LOGINเธอเป็นเพียงแม่อุ้มบุญหรือจะสู้แม่ของลูกที่อุ้มรักของเขาได้ ในวันที่เธอท้องใกล้คลอด เขาที่กำลังจะมีลูกอีกคนกับผู้หญิงที่เขารัก! เธอจึงยอมจากลาทั้งหัวใจที่บอบช้ำไม่มีชิ้นดี...
View Moreภายในศาลาวัดยามพลบค่ำ พิธีสวดอภิธรรมศพของคุณย่าพิสมัย อมรฤทธากูล ที่เพิ่งได้ลาลับจากโลกใบนี้ไปเมื่อ 2 วันที่แล้ว สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับทุกคนในครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง หญิงสาวที่กำลังอุ้มท้องจวนใกล้คลอดยืนคอยต้อนรับแขกพร้อมด้วยคุณกฤษณะและคุณมลฤดี ลูกชายและลูกสะใภ้ของคุณย่าพิสมัย หลายครั้งหลายครา “เขมิกา” ต้องหันไปมองด้านในศาลา ที่ถูกประดับประดาด้วยดอกไม้สดล้อมรอบโลงศพที่คนเป็นย่ากำลังนอนหลับพักผ่อนชั่วนิรันดร์ หญิงสาวอดที่จะร้องไห้ออกมาทุกครั้งไม่ได้ สิ้นแล้วที่พึ่งหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ของชีวิต คุณย่าที่เธอเคารพรักเหมือนบุพการีแท้ ๆ
แขกมากหน้าหลายตาต่างทยอยเดินทางมาร่วมพิธีอย่างต่อเนื่อง ทุกคนในครอบครัวรู้ดีว่าต้องมีวันนี้ แต่ไม่มีใครรับได้เลยที่จะต้องเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปตลอดกาลไม่มีวันหวนกลับ “ยายเข็ม ถ้าเหนื่อยก็ไปนั่งพักก่อนไป ยืนนานแบบนี้เดี๋ยวก็ตะคริวกินขาเอาหรอก” คุณกฤษณะพูดกับลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงเป็นใย จนหญิงสาวต้องหันหน้ากลับมามองพร้อมกับส่งยิ้มส่ายหน้าให้ “เข็มไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ เข็มยังพอไหว” “แล้วนี่เจ้าธามมันโทรมาบอกหรือเปล่าว่าจะมีไฟล์ทบินมาถึงกรุงเทพฯ เมื่อไหร่?” “พี่ธามบอกว่าจะถึงวันนี้นะคะ สงสัยเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ที่บ้านเดี๋ยวก็คงมาแล้ว” ไม่ทันที่เขมิกาจะพูดขาดคำ ร่างสูงของธามธารากัปตันหนุ่มสุดหล่อ สามีและพ่อของลูกก็เดินเข้ามาภายในบริเวณศาลา แต่ข้างกายของเขาในตอนนี้กลับมีหญิงสาวหน้าตาดีเดินเคียงคู่มากับเขาด้วย ทำให้ทั้งพ่อและแม่พร้อมด้วยเขมิกาต้องจ้องมองคนทั้งคู่เหมือนมีคำถาม หญิงสาวคนนั้นเกาะแขนของธามธาราเหมือนว่าเธอเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขา โดยไม่ได้แคร์สายตาของผู้คนที่จ้องมองอยู่เลยสักนิด “มาถึงแล้วเหรอตาธาม พ่อนึกว่าแกจะมาไม่ทันงานเผาศพคุณย่าแกแล้ว” “ผมเพิ่งแลกไฟล์ทบินกับนักบินคนอื่นได้น่ะพ่อ คนเยอะเหมือนกันนะครับ” ชายหนุ่มจับจ้องมองไปโดยรอบก่อนจะปรายสายตาหันกลับมาสบตากับเขมิกา