공유

ตอนที่ 18 องค์หญิงแคว้นเยว่

작가: WangFei
last update 최신 업데이트: 2025-08-20 03:41:13

อาหารเช้าที่นางทำให้เขากินวันนี้เป็นอาหารอย่างเรียบง่าย แต่ทว่าดีต่อสุขภาพ ช่วยบำรุงพละกำลังได้ดียิ่งนัก นางตักโจ๊กหมูใส่ช้อนก่อนจะเป่าปากให้พอคลายความร้อนจากโจ๊ก แล้วยื่นช้อนโจ๊กไปที่ริมฝีปากที่เคยจูบสัมผัสนางมาทั่วร่าง 

 หญิงสาวลอบกลืนน้ำลายลงคอ นางยอมรับนักว่าคืนที่นางไปนอนตำหนักรับรอง นางอดคิดถึงรสสัมผัสที่เขามอบให้นางทุกค่ำคืนไม่ได้จริงๆ นางแอบอยากให้เขามาง้อนางเหมือนครั้งที่นางไปอยู่ในวังหลวง อยากให้ริมฝีปากนี้สัมผัสนางทั่วร่างเหมือนที่เคยทำทุกค่ำคืน

 หญิงสาวค่อยๆ ตักโจ๊กใส่ปากเขา โดยไม่ลืมใช้ลมปากเป่าไล่ความร้อนออกไป 

 นางกำลังจะป้อนโจ๊กให้เขากิน แต่เขากลับคว้าข้อมือนางเอาไว้อย่างแผ่วเบา นัยน์ตาคมปลาบจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของนางราวกับจะกลืนกินทั้งตัว 

 จางอวิ๋นซีแอบกลืนน้ำลายเล็กน้อยลงคอ เพลานี้นางราวกับถูก

มนต์สะกดให้จ้องตากับเขา นี่เขาคิดทำอันใดกับนางอีกกันแน่นะ

 “ข้าขอโทษ” คำสั้นๆ เพียงสามคำที่เอ่ยออกมาจากปากของเขา ทำเอาหัวใจของหญิงสาวเต้นระรัว พวงแก้มเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับผลตำลึงสุก นางถาม

น้ำเสียงตะกุกตะกักระคนตกใจ

 “ทะ ท่าน ขอโทษข้าด้วยเรื่องอันใดกัน” นางถามพลางหลบสายตาคมปลาบ โจ๊กในมือถูกเขาคว้าไปวางบนตู้ข้างเตียงนอน

 “ข้าขอโทษที่บังคับเจ้ามากเกินไป และ...ที่ข้าเสียงดังใส่เจ้า” หานไท่หยางกล่าวเสียงนุ่ม ฝ่ามือหนายื่นเข้ามาลูบไล้ใบหน้างดงามที่เขาเฝ้าคิดถึง ไม่ได้นอนร่วมเตียงกับนางแค่วันเดียว เขาก็อดทนคิดถึงนางแทบไม่ไหวแล้ว

 “ข้าแค่กลัวว่าเจ้าจะมีอันตราย เลยไม่อยากให้เจ้าไป แต่ในเมื่อเจ้าอยากไปด้วย ข้าก็จะไม่ห้ามเจ้าอีก...” อ๋องหนุ่มกล่าวเสียงอ่อนโยน ก่อนจะเอื้อมมือไปที่หัวเตียง หยิบอาภรณ์สตรีที่ตนเองตัดเย็บเองส่งให้กับนาง

 หญิงสาวมองอาภรณ์สีแดงเพลิงลวดลายงดงาม แม้จะไม่งดงามสมบูรณ์แบบ แต่นางก็พอรู้ว่าเขานั้นตั้งใจตัดเย็บให้นางโดยเฉพาะ นางรับไว้ด้วยความดีใจ รอยยิ้มอ่อนหวานที่ปรากฏบนใบหน้าของผู้เป็นชายา อ๋องหนุ่มมองอย่างเคลิบเคลิ้ม ก่อนจะรวบตัวนางเข้ามาในอ้อมแขนนอนกกกอดนางอย่างคิดถึงโหยหา

 “ท่านอ๋อง...” นางเอามือตีหน้าอกเขาเบาๆ “ไหนว่าท่านเจ็บมือ”

 อ๋องหนุ่มหลับตาพริ้ม พร้อมกับคลี่ยิ้มบางๆ ตอบกลับนาง “เจ็บแล้วอย่างไร ไกลหัวใจยิ่งนัก...”

 จางอวิ๋นซีเอาศีรษะเล็กซุกแนบอกของผู้เป็นสามี ได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่ายเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกมานอกแผ่นอก แม้แต่เสียงหัวใจเต้นของนางก็ดังสอดประสานไม่แพ้กัน หญิงสาวเงยหน้าเล็กน้อยเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังนอนหลับตาพริ้ม กอดนางในอ้อมแขน

 “หากเจ้าไม่อยากให้ข้าโกรธ ก็อย่าคิดย้ายตำหนักหนีข้าอีก ไม่เช่นนั้นแล้วข้าจะทำโทษเจ้าให้สาสมทีเดียว” อ๋องหนุ่มกล่าวด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ในสายตาของทุกคน เขาคือหานไท่หยางผู้อำมหิต ไม่เคยชายตาแลสตรีใด จริงจังกับทุกสิ่งอย่างในชีวิต แต่หากเป็นจางอวิ๋นซี พระชายาของเขา เขาพร้อมที่จะอ่อนโยนกับนางเพียงคนเดียว และใครที่คิดทำร้ายนาง เขาจะเล่นงานมันผู้นั้นให้สาสม

