Share

บทที่ 232

Penulis: จี้เวยเวย
เมื่อผู้คนในที่นั้นได้ยินว่ามีคนจากสกุลซ่งมา ต่างก็แปลกใจไม่น้อย

ซ่งอี้อันเป็นราวโอรสสวรรค์ลงมาจุติ ชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่วัยเยาว์ ไม่เพียงมีรูปโฉม มีความสามารถ กระทั่งชาติกำเนิดก็ล้วน

เป็นหนึ่งในหมื่น แต่หลังจากเขาสูญเสียการมองเห็น อนาคตก็เรียกได้ว่าพังทลาย

การสอบฤดูใบไม้ผลิเป็นโอกาสดีที่เขาจะได้แสดงฝีมืออย่างเต็มที่ ทว่าบัดนี้เกรงว่าจะกลายเป็นวันที่เจ็บปวดที่สุดสำหรับเขา แม้นมีพรสวรรค์แต่กลับไม่สามารถใช้มันได้อีก

“ได้ยินมาว่าฉู่อ๋องชื่นชมความสามารถของซ่งอี้อันอยู่ไม่น้อย เคยตั้งใจเชิญเขาไปเป็นอาจารย์ยังสำนักศึกษาหลวง”

“เพราะว่าสองตามืดบอด จึงทำได้เพียงรับผิดชอบสอนวิชา คณาจารย์ทั้งหลายต่างเห็นพ้องต้องกัน ทว่าท้ายที่สุดซ่งอี้อันกลับปฏิเสธไป”

เมื่อฉินเซี่ยงเหิงได้ยินข่าวนี้ ก็ไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง “ฉู่อ๋องชื่นชมอะไรในตัวเขากันแน่? ก็แค่คนไร้ค่าผู้หนึ่ง!”

“บางทีอาจเป็นเพราะสงสารเขาก็เป็นได้”

ฉินซวงซวงอดนึกถึงซ่งรั่วเจินไม่ได้ ก่อนนี้นางเห็นฉู่อ๋องช่วยซ่งรั่วเจินไว้หลายครั้ง คงไม่พ้นเป็นเพราะสงสารสกุล

ซ่งที่ตกอับ จึงได้ช่วยหนแล้วหนเล่า

“ท่านพี่ ท่านไม่ต้องไปสนใจซ่งอี้อันอีกแล้ว บ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 233

    “ซ่งอี้อันจะเข้าร่วมการสอบการสอบฤดูใบไม้ผลิงั้นหรือ? มิใช่ว่าสองตาเขามืดบอดไปแล้วหรือ? แล้วจะเข้าสอบได้อย่างไร?” “ข้าดูแล้วดวงตาของซ่งอี้มีประกายเช่นปกติ มิได้เหมือนคนตาบอดแต่อย่างใด หรือช่วงนี้เขาจะรักษาจนหายดีขึ้นมาแล้ว?”ทุกคนต่างจ้องมองซ่งอี้อันอย่างละเอียด ก่อนนี้พวกเขาไม่ได้สังเกต บัดนี้เมื่อมองให้ชัด ก็พบว่าซ่งอี้อันเดินเข้ามาเองโดยไม่ได้มีผู้ใดคอยช่วยประคอง “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”ประกายในดวงตาฉินเซี่ยงเหิงฉายแววตกตะลึง เรื่องนี้สั่นสะเทือนเขาไม่น้อยทีเดียว!ก่อนนี้หมอตั้งมากหน้าหลายตาก็ตรวจกันแล้ว ว่าดวงตาของซ่งอี้อันไม่อาจรักษาให้หายได้แล้ว บัดนี้เขากลับเข้าร่วมการสอบฤดูใบไม้ผลิได้ เช่นนั้นเขาจะทำอย่างไร?“พี่อี้อัน ดวงตาของท่านหายดีแล้วหรือ?”จ้าวซูหว่านมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างตะลึงงัน จ้องมองชายหนุ่มอ่อนโยนประดุจหยกตรงหน้า เขายังคงมีท่าทีโดดเด่นเป็นสง่าอยู่เช่นเคยหวนนึกถึงครั้งหนึ่งที่นางเคยหลงใหลในซ่งอี้อัน ในหมู่ผู้คนมากมายเขากลับเป็นดวงดาราที่สว่างไสวสุกใสกว่าใครอื่น แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดนางจึงไปพันพัวอยู่กับฉินเซี่ยงเหิงเข้าเสียได้...หลังหมั้นหมายกับสกุลฉินแล้ว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 234

