เมื่อ "หลี่อวี้จิง" ถูกลิขิตให้ทะลุมิติมาเป็น "หลี่เหมยหยุน" แม่เลี้ยงคนใหม่ในครอบครัวที่เต็มไปด้วยการปั่นป่วนและความลับ เธอจะใช้ชีวิตใหม่ที่ได้รับมาอย่างไรในโลกที่เธอไม่เคยรู้จัก?
view moreหลี่อวี้จิงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตาย ไม่ใช่เพราะร่างกายเจ็บปวดจากอุบัติเหตุ แต่เพราะหัวใจของเธอมันแตกสลาย เมื่อต้องสูญเสียความรักที่เคยมีทุกสิ่ง ทุกอย่างในชีวิตของเธอค่อย ๆ หลุดลอยไปจากมือ การเลือกที่ผิดพลาดในชีวิตคู่ทำให้เธอไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว
วันหนึ่ง ขณะที่นั่งอยู่ในห้องมืด ๆ เธอได้พบกับหนังสือเก่าเล่มหนึ่งที่พ่อแม่เคยทิ้งไว้ ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดมันขึ้น เธอก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นประตูสู่โลกที่เธอไม่เคยรู้จัก หนังสือเล่มนั้นไม่ได้แค่บอกเล่าความรู้หรือเรื่องราวในอดีต แต่มันพาเธอไปสู่สถานที่หนึ่งที่เต็มไปด้วยอันตราย ความลึกลับ และการต่อสู้ที่ยากจะเข้าใจ หลี่อวี้จิงรู้สึกตัวอีกทีเมื่อภาพทุกอย่างรอบตัวเธอเริ่มเบลอไป แล้วเธอก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เมื่อมองไปข้างๆ เธอเห็นสภาพแวดล้อมที่เป็นห้องหรูหราแบบจีนโบราณ ภาพผนังที่แกะสลักลวดลายและเครื่องเรือนที่สวยงามบ่งบอกว่าเธออยู่ในสถานที่ที่ไม่ใช่โลกเดิมของเธอ เธอพยายามรวบรวมสติ แต่มือที่ยื่นออกมาจากกระจกเงากลับไม่ใช่มือของเธอเอง มันเป็นมือของผู้หญิงอีกคนที่มีลักษณะหน้าตาคล้ายคลึงกัน แต่ที่แตกต่างออกไปคือใบหน้าของผู้หญิงในกระจกนั้นเต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยและความเศร้า "หลี่เหมยหยุน..." เสียงในใจของเธอเรียกชื่อที่ไม่คุ้นเคยออกมา "นี่มัน... อะไรกัน?" หลี่อวี้จิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะตั้งสติได้และตระหนักว่าเธอไม่ได้อยู่ในร่างของตัวเองอีกต่อไป เธอถูกสวมรอยเข้ามาเป็น "หลี่เหมยหยุน" หญิงสาวในยุคจีนโบราณที่มีชีวิตไม่ต่างจากตนเองในปัจจุบัน หญิงสาวที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับชายที่เธอไม่เคยรู้จัก หรือแม้แต่เคยพบหน้า ความจำของหลี่เหมยหยุนไม่ได้เป็นเพียงแค่ชีวิตที่สงบสุขตามครรลอง แต่มันเต็มไปด้วยปัญหาภายในครอบครัวและเรื่องราวที่ทับซ้อนกันอย่างซับซ้อน หลี่อวี้จิงจึงตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ในร่างของหลี่เหมยหยุน โดยไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับอะไรกันบ้าง ในขณะที่เธอกำลังพยายามทำความเข้าใจโลกใหม่ที่เธอหลุดเข้ามา เธอได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านนอก