“นางงดงามมากเลยนะเจ้าคะ เพื่อนของนางก็งดงามไม่แพ้กันเลยเจ้าค่ะ นางทั้งสองเหมาะที่จะเป็นคู่ครองของนายท่านคาริส มากกว่าที่จะเป็นแค่สนมของนายท่านฮาซีฟนะเจ้าคะ”
“เจ้าอย่าได้พูดจาแบบนี้ออกไปให้ใครได้ยินนะโบอา นายท่านฮาซีฟเก็บซ่อนนางทั้งสี่ไว้ โดยที่นายคาริสยังไม่ทราบเรื่องนี้นะ ถ้าเรื่องนี้ถึงหูนายท่านคาริสล่ะก็ นายท่านฮาซีฟอาจจะสังหารเจ้าเป็นคนแรกก็ได้นะ”
“อุ้ย! จริงหรือเจ้าคะ”
“จริงสิ...อืม...ได้เวลาที่นายท่านฮาซีฟนัดหมายแล้ว พานางทั้งสองออกไปกันเถิด”
“เจ้าค่ะ”
“เจ้า ออก ไปได้แล้ว” เซริหันมาสื่อสารกับสองสาว
“พร้อมนะข้าว”
“โอเค นับดาว”
ทั้งสองจับมือกันเดินออกจากห้องไป โดยที่สาวใช้ทั้งสิบประกบหน้าประกบหลังล้อมรอบเธอทั้งหมด รินลดาสอดส่องสายตาของเธอด้านซ้ายขวาอย่างรวดเร็ว เพื่อเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้ในหน่วยความจำของเธอ
“นับดาวว่า นี่คงไม่ใช่บ้านธรรมดาแล้วนะข้าว นี่มันคือปราสาทราชวังอะไรสักอย่างแน่นอน”
“อืม...น่าจะใช่นะ และคนที่เราจะไปหาคือ ‘นายท่าน’ ข้าวว่าก็คงจะเป็นองค์สุลต่านหรือชีคอะไรนั่นแน่นอน เพราะประเทศนี้ส่วนใหญ่ที่ข้าวหาข้อมูลมาก็จะประมาณนี้เลยนะ”
รินลดาเห็นคนมากมายเดินขวักไขว่ไปมา แต่ละคนจะทำตัวนอบน้อมอยู่ตลอดเวลา รินลดาสันนิฐานว่าน่าจะเป็นข้าทาสบริวารอย่างแน่นอน
“เราสองคนน่าจะถูกตานั่นเอาไปทำอะไรแน่นอนเลยข้าว ดูพวกนี้แต่งตัวให้เราสองคนสิ มันปิดอะไรไม่ได้เลยนะ โอย นับดาวเขินจัง ชุดชั้นในก็ไม่ได้ใส่ เดินหนีบขาจนเกร็งหมดแล้วเนี่ย”
“นั่นสิ...ถ้าตานั่นจะทำอะไรเรา จำไว้อย่างหนึ่งนะนับดาว เราจะต้องตั้งสติให้ดี ประเมินสถานการณ์ตรงหน้าก่อนที่จะตัดสินใจ ถ้าคนใดคนหนึ่งหนีรอดไปได้ก็จะทำให้คนที่เหลือรอดไปด้วยนะ”
“อืม...ใช่...แต่นับดาวคิดว่าเราสองคนต้องรอดแน่นอน”
“อย่าพึ่งแน่ใจอะไรเลยนับดาว ดูพวกทหาร...ไม่รู้จะใช่หรือเปล่านะ แต่งตัวคล้ายกับทหารเลย เยอะแยะเต็มไปหมด ที่นี่น่าจะเป็นที่อยู่ของคนใหญ่คนโตแน่นอน”
“อุ้ย! ข้าวดูนั่นสิ! นั่นมันพี่โมนานี่ ทำไมพี่เค้าไม่โดนประกบหน้าประกบหลังแบบเราล่ะ” แววตาแห่งความยินดีวาบเข้ามาทันที
“นั่นสิ...แปลกมากเลยนะนับดาว หรือว่าพี่เขาจะไม่โดนกักขังเหมือนกับเรา”
“แต่ไม่เห็นพี่ปรางนะข้าว”
“ข้าวเห็น...กำลังเดินมาเห็นไหม”
“นับดาวดีใจจังเลยข้าว ที่เจอพวกเราแล้ว ถ้านั่งใกล้ๆ กันล่ะก็ พี่สองคนคงอยากจะหนีเหมือนกับเรานะ”
“ก็น่าจะเป็นแบบนั้นนะ”
