Share

ตื่นขึ้นมาพร้อมโลกใบใหม่ / 1

"อืม"

เสียงครางเบา ๆ ดังคลอขึ้น เปลือกตาที่ปิดสนิทขยับไปมาคล้ายคนกำลังจะตื่นนอน

"คุณหนู! คุณหนูฟื้นแล้ว"

เสียงเล็ก ๆ ใส ๆ ดังขึ้นข้าง ๆ เธอ

แผ่นหลังรู้สึกเหมือนมีใครกำลังพยุงช่วยให้เธอลุกขึ้นนั่ง ทันทีที่ตาเปิดเต็มที่ปากเป็นกระจับก็ขยับร้องลั่น

"กรี๊ด!!"

"คุณหนูเป็นอะไรเจ้าคะ?"

หญิงสาวหน้าตาจิ้มลิ้มทว่ากลับเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเกรอะกรังของดินโคลนจนปกปิดความน่ารักเอ่ยถามด้วยความตกใจ

"เธอเป็นใคร!?"

ตื่นขึ้นมาเจอใครก็ไม่รู้แม้จะเป็นหญิงสาวเหมือนกันทว่าแปลกหน้ามีอันต้องตกอกอกใจบ้างละ

"คุณหนู คุณหนูจำบ่าวไม่ได้หรือเจ้าคะ นี่เสี่ยวโหรวเอง โหรวโหรวของคุณหนูไงเจ้าคะ"

คนที่เธอเพิ่งเคยพบพานเจอหน้าคาดตาครั้งแรกแนะนำตัว

"อะไรโหล ๆ นะ?"

คอน้อย ๆ เอียงมองสาวงามที่เคยเพียบพร้อมทุกอย่างแถมเป็นถึงหญิงงามอันดับต้น ๆ ของเมืองถังเหลียนทว่าเพียงแค่คืนเดียวที่นางหมดสติไปกลับฟื้นขึ้นมาด้วยท่าทางพิลึกพิลั่นแปลกประหลาดไปจนเสี่ยวโหรวตั้งรับไม่ทัน

"เสี่ยวโหรว บ่าวชื่อเสี่ยวโหรว ข้ารับใช้ข้างกายคุณหนูไงเจ้าคะ"

พูดไปเสียงสะอื้นไปเมื่ออีกคนทำท่าทางเหมือนไม่รู้จักตน โดยเฉพาะสายตาที่มองเหมือนตนนั้นเป็นคนแปลกหน้า เสี่ยวโหรวยิ่งรู้สึกใจหาย ปวดไปหมดทั้งใจ

"ฉันไม่มีคนรับใช้ นี่เล่นอะไรกันเนี่ย แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ ไม่สิ! ฉันถูกรถชน..."

คิ้วสวยขมวดมุ่นนึกคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า ดวงตาเรียวสวยเบิกกว้างขึ้นทันทีที่จำเรื่องราวทั้งหมดได้

"เอ๋... ทำไมไม่รู้สึกเจ็บเลยล่ะ แผลก็ไม่มี"

คิ้วสวยขมวดมุ่นพลางขบคิดถึงเรื่องราวก่อนหน้าที่จะตื่นขึ้นมา จินเยว่จำได้ว่าตนเองกำลังข้ามถนนตัดหน้ารถคันหนึ่ง แถมจำได้อีกว่ารถคันนั้นชนเธอเข้าอย่างจัง แต่ทำไมครั้นตื่นขึ้นมาถึงไร้บาดแผลและความเจ็บปวดเช่นนี้

"เอ๊ะ! ทำไมฉันใส่ชุดนี้ล่ะ?"

หลันจินเยว่จับชายแขนเสื้อที่บางพริ้วสลับกับถกชายกระโปรงขึ้นสำรวจดูชุดที่ไม่เคยเห็น ไม่สิ ต้องบอกว่าเคยเห็นบ่อยครั้งในซีรีส์ที่เธอดู แต่ไม่เคยสวมใส่มันเท่านั้นเอง

หมับ!

"คุณหนูทำอันใดรึเจ้าคะ?"

