Beranda / โรแมนติก / พระชายาตำหนักเย็น / ตอนที่ 07 ข้าเป็นคนของตำหนักไทเฮา

Share

ตอนที่ 07 ข้าเป็นคนของตำหนักไทเฮา

Penulis: Jiraiyajung
last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-11 13:49:04

ทหารยามสองคนเดินมาหานางด้วยท่าทางนิ่งสงบ ในมือของพวกเขาถือดาบยาว สวมเกราะทอง คงเป็นองครักษ์หลวง แต่ที่แปลกไปคือ พวกเขาไม่รีบร้อนเหมือนครั้งแรกที่พบกับ

หลานเสวี่ยก้มหน้ามองพื้น เตรียมตัวเข้าไปในมิติถ้าหากเหตุการณ์ไม่สามารถควบคุมได้ อย่างน้อยให้พวกเขาเข้าใจไปว่าเธอเป็นวิญญาณก็ยังดี

“นางกำนัลตำหนักไทเฮา มาที่นี่มีเรื่องอันใดหรือ”

“ข้ามีเรื่องสำคัญต้องกราบทูลหน้าพระพักตร์ฝ่าบาท จึงมาที่นี่” 

หลานเสวี่ยเล่นไปตามน้ำ เพราะไม่คิดว่าชุดข้ารับใช้ที่นางแลกมา 5 คะแนนจะช่วยนางได้อย่างดี เมื่อมองหน้าทหารยามสองคนทั้งสองน่าจะเชื่อด้วย

แต่สายตา และ ท่าทางของสองทหารหนุ่มลายเป็นความประหม่าทันทีเมื่ออยู่ต่อหน้า สตรีที่งดงามเช่นนี้ พวกเขาทำตัวไม่ถูกแม่แต่ตอนพูดยังติดขัด พวกเขาไม่เคยเห็นสตรีนางใดจะงดงามเหมือนตอนนี้

“เช่นนั้น  ก็ตามข้ามาเถอะ”

“เจ้าค่ะ”

หลานเสวี่ยเดินตามเข้ามาในตำหนักอันกง เพราะทหารยามบอกว่าฝ่าบาทเสด็จไปตำหนักอันกงแล้ว เดินมาสักพักก็มาถึงตำหนักอันกง นางจึงกล่าวขอบคุณแล้วเดินเข้าไป เมื่อทหารยามประตูเห็นว่านางสวมชุดตำหนักของไทเฮา พวกเขาก็ยังต้องตรวจตราสัญลักษณ์ด้วย

หลานเสวี่ยมีจี้หยกที่ระบบให้มา ไม่คิดว่าจะช่วยได้ถึงขนาดนี้ แล้วสุดท้ายนางก็เขามาในตำหนักอย่างไม่คาดฝัน ไม่คิดว่าจะได้พบกับคนที่อยากจะสังหารตน และทำเรื่องโหดร้ายเช่นนั้น แค่คิดก็ขนลุกไปทั้งตัว

“นางกำนัล มีเรื่องอันใดหรือถึงมาดึกดื่นเช่นนี้” ฉ่างกงกง ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูเอ่ยถาม

หลานเสวี่ยย่อตัวทำความเคารพตามกฎระเบียบ เมื่อเจอคนที่ตำแหน่งสูงกว่า “ คารวะฉ่างกงกง”

ทันทีที่ใบหน้าของนางปรากฏขึ้น ฉ่างกงกงรู้สึกคุ้นหน้า แต่จำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ใด จึงคิดว่าคงเป็นนางกำนัลทั่วไปที่ตนเคยพบ

“ข้าน้อยมีเรื่องกราบทูลต่อฝ่าบาทเจ้าค่ะ”  ฉ่างกงกงจะยอมให้เข้าพบหรือเปล่านะ คงต้องวัดดวงกันแล้ว

ฉ่างกงกงเข้าไปในห้องไม่นานก็เดินออกมา ส่งสัญญาณให้นางเข้าไปได้ หลานเสวี่ยไม่รีรอเดินเข้าไปทันที นางไม่กลัวว่าเขาจะจำหน้าได้เพราะเจอกันไม่ถึงสองครั้ง อีกอย่างฝ่าบาทก็ไม่เคยเจอนางด้วยซ้ำ

