Share

บทที่ 5 พื้นที่มหัศจรรย์

ในห้องทางทิศตะวันออก ซูหวั่นนอนพิงอยู่บนเตียงอิฐไฟ โดยภายใต้ผ้าห่มสีเทายังมีฟางแห้งรองเอาไว้อีกหนึ่งชั้น

โดยที่นางหลี่ได้นั่งอยู่บนขอบเตียงพร้อมกับดึงผ้ามาห่มให้กับนางด้วยความห่วงใย ซึ่งนางก็ยังจำได้ว่าก่อนหน้านี้ซูหวั่นได้บ่นบอกว่าหิว“อาหวั่น แม่จะไปทำกับข้าวนะ ประเดี๋ยวจะเอาโจ๊กมาให้เจ้า”

ซูหวั่นเงียบไปสักพัก

เพิ่งจะทะเลาะกับแม่เฒ่าเซี่ยงมาหยกๆ และครอบครัวนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานด้วย แล้วจะมีข้าวเย็นกินได้อย่างไรกัน

หากนางหลี่ไปในห้องครัวคาดว่าจะต้องถูกรังแกทุบตีและต่อว่าเป็นแน่ แต่หากไม่ยอมให้นางหลี่ไป ด้วยนิสัยที่ซื่อๆของนางหลี่นั้น นางก็คงจะไม่ยอมอย่างแน่นอน

“ท่านแม่ ระวังตัวด้วยนะคะ”

ขอบตาของนางหลี่บวมแดง นางรีบพยักหน้าหงึกหงักแล้วตอบรับกลับไปว่า“อืม แม่รู้แล้วล่ะ”

หลังจากที่นางหลี่ออกไปแล้ว ซูหวั่นก็ผล็อยหลับไปอีกครั้ง

และดูเหมือนว่านางจะเข้าไปสู่พื้นที่แห่งภาพลวงตาแห่งหนึ่งเสียแล้ว

โดยที่ด้านในเต็มไปด้วยสวนผลไม้และพืชสมุนไพร ซูหวั่นรู้สึกปลื้มปีติเป็นอย่างมาก โดยที่ยังคงมีความไม่เชื่ออยู่เล็กน้อย นี่มันเป็นสถานที่ที่นางเคยทำงานวิจัยผลิตภัณฑ์ไม่ใช่เหรอ

และมันก็ตามนางมาเช่นกันอย่างนั้นเหรอ!

นางจึงเดินค้นหาไปรอบๆ และค้นเจอยาแก้อักเสบ จากนั้นก็ไปยังสวนผลไม้เพื่อเก็บมากินอีกสองสามผล

โดยที่ในตอนนี้พื้นที่ยังไม่ใหญ่มาก แต่ว่ามันสามารถขยายใหญ่ออกไปได้อีก

นอกจากบ้านและสวนผลไม้แล้ว ยังมีแม่น้ำอยู่อีกหนึ่งสาย เพียงแต่ว่าในแม่น้ำนั้นยังไม่มีกุ้งหอยปูปลา และพื้นที่แห่งนี้ก็เงียบสงบมาก

หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้ว นางก็พอจะมีเรี่ยวแรงขึ้นมาบ้าง ดังนั้นนางจึงลงไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย และรู้สึกสบายไปทั้งตัว

หลังจากที่ร่างกายเกือบจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่แล้ว

นางถึงได้เดินออกจากพื้นที่แห่งนี้ไป

นางผลักเปิดประตูออกไป จากนั้นก็เรียกซูลิ่วหลางที่กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ข้างนอกให้เข้ามา ยื่นลูกท้อให้เขาแล้วพูดว่า“พี่เก็บลูกท้อลูกนี้มาจากภูเขา เจ้าเอามันไปกินในห้องเถอะ แล้วอย่าบอกให้ใครรู้นะ”

“ท่านพี่?”

ซูลิ่วหลางรู้สึกมึนงงขึ้นมาเล็กน้อย และถือลูกท้อเอาไว้ในมือโดยไม่ได้กินแต่อย่างใด“แล้วมีให้ท่านแม่หรือเปล่าครับ?”

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พี่เก็บเอาไว้ให้ท่านแม่แล้ว”ซูหวั่นรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมาก เพราะทั้งๆที่ซูลิ่วหลางอยากจะกินเสียมากๆ แต่เขาก็ยังคิดถึงนางหลี่อยู่เสมอ

และเมื่อได้ยินเช่นนั้น ซูลิ่วหลางถึงได้เริ่มกินอย่างสงบเสงี่ยม

จากนั้นซูหวั่นก็เดินออกจากห้องเพื่อไปยังห้องครัว

และก่อนที่จะได้เดินเข้าไป นางก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นมาจากด้านใน ซึ่งมันก็เป็นแม่เฒ่าเซี่ยงที่กำลังแผดเสียงอยู่นั่นเอง“จะกินอะไรกันนักหนา คนอื่นไม่ต้องกินกันแล้วใช่มั้ย!”

