“อ้อ ที่แท้ก็เพราะเหตุนี้นี่เองหรอกเหรอ เอ็งถึงไม่อยากยุ่งกับคุณผิง แต่ข้าว่าเอ็งก็ใส่ความเธอเกินไป ดูหน้าไม่รู้ใจนะเว้ยไอ้สิบ เห็นสวยเอ็กซ์อย่างนี้ อาจจะยังบริสุทธิ์อยู่ก็ได้ คุณผิงเธอดูใสซื่อเหมือนเด็ก ๆ จะตายไป”
ณัฐพงษ์ออกความเห็น
“หึ มารยาล่ะสิ เอ็งก็เห็นอยู่ว่าคุณเธอเต้นยั่วผู้ชายขนาดไหน ถ้ายั่วได้ขนาดนั้น ข้าว่าไม่เหลือแล้วล่ะ คงจะถูกหิ้วไปนอนที่โน่นที่นี่ จนรถไฟวิ่งเข้าไปกลับลำได้แล้วละมั้ง”
วาจาเผ็ดร้อนเช่นนี้ ถ้าตรีชฎาได้ยินคงจะสะอึกจนพูดไม่ออกไปเลยทีเดียว
“ไอ้สิบ ปากเอ็งนี่นะ ข้าน่าจะพาเอ็งไปผ่าตัดเอาหมาออกจากปากสักหน่อย เธอเป็นผู้หญิงนะเว้ย ถึงจะเป็นคนดีหรือไม่ดี เอ็งก็น่าจะให้เกียรติเธอบ้าง ข้าไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมเอ็งจะต้องไปว่าเธอเสีย ๆ หาย ๆ อย่างนั้น เธอก็ไม่ได้ไปทำอะไรให้เอ็งไม่พอใจนี่”
หมอคีรินทร์ที่นั่งฟังมานานเอ่ยขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ ขนาดเขายังไม่ทันได้รู้จักเธอ เขาก็รู้สึกสงสารเธอจับใจเสียแล้ว ที่เพื่อนเขามันปากเสียด่าทอเธอไม่ไว้หน้าเช่นนี้
“ก็ข้าไม่ชอบยายนั่นนี่ ทั้งน่าเกลียดน่าขยะแขยง”
อย่าว่าแต่คนอื่นไม่เข้าใจเลย แม้แต่เขาเองก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน สิ่งเดียวที่เขารู้ก็คือ
‘เขาไม่ชอบเธอ’
รถสปอร์ตสีดำคันหรูแล่นเข้าสู่คฤหาสน์หลังใหญ่โต ผ่านประตูรั้วเหล็กดัดลวดลายสวยงาม กำแพงด้านหน้ามีป้ายฉลุว่า ‘บ้านธาราธรณ์’ ซึ่งบ่งบอกได้เป็นอย่างดี ว่าเจ้าของคฤหาสน์หลังงามที่สุดในย่านนี้คือใคร
สองข้างทางขนาบข้างด้วยสนามหญ้าผืนใหญ่สีเขียวขจี มีดอกไม้ปลูกไว้หลากหลายสี ชูดอกออกผลสวยงาม ส่งกลิ่นหอมระทวยไปทั่ว กึ่งกลางหน้าตัวบ้าน ตกแต่งด้วยบ่อน้ำพุหินอ่อนรูปปั้นหงส์สีขาวบริสุทธิ์
สปอร์ตคันงามขับเคลื่อนตามทางมาจอดสนิทอยู่หน้าทางเข้าตัวคฤหาส์น ก่อนจะดับเครื่องยนต์ ร่างสูงสง่าจึงเปิดประตูรถก้าวลงมา
“นายกลับมาแล้วเหรอครับ”
คเชนท์บอดี้การ์ดมือขวาคู่ใจของสิบทิศ รีบกระวีกระวาดวิ่งออกมารับเจ้านายหนุ่ม หลังจากเลิกงานสิบทิศก็สั่งให้บอดี้การ์ดหนุ่มทั้งสองกลับมาที่บ้านเลย โดยไม่ต้องตามเขาไปที่ผับ