เมื่อมาถึงก็เห็นฝ่าบาทนั่งอยู่ในห้องที่มีม้วนหนังสือมากมาย แถมตรงหน้ายังมีฎีกามากมายที่เขากำลังนั่งอ่าน แต่สิ่งที่ทำให้นางสนใจคงเป็นใบหน้าคมเข้ม ดูดีกว่าที่นางคิดเอาไว้มากนัก 

“มีอะไรก็รีบพูดมา” 

เสียงของเขาทำให้เธอตื่นจากภวังค์ แล้วรีบเอาจดหมายที่เขียนไว้เมื่อครั้งก่อน นางเอามาจากเหมย เพราะคิดว่าเผื่อมีโอกาสแบบนี้

หลานเสวี่ยก้มศีรษะทำความเคารพก่อนจะกล่าวสิ่งที่ตัวเองต้องการ “หม่อมฉันมีจดหมายมาส่งเพคะ”

“เอามาดูสิ” พูดโดยไม่มองหน้านาง เพราะสายตายังคงจดจ่อกับม้วนไม้ไผ่ในมือ ก่อนจะได้กลิ่นหอมของดอกไม้ที่ไม่เคยพบเจอ หอมอ่อนทำให้รู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ใกล้

หลานเสวี่ยก้าวเข้าไปใกล้ มือเรียวยื่นจดหมายให้อย่างนอบน้อม ทว่ายามที่มือของเขาสัมผัสกับความนุ่มนวลของมือนาง ทำให้สายตาคมจ้องมองใบหน้าสวยสง่าเข้าอย่างจัง หลงเยี่ยนที่เคยละเลยสตรี บัดนี้กลับต้องการมองหน้านางเสียเอง ร่างอรชร ใบหน้าเรียวสวย รับกับคิ้วโค้งงาม ดวงตาฉายแววดื้อรั้นในตัว ริมฝีปากเชิดเล็กน้อย จมูกโด่งน่าสัมผัส ทำรู้สึกปั่นป่วนในพระทัยอย่างบอกไม่ถูก 

แม้จะละเลยเรื่องสตรีแต่เขาก็ยอมรับนใจว่า นางคือหญิงงามที่สุดที่เขาเคยพบเจอ 

ดวงตาคู่สวยของนางสบตาเข้ากับพระเนตรของฝ่าบาท จนต้องก้มหน้าลงมองพื้นเช่นเดิม หลานเสวี่ยถอยออกมาก่อนจะยื่นมองพื้นอยู่อย่างนั้น หลังจากที่เขาอ่านจดหมายเธอก็ลุ้นว่าเรื่องจะเป็นอย่างไร

“เจ้าเป็นคนของตำหนักไทเฮา เหตุใดถึงรับจดหมายจากตำหนักเย็นได้ละ หรือเจ้าเป็นคนของพระชายาหลานเสวี่ย” น้ำเสียงเรียบนิ่ง

เป็นคนของพระชายาอย่างนั้นหรือ ดวงตาของเขามืดมนเมื่อพูดถึงชื่อนั้น ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องต้องคิดมาก เพราะเขาไม่เรียกทหารมาทันทีแสดงว่าต้องยอมรับเงื่อนไขได้อยู่แล้ว

“ฝ่าบาท หม่อมฉันจำใจต้องทำเช่นนี้ เพราะถูกร้องขอมานางเป็นสาวใช้ในตำหนักเย็น ขอฝ่าบาทจะให้ความเมตตา” คุกเข่าก้มหน้า แม้จะกัดฟันแน่นด่าเขาในใจก็ตาม

“เช่นนั้นหรอกหรือ เจ้ากลับไปได้แล้วถ้าในอีกเจ็ดวันไม่เป็นไปตามที่จดหมายเขียนไว้ ข้าคงต้องทำเช่นเดิม” 

“ขอบพระทัยฝ่าบาท หม่อมฉันขอทูลลา”

หลานเสวี่ยเดินออกมาด้วยความโล่งใจ ตอนอยู่ข้างในรู้สึกเหมือนจะหายใจได้ไม่ทั่วท้องเลย ทว่านางต้องหยุดเท้าที่กำลังเดินอยู่ เพราะเสียงของฝ่าบาท

“ช้าก่อน เจ้ามีชื่อว่าอะไรหรือ” 

หลานเสวี่ยจำต้องหมุนตัวโค้งคำนับก่อนจะพูดตอบ จะใช้ชื่อว่าอะไรดีละ 

“หม่อมฉัน จางเสี่ยวหลงเพคะ” ใช้ชื่อเดิมจะได้จำง่าย

“อืม ออกไปได้” 