และนางหลี่ก็พูดอย่างเศร้าสร้อยขึ้นมาว่า“ท่านแม่ ข้าไม่กินก็ได้ แต่อาหวั่นและลิ่วหลางต้องกินนะ พวกเขาไม่ได้กินอะไรมาทั้งวันแล้ว ข้าทนเห็นพวกเขาอดอยากไม่ได้อีกแล้ว”

“คนในบ้านสกุลซูออกจะมากมายขนาดนี้ มีแต่พวกเขาที่ต้องกินงั้นเหรอ?ในถังไม่มีข้าวสารแล้ว อยากกินก็คิดหาวิธีเอาเองก็แล้วกัน!”

“ท่านแม่ พวกเรายังไม่ได้แยกครอบครัวกัน เงินและอาหารก็อยู่ที่ท่านแม่ทั้งหมดนะคะ”

และจู่ๆแม่เฒ่าเซี่ยงก็ได้แผดเสียงขึ้นมาว่า“อุ๊ย นี่เจ้าอยากจะได้เงินหรืออยากจะแยกครอบครัวออกไปกันแน่ เงินน่ะไม่มีหรอก แต่ถ้าอยากจะแยกครอบครัวก็รอให้พ่อของเจ้าและเหลียนเฉิงกลับมาก่อนค่อยว่ากัน!”

นางหลี่ร้องไห้พร้อมกับส่ายหน้าไปมา“ท่านแม่ ข้าไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อย”

“ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นแล้วหมายความว่าแบบไหนกันล่ะ!”แม่เฒ่าเซี่ยงชำเลืองตามอง ดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง

“ข้าว่าเจ้าคงคิดจ้องที่จะเอาเงินอัดเล็กน้อยของข้าพวกนั้นใช่ไหมล่ะ เห็นเงินแล้วตาคงโตสินะ!ถ้าชอบเงินขนาดนั้นทำไมไม่ยอมตกลงให้ซูหวั่นตบแต่งออกไปล่ะ เงินสินสอดห้าตำลึงนั่นข้ายังแบ่งให้เจ้าได้นะ!”

นางหลี่เคารพแม่เฒ่าเซี่ยงในฐานะของแม่สามี อีกทั้งนางยังเงอะงะและร้อนใจเกินกว่าจะพูดออกไปอีกด้วย

จากนั้นซูหวั่นก็ดึงตัวนางหลี่มาไว้ที่ด้านหลัง

โดยที่นางยึดตัวเล็กๆของตัวเอง ถลึงตาใส่แม่เฒ่าเซี่ยงแล้วพูดว่า“ท่านย่า พวกเรายังไม่ได้แยกครอบครัว ทำไมไม่แบ่งอาหารให้พวกเราบ้าง มีแค่พวกบ้านใหญ่ที่มีกิน แต่พวกเรากลับอดอยาก นี่มันตรรกะอะไรกัน!”

พวกนางไม่ต้องการอะไรมากมาย แค่อิ่มท้องก็เพียงพอแล้ว

ทั้งๆที่มีโจ๊กและซาลาเปาหม้อใหญ่อยู่บนเตา แต่แม่เฒ่าเซี่ยงแค่ไม่อยากจะให้พวกนางก็เท่านั้นเอง

และแม่เฒ่าเซี่ยงก็ตะคอกเสียงสูงขึ้นมาอีกว่า“ข้าเป็นใหญ่ที่สุดในบ้าน ถ้าข้าไม่อนุญาตใครหน้าไหนก็กินไม่ได้!”

จากนั้นดวงตาของซูหวั่นก็ได้ฉายประกายความเย้ยหยันออกมา“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง หากท่านย่าพูดแบบนี้ตั้งแต่ตอนแรกก็หมดเรื่อง ข้าจะได้ไปบอกกับท่านลุงหลี่เจิ้งว่าท่านย่ากลั่นแกล้งลูกหลานและสะใภ้ขนาดไหน......”

ขณะที่พูด นางก็ทำท่าจะเดินออกไป

“หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะ!”แม่เฒ่าเซี่ยงชักสีหน้า จากนั้นก็หยิบชามมาตักโจ๊กและวางซาลาเปาสองก้อนไว้ในจาน“เอาไปสิ ช่างหน้าไม่อายเสียจริง ไปตายอดตายอยากมาจากไหน!”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status