บทที่3.หน้าที่ใหม่ที่ทำให้ใจแกว่ง
ฟรองซัวร์เดินหน้าตึงออกมาจากห้องสมุด บัตเลอร์วัยชราเดินผ่านเข้ามาในสายตาพอดี ชายหนุ่มจึงเรียกไว้ พร้อมกับสั่งงานบาง เมื่อความปรารถนาตี้ขึ้นมาจนจุกอก
เขาต้องการปลดปล่อยความร้อนในกายที่กำลังแผดเผาตนเองจนปวดร้าวไปตลอดทั้งหน้าขา
“ตามเมรีให้ฉันหน่อย ฉันจะขึ้นไปรอบนห้อง” ฟรองซัวร์เดินขึ้นไปรอบนห้องนอน บัตเลอร์วัยชราถอนใจดังเฮือก!! เขามองตามเจ้านายหนุ่มด้วยความหนักใจ หนุ่มวัยฉกรรจ์กับสาวไร้เดียงสา เหมือนน้ำมันกับไฟที่พร้อมจะลุกไหม้โดยไม่สนใจผลลัพธ์
บัตเลอร์ผู้เฒ่ารีบไปทำหน้าที่ของตัวเอง ทั้งที่กำลังหนักใจ กับอนาคตของผู้เป็นเจ้านาย เขาใคร่ครวยอย่างหนักในที่สุดบัตเลอร์ผู้ภักดีก็ตัดสินใจขัดคำสั่งเจ้านายหนุ่ม เขาเดินขึ้นไปชั้นบน โดยไร้เงาของเมรีอย่างที่ฟรองซัวร์ต้องการ
ก็อกๆ
เสียงเคาะประตูดังแผ่วๆ ฟรองซัวร์ที่กำลังรอกระเด้งตัวลุกขึ้นยืน แต่...เมื่อบัตเลอร์วัยชราเปิดประตูเข้า ชายหนุ่มตาลุกวาบ!! สีหน้าเดือดดาลแบบเห็นได้ชัด ชายสูงวัยก้มหน้าหลบเขาถอนใจแรงๆ ตอนที่ตัดสินใจพูดเตือนสติเจ้านาย
“กระผมคิดว่ามันไม่สมควร ที่นายท่านจะพาใครขึ้นมานอนบนนี้ นายท่านควรจะพาคนที่นายท่านต้องการ ไปยังที่ๆ นายท่านเคยใช้ประจำกระผมไม่อยากให้มีคำครหาเกิดขึ้นที่นี่ มันอาจทำให้เสื่อมเสียถึงมาร์เซย์ขอรับ”
ฟรองซัวร์นิ่งอึ้ง เมื่อฉุกคิดตามคำพูดบัตเลอร์คนสนิท เขายกมือขึ้นลูบหน้า ก่อนจะถอนใจเสียงดัง อารมณ์แรงโลดหดหายไป แต่ก็ยังมีความต้องการในตัวเมรีเหมือนเดิม กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเธอยังติดอยู่ที่ปลายจมูก กับความหวานฉ่ำของริมฝีปากอิ่ม ทำให้ฟรองซัวร์ฮึดฮัดอยู่เป็นนานกว่าจะสงบใจลงได้
“ออกไปเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียว” ฟรองซัวร์ตัดบทเสียงแผ่วๆ เขาอยากอยู่ตามลำพังเพื่อสงบสติอารมณ์ บัตเลอร์วัยชราผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก เขาหมุนตัวเดินออกไปจากห้องนอน ปล่อยให้เจ้านายคิดทบทวนในสิ่งที่กำลังตั้งใจทำเสียใหม่
“ฉันจะรอก่อนก็ได้ เมื่อถึงเวลาของฉัน เธอจะไม่มีทางดิ้นหนีทางไหน” ฟรองซัวร์กระซิบบอกตัวเองเสียงแผ่วๆ ในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจ
เช้าวันใหม่...
