“ออกไปให้หมด!”
ชินอ๋องมองนางด้วยแววตาที่โหดเหี้ยม เขาก็เกลียดนางไม่แพ้กันราชโองการคงขัดไม่ได้แต่เขาสามารถฆ่านางได้
“อย่ามายุ่งกับหม่อมฉัน”
“พวกเจ้าสมควรตายทั้งจวนกล้ามาหลอกข้า” จ้าวเสียหยุนแอบคบกับบุรุษคนอื่นโดยที่เขาปล่อยให้เขาเป็นคนโง่ จนสุดท้ายก็ได้แต่งงานกับจ้าวหม่านฟาง
“จะทำอะไรเพคะ ฮึก” ถึงแม้จะไม่กลัวตายแต่ดาบที่แหลมคมก็มาจ่อที่ต้นคอขาวชาติก่อนนางก็ตายเพราะอุบัติเหตุศพไม่สวยมาชาตินี้ยังจะต้องโดนบาดคออีกหรือ
“อย่ามาสร้างปัญหาให้ข้าครบหนึ่งปีเซ็นใบหย่าให้ข้าแต่ข้ามีวิธีที่ดีกว่านั้น ตัดคอเจ้าเสีย”
“กรี้ดดดด”
“จ้าวหม่านฟาง!” หยางเพ่ยตงทรงตกใจที่นางหมดสติไปจึงเรียกบ่าวรับใช้เข้ามาดูและตามหมอหลวง สตรีอ่อนแอไม่คู่ควรกับเขา
“ทูลชินอ๋องร่างกายของพระชายายังไม่แข็งแรงนักโปรดท่านอ๋องทรงเมตตา”
“กลับตำหนัก”
เขาอยู่สู้หน้าบ่าวรับใช้ไม่ได้ตอนที่ทหารมารายงานว่าจ้าวหม่านฟางกระโดดน้ำในตอนที่จะเข้าห้องหอ ชินอ๋องโกรธมากคราแรกจะปล่อยให้นางตายไปเสียแต่ทำไมนางจึงฟื้นขึ้นมา
“ทูลชินอ๋องเพคะ” ฮุ่ยหลิงมารอท่านอ๋องอยู่นานสองนานเมื่อรู้จากบ่าวรับใช้ว่าเขาไปที่ตำหนักของพระชายา นางมาก่อนจ้าวหม่านฟางไยนางจึงไม่ได้ป็นพระชายา แถมนางยังไม่ยอมตาย
“ออกไป”
“ท่านอ๋องทรงอารมณ์ไม่ดีเดี๋ยวหม่อมฉันจะนวดให้เพคะ”
ฮุ่ยหลิงเข้ามาเป็นสนมของหยางเพ่ยตงครบหนึ่งปีแล้วแต่ก็ไม่ตั้งครรภ์เสียทีเพราะชินอ๋องบังคับสตรีทุกนางดื่มยาห้ามตั้งครรภ์จนนางต้องทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้เลื่อนตำแหน่ง
“คืนนี้ท่านอ๋องอยู่กับหม่อมฉันนะเพคะ”
“ไว้ข้าจะไปหาเจ้า” หยางเพ่ยตงเอ่ยไปแค่นั้นและก็ไม่คิดจะไปหานางสนมมากมายต่างพากันแย่งความดีความชอบเพื่อจะได้เลื่อนตำแหน่ง
“หม่อมฉันทรงทูลลาเพคะ” ฮุ่ยหลิงเดินกลับจวนของนางด้วยแววตาที่ดีใจ นางต้องกลับไปขัดเนื้อขัดตัวให้หอมคืนนี้นางจะได้ตั้งครรภ์ลูกของชินอ๋อง
“ทูลท่านอ๋องทหารรายงานมาวันที่พระชายาตกน้ำทรงเห็นว่านางสนมฮุ่ยหลิงอยู่บริเวณนั้นพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้ากำลังจะบอกข้าว่า…”
“บ่าวรับใช้ของพระชายาบอกว่าพระชายาไม่มีวันกระโดดน้ำเพราะพระชายาทรงว่ายน้ำไม่เป็นพ่ะย่ะค่ะ”