รินลดาและธาริกาถูกพามายังสถานที่เป็นลานกว้างที่เรียกว่าฮาเร็ม สตรีสาวสวยนับสิบราย กำลังแหวกว่ายอยู่ในสระน้ำขนาดใหญ่ มีน้ำผุดวน ด้านบนลอยเต็มไปด้วยมวลดอกไม้ กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเครื่องหอม ไอน้ำลอยฟุ้งกระจายเต็มห้อง ด้านข้างประดับประดาด้วยดอกไม้นานาพันธุ์กลิ่นหอมรัญจวน ใกล้กันนั้นมีแท่นขนาดใหญ่คล้ายเตียงนอน ถูกปูด้วยฟูกหนา และใครบางคนกำลังนั่งพิงเบาะในมือถือแก้วใสทรงสูงที่มีน้ำสีเหลืองอำพันอยู่ในนั้น ทั้งสองข้างมีเหล่าบรรดาหญิงงามห่มผ้าน้อยชิ้นคอยปรนนิบัติอยู่ข้างกาย
“เจ้าสองคน นั่ง ตรงนี้”
“ตรงนี้เหรอ?” รินลดาเอ่ยถามหัวหน้าสาวใช้
“เจ้าค่ะ รอนายท่านเรียกเจ้า”
“ข้าว นั่นคือนายท่านใช่มั้ย”
“น่าจะใช่นะ”
รินลดาหันมองชายหนุ่มที่บรรดาสาวๆ กำลังปรนนิบัติเอาอกเอาใจ แทบจะแย่งกันทำ สิ่งที่รินลดาคิดกับความเป็นจริงนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ‘นายท่าน’ ไม่ได้แก่เลยสักนิด กลับหนุ่มอย่างไม่น่าเชื่อ
“นับดาวคิดว่าจะเป็นตาแก่ตัณหากลับซะอีก”
“นายท่านเจ้าคะ...นางมาแล้วเจ้าค่ะ”
เซริทำหน้าที่นำตัวหญิงสาวมาให้นายท่านเชยชม วันนี้นายท่านน่าจะต้องการเชยชมใครสักคนในนี้แน่นอน
“เจ้าไปบอกโมนา ให้มาหาข้าที”
“เจ้าค่ะ”
[อีกด้านหนึ่ง]
“โมนา...” ปรางทิพย์เอ่ยเรียกเพื่อนร่วมวงการของเธอที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากเธอ วันนี้ปรางทิพย์ถูกแต่งองค์ทรงเครื่องมาเช่นกัน เธอคิดว่ามันคงถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องหาวิธีหนี
“ว่าไงปราง” ริมฝีปากสีแดงสดเอ่ยขึ้น ด้วยท่าทีราวกับนางพญา
“ฉันว่านี่มันคือโอกาสที่เราจะหาทางหนีแล้วนะ”
“เธอก็หนีไปคนเดียวสิ! อ้อ! ไปกับอีนังเด็กสองคนนั่นก็ได้ นั่นไง พวกหล่อนก็แต่งตัวมาเพื่อจะมารับใช้นายท่านเหมือนกันนี่”
ความริษยาก่อเกิดขึ้นในใจของอริสาทันที เมื่อเธอเห็นว่านายท่านกำลังจ้องมองไปที่รินลดากับธาริกา
“ทำไมเธอเปลี่ยนไปขนาดนี้นะ...โมนา”
ปรางทิพย์เอ่ยอย่างสิ้นหวัง เธอไม่คิดว่าอริสาจะปรับตัวเร็วได้ขนาดนี้
“ก็เพราะฉันไม่ได้โง่เหมือนเธอไงปราง! เธอจะทำอะไรก็แล้วแต่เธอเลยนะ ไม่ต้องมาชวนฉันหนีไปหรอก ฉันไม่ไปกับเธอแน่”
อริสาคิดว่าตัวเองมีวิธีของตัวเองแล้ว ถ้าเธอยอมแต่โดยดี นายท่านก็คงจะต้องเอ็นดูเธอ และปล่อยเธอแน่นอน อีกอย่างในระหว่างที่เธออยู่ในนี้ เธอก็พยายามกอบโกยทุกอย่างที่นายท่านให้กับเธอไว้ เผื่อวันหนึ่งที่เธอเป็นอิสระ เธอจะได้ไม่ลำบาก
“เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”
“นั่นมันเรื่องของฉัน! เธออย่ามายุ่ง! ฉันไม่อินด้วยหรอก!”
