Share

ตำหนัก

last update Last Updated: 2025-05-20 15:02:22

ช่วงเย็น ณ ตำหนักของคุณหนูซ่ง

พระเอกได้รับคำเชิญจาก คุณหนูซ่ง ให้มาร่วมมื้ออาหาร นางอ้างว่ามีเรื่องสำคัญจะปรึกษาเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง และเพื่อเป็นการแสดงน้ำใจ นางจึงจัดเตรียมอาหารชั้นเลิศพร้อมสุราหอมกรุ่นไว้ต้อนรับ

ทว่า...ในดวงตาของคุณหนูซ่งกลับแฝงความเจ้าเล่ห์ที่ยากจะสังเกตเห็น นางแอบสั่งให้บ่าวลับของตนใส่ ยาปลุกอารมณ์ ลงในสุราของพระเอกโดยไม่ให้ใครล่วงรู้

"หากคืนนี้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ข้ากับท่านอ๋องจะมีสัมพันธ์กัน และเมื่อนั้นเขาจะต้องรับข้าเป็นภรรยา!"

คุณหนูซ่งแอบยิ้มพึงพอใจ นางวางแผนทุกอย่างไว้อย่างรอบคอบ แม้แต่บ่าวไพร่ในตำหนักของนางก็ถูกกำชับให้ไม่มีใครเข้ามายุ่งเกี่ยวในค่ำคืนนี้

เมื่อพระเอกมาถึง นางรีบออกมาต้อนรับด้วยท่าทีอ่อนหวาน

"ท่านอ๋องเชิญด้านในเพคะ อาหารมื้อนี้บ่าวตั้งใจทำขึ้นเพื่อท่านโดยเฉพาะ"

พระเอกไม่ได้ระแวงสิ่งใด เพียงมองนางอย่างเย็นชาแล้วพยักหน้าเล็กน้อย นั่งลงที่โต๊ะอาหาร นางรินสุราให้พระเอกด้วยมือตัวเอง ก่อนจะคอยเฝ้ามองด้วยสายตาเฝ้ารอ

ไม่นานนัก ยาก็เริ่มออกฤทธิ์

พระเอกเริ่มรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วร่าง ดวงตาพร่าเลือน ความคิดเริ่มสับสน ร่างกายเหมือนถูกโซ่ตรวนที
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ทะลุมิติสวมรอยเป็นแม่เลี้ยง   ตำหนัก

    ช่วงเย็น ณ ตำหนักของคุณหนูซ่งพระเอกได้รับคำเชิญจาก คุณหนูซ่ง ให้มาร่วมมื้ออาหาร นางอ้างว่ามีเรื่องสำคัญจะปรึกษาเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง และเพื่อเป็นการแสดงน้ำใจ นางจึงจัดเตรียมอาหารชั้นเลิศพร้อมสุราหอมกรุ่นไว้ต้อนรับทว่า...ในดวงตาของคุณหนูซ่งกลับแฝงความเจ้าเล่ห์ที่ยากจะสังเกตเห็น นางแอบสั่งให้บ่าวลับของตนใส่ ยาปลุกอารมณ์ ลงในสุราของพระเอกโดยไม่ให้ใครล่วงรู้"หากคืนนี้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ข้ากับท่านอ๋องจะมีสัมพันธ์กัน และเมื่อนั้นเขาจะต้องรับข้าเป็นภรรยา!"คุณหนูซ่งแอบยิ้มพึงพอใจ นางวางแผนทุกอย่างไว้อย่างรอบคอบ แม้แต่บ่าวไพร่ในตำหนักของนางก็ถูกกำชับให้ไม่มีใครเข้ามายุ่งเกี่ยวในค่ำคืนนี้เมื่อพระเอกมาถึง นางรีบออกมาต้อนรับด้วยท่าทีอ่อนหวาน"ท่านอ๋องเชิญด้านในเพคะ อาหารมื้อนี้บ่าวตั้งใจทำขึ้นเพื่อท่านโดยเฉพาะ"พระเอกไม่ได้ระแวงสิ่งใด เพียงมองนางอย่างเย็นชาแล้วพยักหน้าเล็กน้อย นั่งลงที่โต๊ะอาหาร นางรินสุราให้พระเอกด้วยมือตัวเอง ก่อนจะคอยเฝ้ามองด้วยสายตาเฝ้ารอไม่นานนัก ยาก็เริ่มออกฤทธิ์พระเอกเริ่มรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั่วร่าง ดวงตาพร่าเลือน ความคิดเริ่มสับสน ร่างกายเหมือนถูกโซ่ตรวนที