หญิงสาวจ้องมองหน้าทำสายตาปริบ ๆ ดวงตาของเธอยังคงเอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำใสที่มาจากความเศร้าโศกและเสียใจให้กับการจากไปของคนเป็นย่า แต่ทว่าในเวลานี้เธอจ้องมองพ่อของลูกยืนอยู่เคียงข้างหญิงสาวอีกคน เธอไม่รู้ควรจะต้องทำหน้าตาแบบไหนหรือทักทายคนทั้งคู่ว่าอย่างไรถึงจะเหมาะสมที่สุด “พ่อครับแม่ครับ นี่มัลลิกาครับเพื่อนสนิทของผม” “สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวรีบยกมือพนมขึ้นไหว้บุพการีของธามธาราอย่างนอบน้อม ทั้งพ่อและแม่ของธามธาราก็รับไหว้ไม่ให้เสียมารยาทเช่นกัน ก่อนที่สองสามีภรรยาจะหันไปมองหน้าซึ่งกันและกันอีกครั้ง “ส่วนคนนั้นเขมิกา คนที่ผมเล่าให้มะลิฟังไงครับ” เขมิกาที่รู้ว่าตัวเองอายุน้อยกว่าคนตรงหน้า เธอรีบยกมือขึ้นไหว้ทำความเคารพก่อนไม่ให้เสียมารยาทเช่นกัน “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ เรียกเข็มก็ได้ค่ะ” หญิงสาวแนะนำตัวเองออกไปพร้อมกับยิ้มหวานส่งให้ด้วยความเป็นมิตร แม้จะมีความรู้สึกมากมายท่วมท้นล้นเต็มอกบอกกับใครไม่ได้เลยก็ตาม “พี่ชื่อมะลิค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักน้องเข็มเช่นกัน” “เดี๋ยวผมพามะลิเข้าไปไหว้ศพคุณย่าก่อน ไว้ค่อยคุยกันนะครับพ่อกับแม่” ธามธาราเชื้อเชิญให้หญิงสาวที่มากับเขาได้เดินเข้าไปภายในศาลาผ่านหน้าของพ่อและแม่รวมถึงเขมิกา เขาไม่แม้แต่จะทักทายเธอเท่าที่ควรจะเป็นเลยสักนิด ไม่มีคำถามไถ่ว่าเธอล่ะสบายดีหรือเปล่า ทั้งที่สถานะของเธอและเขาก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แม้ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจะเกิดจากความต้องการของผู้เป็นย่าก็ตาม แต่ในเวลานี้คนทั้งคู่ก็กำลังจะมีลูกด้วยกันแล้ว เขมิการู้ตัวเองดีว่าความเมินเฉยของธามธาราที่แสดงออก เป็นอาการปกติที่เธอเองมักจะคุ้นชินมาตลอดสิบกว่าปีที่จำความได้ รู้ดีว่าระหว่างเธอและชายหนุ่มแท้จริงแล้วความสัมพันธ์เป็นแบบไหน เป็นเธอที่รู้สึกกับเขามากมายเกินกว่าที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดให้คนอื่นรับรู้ได้ แต่เงื่อนไขที่คนทั้งสองเคยตกลงกันเอาไว้ ทำให้เธอต้องยอมรับชะตากรรมที่มันจะเกิดขึ้นในอนาคต เธอไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าข้าวเจ้าของชีวิตเขา แม้ว่าในเวลานี้จะกำลังอุ้มท้องลูกของเขาอยู่ก็ตาม เลือดเนื้อเชื้อไขของอมรฤทธากูล เป็นหนึ่งในความต้องการของคุณย่าพิสมัยที่ได้ร้องขอเอาไว้ครั้งเมื่อยังมีชีวิตอยู่ “ยายเข็มเราโอเคใช่ไหม?” คุณมลฤดีหันไปถาม