เวลาพลบค่ำณัฐพงษ์ที่มาถึงยังสถานที่นัดแนะก่อนใครเพื่อน เข้ามานั่งที่โต๊ะวีไอพีโต๊ะเดิม ซึ่งเป็นโต๊ะประจำของพวกเขา เพลย์บอยหนุ่มเจ้าสำราญสั่งเครื่องดื่มมาดื่มรอมิตรสหายที่ยังมาไม่ถึง ชายหนุ่มนั่งดื่มอยู่คนเดียวไปพลาง ๆ ดวงตาระยิบระยับก็กวาดมองดูสาว ๆ ที่เดินเฉิดฉายไปมาอย่างถูกใจ หวังไว้ว่าคืนนี้จะได้กลับไปสักคนสองคน คนเจ้าชู้นั่งมองสาว ๆ ไปได้พักใหญ่ ร่างสูงของใครคนหนึ่งก็เดินมาบังหน้าอย่างกวน ๆ
“โอ้โห กว่าจะเสด็จมาได้นะไอ้หมอคี”
เพลย์บอยหนุ่มเปิดฉากแขวะหมอคีรินทร์ด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาท เมื่อเห็นว่าเป็นเพื่อนรักของเขา
“คนไข้เยอะนี่หว่า จะให้ทำไงได้ล่ะ ข้ามาได้ก็บุญเท่าไหร่แล้ว เออ แล้วนี่ไอ้สิบมันยังไม่มาอีกเหรอวะ ข้าว่าข้ามาช้าแล้วนะเนี่ย”
ร่างสูงของคุณหมอหนุ่มนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้าม แล้วบริการรินเครื่องดื่มใส่แก้วให้ตัวเอง
“เดี๋ยวมันก็มา เอ็งนี่นะหายไปหลายวัน เลยอดรู้ข่าวเด็ดของไอ้สิบเลย”
นักข่าวจำเป็นเริ่มเปิดประเด็นเด็ด หมอคีรินทร์ก็หูผึ่งทันที
“ข่าวอะไรวะ มันจะสละโสดหรือไง” คุณหมอหนุ่มพูดขำขัน
“เปล่า เพียงแต่ตอนนี้มีสาวสวยหุ่นดีมาตามตื๊อมันอยู่ แต่มันดันไม่สนว่ะ ข้านะรู้สึกเสียดายแทนมัน ไม่รู้มันโง่หรือมันบ้ากันแน่ สวย ๆ อย่างนี้เป็นข้าหน่อยไม่ได้ จะจับขึ้นเตียงให้สลบคาอกไปเลย”
พ่อหนุ่มนักรักพูดแล้วก็รู้สึกเสียดายแทน
“เฮ้ย จริงเหรอ อย่างไอ้สิบเนี่ยนะ จะไม่สนใจสาวสวย มันกินยาผิดขนาดหรือเปล่าวะ”
หมอคีรินทร์แทบไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ณัฐพงษ์เล่ามา พวกเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายปี ย่อมรู้กิตติศัพท์ของสิบทิศดีกว่าใคร ว่าชายหนุ่มไม่ได้เป็นคนแบบนี้
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่คุณผิงดูเธอรักไอ้สิบมากเลยนะเว้ยไอ้หมอคี ขนาดเพิ่งเจอกันไม่กี่วัน เธอยังเอาใจไอ้สิบสารพัด รู้ทุกอย่างว่ามันชอบอะไรไม่ชอบอะไร เอ็งลองคิดดูสิ กว่าจะมีผู้หญิงดี ๆ ที่เอาใจใส่เราขนาดนี้สักคน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะเว้ย”
“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ อิจฉามันจังเลยว่ะ” คนไร้คู่รำพัน
“แหม เอ็งจะไปอิจฉามันทำไมวะ ข้าได้ข่าวมาว่าที่โรงพยาบาลมีคุณหมอมาใหม่ไม่ใช่เหรอ สวย น่ารัก แล้วก็นิสัยดีจนคนไข้ติดแจ ขนาดว่าเจ้าของโรงพยาบาลยังแอบมองเธอเลย”
น้ำเสียงยียวนพูดขึ้น สายตาวิบวับก็มองหน้าคุณหมอหนุ่มอย่างล้อเลียน จนหมอคีรินทร์อยากจะลุกขึ้นกระโดดขาคู่ถีบคนชอบกวนตกโซฟา เอาให้อายสาว ๆ โต๊ะข้าง ๆ ไปเลย
“ไอ้นี่ ทำเป็นรู้มาก เดี๋ยวเถอะ” หมอคีรินทร์ขู่ฟ่อ
“แล้วจริงไหมล่ะ เฮ้อ อยากรู้จังว่าคุณหมออะไรนะ อ๋อ คุณหมอแพม จะน่ารักน่าหยิกขนาดไหน เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องแว๊บไปดูสักหน่อย”
ณัฐพงษ์ยังคงเล่นลิ้น
“ไอ้ณัฐ!”