  • ทะลุมิติสวมรอยเป็นแม่เลี้ยง   ถูกปาก

    เมื่ออาหารทุกจานถูกจัดวางลงบนโต๊ะ กลิ่นหอมของเครื่องปรุงและรสชาติที่แปลกใหม่ลอยคลุ้งไปทั่วห้อง เหล่ากำนัลที่ยืนรออยู่ข้าง ๆ ต่างพากันมองอาหารที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนด้วยความสงสัย ขณะเดียวกัน พระเอกก็มองอาหารตรงหน้าด้วยสายตาครุ่นคิด"นี่คือสิ่งใดกัน?" พระเอกเอ่ยถามขณะมองสำรับอาหารที่ไม่คุ้นตา สีสันของอาหารดูแปลกใหม่ กลิ่นก็หอมแตกต่างไปจากอาหารที่เคยลิ้มลอง"เป็นอาหารที่ข้าคิดค้นขึ้นมาเจ้าค่ะ" นางเอกตอบด้วยรอยยิ้ม "ท่านอ๋องลองชิมดูก่อนเถิด"พระเอกหยิบตะเกียบขึ้นมาอย่างลังเล ก่อนจะคีบอาหารคำหนึ่งเข้าปาก เมื่อรสชาติสัมผัสปลายลิ้น ดวงตาคมกริบก็เบิกขึ้นเล็กน้อย"รสชาติแปลกใหม่...แต่กลับอร่อยมาก" พระเอกพึมพำเบา ๆเหล่ากำนัลที่ยืนอยู่รอบ ๆ ได้ยินดังนั้นก็ยิ่งรู้สึกอยากลองชิมด้วย นางเอกเห็นเช่นนั้นจึงยิ้มบาง ๆ"ข้าทำไว้เยอะเจ้าค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ ช่วยกันลองชิมเถิด"ทันทีที่ได้รับอนุญาต เหล่ากำนัล นางกำนัล และทหารที่เฝ้าตำหนักต่างก็เข้ามาตักอาหารลองชิมกันด้วยความอยากรู้อยากเห็น พอได้ลองลิ้มรส ทุกคนต่างพากันอุทานด้วยความประหลาดใจ"อร่อยเหลือเกินเจ้าค่ะ/ขอรับ!""ข้าไม่เคยกินอะไรเช่นนี้มาก่อนเลย!""คุณ

  • ทะลุมิติสวมรอยเป็นแม่เลี้ยง   บ่น

    กว่าจะได้อาหารดีๆ สภาพร่างกายท่านอ๋องก็เพลี่ยงพล้ำไปด้วยแป้งทำอาหาร หนำซ้ำท่านอ๋องยังโดนควันไฟเปื้อนเต็มหน้าเช้ามืดในตำหนักของลู่เหรินเจ๋อ เริ่มต้นด้วยความเงียบสงบ สายลมโชยผ่านมาทำให้ทุกอย่างดูเรียบง่าย แต่นั่นกลับไม่ใช่บรรยากาศภายในครัวที่กำลังวุ่นวายอยู่ตอนนี้ พระเอกของเรากำลังพยายามอย่างหนักในการทำอาหารให้ภรรยาของเขาได้ชิมอาหารฝีมือของเขาเอง ความพยายามครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ง่ายนักพระเอกยืนอยู่ข้างกระทะพร้อมมือที่เต็มไปด้วยแป้งและน้ำมันที่กระเด็นไปทั่วร่าง เขาพยายามแหงนหน้าไปข้างหน้าเพื่อสั่งสมความสงบ ก่อนจะหยิบวัตถุดิบในมือเพื่อทำอาหารให้เสร็จสมบูรณ์ แต่เมื่อเขาหยิบขวดเกลือที่ตั้งอยู่ข้างๆ ขวดที่อยู่ในมือกลับพลิกคว่ำและเทแป้งลงไปบนพื้นในครัวจนเต็มตัว"โอ๊ย..." พระเอกบ่นกับตัวเองด้วยเสียงที่ฟังดูเหนื่อยหน่ายและหงุดหงิด ความพยายามที่ดูจะเป็นธรรมชาติกลับถูกขัดขวางไปหมด เขาถูกแป้งขาวๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศปกคลุมไปทั้งตัวในขณะเดียวกัน เสียงของคนรับใช้ที่ยืนดูอยู่ในมุมหนึ่งของครัวก็แอบขำเบาๆ หญิงสาวยิ้มขำเพราะคงไม่เคยเห็นท่านอ๋องที่เคยทำอะไรได้คล่องแคล่วในทุกๆ ด้าน ถึงกับพลาดพลั้งในสิ่งที่

