จ้าวหม่านฟาง หรือ ฟางฟาง นักศึกษาวัยยี่สิบเอ็ดปีภาควิชาวิศวกรรมโยธาและผังเมืองตอนนี้สาขากำลังพามาดูงานที่ต่างเมืองเป็นเวลาสองวันหนึ่งคืน
“เมื่อคืนฉันฝันไม่ดีเลย”
“เธอฝันว่าอะไร” มีมี่กำลังก้มหน้าก้มตามองไปที่จอโน๊ตบุ๊คที่กำลังเขียนรายงานอยู่สองสาวเป็นเพื่อนสนิทกันมานานตั้งแต่เรียนมัธยมด้วยกัน
“ฝันว่าฉันจมน้ำตาย” จ้าวหม่านฟางกำลังคิดหนักกับสิ่งที่ตัวเองฝันเพราะเหมือนความจริงมาก ความรู้สึกที่ตอนเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจช่างทรมานเหลือเกิน
“ฟางฟางแกนอนน้อยไปหรือเปล่า”
“ฉันอาจจะคิดมากไปเอง”
จ้าวหม่านฟางหญิงสาวที่สู้ชีวิตถีบตัวเองจนได้เข้ามหาลัยดีๆ แต่ก็ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทอมที่แพง ที่บ้านพ่อของเธอแต่งงานใหม่และมีลูกติดแม่เลี้ยงมาหนึ่งคน
แม่เลี้ยงต่อหน้าพ่อก็ทำดีกับเธอพอหลับหลังก็ด่าทอเธอสารพัดพร้อมกับลูกเลี้ยงที่จองหองกล้าใช้เธอราวกับคนใช้คนหนึ่ง จนมีเรื่องแตกหักที่ทำให้เธอถูกพ่อไล่ออกจากบ้าน
“เห้อออ”
จ้าวหม่านฟางถอนหายใจออกมาเมื่อคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาพ่อไม่รักเธอแล้วตั้งแต่แต่งงานใหม่ ลูกเลี้ยงพูดอะไรก็เชื่อไปหมดแต่ไม่ยอมเชื่อลูกตัวเอง วันนี้เธอกำลังทำโครงการโมเดลบ้านจำลองแต่ถูกยัยลูกเลี้ยงนั้นเข้ามาพังโครงงานจนเธอทนไม่ไหวเลยตบไปฉอดหนึ่ง
“กลับถึงมหาลัยเดี๋ยวฉันพาไปทำบุญล้างซวย”
“ก็ได้” ตอนนี้หญิงสาวกำลังเดินดูงานแต่เหมือนว่าวันนี้เธอจะไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไรนักอาจารย์พูดอะไรก็ไม่เข้าหูแถมยังเหม่อลอย
“คืนนี้เรามีปาร์ตี้กันนักศึกษาเตรียมตัวด้วยอนุญาตให้เมาได้เต็มที่”
“เย้ๆๆๆ” สิ้นเสียงอาจารย์ประจำภาควิชาพูดจบก็มีเสียงนักศึกษาร้องด้วยความดีใจเพราะตลอดหลายเดือนที่ผ่านนั้นการเรียนถือว่าหนักหน่วงมาก
“กรี้ดดด ดีใจเว่อร์ฉันจะได้ไปแต๊ะอั๋งหยางเฟย”
“ทำดีแค่ไหนเขาก็ไม่รัก”
มีมี่แอบรักหยางเฟยมาเนิ่นนานแต่ชายหนุ่มก็ไม่เหลียวแลจนจ้าวหม่านฟางนับถือในการตามจีบผู้ชายของเพื่อนสาว
กลางดึกเหล่านักศึกษาต่างพากันมานั่งที่สวนที่ทางโรงแรมจัดให้พร้อมกับร้องรำทำเพลงกันไปอย่างสนุกสนานจนจ้าวหม่านฟางอยากเข้าห้องน้ำจึงขอตัวออกมา
“ฟางฟาง”
“หยางเฟยมีอะไรหรือ”
