่ไม่เคยคาดคิด แต่ละคนมีบทบาทเฉพาะในการช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหาย จนทำให้ความสัมพันธ์นี้ก้าวสู่ความสมบูรณ์แบบ ความรักของพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงความรู้สึกที่แบ่งปัน แต่เป็นการหล่อหลอมให้กลายเป็นหนึ่งเดียวที่แน่นแฟ้น“ธาร อย่าลืมกระเป๋าใบนั้นนะ มันสำคัญมาก!” บัวรัตนาเอ่ยกำชับ พร้อมชี้ไปยังกระเป๋าถือขนาดกลางที่วางตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียง“ทำไม
“แต่ฉันจริงจัง...”คำพูดนั้นทำให้นรกานต์รู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฟาดลงกลางใจ ความหนาวเย็นไหลวูบผ่านสันหลัง เขาเริ่มตระหนักว่าเขาอาจจะพูดจาไม่คิด และตอนนี้คงหาเรื่องใส่ตัวตั้งแต่เช้าเข้าให้แล้ว ความรู้สึกกังวลพลันเข้ามาครอบงำเขาอย่างรวดเร็วนรกานต์พยายามเบี่ยงเบนความเครียดด้วยการเล่นมุก เขาเอื้อมมือไปดึงแก้มบัวรัตนาเบา ๆ “อย่าคิดมากสิ คุณบัว ขำ ๆ น่า อย่าหน้าบึ้งเลย” เขาพยายามดึงรอยยิ้มจากเธอ แต่บัวรัตนากลับหัวเราะเบา ๆ เพียงชั่วครู่ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น“จะว่าอะไรไหมถ้าฉันอยากจะเริ่มต้นใหม่กับคุณ?” บัวรัตนาถามขึ้น ทำให้นรกานต์ชะงักไป เขาไม่เข้าใจแน่ชัดว่าหมายความว่ายังไง“หมายความว่ายังไงนะ ผมไม่เข้าใจ” นรกานต์ขมวดคิ้ว สายตาเต็มไปด้วยความสงสัยและความกังวลบัวรัตนาสูดหายใจลึก เธอรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องพูดความในใจ “ฉันคิดดูแล้ว... ฉันไม่อยากให้เรายึดติดกับสถานะคู่แต่งงานใช้หนี้บ้า ๆ บอ ๆ นั่น ตอนนี้คุณสองก็รักฉัน ฉันก็รู้สึกดีกับคุณเหมือนกัน แต่...”“แต่...?” นรกานต์ถามต่อด้วยความสงสัย สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างที่สำคัญมากกำลังจะถูกพูดออกมา“แต่...อะไรล่ะ? ถ้าคุณบัวพูดแบบนี้ ฟัง
บัวรัตนายืนฟังทุกอย่างอยู่ที่หน้าประตูห้องเลี้ยงเด็ก ทุกคำพูดของนรกานต์และชลธารสะท้อนเข้ามาในความคิดของเธออย่างชัดเจน ทั้งสองคนกำลังเปิดเผยความในใจต่อกันอย่างตรงไปตรงมาเธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จและตั้งใจจะมาเล่นกับเจ้าตัวน้อยเหมือนทุกครั้ง แต่เมื่อได้ยินบทสนทนาที่แฝงความรู้สึกเจ็บปวดนั้น เธอก็รู้สึกเหมือนถูกปลุกให้ตื่นจากความเชื่อเดิม ๆ ที่เคยมีมา สุดท้ายบัวรัตนาก็ตัดสินใจถอยออกมาก่อนเงียบ ๆ ปล่อยให้นรกานต์และชลธารได้คุยกันต่อตัวเธอเองก็ต้องใช้เวลานี้เพื่อพิจารณาความรู้สึกของตัวเองด้วยบัวรัตนาเดินกลับมาที่ห้องของตัวเองด้วยฝีเท้าเบาหวิว ก่อนปิดประตูลงแผ่วเบา อัลฟ่าสาวเดินไปนั่งอยู่หน้ากระจก มองดูเงาสะท้อนของตัวเองที่ปรากฏอยู่ในบานกระจกใส เธอมองลึกเข้าไปในดวงตาของตัวเอง รู้สึกได้ถึงความสับสนและคำถามที่ค่อย ๆ ถาโถมเข้ามาเธอครุ่นคิดย้อนกลับไปถึงเรื่องราวในชาติที่แล้ว ตอนที่เธอตัดสินใจตกลงแต่งงานกับนรกานต์ ทุกอย่างตอนนั้นมันดูเต็มไปด้วยความหวัง แต่หลังจากนั้นเธอพบว่าความรักที่เธอวาดฝันไว้นั้นกลับเต็มไปด้วยความผิดหวัง การแต่งงานครั้งนั้นพังทลายลงเพราะความเชื่อผิด ๆ และความคาดหวังที่ไม่เป็นจริง