ในที่สุดนางก็ออกจากตำหนักอันกงมาได้แล้ว จากนั้นก็ตรงมาที่วังหลัง ระหว่างทางนางเห็นตำหนักเล็กของนางสนมในวังก็ผุดความคิดหนึ่งขึ้นมา หาที่ลับตาคน แล้วเข้าไปในมิติ ตอนนี้มีคะแนน 480 นางจึงใช้แลก ครีมอาบน้ำขนาดจิ๋ว สามารถใช้ได้ สองสามครั้ง แลกมา10 ขวด ราคาแค่ 5 คะแนน 

จากนั้นก็เข้าไปในจวนของนางสนมที่นางเคยรู้จัก คนนี้นางเคยพบในความทรงจำเจ้าของร่าง ผู้ที่ชื่นชอบความสวยความงามเป็นที่สุด แถมยังมาจากครอบครัวร่ำรวยอีกด้วย บังเอิญที่ขันทีของนางกำลังจะออกมาข้างนอก

“คารวะ ไป๋กงกง” หลานเสวี่ยเข้าไปตีสนิท แล้วนางก็เดาถูกทันทีที่เห็นชุดนางกำนัลตำหนักไทเฮา มีแต่คนให้ความเคารพ แม้แต่ขันทีผู้มองนางกำนัลต่ำกว่า ยังโค้งคำนับแทบจะเทียบพื้น

“กูเหนียง มีอันใดให้ข้าน้อยรับใช้หรือ” 

“ไม่มีอะไรมากหรอก ข้าแค่มีเรื่องดี ๆ มาให้เจ้านายของเจ้า ไม่รู้ว่านางจะอยากรับหรือเปล่า”

ขันทีวัยกลางคนครุ่นคิดสักพัก ว่ามันคือสิ่งใด แต่หากเป็นตำหนักไทเฮาผู้ใดจะกล้าไม่รับ ดีไม่ดีอาจเป็นโอกาสที่เจ้านายของเขาจะได้เลื่อนขั้นอีกด้วย 

“ข้าน้อยเสียมารยาทไปแล้วถ้า เช่นนั้นขอเชิญกูเหนียงเข้ามาคุยข้างใน” ไป๋กงกง พูดด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า 

“เอาล่ะ ข้าเองก็ไม่อยากเสียเวลามาก ไป๋กงกง แค่มอบสิ่งนี้ให้เจ้านายของท่าน เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ส่วนวิธีใช้ข้าเขียนกำกับไว้ในกระดาษนี้แล้ว” หลานเสวี่ยเปิดขวดให้ไป๋กงกง สูดดมกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำจะได้ทำให้เขาเชื่อว่ามันคือของดีที่หาได้ยากยิ่ง

“สิ่งนี้หอมยิ่งนัก” 

“นี้เป็นแค่ขนาดทดลอง ถ้าหากเจ้านายของกงกงสนใจ พรุ่งนี้ให้แขนโคมไฟที่มุมกำแพงข้าจะเอาขนาดเหมาะสมมาให้ ส่วนราคาก็ตามความเหมาะสม” 

“เข้าใจแล้ว ข้าจะบอกตามที่กูเหนียงกล่าวมา” 

หลานเสวี่ยรีบออกมาทันทีที่ขายของเสร็จ แม้จะกลัวว่าจะถูกจับได้ แต่สถานการณ์มันเร่งรัด วันนี้อาจหนีรอดไปได้ แต่วันหน้าฮ่องเต้ผู้นั้นต้องไปปล่อยไปแน่

มาถึงสวนหลวงนางก็รีบมุดรูเข้าไปแล้วปิดประตูด้วยหญ้าแห้ง ค่อยเดินเข้าไปในจวน ทันทีที่นางเข้ามา หยางกับเหมยรีบวิ่งเข้ามาสำรวจร่างกายของนางด้วยความเป็นห่วง

“คุณหนูท่านบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่” 

“ทหารพวกนั้นไม่ได้ทำร้ายท่านใช่ไหม” 

เมื่อเป็นแบบนี้นางจึงเล่าเรื่องทุกอย่างให้สองคนฟัง จะได้เข้าใจ ทั้งสองคนที่รู้เรื่องก็ยิ่งเป็นห่วงเพราะกลัวจะถูกจับได้แล้วต้องถูกลงโทษ แต่หลานเสวี่ยก็ยืนกรานที่จะทำเพราะถ้าไม่ทำอะไร มีหวังรอความตายอย่างเดียว 

