Share

บทที่ 10 ทวงคำสัญญาเรื่องแต่งงาน

Author: sanvittayam
last update Last Updated: 2025-07-26 17:59:46

บทที่ 10

ทวงคำสัญญาเรื่องแต่งงาน

บ้านใหญ่เฉินเวลานี้กำลังนั่งพูดคุยกันเรื่องของบ้านรอง ถึงแม้ว่าสะใภ้รองกับหลานสาวจะยอมทำอาหารและทำงานบ้านให้เหมือนเดิม แต่ทุกคนกลับมองว่าทุกอย่างมันแย่กว่าเดิม

“แม่ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ บ้านรองทำแต่ข้าวต้มกับผักลวก แบบนี้พวกเราไม่ต่างกับกินน้ำแทนข้าวนะคะ”

ฟางอี้เหนียงพูดอย่างเหลืออด เธอไม่ต้องการกินข้าวต้มกับผักต้มหรือผักดองพวกนี้อีกแล้ว

“แล้วหล่อนจะทำอย่างไร จะเอาเงินไปซื้อเนื้อทุกวันหรือไง ฉันไม่มีหรอก อะไรกินได้ก็กินไปเถอะ” ย่าเฉินไม่อยากเสียเงินเลยให้ลูกสะใภ้คนโตทน ๆ ไปก่อน “เดี๋ยวพวกบ้านรองมันเลิกดื้อดึง เจ้ารองกับหลงเปียวคงไปหาอาหารบนเขาเองล่ะ ใครจะทนกินอาหารแบบนี้ได้ทุกวัน ไม่อย่างนั้นจะเอาแรงที่ไหนทำงาน”

“แม่ยังคิดว่าเจ้ารองกับเจ้าหลงเปียวจะขึ้นเขาหาอาหารกลับมาอีกเหรอ หากเป็นอย่างนั้นมันคงหามาแล้วล่ะ ไม่ต้องกินอะไรพวกนี้หรอก ถ้าแม่ไม่ให้เงินซื้ออาหารทุกวัน แม่ก็ต้องให้

ฟางเหนียงไปหาซินแสมาปัดเป่าภัยร้ายและเอาผีออกจากร่างของเฉินโม่หรานเสียเถอะ ผมทนไม่ไหวแล้ว”

คราวนี้เป็นเฉินควนที่ทนไม่ไหว จึงพูดออกมาให้แม่คิด

“แล้วอีกอย่าง ตอนนี้บ้านรองแข็งข้อกับพวกเราทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อน แล้วแบบนี้แม่ยังคิดว่าเป็นเรื่องปกติอีกเหรอ

จ่ายสามสิบหยวนแต่ถ้าพวกเจ้ารองกลับมาเหมือนเดิม แม่ยังให้ไปหาสัตว์ป่าแล้วเอาไปขาย ไม่นานเงินสามสิบหยวนก็กลับมาเหมือนเดิมแล้ว”

“นั่นสิย่า ฉันเห็นด้วยกับพ่อนะ เงินแค่นี้เอง อีกหน่อยหากอารองกลับมาเชื่อฟังย่าเหมือนเดิม ก็คงจะมีเงินเข้าบ้านมากขึ้น

ดูอย่างสัปดาห์ที่ผ่านมาสิ ไม่มีเงินเข้าบ้านสักเหมาเดียว อาหารที่กินก็แค่ข้าวต้ม ตอนนี้ฉันผอมจะแย่แล้ว”

เฉินเม่ยเม่ยรีบพูดสนับสนุนพ่อตัวเองทันที โดยยกข้ออ้างต่าง ๆ นานามาเพื่อให้ย่าคล้อยตาม

หญิงชราใจหนึ่งก็ไม่อยากเสียเงิน แต่เพราะก่อนหน้านี้ลูกกับหลานชายจากบ้านรองมักจะหาอาหารติดมือกลับมาทุกวัน