    “ท่านอย่าเพิ่งกังวลไป อย่างไรท่านก็ท่องเรียงความนั้นจนขึ้นใจแล้ว คุณภาพของเรียงความท่านเองก็รู้ดี ผลสอบย่อมไม่ออกมาแย่แน่นอน”“ช่วงเวลานี้ซ่งอี้อันหาได้มีเวลาท่องตำราเรียนรู้ ท่านจะกลัวไปไย?”“หากท่านสอบได้อันดับหนึ่ง ผู้คนก็ต่างยอมรับว่าท่านมีความสามารถโดยแท้จริง ท่านย่อมเป็นอันดับหนึ่งของเมืองหลวงได้อย่างไร้ข้อกังขา!”ฉินเซี่ยงเหิงเริ่มสงบลงบ้าง “หากเขาเขียนเหมือนกันกับข้า…”“เช่นนั้นแล้วอย่างไร? เขาไม่มีทางท่องจำได้ทุกตัวอักษรหรอก ข้าเคยได้ยินว่าการเขียนเรียงความนั้น รอบแรกมักจะดีที่สุด"“พี่ชายรอง มีโอกาสสูงที่ฉินเซี่ยงเหิงจะนำเรียงความที่พี่เคยเขียนมาใช้ในการสอบฤดูใบไม้ผลิครั้งนี้ พี่ได้เตรียมเรียงความที่ดีกว่าไว้หรือไม่?”ซ่งรั่วเจินเหลือบมอง ก่อนหน้านี้นางเคยได้เตือนพี่ชายรองเรื่องนี้แล้ว หัวข้อการสอบฤดูใบไม้ผลิไม่ใช่สิ่งที่นางคาดการณ์ได้ แต่เป็นสิ่งที่ระบุเอาไว้ในหนังสือ ยิ่งได้รู้แล้วก็ยิ่งบังเอิญยิ่ง ที่ก่อนนี้ซ่งอี้อันก็ได้เขียนเรียงความเกี่ยวกับข้อคิดเห็นในทำนองเดียวกันไว้และฉินเซี่ยงเหิงก็ใช้เรียงความนั้นในการสอบทิ้งห่างบรรดาบัณฑิตทั้งหลายมาได้ จนกลายเป็นอันดับหนึ่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 235

    “ฉู่อ๋องเสด็จแล้ว!”ไม่รู้ว่าเสียงผู้ใดตะโกนขึ้น ทุกคนจึงหันไปมองเป็นตาเดียว เห็นเพียงฉู่จวินถิงและคณะกรรมการคุมสอบในวันนี้เดินเข้ามาด้วยกันเขาสังเกตเห็นซ่งรั่วเจินได้แทบจะทันทีนางแต่งกายเรียบร้อยอย่างยิ่ง สวมชุดกระโปรงสีชมพูอ่อน ปักแต่งด้วยสีเหลืองนวลในบางจุด ทำให้นางดูอ่อนหวานและน่าเอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง คล้ายว่าจะมีเพียงเมื่อยืนอยู่ข้างกายพี่ชายเท่านั้น ที่จะดูเรียบร้อยและเชื่อฟังเสมอๆ แตกต่างจากท่าทีเฉียบคมดุดันที่นางแสดงออกยามต่อกรกับผู้อื่น เรียกได้ว่าเป็นหน้ากากสองด้าน ทว่าน่ารักอยู่ไม่น้อย“อี้อัน นี่เจ้า...?”อาจารย์เว่ยผู้เคร่งขรึมเมื่อมองเห็นซ่งอี้อันเข้าก็พลัน ดวงตาทอประกายแววประหลาดใจต่อมาเหล่าบัณฑิตทั้งหลายของสำนักศึกษาหลวงก็ได้เห็นว่าอาจารย์เว่ยผู้ที่มักจะเคร่งขรึมและเข้มงวดอยู่เสมอ กลับเดินแล่นฉิวพุ่งตรงเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าของซ่งอี้อันโดยฉับพลัน “อี้อัน ดวงตาของเจ้าหายดีแล้วหรือ?”อาจารย์เว่ยโบกมือไปมาที่ตรงหน้าของซ่งอี้อัน ตาเฒ่าหัวโบราณที่เคยเป็นคนเคร่งขรึม ยามนี้กลับเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความดีใจซ่งอี้อันทำความเคารพอย่างนอบน้อม “คารวะท่านอาจาร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 236

