ณ อดีตเรือนร้างหลังคฤหาสน์
หลังจากที่แก้วกัลยาลงคลิปทำขนมไทยหลายชนิด ทั้งขนมชั้น ขนมบุหลันดั้นเมฆ ขนมช่อม่วง ประกอบกับภาพลักษณ์งดงามบริสุทธิ์..คนติดตามที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วก็ถึงกลับร้องระงม
'คนสวยขา..มาลงคลิปดึกขนาดนี้ไม่ดีเลยนะคะ หิว'
'เมื่อไรจะมีเปิดขายออนไลน์คะ อยากกินฝีมือน้องแก้วแล้ว'
'น้องแก้วคนสวยมาไลฟ์หน่อยครับ'
'อยากกินขนมไทย +1'
หญิงสาวต่างภพนั่งอ่านคอมเมนต์ออนไลน์อย่างอารมณ์ดี ก่อนจะตั้งกล้องไลฟ์สดตามคำขอ ซึ่งแก้วกัลยาเคยขึ้นไลฟ์เพียงไม่กี่ครั้ง ส่วนหนึ่งเพราะเธอชวนคุยไม่เก่ง
ร่างบอบบางในเสื้อกล้ามสีดำ เดินระเหิดระหงไปยังห้องครัว มือน้อยตั้งเครื่องมือสื่อสารไว้ตรงโต๊ะกลางห้อง ขยับออกห่างจากตัวจนได้ระยะ
ด้านหน้าเองก็มีถั่วเขียวเลาะเปลือกเรียบร้อยแล้ว น้ำตาลทราย..กะทิ..สีผสมอาหารที่ทำมาจากธรรมชาติ รวมถึงอุปกรณ์ทำขนมหลายชิ้น
จนเห็นว่าเรียบร้อยดีแล้ว..จึงเปิดไลฟ์สดผ่านโซเชียล
"สวัสดีค่ะ ทุกคน..แก้วเองนะ" เสียงหวานๆ กับรอยยิ้มหวานๆ ถูกส่งออกไปช่างจับใจ
เสียงแจ้งเตือนในapp มีผลให้จำนวนผู้ติดตามเริ่มทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ข้อความถูกพิมพ์ส่งมาไม่ได้หยุด มีตั้งแต่ชื่นชมเจ้าของช่อง จนไปถึงเพลิดเพลินไปกับการทำขนม..เจ้าของห้องเองก็แทบไม่สนใจตอบใคร ด้วยเพ่งสมาธิง่วนกับการทำลูกชุบ..ใช้เวลาไม่นานแป้งถั่วกวนก็ถูกปั้นเป็นรูปทรง ก่อนจะถูกแต่งแต้มด้วยสีสันเป็นผลไม้ชนิดต่างๆ
เมื่อทำเสร็จใบหน้าหวานจึงส่งยิ้มหวานให้คนดู มือน้อยยกถาดขึ้นมาโชว์..จำนวนผู้ชมในไลฟ์ก็ยังขึ้นไม่หยุด
ชาวเน็ต a :แม่ค้าขนมหวานคนสวย ทำขายออนไลน์เถอะนะ
ชาวเน็ต b : +1
ชาวเน็ต c : แม่ค้าขนมหวานสวย..บอกต่อด้วย
ดวงตาลูกกวางน้อยใสกระจ่างไล่อ่านคอมเมนต์ จึงไม่รู้ตัวว่ามะลิเพื่อนสนิทเดินมายืนซ้อนด้านหลัง
"ทำอะไรอยู่นะแก้ว"
"ทุกคนแก้วไปก่อนนะคะ แล้วคุยกันใหม่"เสียงหวานร่ำลาปิดไลฟ์ ดวงหน้าหวานผินไปคุยกับเพื่อนสนิท
"มีอะไรหรือเปล่า..มะลิ"
"คุณท่านใหญ่เรียกหานะแก้ว"
คุณท่านใหญ่มีเพียงแค่คนเดียว 'ท่านเจ้าสัวสมพงษ์
นิยามในนิยายเจ้าสัวสมพงษ์ขึ้นชื่อลือชา เรื่องความดุ ยุติธรรม และใช้ชีวิตค่อนข้างเก็บตัว..ติดจะสมถะ ซึ่งการใช้ชีวิตช่วงหลังๆ มักจะปล่อยให้ลูกๆ หลานๆ ทำงานแทน ส่วนตนวางตัวเป็นที่ปรึกษา แต่ก็ยังมีบางงานที่ท่านลงมาจัดการเอง..นับว่าเป็นหนึ่งในตัวละครที่งามพิศรู้สึกว่าตรรกะปกติที่สุดแล้ว ถึงแม้เขาจะเป็นหนึ่งในคนที่ทำให้นางร้ายไม่ได้แต่งงานกับพระเอกทันทีก็ตาม