“ใครอยู่ข้างนอกตามบัตเลอร์ของฉันมาให้หน่อยสิ” ฟรองซัวร์เปิดประตูห้อง สั่งความบางอย่าง ก่อนจะผลุบกลับเข้าไปเหมือนเดิม
ในเมื่อทุกคนกีดกันเขากับเมรีดีนัก ย้ำเหลือเกินกับความไม่สมควร
วันนี้เมรีเป็นแค่คนอาศัย เธอติดหนี้บุญคุณคนมาร์เซย์ หากเขาจะไหว้วานหล่อน ทำงานบางอย่างก็คงไม่น่าเกลีดนัก
บัตเลอร์ผู้เฒ่าเดินเข้ามาในห้องนอนของเจ้านายหนุ่มด้วยความนอบน้อม สองมือกุมอยู่ด้านหน้ารอรับคำสั่งฟรองซัวร์ด้วยความสงบ
“ให้เมรีเป็นคนทำความสะอาดห้องนอนฉันนะ ห้ามคนอื่นเข้ามายุ่มย่ามในห้องฉัน ยกเว้นเมรี” ฟรองซัวร์สั่ง เขากดยิ้มมุมปาก จ้องหน้าบัตเลอร์ส่วนตัวด้วยแววตาดำมืด ชายชราถอนใจแรงๆ เขาอ่อนใจกับความดื้อดึงของประมุขหนุ่ม เรื่องมันจะไปกันใหญ่หากเจ้านายยังไม่หยุดข้องแวะกับหญิงสาวผู้นั้น
“คือ…” เขาพยายามจะท้วง
แต่ดูเหมือนฟรองซัวร์จะไม่ฟัง ชายหนุ่มเจ้าของห้องนอนถลึงตาใส่
“อย่าห้ามฉันเลย ฉันรู้ตัวดีน่ะว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ต้องเป็นห่วงนักหรอก”
“กระผมจะจัดให้อย่างที่นายท่านต้องการครับ” บัตเลอร์วัยชรารับคำ ก่อนจะถอยหลังออกไปจากห้อง เพื่อไปจัดการสิ่งที่ฟรองซัวร์ต้องการ
“ดี...นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการที่สุด”
“ครับ...”
“อย่าให้นานนักล่ะ ก็น่าจะรู้นะว่าฉันเป็นคนใจร้อน อย่าให้ฉันต้องลงมือเอง ไม่อย่างนั้นมันอาจจะเกินเลยไปกว่าที่ทุกคิดเอาไว้” ฟรองซัวร์ยิ้มหยัน ทุกการเคลื่อนไหวของเขามีหลายคนกำลังจับตามอง...แต่คนอย่างฟรองซัวร์หรือจะแคร์
“ครับ” บัตเลอร์ผู้เฒ่าถอยหลังออกไป รู้สึกหนักอึ้งไปทั้งบ่า
ฟรองซัวร์ปล่อยใจไปกับความคิดเลอะเลือน เขาคิดถึงความเย้ายวนของหญิงต้องห้ามผู้นั้น ใครต่อใครพยายามเหลือเกินที่จะขัดขวาง มันกลับเป็นสิ่งยั่วยุที่ทำให้เขาอยากจะกระโจนใส่เมรีให้เร็วที่สุด ชายหนุ่มคิดหาวิธีเพื่อจะได้ครอบครองเมรีเร็วๆ ไม่สนใจว่ามันจะกระทบกับใครบ้าง และไม่สนใจผลลัพธ์ที่จะตามมาด้วย
บัตเลอร์ผู้เฒ่าถอนหายใจเฮือกๆ เหตุการณ์มันชักจะไปกันใหญ่ เมื่อฟรองซัวร์หลุดความควบคุมตัวเองครั้งแรก เขาจนไม่สนใจคนรอบตัวเลย แม้แต่มารดาตัวเอง ความสุขุมหายไป กลายเป็นหนุ่มใจร้อนขึ้นมาแทน
“เด็กคนนั้นไปเรียนหรือยัง ใครก็ไปตามเมรีให้ฉันหน่อยสิ ฉันจะรอที่ห้องโถง” ชายชราไหว้วานสาวใช้คนหนึ่งที่โผล่หน้ามาให้
บัตเลอร์วัยชราทรุดนั่งบนเก้าอี้เหล็กที่สวนหย่อมด้านข้าง วัยที่มากขึ้นทำให้เขามองทุกอย่างได้ลึกซึ้งมากหว่า จึงแอบหวั่นใจแทนประมุขของบ้านมาร์เซย์ไม่ได้ แต่ละคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรี และเกียรติของตัวเองยิ่งนัก ความใกล้ชิดอาจจะนำพาความผูกพันมาอย่างไม่รู้ตัว บวกกับความจงรักภักดีของเมรี เขาเกรงว่าเจ้านายจะหวั่นไหว จนไม่สามารถสลัดเมรีทิ้งได้อย่างที่ใจคิด ยามที่เขาหมดความต้องการหล่อนแล้ว
เมรีทำความเคารพบัตเลอร์ผู้เฒ่าอย่างนอบน้อม เธอแต่งชุดนักศึกษากำลังจะออกไปเรียนตามเวลาปกติ เธอรีบเดินมาพบบัตเลอร์ผู้เฒ่าเสียก่อน ชายสูงวัยมองเมรีอย่างพิจารณา หญิงตรงหน้าไร้เดียงสาและกำลังเบ่งบาน ผิวพรรณสะอาดสะอ้าน จึงไม่แปลกใจนักถ้าฟรองซัวร์จะนึกปรารถนาหล่อน
“เมรี”
“คะ คุณบัตเลอร์ให้คนไปตามเมรี มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ฉันอยากให้เธอเป็นคนดูแลห้องนอนของนายท่านน่ะ”
เมรีอยากจะท้วง แต่เธอหรือจะกล้า “มันจะดีเหรอคะ?”