“ก็กลับมาแล้วสิวะ ไอ้นี่ ถามแปลก ไม่อย่างนั้นจะเห็นฉันยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้เหรอฮะไอ้คเชนท์” สิบทิศบอกหน้ายุ่ง
“แหะ ๆ จริงด้วยครับ”
บอดี้การ์ดหนุ่มยิ้มแหยกับคำตอบที่ได้รับจากผู้เป็นนาย
“แล้วไอ้เตชินท์มันหายหัวไปไหนล่ะ”
สายตาดุจพญาเหยี่ยวมองหาบอดี้การ์ดมือซ้ายคู่ใจของตน
“อ้อ ไอ้เตมันเดินไปตรวจดูหลังบ้านครับนาย ผมก็เลยมารอรับนายคนเดียว”
คเชนท์ตอบข้อสงสัยของเจ้านายหนุ่ม ถึงแม้รอบบ้านจะมีบอดี้การ์ดคอยเฝ้ากันมากมาย แต่เพื่อความปลอดภัยและรอบคอบ เตชินท์จึงเดินไปตรวจดูเอง
“อืม”
สิบทิศครางในลำคอ พร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย แต่ละคนช่างสมกับเป็นบอดี้การ์ดของเขาเสียจริง
“คุณแม่ขึ้นนอนแล้วเหรอ”
เสียงทุ้มถาม เมื่อไพล่นึกไปถึงมารดา เพราะเขามีเรื่องที่ต้องเคลียร์กับนาง
“ยังครับนาย ผมเห็นคุณหญิงกำลังนั่งดูละครอยู่ที่ห้องนั่งเล่นครับ”
“อืม เอารถไปเก็บด้วย”
มือหนาโยนกุญแจรถให้ บอดี้การ์ดหนุ่มก็รีบตะครุบมาไว้ในมือ
“ครับนาย”
คเชนท์รับคำสั่ง แล้วปลีกตัวนำรถสปอร์ตคู่ใจของเจ้านายไปเก็บยังโรงรถทันที
“ตบมันเลย อึ้ม! ต้องให้ได้อย่างนี้สิ ฉันล่ะหมั่นไส้มานานแล้ว ยายลูกน้ำยุงลาย”
คุณหญิงสิรินดากำลังนั่งดูละครอย่างเมามัน แต่เมื่อเหลือบไปเห็นร่างสูงของลูกชายเดินเข้ามา นางจึงละสายตาจากโทรทัศน์
“อ้าว กลับมาแล้วเหรอลูก เป็นยังไงบ้าง วันนี้ไปทานข้าวกับหนูผิงอร่อยไหมลูก”
คุณหญิงสิรินดาพักยกจากการเชียร์นางเอกกับนางร้ายในละครตบกัน เอ่ยถามลูกชายสุดที่รักด้วยรอยยิ้ม แต่คนเป็นลูกกลับหน้าบึ้งตึง ไม่ได้ยินดียินร้ายกับคำถามของมารดาเลย
“ทำไมคุณแม่ต้องทำแบบนี้ด้วย ผมไม่ชอบ คุณแม่ก็รู้”
ไม่พูดพร่ำทำเพลงใด ๆ มาถึงก็โวยวายมารดายกใหญ่ ด้วยความไม่พอใจที่นางมายุ่งวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของเขา
“แม่ทำอะไรจ๊ะ”
คุณแม่ดีเด่นแสร้งมองลูกชายตาแป๋ว ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ยิ่งทำให้ผู้เป็นลูกชายโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเข้าไปใหญ่
“คุณแม่ อย่ามาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หน่อยเลยครับ ก็เพราะคุณแม่นั่นแหละ วันนี้ที่บริษัทถึงต้องยุ่งวุ่นวายกับความเจ้ากี้เจ้าการของคุณแม่ พนักงานของผมถึงต้องคอยมาต้อนรับตรีชฎาเหมือนเธอเป็นคนสำคัญ”