  • ทะลุมิติสวมรอยเป็นแม่เลี้ยง   เจ้าคิดจะทำสิ่งใด

    หลี่เหมยหยุนนั่งคิดถึงอาหารแสนอร่อยในยุคที่นางจากมา ไม่ว่าจะเป็นหม้อไฟรสจัดจ้าน เป็ดย่างหนังกรอบ หรือแม้แต่ขนมหวานที่ทำให้นางน้ำลายสอเพียงแค่จินตนาการ"หากได้กินคงดีไม่น้อย…" นางพึมพำเบา ๆทันใดนั้น นางลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยดวงตาเป็นประกาย นางตัดสินใจว่าจะเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหารเอง!แต่ก่อนที่นางจะก้าวออกจากห้อง ลู่เหรินเจ๋อกลับขวางทางไว้ ดวงตาของเขามองนางด้วยความสงสัย"เจ้าคิดจะทำสิ่งใด?" เขาถามเสียงเรียบ"ข้าคิดจะทำอาหาร" หลี่เหมยหยุนยืดตัวขึ้น "ข้ารู้สึกอยากกินอาหารที่ข้าทำเอง""มิได้!" ลู่เหรินเจ๋อตอบทันควัน สีหน้าของเขาดูจริงจัง"เหตุใดกัน? ข้าทำอาหารเองได้ ไม่ต้องกังวลหรอก""เจ้าเพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นาน ยังมีอาการอ่อนเพลีย หากเข้าไปในครัวแล้วเป็นลมไปข้าจะทำเช่นไร?""ข้าจะไม่เป็นลมหรอก!" นางเถียงเสียงแผ่ว ดวงตาฉายแววไม่พอใจลู่เหรินเจ๋อมองดูใบหน้างอน ๆ ของภรรยา พลันถอนหายใจยาวก่อนจะยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย "เช่นนั้น ข้าจะยอมให้เจ้าเข้าครัว แต่มีข้อแม้"หลี่เหมยหยุนรีบเงยหน้าขึ้นทันที "ว่ามา""ข้าจะเป็นผู้เตรียมวัตถุดิบให้เจ้า ขอเพียงเจ้าบอกว่าต้องการสิ่งใด ข้าจะให้บ่าวไปนำมาให้ทั้งหมด"

  • ทะลุมิติสวมรอยเป็นแม่เลี้ยง   นอนกอดภรรยา

    เผลอนอนกอดภรรยาค่ำคืนในจวนเงียบสงัด สายลมพัดผ่านม่านบางไหวเบา ๆ ดวงจันทร์ส่องแสงลอดผ่านหน้าต่างลงมายังร่างของชายหนุ่มผู้หนึ่งที่นั่งเฝ้าอิงหลับอยู่ข้างเตียงลู่เหรินเจ๋อมิอาจข่มตาหลับได้ หลังจากที่นางฟื้นตัวขึ้นมา เขากลับรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด แต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ จึงนั่งเฝ้านางอยู่เช่นนั้นแต่เมื่อความเหนื่อยล้าถาโถมเข้าใส่ เปลือกตาหนักอึ้งของเขาก็ปิดลงโดยไม่รู้ตัวร่างสูงที่เอนพิงขอบเตียงขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะพลิกตัวลงมานอนเคียงข้างนางเอกโดยไม่รู้ตัว วงแขนแกร่งโอบกอดร่างบอบบางไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้จากเรือนผมของนางลอยมาปะทะจมูก เขายิ่งซุกหน้าเข้าหากลิ่นหอมหวานนั้นมากขึ้นอุ่นดีจริง ๆ…ในห้วงนิทรา ลู่เหรินเจ๋อเผลอยิ้มออกมาเบา ๆ โดยที่มิรู้เลยว่า การกระทำของตนในยามนี้ จะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายในเช้าวันรุ่งขึ้น…ตื่นเช้ามาภรรยาตกใจจึงถีบพระเอกตกเตียงรุ่งเช้าตรู่ แสงแดดยามอ่อนโยนลอดผ่านม่านเข้ามา ทาบทับลงบนร่างของสตรีนางหนึ่งที่เริ่มขยับตัวหลี่เหมยหยุยค่อย ๆ ลืมตาขึ้น พลางขยับตัวเล็กน้อย แต่สัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่หนักอึ้งพาดทับอยู่บนร่างของตนวงแขนแกร่ง… กลิ่