เสี่ยวโหรวรีบดึงชายกระโปรงนั้นลงพลางมองซ้ายมองขวาดูว่ามีใครเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่หรือไม่

"ก็จะสำรวจชุดนี้ไง เธอเปลี่ยนมันให้ฉันเหรอ แล้วคนที่ขับรถชนฉันหนีไปไหนแล้ว"

หลันจินเยว่ที่ยังไม่รู้ตัวว่าบัดนี้ดวงจิตของเธอได้ข้ามมิติมาอยู่ในร่างคนอื่นแล้ว นางมองซ้ายมองขวาหาคนที่ขับรถชนเธอในความทรงจำสุดท้ายทว่ากลับไม่เจอ พบเพียงห้องสี่เหลี่ยมห้องหนึ่งที่มีไม้ท่อนล้อมรอบช่องเว้นช่องให้พอมือน้อย ๆ สอดออกไปได้

"ที่นี่ที่ไหน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน!"

"คุณหนู! ช่วยด้วย ทหาร! มีใครอยู่ไหม? ช่วยคุณหนูข้าด้วย"

คนที่เพิ่งฟื้นสลบไปอีกครั้งเมื่อสภาพจิตใจเธอกำลังสับสนแถมดวงจิตที่มาโผล่อีกร่างยังเข้ากันได้ไม่ดีพอ

"คุณหนู ท่านฟื้นแล้ว"

คนที่คอยดูแล เช็ดเนื้อเช็ดตัวให้คุณหนูที่สลบไปรอบที่สองเอ่ยด้วยความดีใจ

"เธออีกแล้ว! ตกลงว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน?"

ดวงตาสวยมองสำรวจภายในสถานที่คับแคบมีเพียงแสงไฟจากคบไฟที่อยู่ด้านนอกสาดส่องเข้ามา

ตรงประตูมีโซ่เส้นใหญ่คล้องไว้ดูแล้วไม่จรรโลงใจเลยสักนิดเดียว

อากาศที่ใช้หายใจหายคอยังอับชื้นจนเธอถึงกลับต้องย่นจมูกสลัยกลั้นหายใจในบางเวลา

"คุณหนูจำบ่าวไม่ได้จริง ๆ หรือเจ้าคะ"

เสี่ยวโหรวเม้มปากเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น

บัดนี้แววตาคุณหนูตรงหน้าไม่มีแววเอ็นดูนางอีกต่อไปแล้ว

"ฉันจะจำเธอได้ยังไงเราเพิ่งเจอกันเมื่อกี้เองนะ"

"คุณหนู ท่านกำลังโป้ปดบ่าวอยู่ใช่ไหมเจ้าคะ เพราะว่า... เพราะว่าสี่ยวโหรวพาคุณหนูไปหานายท่านไม่ได้คุณหนูเลยโกรธเสี่ยวโหรวใช่ไหมเจ้าคะ"

เสี่ยวโหรวพูดไปก็สะอื้นไห้ไปด้วยความรู้สึกผิด

"นายท่านคือใคร?"

"คุณหนู ฮื่อ ๆ บ่าวสำนึกผิดแล้ว อย่าแกล้งบ่าวแบบนี้อีกเลยเจ้าค่ะ"

เสี่ยวโหรวรีบเข้าไปจับมือแน่งน้อยของคุณหนูนางอย่างขอความเห็นใจให้ยกโทษให้กับความผิดที่มิอาจแก้ไขได้

"ฉันไม่ได้โกรธเธอจริง ๆ นะ"

'ตกลงนี่เราอยู่ที่ไหน ทำไมสถานที่ก็ไม่คุ้นตา แถมสาวน้อยตรงหน้ายังแต่งตัวเหมือนสาวจีนย้อนยุคในซีรีส์ที่ชอบดูอีก หรือว่าฝัน? ต้องใช่แน่ ๆ ฉันกำลังฝันอยู่'

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   บทส่งท้าย : 2 [จบ]