จ้าวหม่านฟางลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับท้องที่หิวโหยชินอ๋องคนใจร้ายคนนั้นเขาคงจะปล่อยให้นางหิวตาย
“ทรราชเสียจริง”
“พระชายาค่อยๆ นะเพคะ”
นางยังคงตักสำหรับเข้าปากและนั่งฟังบ่าวรับใช้พูดเรื่องราวคนในวังให้ฟังจนมาหยุดที่นางสนมคนหนึ่ง
“เจ้าว่าอะไรนางสนมคนนั้นชื่ออะไร”
“ฮุ่ยหลิงเพคะ”
ต้องเป็นนางที่ผลักจ้าวหม่านฟางตกน้ำเพราะความทรงจำสุดท้ายนางอยู่กับพระชายาเป็นคนสุดท้าย และนางก็เป็นคนพูดให้จ้าวหม่านฟางจบชีวิตลง
“ข้าอิ่มแล้วอยากไปจวนของนางสนมเสียหน่อย” จ้าวหม่านฟางมาหยุดที่ตำหนักของนางสนม เมื่อเห็นว่าฮุ่ยหลิงนั่งอยู่ที่ริมศาลาจึงเดินเข้าไป
“พระชายา!”
“เจ้าตกใจอะไรหรือข้าแค่เดินผ่านจึงแวะมา” จ้าวหม่านฟางเห็นแววตาของนางสั่นระริกคงจะกลัวความผิดแต่นางมีแผนที่ชั่วกว่านั้น นางจะแก้แค้นแทนเจ้าของร่างเดิม
“หม่อมฉัน…”
“เอาละไม่ต้องพูดแล้ว ข้าฟื้นขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้เสียแล้ว”
จ้าวหม่านฟางกำลังหลอกให้นางตายใจเพื่อที่จะได้ทำอะไรได้อย่างสะดวก
“พระชายาทรงจำอะไรไม่ได้หรือเพคะ” ฮุ่ยหลิงจึงโล่งใจที่พระชายาจำเรื่องราวที่สระน้ำไม่ได้
“เจ้าแต่งตัวสวยจะไปไหนกัน”
“คืนนี้ท่านอ๋องจะมาหาหม่อมฉันเพคะ” ฮุ่ยหลิงยิ้มอย่างคนชนะที่ท่านอ๋องเลือกนาง
“ข้าขอให้เจ้าโชคดีและตั้งครรภ์โดยไว” จ้าวหม่านฟางยิ้มร้ายและออกมาจากจวนของนางสนมในยามโหย่วและเห็นหยางเพ่ยตงเดินมาทางนี้จึงรีบหลบ แต่แทนที่ท่านอ๋องจะเข้าไปในจวนของนางสนมแต่กลับเดินไปอีกทาง
“กรี้ดดดด บ้าท่านอ๋องหลอกข้า”
ฮุ่ยหลิงกรีดร้องออกมาและปาข้าวของลงพื้นเมื่อท่านอ๋องไม่ยอมมาหานาง นางเฝ้ารอแต่เขาก็ไม่มาหลายเดือนผ่านมาท่านอ๋องไม่ยอมไปหลับนอนกับนางสนมคนไหน
“ข้าจะข้ามัน ปิงปิง”
“เพคะพระสนม”
“ไปตามซูเหวินมาพบข้า” ซูเหวินทหารรับใช้ข้างหายของนางที่ลักลอบแอบเล่นชู้กันในเมื่อท่านอ๋องไม่ยอมมาหานาง นางก็ต้องใช้ซูเหวินเพื่อให้นางตั้งครรภ์
“เข่อซิงเจ้าเล่ามาหน่อยว่าทำไมข้าถึงจะไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย” นางมาอยู่ในร่างของคุณหนูสามก็พอมีความทรงจำในอดีตบ้างแต่เรื่องที่นางจะฆ่าตัวตายกลับเลือนหายไป