“คือว่าเรา...” หยางเฟยมีสีหน้าที่ดูเขินอายชายหนุ่มแอบรักจ้าวหม่านฟางมาตั้งแต่ปีหนึ่งที่ติดที่มีมี่กำลังตามจีบเขาอยู่ จึงไม่มีโอกาสที่จะบอกความในใจ
“เรารอฟังอยู่”
“เราชอบ ชอบฟางฟาง!” หญิงสาวยืนนิ่งเหมือนเวลาหยุดหมุนไปเพราะไม่คิดว่าหยางเฟยจะมาตกหลุมรักสาวห้าวแบบเธอแต่เพราะมีมี่กำลังตามจีบหยางเฟยเธอจึงต้องปฏิเสธ
“เราขอโทษนะ”
“เพราะมี่มี่ใช่ไหม แต่เราไม่เคยคิดอะไรกับมีมี่เลยคนที่เราชอบก็คือฟางฟาง” หยางเฟยคว้าข้อมือของจ้าวหม่านฟางมากุมไว้เขาต้องรีบบอกความในใจก่อนที่จะแยกย้ายกันไปฝึกงาน
“หยางเฟยเรา…”
“คบกับเราได้ไหม” หยางเฟยยังคงอ้อนวอนหญิงสาวตรงหน้า จ้าวหม่านฟางก็มีท่าทีลำบากใจพอปากจะบอกจะบอกปฏิเสธเพื่อนสนิทก็เดินเข้ามาพอดี
“มีมี่ มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ”
“เราเข้าใจ” มีมี่เดินจากไปด้วยหัวใจที่แตกสลายเธอถูกเพื่อนรักแย่งคนที่ชอบไปแล้ว มีมี่เดินกลับห้องพร้อมน้ำตาและขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำ
“หยางเฟยเราไม่ได้คิดอะไรเราเป็นเพื่อนกันก็ดีอยู่แล้ว” จ้าวหม่านฟางรีบมาตามหาเพื่อนเมื่อเข้ามาในห้องทุกอย่างกลับเงียบสนิทมีเพียงไฟในห้องน้ำที่เปิดอยู่ จึงเดินเข้าไปเคาะประตูอยู่นานสองนาน
“มีมี่ฟังเราพูดก่อน”
“เราเข้าใจหากฟางฟางจะคบกับหยางเฟยเราก็ยินดี” เธอพูดออกไปแบบนั้นแต่ภายในหัวใจก็เจ็บรู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่รักแต่ก็เสียใจและเกลียดตัวเองที่พาลโกรธเพื่อนไปด้วย
“เราไม่ได้จะคบกับหยางเฟย”
“เราง่วงแล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”
จ้าวหม่านฟางได้แต่มองดูเพื่อนที่นอนหันหลังให้ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน และเช่นเดิมเธอฝันอีกแล้วมีหญิงสาวสวยสวมชุดจีบโบราณมากระชากแขนเธอให้เดินตามและบอกว่าฝากดูแลพ่อกับแม่ด้วยจนเธอสะดุ้งตื่น
“สายแล้วเหรอ”
แปดนาฬิกาก็ถึงเวลาขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับมหาลัยมีมี่ยังคงไม่ยอมคุยกับจ้าวหม่านฟางทุกอย่างดูเปลี่ยนไปจนจ้าวหม่านฟางก็น้อยใจว่าเธอทำอะไรผิด
“มีมี่”
หญิงสาวจึงหยิบหูฟังขึ้นมาฟังเพลงและหลับตาลงระหว่างที่รถบัสวิ่งไปตามถนนที่สูงชันฝั่งตรงข้ามมีรถบรรทุกสิบล้อวิ่งสวนเลนข้ามเกาะเข้ามาชนรถบัสอย่างจังจนเกิดเสียงสนั่นหวั่นไหวและเสียงกรีดร้อง
ตู้ม!