“พวกเจ้ายังไม่ทานอีกเหรอ อาหารเย็นหมดแล้ว” 

“บ่าวเอาไปอุ่นเองเจ้าค่ะ” 

เมื่อมีไฟจากถ่านก็ทำให้ชีวิตดูง่ายขึ้นเลย เดินมาหนาว ๆ พอเข้ามาในจวนก็อบอุ่นทันที หลานเสวี่ยรู้สึกว่าทุกกำลังจะไปได้ด้วยดีแท้ ๆ ถ้าไม่มีเรื่องของพิธีชำระบาปเข้ามาก่อน 

“ว่าแต่นี้คือสิ่งใดหรือ บ่าวไม่เคยเห็นมาก่อนเลยเจ้าคะ” หยางถามขึ้น พร้อมหยิบซาลาเปาขึ้นมาดู

“นั้นคือ ซาลาเปาไส้หมู อร่อยมากลองดูคนละชิ้น”  

วันนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีต่อฉลองด้วยซาลาเปา เพิ่มพลังกันเสียหน่อย

“อร่อยจริงด้วย อร่อยเช่นนี้คงเป็นของล้ำค่าแน่ ๆ จะดีหรือที่ให้พวกเราเช่นนี้” 

“จะเป็นอะไรไป เจ้าก็เป็นคนของเรา มีอะไรพวกเจ้าจะได้กินเป็นคนแรก ไม่ต้องดีใจไปยังมีอีกมากมายรอชิมได้เลย” 

“ข้าขอลองบ้าง อือ อร่อยจริง ๆ” 

เหมยกัดเข้าไปคำหนึ่งก่อนจะหายไปทั้งก้อนเพียงไม่นาน พวกนางสองคนไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาก่อน ยิ่งอาหารที่นี่รสชาติแย่มาก ๆ ได้กินซาลาเปาจากระบบถือว่าเป็นบุญปากของพวกนางแล้ว

“คุณหนูท่านรีบพักผ่อนเถิด อากาศหนาวเช่นนี้จะไม่สบายเอาได้" 

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปพักก่อน” 

หลานเสวี่ยเข้ามาในห้อง ก่อนจะเข้าไปในระบบ ตอนนี้พืชที่ปลูกไว้กำลังโตเต็มที่ นางจึงเก็บเกี่ยวใส่กระเป๋า วันนี้ปลูกแต่มันฝรั่ง เพราะเป็นอาหารฉุกเฉินได้ดีเยี่ยม เพราะแผ่นการครั้งต่อไปจำเป็นต้องใช้เป็นจำนวนมาก 

“ใช้คะแนน 500 สำหรับอัพเกรดระบบ”

(ระบบกำลังอัพเกรด อีกห้าชั่วโมงถึงจะสำเร็จ) 

หลังจากจัดการปลูกมันฝรั่งเสร็จ หลานเสวี่ยก็มาอาบน้ำให้สบายตัว สิ่งที่ดีที่สุดของการมาที่นี่คงจะเป็นการได้อาบน้ำในมิตินี้แหละ สบายตัวยิ่งกว่าอาบน้ำในอ่างราคาแพงในโลกปัจจุบันเสียอีก

ตำหนักเย็นที่เงียบสงบไร้ผู้คนเข้ามาเป็นเวลานาน นอกจากทหารยาม แต่ทว่าบัดนี้มีชายชุดดำร่างกายกำยำ ท่าทางสง่างาม สายตาจ้องมองคนในตำหนักตั้งแต่ครั้งแรกที่หลานเสวี่ยมาถึง หากแต่ว่านางไม่รู้ตัวก็เท่านั้น 

ร่างสูงยกยิ้มมุมปากก่อนจะหายออกมาจากตรงนั้น ราวกับว่าตรงนั้นเป็นเพียงอากาศเท่านั้น

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 53 แม่น้ำสองสายไม่มีทางบรรจบกัน