“คุณหนูไม่มีทางฆ่าตัวตายหรอกเพคะคุณหนูว่ายน้ำไม่เป็นคุณหนูยังไม่อยากด้วยเพราะคุณหนูเฝ้ารออี้เฉิน”
“อี้เฉิน?” ต้องเป็นชื่อบุรุษแต่ทำไมจ้าวหม่านฟางถึงไม่มีความทรงจำนี้เลย คุณหนูสามก็ช่างอ่อนแอและยอมคนเสียจริงจึงมักถูกพี่สาวรังแกอยู่บ่อยครั้ง
“อี้เฉินเป็นรองแม่ทัพเพคะและเป็นคนรักของคุณหนู ท่านแม่ทัพออกรบได้หนึ่งปีแล้วและก็ไม่มีข่าวคราวเลยเพคะ”
หากอี้เฉินกลับมาทุกอย่างก็คงจะดูวุ่นวายไม่น้อยจ้าวหม่านฟางรู้สึกปวดขยับขึ้นมา จึงบรรทมและคิดถึงคนที่รักป่านนี้จะเสียใจหรือไม่ที่นางจากมา
“มีมี่ฉันขอโทษที่ไม่ได้ร่ำลา”
น้ำตาแห่งความเสียใจรินไหลออกมาจากหางตาพร้อมกับเสียงสะอื้นเบา ๆ นางอยากกลับไปแต่ก็หาวิธีไม่เจอเพราะนางเดินทางข้ามเวลามาไกลโข
จ้าวนหม่านฟางตัวจริงก็คงจะเสียชีวิตในเวลาเดียวกันกับนางทำให้นางเข้ามาอยู่ในร่างของจ้าวหม่านฟาง โชคชะตาฟ้าลิขิตหรือนรกกลั่นแกล้งนางกันแน่
ทะลุมิติเข้ามาก็ถูกพระสวามีบีบคอคิดจะฆ่าแกงกัน ในเมื่อทำอะไรไม่ได้นางก็จะเป็นคุณหนูสามคนที่ไม่อ่อนแออีกต่อไปนางจะลุกขึ้นมาสู้กับคนที่รังแกจ้าวหม่านฟาง
“ฟางฟางจะไม่ยอมแพ้”
หญิงสาวปาดน้ำตาออกจากใบหน้าที่แสนงดงามชาติก่อนไม่มีสามี ชาตินี้ก็ขอใช้ร่างกายและชีวิตให้คุ้มหน่อยเพราะเกรงว่าจะไม่มีชีวิตยืนยาว
โลกใบนี้มีอะไรที่นางอยากทำมากมายเคยดูแต่ในซีรีส์จีนโบราณว่าบุรุษนั้นงดงามราวกับสตรี พรุ่งนี้จ้าวหม่านฟางต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองว่าจริงหรือไม่
“นางอยากไปหอคณิกา”
ฮาวายทั้งห้าคนเดินทางมาถึงฮาวายโดยหยางเพ่ยตงพาน้องชายและน้องสะใภ้มาด้วยจะได้ดูแลหนิงอ้ายยามที่เขาสวีตกับจ้าวหม่านฟางสองคนจะได้มีคนดูแลหนิงอ้าย“พี่ฝากหนิงอ้ายสัก 2-3 ชั่วโมงนะ”“รีบทำเวลาหน่อยแล้วกัน”หยางซูเมิ่งบอกกับพี่ชายพาเขามาด้วยก็แค่อยากให้เขาดูแลหนิงอ้ายให้ส่วนตัวเองจะไปสวีตกับจ้าวหม่านฟางสองคน ทริปนี้หนิงอ้ายคงจะได้น้องสมใจ“พูดมาก”ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องพักที่อยู่ติดทะเลมองไปทางไหนก็เจอแต่ทะเล บรรยากาศสวยงามไปหมดแต่จ้าวหม่านฟางนั้นสวยกว่าร้อยเท่า“อุ้ย เข้ามาทำอะไรคะฟางฟางจะไปดูลูก”“พี่ขอชื่นใจหน่อยได้ไหมลูกอยู่กับซูเมิ่ง ไม่ต้องห่วงเรามาทำน้องให้หนิงอ้ายกัน”“แต่...”