 LOGIN
LOGIN[3 เดือนต่อมา ณ สนามบินประเทศไทย]
“พี่ข้าวมองหาใครเหรอครับ หรือมองหาพี่เตยครับ”
“ใช่ พี่กำลังมองว่า เมื่อไหร่เตยจะมาสักที เครื่องกำลังจะออกแล้ว”
ความเป็นจริง ขวัญข้าวกำลังมองหาใครคนหนึ่ง ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่เธอก็ยังหวังว่าเขาจะมา นับตั้งแต่วันนั้น เขากับเธอก็ไม่เคยได้เจอะเจอหน้ากันอีกเลย เขาติดต่อเธอทุกอย่างผ่านทางเลขาของเขาทั้งหมด ขวัญข้าวไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมเขาถึงหลบหน้าเธอมาตลอดสามเดือน จนกระทั่งตอนนี้ เธอและน้องตัดสินใจไปเรียนต่ออเมริกา อีกกี่ปีไม่รู้ที่เธอกับน้องจะได้กลับมา น้องชายอายุสิบขวบ ส่วนเธอสิบหก คงอีกหลายปีสินะ
“มาแล้วๆ ข้าว เตยมาแล้วจ้า”
“แหม เกือบไม่ทันแล้วนะเตย”
“โอย รถติดมากเลยข้าว เตยทนไม่ไหวลงจากแท็กซี่นั่ง วินมอไซด์หัวกระเจิงมาเนี่ย”
“โอเค ขอบใจนะเตยที่มาส่งข้าวกับภัทรน่ะ”
“คิดถึงอ่ะ ขอกอดหน่อย ข้าวอย่าลืมแชทหาเตยนะ ห้ามลืมเพื่อนคนนี้เด็ดขาดนะ เรียนจบแล้ว เรากลับมาทำงานด้วยกันนะข้าว สัญญากับเตยนะ”
“ใครจะลืมเพื่อนที่น่ารักคนนี้กันยะ ข้าวไม่ลืมหรอก เราจะกลับมาทำงานด้วยกันนะ”
“อือ ภัทร ดูแลพี่ข้าวด้วยนะ กลับมาคงเป็นหนุ่มแล้ว อย่าลืมดูแลตัวเองกันด้วยนะ ข้าว ภัทร”
“อืม เตยก็ดูแลตัวเองด้วยล่ะ โอเค ข้าวไปแล้วนะเตย”
“อือ...ถึงแล้วอย่าลืมโทรกลับมาหรือแชทมานะข้าว”
“โอเค...บ๊าย บาย เตย / พี่เตยภัทรไปแล้วนะครับพี่”
“จ้าภัทร T-T”
[วอชิงตัน ดี.ซี(Washington DC)...สหรัฐอเมริกา]
ขวัญข้าว : ตอนนี้ข้าวกับภัทรได้ที่เรียนแล้วนะเตย ข้าวเรียนหลักสูตรHigh School Completion เพราะข้าวยังเรียนไม่จบ ‘มอปลาย ที่นี่เขามีหลักสูตรรองรับด้วยแหละ ^-^ ส่วนภัทรก็เรียนอยู่ที่โรงเรียนเดียวกันนะ
ขวัญข้าว : เราสองคนพี่น้องปรับตัวค่อนข้างเยอะมาก เรื่องภาษาตอนนี้ข้าวกับภัทรก็สื่อสารพอเข้าใจบ้างแล้ว เตยเป็นยังไงบ้างล่ะ สรุปเตยเปลี่ยนแผนจะเรียนวิศวะเหรอ หนักไปไหม จากหมอไปวิศวะ