ร่างบอบบางเดินลัดเลาะไปตามทางเชื่อม ระหว่างตัวตึกจะมีสวนในรูปแบบต่างๆ อยู่เป็นระยะ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเจ้าของบ้านชื่นชมการจัดสวนเป็นพิเศษ จวบจนเดินมาถึงเรือนกระจกที่มีบรรดาพันธุ์ไม้เฉพาะ ปนเปกับพันธ์ุที่หายาก
สิ่งแรกเมื่อปรากฏในครรลองสายตา..คือแผ่นหลังของชายรูปร่างสูงใหญ่..บุคลิกสง่างาม เมื่อสัมผัสว่ากำลังมีใครบางคนเดินเข้ามา..ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยการใช้ชีวิตก็ผินมามอง
แก้วกัลยาตัวเกร็งขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อสบกับสายตาคมเข้มที่ไม่ต่างจากหลานชาย..เพียงแต่รัศมีบางอย่างที่ทำให้คนทั้งคู่ต่างกัน วโรดมช่างเหมือนปู่แท้ๆ ราวโขลกกันมา
บรรยากาศกลับมาอึดอัดอีกครั้ง ท่านเจ้าสัวสมพงษ์ผู้นำตระกูลคนปัจจุบันหันไปดูแลตัดเล็มใบไม้ตรงหน้าต่อ
"เธอชื่อแก้วกัลยา ลูกของแม่เกสร?"
"คะ? ค่ะคุณท่าน"เสียงหวานรับคำสุขภาพ ดวงตาใสกระจ่างหลุบลง เจียมตนโดยไม่รู้ตัว
แน่ละ คุณท่านกับภรรยาไม่เพียงแต่ให้เงินเดือนที่เป็นธรรม สวัสดิการเรื่องสุขภาพ มีไปถึงการศึกษาของบุตรธิดาคนรับใช้..ความเมตตาเป็นที่ร่ำลือไปทั่ว
"เธอรู้ไหมต้นไม้บางต้นถึงต้องเล็มกิ่ง..เล็มใบ" คำถามที่แฝงนัย ทำให้หญิงสาวเงียบไปชั่วครู่
สายตาเหลือบมองไปที่มือของท่านเจ้าสัวกำลังขยับตัดแต่งต้นบอนไซต์
"คงเพราะท่านต้องการให้ออกมาสวยสมฐานะใช่ไหมคะ" หล่อนเน้นคำอย่างรู้ทัน มือเหี่ยวย่นตามวัยชะงักเล็กน้อย ก่อนจะอธิบายด้วยน้ำเสียงเย็นชา
"ไม่ใช่แค่นั้น การเล็มใบไม้จะทำให้ใบใหม่ที่ขึ้นมาใหม่มีขนาดใหญ่ และสวยขึ้นกว่าเดิม"
"..."
"คนก็ไม่ต่างจากต้นไม้..ดินดี น้ำดี..สายพันธุ์ดี ถูกตัดแต่งเล็กๆ น้อยๆ ย่อมสวยงามได้ไม่ยาก"
"..."
"กลับกันถ้าสายพันธุ์ไม่ดี..ถึงทุ่มเทเลี้ยงดูไปแค่ไหนก็เป็นได้แค่ต้นไม้ไร้ราคา"
คำส่อเสียดด้อยค่าพาคนต่างภพหน้าซีด..ริมฝีปากสีชมพูธรรมชาติถูกเม้มแน่น
ไม่ด่าเธอไปล่ะ ว่าไม่เหมาะกับอีพระเอกธงแดงหลานรัก!!
ทว่าเธอเลือกอะไรได้ที่ไหน..สิ่งที่ทำได้เพียงแต่เออๆ ออๆ ไปตามเรื่อง
"ค่ะ แก้วก็คิดว่าแบบนั้นเหมือนกัน"
"ฉันบอกเธอตามตรงแล้วกันนะ ภรรยาของฉันปรกติไม่ใช่คนถือยศถืออย่าง ตลอดชีวิตของคุณนาถไม่เคยร้องขออะไรฉันแม้แต่ครั้งเดียว"
"...."
