"แก เมื่อเช้าน่ะ ฉันเห็นท่านประธานมาทำงานพร้อมยัยเลขาด้วยนะ"
"จริงเหรอแก? ... แบบนี้ข่าวลือที่เขาว่า เลขาไวท์เป็นเด็กท่านประธานก็จริงอ่ะสิ!"
"แหมๆๆๆ ถ้าไม่มีมูลน่ะ หมามันไม่ขี้หรอก"
"เออเนาะ! ลำพังเงินเดือนเลขา จะผ่อนรถยุโรปตั้งสองสามคันไหวได้ไง ถ้าไม่มีคนเลี้ยงจริงไหมพวกแก เรื่องนี้ชัวร์ไม่มั่วนิ่ม" ฮ่าฮ่าฮ่า ฮิฮิฮิ
"ว่างงานเหรอครับ" ชัชเดินไปหยุดตรงกลุ่มพนักงานสามสี่คนที่จับกลุ่มนินทาเขากับไวท์เรื่องที่มาทำงานพร้อมกันเมื่อเช้า เรื่องที่เขาระวังที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้ ลำพังเขาไม่เท่าไรหรอก ห่วงก็แต่ไวท์ หล่อนเป็นผู้หญิงต่อให้เก่ง แกร่งแค่ไหน ก็ต้องมีคิดบ้างถ้าโดนนินทาเช้าเที่ยง เย็น แบบนี้ เขาพยายามเลี่ยงแต่ก็ห้ามปากคนไม่ได้
"สวัสดีค่ะคุณหญิง" ไวท์รีบยืนและไหว้คุณหญิงวิภาวี แม่ของชัชชวีร์ ซึ่งแม่ของชัชจะมาหาลูกชายที่บริษัท ถ้าเขาไม่ค่อยกลับบ้าน
"สวัสดีจ่ะลูก ตาชัชว่างอยู่ไหม แม่จะเข้าไปหาซะหน่อย" คุณหญิงวิภาวีถามไวท์ด้วยน้ำเสียงเอ็นดู
"ว่างอยู่ค่ะ คุณหญิงเชิญด้านในได้เลยนะคะ" ไวท์รู้สึกอบอุ่น เวลาแม่ของชัชพูดด้วย เพราะคุณหญิงดูใจดี อบอุ่น และหล่อนรับรู้ได้ว่าคุณหญิงเอ็นดูหล่อน แต่นี่เป็นตอนที่คุณหญิงยังไม่รู้ว่าหล่อนเป็นเด็กของชัชชวีร์ ถ้าคุณหญิงรู้ อาจจะไม่เอ็นดูหล่อนแล้วก็ได้ หรือไม่ก็อาจจะเกลียดหล่อนไปเลย เฮ้อ! ไวท์คิดแล้วก็ถอนหายใจ
"ขอบใจจ่ะ นี่ขนมฉันซื้อมาฝาก เอาไว้กินนะ"
"ขอบคุณค่ะ" ไวท์ยกมือไหว้ขอบคุณก่อนรับขนมมา
"ว่าไงจ้ะ เจ้าลูกชายคนเก่ง" คุณหญิงทักทายลูกชายที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงาน
"อ้าว! คุณแม่ สวัสดีครับ" ชัชเงยหน้าขึ้นทักทายผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้ม ชัชชวีร์เป็นลูกคนเดียวของคุณหญิงวิภาวี และคุณมนตรีผู้เป็นพ่อ ที่ตอนนี้วางมือจากงานธุรกิจทั้งหมด พักผ่อนอยู่บ้านเพราะทั้งพ่อและแม่ของชัชชวีร์ ก็อายุเลยวัยเกษียณมาหลายปีแล้ว ชัชชวีร์จึงกุมบังเหียนทุกอย่างของตระกูล
