เข้าสู่ระบบหานลั่วอิงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่ที่เรือนส่วนตัวของตนเอง ในแต่ละวันนอกจากอ่านตำราทางการแพทย์แล้ว นางก็ไปเล่นหมากรุกกับถานอวิ๋นซีเกือบทุกวัน แต่ก่อนเขามักจะหงุดหงิดที่ต้องแพ้นาง แต่ตอนนี้ดูเป็นคนอารมณ์เย็นขึ้นมาก
และทุกเดือนนางต้องปลอมตัวเป็นท่านหมอหลี่ เข้ามาที่จวนตระกูลถานเพื่อฝังเข็มและจ่ายยา จากที่ในตอนแรกหน้าตาของถานอวิ๋นซีดูไม่เชื่อถือสักเท่าไหร่<
หานหนิงอันรู้สึกผิดหูกับคำเรียกขานของถานอวิ๋นซีที่เรียกพี่สาวว่า‘ลั่วอิง’ จึงหันไปมองซินจี๋ สองนายบ่าวรู้ใจกันดี แสดงละครปกปิดความผิดของตนออกมาอีกครั้งซินจี๋ชี้แจงความเท็จอย่างคล่องแคล่ว “เป็นซินจี๋ที่ไม่รู้ความ วันก่อนบ่าวมีโอกาสผ่านหอชมจันทร์อีกครั้ง ก็ไปถามเรื่องนี้เพื่อความแน่ใจ ปรากฏว่าคุณหนูใหญ่ไม่ได้ไปที่หอชมจันทร์นานมากแล้ว หญิงผู้นั้นเพียงหน้าตาคล้ายคุณหนูใหญ่ ท่านหลงจู๊บอกเช่นนั้นเจ้าค่ะ”ถานอวิ๋นซีพยักหน้ารับทราบ แม้ในใจจะรู้สึกแปลกอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่อยากคาดคั้นพวกนางสองคนอีกต่อไป นั่งค
หลังจากเหตุการณ์มีปากเสียงกันวันนั้น หานลั่วอิงก็ไม่โผล่หน้ามาให้เขาเห็นอีกเลยอาหารและยาก็ล้วนเป็นบ่าวที่ยกเข้ามา คนสั่งไม่ยอมออกหน้า เรียกได้ว่านางทำตัวห่างเหินกับเขาอย่างเปิดเผยโดยแท้ก่อนหน้านี้หานลั่วอิงเข้าครัวบ่อยครั้ง ถานอวิ๋นซีไม่ใช่ไม่รู้ถึงความจริงในข้อที่ว่าหากหานลั่วอิงรู้ว่าเขาชอบกินอะไร นางก็จะเข้าครัวไปปรุงอาหารด้วยตนเอง จนตอนนี้เขาติดรสมือของนางไปเสียแล้วยามนี้เขาไม่เห็นนางมาสองวันแล้ว แต่ก็ปากหนักไม่ยอมเอ่ยปากถามกับบ่าวรับใช้ ฝืนทนกินกับข้าวที่ไม่คุ้นลิ้นต่อไป ตอนนั้นเองที่ถานอวิ๋
สีหน้าของผู้ฟังเหมือนจะสำนึกขึ้นได้ จึงหัวเราะแก้เก้อ“ใช่! ใช่! ต้องเรียกว่าถานฮูหยิน เอาล่ะ หากข้าเจอต้นกระดิ่งสวรรค์ ก็จะนำมันมาเป็นของกำนัลให้กับถานฮูหยินอีกหลาย ๆ ต้น”หานลั่วอิงยอบกายลงแสดงความขอบคุณอย่างอ่อนน้อม ทำให้สายตาของหวังเซียวจิ้นเหม่อลอยอีกครั้ง หลังจากกลุ่มสหายทั้งหมดลากลับไปแล้ว ถานอวิ๋นซีก็ให
หานลั่วอิงใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่ที่เรือนส่วนตัวของตนเอง ในแต่ละวันนอกจากอ่านตำราทางการแพทย์แล้ว นางก็ไปเล่นหมากรุกกับถานอวิ๋นซีเกือบทุกวัน แต่ก่อนเขามักจะหงุดหงิดที่ต้องแพ้นาง แต่ตอนนี้ดูเป็นคนอารมณ์เย็นขึ้นมากและทุกเดือนนางต้องปลอมตัวเป็นท่านหมอหลี่ เข้ามาที่จวนตระกูลถานเพื่อฝังเข็มและจ่ายยา จากที่ในตอนแรกหน้าตาของถานอวิ๋นซีดูไม่เชื่อถือสักเท่าไหร่
ใบหน้าถานอวิ๋นซีตึงขึ้นมาทันที ขณะที่มองหานลั่วอิงเรียงตัวหมากบนกระดาน“เช่นนั้นสิ่งที่เจ้าคิดว่ามีประโยชน์คืออะไร ข้าอยากรู้นัก”“การเอาเวลามาคิดช่วยเหลือชาวบ้านที่กำลังประสบภัยแล้งทางตอนใต้น่ะสิ”“เจ้าว่าอะไรนะ!” ถานอวิ๋นซีถามซ้ำอีกครั้งสุ้มเสียงแปลกใจอย่างชัดเจน ราวกับว่าคำพูดนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาคาดคิดมาก่อนว่าจะได้ยินจากปากของหานลั่วอิง“ตอนที่ข้าออกไปข้างนอก ได้ยินมาว่าพื้นที่ทางตอนใต้ของแคว้นนั้นเกิดเหตุภัยแล้ง แม้จะเกิดทุกปี แต่ปีนี้หนักที่สุด”หา
ทุกเช้าหานลั่วอิงจะเข้ามาดูแลถานอวิ๋นซีด้วยตนเอง ในเรื่องของของการทำความสะอาดร่างกายนางก็ปล่อยให้บ่าวชายจัดการไป ส่วนเรื่องอาหารและยารักษารวมถึงการนวดขานั้น นางยังคงทำให้เช่นเดิมในช่วงแรกนั้นถานอวิ๋นซีไม่ยอมแม้จะมองหน้านางสักนิด แต่หานลั่วอิงก็รู้เหตุผลของเขาดี นางจึงไม่ได้เซ้าซี้และทำเท่าที่ต้องทำ นอกเหนือกว่านั้นก็ไม่แสดงอาการอะไรใด