“เป็นคำสั่งของนายท่าน มาดามคงไม่ว่าอะไร” คนพูดเองยังรู้สึกหนักใจ
“ได้ค่ะ” เมรีรับคำ แม้อยากจะปฏิเสธมากกว่า
“กลับจากเรียนก็เข้าไปทำความสะอาดห้องให้คุณท่านเสียหน่อย นายท่านเป็นคนระเบียบจัด ห้องไม่ค่อยสกปรกเหมือนห้องคนอื่นหรอก ห้ามโยกย้ายสิ่งของในห้องโดยพลการ นายท่านหาไม่เจอจะโดนเอ็ดเอาได้”
“ค่ะ เมรีไปแล้วนะคะเดี๋ยวจะสาย” เมรีบอกลาเพื่อไปเรียน เธอแอบหวั่นใจเล็กๆ เธอกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบครั้งก่อน เธอรีบสลัดหน้าไล่ความคิดฟุ้งซ่าน เหตุการณ์อบบนั้นคงไม่มีทางเกิดขึ้นอีก ครั้งนั้นน่าจะเป็นเพราะความเวทนาของชายหนุ่ม เขาเลยเผลอตัวเพราะความสงสาร
มันก็เลยเถิดไปจากที่ตั้งใจไว้แค่นั้นเอง หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์แบบ ฟรองซัวร์ หรือจะมาสนใจเด็กสาวแบบเธอ นางแบบในคอลเลกชันเขาสวยกว่าเธอนับสิบเท่า ไหนจะสาวสวยชั้นสูง ที่ร่ำรวยสูงส่งจนไม่ต้องมาเสียเวลากับผู้หญิงด้อยค่าอย่างตนเอง
บ่ายคล้อยณ. คฤหาสน์มาร์เซย์...
ฟรองซัวร์กลับจากที่ทำงานก่อนเวลา เขาอยากมีเวลาส่วนตัวกับเมรี โดยที่ไม่มีใครขัดขวาง จึงแอบกลับมา และย่งเงียบกลับห้องพัก ช่วงบ่ายของทุกวัน คนงานส่วนใหญ่จะพักผ่อนอยู่ด้านหลังคฤหาสน์ เหลือแค่เบียและสาวใช้สองสามคนที่ต้องคอยดูแลมารดาของเขา
เมรีกำลังตั้งใจทำงาน เธอรีบกลับมาคฤหาสน์มาร์เซย์เพื่อทำหน้าที่ที่รับปากไว้ เธอขะมักเขม้นเก็บผ้าห่มบนที่นอน ลากลงมาสะบัดแรงๆ เพื่อนไล่ฝุ่น และพับเก็บจนเรียบร้อย ตบหมอนจนนุ่มฟู ก่อนจัดเรียงให้เป็นระเบียบ ออกแรงดึงชายผ้าปูที่นอนจนตึง เธอถอยหลังออกมาชื่นชมฝีมือตัวเอง
“เธอเก่งเหมือนกันนะเมรี แต่ห้องคุณฟรองซัวร์นี่สวยจนน่าตกใจ เหมือนห้องเจ้าชายในฝันเลย” เมรีหมุนตัวมองไปรอบๆ ห้องด้วยแววตาชื่นชม เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นล้วนแต่มีราคาแพงจนคนจนแบบเมรีไม่กล้าแตะ ผ้าผืนน้อยในมือเช็ดไปตามหลังโต๊ะ ตู้ จนสะอาดเอี่ยม ก่อนจะฉวยถังน้ำเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อทำความสะอาดเป็นที่สุดท้าย