“ก็หนูผิงเป็นคนสำคัญของสิบไงจ๊ะ”
นางพยายามยัดเยียดหญิงสาวให้ชายหนุ่ม เมื่อได้ยินคุณหญิงสิรินดาพูดเช่นนั้น เขาก็รีบปฏิเสธทันควัน
“ของคุณแม่ ไม่ใช่ของผม ผมรู้นะ ว่าคุณแม่พยายามจะจับคู่ให้ผม เรื่องวันนี้ผมยังพอยอมให้ได้ แต่ผมขอบอกไว้เลยนะครับ ว่าต่อให้คุณแม่พยายามยัดเยียดแม่นั่นให้ผมยังไงก็ตาม มันก็ไม่มีทางสำเร็จหรอก เพราะผมไม่มีวันเอาผู้หญิงคนนี้มาทำเมียแน่นอน”
ริมฝีปากบางเฉียบลั่นวาจาอย่างเด็ดเดี่ยว
“เหรอจ๊ะ แล้วแม่จะคอยดู แต่แม่ก็ขอบอกสิบไว้เลยนะ ว่ายังไงแม่ก็จะพยายามต่อไป แม่อยากได้หนูผิงมาเป็นสะใภ้ของธาราธรณ์ ไม่ใช่ผู้หญิงกร้านโลกอย่างพวกคู่นอนของสิบทั้งหลายแน่นอนจ้ะ”
คุณหญิงสิรินดาบอกอย่างไม่สะทกสะท้านอะไร
“คุณแม่!”
สิบทิศโพล่งขึ้นด้วยความไม่พอใจยิ่งนัก ผู้หญิงคนนี้มีดีอะไรนักหนา ถึงจะต้องออกโรงปกป้องกันถึงเพียงนี้ เขาไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ทั้งที่เธอก็ไม่ต่างอะไรจากคู่นอนของเขาด้วยซ้ำ
“แม่ว่าสิบขึ้นไปนอนดีกว่านะจ๊ะลูกรัก แม่จะดูกุหลาบเหนือเมฆต่อ กำลังสนุกอยู่เชียว”
คุณหญิงสิรินดาออกปากแกมไล่สิบทิศทางอ้อม ทำเอาใบหน้าหล่อเหลาบูดบึ้ง ไม่พอใจมารดา แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากเดินออกจากห้องนั่งเล่น ขึ้นบันไดวนไปยังห้องนอนส่วนตัวเสียงดังปึงปังด้วยความขัดใจเป็นที่สุด
จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากบางเฉียบ ซุกไซ้ซอกคอขาวเนียน สูดดมความหอมละมุนจากกลิ่นกายของภรรยาสาว ยิ่งได้กลิ่นก็ยิ่งคลั่งไคล้ในตัวเธอ ลิ้นอุ่นชื้นไล้เลียละเลียดไปตามผิวเนื้อนวลลออราวกับกำลังกินเค้กหน้านิ่มก็ไม่ปาน“เมียผมหอมจังเลย”เขาค่อย ๆ แทะเล็มขบเม้มทั่วลำคอระหง ใช้ปากร้อนงับติ่งหูของเธอสลับกับไล้ปลายลิ้นไปตามใบหูช้า ๆ จนตรีชฎาต้องหลับตาพริ้ม เบี่ยงหน้าไปอีกทาง เพราะความสยิวลามไปทั่วกลางหลัง ก่อนที่เขาจะจูบพรมไล่ตามซอกคอลงมาถึงเนินอกอวบอิ่มสิบทิศดึงเชือกคล้องคอชุดของขวัญวาบหวิว จับรั้งโบตรงช่วงอกลงมาให้เต้าทรวงหลุดออกจากพันธนาการฝ่ามือหนากอบกุมข้างหนึ่ง