    “เดิมทีข้านัดหมายเขาไว้ดีแล้วว่าวันนี้จะมาส่งเขาที่สนามสอบ แต่ยามข้าไปถึงพบว่าเขาออกจากบ้านเร็วกว่าเวลานัดหมาย ระหว่างเดินทางมานี้ข้าก็ไม่เห็นเขา”“ได้ยินคนในจวนสกุลอวิ๋นพูดว่า วันนี้เฉิงเจ๋อและเนี่ยนชูจู่ๆ ก็เปลี่ยนเส้นทาง ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุใด”สวีเฮ่ออันขมวดคิ้วแน่น เขารู้จักอวิ๋นเฉิงเจ๋อมาหลายปี รู้อุปนิสัยใจคอของเขาดีมาก แต่ไหนแต่ไรมาระแวดระวัง ไม่มีวันมาสายในวันสำคัญเช่นนี้ซ่งรั่วเจินได้ฟังคำพูดของสวีเฮ่ออัน กวาดตามองทางฉินซวงซวง หลังเห็นใบหน้าประดับยิ้มลำพองใจของฝ่ายหลัง พลันเข้าใจแล้ว ชาติก่อนเพราะอวิ๋นเฉิงเจ๋อปฏิเสธอวิ๋นเนี่ยนชูไม่ให้มาส่งเขาที่สนามสอบ ดังนั้นอวิ๋นเนี่ยนชูจึงตามหลังมาเงียบๆ คิดไม่ถึงว่าถึงขั้นได้พบพวกบ้าตัณหาระหว่างทาง เกือบถูกลวนลามไปแล้วอีกฝ่ายมีคนมาก ส่วนอวิ๋นเฉิงเจ๋อได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยเหลืออวิ๋นเนี่ยนชู นี่ถึงพลาดการสอบฤดูใบไม้ผลิไปหลังผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว อวิ๋นเนี่ยนชูก็รู้สึกผิดมาก ปักใจว่าทั้งหมดล้วนเป็นความรับผิดชอบของนางบัดนี้มองดูแล้ว...เห็นได้ชัดว่านี่คืออุบายของสกุลฉิน!ซ่งอี้อันตาบอดทั้งสองข้าง ไม่สามารถประชันขันแข่งกับฉินเซี่ยงเหิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 237

    ซ่งรั่วเจินถลันขึ้นไปต้อนรับ สำรวจอวิ๋นเนี่ยนชูอย่างกังวล “เนี่ยนชู เจ้าไม่เป็นอะไรนะ?”อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงเรื่อ เห็นได้ชัดว่าตกใจหวาดผวา “ข้าไม่เป็นไร แต่ญาติผู้พี่ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวานหลังข้าได้รับข่าวจากเจ้าก็บอกญาติผู้พี่”“เช้าวันนี้พวกเราตั้งใจเปลี่ยนแปลงเวลาและเส้นทาง ใครคาดคิด อีกฝ่ายพบว่าพวกเราระแคะระคายแล้วก็คล้ายเสียสติไป ไล่ตามมาโดยตรง”“ล้วนต้องโทษข้า ข้าวิ่งช้าเกินไป ไม่ระวังจึงหกล้ม นี่ถึงทำให้ญาติผู้พี่ต้องเดือดร้อน”ได้ยินดังนั้นซ่งรั่วเจินก็เข้าใจแล้ว บัดนี้สกุลฉินมีอวิ๋นซีหว่านเป็นหนอนบ่อนไส้คนหนึ่ง ย่อมรู้เบาะแสของพวกอวิ๋นเนี่ยนชูเป็นอย่างดีบัดนี้วางแผนทุ่มสุดตัว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทำให้อวิ๋นเฉิงเจ๋อไม่สามารถเข้าร่วมการสอบฤดูใบไม้ผลิให้ได้“นี่ก็มาทันแล้วมิใช่หรือ? เจ้าอย่าร้อนใจ ข้าไปดูบาดแผลของญาติผู้พี่เจ้าก่อน”ซ่งรั่วเจินเอ่ยปลอบอวิ๋นเนี่ยนชู นี่ถึงมาหยุดข้างกายอวิ๋นเฉิงเจ๋อ มองบาดแผลบนหน้าผาก แม้แตกไปหนึ่งที่ แต่ไม่นับว่าร้ายแรง บนตัวเองก็ล้วนเป็นผิวหนังภายนอกได้รับบาดเจ็บเท่านั้นโชคดีจริงๆ“ข้าจะช่วยท่านจัดการบาดแผล”ซ่งรั่วเจินยื่นยาให้ “นี่คือยา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 238