แต่ช่วงนี้ไม่มีเลย จึงเริ่มคล้อยตามสิ่งที่ลูกชายคนโตพูด

“ตกลง สามสิบหยวนก็สามสิบหยวน เดี๋ยวฉันเอาเงินให้ อย่างไรวันนี้หล่อนก็กลับบ้านเดิมไปจัดการเรื่องนี้ก็แล้วกัน พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับมา”

สุดท้ายแล้วนางก็ยอมเสียเงินเพื่อให้ลูกสะใภ้ไปตามซินแสคนนั้นมา

ขณะที่ที่ย่าเฉินเอาเงินออกมาให้ลูกสะใภ้ กลับมีเสียงของใครบางคนมาเรียกอยู่หน้าบ้าน

“แม่เฒ่าเฉิน อยู่หรือเปล่า ฉันพรานเฉิงมีเรื่องจะคุยด้วย”

พอได้ยินเสียงคนเรียกทุกคนในบ้านก็ออกมาพร้อมกัน

“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” ย่าเฉินถามกลับไป

“คุยกันตรงนี้ใช่ไหม” จ้าวหนิงเฟิงถามย้ำ สายตาของเขาจับจ้องมาที่เฉินเม่ยเม่ย เพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าเรื่องที่เขามาหานั้นเกี่ยวกับหญิงสาว

“อย่ามองฉันแบบนั้นนะ ย่าดูมันสิมองฉันน่ากลัวเชียว” เฉินเม่ยเม่ยพูดจาไม่พอใจก่อนจะหลบไปอยู่หลังย่าตัวเอง

“แกมีอะไรก็พูดมาเถอะพรานเฉิง อย่ามามองหลานสาวฉันแบบนี้ หัดเจียมตัวเองเสียบ้าง”

หญิงชราไม่พอใจเหมือนกันที่อีกฝ่ายมองแต่หลานสาวตัวเองจึงรีบดักคอ

“ผมมาทวงคำสัญญาที่พ่อเฒ่าเฉินให้ไว้ และผมเองคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะแต่งงาน หวังว่าแม่เฒ่าเฉินจะไม่บิดพริ้วในเรื่องนี้” พูดจบเขาก็เอากระดาษที่ปู่เฉินลงนามไว้ยื่นให้คนบ้านเฉินดู

“กรี้ดดดด ฉันไม่แต่งนะย่า ฉันไม่แต่งกับพรานป่าหน้าผีคนนี้ ฉันจะแต่งกับคนที่เหมาะสมเท่านั้น” พอได้ยินว่าตนเองต้องแต่งงาน เฉินเม่ยเม่ยจึงกรีดร้องออกมาอย่างไม่พอใจ เพราะเธอไม่ต้องการที่จะแต่งกับพรานแก่คนนี้

นั่นเพราะจ้าวหนิงเฉิงปล่อยตัวหนวดเครายาวเฟื้อยแถมยังมีแผลเป็นที่แก้ม เลยทำให้หลายคนคิดว่าเขาขี้เหร่และมีอายุ

“ถึงเธอจะไม่อยากแต่งงาน แต่อย่าลืมว่าปู่ของเธอได้

ร่างสัญญาหมั่นหมายให้กับฉัน ไม่อยากแต่งก็ต้องแต่ง อีกหนึ่งสัปดาห์ฉันจะมาเอาคำตอบ หากไม่มีเจ้าสาวให้ฉัน ฉันจะเข้าไปร้องเรียนในเมือง ให้มันรู้ว่ากฎหมายจะทำอะไรไม่ได้”

พูดจบชายหนุ่มหมุนตัวเดินออกมา โดยไม่สนใจสีหน้าและท่าทางของคนบ้านเฉินเลย

“ฮือ ๆ ๆ ย่า ฉันไม่แต่งกับมันนะ ฉันไม่อยากเป็นเมีย

พรานป่าหน้าผี” หญิงสาวร้องไห้ฟูมฟายกับคนเป็นย่า ให้ตายเธอก็

ไม่ยอมแต่งตามคำมั่นสัญญาที่ปู่เคยให้ไว้เด็ดขาด

“แล้วจะทำอย่างไร ปู่ของแกก่อนตายก็ได้ทำการสั่งเสียไว้ พรานเฉิงคือคนที่ช่วยชีวิตของปู่แกไว้นะเม่ยเม่ย”