คราวนี้เสียงเข้มเรียก แต่คนทะเล้นก็ไม่ได้นึกกลัวแต่อย่างใด กลับหัวเราะร่วนอย่างชอบใจมากกว่าที่สามารถแกล้งเพื่อนได้
“แค่นี้ก็ทำเป็นโกรธ อะไรวะของของเพื่อนก็เหมือนของของเรานะเว้ย ผลัดกันชมไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้โว้ย ของของข้าอย่าบังอาจมาแตะ คนนี้ข้ารักจริงหวังแต่งนะบอกไว้ก่อน”
หมอคีรินทร์ประกาศเสียงดังฟังชัดด้วยความหวง
“เออ หวงจริงวุ้ย ข้าไม่แกล้งแล้วก็ได้ ยังไงก็ขอให้เอ็งจีบให้ติดเร็ว ๆ นะเว้ย”
เพลย์บอยหนุ่มอวยพร เพราะเท่าที่ได้ยินมา คุณหมอคนสวยดูท่าจะไม่เล่นด้วยกับเพื่อนของเขา อาจจะเป็นเพราะว่าเธอรู้จักเจียมเนื้อเจียมตัว เพราะหมอคีรินทร์นั้นเป็นถึงเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ส่วนเธอเป็นเพียงหมอจบใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานเท่านั้น
“เฮ้ย ไอ้สิบมาแล้วว่ะ”
ณัฐพงษ์ที่เห็นก่อนใครโพล่งขึ้น หมอคีรินทร์จึงหันไปมองตามสายตาของหนุ่มจอมทะเล้น
“ไงวะไอ้สิบ มัวแต่ไปกล่อมคุณผิงคนสวยนอนอยู่หรือไง ถึงเพิ่งมาเอาป่านนี้”
เพลย์บอยหนุ่มเจ้าสำราญเย้าหยอกสิบทิศ
“ไอ้บ้า ไอ้ปากหมา รถมันติดโว้ย”
คนถูกใส่ความตีโพยตีพายยกใหญ่ เล่นเอาเพื่อนทั้งสองต้องประสานเสียงหัวเราะดังลั่น
“อ้าว ไหงวันนี้คุณหมอคีรินทร์ถึงมาร่วมสังสรรค์กับเพื่อนได้ล่ะครับ”
สิบทิศแสร้งตีหน้าขรึมพูดกับคุณหมอรูปหล่อ ที่พักหลัง ๆ ไม่ค่อยว่างตรงกันสักเท่าไหร่
“ทำมาเป็นพูดเพราะกับข้า เดี๋ยวจะโดนถีบโครมเข้าให้ ไอ้นี่”
ขายาว ๆ ของหมอคีรินทร์ยกขึ้นทำท่าจะถีบ สิบทิศที่ระวังตัวอยู่แล้วก็รีบกระโดดหนีบาทาโดยอัตโนมัติ
นายแพทย์คีรินทร์ บดินทร์เดชา หรือหมอคี คุณหมอหนุ่มรูปหล่อเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขากระจายไปทั่วทุกภาคของประเทศ ขวัญใจนางพยาบาลและคนไข้สาว ๆ ทั้งหลาย ที่อยากจะมาตรวจภายในกับคุณหมอสูตินรีสุดหล่อกันไม่หวาดไม่ไหว
“เป็นไงบ้างวะ ไม่ได้เจอหน้าเอ็งตั้งหลายวัน ได้ข่าวว่ามีสาวตามตื๊อเหรอวะ”
หมอคีรินทร์เปลี่ยนอาชีพมาเป็นตำรวจชั่วคราว สอบปากคำผู้ต้องหาอย่างใคร่รู้
“ข่าวไวยิ่งกว่าฮอตนิวส์อีกนะไอ้ณัฐ”