  • ทะลุมิติสวมรอยเป็นแม่เลี้ยง   สะใภ้ที่ดี

    ลู่เหรินเจ๋ออุ้มหรงเยว่กลับไปยังตำหนักด้วยท่าทีเคร่งขรึม ร่างของนางซบอยู่ในอ้อมแขนของเขา ลมหายใจของนางแผ่วเบา แสดงถึงความอ่อนล้าอย่างถึงที่สุดขณะที่เขาก้าวพ้นประตูตำหนัก เด็กฝาแฝดทั้งสองก็รีบวิ่งเข้ามาหาทันที ดวงตากลมโตของพวกเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง"ท่านพ่อ! ท่านแม่เลี้ยงเป็นอย่างไรบ้าง?" ลู่เหวินหยางเอ่ยถามเสียงสั่น ขณะที่ลู่เหวินเจ๋อพยุงแขนเสื้อของพระบิดาด้วยสีหน้ากังวล"นางเพียงแค่หมดแรงเท่านั้น ไม่ต้องกังวล" ลู่เหรินเจ๋อกล่าวเสียงเรียบ แต่ในใจยังรู้สึกไม่สงบเด็ก ๆ มองดูมารดาเลี้ยงของตนอย่างห่วงใย แม้ว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะยังไม่ค่อยเปิดใจให้นางมากนัก แต่วันนี้… พวกเขาเห็นกับตาว่าหรงเยว่ปกป้องพวกเขาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยลู่เหวินเจ๋อกับลู่เหวินหยางสบตากัน ก่อนที่แฝดคนโตจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง"ท่านพ่อ… ท่านต้องดูแลแม่เลี้ยงดี ๆ นะ!"ลู่เหรินเจ๋อชะงักไปเล็กน้อย ไม่คิดว่าเด็กน้อยจะกล่าวเช่นนี้กับเขา เขามองใบหน้าของพวกเขาที่ยังเปื้อนร่องรอยน้ำตาแต่กลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น"ใช่! นางเป็นคนดี นางช่วยพวกเราไว้" ลู่เหวินเจ๋อ แฝดน้อง กล่าวเสริมด้วยสีหน้าจริงจังลู่เหรินเจ๋อ

  • ทะลุมิติสวมรอยเป็นแม่เลี้ยง   ล่อเสือออกจากถ่ำ

    ลู่เหรินเจ๋ออยู่เคียงข้างนางเอกไม่ห่าง แม้จะมีราชกิจมากเพียงใด แต่เขาก็ยังจัดการทุกอย่างภายในตำหนักของตน เพื่อให้สามารถกลับมาดูแลนางได้ตลอดเวลาเมื่อนางมีไข้สูง เขาก็เฝ้าเปลี่ยนผ้าเย็นให้ นั่งเฝ้าข้างเตียงตลอดคืน แม้จะดูไม่แสดงความรู้สึกมากนัก แต่ในแววตากลับฉายแววกังวลลึก ๆ อยู่เสมอทุกครั้งที่นางกระสับกระส่ายในยามหลับ เขาจะจับมือนางไว้โดยไม่รู้ตัว คอยปรับหมอนให้ และเฝ้าดูนางอย่างเงียบงันซ่งจิ้นหมิงมิอาจปล่อยให้เด็กทั้งสองเติบโตต่อไปได้ เขาสั่งให้มือสังหารลับของตระกูลไปจับตาดูความเคลื่อนไหวของแฝดน้อยตลอดทั้งวันสายสืบเฝ้าติดตามพวกเขา ทั้งยามที่วิ่งเล่นในสวน หรือแม้กระทั่งตอนที่อยู่ในตำหนักของมารดาเลี้ยง“ตรวจสอบทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับพวกมัน เจ้าต้องแน่ใจว่าข้ารู้ทุกฝีก้าวของมัน” ซ่งจิ้นหมิงออกคำสั่งด้วยสายตาเย็นชาสามวันผ่านไป อาการของนางเอกเริ่มดีขึ้น นางสามารถลุกขึ้นเดินได้ แม้จะยังอ่อนแรงอยู่บ้าง แต่สีหน้าก็ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นฮูหยินผู้เฒ่าที่เคยตั้งแง่กับนางมาตลอด กลับเริ่มพูดจากับนางดีขึ้น ความเอาใจใส่ของนางต่อลูกแฝดและความกล้าหาญที่ช่วยเหลือนางวันนั้น ทำให้ความรู้สึกของฮูหยิน

