แชร์

ตื่นขึ้นมาพร้อมโลกใบใหม่ / 2

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-23 13:30:24

"โอ๊ยเจ็บ!"

"คุณหนู! บ่าวผิดไปแล้ว บ่าวผิดเอง คุณหนูอย่าทำร้ายตนเองเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ถ้าจะตี ๆ ที่เสี่ยวโหรวเถอะเจ้าค่ะ"

เสี่ยวโหรวคิดว่าที่คุณหนูนางหยิกตัวเองเพราะประชด ตนจึงรีบนั่งคุกเข่าโขกหัวลงพื้นเป็นการลงโทษตนเอง

"เฮ้ย! เธอทำอะไรน่ะ พอแล้วลุกขึ้น ๆ"

หลันจินเยว่รีบเข้าไปห้ามคนตรงหน้าเพราะกลัวเธอจะหัวร้างข้างแตกเอา

"ฮือ ๆ คุณหนูเยว่ซินของบ่าวยกโทษให้เสี่ยวโหรวคนนี้แล้วใช่ไหมเจ้าคะ"

คนตรงหน้ายังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาจนกว่าจะได้ยินคำว่าให้อภัยจากผู้เป็นนาย

เมื่อได้ยินเช่นนั้น จินเยว่จึงเริ่มเรียบเรียงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะตามน้ำไปเพราะตอนนี้ตนเองก็สับสนว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่โดนรถชนในตอนนั้น

"ข...ข้า ยกโทษให้ ยกโทษแล้ว ลุกขึ้นเถอะ"

บัดนี้คงต้องเปลี่ยนวิธีพูดด้วยแล้วสิจะได้ดูกลมกลืนกับอีกคนเผื่อนางน้อยใจในสิ่งที่เธอยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุโขกหัวตัวเองอีกจะรู้สึกผิดเอา

"คุณหนู ต่อไปเสี่ยวโหรวจะทำทุกอย่างตามคำสั่งไม่ว่าทางข้างหน้าจะมีขวากหนามหรืออุปสรรคใหญ่หลวงแค่ไหนก็ตาม"

ทั้งพูดทั้งสะอื้น ทำเอาคนที่มาอยู่ในร่างคนอื่นแต่ยังไม่รู้ตัวรู้สึกปวดหน่วงที่อกเมื่อเห็นน้ำตาและความจริงใจของนางผู้นี้

"ช่างเถอะ เมื่อกี้ที่เจ้าพูดถึงนายท่าน ตกลงนายท่านที่ว่าหมายถึงใคร?"

เสี่ยวโหรวที่เพิ่งดีใจได้แค่นิดเดียวรีบเบะปากทำท่าจะร้องไห้อีกครั้ง

"นี่! เจ้าห้ามร้องนะ ถ้าเจ้าร้องข้าจะ ข้าจะ..."

จะอะไรดี ดูท่าแล้วนางผู้นี้คงเด็กกว่าตนอยู่หลายปี นิสัยเลยยังดูเด็ก ๆ อยู่

"ข้าจะไม่รักเจ้า!"

จินเยว่สังเกตคนที่เรียกแทนตัวเองว่าบ่าวมาสักพักแล้ว ดูเธอคนนี้จะรักคุณหนูที่เข้าใจผิดว่าคือตนเองมาก เลยข่มขู่เช่นนั้นออกไป

"เจ้าค่ะ เสี่ยวโหรวจะไม่ร้องแล้วเจ้าค่ะ"

รีบปาดน้ำตาออกทั้งสองแก้ม หายใจเข้าเฮือกใหญ่แล้วค่อย ๆ ยิ้มออกมาให้คุณหนูของนางได้เห็น

"ดี ๆ งั้นเจ้าช่วยเล่าเรื่องของคุณหนูเจ้าให้ข้าฟังหน่อยสิ"

"..?" คนถูกขอร้องทำหน้าไม่เข้าใจ

เหตุใดคุณหนูจะต้องให้นางเล่าเรื่องราวของตนเองให้ฟังด้วย

"คือ... ข้าสลบไปใช่ไหม สงสัยสมองจะขาดออกซิเจนนานจนลืมเรื่องของตัวเองไปน่ะ"

รีบหาข้อแก้ตัวให้ดูสมเหตุสมผล

"อะ...ออก อะไรนะเจ้าคะ?"