 หยางกูกูกับหรูหรงช่วยแต่งตัวให้จางอวิ๋นซีอย่างงดงาม ด้วยอาภรณ์ลายหงส์สีแดงเพลิงของหานไท่หยาง อันที่จริงอาภรณ์ลวดลายหงส์นี้ผู้ที่มีสิทธิ์สวมใส่คือฮองเฮา ไทเฮาและพระชายารัชทายาทเท่านั้น จางอวิ๋นซีกับหานไท่หยางมีฐานะเป็นเพียงอ๋องกับพระชายาเท่านั้น แต่ในอีกไม่นานนี้พวกเขาก็คือโอรสสวรรค์และฮองเฮาเคียงบัลลังก์องค์ต่อไป การจะใส่อาภรณ์หงส์สีแดงเพลิงย่อมไม่ผิดกฎธรรมเนียมใด

 อาภรณ์ที่หานไท่หยางตัดเย็บให้นางด้วยตนเองนั้นเหมาะสำหรับการสวมใส่ล่าสัตว์อย่างยิ่ง ราวกับเขารู้ว่านางจะต้องหาทางเข้าร่วมขบวนล่าสัตว์ของเขาเป็นแน่ จึงได้เตรียมการเอาไว้เช่นนี้ เรือนผมของหญิงสาวถูกรวบขึ้นเป็นมวยสูงประดับด้วยปิ่นปักผมไข่มุกราตรีของไทเฮาอันล้ำค่า ข้อมือนั้นสวมใส่กำไลหยกไข่มุกราตรีที่หานไท่หยางทำให้นาง หญิงสาวระบายยิ้มบางๆ อย่างพึงใจ

 นางไม่อยากคิดเข้าข้างตนเองนักว่าที่หานไท่หยางดีกับนางขนาดนี้ อาจเป็นเพราะเขากำลังหลงรักนางอยู่หรือไม่ หรือว่าที่แท้จริงแล้วเขาทำไปก็เพราะเห็นนางเป็นแค่ภรรยาเอกที่เอาไว้เชิดหน้าชูตาเท่านั้น

 “ท่านอ๋องทำทุกอย่างเพื่อพระชายาเพียงนี้ ราวกับกำลังบอกรักพระชายากลายๆ เลยนะเพคะ” หรูหรงคาดเดาทุกความคิดของผู้เป็นเจ้านายออก นางอมยิ้มอย่างดีใจ หากหานไท่หยางกับพระชายาของนางนั้นรักกันจริงก็คงเป็นเรื่องดีไม่น้อย ความสงบสุขคงมาเยือนแคว้นหานอีกครั้ง

 “นั่นสิเพคะ ท่านอ๋องทรงตัดเย็บอาภรณ์นี้และทำกำไลหยกไข่มุกราตรีทั้งวันทั้งคืน ก็เพื่อพระชายาเท่านั้น หม่อมฉันคิดว่าท่านอ๋องต้องหลงรักพระชายาแน่ๆ เลยเพคะ” หยางกูกูกล่าวเสริม

 “แต่เขาไม่เคยพูดว่ารักข้าหรือชอบข้าสักคำ ที่เขาทำไปคงเพราะอาจเห็นข้าเป็นชายาพระราชทานเท่านั้น” คิดแล้วก็น้อยใจนัก หานไท่หยางทำเหมือนเอาใจใส่นางทุกอย่าง ปากอย่างแต่การกระทำเป็นอีกอย่างทำให้นางสับสนยิ่งนัก

 หยางกูกูถอนหายใจเบาๆ ท่านอ๋องของนางก็ปากหนักเหลือเกิน คนทั้งวังมองออกว่าท่านอ๋องรักพระชายามากที่สุด แต่กลับไม่เคยแสดงออกทางคำพูดเลยสักคำ 

“ท่านอ๋องทรงเป็นเช่นนั่นล่ะเพคะ ไม่พูดก็ใช่ว่าพระองค์ไม่รู้สึก ตั้งแต่หม่อมฉันถวายการดูแลท่านอ๋องมานาน เพิ่งจะเห็นทรงยิ้มก็ตอนประทับอยู่กับพระชายา ท่านอ๋องไม่เคยมีความสุขตอนอยู่กับใครนอกจากพระชายาเลยนะเพคะ” หยางกูกูกล่าวขณะช่วยจัดแต่งพระเกศาส่วนที่ปรกใบหน้าของพระชายาจางอวิ๋นซีให้เรียบร้อย

 แต่จางอวิ๋นซีก็ไม่เข้าใจว่าตอนนี้เขารู้สึกอย่างไรกับนาง อารมณ์ของเขาขึ้นลงง่ายนักยากจะคาดเดา สุดท้ายเมื่อได้เวลานางจึงออกเดินทางพร้อมกับหานไท่หยางเข้าวังหลวง อาภรณ์สีแดงสดงดงามเหมือนกัน บุรุษหนึ่งคือมังกรผู้ยิ่งใหญ่ สตรีคือหงส์ผู้สง่างาม พวกเขาช่างเหมาะสมกันยิ่งนัก ราวกับเทพมังกรและนางพญาหงส์