ทุกอย่างหยุดนิ่งราวกับโลกหยุดหมุนรถบรรทุกชนเข้าตรงที่จ้าวหม่านฟางนั่งอยู่ติดริมกระจกทำให้โดนอัดเข้าไปเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็รีบเร่งช่วยคนบาดเจ็บ
จ้าวหม่านฟางรู้สึกเจ็บไปทั่วบริเวณขยับร่างกายไม่ได้อย่างจะเปล่งเสียงเรียกให้คนช่วยแต่ก็ไม่มีเสียงออกมา กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปหมด จนเธอค่อยๆหลับตาลงเพราะความเจ็บปวดและลมหายใจเฮือกสุดท้ายก่อนที่หัวใจจะค่อยๆ เต้นช้าลงและช้าลง
ข่าวรถบัสนักศึกษามหาลัยชื่อดังชนกับรถบรรทุกดังไปทั่วเมืองโดยมีนักศึกษาหญิงอาการสาหัสหนึ่งคนและคนบาดเจ็บอีกมากมาย
ติ้ด! ติ้ด! ติ้ด!
จ้าวหม่านฟางมองดูทุกอย่างที่เลือนรางไปหมดและมองดูหมอกำลังปั๊มหัวใจของเธอ และเสียงเต้นของหัวใจค่อยๆ เบาลงและเบาลงหญิงสาวยังคลต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเพราะร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสโอกาสที่จะฟื้นมีเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นหากฟื้นขึ้นมาก็อาจจะไม่ครบสามสิบสอง
เฮือก
จ้าวหม่านฟางลืมตาขึ้นมาและรีบลุกขึ้นสำรวจร่างกายของเธอปรากฏว่ายังอยู่ครบสามสิบสองและไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรกำลังจะก้าวขาลงจากเตียง
“พระชายาทรงฟื้นแล้วหม่อมฉันดีใจมากเลยเพคะ”
“พระชายา!” เธอมองไปรอบๆ กายปรากฏว่าทุกอย่างดูเหมือนในซีรีส์จีนไปหมด หรือว่าเธอกำลังฝันจ้าวหม่านฟางจึงตบหน้าตัวเองจนบ่าวรับใช้ต้องรีบเข้ามาห้าม
“อย่าเพคะพระชายา”
“กรี้ดดด”
จ้าวหม่านฟางกรีดร้องออกมาทำไมเธอถึงมีความทรงจำของเจ้าของร่าง นางชื่อจ้าวหม่านฟางหรือคุณหนูสามผู้อ่อนแอที่ใครๆ ก็รังแกนาง นางกระโดดน้ำตายเพราะเสียใจที่จะได้แต่งงานกับชินอ๋องคนที่นางกลัว
นางถูกท่านพ่อและแม่เลี้ยงเลี้ยงดูราวกับใช้แถมพี่สาวทั้งสองยังชอบใช้นางเยี่ยงทาสและการแต่งงานครั้งนี้ก็เป็นราชโองการจากฮ่องเต้คนที่ต้องแต่งงานกับชินอ๋องคือจ้าวเสียหยุนที่ชินอ๋องโปรดปรานแต่นางดันหนีไปมีคนรักสุดท้ายกรรมก็มาตาที่คุณหนูสาม
“ขะ ข้าเป็นอะไร” เมื่อมาอยู่ในร่างของนางจ้าวหม่านฟางก็ไม่มีปัญหาเรื่องภาษาแถมความทรงจำต่างๆ จะกลับมาด้วยและเจ้าของร่างตัวจริงหายไปไหน