ดวงตาคมถลึงมองณัฐพงษ์ที่นั่งยิ้มหวาน พร้อมกับยักคิ้วหลิ่วตาให้เขาอย่างกวนโอ๊ย เห็นแล้วทำเอาสิบทิศเท้ากระตุก อยากจะถีบเพื่อนรักจอมกวนของเขาให้ตกโซฟาสักทีสองที
“ก็ตามที่มันเล่านั่นแหละ”
น้ำเสียงทุ้มบอกอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก
“อย่ามาเฉไฉไอ้สิบ บอกมาซะดี ๆ เห็นไอ้ณัฐมันบอกว่าสวยซะด้วย แต่ข้าสงสัยว่าทำไมเอ็งถึงไม่สนใจเธอ ทั้งที่เธออุตส่าห์เดินมาให้เชือดถึงที่ขนาดนี้ ถ้าเอ็งเอาไปกกเล่นสักคืนสองคืน แล้วค่อยสลัดทิ้งเหมือนที่เอ็งเคยทำก็ได้นี่หว่า”
คุณหมอหนุ่มคาดคั้นเอาความกับสิบทิศ เพราะนี่ไม่ใช่นิสัยของชายหนุ่มเลยสักนิดเดียว
“จริงอย่างที่ไอ้หมอคีมันบอกนะเว้ย หุ่นคุณผิงเงี้ยโคตรน่าฟัดเลย ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งน่าสัมผัส ปากก็น่าจูบ แถมหน้าอกหน้าใจนะ โอ๊ย เห็นแล้วอารมณ์หื่นกระจายว่ะ ว่าไง เปลี่ยนคำพูดตอนนี้ก็ยังไม่สายนะเพื่อน”
คนชอบสอดส่องพิจารณาเรือนร่างผู้หญิงเป็นชีวิตจิตใจ ออกแนวสนับสนุนมากกว่าจะคาดคั้น
“ไม่เห็นจะต้องสนเลย ข้าอยากได้หุ่นแบบไหน แค่กระดิกนิ้วทีเดียว ขี้คร้านพวกผู้หญิงจะมาต่อคิวกันยาวเหยียด อีกอย่างพวกเอ็งไม่รู้อะไร ตรีชฎาน่ะสนิทกับแม่ข้านะโว้ย แถมแม่ข้านะยังคอยยัดเยียดเธอให้ข้าเมื่อมีโอกาส ขืนข้าเอาแม่นี่ไปกกเล่น มีหวังได้โดนคุณแม่จับแต่งงานกับตรีชฎาแน่ ข้าไม่เอาด้วยหรอก ต่อให้บนโลกนี้มีตรีชฎาคนเดียว ข้าก็ไม่มีวันเอาผู้หญิงเน่าเฟะอย่างเธอมาเป็นแม่ของลูกข้าหรอก ฮึ่ย! แค่คิดก็ขยะแขยงเต็มทน”
ใบหน้าคมสันแสดงสีหน้าขยะแขยงอย่างเห็นได้ชัด
จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากบางเฉียบ ซุกไซ้ซอกคอขาวเนียน สูดดมความหอมละมุนจากกลิ่นกายของภรรยาสาว ยิ่งได้กลิ่นก็ยิ่งคลั่งไคล้ในตัวเธอ ลิ้นอุ่นชื้นไล้เลียละเลียดไปตามผิวเนื้อนวลลออราวกับกำลังกินเค้กหน้านิ่มก็ไม่ปาน“เมียผมหอมจังเลย”เขาค่อย ๆ แทะเล็มขบเม้มทั่วลำคอระหง ใช้ปากร้อนงับติ่งหูของเธอสลับกับไล้ปลายลิ้นไปตามใบหูช้า ๆ จนตรีชฎาต้องหลับตาพริ้ม เบี่ยงหน้าไปอีกทาง เพราะความสยิวลามไปทั่วกลางหลัง ก่อนที่เขาจะจูบพรมไล่ตามซอกคอลงมาถึงเนินอกอวบอิ่มสิบทิศดึงเชือกคล้องคอชุดของขวัญวาบหวิว จับรั้งโบตรงช่วงอกลงมาให้เต้าทรวงหลุดออกจากพันธนาการฝ่ามือหนากอบกุมข้างหนึ่ง