 หานไท่หยางจูงมือนางขึ้นเกี้ยวพร้อมกัน จากนั้นจึงออกคำสั่งให้สารถีขับเกี้ยวเข้าสู่เขตลานล่าสัตว์

 ลานล่าสัตว์ถูกจัดขึ้นที่พระราชวังฤดูร้อนไกลออกจากวังหลวงไปเพียงไม่เท่าใด หานไท่หยางเดินจูงมือจางอวิ๋นซีเข้างาน ซึ่งเป็นจังหวะเวลาเดียวกับที่จางเซียวหรูเดินทางมาพร้อมหยางเต๋อเฟยและหานอี้

 หานไท่หยางและหยางเต๋อเฟยทำความเคารพซึ่งกันและกัน

 “ท่านอ๋องกับพระชายาจางสง่างามนัก เหมาะสมกันอย่างยิ่ง” หยางเต๋อเฟยคลี่ยิ้มริมฝีปากสีแดงสดอย่างไม่จริงใจนัก แต่จางอวิ๋นซีนางดูออก

 ‘หยางเต๋อเฟยนี่ก็ร้ายไม่เบา แต่ก็เหมาะสมดีกับคนโง่ๆ แบบจางเซียวหรู’ หญิงสาวคิดในใจอย่างเย้ยหยัน

 “ขอบพระทัยเพคะพระสนม วันนี้ทรงงดงามมากเช่นกัน” จางอวิ๋นซีกล่าวแทนผู้เป็นสามี นางแสร้งคลี่ยิ้มให้อีกฝ่ายเช่นกัน

 “อี้เอ๋อร์ เจ้าพาหรูเอ๋อร์เข้าไปด้านในเถิด” พระนางหันมาสั่งหานอี้พระสุร เสียงหวานชวนฟัง

 หานอี้อึดอัดใจยิ่งนัก จางเซียวหรูเป็นสตรีที่พระมารดาของเขาหมายมั่นปั้นมืออยากได้มาเป็นสะใภ้ แต่เขานั้นไม่เคยคิดรักชอบจางเซียวหรูเลยแม้แต่นิดเดียว ใจของเขานั้นมีเพียงแต่จางอวิ๋นซีเท่านั้น ถึงแม้ตอนนี้นางจะแต่งเป็นชายาของน้องชายต่างมารดา แต่เขากลับไม่อาจลืมนางได้ลง

 จางอวิ๋นซีไม่สนใจสายตาของหานอี้ที่จ้องมาที่นาง นางไม่รู้ว่าหานอี้กับจางอวิ๋นซีคนเก่าเคยมีเบื้องหลังใดกันมาก่อน แต่ตอนนี้เธอหรือเซียวเหม่ยฉีมาอยู่ในร่างของจางอวิ๋นซีแล้ว เธอควรเป็นคนใหม่และไม่รับรู้อดีตของเจ้าของร่างนี้จะดีที่สุด

 “ขอตัวก่อนเพคะ” จางอวิ๋นซีเป็นฝ่ายจูงมือหานไท่หยางเข้าลานพิธีเสียเอง ตอนนี้บรรดาแขกเหรื่อจากแต่ละเมืองที่ถูกส่งสาสน์เข้าร่วมต่างเริ่มทยอยกันมาบ้างแล้ว 

 กิตติศัพท์ความงดงามของพระชายาจางอวิ๋นซีเป็นที่เลื่องลือไปไกลนัก ว่าเป็นสตรีที่สามารถมัดใจหานไท่หยาง อ๋องที่แสนเย็นชาและโหดเหี้ยมอำมหิตได้ เหล่าบรรดาฮ่องเต้และอ๋องจากแต่ละแคว้นมองนางราวกับนางเป็นสิ่งแปลกประหลาด บ้างก็มองนางด้วยสายตาชื่นชม โดยเฉพาะบรรดาบุรุษต่างเมือง

 หานไท่หยางส่งสายตาอาฆาตไปยังบุรุษเหล่านั้นที่บังอาจจ้องภรรยาของเขาด้วยความหึงหวง จนบุรุษเหล่านั้นต่างหลบสายตาไม่กล้ามีเรื่องกับอ๋องหนุ่ม เพราะหากได้มีเรื่องกันแล้วหานไท่หยางย่อมกัดไม่ปล่อย เขาเป็นดั่งราชสีห์ที่ไม่ยอมปล่อยเหยื่อที่กัดแล้วให้มีชีวิตรอดกลับไป

 เมิ่งฉีที่เพิ่งเดินทางมาถึงพร้อมกับน้องสาวองค์หญิงซิ่วอิ่ง ผู้ที่ถูกร่ำลือนักว่างดงามเพียบพร้อมเป็นอย่างยิ่งในแผ่นดินแคว้นเยว่ ทั้งสองเดินเข้ามาหาหานไท่หยางและจางอวิ๋นซี เอ่ยทักทายอย่างสนิทสนม

 “นึกไม่ถึงว่าจะเจอพระชายาจางกับหานอ๋องที่นี่อีก เป็นเกียรติยิ่งนักที่พวกท่านเข้าร่วมล่าสัตว์ครั้งนี้” เมิ่งฉีเอ่ยทักทายทั้งสองอย่างสนิทสนม ก่อนจะหันมาแนะนำน้องสาวของตนเองกับทั้งสอง

 “นี่น้องสาวของข้าเองซิ่วอิ่ง...” กล่าวแล้วหันมาสนทนากับน้องสาวต่อ “อิ่งเอ๋อร์ นี่คือ...”