"ชัชลูก... ไม่คิดจะมีแฟนแต่งงานจริงๆ หรอ แม่อยากอุ้มหลานแล้ว อยู่บ้านกันสองคนตายาย เงียบเหงาเหลือเกิน ถ้ามีเด็กตัวเล็กตัวน้อยมาให้เลี้ยง มาให้ไล่จับ พ่อกับแม่น่าจะอายุยืน" ผู้เป็นแม่เกลี้ยกล่อมบุตรชาย
"คุณแม่ครับ เราคุยเรื่องนี้กันแล้ว ผมยืนยันคำเดิม" ชายหนุ่มตอบ
"งั้น...แม่จะไปขอเด็กกำพร้ามาเลี้ยงดีไหม"
"ตามใจคุณแม่เลยครับ" ชัชชวีร์ตัดบท เพราะเขาไม่อยากต่อความยาวกับผู้เป็นแม่ ที่เจอหน้าเขาทีไรก็ถามแต่เรื่องเมียกับลูก
"แต่มันก็จะไม่เหมือนเลือดเนื้อเชื้อไขของเรานะลูก"
"คุณแม่ครับ ผมมีงานต้องทำ" ชัชไล่แม่กลายๆ
"ตาลูกคนนี้นิ เอ้อ! ตาชัช วันนี้ไปทานข้าวที่บ้านนะลูก แม่เหงา ชวนหนูไวท์ไปด้วย หนูไวท์น่ารักสดใส คนแก่จะได้กระชุ่มกระชวยหัวใจ เพราะแกก็แก่จะสี่สิบละ ไม่สดใส " คุณหญิงทิ้งท้ายด้วยการแซะบุตรชาย
"ครับ เจอกันตอนเย็นครับ" ชัชตอบรับมารดา
"รีบไล่เชียวนะ หึ!"
ชัชชวีร์เคยพาวรุณธิดาไปทานข้าวที่บ้านเขาบ่อยครั้ง ซึ่งไปในฐานะเลขา ผู้ติดตาม ทุกคนทราบแค่นั้น ไม่มีใครระแคะระคายเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสองคน ไวท์เองก็วางตัวได้ดีในฐานะเลขา ทำให้พ่อแม่ของชัชเอ็นดูไวท์
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"ขออนุญาตค่ะคุณชัช คุณหญิง คุณพราวฟ้ามารอพบคุณชัชค่ะ" ไวท์พูดพร้อมด้วยแววตาหม่นเศร้าที่ชัชชวีร์สังเกตเห็น
"พราวฟ้าไหนอ่ะลูก อย่าบอกนะว่า พราวฟ้า ที่ทิ้งลูกชายแม่ไป" แม่ของชัชถามออกไป
"ใช่ค่ะ ฟ้าเองค่ะคุณแม่ สวัสดีค่ะ" พราวฟ้าเดินเข้ามาในห้อง เพราะหล่อนได้ยินเสียงคุณหญิงวิภาวี จึงคิดว่าควรจะเข้ามาทักทาย
คุณหญิงอึ้งเล็กน้อย ก่อนจะปรับสีหน้า แววตาให้เป็นปกติ เพราะหล่อนไม่คิดว่าจะได้เจอกับหญิงสาวที่พรากหัวใจของลูกชายหล่อนไปเมื่อห้าปีก่อนที่นี่
"คุณแม่ไม่ต้องตกใจนะคะ เพราะฟ้ามาคุยเรื่องงานกับชัชค่ะ บริษัทของเราร่วมทุนในโปรเจคใหญ่ค่ะคุณแม่
"เรียกคุณหญิงเถอะจ่ะ อย่าเรียกแม่เลย" แม่ของชัชกล่าวเหน็บพราวฟ้า หล่อนยังรู้สึกโกรธแทนลูกชาย ที่ชัชเข็ดกับความรักไม่อยากมีครอบครัวก็เพราะพราวฟ้า จริงๆ คุณหญิงวิภาวี ไม่ใช่คนถือตัว หรือเจ้ายศเจ้าอย่าง ลูกรักใคร แม่ก็รักด้วย ลูกเจ็บแม่ก็เจ็บ ลูกเกลียดแม่ก็เกลียด ซึ่งหล่อนคิดว่าการที่พราวฟ้ากลับมา แล้วยังมาร่วมลงทุนกับบริษัทของตระกูลหล่อนอีก พราวฟ้าน่าจะมีจุดประสงค์ หรือหล่อนอาจจะอยากกลับมาคืนดีกับชัช