ห้องน้ำเย็นเฉียบกว้างกว่าห้องนอนของเธอเสียอีก อุปกรณ์ใช้งานถูกจัดเก็บเป็นระเบียบ เมรีเปิดน้ำใส่ถัง เริ่มต้นทำงานอย่างตั้งใจ เธอเพลินขนาดไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง โดยคนที่เมรีแอบคิดถึง ฟรองซัวร์ถอดเสื้อสูทออกจากตัว แขวนไว้ที่หน้าตู้ตามความเคยชิน เขาเดินไปรอบๆ ห้องเพื่อมองหาคนที่ทำให้ใจตนเองไม่สงบ เตียงนอนตึงเปลี๊ยะ คงมีใครสักทำความสะอาดแล้ว เขาถอนใจอย่างเสียดาย และทรุดนั่งบนโซฟาปลายเตียง
เสียงกุกกักในห้องน้ำกับเสียงเปิดน้ำดังแววเข้ามาในรูหู ฟรองซัวร์กระตุกยิ้มด้วยความพอใจ เมรีคงกำลังทำความสะอาดห้องน้ำอยู่ เขานึกอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้ จึงลุกขึ้นยืน ถอดเสื้อผ้าตัวเองจนเหลือแค่ชุดชั้นใน หยิบชุดคลุมอาบน้ำมาสวมไว้ ผูกเอวไว้หลวม ๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำกว้างหน้าตาเฉย
เมรีเห็นปลายรองเท้าที่ใช้เดินภายในบ้านอยู่ตรงหน้า เธอไล่สายตาขึ้นมอง ดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นฟรองซัวร์ยืนอยู่กลางบานประตู เขาอยู่ในชุดคลุมเพื่ออาบน้ำ หญิงสาวเผลอกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ รอยแยกของสาบเสื้อ ทำให้เธอเห็นบางอย่าง ผิวขาวผ่องของคนเมืองหนาวโผล่พ้นผิวผ้า แต่แผงอกหนาหนั่นอุดมไปด้วยกล้ามเนื้อ เธอลดสายตามองตามรอยแยกของสาบเสื้อ และพยายามหยุดอยู่แค่ลอหน้าท้องของเขาแค่นั้น
ฟรองซัวร์ยืนเฉย เขาปล่อยให้หญิงตรงหน้าชื่นชมรูปกายของตนเอง ชายหนุ่มแสร้งกระแอมดังๆ จนเมรีสะดุ้ง หล่อนเสหลบตาเขาเป็นพัลวัน
“ผสมน้ำให้หน่อยสิฉันจะอาบน้ำ เหนียวตัวเหลือเกิน” ฟรองซัวร์เปรยเสียงนิ่ง ทั้งที่ร่างกายร้อนเหมือนถูกเปลวไฟแผดเผา เขาโน้มตัวลงใกล้ๆ เมรี หญิงสาวผงะหลบด้วยความตกใจ ทันได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วๆ จากคนตรงหน้า เมรีรีบทำตามที่เขาสั่ง บรรยากาศรอบตัวเริ่มร้อนระอุขึ้น
บทที่30.ฉันยอมแพ้ เมรีลืมตาเธอนอนอยู่บนเตียงคนเดียว หญิงสาวเหลือบมอง นาฬิกาที่พนังห้อง เธอตื่นสายโด่ง เธอจึงรีบลงจากเตียง และลงมือทำสะอาดห้อง ก่อนจะไปอาบน้ำ เดินลงมาด้านล่างแบบกล้าๆ กลัวๆ “แม่นั่นตื่นหรือยังล่ะ นอนกินบ้านกินเมืองเป็นคุณนายอยู่เหรอไงคงกำลังหลงระเริงกับตำแหน่งเมียของฟรองซัวร์อยู่สินะ” เสียงโซเฟียดังลั่น เมรีจึงเดินเลี่ยงไปอีกทาง “คุณก็…เมรีไม่สบายก็ต้องตื่นสายสิคะ กินยาลดไข้เข้าไปอาจจะตื่นเอาตอนบ่ายๆ เลยก็ได้ เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ดึกโขอยู่นี่คะ” เบียพูดแก้ให้ “ย่ะ…ฉันรู้แล้วว่าแม่เมรีเขาไม่สบาย แต่ไม่คิดจะลุกขึ้นมาหาอะไรกินก่อนหรือไง เขาต้องกินเยอะๆ หลานฉันก็หิวแย่นะสิ”&nbs