    ฉินเซี่ยงเหิงย่อมนึกถึงจุดนี้ เดิมทีเขาก็เกือบหมดโอกาสเข้าร่วมการสอบฤดูใบไม้ผลิไปแล้ว โชคดีท่านตาออกหน้าช่วยเขา นี่ถึงสามารถเข้าร่วมต่อไปได้หากเรื่องนี้เกี่ยวพันมาถึงเขา เขาต้องจบสิ้นแล้วจริงๆ!“เจ้าจงคิดหาทางจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามไม่ให้สืบสาวราวเรื่องมาถึงข้า เข้าใจหรือไม่?”สายตาฉินเซียงเหิงเย็นชา เขายังมีอนาคตยิ่งใหญ่เกรียงไกร ไฉนเลยจะสามารถปล่อยให้ตัวโง่งมเหล่านี้ขัดขวางได้?ฉินซวงซวงเห็นเขาโยนความรับผิดชอบทั้งหมดลงบนศีรษะตน เกิดความไม่พอใจภายในใจ แต่เพื่อทำให้อารมณ์ของฉินเซี่ยงเหิงสงบลง จึงพยักหน้ารับ“ท่านวางใจเถอะ ข้าและท่านพ่อท่านแม่จะหาทางจัดการเรื่องภายนอกเอง ท่านวางใจเข้าร่วมการสอบก็พอ”ซ่งรั่วเจินช่วยอวิ๋นเฉิงเจ๋อรักษาบาดแผลอย่างคล่องแคล่ว นี่ถึงมองส่งซ่งอี้อันและอวิ๋นเฉิงเจ๋อเข้าสนามสอบไปพร้อมกัน“ท่านอาจารย์ ญาติผู้พี่ข้าได้รับบาดเจ็บ หวังว่าพวกท่านจะดูแลมากสักหน่อยนะเจ้าคะ” ภายในสายตาอวิ๋นเนี่ยนชูเปี่ยมกังวล โค้งคำนับให้อาจารย์“วางใจเถอะ ข้าจะระวังให้ดี” อาจารย์เว่ยพยักหน้ารับปากจากนั้นเหล่าบัณฑิตต่างพากันเข้าสนามสอบ คนภายนอกเองก็พากั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 239

    “ความแค้นนี้ข้ากลืนไม่ลงอย่างแท้จริง ข้าต้องได้คำชี้แจงอย่างหนึ่งถึงจะใช้ได้!”สีหน้าอวิ๋นเนี่ยนชูแข็งทื่อดุจเหล็ก เรื่องนี้มิอาจปล่อยผ่านไปได้ เพื่อการสอบญาติผู้พี่อ่านตำราจนดึกดื่น ต่อให้เป็นฤดูหนาวก็ไม่เคยผ่อนแรงมาก่อน นางเห็นแล้วก็รู้สึกเลื่อมใสระคนสงสารมาถึงวันนี้ได้อย่างยากลำบาก ไฉนเลยจะปล่อยให้อวิ๋นซีหว่านทำลายได้?“อาจารย์ทุกท่านต่างรู้เรื่องนี้แล้ว ศาลาว่าการซุ่นเทียนเองก็ไม่มีวันไม่ร่ำไร เชื่อว่าอีกไม่นานก็สามารถหาคนลงแรงอยู่เบื้องหลังออกมาได้แล้ว เจ้าไม่ต้องกังวล”“สกุลฉินให้ความสำคัญต่อฉินเซี่ยงเหิงมาก หากเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น น่ากลัวว่าจะต้องคิดหาทางโยนเรื่องนี้มาที่บ้านพวกเจ้าอย่างแน่นอน มิสู้เจ้าปรึกษาวางแผนรับมือกับท่านป้าให้ดี”สายตาซ่งรั่วเจินจริงจังมาก อวิ๋นฮูหยินเป็นคนฉลาด บัดนี้มีจุดอ่อนที่ดีเพียงนี้อยู่ภายในกำมือ ย่อมไม่สามารถปล่อยให้เสียเปล่าได้“ข้าเข้าใจแล้ว” อวิ๋นเนี่ยนชูเข้าใจแล้ว “รั่วเจิน เจ้ากลายเป็นคนฉลาดเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด? หลังถอนหมั้น เจ้าก็เปิดจุดลมปราณเริ่นตูหรือ ข้าเองก็เลื่อมใสเจ้าอย่างอดไม่ได้”ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบาๆ “ก่อนนี้น้ำเข้าสมอง บ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 240