ใบเตย : ขอโทษทีนะข้าวตอบช้าไปหน่อย เตยดีใจนะที่ข้าวกับภัทรปรับตัวกันได้แล้ว อาหารการกินไม่เหมือนบ้านเราเลย คงลำบากน่าดูเลยนะ (คิดถึงหมูกระทะบ้านเราเนอะ ^<>^)
ใบเตย : เตยตัดสินใจเรียนวิศวะเพราะพ่อบอกว่า วิศวะค่าเทอมเบากว่าเรียนหมอน่ะ ความจริงเตยก็ชอบเหมือนกันนะ เรียนอะไรก็ได้ ดูกำลังเงินของพ่อเป็นหลัก ^<>^
ขวัญข้าว : อืม...งั้นข้าวก็คงจะเลือกเรียนเหมือนเตยนะ จำได้มั้ย ว่าเราสัญญาว่าจบแล้วจะทำงานด้วยกันน่ะ
ใบเตย : อ้าว ทำไมข้าวไม่เรียนต่อหมอแล้วเหรอ มันเป็นความตั้งใจแรกของข้าวเลยนะ อีกอย่างข้าวเรียนได้อยู่แล้ว มีเงิน ท่านชายคินน์ส่งข้าวกับภัทรเรียนจบอยู่แล้ว
ขวัญข้าว : ข้าวเปลี่ยนใจเพราะเตยแหละ ตัวเองไม่ได้มีเป้าหมายอะไรแล้ว แต่เหมือนภัทรเขาจะไปสายหมออยู่เหมือนกันนะ ให้น้องเป็นหมอก็ได้ ส่วนข้าวอยากทำงานอะไรก็ได้ที่ไม่เครียดมาก และได้ทำกับเตยก็พอ
ใบเตย : งั้นก็ตามใจข้าวแล้วกันนะ เออ แล้วทางบ้านวรารักษ์เมธานนท์ติดต่อมาหาข้าวกับภัทรบ้างมั้ย เตยหมายถึง ท่านชายคินน์น่ะ
ขวัญข้าว : ไม่นะ...มีแต่เลขาของท่านชายเท่านั้น ท่านชายคินน์รับปากคุณลุงไว้ เรื่องดูแลข้าวกับภัทร เขาก็คงทำตามหน้าที่แหละเตย อืม ข้าวกับภัทรอยู่ได้สบายมาก อีกหลายปีเลยนะกว่าจะจบมหาวิทยาลัย
ใบเตย : น่า...สู้ๆ นะข้าว เตยเป็นกำลังใจให้ เตยอยู่ทางนี้ก็สู้เหมือนกัน ว่าแต่เรื่องพี่นนท์ นับตั้งแต่วันที่เตยไปที่บ้านพี่เขา เตยก็ไม่เห็นพี่เขาอีกเลย ในไอจีไม่มีความเคลื่อนไหวเลย เฮ้อ โอปป้าของฉัน...นกไปโดยปริยาย T-T
ขวัญข้าว : [สติ๊กเกอร์หัวเราะ]
ขวัญข้าว : เอาน่าเตย ไม่เป็นไรหรอก ในโลกนี้ยังมีหนุ่มๆ อีกเพียบ ที่ดีกว่าคุณนนท์นะ เพื่อนของข้าวสวยอยู่แล้วไม่ต้องห่วง
ใบเตย : [สติ๊กเกอร์ยิ้ม]
ใบเตย : ว่าแต่เพื่อนของเตยล่ะ มีหนุ่มผมทองมาส่องบ้างมั้ยล่ะ ข้าวสวยหุ่นดีขนาดนี้ จะต้องมีบ้างแหละ
ขวัญข้าว : ไม่มีหรอก ตอนนี้ข้าวอยากเรียนให้จบก่อนนะ เรื่องหนุ่มๆ อะไรเนี่ยยังไม่คิดหรอก
ใบเตย : ใช่ เราต้องโฟกัสเรื่องเรียนก่อนดีกว่านะ อนาคตเราอาจจะเป็นพวก ‘สวย และรวยมาก’ก็ได้นะ 5555...
ขวัญข้าว : อืม ความคิดดีนะ เห็นด้วยเลยแหละ ^<>^
[เวลาผ่านไป...]