" หนูกลับมาจากอเมริกาคนเดียวเหรอจ้ะ ...แล้วสามีฝรั่ง มหาเศรษฐีของหนูล่ะ เลิกกันแล้วเหรอ" คุณหญิงไม่รอช้า ถามโพล่งออกไปตามที่ใจอยากรู้ พราวฟ้าสูดหายใจเข้าก่อนที่จะตอบ
"ค่ะ เลิกกันตั้งนานแล้วค่ะ"
"อ๋อ! อยู่กันหม้อข้าวยังไม่ทันจะดำ อย่างว่าอ่ะเนาะ คนรุ่นใหม่ แม่ล่ะปวดหัว" พราวฟ้าหน้าชา เหมือนโดนเหน็บซ้ำ
"แล้วนี่กลับมา แล้วยังมาร่วมโปรเจคกับตาชัชอีก ฉันถามจริงๆ นะหนู หวังจะกลับมาคืนดีกับตาชัช เหรอ?" คุณหญิงวิภาวีถามออกไปตรงๆ อีกครั้ง
"คุณแม่ครับ พอเถอะครับ ผมว่าคุณแม่กลับไปเตรียมอาหารเย็นเถอะ" ชัชชวีร์รีบตัดบทสนทนาของผู้เป็นมารดาก่อนที่บรรยากาศจะอึดอัดและแย่ไปกว่านี้
"โอเค แม่กลับก็ได้ ว่าแต่หนูไวท์อยากจะกินอะไรเป็นพิเศษดีลูกเย็นนี้ แต่แม่จะเตรียมของโปรดไว้ให้หนูนะ" คุณหญิงหันไปถามไวท์ก่อนเดินกลับออกห้องไป
ไวท์หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา หล่อนก็เห็นพ่อกับแม่ของชัชชวีร์นั่งเฝ้าหล่อนอยู่ข้างเตียงคนไข้"คุณท่าน คุณหญิง" ไวท์เรียก น้ำเสียงสั่น จะร้องไห้"หนูไวท์ฟื้นแล้ว เป็นยังไงบ้างลูก เจ็บตรงไหนไหม?" คุณหญิงถามด้วยความเป็นห่วงไวท์ได้ยินประโยคที่อ่อนโยนและแสดงความเป็นห่วง น้ำตาก็ไหลเพราะรู้สึกผิดที่ตัวเองทำให้พี่ชัชต้องเจ็บหนัก"หนูขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจทำให้พี่ชัชต้องเจ็บตัวแบบนี้" ไวท์พูดพร้อมกับพยายามยกมือไหว้ท่านทั้งสอง"มันเป็นอุบัติเหตุลูก อย่าคิดแบบนั้นเลย มันจะไม่ดีกับลูกในท้องนะ" แม่ชัชกล่าวพร้อมทั้งลูบหัวหญิงสาวด้วยความสงสารเอ็นดู"แล้ว... พี่ชัชเป็นยังไงบ้างคะ ออกจากห้องผ่าตัดหรือยัง หนูจะไปดูพี่ชัชค่ะ" ไวท์พยายามจะลุกขึ้น แต่ถูกพ่อแม่ของชายหนุ่มห้ามไว้ก่อน"หนูไวท์รักตาชัชไหม ใจของหนูพร้อมกลับมาไหม แม่สงสารลูกทั้งสองคน ตาชัชเองก็ทุกข์ทรมานใจกลัวว่าจะต้องเสียหนูกับลูกไป จึงยอมทำทุกอย่าง แม้แต่ชีวิต เขาก็ให้หนูได้"คุณหญิงวิภาวีพยายามพูดเกลี้ยกล่อมสาวน้อยตรงหน้า ไวท์ยังคงก้มหน้ามองมือตัวเอง"ไวท์รักพี่ชัชค่ะ รักมาก รักเสมอ ไม่เคยหยุดรักเลยสักวัน พี่ชัชคือพ่อขอ