 องค์หญิงซิ่วอิ่งเอ่ยแทรกขึ้นมา พร้อมรอยยิ้มหวานหยาดเยิ้มให้หานไท่หยางอย่างคลั่งไคล้ “พระองค์คือหานอ๋องไท่หยาง หม่อมฉันได้ยินกิตติศัพท์ความ

เก่งกาจของท่านมานับไม่ถ้วน นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอพระองค์ที่นี่”

 องค์หญิงแคว้นเยว่กล่าวอย่างเขินอาย นางทักทายทำความเคารพหานไท่หยาง แต่เมินจางอวิ๋นซีที่เป็นพระชายาและมีสถานะสูงกว่าอย่างนั้นหรือ?!

 ไร้มารยาทเสียจริง!

 “ซิ่วอิ่ง ขอถวายพระพรเพคะ หากไม่รังเกียจจะทรงเดินเล่นเป็นเพื่อนหม่อมฉัน ระหว่างรอฝ่าบาทกับฮองเฮาได้หรือไม่” นางเชื้อเชิญอีกฝ่ายอย่างเขินอาย ไม่รู้สึกผิดเลยสักนิดที่ไม่เคารพพระชายาเอกของเขา

 หานไท่หยางโอบรอบเอวของจางอวิ๋นซี แสดงให้อีกฝ่ายรู้อย่างชัดเจนว่าเขานั้นมีเจ้าของอยู่แล้ว

 “ข้ามีชายาอยู่แล้ว หากจะไปเดินเล่นกับเจ้าเพียงลำพัง คงไม่เหมาะ” หานไท่หยางตอบเสียงเรียบ มือหนากระชับเอวของผู้เป็นชายา

ให้แนบชิดกับตน

 จางอวิ๋นซีแอบร้องดีใจเบาๆ ในใจของนาง เพียงวูบหนึ่งที่ลอบยิ้มออกมาอย่างดีใจ อย่างน้อยเขาก็ยังให้เกียรตินางต่อหน้าสตรีอื่นที่คิดชายตาทอดสะพานให้

 เมิ่งฉีช่วยกล่าวเสริม “น้องสาวข้าแค่ชื่นชมเจ้าเท่านั้น อย่าคิดมากไปเลย ปฏิเสธน้ำใจนาง เป็นสิ่งที่บุรุษควรทำหรือ”

 “แล้วสตรีที่ชวนสามีของผู้อื่นไปที่อื่นตามลำพัง เป็นสิ่งที่นางควรทำหรือ” จางอวิ๋นซีย้อนถามกลับ

 องค์หญิงซิ่วอิ่งคุกเข่าประสานมือขออภัย นางกล่าวเสียงดัง “ซิ่ว อิ่งขอประทานอภัยเพคะพระชายา หม่อมฉันมาจากต่างบ้านต่างเมือง พระชายาทรงโปรดอย่าถือสา”

 “ในเมื่อเจ้าไม่รู้ ข้ากับสามีก็จะไม่ถือสา” หญิงสาวยกยิ้มมุมปาก จงใจเน้นคำว่าสามีในอีกฝ่าย ซึ่งหานไท่หยางแอบยิ้มอย่างพึงใจนัก

 “ท่านอ๋อง พระชายา เชิญเสด็จประทับด้านนั้นเพคะ” นางกำนัลของหลิวฮองเฮามาเชื้อเชิญทั้งสองประทับบนเก้าอี้ไม้ลำดับถัดมาจากฮ่องเต้และฮองเฮา 

 องค์หญิงซิ่วอิ่งมองตามหลังไปด้วยความริษยามาดร้าย ซึ่งเหตุการณ์

ทั้งหมดอยู่ในสายตาของจางเซียวหรูกับหยางเต๋อเฟยและหานอี้ จางเซียวหรูพอจะมองแผนการทำให้จางอวิ๋นซีถูกเขี่ยตกจากตำแหน่งพระชายาเอกแล้ว

 เมื่อได้เวลาตามกำหนดพิธี ฮ่องเต้และหลิวฮองเฮารวมถึงหานไท่เฮาได้เสด็จเข้าร่วมทอดพระเนตรการล่าสัตว์ประจำฤดูของปีนี้ แวบหนึ่งหานไทเฮาทรงลอบสังเกตเห็นอาการขององค์หญิงซิ่วอิ่ง มองหลานชายของตนเองอย่างหวานเชื่อม มิได้สงวนท่าทีของสตรีสูงศักดิ์เลยแม้แต่นิด ทรงเกรงว่าหากหลานชายผู้นี้รับนางมาเป็นพระชายาอีกคน จางอวิ๋นซีคงไม่พ้นถูกปลดจากตำแหน่งพระชายาเอกมาเป็นเพียงพระชายารองแน่