ย่าเฉินถอนหายใจออกมา นางไม่อยากจะเชื่อว่พรานป่าคนนี้จะมาทวงคำสัญญาเรื่องแต่งงานกับหลานสาวตนเอง

“แล้วแม่จะให้เม่ยเม่ยแต่งกับหรานเฉิงอย่างนั้นเหรอคะ เม่ยเม่ยมีอนาคตที่ดี ควรจะมีสามีที่ดีกว่าพรานนะคะแม่ หรือเราจะหาบ้านสามีให้กับเม่ยเม่ยก่อน” ฟางอี้เหนียงรีบหาข้อเสนอเพื่อไม่ให้ลูกสาวต้องแต่งงานกับพรานป่าคนนั้น

“ถึงแม้ว่าเราจะหาบ้านสามีให้กับเม่ยเม่ยตอนนี้ แต่อย่าลืมว่าสัญญาหมั่นหมายอยู่ในมือพรานเฉิง หากแต่งงานทันทีที่อีกฝ่ายมาถามเรื่องสัญญา พวกแกคิดเหรอว่ามันจะจบแค่นี้ หรือเมื่อกี้ไม่ได้ยินว่าพรานเฉิงขู่ว่าอย่างไร”

หญิงชราอับจนคำพูด ดูเหมือนว่าชายคนนั้นดักทางรอดของหลานสาวไปเสียทุกทางแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นเราให้เฉินโม่หรานแต่งแทนได้ไหม อย่างน้อยก็หลานสาวตระกูลเฉินเหมือนกัน” จู่ ๆ เฉินเม่ยเม่ยก็พูดเรื่องเปลี่ยนตัวเจ้าสาวขึ้นมา นี่จึงทำให้ทุกคนเริ่มมีความหวัง

“ถ้าอย่างนั้นเธอรีบกลับบ้านเดิมแล้วพาซินแสมาปัดเป่าสิ่งร้าย ๆ ออกไปจากบ้านก่อน ไม่แน่ว่าหากเอาผีออกไปแล้ว เฉินโม่หรานและบ้านรองอาจจะยิมยอมเรื่องการเปลี่ยนตัวเจ้าสาวก็ได้” คราวนี้ตู้ควนที่นิ่งเงียบอยู่นานพูดขึ้นมาบ้าง

“ใช่แล้ว แกพูดถูกเจ้าใหญ่ ถ้าอย่างนั้นเธอรีบไปจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด พรุ่งนี้หลังจาดปัดเป่าทุกอย่างแล้ว ฉันจะคุยกับบ้านรองเรื่องเปลี่ยนตัวเจ้าสาว”

เมื่อมีหนทางที่จะจัดการเรื่องนี้ได้ ทั้งหมดจึงตัดสินใจทำตามแผนเดิมก่อน นั่นก็คือให้สะใภ้ใหญ่กลับบ้านเดิมเพื่อไปหาซินแสคนนั้น

ชาวบ้านที่แอบฟังเรื่องนี้ตกใจไม่น้อย ไม่คิดว่าคนบ้านรองจะโดนผีเข้า และเรื่องที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือเรื่องที่บ้านใหญ่จะให้หลานสาวจากบ้านรองแต่งงานแทนหลานรัก 

จึงตัดสินใจวิ่งหน้าตาตื่นมาที่แปลงข้าวโพด และเมื่อเห็นเฉินโม่หรานนั่งรอครอบครัวอยู่ก็รีบเข้ามาหาทันที

“เกิดเรื่องแล้วโม่หราน” หญิงสาวคนนี้หยุดวิ่งแล้วล้มตัวนั่งลงอย่างเหนื่อยหอบ

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงวิ่งมาอย่างนั้น เอานี่กินน้ำก่อน” หญิงสาวยื่นกระบอกน้ำที่ถือติดมือให้