และไม่นานชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องนั้น ชายหนุ่มคนนั้นยืนอยู่ตรงประตู พาดสายตามองเธอด้วยสายตาที่ดูเย็นชาและห่างเหิน "เจ้าคือ... หลี่เหมยหยุน?" เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่แสดงความรู้สึก หลี่อวี้จิงที่ขณะนี้สวมรอยเป็นหลี่เหมยหยุนมองเขาด้วยดวงตาที่เริ่มคุ้นเคยกับสถานการณ์นี้ "ใช่... ข้าเอง" เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ยังไม่แน่ใจ ชายหนุ่มในชุดคลุมดำยืนอยู่ตรงนั้นเพียงไม่กี่วินาที ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้และบอกสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยมีความรู้สึก "ข้าจะไม่แสดงความยินดีในการแต่งงานครั้งนี้" เขาพูดแล้วหันหลังเดินออกไปทันที หลี่อวี้จิงมองตามหลังชายหนุ่มคนนั้นอย่างงุนงง สิ่งที่เธอเพิ่งได้ยินไม่ใช่คำพูดของสามีที่ควรจะพูดกับภรรยา แต่มันกลับเป็นเหมือนการประกาศว่าเขาทำการแต่งงานครั้งนี้โดยไม่เต็มใจ และเธอก็รู้ทันทีว่า การแต่งงานของหลี่เหมยหยุนในชีวิตใหม่ของเธอนั้นไม่ใช่การเลือกของความรัก แต่มันเป็นการจัดการตามข้อจำกัดบางอย่างในสังคมและการเมืองที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง หลี่อวี้จิงหายใจออกยาว ๆ ก่อนที่จะตั้งใจแน่วแน่ในใจว่า หากเธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงโชคชะตานี้ได้ เธอจะต้องใช้สติปัญญาและความกล้าหาญที่มีในการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ถูกกำหนดไว้. หลี่อวี้จิงหรือหลี่เหมยหยุนลุกขึ้นจากเตียงอย่างช้า ๆ จับผ้าห่มที่คลุมร่างกายออก ก่อนจะเดินไปที่กระจกเงาทองคำที่ตั้งอยู่ในมุมห้อง ภาพสะท้อนของเธอในกระจกทำให้หัวใจของหลี่อวี้จิงเต้นแรงราวกับจะหลุดออกจากอก ในกระจกนั้นเป็นใบหน้าของหลี่เหมยหยุน หญิงสาวที่เธอเคยเห็นผ่านความทรงจำที่ถูกยัดเยียดให้กับเธอ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นร่างของเธอเอง ใบหน้าของหลี่เหมยหยุนไม่ใช่ใบหน้าที่หลี่อวี้จิงคุ้นเคย มันเต็มไปด้วยความเย็นชาและมุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อย สื่อถึงความห่างเหินที่บ่งบอกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เคยรู้จักความรัก แต่ร่างกายกลับมีท่าทางที่สง่างามและมีเสน่ห์บางอย่างที่ดึงดูดสายตา หลี่อวี้จิงรู้สึกอึดอัดในร่างที่ไม่คุ้นเคยของตนเอง หลายวันผ่านไปเธอเริ่มรู้สึกว่าการใช้ชีวิตในโลกนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะนอกจากจะต้องทำตัวให้เข้ากับตำแหน่งภรรยาที่ถูกยัดเยียดมาแล้ว เธอยังต้องรับภาระในการเป็นแม่เลี้ยงของเด็ก ๆ ที่เธอไม่รู้จัก แต่ในตอนนี้ สิ่งที่หลี่อวี้จิงต้องจัดการก่อนคือรูปลักษณ์ของหลี่เหมยหยุนที่ดูไม่น่าพึงพอใจ หลี่เหมยหยุนในโลกนี้ต้องสวมบทบาทเป็นหญิงที่มีอำนาจและความสูงส่ง แม้เธอจะไม่ได้รักหรือเชื่อมสัมพันธ์กับใครในบ้าน แต่การเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์นั้นสำคัญ “ข้าจะต้องเริ่มใหม่...” หลี่อวี้จิงพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจเดินไปยังห้องน้ำ ที่ห้องน้ำมีอ่างน้ำหินอ่อนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ มีน้ำพุจากน้ำตกที่ระบายความเย็นสดชื่นให้แก่ห้อง และกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสมุนไพรลอยมาเตะจมูก เธอหยิบผ้าผืนใหญ่ที่อยู่ข้าง ๆ และเริ่มล้างหน้าล้างตาอย่างรวดเร็ว น้ำเย็นจัดจากอ่างนำน้ำไปสัมผัสใบหน้าทำให้เธอรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ความรู้สึกที่เหมือนจะเป็นการยืนยันว่าเธอยังอยู่ในโลกนี้ และยังสามารถควบคุมตัวเองได้ หลี่อวี้จิงทบทวนภาพที่เธอเห็นในกระจกครั้งสุดท้าย ก่อนจะตัดสินใจใช้วิธีเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยการสวมบทบาทให้สมบูรณ์แบบ นอกจากการแต่งตัวอย่างที่เป็นทางการแล้ว การเปลี่ยนโฉมหน้าก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่จะทำให้เธอสามารถยืนหยัดในโลกนี้ได้โดยไม่โดดเด่นเกินไป แต่ต้องมีเสน่ห์และอำนาจพอที่จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เธอเริ่มจากการจัดทรงผม โดยเลือกทัดเกลียวผมยาวขึ้นด้านหลังและมัดเป็นหางม้า ก่อนจะเริ่มใส่เครื่องประดับที่ดูเรียบหรู แต่แฝงไปด้วยความอลังการ อย่างเช่น ต่างหูทองคำและสร้อยคอหยกเขียวที่ดูมีมูลค่าไม่น้อย เมื่อเธอจัดการเสร็จสิ้นและสวมชุดคลุมยาวสีฟ้าอมเขียวที่ออกแบบอย่างประณีต ชุดนี้มีการเย็บปักถักร้อยลวดลายดอกไม้ที่สวยงาม แต่ไม่สวยงามเกินไปจนทำให้เธอดูโดดเด่นจากคนอื่น หลี่อวี้จิงจึงรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตัวเอง เมื่อมองตัวเองในกระจกครั้งสุดท้าย หลี่อวี้จิงเริ่มยิ้มให้กับตัวเองอย่างมั่นใจ ใบหน้าของหลี่เหมยหยุนตอนนี้ดูเป็นผู้หญิงที่สง่างามและเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง แม้ว่าเธอจะไม่สามารถกลับไปในโลกเดิมได้ แต่เธอก็จะใช้ชีวิตในโลกนี้ให้ดีที่สุด การเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์เป็นการเริ่มต้นใหม่ของเธอ แม้ว่าการอยู่ในร่างของหลี่เหมยหยุนจะไม่ใช่ทางเลือกที่เธอต้องการ แต่เธอจะสู้เพื่อให้ได้ชีวิตที่ดีที่สุดจากสิ่งที่เหลืออยู่ หลี่อวี้จิงยิ้มให้กับตัวเองในกระจก ก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไปสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วยความลับ ความท้าทาย และอันตรายที่จะต้องเผชิญหลี่อวี้จิงมองกองผ้ากองโตตรงหน้าอย่างสงบ แม้มือจะเริ่มเปียกน้ำจากการชักผ้า แต่นางยังคงสงบนิ่ง ไร้ซึ่งท่าทีอิดออดเหมือนที่บ่าวไพร่คาดหวังเสียงซุบซิบดังขึ้นรอบด้าน"ดูสิ นางกำลังจะยอมแพ้หรือเปล่า?""