เช้าวันนี้ไวท์มองออกไปหน้าประตูก็พบแค่ความว่างเปล่า ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองเหมือนกัน ว่าจะสบายใจดีหรือเศร้าดี เอาเถอะ! ในเมื่อตัดสินใจไปแล้วก็ให้มันจบแบบนี้แหละ แต่ชัชชวีร์ก็ยังคงไม่ไปไหน แอบอยู่ในบ้าน แอบมองลอดผ่านช่องรั้ว เขาเป็นห่วงไวท์กับลูก แต่ก็ไม่อยากทำให้ไวท์อึดอัดใจหรือโมโห เพราะกลัวส่งส่งผลต่อลูก เขาจึงเลือกที่จะแอบมองอยู่ตรงนี้ เขาทำได้แค่นี้จริงๆ ชัชชวีร์เศร้า แต่พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล เขาบอกตัวเองว่าต้องเข้มแข็งด้านไวท์เองก็พยายามไม่คิดถึงพี่ชัช หล่อนพยายามหากิจกรรมที่หลากหลายทำเพื่อจะได้ไม่ฟุ้งซ่านถึงชัชวันนี้ชัชชวีร์เข้าบริษัท ตอนขากลับเขาให้คนขับรถมาส่งหน้าบ้าน พอดีกับที่ไวท์เดินออกมาจากบ้าน จึงเจอเข้ากับชายหนุ่มพอดี หล่อนเลยถึงบ้างอ้อ ว่าที่ผ่านมาชัชไม่เคยไปไหนไกลเลย หล่อนรู้สึกโกรธ โกรธแบบไม่มีเหตุผล เหมือนโดนหลอกว่าจะไปแต่จริงๆแล้วยังอยู่ นี่ชัชแอบมองหล่อน สังเกตอยู่ตลอดเวลาสินะ ชัชสบสายตาเข้ากับไวท์พอดี เขารู้สึกผิด คิดว่าไวท์ต้องโกรธเขาแน่ๆ รู้สึกร้อนรนใจ เห้อ! จากที่จะค่อยๆดีขึ้น ก็กลัวว่าอาจจะแย่ลง กลัวหล่อนจะหนีหายจากเขาไป ชัชจึงเดินคอตกเข้าบ้าน เก็บตัวเ
วันนี้ไวท์ตื่นแต่เช้า เพราะมีนัดกับคุณหมอ เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จออกมาจากบ้าน ก็เจอชัชรออยู่ที่หน้าประตู เป็นการเผชิญหน้าแบบใกล้ชิดมากๆในรอบเดือน ใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบชัชยังคงดูซูบ หน้าตอบจนเห็นได้ชัด หนวดเคราเริ่มเฟิ้ม แววตาละห้อยเศร้า แต่ก็ยังดูหล่อมาก และเท่ห์เสมอในสายตาของไวท์ ชายในวัยเกือบสี่สิบปี ที่ร่ำรวยมีเงินทองมากมาย แต่สิ่งที่เขาอยากได้ตอนนี้คือ หญิงสาวตรงหน้าและลูกในท้องของหล่อน เงินทองที่มีของเขาไม่สามารถซื้อได้ ต้องใช้ความรัก ความพยายาม ความตั้งใจ และความจริงใจเท่านั้นถึงจะได้กลับคืนมา ซึ่งเขาจะทำอย่างเต็มที่"ไวท์จะไปไหนหรอวันนี้ ให้พี่ช่วยขับรถให้ไหม" ชัชถามพร้อมทั้งยิ้มกว้างตลอดหนึ่งเดือนมานี้ ลักษณะ และการกระทำของชายหนุ่มเปลี่ยนไปมาก จากคนนิ่งขรึม พูดน้อย ไม่ค่อยยิ้ม กลายเป็นคน ยิ้มบ่อย พูดเยอะขึ้น ก็อย่างว่าแหละ คนอย่างเขาน่ะเมื่อต้องการอะไรก็ต้องลงทุนทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ไป แต่พอได้ไปแล้วก็คงไม่คิดจะรักษาหรอก คิดได้แบบนั้นก็หน้าบึ้งตึงใส่ชัชทันที แต่ชัชยังคงยิ้มสู้"จะไปหาหมอ" ไวท์ตอบห้วนๆ"อืม! งั้นเดี๋ยวพี่ขับรถให้ดีกว่านะ ไวท์ท้องโตแล้ว ขับรถเอง มันอันตราย ให้
"คุณชัชพูดแบบนี้ทำไมคะ? มันไม่ดีเลย คุณอาจจะเสียใจเรื่องคุณพราวฟ้า ก็เลยเสียสติไปหรอคะ" ไวท์ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาคิดอย่างที่พูด"ทำไมล่ะ เธอไม่เชื่อที่ฉันพูดหรอ?" ทำเสียงเศร้า ทำหน้าเศร้า"ค่ะ ฉันไม่เชื่อ ฉันจะโทรให้รถมารับคุณ เพราะฉันไม่อยากให้คุณอยู่ที่บ้านฉันนานเกินไป มันจะเป็นตราบาป"พูดจบก็เดินหนีไป"เดี๋ยวสิไวท์! ฟังฉันก่อนได้ไหม ฉันพร้อมยอมรับผิดทุกอย่าง อะไรก็ตามที่ฉันทำไป โดยไม่คิด ให้โอกาสฉันนะ" ชัชชวีร์วิงวอน"ปล่อยค่ะ! อย่ามาจับฉัน เราสองคนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน อย่ามาทำแบบนี้" ไวท์ขึ้นเสียงใส่ เอาล่ะไวท์ ทำใจให้เข้มแข็ง คิดถึงความใจร้ายที่เขาทำเราก่อน ห้ามใจอ่อน และห้ามกลับไป ห้ามกลับไปเป็นสุนัขรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของเขาอีกต่อไป"ไวท์ ฉันผิดที่รู้ตัวช้า แต่เธอจะไม่ให้โอกาสฉันเลยหรอ ในท้องของเธอก็ลูกฉัน เธอจะปล่อยให้ลูกเกิดมาไม่มีพ่อได้หรอ" ชัชคิดว่าไวท์น่าจะห่วงตรงเรื่องนี้จึงยกขึ้นมาอ้าง"ฉันเคยถามคุณแล้วเรื่องลูก เคยให้โอกาสเป็นพ่อตั้งหลายครั้ง แต่ทุกครั้งคุณปฏิเสธมันเอง แล้ววันนี้คุณจะมาเรียกร้องหาสวรรค์วิมานอะไร" ไวท์พูดอย่างเหลืออด ซึ่งมันก็จริงอย่างที่ไวท์พูดแหละ ตอนน
"แปลว่า ยูคือคนที่คุณพราวฟ้าทิ้งพี่ชัชไปแต่งงานด้วย" ไวท์ถามด้วยความอยากรู้แต่ไมเคิลกลับทำหน้างง จะไม่งงได้ยังไง ในเมื่อตอนที่พราวฟ้าแต่งงานกับเขา หล่อนบอกว่าโสด ไม่มีแฟน"ไอไม่เข้าใจ" ไมเคิลทำหน้านิ่วคิ้วขมวด"ไอเข้าใจทุกอย่างแล้ว พอเถอะ!" คำท้ายชัชบอกไวท์"ยูมาตามภรรยากลับใช่ไหม" ชัชถาม"เยส