[7ปีต่อมา...ประเทศไทย]
“ขอโทษนะครับ ลุงไม่แน่ใจว่านี่ใช่ หนูขวัญข้าวหรือเปล่าครับ คือลุงเห็นหนูยืนรอคนมารับนานแล้ว”
ประคินเลขาคนเก่าของหม่อมราชวงศ์นวพลกำลังเอ่ยถามหญิงสาวคนหนึ่งด้วยความลังเล เด็กสาวในวันนั้นเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากจนเขาจำไม่ได้ ภาพถ่ายเมื่อ 7 ปีที่แล้วเมื่อเทียบกับตอนนี้แล้ว ไม่รู้ว่าจะใช่คนเดียวกันหรือเปล่า
“ใช่ค่ะ...หนูคือขวัญข้าวค่ะ”
หญิงสาวมองชายวัยกลางคน ถ้าเธอจำไม่ผิด คุณลุงคนนี้ก็คือเลขาคนเก่าของท่านชายนวพล ขวัญข้าวเคยเห็นเขาอยู่สองสามครั้ง จากนั้นก็ติดต่อเขาผ่านทางโทรศัพท์ตลอดแต่ก็ไม่บ่อยมาก วันนี้ขวัญข้าวเรียนจบแล้ว เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง สาขาวิศวกรรมอุต-สาหการ (Industrial Engineering) ซึ่งเธอได้เรียนต่อทางด้านบริหารและการต่างประเทศเสริมอีกด้วย ระยะเวลา 7 ปี ทำให้เธอในวัย 23 ปีพร้อมจะกลับมายังบ้านเกิดของตัวเองเพื่อทำงานและดำรงชีวิตใหม่อีกครั้ง
“งั้นเชิญเลยครับ ลุงต้องขอโทษด้วยนะครับ ลุงจำหนูไม่ได้เลยจริงๆ”
ส่วนสูงที่เพิ่มขึ้น ผิวพรรณนวลเนียน ดวงหน้าสวยเกลี้ยงเกลาใส มองดูแล้วหมดจดอวบอิ่มสวยสะพรั่งของวัยสาว ประคินมองครั้งแรก ยังคิดว่าเธอคือดารานางแบบเลยด้วยซ้ำ ความสวยของเธอโดดเด่น จนผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมานั้นอดมองเธอไม่ได้เลย
“หนูก็จำคุณลุงไม่ได้เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ได้ยินเสียงล่ะก็ คงจำไม่ได้เช่นกันค่ะคุณลุง แล้วนี่ คุณลุงจะพาหนู เอ่อ พาข้าวไปไหนคะ ไปที่บ้านเลยหรือเปล่าคะ”
7 ปีที่เธออยู่อเมริกา ขวัญข้าวไม่เคยได้รับข่าวคราวจากบ้านวรารักษ์เมธานนท์แม้แต่คนเดียว การกลับมาของเธอครั้งนี้ทุกคนยังจะเหมือนเดิมอยู่ไหม โดยเฉพาะหม่อมราชวงศ์อคิราห์
“แล้วคุณภัทรน้องชายของหนูข้าวล่ะครับ เป็นอย่างไรบ้างครับ หนูข้าวกลับมาแบบนี้จะเหงาหรือเปล่าครับ”
“ภัทรยังเรียนต่อค่ะ อีกหลายปี ตอนนี้ภัทรอายุ 17 ก็น่าจะอีกสัก 7-8ปีค่ะที่จะกลับ ภัทรเรียนหมอค่ะคุณลุง ตอนแรกภัทรก็อยากจะกลับมาพักผ่อนด้วย แต่ข้าวยังห่วงน้องเรื่องเรียนค่ะ ก็เลยเอาไว้โอกาสหน้าแล้วกันค่ะ”
 ทรายแมว
ทรายแมวกดหัวใจ คอมเมนท์ = หนึ่งกำลังใจนะคะ ฝากกดติดตาม เพิ่มเข้าชั้น และรับแจ้งเตือนตอนใหม่ เรื่องใหม่ค่ะ ทรายแมว : เขียน