    “ข้าย่อมดีใจแทนพวกเจ้า แต่ไหนแต่ไรมาอี้อันเด็กคนนี้มีความสามารถ น่าเสียดายถูกคนทำร้ายเสียได้”“บัดนี้สามารถเข้าร่วมการสอบฤดูใบไม้ผลิได้ใหม่อีกครั้ง ขอเพียงสามารถสอบได้คะแนนดี ภายภาคหน้าสกุลซ่งเองก็มีความหวังแล้ว แม่กังวลเพียงเจ้าจะห่างเหินกับพวกเราเพราะเรื่องที่ผ่านมา”นายหญิงหลิ่วพูดอย่างปวดใจ “พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันทำร้ายเจ้า เจ้าว่าใช่หรือไม่?”หลิ่วหรูเยียนเห็นนายหญิงหลิ่วอยู่ต่อหน้า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นหลายปีมานี้ล้วนปรากฏในสมองของนางตั้งแต่เด็กนางก็คือคนเชื่อฟังมากที่สุดในบรรดาพี่น้อง กลับไม่ใช่เพราะอุปนิสัยเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรก แต่เพราะบิดามารดารักพี่น้องคนอื่นมากกว่านางนางไม่แก่งแย่งไม่ช่วงชิง เพราะตอนเด็กเคยแย่งมา สุดท้ายที่ได้รับคือเสียงดุด่าไปจนถึงลงโทษ นานวันเข้าก็ไม่มีความคิดแย่งชิงแล้วไม่ว่าสิ่งใด หลีกทางให้คนอื่นนั้นสมควรแล้วเดิมทีนางคิดว่าขอเพียงตนเองทำตามคำสั่งของบิดามารดา พวกเขาจะรักนางมากสักหน่อย ทว่าตอนนี้นางก็อายุปูนนี้แล้ว มองทุกอย่างออกอย่างกระจ่างชัดเจน“ท่านแม่ เดิมทีข้าก็เป็นลูกสาวของท่าน ยังพูดว่าห่างเหินไม่ห่างเหิน

Bab terbaru

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 994

    ฉู่จวินถิงสังเกตเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของซ่งรั่วเจิน ไหวพริบบ่งบอกว่ามีปัญหาซ่งรั่วเจินส่ายหน้าเบาๆ “เพียงแต่ได้ยินจงเฟยพูดเรื่องบูชาเซียนโบตั๋นจึงรู้สึกแปลกอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าใช่เซียนโบตั๋นที่หม่อมฉันรู้จักหรือไม่”นางเคยได้ยินเรื่องเซียนโบตั๋นมาก่อน เป็นสิ่งที่สตรีบูชาจริง เซียนบุปผา มีสรรพคุณช่วยคืนความอ่อนเยาว์ เพียงแต่ภายในนี้กลับมีเคล็ดลับบางอย่าง ทำให้คนเสพติดอย่างง่ายดาย สุดท้ายลุ่มหลงจนยากจะถอนตัวขึ้นมาได้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีหากเป็นคนฝีมือโหดเหี้ยม ก็สามารถใช้ของสิ่งนี้แลกเปลี่ยนโชคชะตาได้ น่ากลัวอย่างมากจงเฟยมีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ตนเองเก็บไว้บูชาเองก็พอ ทว่านางกลับนำมามอบให้ฮองเฮา แปลกเกินไปแล้วกระมัง“พูดให้ฟังเถอะ”ฉู่จวินถิงกลับไม่รีบร้อนจากไป เอียงหูฟัง รอฟังคำพูดของว่าที่ฮูหยินอย่างอารมณ์ดีแท้จริงแล้ว ไม่ว่าเจินเอ๋อร์พูดอะไร เขาล้วนอยากฟัง“หม่อมฉันเคยเห็นเซียนโบตั๋นมาก่อน ทำให้สตรีงดงามอ่อนเยาว์ผ่านการบูชาอาหาร หากจริงใจมากเพียงพอ ยังสามารถใช้เลือดเป็นเครื่องบูชาได้ ผลลัพธ์ดีมากนัก”“เพียงแต่จะทำให้สตรีลุ่มหลง กลายเป็นรีบร้อนอยากได้ผลลัพธ์ จากนั้นยากจะถอนตัวขึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 993