เคล้นคลึงเบา ๆ ก่อนใช้ปลายนิ้วสะกิดยอดอก อีกข้างก็ใช้ริมฝีปากครอบครอง ดูดดื่มปทุมถันอย่างหิวกระหาย“นมผิงอร่อยที่สุดเลย”เสียงทุ้มพร่าเอ่ยชม ลิ้นหนาตวัดเลียเม็ดบัวสีหวาน ซึ่งเป็นจุดกระตุ้นอารมณ์ของเมียรักได้เป็นอย่างดี“คุณสิบขา”ดวงตากลมโตหยาดเยิ้มปรือมองดูสามีกำลังดูดเลียปลายถันที่แข่งกันชูชันทั้งสองข้างของเธออย่างเมามัน เขาปลุกเร้าเธอจนเสียวซ่าน เสียงหวานครางเบา ๆ แอ่นอกประเคนตัวเองอยากให้เขาใช้ปากอันร้อนรุ่มสัมผัสปทุมถันของเธอซ้
‘อย่าลืมนะครับ คืนนี้เรามีนัดแกะของขวัญกัน’ตรีชฎานึกถึงประโยคที่สามีย้ำเตือน ก่อนที่เธอจะเข้ามาอาบน้ำ หญิงสาวมองดูตัวเองในกระจกแล้วก็ต้องอมยิ้มให้กับชุดของตัวเองของขวัญที่สิบทิศพูดถึงหมายถึงตัวเธอ เป็นของขวัญวาเลนไทน์ที่เขาควรจะได้เมื่อวานแต่ก็ไม่ได้ เพราะติดที่ลูก ๆ มานอนด้วย เธอเลยต้องเลื่อนวันมาให้เขาในคืนนี้แทน“ผลัวะ” เสียงเปิดประตูห้องน้ำ ทำให้ร่างสูงที่สวมชุดนอนกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงกว้างต้องหันมามองโดยอัตโนมัติภาพที่ปรากฏในดวงตาคมกริบ สิบทิศถึงกับคำรามในลำคอทันที ร่างบางระหงในชุดผูกคอ ช่วงอกแต่งเป็นโบขนาดใหญ่ทำด้วยผ้าสีแดง ปล่อยห้อยชายผ้าลงมาตรงหน้าท้องแบนราบ มีสายเส้นเล็กสองเส้นแนบขนาบลำตัว เชื่อมโยงกับกางเกงชั้นในที่เป็นแค่ผ้าสามเหลี่ยมเล็ก ๆ ปกปิดจุดสงวน กำลังเยื้องกรายมาหาเขาแค่เห็นเลือดในกายก็พุ่งพล่าน ปลุกให้ความเป็นชายแข็งผงาด ทั้งที่ยังไม่ได้สัมผัสร่างกายกันด้วยซ้ำ ให้ตายเถอะนี่เขากำลังจะได้เมียผูกโบของแท้“ชุดอะไรของผิงเนี่ย”สิบทิศดีดตัวลุกนั่งทันทีที่ภรรยาสาวก้าวขึ้นเตียงมานั่งใกล้ ๆ ไล่มองชุดตั้งแต่บนลงล่างไม่วางตา ก่อนจะรั้งตัวเธอให้มานั่งคร่อมตักแกร่ง“ก็
“คุณสิบจะแกะเส้นนี้ออกทำไมคะ” เสียงหวานท้วง“อ้าว ก็นี่มันแค่สร้อยลูกปัดธรรมดา เอาออกเถอะครับ เดี๋ยวผมจะใส่เส้นนี้ให้แทน”“ไม่เอาค่ะ กำไลเส้นนี้เป็นเส้นแรกที่คุณสิบซื้อให้ผิง มันเป็นความประทับใจนะคะ”เขาปลาบปลื้มใจในคำตอบของเธอ จนอยากมอบจูบหวาน ๆ สักจูบสองจูบเพื่อเป็นรางวัล กำไลลูกปัดเส้นนี้ เขาซื้อให้เธอเมื่อครั้งไปฮันนีมูนครั้งแรก แม้เวลาจะผ่านมาหกปีแล้ว เธอก็ยังใส่ติดตัวไว้ตลอด