หลังจากดื่มน้ำและนั่งจนหายเหนื่อยแล้ว ก็รีบเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับอีกฝ่ายฟังโดยไม่มีคำไหนตกหล่นเลย

“ตอนนี้ป้าสะใภ้ของเธอกลับบ้านเดิมไปพร้อมกับเฉินเม่ยเม่ยแล้วล่ะ” เมี่ยวฟางมองหน้าสหายคล้ายกับรอคำตอบ พอเห็นเฉินโม่หรานไม่มีท่าทีตอบสนองและดูท่าจะไม่ตกใจกับเรื่องที่เธอเล่าให้ฟัง ก็ยิ่งร้อนใจเพราะกลัวว่าสหายจะเกิดเรื่อง

“นี่เธอไม่ตกใจเลยเหรอ คนบ้านใหญ่คิดว่าเธอโดนผีเข้าแล้วตอนนี้ยังตามซินแสหมอผีมาจัดการเธอนะ”

“ฉันจะตกใจและร้อนใจไปทำไม ในเมื่อฉันไม่ได้โดนผีเข้า บ้านใหญ่อยากจะโง่เสียเงินโดนคนแบบนั้นหลอกก็ปล่อยไปเถอะ เรื่องผีสางตอนนี้เป็นข้อห้ามของรัฐ ใครกล้าเล่นเรื่องนี้รับรองเถอะว่าถ้าไม่ถูกปรับเงินก็คงถูกขังคุกเปลี่ยนทัศนคติแน่นอน ในเมื่อป้าสะใภ้และคนบ้านนั้นหาเรื่องใส่ตัวก็รอดูผลในวันพรุ่งนี้”

เฉินโม่หรานยิ้มมุมปาก เธอต้องการดูเรื่องสนุกในวันพรุ่งนี้เหมือนกัน ในเมื่อคิดว่าเธอผีเข้า ถ้าอย่างนั้นเธอจะบ้าให้ดู

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายตัวประกอบปลายปี 1979   บทส่งท้าย ครอบครัวสมบูรณ์ 

    บทส่งท้าย ครอบครัวสมบูรณ์ ภายในบ้านของจ้าวหนิงเฉิง เมื่อทุกคนเข้ามาแล้ว เฉินคังและกุ้ยเจินสลับกับเราเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านให้ฟังอย่างไม่ปิดบัง แม้ว่าเฉินหลงเปียวจะโทรหาบ่อยครั้งแต่ก็จะคุยเรื่องงานและถามความเป็นอยู่มากกว่าเมื่อรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นจากบ้านใหญ่ ก็ไม่คิดว่าเฉินอี้โจวจะหลงผิดถึงขั้นเปลี่ยนตัวเองเป็นหัวขโมย“เพราะเรื่องนี้ด้วยไหมคะพ่อถึงยอมไปปักกิ่งกับฉัน”“ส่วนหนึ่งเท่านั้นแหละลูก พ่อไม่อยากให้ทุกคนแยกจากกัน อีกทั้งพ่อไม่ได้มีห่วงที่นี่อีกแล้ว” เขาตอบตามความเป็นจริง “ตอนนี้ตัวตนของพี่เฉิงคงกระจายทั่วแล้ว เดี๋ยวบ้านใหญ่คงรู้เรื่อง พ่อไม่กลัวว่าย่าจะมาหาเรื่องหรือขอค่าเลี้ยงดูเหรอ”เฉินโม่หรานไม่เชื่อว่าย่าของเธอจะยอมง่าย ๆ ในเรื่องนี้ และยังมีเฉินเม่ยเม่ยอีก ฝ่ายนั้นคงแค้นแทบกระอักเลือดเมื่อพรานป่าที่ปฏิเสธกลายเป็นคนร่ำรวยและมีอิทธิพลมาก“ต่อให้ย่าของลูกมาจริงอย่างที่ลูกบอก พ่อก็ไม่ให้หรอกนะ เพราะตลอดชีวิตพ่อที่ผ่านมา พ่อทำดีที่สุดแล้ว และให้ไปมากพอแล้ว ต่อจากนี้ครอบครัวของพี่ใหญ่ต้องจัดการดูแลแม่เอง”เมื่อทุกคนได้ยินต่างก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจที่เฉินคังมีความเ