ความทรงจำเกี่ยวกับชลธารหวนกลับมาเล่นงานนรกานต์อีกครั้ง ภาพในหัวของเขาพาให้คิดย้อนกลับไปถึงวันที่เขาขืนใจชลธาร มันไม่ใช่การกระทำที่เกิดจากความรักหรือความผูกพันใด ๆ แต่มันเต็มไปด้วยความรุนแรงและการบังคับ ความรู้สึกผิดเริ่มถาโถมเข้าใส่ เมื่อเขาตระหนักว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่คล้ายกัน การถูกบีบให้ต้องแบกรับสิ่งที่ไม่คาดคิดและความรู้สึกที่ไม่อยากยอมรับมันเขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง ชลธารจะรู้สึกอย่างไรตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับเรื่องนั้น? จะรู้สึกทุกข์ทรมานเหมือนกับที่เขากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้หรือไม่? นรกานต์ได้ยินมาว่าชลธารยังคงทำงานต่อไปแม้จะตั้งท้อง แม้ต้องแบกรับน้ำหนักของท้องที่ใหญ่ขึ้นทุกวัน เขายังคงพยายามทำงานตลอดเก้าเดือนที่ยาวนานในที่สุดนรกานต์ก็เริ่มยอมรับในความแข็งแกร่งของชลธาร ความอดทนและความพยายามของโอเมก้าคนนี้เกินกว่าที่เขาเคยประเมินไว้มาก เขาไม่เคยคิดว่าโอเมก้าที่เขาเคยมองว่าอ่อนแอ จะมีความอดทนและหัวใจที่แข็งแกร่งขนาดนี้ มันทำให้เขาเริ่มมองเห็นความผิดพลาดของตัวเองในอดีตมากขึ้น ความโกรธ ความรุนแรง และความเย่อหยิ่งที่ทำให้เขาทำลายทุกอย่าง ตอนนี้กลับมากัดกร่อนหัวใจของเขาเอง
เวลาผ่านไปหลายเดือน เรื่องการตั้งครรภ์ของนรกานต์ยังคงเป็นความลับที่รู้กันเฉพาะในครอบครัว บัวรัตนาจัดการทุกอย่างอย่างรอบคอบ เธอให้เหตุผลกับบริษัทว่านรกานต์ต้องไปดูงานที่สาขาใหม่ในต่างจังหวัด เพื่อไม่ให้เกิดความสงสัยในการหายตัวไปชั่วคราวของเขา แต่ในความเป็นจริง นรกานต์ต้องอยู่ภายใต้การดูแลใกล้ชิดเนื่องจากภาวะแท้งคุกคามที่ทำให้เขาไม่สามารถทำงานหนักได้การตั้งครรภ์ทำให้ชีวิตของนรกานต์เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง จากที่เคยเป็นอัลฟ่าที่ทรงพลังและทำงานเก่ง ตอนนี้เขาต้องประสบกับความยากลำบากในการเดินหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ แม้แต่การขึ้นบันไดก็กลายเป็นภาระ แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เพราะบัวรัตนาไม่เคยห่างเขา เธอมักหาเวลามาดูแล ทั้งก่อนออกไปทำงานและหลังเลิกงาน และในวันที่เธอไม่ได้เข้าบริษัท เธอก็จะใช้เวลาอยู่กับนรกานต์ให้มากที่สุดแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่จะยังคงเต็มไปด้วยความซับซ้อนและความขัดแย้งที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข แต่ช่วงเวลาที่พวกเขาได้ใช้ร่วมกันก็ทำให้บัวรัตนาเริ่มคิดทบทวนหลาย ๆ อย่างในชีวิต ความผูกพันที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นระหว่างการดูแลนรกานต์ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ทำให้