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินศัพท์ประหลาดเลยออกเสียงไม่ถูก

"ช่างเรื่องนั้นเถอะ เจ้าช่วยเล่าทุกอย่างของที่นี่รวมถึงตัวนาง เอ้ย! ตัวข้าให้ข้าฟังอย่างละเอียดเลยนะ"

มือบางตีเข้าที่หน้าอกตัวเองเบา ๆ ทำให้เสี่ยวโหรวเข้าใจว่าคุณหนูของนางคงเสียใจที่บิดาเพิ่งจากไปอย่างมิได้ล่ำลาจนกลายเป็นคนแปลกประหลาดแบบนี้

"โธ่ คุณหนูของเสี่ยวโหรว"

ต้องกลั้นความเสียใจไว้มากเพียงใดกันนะถึงได้ไม่มีน้ำตาไหลออกมาให้ได้เห็นหลังจากฟื้นขึ้นมาเลย

หลังจากเสี่ยวโหรวเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ฟังแล้วทำเอาคนได้ฟังถึงกับนั่งนิ่งอ้าปากค้างตาลอยอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่พบเจอ

นอกจากจะเคราะห์ร้ายตายแล้วแต่ดันมาเกิดใหม่เป็นลูกสาวกบฎเนี่ยนะ!

"คุณหนูพอจะจำอะไรได้ไหมเจ้าคะ" สาวใช้หน้าตาจิ้มลิ้มถามขึ้น

หากไม่มีใครบอกว่าเสี่ยวโหรวเป็นสาวใช้ของเฟิงเยว่ซินคงจะมีคนเข้าใจผิดคิดว่าเสี่ยวโหรวเป็นบุตรสาวคนมีชาติตระกูลเช่นเฟิงเยว่ซินเป็นแน่ เพราะนอกจากหน้าตานางจะออกแนวน่ารักแล้ว ผิวพรรณยังดูดีแม้จะน้อยกว่าเฟิงเยว่ซินอยู่ก็ตาม

"ท่านพ่อก็สิ้นแล้ว ตอนนี้ยังต้องมารอราชโองการว่าจะเป็นหรือตาย ตกลงว่าข้าจะซวยไปถึงเมื่อไรกัน ฮือ ๆ"

เสียงสะอื้นเสียใจดังก้องขึ้น เสี่ยวโหรวรีบเข้าไปกอดคุณหนูของนางพร้อมลูบแผ่นหลังปลอบใจ

เรานี่ก็แสดงละครเก่งเหมือนกันนะ เอาเถอะ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ต่อไปคงต้องเห็นช้างขี้ขี้ตามช้างด้วย ชีวิตในภพนี้จะได้สงบสุข

"คุณหนูยังเหลือคุณหนูใหญ่แล้วก็เสี่ยวโหรวคนนี้นะเจ้าคะ"

ใช่! นางเหลือคนที่ว่าจริง แต่คนที่ว่ากลับเป็นใครก็ไม่รู้เพราะหนึ่งคนที่สาวน้อยคนนี้เอ่ยชื่อมาก็เพิ่งพบเจอ ส่วนอีกหนึ่งคนที่บอกว่าเป็นคุณหนูใหญ่ จินเยว่ยังไม่เคยเห็นแม้หน้าตา ไม่รู้จะร้ายหรือจะดีกับเจ้าของร่างนี้อีก

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   บทส่งท้าย : 2 [จบ]