“โอเค!” ปรางทิพย์กัดฟันข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ เธอหันไปหาเป้าหมายใหม่ทันที รินลดากับธาริกาไม่เป็นแบบอริสาแน่นอน
“นายท่าน ให้ข้า มาเชิญเจ้า”
“อุ้ย! ฉันเหรอ?” อริสาดีใจอย่างที่สุด หน้าของเธอร้อนผ่าวเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ชวนสยิวเมื่อคืนวาน
“เจ้าค่ะ”
อริสาลุกขึ้นและมุ่งตรงไปยังเตียงใหญ่กลางห้องทันที ท่ามกลางสายตามากมายของเหล่าบรรดานางรับใช้และนางสนม รวมไปถึงเพื่อนของเธอทั้งสามคน
“เจ้าสบายดีหรือไม่...โมนา”
ฮาซีฟจ้องมองสตรีตรงหน้า พลางยิ้มให้กับเธออย่างเปิดเผย นางเป็นสตรีที่มีความงดงามและเร่าร้อนอย่างที่สุด ฮาซีฟยังไม่อาจลืมรสสวาทของเธอได้ แต่ทว่าไกลออกไปนั้น ยังมีสาวงามที่เขาหมายปองไว้นั้น มีความงดงามบริสุทธิ์ผุดผ่องกว่า ริมฝีปากอวบอิ่มน่าจุมพิตและจะหอมหวานสักเพียงใดถ้าเขาได้เชยชม
“ค่ะ...” อริสาเดินเข้าไปนั่งบนเตียงนอน แนบชิดชายหนุ่ม เธอไม่จำเป็นที่จะต้องอายอีกต่อไป ระหว่างเธอกับเขานั้นผ่านบทรักร้อนแรงไม่รู้จักกี่ครั้งแล้ว
“เจ้าคิดถึงข้าหรือไม่” ฮาซีฟสื่อสารด้วยภาษาสากล เขารู้ว่าเธอไม่เข้าใจภาษาของเขาแน่นอน
“คิดถึงสิคะ”
อริสาจ้องไปที่ใบหน้าคมเข้มด้วยความเอียงอาย ใบหน้าสวยร้อนผ่าว ใจของเธอเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความหล่อระดับเกินร้อยของชายหนุ่มทำให้อริสาหวั่นไหวไม่หยุด นอกจะร่ำรวยแล้ว ผู้ชายคนนี้ยังมีหน้าตาหล่อเหลาเป็นอย่างมาก เหมือนกับเจ้าชายในเทพนิยายที่อริสาเคยอ่านตอนเด็กๆ
“ราเนีย!!” อิลยาสรับร่างนั้นเอาไว้ เขามองหญิงสาวในอ้อมกอดของเขาที่ยังคงไม่ได้สติ เรือนกายของเธอร้อนผ่าวจนเขารู้สึกได้ “ท่านพี่ทำแบบนี้ทำไมคะ ฮือ ฮือ อีนังนี่มันเป็นใคร!”ราเนียปล่อยโฮออกมาทันที หัวใจของเธอเจ็บปวดอย่างที่สุด ราเนียไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเรื่องเลวร้ายเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับเธอ “แล้วเจ้า! เข้ามาได้อย่างไรกัน” “มันคือใคร! ท่านพี่ต้องตอบมา!”