    "เหตุใดท่านถึง..."จำต้องกลืนคำพูดลงคอเมื่อถูกนิ้วของคนรักปิดไว้ที่ริมฝีปากไม่ให้ขยับเอ่ย"อย่าขยับ ห้ามพูดใด ๆ"ตงเปียนอ๋องรู้สึกว่าร่างกายตนเองแปลกไปข้างในมันร้อนรุ่ม ลำคอแห้งผากเหมือนคนกระหายน้ำหากแต่ความรู้สึกเขากลับบอกว่าน้ำเพียงอย่างเดียวช่วยให้เขาดับกระหายไม่ได้เขาเริ่มตั้งสติจนจมูกสัมผัสได้ถึงกลิ่น ๆ หนึ่ง"ผงเริงรมย์""มันคืออันใด"หลันจินเยว่เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกจึงใคร่สงสัย ทว่าสิ่งที่อยากรู้กลับไม่ได้ถูกเอ่ยออกมาจากปากตงเปียนอ๋องเมื่อด้านนอกมีบุคคลมาเยือน"ฉินกงกงเข้าเฝ้าองค์ชายสี่เฟยหลง"เสียงกงกงของเสด็จย่าเขาดังขึ้นอยู่ด้านนอก"ฉินกงกงมีเรื่องอันใด"เหตุใดคนสนิทของเสด็จย่าถึงได้มาเยือนเข้าถึงจวนแห่งนี้ แถมมาได้เวลาเหมาะเจาะกับอาการประหลาดที่เพิ่งเริ่มแสดงอาการอีก"ไทเฮามีรับสั่ง ผงเริงรมย์นั้นไซร้ จงใช้ให้เกิดประโยชน์ หลังจากนี้สามวันเป็นฤกษ์ดี สามารถจัดงานมงคลได้"เสียงแหลมบาดหูของฉินกงกงเอ่ยราชโองการขององค์ไทเฮาเสร็จจึงทูลลากลับเข้าวังหลวง ทิ้งให้ตงเปียนอ๋องอมยิ้มอยู่ในห้องเมื่อรู้สาเหตุแล้วว่าเหตุใดตนถึงมีอาการแปลกประหลาดเช่นนี้"อะไรคือผงเริงรมย์และอะไรคือสามวันม

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   บทส่งท้าย : 1

    บทส่งท้าย : เมื่อหมอกจางหาย บุปผางามผลิบาน"ข้าขับพิษออกจากร่างกายองค์ชายเรียบร้อยแล้ว พักฟื้นสักสองสามวันก็หายดี"หมอหลวงประจำจวนเหมยฮัวเอ่ยบอก"ส่วนยานี้ต้มทานสามมื้อจนกว่าแผลจะหายดี"เสี่ยวโหรวรีบเข้าไปรับยานั้นจากหมอหลวง"อ้อข้าลืมอีกเรื่อง"ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบกว่าเดิมเพราะนึกว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงอันใดอีก"แผลนั้นต้องห้ามโดนน้ำเด็ดขาด คงต้องรบกวนพระชายาแล้ว"หมอหลวงหันมากำชับเรื่องสำคัญนี้กับหลันจินเยว่ ทำเอาใบหน้านางแดงระเรื่อเพราะไม่คิดว่าคนนอกจวนอย่างหมอหลวงท่านนี้จะรู้เรื่องสถานะของนางกับองค์ชายสี่อีกคน"ข้าไปส่งท่านหมอ"อู่ชิงหรงเดินนำหน้าเพื่อส่งหมอหลวงกลับโรงหมอ"บ่าวขอตัวไปต้มยาให้ท่านอ๋องนะเจ้าคะ"ทุกคนออกไปจากห้องหมดแล้วเหลือเพียงแค่หนึ่งคนหลับอยู่บนเตียงอย่างไร้วี่แววจะฟื้นและอีกคนที่นั่งลงข้างเขาด้วยความเป็นห่วง"ไหนท่านรับปากข้าว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย"ตอนที่หลันจินเยว่ได้ยินว่าตงเปียนอ๋องถูกอาวุธลับอาบยาพิษเล่นงานถึงกับวิ่งถือห่อยาหลายขนานไปดักรอพวกเขาระยะทางกือบลี้ ทั้งล้มลุกคลุกคลานจนแข้งขาถลอก บ่าวใช้คนใดขวางนางไล่ตะเพิดจนหมดสิ้น หากไม่สลบเสียก่อนหลันจินเยว