หญิงสาวยังคงจับจ้องมองสองหนุ่มสาวที่เดินเข้าไปในศาลาไม่วางตา เขมิกาหันกลับมาเผชิญหน้าพร้อมกับส่งยิ้มให้และพยักหน้ารับเบา ๆ “ตาธามนี่ก็อะไรนะ ทำไมต้องพาคนอื่นมาร่วมงานวันนี้ด้วย” คุณมลฤดีพูดขึ้นอีกครั้ง รู้สึกไม่พอใจลูกชายอยู่มากแต่นางจะไปทำอะไรได้ เพราะชีวิตของธามธารานางไม่ได้เป็นเจ้าข้าวเจ้าของลูก ถึงจะเป็นแม่แต่ชีวิตของลูกก็ยังเป็นสิ่งที่ลูกเลือกทางเดินได้เองอยู่ดี “คนรักของพี่ธามหรือเปล่าคะคุณแม่?” “เมื่อกี้มันแนะนำว่าเพื่อนไม่ใช่เหรอ ก็คงจะเพื่อนมันนั่นแหละ” เพื่อนสนิทที่มีสถานะมากกว่าเพื่อนหรือเปล่า ใช่ว่าเขมิกาจะไม่รู้สึกแต่หญิงสาวกลับต้องแบกความรู้สึกทั้งหมดนี้เอาไว้เพียงลำพัง พยายามสลัดความนึกคิดที่ไร้สาระนี้ออกไปจากหัว ก่อนจะหันกลับไปต้อนรับแขกเหรื่อที่กำลังเดินเข้ามาทักทายคนทั้งสามอยู่หน้าประตูศาลาทางเข้านั้นอีกครั้ง คุณกฤษ ลูกชายคุณมันทำบ้าอะไร อย่าบอกนะว่ามันจะเปิดตัวผู้หญิงคนนั้นอย่างเป็นทางการ แล้วเมียที่กำลังอุ้มท้องลูกของมันอยู่นี่ล่ะ มันจะทำยังไงหะ?” คุณมลฤดีหันกลับไปกระซิบกระซาบกับผู้เป็นสามีอีกครั้ง นางเองก็รู้สึกไม่สบายใจที่เห็นลูกชายมาร่วมงานพร้อมกับผู้หญิงคนอื่นอย่างเช่นวันนี้ที่กำลังเกิดขึ้น “มันไม่ใช่เวลาที่เราจะมาคุยเรื่องนี้กันตอนนี้หรอก รอให้สวดอภิธรรมเสร็จก่อนเดี๋ยวผมจะถามลูกเอง” “ฉันสงสารยายเข็มนี่สิ กำลังท้องใกล้คลอดแล้วยังมีเรื่องให้สะเทือนใจ แถมมีเรื่องให้ต้องคิดมากเข้ามาในชีวิตแบบนี้อีก” “แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ ก็เรื่องที่มันเกิดขึ้นทั้งหมดคุณแม่จัดการเองทั้งสิ้น พอไม่มีคุณแม่แล้วอะไร ๆ มันก็คงจะวุ่นวายน่าดูเลย บอกอยากจะมีเหลน อยากจะอุ้มเหลน แต่ตัวเองดันมาเสียชีวิตด่วนจากลาไปเสียก่อน ไม่ทันจะได้เห็นหน้าเหลน ไม่ทันจะได้ชื่นชมเหลนเลย เฮ้อ...พรุ่งนี้จะเป็นยังไงต่อนะคุณมล?” “จะทำยังไงได้ล่ะคะ ในเมื่อลูกชายคุณมันก็หัวแข็งซะแบบนี้ ลูกในท้องเขมิกาก็เป็นหลานของเรา เราก็คงต้องช่วยกันดูแลแม้พ่อของมันจะไม่อยากดูดำดูดีก็ช่างเถอะ” สองสามีภรรยาหันกลับไปมองเขมิกาที่กำลังยืนยิ้ม ไหว้รับกับแขกเหรื่อที่กำลังทยอยเดินเข้ามาทักทายและร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวอยู่อย่างต่อเนื่อง“กลับบ้านกันเถอะเข็ม” “แต่เข็มยังอยากนั่งดื่มด่ำบรรยากาศอยู่นะคะ ลมกำลังเย็นสบายเชียว” “เอาไว้มาอีกวันหลังเถอะนะ กลับกันนะ นะครับ นะที่รัก” เมื่อเห็นสายตาออดอ้อนของสามี มีเหรอว่าเธอจะกล้าปฏิเสธ ธามธารายืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะจับจูงมือภรรยาให้เดินออกจากร้านเพื่อกลับบ้านด้วยกัน เพียงแค่กลับไปถึงห้องนอนยังไม่ทันจะปิดประตูลงกลอนเลยด้วยซ้ำ คนที่หิวกระหายในตัวภรรยาถึงกับกระโจนเข้าหา ลอกคราบชุดที่เธอสวมใส่ออกให้พ้นทาง ฟอนเฟ้นร่างขาวงามที่หุ่นยังคงดูเซ็กซี่น่าหลงใหล ถ้าไม่บอกว่าลูกสองเขาก็คงจะคิดว่ายังไม่มีลูกเลยด้วยซ้ำ ริมฝีปากที่อยู่ไม่นิ่งจูบซับไปทั่วทั้งร่างชวนให้ขนลุกสยิวไปทั้งตัว ก่อนที่สะโพกหนาจะสอดแทรกร่างกายผ่าน เติมเต็มความสัมพันธ์ทางกายที่ขาดหายมานานหลายเดือน เสียงครวญที่หวานหูเริ่มดังขึ้นตามจังหวะที่คนบนร่างกำลังถาโถมเข้าใส่ เสียงเนื้อที่ตกกระทบเริ่มดังขึ้นถี่ระรัว ยังคงเป็นแบบนั้นอยู่นานนับครึ่งชั่วโมง ก่อนจะได้ยินเสียงคำรามอย่างสุขสมพ่นออกจากปากของสามีสุดที่รัก แรงกระตุกในกายถูกฉีดพ่นออกจนรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งหน้าท้อง ใบหน้าหล่อฟุบลงบนอกนุ่ม เสียงหอบหายใจดังขึ้น ริมฝีปาก
หลายเดือนผ่านไป คุณพ่อมือใหม่ที่เหมือนจะไม่มือใหม่เลย แต่เป็นคุณพ่อที่เลี้ยงเด็กอ่อนได้ดีมากคนหนึ่ง เขมิกาแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากมีหน้าที่ปั๊มนมไว้รอและเอาลูกเข้าเต้าบ้างในบางครั้ง ตอนนี้พวกเขาผ่านครึ่งปีแรกของลูกมาแล้ว เป็นความสุขที่ไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้จริง ๆ 3 เดือนแรกที่เขาว่าเป็น 3 เดือนแห่งความไม่ได้นอน ธามธาราเพิ่งจะรู้ซึ้งเพราะต้องตื่นทุก ๆ 3 ชั่วโมงเพื่อป้อนนมลูก แต่เขายังคงรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้ดีเยี่ยม ทั้งงานที่บริษัทต้องรับผิดชอบและงานพ่อบ้านที่ต้องทำหน้าที่เลี้ยงลูกแบ่งเบาภรรยา แม้จะเหนื่อยแต่ก็ทำให้มีความสุขมากมายเลย เขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แม่ของลูกสุขสบายที่สุด นึกภาพไม่ออกเลยว่าตอนที่ลูกแก้วคลอดออกมา เขมิกาจะลำบากมากมายแค่ไหน ขนาดว่ามีเขาช่วยทุกอย่างยังรู้สึกว่าเธอยังเหนื่อยสบายไม่เพียงพอเลยด้วยซ้ำ หนูน้อยวันใหม่ที่จ้ำม่ำอวบอ้วนเพราะนมแม่ ทำให้ทุกคนในบ้านต้องหมุนเวียนจับเปลี่ยนฟัดร่างอวบด้วยความมันเขี้ยวกันทั้งนั้น ตอนนี้ธามธารากำลังอุ้มลูกสาวเดินวนเวียนรับลมใต้ร่มไม้ใหญ่อยู่รอบสวนหลังบ้าน “จะไม่ยอมวางลูกลงหน่อยเหรอคะพี่ธาม เห็นอุ้มเดินอยู่แบบ