"สิ่งที่คุณนาถมีเพียงต้องการให้ตาวินแต่งงานอยู่กินกับหนูแพท"
กรรไกรถูกวางไว้บนเก้าอี้ไม่ห่าง ก่อนร่างสูงมีสง่าจะทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้พร้อมรินชาร้อนๆ มาจิบ
"สัญญาที่ว่ายังเหลืออีกสองเดือนถึงจะครบสามปี ฉันเชื่อว่ายังไงคนทั้งคู่จะไม่หย่า หรือถ้าหย่า..ตาวินเองก็คงไม่คิดยกย่องลูกหลานคนใช้ให้ขึ้นมาเป็นนายหญิงของบ้าน"
แรง...เธอขอถอนคำพูดที่ว่าตัวละครตัวนี้เป็นคนยุติธรรมทิ้งทันที!!
งามพิศทำได้เพียงแค่เก็บความรู้สึกที่โดนเหยียดหยามไว้ในใจ กำไลนักโทษที่ข้อเท้าเย็นเยียบคล้ายเตือนสติ...เธอไม่ได้อยู่ในสถานะที่ได้เปรียบเลยแม้แต่นิด
"คุณท่านวางใจได้ค่ะ แก้วเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับคุณวินแล้ว..คุณวินก็แค่ผู้ชายที่แก้วเคยรัก"
หรือจะบอกว่าปัจจุบันไม่รักแล้วก็ไม่ผิดนัก
ตลอดวันแก้วกัลยาอยู่ในอารมณ์ค่อนข้างอึดอัดขุ่นมัว ซึ่งเป็นบรรยากาศแบบที่หล่อนไม่ชอบแม้แต่นิด จวบจนช่วงดึกสายฝนเริ่มเทลงมากระทบกับขอบหน้าต่าง..เสียงอันเป็นลักษณะเฉพาะพานให้หญิงสาวนอนไม่หลับ
หล่อนไม่ชอบเสียงฝนเลย ไม่ชอบตั้งแต่สมัยอยู่ร่างเดิมจวบจนถึงร่างปัจจุบัน
ฝนสร้างความกังวลใจบางอย่างที่แม้แต่ตนเองยังตอบไม่ได้
สักพักแสงวาบพาดผ่าน..ตามมาด้วยเสียงฟ้าร้องที่ดูไม่ไกลจากตัวเรือน
เปรี้ยง
"กรี๊ดดดดดด"
เธอกรีดร้องออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เนื้อตัวเริ่มสั่นเทา..ความหวาดกลัวจากใต้จิตสำนึกมีมากกว่าร่างเดิมที่ตนมีเสียอีก
ความรู้สึกกัดกินร้าวลึกเข้าแกนกระดูก..ใจวูบหวิว..หยาดน้ำใสไหลออกจากตา หล่อนรู้ตัวเองดีว่ากำลังมีอาการตื่นตระหนก
"ปัง! ปัง! ปัง! แก้วเปิดประตู!!"
เสียงขู่ตะคอกอันคุ้นหู เรียกคนตัวเล็กให้มีสติขึ้น
หัวคิ้วเรียวได้รูปย่นเข้าหากัน ก่อนที่สมองจะประมวลผล
'เขามาทำไม..เวลานี้'
“แก้ว! ได้ยินฉันไหม!” อีพระเอกธงแดงยังคงไม่จบ ริมฝีปากเล็กเม้มแน่น..ใจยังคงสั่นระรัว
“ถ้าเธอไม่เปิดฉันจะพังเข้าไปแล้วนะ”
“เดี๋ยวก่อนค่ะ..แก้วจะไปเปิดให้เดี๋ยวนี้” แก้วกัลยาตะโกนสวนออกไปทันที นึกกลัวแต่ว่าเมื่อเขาไม่พอใจมากๆ หล่อนจะถูกลงโทษ..ดังที่นางเอกของเรื่อง ‘จำเลยรักภรรยาคืนหย่า’ เคยโดน
เพราะแค่การโดนกักขังหน่วงเหนี่ยวกำจัดเสรีภาพไม่สามารถไปไหนได้ก็ทำให้หล่อนทุกข์จะตายอยู่แล้ว..หล่อนรู้เขาทำได้
ก็ดูขณะที่ในนิยาย..แพทริเซียผู้ซึ่งเกิดในตระกูลใหญ่ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน อีตาพระเอกยังไม่สนเลย
ส่วนตัวเธอที่มีฐานะเป็นแค่ลูกคนใช้ ‘เกรดต่ำ’ จะไม่ยิ่งแย่เหรอ
มีวิธีเดียวคือได้แต่ตามน้ำ..ระหว่างที่คิดร่างบอบบางก็มายืนลังเลอยู่หน้าประตูเรือนสีเหลืองอ่อน ก่อนจะกลั้นใจเปิดออกมา
เผยให้เห็นร่างสูงใหญ่ในชุดนอนผ้าซาตินสีน้ำเงินโผล่ออกมาตรงหน้า ร่มสีเข้มถูกโยนไว้ไม่ไกล
กว่าจะรู้ตัวเจ้าของห้องก็ถูกดันรุนๆ เข้ามาด้านใน..ความอบอุ่นจากลมหายใจใกล้ชิด พาให้ใจที่เคยราบเรียบตลอดอายุสาวเต้นระรัว
“ช้า” เขาดุ
“คุณวินมาที่นี่ทำไม”
“ฉันจะไปที่ไหน ก็เรื่องของฉัน..อีกอย่างที่นี่ก็บ้านฉัน” คนเอาแต่ใจย้ำเหมือนเธอโง่
"บ้านคุณวิน..แต่คุณวินยกเรือนนี้ให้แก้วอยู่ชั่วคราวแล้วนี่ค่ะ เพราะฉะนั้น.."