บทที่28.เมียผมท้องแล้วแม่จะว่าไง ฟรองซัวร์อึ้งไปหลังผลตรวจร่างกายเมรีออกมา แพทย์ประจำโรงพยาบาลอธิบายพร้อมกับแสดงความยินดี“ภรรยาคุณ ตั้งครรภ์ได้6สัปดาห์แล้วครับ”เมรีน้ำตาตก เธอก้มกน้าลงซ่อนรอยน้ำตาไว้ “ขอบคุณครับ” ฟรองซัวร์ดีใจจนพูดไม่ถูก ในที่สุดสิ่งที่เป็นโซ่ทองคล้องเขากับเมรีไว้ก็เกิดขึ้นแล้ว “ดูแลสุขภาพให้ดีทานอาหารให้ครบห้าหมู่ หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ ที่อาจกระทบกระเทือนลูกในท้อง เพราะช่วงสองสามเดือนแรกยังมีภาวะเสี่ยงในการแท้งอยู่มาก นอนพักผ่อนให้เพียงพอ หมอจะให้ยาบำรุงเลือดและยาแก้แพ้ ต้องมาตรวจให้ตรงเวลาจะได้คอยดูพัฒนาการ การเจริญเติบโตของเด็กในท้องด้วย พอครบกำหนดจะได้มาอัลตร้าซาวด์ดูว่าเด็กสมบรูณ์หรือเปล่า เอาหนังสือคุณแม่มือใหม่กลับไปศึกษาด้วยนะครับ จะได้เตรียมรับมือกับคุณลูกจอมซนที่กำลังจะเกิดในอีกเจ
บทที่27.บทสุดท้ายของเมรี ฟรองซัวร์นั่งฟังมารดาบ่นด้วยสีหน้านิ่งเฉย เสียงที่ผ่านเข้ามาทางรูหูข้างซ้ายเลยออกไปทางรูหูข้างขวา เมื่อชายหนุ่มไม่สนใจฟัง โซเฟียต่อว่าเรื่องบุตรชายไม่กลับไปที่คฤหาสน์มาร์เซย์เหมือนเดิม “แม่ไม่สนใจความต้องการของลูกหรอกนะฟรองซัวร์ มันไม่มีทางเป็นไปได้ เรื่องที่ลูกต้องการคงไม่มีใครยอมรับ สายเลือดมาร์เซย์ต้องมาจากแม่ที่เหมาะสม ไม่ใช่ใครก็ได้อย่างที่ลูกต้องการ” โซเฟียบ่นขรม ความต้องการของบุตรชายสวนทางกับคามต้องการของนางฟรองซัวร์เงยหน้ามองมารดา ริมฝีปากหนาหยักเหยียดยิ้ม ก่อนเขาตั้งใจบอกมารดา ประโยคที่โซเฟียได้ยินแล้วแทบจะสิ้นสติ “ถ้าเป็นอย่างนั้นแม่ก็เตรียมขายหน้าทุกคนได้เลยครับ ผมจะไม่ยอมแต่งงานกับชาแปลน์แน่นอน ถ้าสิ่งที่ผมต้องการไม่ได้อย่างที่ผมหวังไว้”&nb
บทที่26.เลือก ฟรองซัวร์เปิดหน้าหนังสือพิมพ์ดูหัวข้อข่าว ชายหนุ่มขมวดคิ้ว...กำหนดการแต่งงานของเขากับชาแปลน์เป็นประเด็น มีหลายสื่อกำลังควานหาตัวเขาให้ขวัก!! ชายหนุ่มพับหนังสือพิมพ์โยนไว้บนโต๊ะ ความเครียดที่รุมเร้ามาเกือบหนึ่งอาทิตย์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่า เขายกมือขึ้นคลึงระหว่างหัวคิ้ว...