    "เหตุใดท่านถึง..."จำต้องกลืนคำพูดลงคอเมื่อถูกนิ้วของคนรักปิดไว้ที่ริมฝีปากไม่ให้ขยับเอ่ย"อย่าขยับ ห้ามพูดใด ๆ"ตงเปียนอ๋องรู้สึกว่าร่างกายตนเองแปลกไปข้างในมันร้อนรุ่ม ลำคอแห้งผากเหมือนคนกระหายน้ำหากแต่ความรู้สึกเขากลับบอกว่าน้ำเพียงอย่างเดียวช่วยให้เขาดับกระหายไม่ได้เขาเริ่มตั้งสติจนจมูกสัมผัสได้ถึงกลิ่น ๆ หนึ่ง"ผงเริงรมย์""มันคืออันใด"หลันจินเยว่เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกจึงใคร่สงสัย ทว่าสิ่งที่อยากรู้กลับไม่ได้ถูกเอ่ยออกมาจากปากตงเปียนอ๋องเมื่อด้านนอกมีบุคคลมาเยือน"ฉินกงกงเข้าเฝ้าองค์ชายสี่เฟยหลง"เสียงกงกงของเสด็จย่าเขาดังขึ้นอยู่ด้านนอก"ฉินกงกงมีเรื่องอันใด"เหตุใดคนสนิทของเสด็จย่าถึงได้มาเยือนเข้าถึงจวนแห่งนี้ แถมมาได้เวลาเหมาะเจาะกับอาการประหลาดที่เพิ่งเริ่มแสดงอาการอีก"ไทเฮามีรับสั่ง ผงเริงรมย์นั้นไซร้ จงใช้ให้เกิดประโยชน์ หลังจากนี้สามวันเป็นฤกษ์ดี สามารถจัดงานมงคลได้"เสียงแหลมบาดหูของฉินกงกงเอ่ยราชโองการขององค์ไทเฮาเสร็จจึงทูลลากลับเข้าวังหลวง ทิ้งให้ตงเปียนอ๋องอมยิ้มอยู่ในห้องเมื่อรู้สาเหตุแล้วว่าเหตุใดตนถึงมีอาการแปลกประหลาดเช่นนี้"อะไรคือผงเริงรมย์และอะไรคือสามวันม

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   บทส่งท้าย : 1

    บทส่งท้าย : เมื่อหมอกจางหาย บุปผางามผลิบาน"ข้าขับพิษออกจากร่างกายองค์ชายเรียบร้อยแล้ว พักฟื้นสักสองสามวันก็หายดี"หมอหลวงประจำจวนเหมยฮัวเอ่ยบอก"ส่วนยานี้ต้มทานสามมื้อจนกว่าแผลจะหายดี"เสี่ยวโหรวรีบเข้าไปรับยานั้นจากหมอหลวง"อ้อข้าลืมอีกเรื่อง"ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบกว่าเดิมเพราะนึกว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงอันใดอีก"แผลนั้นต้องห้ามโดนน้ำเด็ดขาด คงต้องรบกวนพระชายาแล้ว"หมอหลวงหันมากำชับเรื่องสำคัญนี้กับหลันจินเยว่ ทำเอาใบหน้านางแดงระเรื่อเพราะไม่คิดว่าคนนอกจวนอย่างหมอหลวงท่านนี้จะรู้เรื่องสถานะของนางกับองค์ชายสี่อีกคน"ข้าไปส่งท่านหมอ"อู่ชิงหรงเดินนำหน้าเพื่อส่งหมอหลวงกลับโรงหมอ"บ่าวขอตัวไปต้มยาให้ท่านอ๋องนะเจ้าคะ"ทุกคนออกไปจากห้องหมดแล้วเหลือเพียงแค่หนึ่งคนหลับอยู่บนเตียงอย่างไร้วี่แววจะฟื้นและอีกคนที่นั่งลงข้างเขาด้วยความเป็นห่วง"ไหนท่านรับปากข้าว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย"ตอนที่หลันจินเยว่ได้ยินว่าตงเปียนอ๋องถูกอาวุธลับอาบยาพิษเล่นงานถึงกับวิ่งถือห่อยาหลายขนานไปดักรอพวกเขาระยะทางกือบลี้ ทั้งล้มลุกคลุกคลานจนแข้งขาถลอก บ่าวใช้คนใดขวางนางไล่ตะเพิดจนหมดสิ้น หากไม่สลบเสียก่อนหลันจินเยว