"เลิกพูดมากได้แล้ว ไม่เห็นหรือไง ตัวฉันชื้นละอองฝนไปทั้งตัวแล้ว"
"...."
"ยืนนิ่งทำไมล่ะ..ไปเอาผ้าเช็ดตัวมา ยัยบื้อ!"คนตัวโตเอะให้ ขณะที่คนตัวเล็กกว่าเม้มปากแน่น ก่อนจะฮึดฮัดเข้าไปหยิบผ้าขนหนูในตู้หน้าห้องน้ำ..ส่งไปให้เขาซับ..ลืมความกลัวเสียงฟ้าฝนไปชั่วขณะ
ผมดำสนิทของอีตาพระเอกโดนฝนกระเซ็นชื้นจนผมหน้าม้าที่ถูกเซตไว้ลู่ลง ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาจึงเด็กลงโดยไม่ตั้งใจ
"ยืนงงอะไร"เสียงห้วนต่ำ พร้อมกับโยนผ้าขนหนูในมือทิ้ง
“นายเป็นใครกันแน่?” ว่าที่พ่อตาส่งคำถามเย็นชาออกไป ตัววโรดมเองไม่อยากโกหกจึงเลือกจะเงียบ พาลให้ชายวัยกลางคนหงุดหงิดใจไม่น้อย“หึ ฉันจะให้นายแต่งงานกับยัยพิศ แต่นายเองต้องเซ็นสัญญาก่อนแต่ง” ไม่อยากให้แต่ง แต่คุณภรรยากับคุณลูกสาวก็ไม่ฟัง..เขาทำอะไรไม่ได้..ทำได้เพียงแต่ปกป้องผลประโยชน์ให้ลูกสาว“ครับ ท่าน”“การแต่งงานครั้งนี้ นายจะได้ไม่ผลประโยชน์อะไรเลย นายจะยินดีแน่นะ?”“ขอ..แค่มีคุณหนูอยู่เคียงข้าง..ผมยินดีครับ” เสียงเข้มตอบสุภาพ ดวงตาดำสนิทเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นจริงจัง“อือ แต่การเป็นลูกเขยฉันไม่ง่ายนะ ฉันอนุญาตให้นายแต่งได้…แต่..หลังจากนี้นายเองก็ต้องรับบททดสอบด้วย”“คุณท่าน…จะให้ผมทำอะไรครับ?”“หลังแต่งเดี๋ยวก็รู้เอง แต่ตอนนี้นายต้องเซ็นสัญญาก่อนแต่งเป็นอันดับแรก” เสียงนุ่มเรียบเรื่อย แต่เนื้อคำเต็มไปด้วยความระแวดระวังเพราะรักลูกสาวตัววโรดมเองก็เข้าใจจึงยอมเซ็นโดยง่าย ลายเซ็นลงน้ำหนักสวยงามสมกับบุคลิกเจ้าตัว ส
ณ คฤหาสน์ตระกูลจิรมณีภายในห้องรับแขกสองสามีภรรยากำลังนั่งหน่าเครียดรอคอยลูกสาวสุดที่รัก จนงามพิศเดินเข้ามาพร้อมกับคนขับรถสุดหล่อจึงมองไปที่ท่านทั้งคู่แปลกใจไม่น้อย ด้วยปกติเวลานี้ท่านทั้งสองมักไม่อยู่บ้านร่างเล็กตัดสินใจวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะ ก่อนจะถลาเข้าไปออดอ้อนทว่ารอบนี้เหมือนหล่อนจะทำเรื่องใหญ่ เพราะบิดาที่เคยยิ้มอยู่ตลอดเวลา วันนี้กลับมีสีหน้าบึ้งตึง“แก้วมีอะไรจะสารภาพกับคุณพ่อ คุณแม่ไหมคะ” คุณแม่ยังสวยตั้งคำถามขึ้นทันที ดวงตาที่ผ่านโลกมาระดับหนึ่งเจือผิดหวังเล็กน้อย นั่นทำให้งามพิศเริ่มกระวนกระวายใจ“คะ…คุณแม่หมายความว่ายังไงคะ?”