“พักเรื่องงานไว้ก่อนครับ วันนี้ผมขอดื่มฉลองมิตรภาพของเราก่อนนะครับ”วิลเลี่ยมยกแก้วเครื่องดื่มชูขึ้น สายตาคมสีฟ้าของเขามองไปยังเลขาแสนสวยที่อยู่ในชุดเดรสสีแดงที่มีความเซ็กซี่อย่างที่สุด“อ่อ ครับ ผมนี่แย่จริงๆ นะครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่พูดเรื่องงานซะเยอะเลย ความจริงวันนี้ผมก็พาคุณมาผ่อนคลายครับ”ธนนท์รีบยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นเพื่อเป็นการขอโทษ“สองสาวนี่ไม่ต้องห่วงนะครับ วันนี้พักเรื่องงานสักวัน เดี๋ยวผมขออนุญาตเจ้านายคุณเองครับ...โอเค มั้ยครับคุณธนนท์”“ได้ครับ หมดเวลางานแล้วครับ” ธนนท์หันไปพยักหน้าให้กับสองสาวเพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูด“ค่ะ/ค่ะ”“อืม ขออนุญาตถามเรื่องส่วนตัวคุณ...เขม หน่อยนะครับ ไม่ทราบว่าคุณมีครอบครับหรือยังครับ”วิลเลี่ยมเปิดประเด็นคำถามในสิ่งที่เขาสนใจทันที เขารู้สึกถูกใจหญิงไทยคนนี้มาก“ยังค่ะ ดิฉันยังโสดค่ะ” เขมมิกาตื่นเต้นอย่างที่สุด สุดท้ายแล้วเธอก็เข้าตาหนุ่มสายฝอเข้าแล้ว ^^“ไหนๆ คุณเขมก็ถูกท่านประธานถามเรื่องนี้ไปแล้ว จริงๆ ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะครับ ว่าคุณชมพูนุทตอนนี้คุณยังโสดเหมือนกับคุณเขมหรือเปล่าครับ”ปรเมศยิงคำถามต่อจากเจ้านายของตัวเองทันที“เอ่อ
“ค่ะ...” “ฉันอยากจะขอโทษเธอ...ขวัญข้าว ขอโทษในสิ่งที่ฉันทำไม่ดีกับเธอและน้องของเธอ อภัยให้ฉันเถอะนะ...” “ค่ะคุณผู้หญิง ดิฉันให้อภัยคุณผู้หญิงค่ะ และดิฉันเชื่อว่าแม่ของดิฉันก็คงจะคิดเหมือนกันค่ะ เรื่องราวในอดีต ดิฉันไม่ได้เก็บเอามาคิดอีกแล้วค่ะ คุณผู้หญิงไม่ต้องคิดมากนะคะ” “ขอบใจเธอมากนะขวัญข้าว ฉันขอบใจเธอจริงๆ บ้านหลังนี้เธออยู่ได้สบายเลยนะ ไม่ต้องย้ายออกไปอยู่ที่ไหนแล้ว นอกเสียจากเธอจะแต่งงานมีครอบครัวไป นั่นก็แล้วแต่เธอนะ ฉันไม่ได้มีอำนาจที่จะตัดสินใจ อย่างที่บอก ชายคินน์ต่างหาก ที่เป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้ และในตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งชายคินน์กับนนท์ลูกชายของฉัน ทำไมถึงยังไม่แต่งงานมีครอบครัวกันอีก เรื่องนี้ก็ทำให้ฉันกลุ้มใจอยู่พอสมควร” “ท่านชายคินน์กับคุณนนท์อาจจะมีแล้วก็ได้นะคะ คุณทั้งสองอาจจะยังไม่เปิดตัวก็ได้ค่ะคุณผู้หญิง” “ไม่มีหรอก...ฉันตามสืบมาหมดแล้ว” “ห๊ะ! อะไรนะคะ คุณผู้หญิงตามสืบเหรอคะ”คำพูดของคุณหญิงบงกชเพชรทำให้ขวัญข้าวตกใจเป็นอย่างมาก หัวใจเธอเต้นแรงแทบจะทะลุออกจากอก ขวัญข้าวกังวลเรื่องเธอกับท่านชายในอดีต