ห้องนอนเด็กเล็กที่เคยถูกจัดเตรียมเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้ได้ใช้สอยอย่างเต็มที่แล้ว เตียงนอนเด็กมีเด็กหญิงวันใหม่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่บนนั้น ตอนนี้อาจจะยังไม่มีอะไรมาป่วนให้วุ่นวายเท่าไหร่นัก เพราะนอกจากกินและนอนก็ยังไม่มีอะไรให้ได้ทำมากกว่านี้ แต่พยาบาลได้บอกแจ้งเอาไว้แล้วว่าอีกไม่เกิน 2 อาทิตย์อาจจะไม่ได้นอนเต็มอิ่มอย่างที่เคยผ่านมา แต่ถึงกระนั้นคุณพ่อมือใหม่ป้ายแดงก็พร้อมรับกับทุกสถานการณ์ ร่างสูงของธามธารายืนโอบกอดช้อนด้านหลังของภรรยาเอาไว้ จับจ้องมองหน้าลูกน้อยลูกสาวคนที่ 2 ที่เกิดมาเป็นโซ่ทองคล้องใจให้กับความรักครั้งใหม่ของชีวิตเธอและเขาที่จะพันผูกกันเอาไว้ตลอดกาล “ในที่สุดวันนี้ครอบครัวของเราก็มีสมาชิกมาเพิ่มอีก 1 คน ทำให้ทุกคนในบ้านต่างมีความสุขกันมากยิ่งขึ้น เข็มว่าเมื่อไหร่เราพร้อมจะมีคนที่ 3 อีกนะ?” เขมิกาหันหน้ากลับมองช้อนสายตาขึ้นจ้องหน้าของสามีในทันที “ลูกเพิ่งคลอดได้ 3 วันเองนะคะ คิดไปถึงคนที่ 3 แล้ว พี่ธามลองเลี้ยงเองก่อนเถอะ เลี้ยงเด็กเล็กมันไม่ได้ง่ายนะคะ ไม่เหมือนกับตอนที่พี่มาเจอกับลูกแก้วแล้วหรอกนะ” “พี่รู้ดีหรอกน่า! แต่เข็มไม่ต้องเป็นห่วงพี่บอกแล้วว่าพี
ภายในห้องคลอดของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง วันนี้ธามธาราได้มีโอกาสมานั่งจับมือภรรยาให้กำลังใจเธอ เพราะในอีกไม่นานลูกสาวคนที่ 2 ก็จะเกิดมาลืมตาดูโลกอีกคนแล้ว เป็นความรู้สึกที่เขาหายใจแทบไม่ออก เจ็บปวดแทนเธอที่ต้องนอนร้องโอดโอย เขารู้ซึ้งแล้วว่าการที่จะเป็นแม่คนต้องเสียสละแทบทั้งชีวิตเพื่อให้ลูกได้มีโอกาสได้เกิดมาก เขาทำได้เพียงคอยจูบซับใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้าขาวนวล ไม่อาจจะรับรู้ถึงความเจ็บปวดนี้ได้ แต่เขารู้แค่ว่าหลังจากวันนี้และตลอดไปเขาจะรักเธอให้ได้มากเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักได้ จะไม่มีวันทำให้เธอต้องเสียใจหรือร้องไห้เพราะเขาอีกไปทั้งชีวิตที่เหลืออยู่นับจากนี้ เพียงไม่กี่นาทีต่อมาเสียงเด็กหญิงแรกคลอดก็ดังจ้าละหวั่นขึ้น ทำเอาทั้งพ่อและแม่ถึงกับร้องไห้อย่างอดไม่ไหวเลย “เข็มเก่งมาก เก่งที่สุดเลยที่รัก ขอบคุณมากนะ ขอบคุณจริง ๆ” ฝ่ามือเรียวยกขึ้นลูบไล้ใบหน้าที่กำลังเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา นึกขอบคุณเขาเช่นกันที่วันนี้เธอไม่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนวันนั้นที่เคยคลอดลูกแก้วมา “ร้องไห้แข่งลูกแล้วพี่ธาม ไม่ไปดูหน้าลูกสาวหน่อยล่ะคะ สวยเหมือนพี่สาวคนโตหรือเปล่า” ใบห