“ก็วันนี้มาร์ชมาเยี่ยมหาพิศนะสิ ไหนหนูพิศบอกคุณแม่ว่ามีนัดกับพี่เขาค่ะ” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความน้อยใจ ตั้งแต่เล็กจนโตลูกสาวไม่เคยโกหกแม้แต่ครั้งเดียวหล่อนทั้งเสียใจปนไม่สบายใจจนถึงขณะโทรเรียกสามีให้รีบกลับบ้าน“คือ…”“ฮึก..คุณแม่..ผิดอะไร..ทำไม..หนูพิศต้องโกหกคุณแม่ด้วย” ห
เดิมชายหนุ่มเข้าใจว่ามีหน้าที่มาส่งคุณหนูถึงห้างเท่านั้น ทว่าเจ้าหล่อนกับลากเขาไปเป็นคนขนของด้วย...บอกตามตรงเขาไม่อยากไปเจอภาพบาดตาบาดใจ ด้วยรู้ในชาติภพนี้ทั้งเขาและเธอต่างก็มีฐานะสลับกันความรู้สึกเหมือนกรรมตามสนองคงจะเป็นแบบนี้นี่เองเขาพึ่งเข้าใจความรู้สึกต่ำต้อยที่แก้วเคยรู้สึกอย่างเด่นชัดก็ตอนนี้'ตอนที่เขามีสถานะเดียวกันกับที่เธอเคยเป็น'ดวงตาคมกริบจ้องมองไปยังแผ่นหลังบาง มือเล็กไขว้ด้านหลัง พร้อมก้าวเดินนำอย่างคนอารมณ์ดีแม้แต่ท่าเดินเวลาร่าเริงของเธอยังเหมือนเมียเขาอย่างกับแกะ ถ้าไม่ใช่แก้วจะเป็นใครได้ล่ะ?วโรดมลอบทอดถอนหายใจด้วยกำลังมึนงงกับสถานการณ์ ครั้นจะเอื้อมมือหมายเด็ดดอกฟ้าก็ดูราวจะเกินเอื้อม“พี่วิน..ช้าจัง”“เอ่อ..คุณหนูนัดเพื่อนไว้ตรงไหนครับ” เขาถามสุภาพ พร้อมกับก้าวเท้าเร็วขึ้น ในขณะที่เจ้าหล่อนยังยืนรออยู่ที่เดิม ศีรษะเล็กเอียงข้าง พร้อมส่งรอยยิ้มหวานๆ ชวนให้ใจไหววูบขี้อ่อยฉิบหาย“พิศไม่ได้นัดใครเลยค่ะ&rd
ชายวัยใกล้เกษียณไม่รู้จะจัดการยังไงกับปัญหาชายไร้บ้านดี ถ้าเจ้าหนุ่มรับเงินไปเรื่องคงจบแต่นี่พอไอ้หนุ่มจำอะไรไม่ได้อันเกิดจากอุบัติเหตุที่เขาก่อ..การชดใช้จึงมากกว่าการใช้เงินในแก้ปัญหา เขาจึงปรึกษาหมอต่อ‘จากการวินิจฉัยความทรงจำที่หายไปเกิดจากการกระทบกระเทือนที่สมองอย่างรุนแรงครับ’ หมอเจ้าของไข้ตอบ‘อีกนานไหมครับ เจ้าหนุ่มนี่ถึงจะกลับมาจำได้’‘ตอบไม่ได้เลยครับคุณพก บางคนอาทิตย์เดียว บางคนหลายอาทิตย์ บางคนหลายปี บางคนก็...เอ่อ ตลอดชีวิต’ ปลายประโยคแทบจะอ้อมแอ้มตอบพกจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากพาไอ้หนุ่มกลับบ้านมาด้วย“ฉันจะให้นายพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านฉันเป็นการชั่วคราว จนกว่าอาการนายจะดีขึ้น..ตกลงไหม?”“ครับ”ดังนั้นไฮโซหนุ่มผู้โชคร้ายจึงต้องนำชายความจำเสื่อมกลับบ้านไปด้วยณ คฤหาสน์ตระกูลจิรมณีวโรดมลอบสำรวจบริเวณตึกอย่างครุ่นคิด ตั้งแต่ภายนอกอาคารที่พอจะประเมินจากสายตาได้ว่าคือสมบัติตกทอดมาจากต้นตระกูลเก่า..เ