ราเนียถลาเข้าไปพร้อมกับใช้กำปั้นทุบตีไปที่เรือนร่างอันเปล่าเปลือยของชีคหนุ่ม กำปั้นของเธอกระแทกไปโดนร่างที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา ชีคหนุ่มเอี้ยวตัวใช้กายกำยำบดบังร่างของหญิงสาวเอาไว้ พร้อมกับหันไปกระชากเสียงใส่อีกฝ่าย “ราเนีย!” เสียงเข้มตวาดห้วนดังก้อง เพื่อหยุดการกระทำของหญิงสาว มันได้ผลราเนียผงะกับเสียงตวาดนั้น และตกตะลึงกับสิ่งที่เธอได้ยิน เธอไม่คิดว่าท่านพี่อิลยาสของเธอจะตะคอกเสียงใส่เธอแบบนี้ ‘ท่านพี่ปกป้องมันอย่างนั้นหรือ’ “ฮือ ฮือ ท่านพี่!” “เจ้าออกไปก่อนเถิด เดี๋ยวพี่จะออกไปเคลียร์กับเจ้า” “ไม่ค่ะ! ท่านพี่ต้องตอบราเนียมาก่อน ว่าอีนังนี่มันคือใคร!”ราเนียมองร่างของสตรีน
หญิงสาวต่อต้านและดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด แต่ก็สู้แรงของชายหนุ่มไม่ได้ ธาริกาส่งเสียงร้องเพื่อขอความช่วยเหลือ ร่างของเธอถูกชายหนุ่มจับเอาไว้ เรียวขาสวยทั้งสองข้างถูกแยกออกจากกัน โดยที่เธอพยายามที่จะขืนแรงนั้น แต่มันก็ไม่เป็นผล เมื่อแท่งร้อนสัมผัสกับช่องทางรักของเธอ ธาริกาพยายามดิ้นอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เขาทำได้สำเร็จ แต่แรงอันน้อยนิดจะสู้แรงมหาศาลได้อย่างไร “ตราบใดที่ฤทธิ์ยาไม่สิ้น ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าเด็ดขาด!”จบประโยคจากชายหนุ่ม มังกรใหญ่ก็กดกระแทกจ้วงลึกมาจากด้านหลังโดยไม่พลาดเป้า! อิลยาสมีสติครบทุกอย่าง แต่ร่างกายของเขาไม่สามารถที่จะต้านทานความปวดหนึบร้อนระอุได้อีกต่อไป ทางออกคือเธอคนนี้เท่านั้น! ไม่ว่าเธอจะประณามเขาอย่างไร หรือแม้กระทั่งแจ้งความเขาก็ยอม!! แก่นกายใหญ่กระแทกตอกตรึงหนักหน่วง! “ไม่นะ! อ๊ะ! ปล่อย!”ร่างเล็กสั่นสะท้านไปทั่วเรือนร่าง เมื่อช่วงล่างของเธอนั้นโดนโจมตีอย่างหนัก ดุเดือด มือบางกำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น! เพื่อไม่ให้ร่างของเธอกระเด็นกระดอนไปข้างหน้า ความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสเกิดขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องจนสุดเสียง “โอวว์ อ่าร
“อ๊ะ! ไม่!” ร่างบางสะดุ้งสุดตัวกับสัมผัสจากปากของเขา เธอพยายามดีดดิ้นเรือนกายออก แต่แทนที่จะหลุดพ้นกลับแอ่นอกอวบขยี้ไปบนใบหน้าของชีคหนุ่มไปอย่างไม่ตั้งใจ “โอววว์ จะ-เจ้า” เสียงครางพึมพำกับอกอวบใหญ่ มืออีกข้างหนึ่งของเขาแยกเรียวขาของเธอกางออกทันที ‘ถ้าช้ากว่านี้เขาคงต้องตายแน่ๆ’ “ปล่อยนะ! ได้โปรด!” เสียงเล็กอ้อนวอนชายหนุ่มดังขึ้น เมื่อมีบางสิ่งกำลังไล้ไปมากับช่วงล่างของเธอ ธาริกาพยายามเขยิบตัวหนีแต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อถูกร่างใหญ่กดทับเอาไว้ เธอไม่คิดว่าตัวเองจะพบจุดจบแบบนี้เลย “ข้า จะรับผิดชอบเจ้า! ได้โปรด! เชื่อใจข้าเถิด!”