“พระชายาทรงตกน้ำเพคะหลับไปสามวันและหยุดหายใจไปแล้วหม่อมฉันคิดว่าพระชายาจะ…”
“หยุดไม่ต้องเล่าแล้ว” จ้าวหม่านฟางลุกขึ้นเดินไปสำรวจตัวเองที่หน้าคันฉ่องใบหน้าช่างเหมือนกันราวกับแฝดเสียอย่างนั้น แถมชื่อยังเหมือนกัน
คุณหนูสามหรือจ้าวหม่านฟางแต่งงานกับชินอ๋องหยางเพ่ยตงที่ใครๆ ต่างเกรงกลัวจ้าวหม่านฟางจมน้ำในวันเข้าพิธีอภิเษกพอดีจนสุดท้ายก็ไม่ได้เข้าห้องหอ แต่ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้อยากกระโดดน้ำ เหมือนจะมีผลักนางลงไป
หยางเพ่ยตงชินอ๋องผู้เลื่องลือเรื่องความโหดเหี้ยมฆ่าคนได้แบบไม่รู้สึกอะไรเพราะเขาคืออดีตท่านแม่ทัพที่ออกรบมานับไม่ถ้วนก่อนจะถูกแต่งตั้งเป็นชินอ๋อง มีพระเชษฐาคือหยางจงหมิ่นซึ่งขึ้นครองบัลลังก์หลังจากที่เสด็จพ่อสวรรคต และมีน้องสาวหนึ่งคนหยางเผยอิ่ง
“ท่านหมอหลวงมาแล้วเพคะพระชายาให้หมอหลวงตรวจดูอาการหน่อยเพคะ”
หมอหลวงมองใบหน้าของพระชายาและหลบสายตาแปลกใจยิ่งนักพระชายาจมน่ำและหยุดหายใจไปแล้วแต่กลับมาแข็งแรงเช่นเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“กระหม่อมจะให้ยาบำรุงมาทานจนกว่ายาจะหมดค่อยเลิกพ่ะย่ะค่ะ”
“เจ้ามีนามว่าอะไร”
“คุณหนูทรงลืมเข่อซิงแล้วหรือเพคะ” เข่อซิงเป็นบ่าวรับใช้ของจ้าวหม่านฟางมาตั้งแต่วัยเยาว์ เมื่อคุณหนูสามแต่งงานนางจึงพอตามเข้ามารับใช้ด้วย
“เอ่อ ข้าเหมือนจะลืม ๆ อะไรไปบ้าง โอ๊ยข้าปวดหัว”
“พระชายามิเป็นอะไรนะเพคะ”
“ข้าหิวเหลือเกิน” จ้าวหม่านฟางเรื่องกินคือเรื่องใหญ่ไม่รู้ว่าอาหารการกินจะถูกปากหรือไม่ บ่าวรับใช้ก็รีบวิ่งวุ่นกันไปหาสำรับให้พระชายา
“ไยเจ้าไม่ตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย” หยางเพ่ยตงเดินเข้ามาในตำหนักของพระชายาที่ทำเขาขายขี้หน้าประชาชนนางอยากตายเพื่อหนีจากการแต่งงาน
“แค่กๆๆๆ ท่านปล่อยข้า” นางหายใจไม่ออกเมื่อชินอ๋องเข้ามาบีบคอของนางอย่างเต็มแรงจนบ่าวรับใช้ต้องคลุกเข้าก้มหน้าของชีวิตพระชายา
“โปรดชินอ๋องเมตตาพระชายาด้วยเพคะ”
“ปล่อยข้า” จ้าวหม่านฟางน้ำตาไหลลงหล่นใส่มือของชินอ๋องเขาจึงยอมปล่อยนาง องครักษ์ไปรายงานว่านางฟื้นขึ้นมาแล้วและไม่เป็นอะไรด้วยนางกล้าหักหน้าหยางเพ่ยตง
“ออกไปให้หมด!”