“นะครับ”หยางเพ่ยตงหอมแก้มทั้งสองข้างของภรรยาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะไล่หอมไปทั่วหน้าแล้ววางปากทาบทับลงไปบนอวัยวะเดียวกันของผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ พอเริ่มจูบก็ขยับมือลูบไล้ไปตามเรือนร่างแสนสวยอย่างเชื่องช้า เคลื่อนไหวเนิบนาบไม่ให้เธอรู้สึกถูกรุกล้ำหรือหวาดระแวงใด ๆมือหนาลูบคลำซ้ำ ๆ ให้ภรรยาคุ้นเคยก็สอดมือเข้าไปใต้ชายเสื้อสัมผัสเอวบางโดยไม่มีอะไรปิดกั้น ก่อนจะวางสองมือโอบล้อมก้อนเนื้อเต่งตึงทั้งสองข้างด้วยแรงแ
ทั้งสองแต่งงานกันได้สามปีแล้วและมีพยานรักตัวกันหนึ่งคนคือหนิงอ้าย ชื่อของลูกสาวหยางเพ่ยตงเป็นคนตั้งให้ทั้งหมดจ้าวหม่านฟางชอบชื่อนี้มาก “จุนแม่ขา จุนพ่อไม่รักเรา” (คุณแม่คะคุณพ่อไม่รักเรา) “ไม่พูดอย่างนั้นสิคะ” ตอนนี้หยางเพ่ยตงทำงานหนักและกลับบ้านดึกดื่นจนลูกสาวน้อยใจว่าพ่อไม่รัก ดึกจนรอพ่อไม่ไหวจึงหลับไป แอด “กลับมาแล้วเหรอคะ” “ลูกหลับแล้วเหรอครับ” ช่วงนี้งานถาโถมเข้ามาจนเขาปลีกตัวไปไหนไม่ได้ตั้งแต่แต่งงานกันมาเขาก็ไม่เคยพาภรรยาไปฮันนีมูนกันเลย จึงรู้สึกผิดขึ้นมา “กลับดึกทุกวันขนาดนี้ลูกน้อยใจแล้ว” เธอเองก็น้อยใจเหมือนกันไม่รู้ว่างานจะสำคัญอะไรนักหนา ถมเวลาคุยกันก็น้อยลงไปทุกทีหรือเพราะเธอมีลูกแล้วเขาจึงไม่สนใจ “ฟางฟางครับพี่ขอโทษโปรเจกนี้จะจบลงแล้ว เดี๋ยวพี่พาฟางฟางกับลูกไปเที่ยวกันดีไหมครับ” เพราะเขารู้ว่าตอนนี้ภรรยากำลังน้อยใจเขาชวนเที่ยวหลายรอบและไม่เคยไปสักรอบเพราะติดแต่งาน วันนี้โปรเจกต์ใหญ่ที่ทำกำลังเสร็จสมบูรณ์จึงสัญญาว่าจะพาจ้าวหม่านฟางกับลูกไปพักผ่อน “พี่ขอโทษครับต่อไปจะไม่ทำงานหนักแบบนี้อีกแล้ว
“ลุกออกไปจากตัวฉัน” จ้าวหม่านฟางทั้งโกรธและเกลียดตัวเองที่ใจง่ายไปกับสัมผัสของเขาจึงผลักให้เขาออกห่างจากตัวและรีบแต่งตัว “รบกวนคุณไปส่งฉันที่บ้านด้วย” “ฟางฟางครับพี่...” หยางเพ่ยตงยังไม่ทันจะพูดอะไรหญิงสาวจึงเดินออกไปจากห้อง เขาจึงได้แต่รีบแต่งตัวและไปส่งจ้าวหม่านฟางที่บ้าน “พี่ขอโทษครับต่อไปที่จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วพี่คิดถึงเรามากไปหน่อย” ต่างฝ่ายต่างเงียบหยางเพ่ยตงจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนเขาไม่ชอบที่จ้าวหม่านฟางเงียบจึงหาเรื่องชวนคุยแต่ก็เหมือนจะแย่ลงไปกว่าเดิม “ฟางฟางครับ” ปัง! หญิงสาวปิดประตูรถกระแทกจนเสียงดังโดยไม่รอฟังคำอธิบายจากเขา หญิงสาวรีบเดินขึ้นห้องไปโดยไม่สนใจเสียงทักทายของใครด้วยซ้ำ พอมาถึงห้องเธอก็ร้องไห้ออกมา “ทำไมถึงรู้สึกแบบนี้” จ้าวหม่านฟางใช้มือมากุมหน้าอกข้างซ้ายไว้เธอยอมรับว่าเหมือนจะรู้สึกผูกพันกับเขาไม่น้อย ครั้งแรกที่เจอหน้ากันเหมือนมีอะไรลากให้เธอมารู้จักกับเขา “ฉวยโอกาส” จ้าวหม่านฟางลุกขึ้นมาอาบน้ำเพื่อให้สายน้ำช่วยชโลมจิตใจที่กำลังว้าวุ่น สองวันแล้วที่เขาติดต่อจ้าวหม่าน
วันจบการศึกษาของหญิงสาวเพื่อน ๆ ต่างพากันดีใจที่จะได้ออกไปใช่ชีวิตนอกรั้วมหาลัย บางคนต้องดิ้นรนแต่สำหรับจ้าวหม่านฟางลูกคุณหนูไฮโซที่มีครบทุกอย่างไม่จำเป็นต้องออกไปลำบาก “พี่ยินดีด้วยนะ” จื่อหยวนยื่นดอกไม้ช่อสวยให้น้องสาวแต่จ้าวหม่านฟางทำหน้าไม่ค่อยพอใจ “ให้แค่ดอกไม้?” “รถนั่นราคาแพงจะตายรอหาเงินได้เองค่อยซื้อ” รถPorscheราคาหลายสิบล้านซึ่งเขาสามารถซื้อให้น้องสาวได้แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เขาอยากให้จ้าวหม่านฟางหาเงินซื้อเองมากกว่าเพราะจะได้รู้ว่าเงินแต่บาทนั้นหาไม่ง่าย “น้องงอลแล้ว ชิ” จ้าวหม่านฟางแกล้งงอนไปอย่างนั้นหากเธอไปขออ้อนวอนคุณพ่อก็ไม่ใช่เรื่อง ครอบครัวของเธอพากันถ่ายรูปจนเสร็จหญิงสาวกำลังจะกลับไปที่บ้านก็มีเสียงของคนหนึ่งดังมาก่อน “จะกลับแล้วเหรอครับหรือพี่มาไม่ทัน” หยางเพ่ยตงเดินถือดอกกุหลาบช่อใหญ่มาและยื่นให้จ้าวหม่านฟาง เขาติดงานคิดว่าจะมาไม่ทันเสียแล้ว “เอ่อ ขอบคุณค่ะ” “ไม่ดูให้ดี ๆ ว่าในนั้นมีอะไร” หยางเพ่ยตงอยากให้หญิงสาวดูในช่อดอกไม้ว่ามีสิ่งหนึ่งที่หญิงสาวอยากได้ “อะไรของคุณ” จ้าวหม่านจึงพยายามมอง
นครเซียงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ปัจจุบัน จ้าวหม่านฟางคุณหนูที่เกิดมาในชาติตระกูลที่รวยละมั่งคั่งหญิงสาวอายุ 22 ปี ที่กำลังจะจบการศึกษาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ตอนนี้กำลังฉลองกับเหล่าเพื่อน ๆ อย่างสนุกสนานวันนี้จะเมาให้หาทางกลับบ้านไม่ได้เลย “ฟางฟางดูโต๊ะนั่นสิผู้หล่อมาก” เหมยฮวาชี้ไปที่หนุ่ม ๆ ซึ่งนั่งดื่มกันไม่ไกลจากโต๊ะของหญิงสาว จ้าวหม่านฟางจึงมองตามไปที่มือของเพื่อนชี้ ทำให้เธอยืนนิ่งเพราะสบตากับใครคนหนึ่งที่แสนจะคุ้นเคย “ฟางฟาง ยัยฟาง!” “อะไรฉันตกใจหมดเลย” “แกเล่นจ้องเขาเสียขนาดนั้นสนใจเหรอ” “ป่าว (เสียงสูง)” เธอยกเหล้าขึ้นมาดื่มเพื่อบิดปังความรู้สึกบางอย่าง ชายหนุ่มคนนั้นทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนว่าเคยเจอกันมาก่อน ช่วงนี้เอชอบฝันแปลก ๆ ไปถึงเมืองโบราณคงจะดูซีรีส์มากเกินไปเลยเก็บเอาพระเอกไปฝัน ทางด้านชายหนุ่มคนนั้นเขาก็จ้องมองจ้าวหม่านฟางไม่วางตาตอนที่เขาสบตากับหญิงสาวหัวใจของเขาสั่นไหวเหมือนจะกระเด็นออกมาให้ได้“เจอกันทีสินะ”หยางเพ่ยตงนักธุรกิจหนุ่มอนาคตไกลวัย 29 ปี เขาจำเรื่องราวในอดีตได้ทั้งหมดไม่รู้ว่าเพราะอะ
หยางจงหมิ่นเดินขึ้นมาที่กำแพงและยืนมองไปที่วังหลวงบรรพบุรุษคงจะสาปแช่งเขาที่ดูแลประชาไว้ไม่ได้ เขามองดูซากปะลักหักพังตอนนี้แคว้นเฉียงเหมือนกับเมืองร้างไปเสียแล้ว “ให้อภัยลูกด้วย” เขาไม่สามารถครองบัลลังก์ได้อีกต่อไป และเลือกที่จะเห็นแก่ตัวตายตามน้องสาวและน้องชายของตัวเอง หยางจงหมิ่นวางดาบลงและก้มกราบแผ่นดินนี้เป็นครั้งสุดท้านก่อนจะเลือกทางเดินของเขาเอง กำแพงเมืองก็ไม่สูงเท่าไรนักเขาได้แต่ส่งยิ้มให้กับโชคชะตาที่โหดร้าย หมดสิ้นแล้วฮ่องเต้หยางจงหมิ่นสวรรคตพร้อมหยางเพ่ยตงและองค์หญิงหยางเพยอิ่ง “ฝ่าบาท!” อี้เฉินนำกำลังทหารมาช้าไปหนึ่งก้าวเขารีบวิ่งไปที่ท้องพระโรง อี้เฉินคุกเข่าลงต่อหน้าจ้าวหม่านฟางที่ไม่สามารถปกป้องนางได้ “กระหม่อมอี้เฉินขออภัยที่มาช้าไป กระหม่อมจะดูแลหนิงอ้ายตราบเท่าชีวิตของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ” เขาก้มกราบจ้าวหม่านฟางและท่านอ๋อง แล้วเขาต้องกลับไปบอกหนิงอ้ายว่าอย่างไร อี้เฉินนำร่างของจ้าวหม่านฟางและหยางเพ่ยตงฝั่งไว้ด้วยกันและไม่ต้องจากกันไปไหนอีก ตอนนี้ทั้งเมืองหลวงเกิดความวุ่นวายเพราะไม่มีประมุขปกครองทำให้เกิดการแย่งชิงอำนาจกันขึ้น