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 3

    ชายแดนทิศใต้"เจ้าเลิกดื้อรั้นเถิด ตอนนี้เผ่าซีเซียงยอมจำนนต่อกองทัพมังกรขาวหมดแล้ว"เสียงกร้าวของอู่ชิงหรงประกาศลั่นการปราบกบฎดำเนินมาได้สองชั่วยามแล้ว คนของเผ่าซีเซียงบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วนจนหัวหน้าเผ่ายกธงขาวยอมแพ้ให้กับอำนาจของแม่ทัพแห่งกองทัพมังกรขาวเฟยหลงทว่าต่อให้เสียเลือดเนื้อเสียคนไปมากมายเพียงใด ผู้ที่หัวรั้นเกลียดการพ่ายแพ้อย่างซู่จิ่งอวิ๋นไม่มีทางวางกระบี่ในมือลงเป็นแน่"วันนี้ข้ากับเจ้า ถ้าปลาไม่ตาย ตาข่ายก็ต้องขาด"ซู่จิ่งอวิ๋นโต้ตอบด้วยสำบัดสำนวนเสียงหนักแน่น วันนี้ทั้งเขาและตงเปียนอ๋องผู้นี้ต้องสู้กันให้ถึงที่สุด ให้ตายกันไปข้างถึงจะจบศึกในครั้งนี้"ช่างเด็ดเดี่ยวเช่นบิดาเจ้าเสียจริง"ตงเปียนอ๋องกล่าวชมในความเด็ดเดี่ยวนี้ หากเอามาใช้ให้ถูกทางคงเป็นที่น่ายกย่อง"วันนี้ข้าจะแก้แค้นให้ท่านพ่อที่ถูกพวกเจ้าบังคับให้ดื่มยาพิษนั่น"[1]ยามโฉ่วของวันนี้ เสนาซู่จินเพ่ยได้กรอกยาพิษฆ่าตัวตายหลังได้รับราชโองการเป็นนักโทษประหารที่ต้องบั่นคอเสียบประจาน ข่าวนั้นดังเซ็งแซ่ไปทั่วแคว้นจนมาถึงหูซู่จิ่งอวิ๋นบุตรชายเพียงคนเดียวที่ตั้งใจจะบุกไปช่วยบิดาออกมาแต่มิทันกาลเสียงกระบี่ฟาดฟันอย่

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 2

    "ทะ...ท่านอ๋อง"ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อถูกเอาอกเอาใจจากอีกคน"วันนี้สนุกไหม"เขาชวนนางคุยปกติ หากแต่ในแววตากลับมีความกลัดกลุ้มอยู่หลายส่วนจะเรื่องอะไรได้ ก็ตอนที่นางเดินซื้อของในตลาดมีนักฆ่าสะกดรอยตามถึงสามคน โชคดีที่ตงเปียนอ๋องอ่านเกมในครั้งนี้ออกคนรักของเขาถึงได้ปลอดภัยกลับมาหากเขาเล่าเรื่องนี้ให้นางฟัง หลันจินเยว่คงไม่สบายใจ เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่แต่ในห้องอีกเป็นแน่ ตอนนี้เลยต้องเอาอกเอาใจนางเพื่อบอกกล่าวแก่เรื่องที่ตริตรองมาอย่างดีแก่นางในเวลาที่เหมาะสม"ตอนแรกก็สนุก"ตอบพร้อมยู่ปากอย่างหุดหงิดในเวลาต่อมา"ใครทำอันใดให้ว่าที่ชายาของข้าขุ่นเคืองใจ"ที่ใช้คำว่า 'ว่าที่' เพราะทั้งสองยังไม่เข้าพิธีสมรสกัน ตงเปียนอ๋องอยากให้เกียรตินางจึงจะรอปราบกบฎตระกูลซู่แล้วสิ้นถึงจะทำพิธีตามประเพณีแคว้น"ข้ากำลังดูผ้าเพื่อจะเอามาตัดชุดใหม่ให้ท่าน แต่เจอเข้ากับคนที่วางยาสลบข้าเพื่อส่งต่อให้คนพวกนั้นเข้า"ที่จริงเรื่องนี้องครักษ์เงาของเขารายงานมาหมดแล้ว"เจ้าพบเฟิงเยว่ซู?""จะเป็นใครอีกละ! พี่สาวตัวดีของเฟิงเยว่ซินนั่นแหละ"ตงเปียนอ๋องหลุดขำออกมาเบา ๆ เมื่อได้ฟังประโยคแปลก ๆ นั้นจบ"เจ้าพูดเหม