ใช่ๆ ฟ้าโกรธแล้วหนีกลับมา ไอต้องมาตาม".... "แล้วฟ้าบอกว่าจะแต่งงานกับยูด้วยนะ" ไมเคิลได้ทีก็ถามชัชให้หายแคลงใจ เพื่อจะได้มั่นใจว่า พราวฟ้ายังคงเป็นของเขา รักเขาตอนนี้ชัชมั่นใจว่าเข้าใจถูกต้อง ว่าไมเคิลเป็นสามีของพราวฟ้า"ไม่มีทาง เพราะไอกำลังจะมีลูกกับไวท์" ชัชตอบออกไปแล้วหันไปมองหน้าไวท์"คุณพราวฟ้าจะไม่พูดอะไรหน่อยหรอครับ? ถ้าไม่พูด ผมจะถือว่าผมเข้าใจถูกต้อง" ชัชถามย้ำ แต่กลับไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาจากปากพราวฟ้า"ฟ้า ยูควรต้องพูดกับชัช" ไมเคิลกล่าวเห้อ! พราวฟ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่"ไม่มีอะไรจะพูด" สั้น ห้วน แข็ง จบ แล้วพราวฟ้าก็วิ่งออกไป ก่อนที่มิสเตอร์ไมเคิลจะวิ่งตามภรรยาออกไป เขาปล่อยให้ชัชชวีร์อยู่กับไวท์ในบ้านเขาสองคนไวท์เห็นดังนั้นจึงเดินออกเพื่อกลับบ้านตัวเอง"เอ้า! ไวท์ เดี๋ยวก่อน รอ
"ทำไมยูถึงต้องไปบ้านหลังนั้นด้วย?" เมื่อไมเคิลเดินเข้ามาก็โดนพราวฟ้ายิงคำถามใส่ทันที"วอทส?" ไมเคิลทำหน้างง เพราะเขาไม่เข้าใจประโยคภาษาไทยที่พราวฟ้าพูดรัวๆใส่พราวฟ้าจึงถามไมเคิลเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมกับอาการไม่พอใจเป็นอย่างมากที่เห็นไมเคิลเดินออกมาจากบ้านหลังข้างๆ"เป็นบ้านของไวท์ เลขาชัชไง ยูจำได้ไหม?ไวท์จะทำอาหารไทยให้ฉันกับยูกิน" ไมเคิลตอบกลับเป็นภาษาไทยพราวฟ้าตัวแข็งทื่อเมื่อรู้ว่าเป็นบ้านของไวท์ แปลว่าที่หล่อนมาหาไมเคิลที่นี่ เลขาของชัชก็ต้องรู้สิ เมื่อคิดได้แบบนั้นก็ยิ่งกลัว กลัวว่าไวท์จะเอาไปบอกชัชชวีร์ ชายหนุ่มที่พราวฟ้าหมายมั่นต้องการมาครอบครอง พราวฟ้าไม่รู้ว่าไวท์ลาออกมาแล้ว แต่ทำไมแม่เลขานั่นถึงต้องทำอาหารให้ไมเคิลกินด้วยล่ะ คิดจะอ่อยไมเคิลอีกคนล่ะสิ จะจับปลาสองมือเลยทีเดียว หึ! ไม่มีทางซะหรอก"แล้วทำไมไวท์ต้องทำอาหารให้ยูกิน ไอไม่เข้าใจ" พราวฟ้าถามต่อ"และฉันก็ไม่อยากกินอาหารที่ยายนั่นทำ แอม นอท โอเค " พูดเสร็จก็เบือนหน้าหนี ไมเคิลรู้ว่าพราวฟ้าเป็นคนงี่เง่าเอาแต่ใจตัวเองมาก เขารีบเข้าไปกอด ปลอบ เพื่อให้หญิงสาวคลายความโกรธ"โอะ! ขอโทษค่ะ" ไวท์พูดแทรกขึ้น เมื่อเห็นทั้งสองกอด