[บ้านวรารักษ์เมธานนท์...ในเวลายามเย็น] “นั่นลูกจะออกไปไหนอีกล่ะ พึ่งกลับเข้ามาไม่ใช่เหรอ”คุณหญิงบงกชเพชรมองบุตรีของตัวเองที่อยู่ในชุดพร้อมที่จะออกจากบ้าน “แพรนัดเพื่อนไว้ค่ะคุณแม่ วันนี้วันเกิดมิ้นท์ค่ะ เราจะไปฉลองกันค่ะ” “เรื่องเรียนของลูกไปถึงไหนแล้ว ตามแก้รายวิชาครบแล้วหรือยัง แล้วเทอมนี้จะจบหรือเปล่าลูก” “ยังค่ะคุณแม่ คงต้องจบเทอมหน้าค่ะ เพราะเหลืออีกแค่สองตัวค่ะ ยังไงแพรก็ต้องเรียนจบอยู่แล้วค่ะ คุณแม่ไม่ต้องห่วงค่ะ” “อะไรนะ! ไหนลูกบอกว่าเทอมนี้จะจบ แล้วนี่เลื่อนไปเทอมหน้าอีกเหรอ ตายแล้วยัยแพร ทำไมเรียนแค่นี้ ถึงไม่จบซะที ดูพี่นนท์เราสิ ถึงแม้จะเกเรยังไงแต่ก็ยังเรียนจบ ทำไมลูกถึงไม่เอาอย่างพี่นนท์บ้างล่ะลูก” “ก็อาจารย์ที่ ‘มหาลัยสิคะคุณแม่ แกล้งแพรค่ะ ความจริงแพรก็จะจบเทอมนี้แหละค่ะ”แพรพิไลกุเรื่องเพื่อโกหกผู้เป็นแม่ ความเป็นจริง เธอเองต่างหากที่ไม่อยากเรียนจบ เพราะถ้าเธอเรียนจบแล้ว แม่ของเธอจะต้องจับเธอยัดเข้าทำงานที่บริษัทพี่ชายของเธอเป็นแน่ “แม่ไม่เชื่อที่ลูกบอกหรอกนะแพร ครั้งที่แล้วลูกก็บอกว่าอาจารย์แกล้งแบ
“อึก! อึก!” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความตกใจที่จู่ๆ ริมฝีปากของชายหนุ่มก็ฉกวูบลงมาด้วยความเร็วแสงประกบจูบปากของเธออย่างรวดเร็ว ขวัญข้าวพยายามสะบัดหน้าหนี แต่ทว่าก็ถูกมือใหญ่บีบปลายคางของเธอเอาไว้ ลมหายใจปัดผ่านข้างใบหน้าใกล้ชิด ลิ้นหนาเกี่ยวกวัดลิ้นเล็กไว้ในปากอย่างหิวกระหาย อีกมือก็เกี่ยวกระหวัดร่างบางเข้ามาแนบร่างแกร่งราวกับงูใหญ่กำลังรัดเหยื่ออย่างหิวโหย“อึ้ม...” ขณะที่ริมฝีปากของเขาแนบสนิทก็ไม่อาจซ่อนรอยยิ้มอันพึงใจไว้ได้ ความหวานที่เคยลิ้มลองไม่เคยลดน้อยลงไปเลยสักนิด ชายหนุ่มตะโบมจูบอย่างร้อนแรงและหนักหน่วงจนได้ยินเสียงอู้อี้ในลําคอของอีกฝ่าย“ไม่! อึก!” ขวัญข้าวพยายามดิ้นเพื่อหนีริมฝีปากร้อน แต่เธอก็ไม่สามารถจะหลบหลีกริมฝีปากความเร็วแสงนั้นได้ มือทั้งสองข้างของเธอผลักอกแกร่งจนสุดแรง แต่ทว่ามันก็เหมือนกับผลักหินผาก็ไม่ปาน สะโพกมนเกยอยู่บนโต๊ะทำงานในสภาพกึ่งนั่งกึ่งยืน โดยที่ตัวของชายหนุ่มใช้ร่างของเขากันเธอเอาไว้ ไม่ให้หนีออกไปได้สำเร็จ“อืม...หวานเหมือนเดิมนี่”อคิราห์ถอนริมฝีปากของตัวเองออก พร้อมกับก้มมองใบหน้าของเธอ ที่ตอนนี้มีสภาพแดงเห่อไปทั่วทั้งหน้า ชายหนุ่มยกยิ้มอย