 ในใจหนึ่งทรงนึกสงสารจางอวิ๋นซี หากหานไท่หยางต้องเสน่ห์มารยาขององค์หญิงแคว้นเยว่ผู้นี้ เพราะความบาดหมางระหว่างเมิ่งฉีกับหานไท่หยางนั้นไม่มีวันจบ สงครามระหว่างแคว้นหานและแคว้นเยว่ในตอนนี้ กำลังจะกลายเป็นสงครามการเมืองมากกว่าการพุ่งรบใส่กัน

 เมื่อถึงเวลาหลังจากหานฮ่องเต้ทรงกล่าวปาฐกถาเปิดงานแล้ว ตัวแทนจากแต่ละแคว้นพร้อมด้วยทหารของตนเอง รวมถึงองค์หญิงซิ่วอิ่งจากแคว้นเยว่ก็ขึ้นหลังม้าของตนเอง เตรียมออกเดินทางเข้าสู่ลานประลอง

 ซิ่วอิ่งนางบังคับม้าเคลื่อนไปหาหานไท่หยาง พร้อมส่งรอยยิ้มหวานงดงามให้อ๋องหนุ่มอย่างชัดเจนไม่ปิดบัง 

 “ท่านอ๋อง ซิ่วอิ่งเป็นหญิง หากอยากจะติดตามพระองค์ไปด้วย จะทรงรังเกียจหรือไม่” องค์หญิงคนงามหลุบตาลงด้วยความเขินอาย ยามสบสายตาคมปลาบของหานไท่หยาง นางมั่นใจในความงดงามของนางเป็นอย่างยิ่งว่าจะต้องเอาชนะใจอ๋องหนุ่มที่แสนเย็นชาผู้นี้ให้ได้

 “เจ้ามากับพี่ชายเจ้า ก็จงไปกับเขาเสีย” หานไท่หยางไม่ใส่ใจนางสักนิด

 “หม่อมฉันมาในฐานะทูตสันถวไมตรีของสองแคว้น ขอท่านอย่าปฏิเสธเลยนะเพคะ” ซิ่วอิ่งพยายามออดอ้อนอีกฝ่าย นางตามตอแยไม่หยุดเช่นนี้ ทำให้หานไท่หยางรำคาญใจนัก

 หลิวฮองเฮากับหานไทเฮาก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้ วาจานั้นหนักแน่นดังติ่ง

เก้ากระถาง แม้พูดผิดเพียงคำเดียวอาจก่อให้เกิดความผิดใจของทั้งสองแคว้นได้ 

ทรงได้แต่หวังว่าหานไท่หยางจะมีทางแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้

 “ที่เขาปฏิเสธเพราะเมียเขาอยู่นี่ไง!” จางอวิ๋นซีเอ่ยเสียงดัง นางกุมบังเหียนควบม้าเข้ามาใกล้ ก่อนที่นางจะมาอยู่ในร่างของโลกยุคโบราณนี้ นางเคยเข้าคอร์สเรียนเกี่ยวกับการขี่ม้ามาก่อน ฉะนั้นการขี่ม้าในยุคนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนางเลยสักนิด ทั้งยิงปืน ยิงธนู ในฐานะแพทย์คนหนึ่งนางย่อมเรียนมาหมดแล้ว ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ทั้งสิ้น

 หลิวฮองเฮาถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อเห็นจางอวิ๋นซีควบม้าเข้ามาขนาบข้างหานไท่หยาง

 “ขออภัยเพคะพระชายา แต่เรื่องนี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองแคว้น...” ซิ่วอิ่งพยายามโต้แย้งด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอันงดงาม

 แม้แต่นางร้ายในละครหลังข่าวยังมีแบบยัยองค์หญิงนี่อีก! น่าสอนให้รู้สักทีว่าการมายุ่งกับสามีคนอื่นตายไปแล้วจะตกนรกอเวจี!

 “เสี่ยวซี เจ้ากลับไปนั่งเถิด หากเข้าไปล่าสัตว์เกรงว่าเจ้าจะ...” อ๋องหนุ่มกำลังเตือนนางด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อเห็นสายตาเอาเรื่องของผู้เป็นชายาจึงยอมสงบปากสงบคำ

 “ทำไม จะห้ามข้าหรือ สามีอยู่ที่ใดภรรยาเช่นข้าก็ย่อมอยู่ที่นั่น” นางหันมามองหานไท่หยาง แล้วถาม “จริงหรือไม่เพคะ”

 อ๋องหนุ่มพยายามสงบท่าที เขายอมรับเลยว่าตอนนี้นางน่ากลัวนัก ยิ่งยามที่นางมองเขากับหญิงอื่นสนทนากัน สายตาของนางยิ่งน่า

กลัวขึ้นไปอีก เขาไม่กล้าสบตาดุๆ ของผู้เป็นภรรยา ได้แต่ตอบเสียงเบา

 “จริง” เขาตอบเสียงเบา แต่เสียงนั้นแฝงไปด้วยความกลัวที่มีต่อนางอย่างชัดเจน

 องค์หญิงซิ่วอิ่งนางไม่ยอมแพ้ อย่างไรเสียเป้าหมายที่นางมาที่นี่ก็คือหานไท่หยางเพียงคนเดียว ต่อให้เขามีภรรยาแล้วอย่างไรนางก็ไม่สนทั้งสิ้น นางพยายามดึงดันหาโอกาสที่จะอยู่กับเขาแบบสองต่อสองให้ได้