เคล้นคลึงเบา ๆ ก่อนใช้ปลายนิ้วสะกิดยอดอก อีกข้างก็ใช้ริมฝีปากครอบครอง ดูดดื่มปทุมถันอย่างหิวกระหาย“นมผิงอร่อยที่สุดเลย”เสียงทุ้มพร่าเอ่ยชม ลิ้นหนาตวัดเลียเม็ดบัวสีหวาน ซึ่งเป็นจุดกระตุ้นอารมณ์ของเมียรักได้เป็นอย่างดี“คุณสิบขา”ดวงตากลมโตหยาดเยิ้มปรือมองดูสามีกำลังดูดเลียปลายถันที่แข่งกันชูชันทั้งสองข้างของเธออย่างเมามัน เขาปลุกเร้าเธอจนเสียวซ่าน เสียงหวานครางเบา ๆ แอ่นอกประเคนตัวเองอยากให้เขาใช้ปากอันร้อนรุ่มสัมผัสปทุมถันของเธอซ้
‘อย่าลืมนะครับ คืนนี้เรามีนัดแกะของขวัญกัน’ตรีชฎานึกถึงประโยคที่สามีย้ำเตือน ก่อนที่เธอจะเข้ามาอาบน้ำ หญิงสาวมองดูตัวเองในกระจกแล้วก็ต้องอมยิ้มให้กับชุดของตัวเองของขวัญที่สิบทิศพูดถึงหมายถึงตัวเธอ เป็นของขวัญวาเลนไทน์ที่เขาควรจะได้เมื่อวานแต่ก็ไม่ได้ เพราะติดที่ลูก ๆ มานอนด้วย เธอเลยต้องเลื่อนวันมาให้เขาในคืนนี้แทน“ผลัวะ” เสียงเปิดประตูห้องน้ำ ทำให้ร่างสูงที่สวมชุดนอนกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงกว้างต้องหันมามองโดยอัตโนมัติภาพที่ปรากฏในดวงตาคมกริบ สิบทิศถึงกับคำรามในลำคอทันที ร่างบางระหงในชุดผูกคอ ช่วงอกแต่งเป็นโบขนาดใหญ่ทำด้วยผ้าสีแดง ปล่อยห้อยชายผ้าลงมาตรงหน้าท้องแบนราบ มีสายเส้นเล็กสองเส้นแนบขนาบลำตัว เชื่อมโยงกับกางเกงชั้นในที่เป็นแค่ผ้าสามเหลี่ยมเล็ก ๆ ปกปิดจุดสงวน กำลังเยื้องกรายมาหาเขาแค่เห็นเลือดในกายก็พุ่งพล่าน ปลุกให้ความเป็นชายแข็งผงาด ทั้งที่ยังไม่ได้สัมผัสร่างกายกันด้วยซ้ำ ให้ตายเถอะนี่เขากำลังจะได้เมียผูกโบของแท้“ชุดอะไรของผิงเนี่ย”สิบทิศดีดตัวลุกนั่งทันทีที่ภรรยาสาวก้าวขึ้นเตียงมานั่งใกล้ ๆ ไล่มองชุดตั้งแต่บนลงล่างไม่วางตา ก่อนจะรั้งตัวเธอให้มานั่งคร่อมตักแกร่ง“ก็
“คุณสิบจะแกะเส้นนี้ออกทำไมคะ” เสียงหวานท้วง“อ้าว ก็นี่มันแค่สร้อยลูกปัดธรรมดา เอาออกเถอะครับ เดี๋ยวผมจะใส่เส้นนี้ให้แทน”“ไม่เอาค่ะ กำไลเส้นนี้เป็นเส้นแรกที่คุณสิบซื้อให้ผิง มันเป็นความประทับใจนะคะ”เขาปลาบปลื้มใจในคำตอบของเธอ จนอยากมอบจูบหวาน ๆ สักจูบสองจูบเพื่อเป็นรางวัล กำไลลูกปัดเส้นนี้ เขาซื้อให้เธอเมื่อครั้งไปฮันนีมูนครั้งแรก แม้เวลาจะผ่านมาหกปีแล้ว เธอก็ยังใส่ติดตัวไว้ตลอด