  • ทะลุมิติสวมรอยเป็นแม่เลี้ยง   บังอาจนัก

    ซ่งจิ้นหมิงยืนมองสองเด็กน้อยที่กำลังวิ่งเล่นกันในสวน รอยยิ้มเยียบเย็นฉายขึ้นบนใบหน้าอย่างยากจะคาดเดา พวกมัน…คือลูกของนางและเป็นเด็กที่ลู่เหรินเจ๋อให้ความสำคัญ“ซ่งเยว่หรง เจ้าไปก่อน” เสียงทุ้มเย็นเอ่ยขึ้นโดยไร้เยื่อใยซ่งเยว่หรงขมวดคิ้ว นางหันกลับมามองพี่ชายด้วยสายตาฉงน “พี่ใหญ่…เหตุใดจึงให้ข้ากลับไปก่อน?”ซ่งจิ้นหมิงเหลือบตาขึ้นมองนาง ก่อนคลี่ยิ้มจาง ๆ “เจ้ามีสิ่งใดต้องถามมากมายหรือ?”ซ่งเยว่หรงชะงักไป นางไม่กล้าขัดคำสั่งของพี่ชายจึงจำต้องหมุนตัวเดินกลับไป แม้ในใจยังเต็มไปด้ว้ยข้อสงสัยเมื่อร่างของซ่งเยว่หรงลับสายตา รอยยิ้มของซ่งจิ้นหมิงก็จางหายไป ดวงตาเปล่งประกายเย็นยะเยือก มือที่ซุกซ่อนอยู่ในแขนเสื้อกำแน่น“เด็กสองคนนี้…ไม่น่ามีตัวตนอยู่ตั้งแต่แรก”เขาเพียงต้องการให้แผนการเดินหน้าอย่างราบรื่น ไม่มีสิ่งใดมาขวางทางอนาคตของตนเอง…และเด็กสองคนนี้ก็คือเสี้ยนหนามที่เขาต้องกำจัดให้สิ้นซากซ่งจิ้นหมิงกวาดตามองไปรอบ ๆ เหล่าคนรับใช้ที่ควรดูแลเด็ก ๆ กลับกำลังสนทนากันโดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัว‘ช่างสะเพร่าจนน่าขัน’ริมฝีปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปใกล้เด็ก ๆ อย่างไร้สุ้มเส

  • ทะลุมิติสวมรอยเป็นแม่เลี้ยง   ซ่งจิ้งหมิง

    คำถามของฮูหยินผู้เฒ่าหลังจากที่คุณหนูซ่งออกไปแล้ว บรรยากาศภายในตำหนักก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง ฮูหยินผู้เฒ่านั่งมองหลี่เหมยหยุนที่ยังคงนั่งพิงหมอนด้วยท่าทางสงบนิ่งนางจิบชาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย "เหมยหยุน ข้าสังเกตว่าเจ้าดูไม่ค่อยชอบพี่ชายของคุณหนูซ่ง"หลี่เหมยหยุนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหันไปสบตาฮูหยินผู้เฒ่า นางนิ่งไปครู่หนึ่งราวกับกำลังไตร่ตรอง ก่อนจะยิ้มบาง ๆ และตอบกลับไป"ท่านแม่ ข้าไม่เคยมีปัญหากับเขาหรอกเจ้าค่ะ""เช่นนั้นเหตุใดเจ้าถึงดูระแวดระวังเขานัก?" ฮูหยินผู้เฒ่าถามต่อ ดวงตาคมกริบของนางจับจ้องนางเอกอย่างพินิจหลี่เหมยหยุนถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "เพราะเขาเป็นคนอันตรายเจ้าค่ะ"ฮูหยินผู้เฒ่าขมวดคิ้วเล็กน้อย "เหตุใดเจ้าถึงคิดเช่นนั้น? เมื่อก่อนข้าเห็นว่าเจ้าไม่ได้มีท่าทีเป็นศัตรูกับเขา"หลี่เหมยหยุนกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะกล่าว "เมื่อก่อนข้าเพียงแค่ไม่ใส่ใจ แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าเขาไม่ใช่คนที่ควรละเลย"ฮูหยินผู้เฒ่ามองนางอย่างลึกซึ้ง "เจ้ารู้สิ่งใดมาอย่างนั้นหรือ?"หลี่เหมยหยุนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงความหมายลึ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status