    วังหลังวันนี้ซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงเข้าวังไปขอบพระทัยความเมตตาด้วยกัน คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นความครึกครื้นทั้งภายในภายนอกตำหนักของฮองเฮายังไม่ทันเข้าไปก็ได้ยินเสียงตวนเฟยดังออกมาจากภายใน“ระยะนี้น้องหญิงจงเฟยงดงามมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว คนเองก็สดใสมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่ง ข้าถามนางว่าใช้เคล็ดลับอะไร นางก็ไม่ยอมบอกข้า ต่อมาข้ายังเห็นด้วยตนเอง”ตวนเฟยมองเซียนโบตั๋นข้างห้องบรรทมของฮองเฮาแวบหนึ่ง สายตาสะท้อนแววละโมบ“ที่แท้นางก็ตั้งใจขอเซียนโบตั๋นจากพระผู้ทรงศีล เพื่อรักษาความเยาว์วัยของสตรี ทำให้งดงามมีเสน่ห์!”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา สนมคนอื่นก็ตาร้อนผ่าว ความเปลี่ยนแปลงของจงเฟยในระยะนี้ พวกนางล้วนเห็นอยู่ในสายตา ฝ่าบาทเองก็ประทับค้างแรมกับจงเฟยที่นั่นติดต่อกันหลายคืน ใครจะไม่อิจฉากันเล่า?สนมภายในวังมีไม่น้อย พวกเขาทำเพื่อให้ได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาท ปกติทำทุกวิธี ก็ไม่แน่ว่าจะได้ผลบัดนี้ได้เห็นจงเฟยได้รับความโปรดปรานมากขึ้นทุกที แต่ละคนร้อนใจจนแทบทนไม่ไหว“เดิมทีคิดว่าจงเฟยจะซ่อนไว้ คิดไม่ถึงเลยว่ายังมอบให้ฮองเฮาอีกด้วย น้องหญิงจงเฟยจริงใจต่อฮองเอาจริงๆ!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 992

    “บัดนี้ข้าและองค์หญิงเพียงแต่มีปัญหากันเล็กน้อยเท่านั้น รอข้าไปอธิบายให้ชัดเจน ทั้งหมดย่อมกลับมาเป็นเหมือนเดิม”เสิ่นหวยอันพูดอย่างมีเหตุผล ชนิดที่ว่าหน้าตายังเผยแววลำพองใจ “เจ้าคิดดูให้ดี หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ก่อเรื่องพรรค์นี้ขึ้นมา ป่านนี้คงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”“ส่วนข้า ก็แค่ถูกโบย สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างว่องไว หรือเจ้าไม่เข้าใจความหมายกันเล่า?”“ตกลงเจ้าจะพูดอะไร?” เสิ่นจวินเจ๋อหรี่ตาลง สังเกตเห็นปัญหาแล้ว เสิ่นหวยอันมั่นใจในตนเองเกินไป“เหตุที่องค์หญิงทำเช่นนี้ ก็เพราะหึงหวงเท่านั้น” เสิ่นหวยอันหัวเราะเบาๆ ลูบแต่งผมและพูด “องค์หญิงมีจิตปฏิพัทธ์ต่อข้า เพียงแต่เห็นซ่งปี้อวิ๋นอยู่ข้างกายข้ามาโดยตลอด เข้าใจผิดคิดว่าข้าและนางมีความสัมพันธ์กัน นี่ถึงเป็นเช่นนี้”“ระหว่างสตรีย่อมหนีไม่พ้นความหึงหวง นี่คือเรื่องธรรมดาอย่างมาก เพียงแต่องค์หญิงอารมณ์รุนแรงอยู่บ้าง นี่ถึงโบยข้า”“หากไม่รัก นางก็คงไม่โมโหถึงเพียงนี้ เจ้าเข้าใจหรือไม่?”เสิ่นจวินเจ๋อชะงักไปในทันใด ครู่ต่อมาคิดว่าสายตาของฉู่มู่เหยาไม่น่าจะแย่ถึงเพียงนี้ เพียงแต่ลองคิดดูแล้วเขาก็เริ่มไม่มั่นใจเพราะเสิ่นหวยอันมั่นใจในตน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 991