อิลยาสเอ่ยคำขอร้องออกจากปากโดยที่ตัวเขาเองก็ไม่เคยคิดว่าเขาจะต้องทำอะไรแบบนี้ ‘ขอให้สิ่งนี้มันผ่านไปก่อนเถิด’ “ไม่! ฉัน ไม่ต้องการ! อุ๊บ!!”ปากบางถูกปิด พร้อมกับบางอย่างกดแทรกเข้ากับช่องทางรักของเธออย่างจัง!! “กรี๊ด!!!!” ธาริกาสะดุ้งตกใจกับสิ่งแปลกปลอมนั้นทันที ความเจ็บปวดราวกับโดนมีดจ้วงแทงตรงช่วงล่างของเธอ! ธาริกาผงกศีรษะของเธอขึ้น พร้อมกับฝังฟันคมไปกับไหล่กว้างทันที! “โอ้ย!!!” ร่างหนาสะดุ้งสุดตัว! สันกรามขบ
“มีอะไรเหรอคะ?”ธาริกาที่นั่งมองท่าทีของชายหนุ่มตรงข้างอ่างอาบน้ำ เธอชะโงกหน้าเข้าไปถามใกล้ๆ ด้วยความสงสัย ‘บางทีเขาอาจจะเจอปริมาณยามากกว่าเธอก็เป็นได้’ “ข้า! ไม่ไหวแล้ว! เจ้าช่วยข้าที” เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นด้วยความเจ็บปวดและทรมานร่างกายอย่างแสนสาหัส “ไม่ค่ะ! คุณให้ฉันไปหายามาให้คุณดีมั้ยคะ หรือจะให้ฉันไปเรียกสาวใช้คนข้างนอก...มา...เอ่อ...ทำอะไรกับคุณจะดีกว่าไหม”ใบหน้าสวยแดงกล่ำเพราะเธอกำลังนึกถึงสิ่งที่จะแก้อาการของเขาได้ด้วยวิธีการบางอย่าง “จะ-เจ้า! เป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร! โอววว์ ข้าปวดไปหมด...ข้าไม่ทำอะไรเจ้า ขอแค่กอดหรือสัมผัสเจ้าให้อาการของข้าลดลงก็พอ...”อิลยาสร้องขอหญิงสาวอย่างหมดลาย เขาไม่คิดว่าตัวเองจะอาการหนักถึงเพียงนี้ เพราะความประมาทของตัวเอง เลยเป็นเหตุให้ต้องเป็นแบบนี้ “ฉันจะให้คุณทำแบบนั้นได้ยังไง! ฉัน...เอ่อ...ไม่เคยนะ! และอีกอย่างถ้าคุณเผลอทำอะไรฉันล่ะ และ...ว้าย!”ธาริกาเอ่ยไม่ทันจบประโยค เธอก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อมือเขาคว้ามาที่ตัวเธอและดึงร่างของเธอให้ลงไปในอ่างน้ำด้วยกัน “ไม่! คุณอย่าทำอะไรฉันนะ! ปล่อย! ได้ยินมั้