ฮาวายทั้งห้าคนเดินทางมาถึงฮาวายโดยหยางเพ่ยตงพาน้องชายและน้องสะใภ้มาด้วยจะได้ดูแลหนิงอ้ายยามที่เขาสวีตกับจ้าวหม่านฟางสองคนจะได้มีคนดูแลหนิงอ้าย“พี่ฝากหนิงอ้ายสัก 2-3 ชั่วโมงนะ”“รีบทำเวลาหน่อยแล้วกัน”หยางซูเมิ่งบอกกับพี่ชายพาเขามาด้วยก็แค่อยากให้เขาดูแลหนิงอ้ายให้ส่วนตัวเองจะไปสวีตกับจ้าวหม่านฟางสองคน ทริปนี้หนิงอ้ายคงจะได้น้องสมใจ“พูดมาก”ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องพักที่อยู่ติดทะเลมองไปทางไหนก็เจอแต่ทะเล บรรยากาศสวยงามไปหมดแต่จ้าวหม่านฟางนั้นสวยกว่าร้อยเท่า“อุ้ย เข้ามาทำอะไรคะฟางฟางจะไปดูลูก”“พี่ขอชื่นใจหน่อยได้ไหมลูกอยู่กับซูเมิ่ง ไม่ต้องห่วงเรามาทำน้องให้หนิงอ้ายกัน”“แต่...”“นะครับ”หยางเพ่ยตงหอมแก้มทั้งสองข้างของภรรยาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะไล่หอมไปทั่วหน้าแล้ววางปากทาบทับลงไปบนอวัยวะเดียวกันของผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ พอเริ่มจูบก็ขยับมือลูบไล้ไปตามเรือนร่างแสนสวยอย่างเชื่องช้า เคลื่อนไหวเนิบนาบไม่ให้เธอรู้สึกถูกรุกล้ำหรือหวาดระแวงใด ๆมือหนาลูบคลำซ้ำ ๆ ให้ภรรยาคุ้นเคยก็สอดมือเข้าไปใต้ชายเสื้อสัมผัสเอวบางโดยไม่มีอะไรปิดกั้น ก่อนจะวางสองมือโอบล้อมก้อนเนื้อเต่งตึงทั้งสองข้างด้วยแรงแ
ทั้งสองแต่งงานกันได้สามปีแล้วและมีพยานรักตัวกันหนึ่งคนคือหนิงอ้าย ชื่อของลูกสาวหยางเพ่ยตงเป็นคนตั้งให้ทั้งหมดจ้าวหม่านฟางชอบชื่อนี้มาก “จุนแม่ขา จุนพ่อไม่รักเรา” (คุณแม่คะคุณพ่อไม่รักเรา) “ไม่พูดอย่างนั้นสิคะ” ตอนนี้หยางเพ่ยตงทำงานหนักและกลับบ้านดึกดื่นจนลูกสาวน้อยใจว่าพ่อไม่รัก ดึกจนรอพ่อไม่ไหวจึงหลับไป แอด “กลับมาแล้วเหรอคะ” “ลูกหลับแล้วเหรอครับ” ช่วงนี้งานถาโถมเข้ามาจนเขาปลีกตัวไปไหนไม่ได้ตั้งแต่แต่งงานกันมาเขาก็ไม่เคยพาภรรยาไปฮันนีมูนกันเลย จึงรู้สึกผิดขึ้นมา “กลับดึกทุกวันขนาดนี้ลูกน้อยใจแล้ว” เธอเองก็น้อยใจเหมือนกันไม่รู้ว่างานจะสำคัญอะไรนักหนา ถมเวลาคุยกันก็น้อยลงไปทุกทีหรือเพราะเธอมีลูกแล้วเขาจึงไม่สนใจ “ฟางฟางครับพี่ขอโทษโปรเจกนี้จะจบลงแล้ว เดี๋ยวพี่พาฟางฟางกับลูกไปเที่ยวกันดีไหมครับ” เพราะเขารู้ว่าตอนนี้ภรรยากำลังน้อยใจเขาชวนเที่ยวหลายรอบและไม่เคยไปสักรอบเพราะติดแต่งาน วันนี้โปรเจกต์ใหญ่ที่ทำกำลังเสร็จสมบูรณ์จึงสัญญาว่าจะพาจ้าวหม่านฟางกับลูกไปพักผ่อน “พี่ขอโทษครับต่อไปจะไม่ทำงานหนักแบบนี้อีกแล้ว
