“ทุก ๆ ท่านไม่ต้องตกใจทั้งสองท่านนี้ผู้หนึ่งคืออาลักษณ์หลวง เป็นผู้แทนฮ่องเต้มาควบคุมการสอบ และอีกท่านหนึ่งสตรีผู้มีใบหน้างดงาม ก็คือเซี่ยฮูหยินผู้เสนอให้สร้างสำนักศึกษาขึ้น เพื่อให้บุตรหลานของทุกท่านได้เข้าเรียนอย่างเท่าเทียมกันเจ้าค่ะ” เสี่ยวหลานที่เดินตามหลังซินเยว่กล่าวแนะนำเจ้านายต่อชาวบ้าน“โอ
“ท่านอาจารย์ทั้งหลายเห็นใจครอบครัวพวกข้าด้วยเถิด โปรดอย่าทำเช่นนี้เลยขอรับ ทุกคนต่างต้องการให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น บุตรหลานของพวกเราตั้งใจกับการสอบครั้งนี้มาก ขอพวกท่านอย่าทำลายความตั้งใจของบุตรหลานพวกเราเลย พวกข้าขอร้องทุกท่านจากใจโปรดหยุดทำเช่นนี้เถิดขอรับ”“หึ เห็นใจพวกข้าก็เห็นใจอยู่ห
เกิ้งซิ่นหลวนและหลั่วสือเหิงหลังจากกลับมาถึงจวนของตน ต่างก็มอบหมายงานนี้ให้กับคนสนิทของตนไปทำ กำชับอย่างดีว่าต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ และต้องทำให้เหล่าบัณฑิตอาวุโสเดินทางมาถึงเมืองหลวงในวันสอบได้ยิ่งดี เมื่อมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น ฮ่องเต้ต้องมีรับสั่งหยุดการสอบชั่วคราว เพื่อถกปัญหากับบรรดาบัณฑิตอา
“อืม เช่นนั้นพ่อจะนำเรื่องนี้กราบทูลให้ฝ่าบาททรงทราบ และขอความคิดเห็นจากพระองค์ด้วย แต่สิ่งที่สำคัญต้องตามหาต้นตอและจับตัวคนที่สร้างเรื่องนี้ให้ได้ ก่อนที่การสอบจะเริ่มขึ้นไม่เช่นนั้นการสอบอาจล่มได้ รบกวนเจ้าเรื่องนี้ด้วยนะอาเทียน”“ทราบแล้วขอรับท่านพ่อตา”“งั้นท่านพี่คุยกับลูก ๆ ไปก่อนนะเจ้าคะน้องจ
เพราะมั่นใจว่าจะต้องมีการโกงเกิดขึ้น กับคนที่สอบผ่านได้ด้วยการซื้อตัวบัณฑิตเพื่อโกงคำตอบอย่างแน่นอน ซึ่งหวงอี้ซวนเองก็ไม่ขัดที่จะใช้วิธีของบุตรสาวส่วนสนามสอบของสำนักศึกษาซินเยว่จัดให้เข้าสอบตามชั้นเรียน แบ่งการสอบเป็นสองแบบสอบอาจารย์สำหรับเด็กเล็ก และสอบอาจารย์สำหรับเด็กโตซึ่งข้อสอบไม่เหมือนกัน แต่
เจ้าเมืองคนใหม่ที่องค์ชายสี่ได้ส่งจดหมายมาถึงฮ่องเต้ ได้เดินทางไปถึงแดนใต้ตามเมืองที่ตนต้องไปดูแล พวกเขาเรียนรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากรายงานที่ซินเยว่และทุกคนทำไว้เพื่อจะได้เข้าใจและสานต่องานได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะคนที่ต้องไปเป็นผู้ช่วยเจ้าเมือง ที่โปชางไอ่ดูแลและมีนาเกลือจำนวนมาก ยิ่งต้องศึกษาข้อมูล