หึ! นางคุณหนูเคยแต่ใช้นิ้วชี้สั่งคนอื่น คงไม่รู้หรอกว่าการซักผ้ามันเหนื่อยเพียงใด"แต่แทนที่หลี่อวี้จิงจะถอนหายใจ หรือแสดงท่าทีอ่อนล้า นางกลับกวาดตามองรอบ ๆ ลานซักผ้าอย่างพินิจพิเคราะห์ นางสังเกตเห็นว่าบ่อน้ำอยู่ไม่ไกลนัก และรางไม้ที่ใช้รองรับน้ำไหลผ่านลานชักผ้านั้นถูกออกแบบให้สามารถแบ่งน้ำไปได้หลายทิศทาง"หากข้าใช้แรงมากเกินไป ข้าจะหมดแรงเร็วขึ้น เช่นนั้นก็ต้องใช้สติให้มากกว่ากำลัง"นางเดินไปใกล้บ่อและยกถังไม้ขึ้น แต่แทนที่จะตักน้ำด้วยแรงของตนเอง นางกลับใช้คานไม้ที่อยู่ใกล้เคียงมาพาดเป็นคานงัด ทำให้สามารถยกถังน้ำขึ้นได้โดยไม่ต้องออกแรงมาก"นางทำอะไรน่ะ?" บ่าวไพร่บางคนเริ่มสงสัยหลังจากนั้น นางนำผ้าหลายผืนไปแช่ในรางน้ำที่ไหลผ่านลานชักผ้า ก่อนจะใช้ไม้ซักผ้าขัดเพียงเบา ๆ แทนที่จะต้องออกแรงขยี้หนัก ๆ แบบที่บ่าวไพร่ทำ"ข้าเพียงแค่ใช้กระแสน้ำให้เป็นประโยชน์เท่านั้น" นางยิ้มบาง ๆ พลางใช้มือสะบัดฟ
แสงแดดยามสายส่องกระทบผืนน้ำในสระบัว ทำให้เกิดประกายระยิบระยับ ดอกบัวหลากสีบานสะพรั่ง แผ่นใบบัวเขียวขจีลอยนิ่งเหนือผิวน้ำ ลมเย็นพัดเอื่อย ๆ ช่วยให้บรรยากาศดูผ่อนคลายหลี่อวี้จิงยืนอยู่บนสะพานหินที่ทอดข้ามสระบัว นางทอดสายตามองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ ทุกสิ่งในที่แห่งนี้ดูงดงามราวภาพวาด แต่ภายในจวนแห่งนี้กลับเย็นชาไร้ชีวิตชีวา"นางปีศาจตัวจริงถึงกับยอมออกมาเดินเล่นกลางวันแสก ๆ เช่นนี้ด้วยหรือ?"เสียงทุ้มต่ำเย็นชาเอ่ยขึ้นจากด้านหลัง หลี่อวี้จิงหันกลับไปมอง ก็พบชายร่างสูงสง่าผู้หนึ่งยืนกอดอกอยู่ หัวคิ้วเข้มขมวดเล็กน้อย ราวกับกำลังพิจารณาบางสิ่ง"ท่านลู่เหรินเจ๋อ?" นางเรียกชื่อเขาออกมาโดยไม่รู้ตัวลู่เหรินเจ๋อจ้องมองนางด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะกวาดมองรูปลักษณ์ของนางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า "ข้าเกือบจำเจ้าไม่ได้..."หลี่อวี้จิงขมวดคิ้วเล็กน้อย "ทำไมถึงกล่าวเช่นนั้น?"ลู่เหรินเจ๋อยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย คล้ายรอยยิ้มแต่ก็ไม่ใช่ "ปกติเจ้ามักจะอยู่ในสภาพรกรุงรัง ราวกับไม่เคยสนใจตัวเอง แต่วันนี้กลับแต่งตัวเรียบร้อย ดูสะอาดสะอ้านขึ้นผิดหูผิดตา น่าประหลาดนัก หรือว่าเจ้าคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเ
หลังจากที่หลี่อวี้จิง หลี่เหมยหยุนในร่างใหม่ ได้จัดการอาบน้ำและเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของตัวเองจนดูสะอาดสะอ้านและสง่างามกว่าเดิม นางก็รู้สึกได้ถึงความสดชื่นและมั่นใจมากขึ้น"ถึงแม้ข้าจะอยู่ในร่างของหญิงที่ไม่มีใครรัก แต่ข้าก็จะไม่ปล่อยให้ตัวเองจมปลักอยู่กับอดีต" นางพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินออกไปสำรวจภายในจวนเมื่อเดินออกจากเรือนพัก นางก็สัมผัสได้ถึงอากาศบริสุทธิ์และกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ปลูกไว้รอบลาน แม้จวนของลู่เหรินเจ๋อจะดูโอ่อ่าและยิ่งใหญ่สมฐานะบุรุษผู้มีอำนาจ แต่บรรยากาศกลับเงียบสงบ ราวกับไร้ชีวิตชีวาไม่นานนัก เสียงฝีเท้าเล็ก ๆ สองคู่ก็ดังขึ้นจากอีกฟากของทางเดิน"นางปีศาจออกมาแล้ว!"เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างตกใจ นางหันไปมองตามเสียง ก่อนจะเห็นเด็กชายสองคนที่ยืนจับมือกันแน่น พวกเขาตัวเล็กกว่าวัยที่นางคาดไว้ หน้าตาของทั้งคู่มีเค้าโครงเดียวกับลู่เหรินเจ๋อโดยไม่ต้องสงสัย"เจ้าสองคน..." นางเอ่ยขึ้นเบา ๆแต่ไม่ทันที่นางจะพูดอะไรต่อ เด็กชายที่โตกว่าก็รีบยืนกำหมัดแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดระแวง "เจ้าอย่าคิดว่าอาบน้ำแล้วจะเปลี่ยนไปได้! พวกข้ารู้ว่าเจ้าชอบทุบตีพวกข้า!"เด็กชายอีกคนที
หลี่อวี้จิงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตาย ไม่ใช่เพราะร่างกายเจ็บปวดจากอุบัติเหตุ แต่เพราะหัวใจของเธอมันแตกสลาย เมื่อต้องสูญเสียความรักที่เคยมีทุกสิ่ง ทุกอย่างในชีวิตของเธอค่อย ๆ หลุดลอยไปจากมือ การเลือกที่ผิดพลาดในชีวิตคู่ทำให้เธอไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว วันหนึ่ง ขณะที่นั่งอยู่ในห้องมืด ๆ เธอได้พบกับหนังสือเก่าเล่มหนึ่งที่พ่อแม่เคยทิ้งไว้ ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดมันขึ้น เธอก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นประตูสู่โลกที่เธอไม่เคยรู้จัก หนังสือเล่มนั้นไม่ได้แค่บอกเล่าความรู้หรือเรื่องราวในอดีต แต่มันพาเธอไปสู่สถานที่หนึ่งที่เต็มไปด้วยอันตราย ความลึกลับ และการต่อสู้ที่ยากจะเข้าใจ หลี่อวี้จิงรู้สึกตัวอีกทีเมื่อภาพทุกอย่างรอบตัวเธอเริ่มเบลอไป แล้วเธอก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เมื่อมองไปข้างๆ เธอเห็นสภาพแวดล้อมที่เป็นห้องหรูหราแบบจีนโบราณ ภาพผนังที่แกะสลักลวดลายและเครื่องเรือนที่สวยงามบ่งบอกว่าเธออยู่ในสถานที่ที่ไม่ใช่โลกเดิมของเธอ เธอพยายามรวบรวมสติ แต่มือที่ยื่นออกมาจากกระจกเงากลับไม่ใช่มือของเธอเอง มันเป็นมือของผู้หญิงอีกคนที่มีลักษณะหน้าตาคล้ายคลึงกัน แต่ที่แตกต่างออกไปคือใบหน้าของผู้หญิงใน
Mga Comments