“หนอยยย ปล่อยให้ข้าผู้ช่วยเจ้าเมืองต้องคุกเข่าลง แต่พวกเจ้ากลับนั่งบนเก้าอี้กันหน้าสลอนแบบนี้ ทำตัวเป็นพวกคนไม่มีมารยาทไร้การอบรมสั่งสอนจริง ๆ รีบไปยกเก้าอี้มาให้ข้านั่งเดี๋ยวนี้เร็ว ๆ เข้า”“ข้ายังไม่อนุญาตให้เจ้านั่งเก้าอี้และคนที่นี่ก็ไม่สนใจคำสั่งของเจ้า เป็นผู้ช่วยเจ้าเมืองเหลียงเฟิงดี ๆ ไม่ชอบ
“เอาเป็นว่าพวกเจ้าสามคนก็อธิบายถึงหลักการและเหตุผล รวมถึงบทลงโทษที่หนักหนาให้ชาวบ้านได้เข้าใจก็พอ หากจะมีคนเห็นแก่ตัวกล้าทำเรื่องชั่วช้าก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางการ อย่างไรเสียคนที่จะมาประจำอยู่ที่เมืองนี้ย่อมเป็นคนของข้า อย่าเพิ่งกังวลกับเรื่องที่ยังมาไม่ถึงจะดีกว่า” เฟยเทียนให้หยุนฟ่านส่งข่าวกลั
เมื่อใกล้จะถึงปลายยามเซินจำนวนชาวบ้านก็ลดลงไปมากแล้ว ยังเหลืออยู่ไม่เกินสามสิบคนก็จะเสร็จงานในวันนี้เสียที ซินเยว่ที่เห็นว่าทุกคนต่างทำงานเหนื่อยกันทั้งวัน จึงชวนลี่อินไปช่วยกันทำอาหารเย็นให้ทุกคนได้กิน เพื่อเป็นการตอบแทนความตั้งใจทำงานครั้งนี้พวกนางจึงลงมือทำอาหารหลายอย่างมาก ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด ม
“ใช่ไหมล่ะเจ้าคะ ดีกว่าอยู่แต่ในเมืองหลวงมองไปทางไหนก็คนหน้าเดิม หากเราได้เดินทางขึ้นเหนือล่องใต้มีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะเจ้าค่ะ รอจัดการปัญหาที่นี่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะเดินทางไปทะเลกันเสียทีแค่นึกถึงอาหารทะเล ก็อดที่จะน้ำลายสอไม่ได้เลยจริง ๆ เจ้าค่ะ”“อาหารทะเลเป็นอาหารแบบไหนหรือน้องสาวซินเยว่”“
“จะกลับก็รีบกลับสิจะมัวยืนกอดแขนข้าเช่นนี้ทำไม พวกข้าสองคนไม่เอาเงินชดเชยนั่นก็ได้ เพราะพวกเจ้าคงไม่มีปัญญาจ่ายหรอก ไปเป่าเอ๋อร์อย่าอยู่ที่นี่นานนักเลยเดี๋ยวนิสัยไม่ดีของคนพวกนี้จะติดตัวไปด้วย”“รีบไสหัวไปให้พ้นบริเวณบ้านของพวกข้าเสียที ทำตัวน่ารำคาญตั้งแต่มาถึงไม่พอยังทำตัวแย่ ๆ อีก ป่านนี้ท่านผู้ต
อาเจ๋อรีบขี่ม้าไปตามพวกจางซือหยวนที่หมู่บ้านของแต่ละคน โดยแจ้งรายละเอียดให้ทราบเพียงว่านายท่านมีงานด่วน ต้องการผู้ช่วยทั้งสามคนไปช่วยจัดการงานที่จวนเจ้าเมือง ครอบครัวของทุกคนย่อมเข้าใจดีเพราะบุตรหลานของตน มิใช่ลูกหลานชาวนาธรรมดาอีกต่อไปแล้วพวกเขาเป็นขุนนางของฮ่องเต้เมื่อถูกเรียกตัวต้องไปทันที แต่ขณ