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายตัวประกอบปลายปี 1979   บทที่ 35 เริ่มต้นใหม่ในตระกูลจ้าว

    บทที่ 35 เริ่มต้นใหม่ในตระกูลจ้าวยังไม่ทันที่จ้าวต้าเค่อได้ตอบคำถามของพ่อตนเอง กลับมีเสียงของหญิงสาวคนหนึ่งพูดออกมาอย่างเคียดแค้น“เรื่องในอดีตเราสองคนสามีภรรยาไม่ได้สนใจอะไรมากมาย วันนี้ที่มาเปิดเผยตัวเพราะต้องการนำตราประจำตระกูลส่งมอบให้คนที่เหมาะสม แต่ไม่คิดว่าจุดจบของสามีฉันคือความตาย เช่นนั้นก็อย่าหวังว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการเลย”เฉินโม่หรานสบตากับจ้าวหมิงยังไม่เกรงกลัว ก่อนจะพูดประโยคต่อมา “ถึงแม้ว่าตอนนี้สามีฉันจะไม่อยู่แล้ว แต่ฉันคือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา คุณก็อย่าหวังเลยว่าจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างไปเพราะฉันไม่มีทางยอม!!”เสียงประกาศของหญิงสาวดังขึ้นมาอย่างชัดเจนและ เธอไม่มีท่าทีผู้หญิงอ่อนแอเลยแม้แต่น้อย แม้ใบหน้าสวยหวานจะมีน้ำตาไหลอาบแก้มก็ตามนายท่านสวี่ได้ยินก็รีบพูดสนับสนุนทันที “ฉันจะสนับสนุนเธอเอง อย่างไรเธอก็คือภรรยาของจ้าวหนิงเฉิงอย่างถูกกฎหมาย นับว่าเธอคือทายาทของเขา”“ได้อย่างไร ในเมื่อฉันคือจ้าวหมิง คนที่ดูแลตระกูลจ้าวมานับสิบปี จะให้คนนอกมากุมอำนาจได้อย่างไร ฉันยังอยู่ทั้งคนไม่ยอมให้ใครมาแย่งชิงสิ่งที่ควรเป็นของฉันไปหรอกนะ อย่างไรตระกูลจ้าวก็ต้องเป็นของฉันเท

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายตัวประกอบปลายปี 1979   บทที่ 34 ทายาทตัวจริงปรากฎ

    บทที่ 34 ทายาทตัวจริงปรากฎคฤหาสน์ตระกูลจ้าวเวลานี้เต็มไปด้วยผู้ทรงอิทธิพลที่มาร่วมงานกันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคนในเมืองหลวงหรือต่างเมืองต่างก็มาแสดงความยินดีให้กับจ้าวหมิงทุกคนต่างก็เห็นกันว่าตลอดสิบปีที่ผ่านมา เขาได้พาตระกูลจ้าวให้มาอยู่ในจุดนี้โดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วกิจการที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นมานั้นเป็นเพราะลูกชายของเขาต่างหากล่ะ ผู้คนที่มากันอย่างมากมายมีทั้งดีใจด้วยและภาวนาให้คุณชายใหญ่ปรากฏตัวในวันนี้ เพราะนั่นคือทายาทที่แท้จริงของตระกูลจ้าวจะว่าไปแล้วก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่คิดว่าจ้าวหมิงต้องการแย่งตำแหน่งของพี่ชาย จึงได้ส่งคนมาจัดการ แต่ก็นั่นแหละเพราะไม่มีหลักฐานเลยทำอะไรกันไม่ได้ จึงได้แต่ภาวนาให้ทายาทตัวจริงปรากฏ“ดีใจด้วยนะนายท่านรอง ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่านายท่านจ้าว ฮ่า ๆ ๆ ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึงแล้ว” ชายสูงวัยคนหนึ่งหัวเราะขึ้นมา พร้อมกับชูแก้วให้อีกฝ่ายคล้ายกับแสดงความดีใจด้วย“ความจริงแล้วผมก็อยากจะรอหลานชายเพียงคนเดียวนั่นแหละ แต่ไม่ว่าจะส่งคนหาไปเท่าไหร่ก็ไม่มีข่าวคราวเลย ผมเองก็จนปัญญา แต่ตระกูลต้องมีผู้นำ”เขาพูดตอบกลับมาด้วยคำพูดที่แฝงไปด้วยความเศร้าเล็กน้