แถมยังรักษาไว้เป็นอย่างดีอีกด้วย“ก็ได้ครับ ไม่ถอดก็ได้ งั้นผมใส่เส้นนี้ให้เลยแล้วกันนะครับที่รัก”ว่าแล้วสิบทิศก็สวมกำไลข้อมือราคาแพงให้ภรรยาคนสวย แล้วยกมือบางขึ้นจูบแผ่วเบา“ขอบคุณค่ะ ผิงก็มีของขวัญให้สามีของผิงเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวนะคะ ขอผิงหยิบก่อน”ตรีชฎาวางช่อดอกกุหลาบ เดินไปหยิบของขวัญที่เตรียมไว้ให้สามีสุดที่รัก ซึ่งเป็นปากกาด้ามทอง สลักชื่อเธอกับเขาไว้ด้วยกัน“ปากกาด้ามนี้ คุณสิบต้องเอาติดตัวตลอดนะคะ ผิงรักสามีที่สุดเลยค่ะ”เธอยื่นปากกาสวยหรูให้เขา โถมตัวกอดเขาด้วยความรักสุดหัวใจ แล้วจูบปลายคางอย่างออดอ้อน“ขอบคุณนะครับที่รัก เอ ผมให้ของขวัญผิงตั้งสองอย่าง แต่ผิงให้ผมแค่อย่างเดียวเองนะครับ”“อ้าว ผิงม
“ฮือ ๆ ฮือ ๆ”ไอ้เสือน้อยที่กำลังยื่นลูกโป่งให้น้องสาว หันไปตามเสียงสะอึกสะอื้น นัยน์ตาสุกใสเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนพื้น ร้องไห้งอแงไม่ยอมหยุด แถมที่หัวเข่าก็ถลอกแดงเหมือนหกล้ม เด็กชายสรวิศจึงรีบเดินเข้าไปหา ซึ่งเด็กหญิงสิราวรรณก็เดินตามไปด้วย“น้องหกล้มเหรอครับ เป็นอะไรมากไหม ขอพี่ผลดูหน่อยนะครับ”มือเล็กของไอ้เสือน้อยจับหัวเข่าของเด็กหญิงเพื่อสำรวจดู แต่ร่างเล็กก็สะดุ้งชักขาออกทันที“เจ็บ ฮือ ๆ ฮือ ๆ”เสียงเล็กใสสะอึกสะอื้นไห้ด้วยความเจ็บ “พี่ผล เราจะทำยังไงกันดี น้องหกล้มจนหัวเข่าถลอกเลย อ้อ น้องผักบุ้งนึกออกแล้ว เดี๋ยวน้องผักบุ้งไปตามคุณพ่อคุณแม่มาดูน้องนะคะ”ริมฝีปากจิ้มลิ้มเจื้อยแจ้วบอกพี่ชาย ก่อนจะรีบวิ่งไปตามบิดามารดาที่อยู่ในร้านไอศกรีม“ไม่ร้องนะครับคนเก่ง เดี๋ยวก็หายเจ็บแล้วครับ”เด็กชายสรวิศปลอบประโลมเด็กหญิง เหมือนที่คุณพ่อกับคุณแม่ชอบปลอบเวลาเขาหกล้มเสมอ เมื่อเห็นน้ำตาที่เปรอะเปื้อนใบหน้าเล็ก มือน้อยจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อนักเรียน มาเช็ดน้ำตาให้เด็กหญิง“พี่ผล คุณพ่อกับคุณแม่มาแล้วค่ะ”น้องผักบุ้งวิ่