 “แต่ว่าพระชายาคงไม่เคยจับอาวุธพวกนี้มาก่อน หากเสด็จเข้าร่วมอาจเกิดอันตราย” นางยังคงแย้งไม่เลิก ทั้งเกลียดและชิงชังจางอวิ๋นซีนัก

 จางอวิ๋นซียกยิ้ม นางหยิบลูกธนูออกจากแล่งหนึ่งดอก น้าวคันธนูจนสุดแขนพลางเล็งเป้าหมายคือต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ห่างไกลออกไป ซึ่งยากมากที่จะยิงเข้าได้ เพราะระยะที่วัดเอาจากสายตาอาจทำให้เป้าหมายของนางอย่างต้นไม้ใหญ่นั้นคลาดเคลื่อนได้

 หญิงสาวน้าวคันธนูจนสุดแขน สายตาพยายามกะระยะให้แม่นยำที่สุด ท่ามกลางสายตานับสิบคู่ในงานที่มองอย่างไม่วางตา ไม่รู้เสียแล้วว่าตอนที่นางอยู่โลกปัจจุบัน นอกจากจะเป็นแพทย์แล้วยังเป็นนักกีฬายิงธนูของโรงเรียนสมัยมัธยมอีกด้วย เรื่องแค่นี้เป็นเรื่องที่เล็กน้อยนัก

 ฉึก!

 หญิงสาวปล่อยลูกธนูออกไป ลูกธนูดอกนั้นพุ่งไปไกลเข้าปักที่ต้นไม้ใหญ่อย่างพอดี เสียงปรบมือชื่นชมดังกระหึ่มไม่หยุดหย่อน หานไท่หยางยิ้มอย่างพึงพอใจในชายาของตนเองนัก

 “เจ้าคงได้เห็นแล้วสินะองค์หญิง การกระทำนั้นสำคัญที่สุด” จางอวิ๋นซียกยิ้ม คิดจะเป็นนางร้ายในละคร รอชาติหน้าเถิด!

 หานไท่หยางลอบกลืนน้ำลายลงคอ นางยิงธนูเก่งกาจนัก เก่งจนน่ากลัวเสียจริง! หากสมมติในอนาคตเขาต้องอภิเษกหญิงอื่นมาเป็นชายา นางต้องฆ่าเขาตายแน่ๆ

 หลังจบปัญหาขนาดย่อม ตัวแทนจากแต่ละเมืองก็เข้าสู่สนามประลองล่าสัตว์ทันที โดยมีจางอวิ๋นซีควบอาชาไปกับหานไท่หยางและทหารองครักษ์อีกหลายสิบนายพร้อมกัน

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ทาสรัก ท่านอ๋องอำมหิต (ตอนที่ 1 - ปัจจุบัน)   ตอนที่ 24 โบยพระชายา

    สมรสพระราชทานระหว่างจางเซียวหรูและหานอี้ ถูกประกาศไว้ทั่วเมืองอย่างยิ่งใหญ่ด้วยฝีมือของหยางเต๋อเฟย ไม่แพ้คราวที่จางอวิ๋นซีแต่งงานกับหานไท่หยางเลยสักนิด เป็นที่โจษจันกันทั่ววังหลวงว่าในอนาคตนี้ อ๋องใหญ่หานอี้อาจได้รับการสถาปนาเป็นรัชทายาทเป็นแน่ด้วยอุปนิสัยของหานอี้ที่เข้าถึงได้ง่าย มีจิตใจโอบอ้อมอารี คอยช่วยเหลือประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยาก และจางเซียวหรูที่เป็นถึงบัณฑิตหญิงอันดับหนึ่งของแคว้นหาน ย่อมเหมาะสมยิ่งนักราวกับกิ่งทองใบหยก ข่าวดีนี้ทำให้มีเหล่าเสนาบดีน้อยใหญ่มากมายต่างมาผูกสัมพันธ์กับสกุลจางให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเหล่าบรรดาคุณหนูทั้งหลายที่เคยตราหน้าจางเซียวหรูว่าเป็นบุตรีฮูหยินรอง บัดนี้พวกนางต่างมานอบน้อมต่อจางเซียวหรูทั้งสิ้นข้าวของเงินทองถูกนำมาเป็นของกำนัลล่วงหน้าในงานแต่งงาน ทรัพย์สินสมรสของหานอี้ถูกทยอยส่งมาเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย อีกทั้งยังมีเครื่องประดับเพชรนิลจินดามากมายที่ถูกส่งมาจากหยางรั่วอวิ๋นหรือ หยางเต๋อเฟย“เครื่องประดับพวกนี้งดงามนักเจ้าค่ะท่านแม่ ท่านย่าว่าอย่างไรเจ้าคะ” ไท่ฮูหยินที่เป็นย่าก็ร่วมยินดีที่หลานสาว