หลายเดือนพัดผ่านไป อีกไม่ถึงสัปดาห์ก็จะถึงกำหนดคลอดลูกสาวคนที่สองแล้ว หน้าท้องที่ดูใหญ่กว่าท้องแรก ทำให้คุณแม่เริ่มเดินเหินลำบากขึ้น อาการปวดสะโพกที่ร้าวลงขาก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ทำให้สามีที่น่ารักต้องช่วยอุ้มภรรยาท้องแก่จวนใกล้คลอดอยู่หลายครั้ง ในเวลานี้ธามธารากำลังยืนยิ้มกอดอกจ้องมองสองแม่ลูกที่กำลังพูดคุยกันอยู่บนเตียงก่อนเข้านอน พี่สาวที่ดูเห่อน้องในท้องก็ชอบเอาหน้าเอาหูไปแนบท้องสัมผัสกับท้องโต ๆ ของแม่ในทุกวันก่อนนอน เสียงหัวเราะเวลาน้องขยับตอบรับก็มีให้ได้ยินอยู่เป็นประจำแบบนี้ เวลามองหน้าหนูน้อยลูกแก้วและสภาพภรรยาท้องแก่ของตัวเอง ยิ่งมองเขาก็ต้องรีบปาดน้ำตาออกทุกครั้ง หลายอย่างยังคงเป็นเหมือนตราบาปในชีวิต ยิ่งเห็นความยากลำบากของภรรยาที่กว่าจะอุ้มท้องใกล้คลอดได้ ยิ่งทำให้ย้ำเตือนกับตัวเองว่าควรจะดูแลเอาใจใส่ให้กำลังแม่ของลูกมาก ๆ เธอผู้เสียสละอุทิศทั้งร่างกาย เพื่อให้เด็กคนหนึ่งได้เกิดมาไม่ง่ายเลยสักนิด วันนั้นเขากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แต่ทุก ๆ วันที่ผ่านมาเขาพยายามจะชดเชยให้กับทุกความผิดพลาดที่เขาเคยปล่อยปะละเลยเธอในอดีต แค่ได้เห็นแม่ของลูกยิ้มอย่างมีความสุข แบ่งเบาได้กับเ
“วันเวลาผ่านไปเร็วจังเลยเนอะ จะครบรอบหนึ่งปีที่เราจดทะเบียนสมรสด้วยกันแล้ว เข็มอยากได้อะไรเป็นของขวัญ?” “ไม่อยากได้อะไรแล้วค่ะ เพราะของขวัญที่มีค่ากับชีวิตเข็มก็คือพี่ธามและลูกอยู่พร้อมหน้าแบบนี้ในทุก ๆ วัน” หญิงสาวเดินเคียงข้างพร้อมกับซบใบหน้าออดอ้อนที่ท่อนแขนแข็งแกร่งอย่างรู้สึกขอบคุณ “เมียพี่นี่มักน้อยไปเสียทุกอย่าง ถ้าพี่ไม่ซื้ออะไรให้ไม่เห็นเข็มจะขออะไรจากพี่เลย” ฝ่ามือยกขึ้นลูบแก้มนุ่มสัมผัสไปมาเบา ๆ อีกครั้ง เดินเคียงข้างกันไป ได้พูดคุยกันทุกวันก็เป็นความสุขของชีวิตอย่างที่เขมิกาบอกจริง ๆ “ก็มีหมดแล้วนี่คะ จะอยากได้อะไรอีกล่ะ ขอแค่คุณสามีรักและดูแลอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตแค่นี้เข็มก็ใจดีที่สุดแล้ว” “อันนั้นมันก็แน่นอนอยู่แล้วครับ พี่จองจำเข็มไว้กับพี่ตลอดไปแล้วนะอย่าลืมสิ เข็มต้องดูแลชีวิตพี่กับลูกไปตลอดด้วย” “ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วนี่คะ รักจะตายอยู่แล้วพ่อของลูกที่ใจร้ายคนนี้” หญิงสาวแกล้งพูด แต่ฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินจำต้องหยุดชะงัก ก่อนจะหันหน้ามาเผชิญสบตากับภรรยาสุดที่รักอีกรอบ ดึงเอวบอบบางที่หน้าท้องกำลังนูนจนเห็นได้ชัดเข้ามาแนบชิด “แต่ตอนนี้ก็รัก






Comments