“อุ้ย!!!” รินลดาขืนตัวเอง เพราะความตกใจ ตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งอายุ 21 ปี เธอก็ไม่เคยที่จะแนบสนิทชิดใกล้ชายหนุ่มคนไหนเลยสักครั้ง ความประหม่าปนเขินอายก็เกิดขึ้นกับตัวเธออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “เจ้าดิ้นอย่างนี้ เมื่อไหร่ข้าจะได้นอนเล่า หยุดดิ้นเถิด”เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบข้างหูหญิงสาว พร้อมกับขโมยจุ๊บแก้มนวลไปหนึ่งที ก่อนที่เขาจะหลับตาลง ปล่อยให้หญิงสาวงงงวยกับท่าทีของเขา “...” รินลดาจ้องมองใบหน้าคมคาย แสงไฟสลัวข้างเตียงนอนสาดส่องไปยังใบหน้าคมเข้มที่มีเคราบางๆ ปกคลุมอยู่ประปราย สายตาคู่สวยกวาดไปทั่วใบหน้าของเขา ความใกล้ชิดนี้ทำให้เธอสัมผัสกับลมหายใจหอมกรุ่นจากชายหนุ่ม ‘ชายแปลกหน้าที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน และเธอต้องมานอนร่วมเตียงกับเขาเนี่ยนะ...’ [อีกด้านหนึ่งของเหตุการณ์] “ราเนียรักท่านพี่นะคะ...”ริมฝีปากบางประกบจูบลงไปที่ปากหนาทันที ลิ้นเล็กพยายามชอนไชเข้าไปในโพรงปากใหญ่ของชายหนุ่ม ราเนียไม่ยอมปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปอย่างแน่นอน “อื้อ!!!” เสียงอู้อี้ของชายหนุ่มที่กำลังประท้วงเพราะโดนโจมตีอย่างอุกอาจ เขาพยายามเบี่ยงกายออกจากเรือนร่างอันเย้า
“ท่านพี่ดื่มชาก่อนค่ะ จะได้ผ่อนคลาย ราเนียเข้าใจและเอาใจช่วยท่านพี่นะคะ” ราเนียยกแก้วน้ำชาส่งให้กับชายหนุ่ม “ครับ...พี่ต้องขอบใจเจ้ามากที่เป็นห่วงพี่”อิลยาสรับแก้วน้ำชาไว้ แต่ก็ยังไม่รีบร้อนที่จะดื่มแต่อย่างใด ภายในใจของเขานั้นกำลังประเมินแก้วชาของเธอ ว่าจะมีอะไรซ่อนอยู่ในแก้วนี้หรือไม่ “ราเนียเองก็เป็นห่วงท่านพี่นะคะ ไม่อยากให้ท่านพี่หักโหมจนเกินไป อยากให้ท่านพี่พักผ่อนบ้างก็เท่านั้นค่ะ”สายตาคู่สวยจ้องไปยังถ้วยชานั้น ‘เจ้าเพิ่มปริมาณยาเป็นสองเท่านะ ข้าไม่อยากเสียเวลาอีกแล้ว ถ้าพลาดกับท่านพี่ครั้งนี้ คงอาจจะไม่มีโอกาสแบบนี้แล้วนะ’ ราเนียนึกถึงคำพูดที่เธอสั่งลูกน้องคนสนิท “พี่จะพยายามครับ” อิลยาสชั่งใจกับแก้วชาในมือเขา “ท่านพี่ดื่มชากุหลาบนี่สิคะ ท่านพี่จะได้กลับไปพักผ่อนและนอนหลับสบายนะคะ” ราเนียพยายามปิดเกม “ครับ” อิลยาสยกขึ้นดื่มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ร่างกายของเขาแข็งแรงสามารถที่จะทนยากำหนัดได้อย่างแน่นอน ขนาดผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อยู่ในห้องของเขายังผ่านมาได้ และสมุนไพรก็คงจะช่วยเขาได้อีกแรง “อุ้ย! ท่านพี่ดื่มรวดเดียวหมดขนาด