  • ทาสรัก ท่านอ๋องอำมหิต (ตอนที่ 1 - ปัจจุบัน)   ตอนที่ 23 ป่านอกเมือง

    จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานเทศกาลล่าสัตว์เมื่อวันก่อน ทำให้ หยางเต๋อเฟยกังวลพระทัยอยู่หลายวัน เนื่องจากการมีองค์หญิงแคว้นเยว่เข้ามาเกี่ยวข้องในฐานะพระชายารองของหานไท่หยาง อาจส่งผลให้อำนาจของหานอี้บุตรชายของนางลดลง ดังนั้นวันนี้พระนางจึงเดินทางไปเข้าเฝ้าไทเฮา เพื่อทวงสัญญาเรื่องสมรสพระราชทานระหว่างหานอี้กับจางเซียวหรูแต่ทว่าจังหวะที่กำลังเข้าเฝ้าอยู่นั้น องค์หญิงซิ่วอิ่งก็เดินทางเข้าวังมาถวายพระพรฮองเฮาและไทเฮาตามธรรมเนียมพอดี ทำให้พระนางต้องยืนรอให้อีกฝ่ายออกไปให้พ้นหูพ้นตาเสียก่อน จึงริเริ่มแผนการสมรสพระราชทานเมื่อคล้อยหลังองค์หญิงซิ่วอิ่งแล้ว หยางรั่วอวิ๋นหรือหยางเต๋อเฟยจึงไปเข้าเฝ้าไทเฮาที่ตำหนักคังเฉวียนทันที นางทวงถามสัญญาเรื่องสมรสพระราชทานจากไทเฮา“ดูเจ้าจะรีบร้อนเสียจริง เรื่องการแต่งงานของหลานข้า หานอี้” ไทเฮาทรงจิบชาอย่างเกษมสำราญ มิได้ทุกข์ร้อนดังเช่นหยางเต๋อเฟย“แต่เสด็จแม่เคยให้สัญญากับข้าเอาไว้ แล้วว่าจะประกาศเรื่องสมรสพระราชทานในวันเทศกาลล่าสัตว์ ทรงลืมแล้วหรือเพคะ” หยางเต๋อเฟยกล่าวอย่างร้อนใจ

  • ทาสรัก ท่านอ๋องอำมหิต (ตอนที่ 1 - ปัจจุบัน)   ตอนที่ 22 คิดถึงภรรยา

    ภายในใจของจางอวิ๋นซีในตอนนี้ ไม่ต่างกับไฟร้อนที่สุมทรวง นางไม่เข้าใจว่าอาการเหล่านี้คือสิ่งใด หากเป็นที่โลกปัจจุบันของนาง คงเป็นเพราะธาตุทั้งห้าในร่างกายกำลังแปรปรวนเป็นแน่หญิงสาวรีบเดินจ้ำอ้าวเข้ามาในตำหนัก ปิดประตูไม่ต้อนรับผู้ใดทั้งสิ้น แม้กระทั่งหรูหรงและหยางกูกูก็ยังยืนรอแค่นอกห้อง“ทำไมข้าต้องรู้สึกโกรธที่เจ้าอยู่กับคนอื่นด้วยนะ” นางเอามือกุมหน้าอกที่กำลังร้อนรุ่มด้วยเหตุผลบางอย่าง จะว่านางประจำเดือนมาหรือไม่ก็คงไม่ใช่“หรูหรง หยางกูกู เข้ามาหาข้าที” ข้ารับใช้ทั้งสองรีบเดินเข้ามาเมื่ออีกฝ่ายมีรับสั่งเรียก“เพคะ พระชายา” หรูหรงเดินเข้ามา“หรูหรง เจ้าไปตลาดสด ซื้อสมองหมูกับไส้หมูมาให้ข้าที ส่วน หยางกูกู ท่านไปที่โรงครัว เตรียมมีดสั้นกับตะเกียบมาให้ข้าด้วย” นางสั่งยืดยาวหรูหรงและหยางกูกูมองหน้ากันอย่างงุนงง ของทั้งสองอย่างนั้นพระชายาของพวกนางจะเอามาทำสิ่งใดกันแน่“พระชายาจะเอาของพวกนั้นมาทำสิ่งใดเพคะ” หยางกูกูถามด้วยความอยากรู้

  • ทาสรัก ท่านอ๋องอำมหิต (ตอนที่ 1 - ปัจจุบัน)   ตอนที่ 21 ลงโทษ

    องค์หญิงซิ่วอิ่ง นอกจากจะมีพฤติกรรมถือดี ยโสโอหังแล้วนั้น ยังแสดงความไม่เคารพต่อจางอวิ๋นซีผู้เป็นพระชายาเอกแห่งวังอ๋องอย่างชัดเจน“เป็นแค่พระชายาเอกต่ำศักดิ์ มีสิทธิ์อันใดหรือมาสั่งข้า” ซิ่วอิ่งกล่าววาจาดูถูกดูแคลนอย่างชัดเจน นางยืนกอดอกไม่แสดงความเคารพต่ออีกฝ่ายเลยสักนิดจางอวิ๋นซียกยิ้ม “เจ้าอยู่ที่นี่ก็มิใช่แขกบ้านแขกเมืองอีกต่อไป ในเมื่ออีกหนึ่งปีต่อจากนี้เจ้าก็ต้องแต่งเข้ามาเป็นพระชายารองให้สามีข้า หน้าที่ในการอบรมสั่งสอนเจ้าให้รู้ถึงกฎธรรมเนียมของวัง ย่อมเป็นหน้าที่ข้า ดังนั้นข้าจะทำเช่นใดกับเจ้าก็ย่อมได้”“แต่เดิมทีหน้าที่อบรมขนบธรรมเนียมเป็นหน้าที่ของกูกูใหญ่ ไม่ใช่หน้าที่ของพระชายาเอก” ซิ่วอิ่งแย้งทันควัน หยางกูกูลอบยกยิ้มส่งเสริมพระชายาเอกของนาง“เป็นดั่งที่พระชายาเอกทรงกล่าวเพคะ หน้าที่ในการอบรมสั่งสอนองค์หญิง ย่อมเป็นหน้าที่ของพระนาง จะเป็นหน้าที่ของข้าก็ย่อมได้ แต่ในเมื่อพระชายาเอกทรงปรารถนาจะสั่งสอนองค์หญิงด้วยตนเอง หม่อมฉันก็ไม่อาจขัดพระประสงค์ได้” หยางกูกูกล่าวเสริม นางนับถือจ