“รักเหรอครับ เหมือนที่น้องผลกับน้องผักบุ้ง รักคุณพ่อกับคุณแม่ใช่ไหมครับ”ริมฝีปากสีแดงสดคลี่ยิ้มให้บิดามารดาอย่างน่ารัก มือหนาจึงเอื้อมมาลูบศีรษะทุยของลูกชายเบา ๆ“ไม่ใช่ครับลูก มันไม่เหมือนกัน รักของน้องมินที่มีให้น้องผล ก็เหมือนกับที่พ่อมีให้คุณแม่ไงครับ อืม เอาไว้น้องผลโตขึ้น เดี๋ยวน้องผลก็จะเข้าใจเอง หมดข้อสงสัยหรือยังเจ้าตัวแสบ ไปกินไอศกรีมกันดีกว่านะลูก”สิบทิศอุ้มเจ้าตัวแสบที่ยังคงทำหน้าสงสัยขึ้นรถ ตามด้วยลูกสาวคนสวย ก่อนจะเปิดประตูให้ภรรยาสาว ส่วนตัวเขาก็เดินอ้อมไปขึ้นรถทางฝั่งคนขับ แล้วขับรถออกจากโรงเรียนไปยังห้างสรรพสินค้าทันทีครอบครัวธาราธรณ์พากันมาร้านไอศกรีมที่ตกแต่งด้วยสีสันน่ารัก สิบทิศเลือกที่นั่งด้านใน ซึ่งเป็นโต๊ะโซฟายาว น้องผลนั่งฝั่งเดียวกับคุณพ่อสุดหล่อ ส่วนน้องผักบุ้งก็นั่งฝั่งเดียวกับคุณแม่คนสวย“พี่สาวคนสวยครับ น้องผลเอารสช็อกโกแลตนะครับ เอาแบบรูปนี้เลยครับ”เมื่อพนักงานในร้านมารับออร์เดอร์ เด็กชายสรวิศก็สั่งไอศกรีม พร้อมกับชี้รูปในเมนูให้ดู“น้องผักบุ้งจะทานไอศกรีมรสสตรอว์เบอร์รีค่ะ เอาแบบเดียวกับพี่ผลด้วย”นางฟ้าน้อยบอกพนักงานเสิร์ฟเจื้อยแจ้ว“คุณแม่จะทานรสอ
“พี่ผล”เสียงเล็กใสของใครคนหนึ่งเรียกชื่อไอ้เสือน้อย เจ้าตัวเลยต้องหันไปตามเสียง แล้วส่งยิ้มให้คนที่ยืนเหนียมอายอยู่ตรงประตูห้องเรียน“อ้าว น้องมิน ยังไม่เข้าเรียนอีกเหรอ”เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยถามน้องมินที่เรียนอยู่คนละชั้นปีกับตน ก่อนจะเดินไปหาร่างเล็กในชุดกระโปรงแบบเดียวกับน้องสาว เด็กน้อยหางเปียติดกิ๊บรูปกระต่ายสีชมพู ยื่นดอกกุหลาบให้เด็กชายสรวิศ ก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองหน้าเด็กชาย“น้องมินให้พี่ผลค่ะ”ไอ้เสือน้อยเจ้าเสน่ห์ยื่นมือมารับดอกกุหลาบจากมือเล็ก เพียงเท่านั้นเด็กหญิงตัวเล็กก็รีบวิ่งหนีไปอย่างเขินอาย นัยน์ตาสีนิลมองตามหลังเด็กหญิงด้วยความไม่เข้าใจ ว่าทำไมจะต้องวิ่งหนีเขาด้วยเวลาบ่ายสามโมง สิบทิศกับตรีชฎาก็มารับลูกชายลูกสาวเฉกเช่นทุกวัน ทั้งสองจะมารับลูกด้วยตัวเองเสมอ นอกเสียจากว่าวันไหนติดธุระไม่สามารถมารับลูก ๆ ได้ สิบทิศถึงจะส่งบอดี้การ์ดของเขามารับลูก ๆ แทนเจ้าหนูน้อยทั้งสองวิ่งมาหาคุณพ่อคุณแม่พร้อมด้วยของพะรุงพะรัง ไอ้เสือน้อยกับนางฟ้าน้อยหอมแก้มผู้เป็นบิดามารดา ก่อนจะถูกคุณพ่อยังหนุ่มกับคุณแม่ยังสาวหอมแก้มนุ่มนิ่มกลับคืน“น้องผล ของอะไรน่ะลูก ทำไมถือมาเต็มมือไปหมดอย่างนี