    ได้ยินคำพูดของอวิ๋นเฉิงเจ๋อ ภายในสายตาอวิ๋นเนี่ยนชูเปี่ยมความแปลกใจ มากที่สุดคือต้องการรู้เหตุผลทั้งหมดตกลงเป็นเพราะอะไร?เพราะเหตุใดหลายปีมานี้ ทั้งๆ ที่นางแสดงความชอบของตนออกมาไม่ใช่เพียงครั้งเดียว ทว่าญาติผู้พี่กลับหลบเลี่ยงนางมาโดยตลอด นางต้องการคำตอบหนึ่ง กลับไม่ได้รับทั้งๆ ที่ดีต่อนางถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่ภายในใจมีนางมาโดยตลอด เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?อวิ๋นเฉิงเจ๋อเอ่ยปากพูดเสียงขมปร่า นี่ถึงพูดความคิดที่เก็บซ่อนไว้ภายในใจตลอดหลายปีมานี้ออกมา...อวิ๋นเนี่ยนชูได้ยินทั้งหมดนี้ สายตาสะท้อนแววเหลือจะเชื่อ ยากจะเชื่อได้ว่าทั้งหมดนี้ถึงขั้นยังมีเรื่องที่นางไม่รู้มากถึงเพียงนี้“ดังนั้น...พวกเราไม่ใช่ญาติพี่น้องแท้ๆ?”อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด นี่คือเรื่องที่นางไม่เคยรู้ หลายปีมานี้ญาติผู้พี่ก็ไม่เคยพูดมาก่อนอวิ๋นเฉิงเจ๋อพยักหน้า “ปีนั้นข้าถูกทิ้งไว้ที่ประตูเรือนด้านหลัง หากไม่ใช่ท่านแม่ใจดีรับเลี้ยงข้า ข้าคงตายไปตั้งนานแล้ว...”หลายปีมานี้เขาเคยคิดอยู่หลายค่ำคืน บิดามารดาแท้ๆ ของเขาเป็นใคร เหตุใดต้องทิ้งเขา บางครั้งก็เกลี้ยกล่อมตนเอง คิดถึงปัญหาเหล่านี้ไปล้วนไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 990

    เพียงเอ่ยปาก โทสะทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาแล้วความเจ็บปวดและอึดอัดใจที่สั่งสมอยู่ภายในใจล้วนระเบิดออกมาในเวลานี้อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอวิ๋นเนี่ยนชูพูดเช่นนี้เป็นครั้งแรก มองนางตวาดถามไล่เรียงตนเอง ภายในใจเปี่ยมความรู้สึกผิด“ขอโทษ ล้วนเป็นความผิดของข้า”เห็นสายตาเปี่ยมความรู้สึกผิดของฝ่ายชาย อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “เดิมทีทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของท่านอยู่แล้ว! เหตุใดท่านไม่บอกข้าเร็วสักหน่อย ท่านรู้ว่าหลายปีมานี้ข้าฝืนได้ลำบากมากเพียงใดหรือไม่?”“ในเมื่อท่านไม่พูดมาโดยตลอด เหตุใดไม่เก็บเอาไว้ชั่วชีวิตเล่า?”น้ำตานางไหลลงมา ตลอดหลายปีมานี้ไม่ตอบรับความรู้สึกนาง นี่ทุกข์ใจมากเพียงใด?นางอยากบริภาษเขาแรงๆ อยากทุบตีเขา ชนิดที่ว่าอยากไม่สนใจเขาอีก ทำให้เขาเสียใจภายหลังไปชั่วชีวิตเพียงแต่ ยามได้เห็นของเหล่านั้นที่เขาซ่อนไว้ภายในห้อง รวมถึงภาพเหมือนของนางที่วาดไว้นับไม่ถ้วนยามค่ำคืน นางก็อยากร้องให้อย่างอดไม่ได้...“เป็นความผิดของข้าเอง ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า เจ้าตีข้าด่าข้าโทษข้า ล้วนสมควรทั้งสิ้น”อวิ๋นเฉิงเจ๋อสืบเท้าขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ภายในสายตาเปี่ยมความเอ็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 989

    “อะไรนะ?” อวิ๋นเนี่ยนชูชะงัก ภายในสายตาสะท้อนความตกตะลึงทั้งๆ ที่ตลอดมาล้วนเป็นนางตอแยญาติผู้พี่หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้นางทำเช่นนี้มาโดยตลอด คาดว่าญาติผู้พี่ก็คงไม่ชอบนาง ทว่าได้ยินคำพูดของมารดาแล้ว เหตุใดญาติผู้พี่ถึงผลักทั้งหมดนี้ลงบนศีรษะของเขาเล่า?“เฉิงเจ๋อพูดว่าเขาพยายามสอบสร้างผลงานก็เพื่อจะได้คู่ควรกับเจ้า จะได้มีโอกาสสู่ขอเจ้า”“หากเปลี่ยนเป็นในอดีต ข้าจะต้องไม่เห็นด้วยที่พวกเจ้าคบหากัน บัดนี้ผ่านเรื่องมามากถึงเพียงนี้ ความคิดของแม่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย”“หากเจ้าชอบเฉิงเจ๋อจริง ข้าเองก็ไม่คัดค้าน แต่หากเจ้าไม่ชอบ...”สีหน้าจางเหวินสับสน ก่อนหน้านี้เคยเห็นท่าทางของเด็กทั้งสอง ไม่ว่ามองอย่างไรเนี่ยนชูก็ไม่คล้ายไม่ชอบเฉิงเจ๋อ“ข้าชอบญาติผู้พี่เจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูตอบอย่างไม่ลังเล “ข้าชอบญาติผู้พี่มาโดยตลอด”มองเห็นท่าทางมุ่งมั่นของลูกสาว จางเหวินรู้สึกเอือมระอาระคนโชคดีอยู่บ้าง “ช่างแล้วๆ น้ากู้ของเจ้าพูดถูกแล้ว ลูกหลานมีความสุขของลูกหลาน พวกเจ้าคบหากันก็เป็นพวกเจ้าสร้างขึ้น”“แม้ว่าปีนั้นเฉิงเจ๋อทำไม่ถูก ไม่สมควรเกิดความคิดต่อเจ้า แต่ข้าล้วนเห็นความพยายามของเขาตลอดหลา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 988

    ยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงเขาพยายาม เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องมีอนาคตแน่ตระกูลตกต่ำ บิดามารดาจากไปก่อนวัยอันควร เดิมทีเขาก็เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจตายที่ข้างถนนตั้งนานแล้ว บัดนี้ไม่เพียงมีข้าวกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ ท่านน้ายังเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือเขา เขาไม่มีวันอกตัญญูเขาคิด...รออีกหน่อย รอจนเขามีความสามารถ รอจนเขาฉายแววโดดเด่น บางทีอาจมีโอกาสขอท่านน้าแต่งงานกับเนี่ยนชูทว่า ขณะเขากำลังตรากตรำร่ำเรียนอยู่นั้น ในที่สุดก็ได้รับคำชมจากอาจารย์ ได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง อาจารย์ของสำนักศึกษาหลวงเองก็ชื่นชมว่าเขาจะต้องมีโอกาสสอบผ่านขุนนางแน่ ตอนเขาคิดว่าตนเองอาจจะสามารถตอบรับความรู้สึกของเนี่ยนชูได้ กลับได้ยินท่านน้าและแม่นมพูดสนทนากันที่แท้...เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบิดามารดาลูกของมารดาตายไปตั้งนานแล้ว ส่วนเขาคือเด็กที่วันนั้นถูกทิ้งไว้หน้าประตูเรือนด้านหลังของมารดาเดิมทีมารดาก็ยากจะยอมรับความเจ็บปวดได้ อีกทั้งยังสงสารเขา หมอพูดว่าร่างกายนางเสียหาย ภายภาคหน้ายากจะมีลูกได้อีก นี่ถึงรับอุปการะเขา ประกาศต่อโลกภายนอกว่าเขาเป็นลูกของตนเขาเป็นแค่เด็กถูกทิ้งคนหนึ่ง เศษสวะที่ไม่ยอมหนาว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 987

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ข้าเคยไม่สนับสนุนเจ้าตั้งแต่ยามใด? แต่ไหนแต่ไรมาข้าล้วนสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้า”ก่อนหน้านี้นางทำนายมาก่อนแล้ว ภายในเรื่องนี้มีเงื่อนงำซ่อนอยู่มากมาย อวิ๋นเฉิงเจ๋ออ่อนแอเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ไม่มีความรับผิดชอบมากเพียงพอเพียงแต่ หากไม่เคยผ่านความทุกข์ของผู้อื่น ก็ไม่สามารถตัดสินตามใจได้อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลายเป็นเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมาในช่วงหลายปีมานี้เรื่องเดียวกัน บางคนมีความรับผิดชอบที่แข็งแกร่งมาก ไม่ได้รับผลกระทบใด แต่บางคนคิดอ่านอย่างละเอียด ยากจะสามารถรับได้ใต้หล้ากว้างใหญ่ รวมทุกสรรพสิ่งไว้แล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะตนเอง นางย่อมไม่วู่วามสอดมือเข้าไปอวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มกว้าง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์เป็นเช่นไรข้าก็ไม่ใส่ใจแล้ว หากไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ข้าจะต้องเสียใจภายหลังแน่”“ตอนนี้ท่านป้าจ้างกำลังอยู่กับท่านแม่ข้า รอกลับไปแล้วค่อยหาโอกาสพูดเถอะ”ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนาย ภายในสายตาเผยแววประหลาดใจ เปลี่ยนคำพูด “ดูท่าแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดออกจากปากของตนแล้วล่ะ”อวิ๋นเนี่ยนชูสงสัย “หมายความว่าอะไร?”“ญาติผู้พี่เจ้าพูด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status