  • ทาสรัก ท่านอ๋องอำมหิต (ตอนที่ 1 - ปัจจุบัน)   ตอนที่ 20 พระชายารอง

    องค์หญิงซิ่วอิ่งยกยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า นางหันมามองเมิ่งฉีผู้เป็นพี่ชายเชิงส่งสัญญาณ เมิ่งฉีรีบกล่าวทันที“ทูลฮองเฮา ที่น้องสาวกระหม่อมกล่าวมานั้นเป็นความจริงทุกประการ เสด็จพ่อทรงปรารถนาให้น้องหญิง อภิเษกกับพระราชบุตรองค์ใดองค์หนึ่งของฝ่าบาท เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองแคว้นพะยะค่ะ” เมิ่งฉีกล่าว สายตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยันร้ายกาจ“เมื่อสักครู่ฝ่าบาท ฮองเฮา ไทเฮาและทุกคนได้ประจักษ์แก่สายตาแล้ว ว่าหม่อมฉันได้ขี่ม้าตัวเดียวกับหานไท่หยาง เสด็จพ่อหม่อมฉันทรงปรารถนาให้หม่อมฉันอภิเษกกับหานไท่หยางเพคะ” ซิ่วอิ่งยกยิ้มมุมปาก นางหันไปเย้ยหยันจางอวิ๋นซีที่ยืนนิ่งทำสิ่งใดไม่ถูก“อาหยางของข้ามีชายาเอกอยู่แล้ว การที่องค์หญิงทำเช่นนี้ย่อมไม่เหมาะสม” หานไทเฮาทรงกล่าวพระสุรเสียงนุ่มนวล“แต่น้องสาวของข้ามาที่นี่เพื่อการอภิเษก หากพวกท่านทำเช่นนี้ ตามธรรมเนียมแล้วนางไม่สามารถอภิเษกกับบุรุษอื่นได้อีก พวกท่านทำเช่นนี้ เท่ากับพวกท่านไม่ให้เกียรติทางต้าเยว่ของข้า!” เมิ่งฉีแสร้งมีท่าทีเดือดดาล“ห

  • ทาสรัก ท่านอ๋องอำมหิต (ตอนที่ 1 - ปัจจุบัน)   ตอนที่ 19

    จางอวิ๋นซีควบม้านำหานอ๋องไท่หยางผู้เป็นสามี จนกระทั่งมาถึงบริเวณสนามประลองใจกลางป่า ซึ่งมีธงสีแดงโบกพลิ้วไสวอยู่ ธงสีแดงที่โบกพลิ้วอยู่นี้เป็นสัญลักษณ์ของจุดรวมพล หลังจากเสร็จสิ้นการประลองก่อนหมดเวลาเพียงหนึ่งเค่อทุกคนจะต้องมารวมตัวกันที่นี่ทางด้านหลังของหานไท่หยางก็ยังมีองค์หญิงซิ่วอิ่งตามติดมาเช่นกัน อีกฝ่ายยังคงควบม้าตามสามีของนางไม่ลดละ หน้าไม่อายยิ่ง!“นึกว่าจะตามท่านอ๋องไม่ทันเสียแล้ว” นางยกสายบังเหียนขึ้นสูงบังคับให้ม้าหยุด พลางส่งยิ้มหวานให้หานไท่หยางอย่างออดอ่อยเต็มที่“ตามข้ามาทำไม” ชายหนุ่มถามอีกฝ่ายตรงๆ อย่างไม่ไว้หน้านาง ทำเอาองค์หญิงแคว้นเยว่หน้าชาไปชั่วขณะหนึ่ง ไม่เคยมีบุรุษใดถามคำถามนางเช่นนี้มาก่อน อีกทั้งรูปโฉมอันงดงามของนางก็ยากจะมีชายใดปฏิเสธ แต่หานไท่หยางเป็นคนแรกที่กล้าทำเช่นนี้กับนาง“อะ เอ่อ คือ...” นางเอ่ยตะกุกตะกัก “หม่อมฉัน ปรารถนาจะร่วมล่าสัตว์กับท่านอ๋องนะเพคะ”หานไท่หยางเบื่อหน่ายท่าทีขององค์หญิงผู้นี้นัก “ถ้าเช่นนั้นองค์หญิงก็ดูแลตนเอง เพ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status