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 3

    ชายแดนทิศใต้"เจ้าเลิกดื้อรั้นเถิด ตอนนี้เผ่าซีเซียงยอมจำนนต่อกองทัพมังกรขาวหมดแล้ว"เสียงกร้าวของอู่ชิงหรงประกาศลั่นการปราบกบฎดำเนินมาได้สองชั่วยามแล้ว คนของเผ่าซีเซียงบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วนจนหัวหน้าเผ่ายกธงขาวยอมแพ้ให้กับอำนาจของแม่ทัพแห่งกองทัพมังกรขาวเฟยหลงทว่าต่อให้เสียเลือดเนื้อเสียคนไปมากมายเพียงใด ผู้ที่หัวรั้นเกลียดการพ่ายแพ้อย่างซู่จิ่งอวิ๋นไม่มีทางวางกระบี่ในมือลงเป็นแน่"วันนี้ข้ากับเจ้า ถ้าปลาไม่ตาย ตาข่ายก็ต้องขาด"ซู่จิ่งอวิ๋นโต้ตอบด้วยสำบัดสำนวนเสียงหนักแน่น วันนี้ทั้งเขาและตงเปียนอ๋องผู้นี้ต้องสู้กันให้ถึงที่สุด ให้ตายกันไปข้างถึงจะจบศึกในครั้งนี้"ช่างเด็ดเดี่ยวเช่นบิดาเจ้าเสียจริง"ตงเปียนอ๋องกล่าวชมในความเด็ดเดี่ยวนี้ หากเอามาใช้ให้ถูกทางคงเป็นที่น่ายกย่อง"วันนี้ข้าจะแก้แค้นให้ท่านพ่อที่ถูกพวกเจ้าบังคับให้ดื่มยาพิษนั่น"[1]ยามโฉ่วของวันนี้ เสนาซู่จินเพ่ยได้กรอกยาพิษฆ่าตัวตายหลังได้รับราชโองการเป็นนักโทษประหารที่ต้องบั่นคอเสียบประจาน ข่าวนั้นดังเซ็งแซ่ไปทั่วแคว้นจนมาถึงหูซู่จิ่งอวิ๋นบุตรชายเพียงคนเดียวที่ตั้งใจจะบุกไปช่วยบิดาออกมาแต่มิทันกาลเสียงกระบี่ฟาดฟันอย่

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 2

    "ทะ...ท่านอ๋อง"ใบหน้าสวยขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อถูกเอาอกเอาใจจากอีกคน"วันนี้สนุกไหม"เขาชวนนางคุยปกติ หากแต่ในแววตากลับมีความกลัดกลุ้มอยู่หลายส่วนจะเรื่องอะไรได้ ก็ตอนที่นางเดินซื้อของในตลาดมีนักฆ่าสะกดรอยตามถึงสามคน โชคดีที่ตงเปียนอ๋องอ่านเกมในครั้งนี้ออกคนรักของเขาถึงได้ปลอดภัยกลับมาหากเขาเล่าเรื่องนี้ให้นางฟัง หลันจินเยว่คงไม่สบายใจ เก็บเนื้อเก็บตัวอยู่แต่ในห้องอีกเป็นแน่ ตอนนี้เลยต้องเอาอกเอาใจนางเพื่อบอกกล่าวแก่เรื่องที่ตริตรองมาอย่างดีแก่นางในเวลาที่เหมาะสม"ตอนแรกก็สนุก"ตอบพร้อมยู่ปากอย่างหุดหงิดในเวลาต่อมา"ใครทำอันใดให้ว่าที่ชายาของข้าขุ่นเคืองใจ"ที่ใช้คำว่า 'ว่าที่' เพราะทั้งสองยังไม่เข้าพิธีสมรสกัน ตงเปียนอ๋องอยากให้เกียรตินางจึงจะรอปราบกบฎตระกูลซู่แล้วสิ้นถึงจะทำพิธีตามประเพณีแคว้น"ข้ากำลังดูผ้าเพื่อจะเอามาตัดชุดใหม่ให้ท่าน แต่เจอเข้ากับคนที่วางยาสลบข้าเพื่อส่งต่อให้คนพวกนั้นเข้า"ที่จริงเรื่องนี้องครักษ์เงาของเขารายงานมาหมดแล้ว"เจ้าพบเฟิงเยว่ซู?""จะเป็นใครอีกละ! พี่สาวตัวดีของเฟิงเยว่ซินนั่นแหละ"ตงเปียนอ๋องหลุดขำออกมาเบา ๆ เมื่อได้ฟังประโยคแปลก ๆ นั้นจบ"เจ้าพูดเหม