เขาพาเมรีกลับมาจาก นอร์ ปาดกาแลได้เกือบสองอาทิตย์ ชาโตว์เลอนอร์มังคือที่นอนของตนเองตอนนี้ เขาไปทำงานปกติแต่แต่เลี่ยงที่จะเผชิยหน้ามารดา แม่ของเขาก็เงียบหายไปเช่นกัน ฟรองซัวร์ใจชื้น...แต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด หนึ่งอาทิตยืก่อนเริ่มมีสื่อเล่นข่าวเรื่องงานวิวาห์ของเขาแล้ว ชายหนุ่มพยายามทำใจเย็น เขาคิดว่าไม่วันใดวันหนึ่งมารดาก็ต้องโผล่หน้ามาแฉ่งเขาแน่นอน...แต่ผิดคาด...มารดาไม่มา ไม่แม้แต่จะส่งใครมาด้วยนางประโคมข่าวเรื่องเขากับแซงส์แทน “เจ้านายมีข่าวดีไม่บอกลาลิชซาเลยนะคะ เสียชื่อเลขา
บทที่25.มาถึงทางตัน หญิงสาวเดินออกมาจากหลังฉาก ดวงตาบวมเปล่งเพราะร้องไห้อย่างหนัก เธอพยายามตัดใจข่มกลั้นความเสียใจไว้ให้น้ำตาไหลย้อนไปท่วมหัวใจ ฟรองซัวร์เหลือบมองเมรีเธอแปลความหมายแววตาเขาไม่ออก เขาลุกขึ้นยืนเดินตรงไปยังกระเป๋าเดินทางใบเล็กที่วางแอบไว้มุมห้องและไม่ได้รับความสนใจจากฟรองซัวร์เลยมาตลอดสามวันชายหนุ่มรื้อกระเป๋าค้นหากล่องเครื่องประดับที่ตั้งใจมอบให้เมรี จนกระทั่งพบกล่องใบนั้นที่ซุกอยู่ก้นกระเป๋านั่นเอง ฟรองซัวร์เปิดกล่องหยิบแหวนเพชรออกมาจากตัวล็อก ดวงตาสีเขียวมรกตเปล่งแสงวาบ เขายิ้มมุมปากด้วยความพอใจ แหวนทองคำขาวเรียบๆ มีเพชรเม็ดใหญ่กลางมรกตที่โอบล้อม รูปแบบโบราณเพราะเป็นแหวนประจำตระกูลมาร์เซย์ ฟรองซัวร์เดินตรงมายังเมรีเธอนั่งหมิ่นๆ ปลายเตียง หญิงสาวนั่งก้มหน้าน้ำตาคลอ ชายหนุ่มทิ้งตัวนั่งด้านข้าง จับมือเรียวขึ้นสอดเรือนแหวนบนนิ้วเรียวของเมรี หญิงสาวฝืนดึงมือกลับ
บทที่24.สายเลือดของมาร์เซย์กับแม่ที่ต่ำต้อย ฟรองซัวร์ฝากเชื้อพันธุ์ชีวิตไว้ในร่างกายของเมรีทุกหยาดหยด ข้อาอ้างเดียวที่ต่อรองกับมารดาได้คือเมรีต้องท้อง เขาจึงกักเมรีไว้ในห้องสองวันสองคืน เธอไม่ได้ก้าวลงจากเตียงสักครั้งเดียว เขาฝากรอยมือรอยจูบไว้ทุกพื้นที่เมรีปวดร้าวไปทั้งตัวเธอไม่มีแม้แต่แรงจะขยับตัว ถึงเวลาอาหารฟรองซัวร์ก็จะป้อนให้ หลังจากนั้นก็จะถูกจองจำไว้ด้วยอ้อมแขนแข็งแรงและไฟเสน่หาที่กัดกินผิวกาย เมรีครางจนหมดเสียง มีเพียงเสียงแผ่วๆ ที่หลุดออกมาจากเรียวปากอิ่ม ทุกครั้งที่ฟรองซัวร์ชักชวนเธอล่องนาวาสวรรค์ เมรีจำไม่ได้ว่าเธอหลับไปตั้งแต่ตอนไหน หญิงสาวกะพริบเปลือกตาปรับให้ชินกับแสงสว่างจ้าที่ส่องกระทบ เธอขยับกายช้าๆ และมองหา ฟรองซัวร์ “อู้ย…” เสียวครางอย่างปวดร้าว แค่ขยับลุกข