    หลานเสวี่ยเหนื่อยล้าจากการทำงานทั้งวัน แต่นางยังคงเป็นกังวลเรื่องหลงเยี่ยน แม้จะพยายามบอกตัวเองว่าไม่ควรสนใจ แต่ภาพของเขายังคงวนเวียนอยู่ในใจ ตลอดเวลาหลายวัน นางนอนพลิกไปพลิกมา เพราะเรื่องเขา ถ้าเป็นเมื่อก่อนป่านนี้คงกลับโลกเดิมไปแล้ว เพราะคะแนนเพียงพอ แต่นางยังคงรอให้เขากลับมาก่อน “หวังว่าเขาจะปลอดภัย” นางพึมพำก่อนหลับตาลงวันรุ่งขึ้นก็มีข่าวจากสนามรบมาถึงเมืองหลวง โดยมีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ได้ยินว่าท่านแม่ทัพบาดเจ็บ ก็ทำเอาหลานเสวี่ยใจคอไม่ดี รีบเตรียมน้ำวิเศษเอาไว้รอเขา ร่างเพรียวบางสวมอาภรณ์สีน้ำเงินอ่อน เดินไปมาหน้าจวนตั้งแต่ที่รู้ข่าวว่าได้รับชัยชนะนางก็มารอ แม้ทหารยามจะบอกว่าอีกสี่ห้าวันถึงจะมาถึงแต่นางไม่อาจอยู่นิ่งได้ ราวกับมีก้อนไฟที่สุมอยู่ในอกข้างซ้าย นางถึงขั้นนั่งรอตั้งแต่เช้ายันฟ้ามืด โดยหารู้ไม่ว่าหลงเยี่ยนมาถึงแล้ว แต่ใช้ประตูมิติไปที่ห้องหนังสือแทน พอรู้ว่านางรอเขาก็ได้แต่หัวเราะออกมา “ต่อให้ทำดี ข้าก็ไม่ใจอ่อนหรอกนะ” เขาได้แต่มองนางอยู่ข้างในจวนราวกับว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ความรู้สึก และความต้องการที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ทำให้เ

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 52 ออกรบอย่างเร่งรีบ

    เช้าตรู่ของวันใหม่ เสียงฝีเท้าหนักแน่นของทหารดังสะท้อนไปทั่วจวน ก่อนที่ทหารคนหนึ่งจะเดินเข้ามาในห้องหนังสือ ท่าทีเร่งรีบของ แม่ทัพเฉินพร้อมใบหน้าเคร่งขรึมเดินเข้ามา “กราบทูลท่านแม่ทัพ! ทัพศัตรูจากแคว้นกุ้ยโจว กับแคว้นหานโจวได้เคลื่อนพลประชิดชายแดนแล้วขอรับ!”หลงเยี่ยนที่กำลังอ่านรายงานอยู่ เงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาคมปลาบแสดงถึงความมุ่งมั่นที่เด็ดเดี่ยว ก่อนจะออกคำสั่ง “จัดเตรียมกองกำลัง ข้าจะออกไปบัญชาการศึกด้วยตัวเอง”แม่ทัพเฉินคำนับและออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อหลงเยี่ยนลุกขึ้นและเดินผ่านห้องโถง หลานเสวี่ยที่เพิ่งตื่นและได้ยินข่าวลือในจวน รีบตรงไปหาหลงเยี่ยน นางเอกก็แปลกใจอยู่หลายส่วน เพราะต้าเหยียนไม่ใช่เมื่อก่อนที่ขาดแคลนเสบียง แถมตอนนี้กำลังทหารน่าจะเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วนกุ้ยโจว กับ หานโจ คิดทำอันใดอยู่ถึงกล้าทำเช่นนี้ นางเดินมาส่งหลงเยี่ยนอย่างจำใจ ถ้าหากเขาออกไปแล้วนางก็จะไม่ขออยู่จวนแม่ทัพอีก “ท่านแม่ทัพ ข้าได้ยินว่าศัตรูมาประชิดชายแดน ท่านจะไปออกศึกหรือเจ้าค่ะ” น้ำเสียงของหลานเสวี่ยเจือความกังวล แม้จะพยายามปกปิดความดีใจของตน“เจ้าคงดีใจ และสาปแช่งให้ข้ามีอันเป็นไปกระมัง ถึงยิ้มออกน