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายตัวประกอบปลายปี 1979   บทที่ 33 จับโจรได้แล้ว

    บทที่ 33 จับโจรได้แล้วหลายวันต่อมา...ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่เฉินหลงเปียวคาดการณ์ไว้ นั่นเพราะเฉินอี้โจวกลับมาที่หมู่บ้านอีกครั้ง ทันทีที่หัวหน้าหมู่บ้านและหัวหน้าชุยรับรู้ก็เริ่มจับตามองหลานชายบ้านเฉินทันที โดยที่เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ มีเพียงคนสนิทและไว้ใจได้เท่านั้นที่ทั้งสองบอกและให้รับหน้าที่จับตาดูส่วนเฉินเม่ยเม่ยเองก็เริ่มสงสัยว่าทำไมดี๋ยวนี้พี่ชายของเธอถึงได้กลับบ้านบ่อยนัก เลยถามออกมา “นี่กลับมาอีกทำไม ไม่ใช่ถูกโรงงานไล่ออกแล้วเหรอ แล้วมีเงินกลับมาบ้างไหมตอนนี้บ้านของเราไม่เหลือเงินแล้วนะ”พอได้ยินน้องสาวพูดแบบนั้นก็แสร้งทำสีหน้าตกใจ แล้วรีบถามออกมา “เกิดเรื่องอะไรเหรอ อย่าบอกนะว่าบ้านเราโดนหัวขโมยขึ้นบ้านเหมือนคนอื่นในหมู่บ้าน”“ก็ใช่นะสิ ย่านี่ด่าไม่หยุดเลยแถมยังสาปแช่งที่กล้ามาขโมยเงินของย่าไป แล้วที่ถามนี่มีเงินไหมขอเงินหน่อยสิ” หญิงสาวแบมือรอรับเงินจากพี่ชาย เธอตั้งใจจะเข้าเมืองสักหน่อย“ฉันไม่มีหรอก นี่กว่าเงินเดือนของโรงงานจะออกก็อีกตั้งหลายวัน ที่ฉันกลับมาบ้านเพราะที่ผ่านมาไม่เคยหยุดหรือลาเลยอย่างไรล่ะ ทำให้มีวันหยุดเยอะ เธอก็เลิกถามเถอะ ฉันเหนื่อยจะเข้าไปนอนส

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายตัวประกอบปลายปี 1979   บทที่ 32 ผู้ต้องสงสัยหลัก