“ลุกออกไปจากตัวฉัน” จ้าวหม่านฟางทั้งโกรธและเกลียดตัวเองที่ใจง่ายไปกับสัมผัสของเขาจึงผลักให้เขาออกห่างจากตัวและรีบแต่งตัว “รบกวนคุณไปส่งฉันที่บ้านด้วย” “ฟางฟางครับพี่...” หยางเพ่ยตงยังไม่ทันจะพูดอะไรหญิงสาวจึงเดินออกไปจากห้อง เขาจึงได้แต่รีบแต่งตัวและไปส่งจ้าวหม่านฟางที่บ้าน “พี่ขอโทษครับต่อไปที่จะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้วพี่คิดถึงเรามากไปหน่อย” ต่างฝ่ายต่างเงียบหยางเพ่ยตงจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนเขาไม่ชอบที่จ้าวหม่านฟางเงียบจึงหาเรื่องชวนคุยแต่ก็เหมือนจะแย่ลงไปกว่าเดิม “ฟางฟางครับ” ปัง! หญิงสาวปิดประตูรถกระแทกจนเสียงดังโดยไม่รอฟังคำอธิบายจากเขา หญิงสาวรีบเดินขึ้นห้องไปโดยไม่สนใจเสียงทักทายของใครด้วยซ้ำ พอมาถึงห้องเธอก็ร้องไห้ออกมา “ทำไมถึงรู้สึกแบบนี้” จ้าวหม่านฟางใช้มือมากุมหน้าอกข้างซ้ายไว้เธอยอมรับว่าเหมือนจะรู้สึกผูกพันกับเขาไม่น้อย ครั้งแรกที่เจอหน้ากันเหมือนมีอะไรลากให้เธอมารู้จักกับเขา “ฉวยโอกาส” จ้าวหม่านฟางลุกขึ้นมาอาบน้ำเพื่อให้สายน้ำช่วยชโลมจิตใจที่กำลังว้าวุ่น สองวันแล้วที่เขาติดต่อจ้าวหม่าน
วันจบการศึกษาของหญิงสาวเพื่อน ๆ ต่างพากันดีใจที่จะได้ออกไปใช่ชีวิตนอกรั้วมหาลัย บางคนต้องดิ้นรนแต่สำหรับจ้าวหม่านฟางลูกคุณหนูไฮโซที่มีครบทุกอย่างไม่จำเป็นต้องออกไปลำบาก “พี่ยินดีด้วยนะ” จื่อหยวนยื่นดอกไม้ช่อสวยให้น้องสาวแต่จ้าวหม่านฟางทำหน้าไม่ค่อยพอใจ “ให้แค่ดอกไม้?” “รถนั่นราคาแพงจะตายรอหาเงินได้เองค่อยซื้อ” รถPorscheราคาหลายสิบล้านซึ่งเขาสามารถซื้อให้น้องสาวได้แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เขาอยากให้จ้าวหม่านฟางหาเงินซื้อเองมากกว่าเพราะจะได้รู้ว่าเงินแต่บาทนั้นหาไม่ง่าย “น้องงอลแล้ว ชิ” จ้าวหม่านฟางแกล้งงอนไปอย่างนั้นหากเธอไปขออ้อนวอนคุณพ่อก็ไม่ใช่เรื่อง ครอบครัวของเธอพากันถ่ายรูปจนเสร็จหญิงสาวกำลังจะกลับไปที่บ้านก็มีเสียงของคนหนึ่งดังมาก่อน “จะกลับแล้วเหรอครับหรือพี่มาไม่ทัน” หยางเพ่ยตงเดินถือดอกกุหลาบช่อใหญ่มาและยื่นให้จ้าวหม่านฟาง เขาติดงานคิดว่าจะมาไม่ทันเสียแล้ว “เอ่อ ขอบคุณค่ะ” “ไม่ดูให้ดี ๆ ว่าในนั้นมีอะไร” หยางเพ่ยตงอยากให้หญิงสาวดูในช่อดอกไม้ว่ามีสิ่งหนึ่งที่หญิงสาวอยากได้ “อะไรของคุณ” จ้าวหม่านจึงพยายามมอง
นครเซียงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ปัจจุบัน จ้าวหม่านฟางคุณหนูที่เกิดมาในชาติตระกูลที่รวยละมั่งคั่งหญิงสาวอายุ 22 ปี ที่กำลังจะจบการศึกษาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ตอนนี้กำลังฉลองกับเหล่าเพื่อน ๆ อย่างสนุกสนานวันนี้จะเมาให้หาทางกลับบ้านไม่ได้เลย “ฟางฟางดูโต๊ะนั่นสิผู้หล่อมาก” เหมยฮวาชี้ไปที่หนุ่ม ๆ ซึ่งนั่งดื่มกันไม่ไกลจากโต๊ะของหญิงสาว จ้าวหม่านฟางจึงมองตามไปที่มือของเพื่อนชี้ ทำให้เธอยืนนิ่งเพราะสบตากับใครคนหนึ่งที่แสนจะคุ้นเคย “ฟางฟาง ยัยฟาง!” “อะไรฉันตกใจหมดเลย” “แกเล่นจ้องเขาเสียขนาดนั้นสนใจเหรอ” “ป่าว (เสียงสูง)” เธอยกเหล้าขึ้นมาดื่มเพื่อบิดปังความรู้สึกบางอย่าง ชายหนุ่มคนนั้นทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนว่าเคยเจอกันมาก่อน ช่วงนี้เอชอบฝันแปลก ๆ ไปถึงเมืองโบราณคงจะดูซีรีส์มากเกินไปเลยเก็บเอาพระเอกไปฝัน ทางด้านชายหนุ่มคนนั้นเขาก็จ้องมองจ้าวหม่านฟางไม่วางตาตอนที่เขาสบตากับหญิงสาวหัวใจของเขาสั่นไหวเหมือนจะกระเด็นออกมาให้ได้“เจอกันทีสินะ”หยางเพ่ยตงนักธุรกิจหนุ่มอนาคตไกลวัย 29 ปี เขาจำเรื่องราวในอดีตได้ทั้งหมดไม่รู้ว่าเพราะอะ
หยางจงหมิ่นเดินขึ้นมาที่กำแพงและยืนมองไปที่วังหลวงบรรพบุรุษคงจะสาปแช่งเขาที่ดูแลประชาไว้ไม่ได้ เขามองดูซากปะลักหักพังตอนนี้แคว้นเฉียงเหมือนกับเมืองร้างไปเสียแล้ว “ให้อภัยลูกด้วย” เขาไม่สามารถครองบัลลังก์ได้อีกต่อไป และเลือกที่จะเห็นแก่ตัวตายตามน้องสาวและน้องชายของตัวเอง หยางจงหมิ่นวางดาบลงและก้มกราบแผ่นดินนี้เป็นครั้งสุดท้านก่อนจะเลือกทางเดินของเขาเอง กำแพงเมืองก็ไม่สูงเท่าไรนักเขาได้แต่ส่งยิ้มให้กับโชคชะตาที่โหดร้าย หมดสิ้นแล้วฮ่องเต้หยางจงหมิ่นสวรรคตพร้อมหยางเพ่ยตงและองค์หญิงหยางเพยอิ่ง “ฝ่าบาท!” อี้เฉินนำกำลังทหารมาช้าไปหนึ่งก้าวเขารีบวิ่งไปที่ท้องพระโรง อี้เฉินคุกเข่าลงต่อหน้าจ้าวหม่านฟางที่ไม่สามารถปกป้องนางได้ “กระหม่อมอี้เฉินขออภัยที่มาช้าไป กระหม่อมจะดูแลหนิงอ้ายตราบเท่าชีวิตของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ” เขาก้มกราบจ้าวหม่านฟางและท่านอ๋อง แล้วเขาต้องกลับไปบอกหนิงอ้ายว่าอย่างไร อี้เฉินนำร่างของจ้าวหม่านฟางและหยางเพ่ยตงฝั่งไว้ด้วยกันและไม่ต้องจากกันไปไหนอีก ตอนนี้ทั้งเมืองหลวงเกิดความวุ่นวายเพราะไม่มีประมุขปกครองทำให้เกิดการแย่งชิงอำนาจกันขึ้น