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 51 บทรักต้องห้าม

    หลานเสวี่ยถูกกักบริเวณไว้ในจวนของแม่ทัพ นางไม่สามารถออกไปได้เพราะมีทหารเฝ้าอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะคะแนนความดีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ที่แปลกคือเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ราวกับว่านางเปิดร้านเป็นร้อยสาขาไม่นานก็ตกเย็นยังไม่เห็นเงาของหลงเยี่ยนเลย แต่ก็ดีนางคิดในใจ ก่อนจะเดินไปมาในจวน แล้วนึกขึ้นได้เมื่อเห็นทหารยาม“ข้าถามอะไรได้หรือไม่” นางเดินมาถามทหารยาม เมื่อเห็นว่าเป็นหลานเสวี่ย ทหารยามก็ทำความเคารพอย่างเคร่งครัด สงสัยคงไม่ได้รู้เรื่องของนาง นับว่าฮ่องเต้บ้าอำนาจยังเป็นคนดีอยู่บ้าง“มีอันใดให้ข้าน้อยรับใช้หรือขอรับ” ทหารยามก้มศีรษะลงเล็กน้อยเป็นการทำความเคารพ“แค่อยากถามเท่านั้นเอง แล้วท่านแม่ทัพหายไปไหนหรือ มืดค่ำเช่นนี้ยังไม่กลับมาอีก” สงสัยคงไม่อยากเจอหน้านางหรือ“ท่านแม่ทัพออกไปแจกเสบียงขอรับ” “เสบียงอะไรหรือ” “แม่นางคงยังไม่รู้ ท่านแม่ทัพเอาเงินส่วนตัวมาซื้อเสบียงแจกจ่ายให้กองทัพ เห็นที่ร้านสะดวกซื้อของท่านสินค้าคงไม่เหลือแล้ว” ทหารยามพูดไปยิ้มไป หลานเสวี่ยจึงพอเข้าใจ ที่แท้เป็นเขาเองหรือที่อยากให้นางกลับโลกเดิมเร็ว ๆ จนใช้วิธีนี้ ชิงชังกันขนาดนั้นเชียวหรือ นางกัดฟันแน่นคิดแล

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 50 เข้าหอย้อนหลัง

    ร่างเพรียวถอยห่างแต่ก็ถูกมือหนาคว้าเอาไว้ ไม่ยอมให้ริมฝีปากหวานหนีพ้น มือเล็กอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงต่อต้าน เสียงหัวใจพลันเต้นโครมครามราวกับกลองศึก เลือกในกายสูบฉีด ไปต่างจากคนตัวโตที่ทุบกำแพงสูงใหญ่ข้ามความกลัวของตัวเอง เพียงแค่ริมฝีปากสัมผัสกัน เขาก็สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ปล่อยนางไปอีกครั้ง ต่อให้นางยอมตรอมใจตายตามคนอื่น เขาก็จะชุบชีวิตนางขึ้นมา หลงเยี่ยนกอดรัดร่างแบบบางให้แนบชิดแผ่นอก ริมฝีปากหนักหน่วงดันลิ้นร้อนเข้าไปสำรวจโพรงปากหวาน หลานเสวี่ยตาเบิกกว้างเมื่อสัมผัสลิ้นนุ่ม ทว่าทุกอย่างราวกับสายฟ้าแลบ เพียงชั่วอึดใจ นางก็ถูกหลงเยี่ยนดูดดึงลิ้นเล็กอย่างเอาแต่ใจ ความหิวโหยหนักหน่วงไม่ลดละ เข้าไม่ปล่อยให้นางได้หลีกหนี ร่างสูงรวบตัวยาวขึ้นก่อนจะเดินไปที่ห้องนอน หลานเสวี่ยอายจนหน้าแดงก่ำ แต่นางกลัวมากเมื่อรู้ว่าถูกพาเข้ามาในห้อง“ฝ่าบาทจะมำอันใดหรือเพคะ...” นางพูดเสียงสั่นเครือ เรียกด้วยสถานะจริงของเขา “ทำเช่นนี้ไม่เหมาะกระมัง” หลานเสวี่ยไม่อยากฉวยโอกาส ใช้ร่างกายของคนอื่น แม้ว่าหัวใจนางจะปลิวละล่องไปตามเขาแล้ว“วันนี้เรามาเข้าหอกันใหม่ ข้าไม่ปล่อยเจ้าอีกแล้ว เป็นของข้าทั้งตัวทั้งใจเถิด

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 49 จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน

    หลงเยี่ยนกระชากแขนเรียวดึงเข้าหาตัว สายตาพลันจับจ้องดวงหน้าสวย ทั้งคู่มองตาไม่กะพริบ มือเรียวดันแผ่นอกเอาไว้ หลงเยี่ยนมองนางด้วยสายตาสับสน เหมือนความคิดของเขาที่ไม่ตรงกัน ยิ่งหลานเสวี่ยบ่ายเบี่ยงไม่ยอมบอกความจริง หัวใจของเขาพลันเจ็บแปลบขึ้นมา ใบหน้าคมสวยไม่กล้าสบตาคู่นั้น หันไปมองโคมไฟข้างฝาแทน แต่มือหนาประคองแก้มนวลให้หันมาสบตาเช่นเดิม“เจ้าไม่ไว้ใจข้าหรือ ถึงขนาดนี้เจ้ายังมองข้าเป็นคนอื่นหรือไร บอกความจริงเถิด” หลงเยี่ยนคิ้วขมวดเข้าหากันจนเป็นปม ใบหน้าแสดงออกถึงความสับสนและร้อนรุ่มในใจ แต่จะให้หลานเสวี่ยทำอย่างไร หากบอกไปชีวิตนางจะยังเหลือให้กลับบ้านอีกหรือ นางกลัวจนหัวใจเต้นระรัว ร่างกายแบบบางสั่นเทา “ข้าน้อยบอกไม่ได้...ข้าน้อยไม่มีทางคิดเป็นอื่น” นางกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ สายตาคู่งามยามจ้องมองฉายแววเศร้าหมอง คิ้วสวยหักลงยามที่นึกถึงชะตากรรมตัวเอง เขารักหลานเสวี่ยมากเท่าใดไม่ใช่ว่านางจะไม่รู้ หากทุกอย่างเปิดเผยถึงคราวนั้นชีวิตจางเสี่ยวหลงจะเป็นยังไง “เหตุใดถึงปากแข็งนัก แค่เจ้าพูดมาข้าก็ช่วยเจ้าได้ หรือที่เจ้าไม่พูดเพราะเกี่ยวกับกวนเหยาหมิง” หลงเยี่ยนพูดพลางบีบมือเรียวสุด

  • พระชายาตำหนักเย็น   ตอนที่ 48 ปากแข็งยิ่งนัก

    หลังจากเดินทางมายาวนานก็มาถึงเมืองหลวง หลานเสวี่ยที่ไม่มีอะไรทำมาหลายวันก็ตรงไปที่หอการค้าร้านสะดวกซื้อทันที ทว่าเมื่อนางมาถึงก็ทำให้ผู้คนตามสองข้างทางมองตามไม่กะพริบตา สตรีที่งดงามเช่นนี้มีในเมืองหลวงด้วยหรือ ทุกสายตาต่างสงสัยผู้คนรายล้อมมองดู ต่างก็ไม่รู้ว่านางเป็นคนตระกูลไหน การมาถึงของหลานเสวี่ยทำให้พ่อสื่อแม่สื่อมีงานล้นมือเป็นแน่ เพราะเหล่าชายโสดต่างติดต่อถามไถ่ถึงนางกันทั่วหน้า หลานเสวี่ยเดินไปไม่สนสายตาของผู้คน เหล่าชายหนุ่มตระกูลสูงศักดิ์หรือสามัญชนคนธรรมดาก็ไม่อยู่ในสายตา เพียงแค่นางก้าวเดินคนก็พร้อมจะเปิดทางให้อย่างเต็มใจ จนมาถึงหอการค้าของตน คนคุ้มกันก็ยืนทำหน้าที่อย่างทุกวันแต่วันนี้คนคุ้มกันตกตะลึงจนหันไปมองตาม แค่นางเข้ามาในร้านยิ่งดูโดดเด่น เสี่ยวเอ้อร์ในร้านต่างก็มาให้การบริหารอย่างเต็มใจ ใบหน้ายิ้มแย้ม พวกเขาถามกันไปมาว่าแม่นางผู้นี้เป็นคุณหนูบ้านไหนกัน เพราะไม่เคยเห็นมาก่อนเลย“แม่นางต้องการสิ่งใดบอกข้าน้อยได้เลยขอรับ” หลานเสวี่ยยิ้มอย่างเบาบางแต่ไม่ตอบอะไร เพราะเป็นหน้าที่ของหยางในการเปิดเผยเรื่องนี้ “ทุกคนมารวมตัวกันตรงนี้ ข้ามีเรื่องจะแจ้ง” หยางได้ส่งจดหมายใ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status