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   ศึกชี้ชะตา / 1

    "เสี่ยวโหรวเร็ว ๆ เข้า"เสียงเจื้อยแจ้วของหลันจินเยว่ในอาภรณ์สีลูกท้อร้องเรียกสาวใช้ที่เดินหอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรังอยู่ด้านหลัง"คุณหนูช้าหน่อยเจ้าค่ะ"วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส นางเลยขออนุญาตตงเปียนอ๋องออกมาเดินตลาด ฝั่งนั้นเห็นว่านางเพิ่งผ่านอันตรายมาเมื่อไม่กี่วันก่อนเลยให้ออกมาเที่ยวเล่นจะได้ลืมเรื่องร้าย ๆ พวกนั้น หากแต่ตงเปียนอ๋องก็มิได้นิ่งนอนใจ เขาส่งองครักษ์เงาคอยติดตามอยู่ห่าง ๆ เผื่อเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นจะได้ช่วยเหลือนางทัน"คุณหนูจะซื้อไปฝากท่านอ๋องหรือเพคะ"หลันจินเยว่ยืนดูผ้าไหมเนื้องามที่ร้านหนึ่งตรงตรอกเล็ก ๆ ของตลาด"เจ้าว่าหากท่านอ๋องเปลี่ยนมาใส่สีสว่างตาขึ้นจะดูภูมิฐานอยู่ไหม"ตั้งแต่ที่เห็นและรู้จักกันมา นางไม่เคยเห็นบุรุษที่ว่าสวมใส่เสื้อผ้าสีอื่นที่มิใช่สีดำสีเข้ม ๆ เลยสักครั้งเดียว"บ่าวว่าผ้าสีไหนหากอยู่บนตัวท่านอ๋องก็ดูสง่างามหมดเจ้าค่ะ"หลันจินเยว่เห็นด้วยอย่างยิ่ง วันนี้สาวใช้ของนางพูดได้ถูกใจต้องตบรางวัล"ผ้าพับนี้ข้าซื้อให้เจ้า"นางหยิบผ้าไหมสีกลีบดอกเหมยส่งให้เถ้าแก่ร้าน"คุณหนู นั่นคงแพงมากนะเจ้าคะ"มองแค่ตายังไม่ได้จับต้องเนื้อผ้าเสี่ยวโหรวก็รู้ว่านั่นคือไห

  • ทะลุมิติมาเป็นกบฎที่หลงรักท่านอ๋อง   เพียงเจ้าผู้เดียวที่เป็นสตรีของข้า / 2

    ผ่านมาครึ่งชั่วยามแล้วหลังจากที่ตงเปียนอ๋องออกมาจากห้องนั้นเพื่อฟังรายงานจากเหล่าทหารว่าซู่จิ่งอวิ๋นหนีไปกบดานกับเผ่าซีเซียงบนเขาทางใต้ เขาเลยสั่งให้ทุกคนกลับมาวางแผนกันที่จวนเหมยฮัวก่อนการเดินทางกลับจำต้องใช้ม้าถึงจะถึงที่หมายโดยเร็ว ทว่าหลันจินเยว่กลับเลือกที่จะโดยสารม้ามากับอู่ชิงหรงแทนอีกคน"เหตุใดข้ารู้สึกว่าเจ้ากำลังหลบหน้าท่านอ๋อง"บุรุษผู้โผงผางคิดเห็นการใดก็พูดออกไปจนหมดสิ้นถามสหายวัยเยาว์"ข้ามิได้หลบหน้าผู้ใด"หลันจินเยว่ที่นั่งอยู่ด้านหลังเขาตอบเหมือนร้อนตัว"หากข้าเป็นคนอื่นคงเชื่อที่เจ้ากล่าวมา"จะมาเกิดฉลาดเอาอะไรตอนนี้ นางยิ่งอยากอยู่เงียบ ๆ ตบตีกับคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบจากตงเปียนอ๋องว่าตกลงแล้วที่เขาบอกชอบนางหมายถึงร่างกายเฟิงเยว่ซินหรือตัวตนที่นางแสดงออกกัน"หยุด!"ตงเปียนอ๋องที่ควบม้าตามหลังสองคนนี้สั่งเสียงลั่น ทหารทุกนายต่างหยุดควบม้าเพื่อรอฟังคำสั่งถัดไป"ท่านอ๋องพบสิ่งใดผิดปกติหรือขอรับ"หนึ่งในทหารที่ควบม้ารั้งท้ายลงจากม้ามาถามไถ่"ม้าตัวนี้อ่อนแรงแล้ว หยุดพักที่นี่สักพักก่อน"หากม้าที่ตงเปียนอ๋องทรงขี่อยู่คือทมิฬกาลคงหาข้ออ้างเช่นนี้ไม่ได้สายตาคมมองแผ่นหลังบ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status