    บทที่ 32 ผู้ต้องสงสัยหลักสองย่าหลานได้ยินอย่างนั้นก็หันมาสบตากันทันที พยายามนึกว่าเธอลืมลงกลอนประตูและหน้าต่างหรือเปล่า“ไม่นะย่า อย่ามองฉันอย่างนั้น ฉันไม่มีทางลืมใส่กลอนประตูแน่นอน นอกเสียจากว่าพี่ใหญ่กับพ่อจะออกไปไหนตอนกลางคืนแล้วลืมใส่กลอนประตูจนทำให้หัวขโมยมันเข้ามาในบ้านโดยที่เราไม่รู้ตัว” เฉินเม่ยเม่ยรีบปฎิเสธ“ส่วนฉันจะต้องไปแจ้งเจ้าหน้าที่เรื่องนี้ ฉันไม่ยอมสูญเสียเงินไปแน่นอน จะต้องตามจับหัวขโมยชั่วนั่นมาให้ได้” หญิงชราประกาศกร้าว สีหน้าและท่าทางดูแค้นเคืองเจ้าหัวขโมยนั้นเหมือนอยากจะฆ่าให้อีกฝ่ายตายคามือ โดยที่ไม่รู้เลยว่าหัวขโมยชั่วที่ย่าเฉินทั้งด่าทั้งแช่งนั้นคือหลานชายตัวเอง และเป็นหลานชายสุดที่รักอีกต่างหากเมื่อเห็นว่าย่าเฉินฟื้นแล้วและดูเหมือนจะไม่เป็นอะไร ชาวบ้านที่เข้ามาช่วยเลยเข้ามาดูก็ทยอยกันออกมา แต่ก็คิดว่าเรื่องนี้มันแปลกเกินไป บ้านอื่นประตูบ้านและหน้าต่างถูกงัดแงะแต่บ้านเฉินกลับไม่มีร่องรอยอะไรเลย ดูเหมือนจะเป็นการกระทำของคนในบ้านเสียมากกว่า ทว่ากลับไม่มีใครพูดอะไรออกมา เพราะกลัวปากของย่าเฉินเรื่องบ้านใหญ่เฉินตอนนี้กระจายไปทั่วหมู่บ้านแล้วทุกคนรู้ว่าบ้านหลัง

  • ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายตัวประกอบปลายปี 1979   บทที่ 31 บ้านใหญ่ถูกปล้นเหมือนกัน

    บทที่ 31 บ้านใหญ่ถูกปล้นเหมือนกันเมื่อทางหมู่บ้านมีการเดินเวรยามเพื่อหาวิธีจับหัวขโมยที่ขโมยเงินของชาวบ้าน ก็ทำให้โจรตัวจริงอย่างเฉินอี้โจวเริ่มกระวนกระวายใจนั่นก็เพราะว่าเงินที่หามาได้ยังไม่ครบตามจำนวนที่ต้องไปใช้หนี้ให้กับบ่อนการพนัน และยังไม่พอให้เขาต่อยอดได้แก้มือ แต่เมื่อเห็นน้องสาวขอเงินย่า ก็เริ่มมีความคิดที่จะขโมยเงินของบ้านตนเอง“ย่าตอนนี้ของกินของใช้อะไรหมดแล้วนะ ขอเงินไปซื้อหน่อยสิ” เฉินเม่ยเม่ยแบมือขอเงินคนเป็นย่า เพราะตอนนี้ของใช้ในบ้านนั้นหมดแล้ว“จะซื้ออะไรนักหนา ของกินก็หาเก็บในป่าสิ มันก็กินได้เหมือนกันนั่นแหละ ตอนนี้อี้โจวก็กลับมาอยู่บ้านไปช่วยหาสัตว์ป่าสักหน่อยก็ได้ บ้านเราก็ไม่ได้กินเนื้อสัตว์นานแล้วนะ”หญิงชราไม่ค่อยอยากจะควักเงินออกจากกระเป๋า ตั้งแต่บ้านรองแยกบ้านออกไป ก็แทบจะไม่มีรายรับเข้ามาเลย มีแต่รายจ่ายอย่างเดียว หากยังเป็นอย่างนี้ สักวันเงินก็คงจะหมด“ก็หลานชายสุดที่รักของย่าน่ะสิ วัน ๆ เอาแต่นอนไม่รู้ไปทำอะไรมานักหนา ถ้าเกิดย่าอยากกินเนื้อแล้วไม่จ่ายเงินก็ให้หลานชายไปหาเอาก็แล้วกัน แต่ตอนนี้แป้งและข้าวสารหมดแล้ว ถ้าไม่ให้เงินไปซื้อ เย็นนี้จะกินอะไร” หญิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status