แถมยังรักษาไว้เป็นอย่างดีอีกด้วย“ก็ได้ครับ ไม่ถอดก็ได้ งั้นผมใส่เส้นนี้ให้เลยแล้วกันนะครับที่รัก”ว่าแล้วสิบทิศก็สวมกำไลข้อมือราคาแพงให้ภรรยาคนสวย แล้วยกมือบางขึ้นจูบแผ่วเบา“ขอบคุณค่ะ ผิงก็มีของขวัญให้สามีของผิงเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวนะคะ ขอผิงหยิบก่อน”ตรีชฎาวางช่อดอกกุหลาบ เดินไปหยิบของขวัญที่เตรียมไว้ให้สามีสุดที่รัก ซึ่งเป็นปากกาด้ามทอง สลักชื่อเธอกับเขาไว้ด้วยกัน“ปากกาด้ามนี้ คุณสิบต้องเอาติดตัวตลอดนะคะ ผิงรักสามีที่สุดเลยค่ะ”เธอยื่นปากกาสวยหรูให้เขา โถมตัวกอดเขาด้วยความรักสุดหัวใจ แล้วจูบปลายคางอย่างออดอ้อน“ขอบคุณนะครับที่รัก เอ ผมให้ของขวัญผิงตั้งสองอย่าง แต่ผิงให้ผมแค่อย่างเดียวเองนะครับ”“อ้าว ผิงม
“ฮือ ๆ ฮือ ๆ”ไอ้เสือน้อยที่กำลังยื่นลูกโป่งให้น้องสาว หันไปตามเสียงสะอึกสะอื้น นัยน์ตาสุกใสเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนพื้น ร้องไห้งอแงไม่ยอมหยุด แถมที่หัวเข่าก็ถลอกแดงเหมือนหกล้ม เด็กชายสรวิศจึงรีบเดินเข้าไปหา ซึ่งเด็กหญิงสิราวรรณก็เดินตามไปด้วย“น้องหกล้มเหรอครับ เป็นอะไรมากไหม ขอพี่ผลดูหน่อยนะครับ”มือเล็กของไอ้เสือน้อยจับหัวเข่าของเด็กหญิงเพื่อสำรวจดู แต่ร่างเล็กก็สะดุ้งชักขาออกทันที“เจ็บ ฮือ ๆ ฮือ ๆ”เสียงเล็กใสสะอึกสะอื้นไห้ด้วยความเจ็บ “พี่ผล เราจะทำยังไงกันดี น้องหกล้มจนหัวเข่าถลอกเลย อ้อ น้องผักบุ้งนึกออกแล้ว เดี๋ยวน้องผักบุ้งไปตามคุณพ่อคุณแม่มาดูน้องนะคะ”ริมฝีปากจิ้มลิ้มเจื้อยแจ้วบอกพี่ชาย ก่อนจะรีบวิ่งไปตามบิดามารดาที่อยู่ในร้านไอศกรีม“ไม่ร้องนะครับคนเก่ง เดี๋ยวก็หายเจ็บแล้วครับ”เด็กชายสรวิศปลอบประโลมเด็กหญิง เหมือนที่คุณพ่อกับคุณแม่ชอบปลอบเวลาเขาหกล้มเสมอ เมื่อเห็นน้ำตาที่เปรอะเปื้อนใบหน้าเล็ก มือน้อยจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อนักเรียน มาเช็ดน้ำตาให้เด็กหญิง“พี่ผล คุณพ่อกับคุณแม่มาแล้วค่ะ”น้องผักบุ้งวิ่