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 1

    "เสี่ยวโหรวเร็ว ๆ เข้า"เสียงเจื้อยแจ้วของหลันจินเยว่ในอาภรณ์สีลูกท้อร้องเรียกสาวใช้ที่เดินหอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังอยู่ด้านหลัง"คุณหนูช้าหน่อยเจ้าค่ะ"วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส นางเลยขออนุญาตตงเปียนอ๋องออกมาเดินตลาด ฝั่งนั้นเห็นว่านางเพิ่งผ่านอันตรายมาเมื่อไม่กี่วันก่อนเลยให้ออกมาเที่ยวเล่นจะได้ลืมเรื่องร้าย ๆ พวกนั้น หากแต่ตงเปียนอ๋องก็มิได้นิ่งนอนใจ เขาส่งองครักษ์เงาคอยติดตามอยู่ห่าง ๆ เผื่อเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือนางทัน"คุณหนูจะซื้อไปฝากท่านอ๋องหรือเพคะ"หลันจินเยว่ยืนดูผ้าไหมเนื้องามที่ร้านหนึ่งตรงตรอกเล็ก ๆ ของตลาด"เจ้าว่าหากท่านอ๋องเปลี่ยนมาใส่สีสว่างตาขึ้นจะดูภูมิฐานอยู่ไหม"ตั้งแต่ที่เห็นและรู้จักกันมา นางไม่เคยเห็นบุรุษที่ว่าสวมใส่เสื้อผ้าสีอื่นที่มิใช่สีดำสีเข้ม ๆ เลยสักครั้งเดียว"บ่าวว่าผ้าสีไหนหากอยู่บนตัวท่านอ๋องก็ดูสง่างามหมดเจ้าค่ะ"หลันจินเยว่เห็นด้วยอย่างยิ่ง วันนี้สาวใช้ของนางพูดได้ถูกใจต้องตบรางวัล"ผ้าพับนี้ข้าซื้อให้เจ้า"นางหยิบผ้าไหมสีกลีบดอกเหมยส่งให้เถ้าแก่ร้าน"คุณหนู นั่นคงแพงมากนะเจ้าคะ"มองแค่ตายังไม่ได้จับต้องเนื้อผ้าเสี่ยวโหรวก็รู้ว่านั่นคือไห

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   เพียงเจ้าผู้เดียวที่เป็นสตรีของข้า / 2

    ผ่านมาครึ่งชั่วยามแล้วหลังจากที่ตงเปียนอ๋องออกมาจากห้องนั้นเพื่อฟังรายงานจากเหล่าทหารว่าซู่จิ่งอวิ๋นหนีไปกบดานกับเผ่าซีเซียงบนเขาทางใต้ เขาเลยสั่งให้ทุกคนกลับมาวางแผนกันที่จวนเหมยฮัวก่อนการเดินทางกลับจำต้องใช้ม้าถึงจะถึงที่หมายโดยเร็ว ทว่าหลันจินเยว่กลับเลือกที่จะโดยสารม้ามากับอู่ชิงหรงแทนอีกคน"เหตุใดข้ารู้สึกว่าเจ้ากำลังหลบหน้าท่านอ๋อง"บุรุษผู้โผงผางคิดเห็นการใดก็พูดออกไปจนหมดสิ้นถามสหายวัยเยาว์"ข้ามิได้หลบหน้าผู้ใด"หลันจินเยว่ที่นั่งอยู่ด้านหลังเขาตอบเหมือนร้อนตัว"หากข้าเป็นคนอื่นคงเชื่อที่เจ้ากล่าวมา"จะมาเกิดฉลาดเอาอะไรตอนนี้ นางยิ่งอยากอยู่เงียบ ๆ ตบตีกับคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบจากตงเปียนอ๋องว่าตกลงแล้วที่เขาบอกชอบนางหมายถึงร่างกายเฟิงเยว่ซินหรือตัวตนที่นางแสดงออกกัน"หยุด!"ตงเปียนอ๋องที่ควบม้าตามหลังสองคนนี้สั่งเสียงลั่น ทหารทุกนายต่างหยุดควบม้าเพื่อรอฟังคำสั่งถัดไป"ท่านอ๋องพบสิ่งใดผิดปกติหรือขอรับ"หนึ่งในทหารที่ควบม้ารั้งท้ายลงจากม้ามาถามไถ่"ม้าตัวนี้อ่อนแรงแล้ว หยุดพักที่นี่สักพักก่อน"หากม้าที่ตงเปียนอ๋องทรงขี่อยู่คือทมิฬกาลคงหาข้ออ้างเช่นนี้ไม่ได้สายตาคมมองแผ่นหลังบ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status