พาร์ทวโรดมบนเตียงนอนโรงพยาบาลเอกชนหัวเมืองใหญ่ชายหลงภพตื่นมาด้วยความงุนงง..ภาพความทรงจำท้ายสุดคือการที่เขาอุ้มอดีตคนรักฝ่ากองเพลิงออกมา ทว่าอีกฟากฝั่งที่คิดว่าเป็นทางรอด..อยู่ๆ รอบด้านก็มืดมิด มีเพียงไฟดวงเล็กๆ ริมถนนเป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียว แทนที่จะเป็นกลุ่มคนที่กำลังดับไฟวโรดมถึงกลับงงงันแม้แต่แก้วกัลยายังหายตัวไปดวงตาคมเริ่มตระหนกหันรีหันขวาง ใจหายวูบ..มือไม้สั่น หรือเขาเป็นคนทำแก้วหาย? หรือแก้วจะติดอยู่ในกองไฟ?แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงเล่า เขาอุ้มเจ้าหล่อนกระชับแนบอก..ไม่มีทางที่จะปล่อยมือได้เลยทว่ากว่าที่จะทันได้เรียบเรียงความคิดเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน แสงไฟที่สาดจากรถหรูสีดำสนิทก็สว่างจ้าจนเขาต้องหรี่ตามองโครมมมมมมมความรุนแรงจากการกระแทกทำให้ร่างสูงกระเด็นขึ้นในทันที!ณ โรงพยาบาลเอกชนประจำจังหวัดหลังจากอุบัติที่เกิดขึ้นโดยไม่ทัน
หลังจากที่งามพิศฟื้นคืนจากสภาพเจ้าหญิงนิทราก็ยังต้องทำกายภาพบำบัดเพื่อให้เดินได้คล่องน่าแปลกระยะเวลาที่อยู่ในอดีตเนิ่นนานเกือบปี ทว่าในอีกโลกหนึ่งเวลากับผ่านผ่านไปเพียงสามเดือนแม่งามเล่าให้ฟังว่า..อยู่ๆ เช้าวันหนึ่งหล่อนไม่ยอมตื่นไม่ว่าจะปลุกยังไงก็ตาม จนท่านต้องพาส่งโรงพยาบาล ซึ่งทางการแพทย์ก็ไม่สามารถหาสาเหตุได้ว่าเกิดจากอะไร แต่เท่าที่ทำได้คือการใส่เครื่องช่วยหายใจ รวมถึงให้อาหารทางสายน้ำเกลือตลอดระยะเวลาแพทย์ชื่อดังทั้งในประเทศ และต่างประเทศต่างก็วิ่งวุ่นกัน ยังดีที่หล่อนฟื้นคืนกลับมาปกติ ไม่อย่างนั้นไม่รู้ท่านทั้งสองจะทุกข์ใจแค่ไหน“เป็นยังไงบ้างหนูพิศ ยังเจ็บตรงไหนไหม?”“โถ่ คุณแม่ พิศไม่ได้เจ็บตรงไหนเลยค่ะ” เสียงหวานออดอ้อน อ้อมกอดของแม่ กลิ่นกายของแม่พอจะให้หล่อนลดความคิดถึงใครบางคนไปได้“แล้วนี่คุณพ่อล่ะคะ?” หล่อนถามเนื่องจากอาทิตย์ที่ผ่านมาบิดาหายหน้าหายตาไปดูงานสาขาต่างจังหวัดที่กำลังเปิดใหม่“ยังยุ่งเรื่องคนเจ็บอยู่เลยจ้ะ”“อ้อ แล้วคนที่โดนชนเ