“รักเหรอครับ เหมือนที่น้องผลกับน้องผักบุ้ง รักคุณพ่อกับคุณแม่ใช่ไหมครับ”ริมฝีปากสีแดงสดคลี่ยิ้มให้บิดามารดาอย่างน่ารัก มือหนาจึงเอื้อมมาลูบศีรษะทุยของลูกชายเบา ๆ“ไม่ใช่ครับลูก มันไม่เหมือนกัน รักของน้องมินที่มีให้น้องผล ก็เหมือนกับที่พ่อมีให้คุณแม่ไงครับ อืม เอาไว้น้องผลโตขึ้น เดี๋ยวน้องผลก็จะเข้าใจเอง หมดข้อสงสัยหรือยังเจ้าตัวแสบ ไปกินไอศกรีมกันดีกว่านะลูก”สิบทิศอุ้มเจ้าตัวแสบที่ยังคงทำหน้าสงสัยขึ้นรถ ตามด้วยลูกสาวคนสวย ก่อนจะเปิดประตูให้ภรรยาสาว ส่วนตัวเขาก็เดินอ้อมไปขึ้นรถทางฝั่งคนขับ แล้วขับรถออกจากโรงเรียนไปยังห้างสรรพสินค้าทันทีครอบครัวธาราธรณ์พากันมาร้านไอศกรีมที่ตกแต่งด้วยสีสันน่ารัก สิบทิศเลือกที่นั่งด้านใน ซึ่งเป็นโต๊ะโซฟายาว น้องผลนั่งฝั่งเดียวกับคุณพ่อสุดหล่อ ส่วนน้องผักบุ้งก็นั่งฝั่งเดียวกับคุณแม่คนสวย“พี่สาวคนสวยครับ น้องผลเอารสช็อกโกแลตนะครับ เอาแบบรูปนี้เลยครับ”เมื่อพนักงานในร้านมารับออร์เดอร์ เด็กชายสรวิศก็สั่งไอศกรีม พร้อมกับชี้รูปในเมนูให้ดู“น้องผักบุ้งจะทานไอศกรีมรสสตรอว์เบอร์รีค่ะ เอาแบบเดียวกับพี่ผลด้วย”นางฟ้าน้อยบอกพนักงานเสิร์ฟเจื้อยแจ้ว“คุณแม่จะทานรสอ
“พี่ผล”เสียงเล็กใสของใครคนหนึ่งเรียกชื่อไอ้เสือน้อย เจ้าตัวเลยต้องหันไปตามเสียง แล้วส่งยิ้มให้คนที่ยืนเหนียมอายอยู่ตรงประตูห้องเรียน“อ้าว น้องมิน ยังไม่เข้าเรียนอีกเหรอ”เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยถามน้องมินที่เรียนอยู่คนละชั้นปีกับตน ก่อนจะเดินไปหาร่างเล็กในชุดกระโปรงแบบเดียวกับน้องสาว เด็กน้อยหางเปียติดกิ๊บรูปกระต่ายสีชมพู ยื่นดอกกุหลาบให้เด็กชายสรวิศ ก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองหน้าเด็กชาย“น้องมินให้พี่ผลค่ะ”ไอ้เสือน้อยเจ้าเสน่ห์ยื่นมือมารับดอกกุหลาบจากมือเล็ก เพียงเท่านั้นเด็กหญิงตัวเล็กก็รีบวิ่งหนีไปอย่างเขินอาย นัยน์ตาสีนิลมองตามหลังเด็กหญิงด้วยความไม่เข้าใจ ว่าทำไมจะต้องวิ่งหนีเขาด้วยเวลาบ่ายสามโมง สิบทิศกับตรีชฎาก็มารับลูกชายลูกสาวเฉกเช่นทุกวัน ทั้งสองจะมารับลูกด้วยตัวเองเสมอ นอกเสียจากว่าวันไหนติดธุระไม่สามารถมารับลูก ๆ ได้ สิบทิศถึงจะส่งบอดี้การ์ดของเขามารับลูก ๆ แทนเจ้าหนูน้อยทั้งสองวิ่งมาหาคุณพ่อคุณแม่พร้อมด้วยของพะรุงพะรัง ไอ้เสือน้อยกับนางฟ้าน้อยหอมแก้มผู้เป็นบิดามารดา ก่อนจะถูกคุณพ่อยังหนุ่มกับคุณแม่ยังสาวหอมแก้มนุ่มนิ่มกลับคืน“น้องผล ของอะไรน่ะลูก ทำไมถือมาเต็มมือไปหมดอย่างนี