[อีกด้านหนึ่ง...ห้องทำงานบริษัทวรารักษ์เมธานนท์] “ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะยุ่งยากตรงไหนเลย เธอมาสมัครงานตามที่นายนนท์บอกเธอไว้แล้วนี่ เธอก็รู้อยู่แล้ว ทำไมจะต้องทำเรื่องนี้ให้วุ่นวายไปอีก ฉันไม่เข้าใจ”หม่อมราชวงศ์อคิราห์มองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา และต้องการที่จะพบเขาในเวลานี้ เหตุผลของเธอเพียงเพื่ออยากสมัครงานตามระบบแค่นั้นหรือ เขาไม่เข้าใจเลย “ดิฉันคิดว่ามันไม่ถูกต้องค่ะ ดิฉันไม่อยากจะใช้เส้นค่ะ ดิฉันแค่ต้องการได้สอบและสัมภาษณ์ตามปกติเหมือนคนทั่วไป ก็แค่นั้นเองค่ะท่านชาย” “แล้วเธอได้อะไร จากสิ่งที่เธอกำลังเรียกร้องอยู่ตอนนี้” “ดิฉันไม่ได้เรียกร้องค่ะ แค่ต้องการทำให้มันถูกต้องตามระบบก็เท่านั้นเองค่ะท่านชาย”ดวงตากลมโตจ้องกลับใบหน้าคม เอาจริงๆ วันนี้เป็นครั้งแรกของขวัญข้าวเลยก็ว่าได้ ที่เธอได้มองหน้าเขาได้ชัดเจนและเต็มตามากขนาดนี้ เธออยู่ห่างจากเขาไม่ถึงเมตรเลยด้วยซ้ำ ลมหายใจร้อนเป่ารดมาที่เธอ จนเธอสัมผัสได้ และทำให้เธออดนึกถึงความรู้สึกบางอย่างเมื่อเจ็ดปีที่แล้วไม่ได้... “ผลสุดท้าย เธอก็ต้องเข้าทำงานอยู่ดี ทำไมต้องเรื่องมาก” “นี่
[บริษัทวรารักษ์เมธานนท์] “ขอโทษนะคะ คือว่าดิฉันยังไม่ได้สอบข้อเขียน และสัมภาษณ์เลยนะคะ คุณจะให้ดิฉันเริ่มงานวันพรุ่งนี้เลยเหรอคะ”ขวัญข้าวมาสมัครงานที่บริษัทวรารักษ์เมธานนท์ในวันรุ่งขึ้น ในตำแหน่ง Sales Engineer ตามที่บริษัทได้ประกาศรับ เธอพึ่งจะกรอกใบสมัครไปใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ขวัญข้าวก็ทราบผล เธอรู้สึกไม่โอเคกับสิ่งที่คุณธนนท์ทำมากนัก เธอไม่อยากเป็นเด็กเส้นในสายตาของคนอื่น สังคมการทำงานของเธอก็จะลำบากมากขึ้น “คุณธนนท์เธอได้บอกไว้แล้วค่ะ ว่าถ้าคุณขวัญข้าวมา ก็รับได้เลยแค่กรอกใบสมัครก็พอค่ะ รายละเอียดต่างๆ ในการทำงานอยู่ซองกระดาษนี่นะคะ ดิฉันเตรียมเรียบร้อยแล้วค่ะ” “ดิฉันขอคุยกับคุณธนนท์หน่อยได้มั้ยคะ” “คุณธนนท์ไม่อยู่ค่ะ เธอไปจังหวัดระยองกับเลขา และฝ่าย Sales Engineer คนใหม่ตั้งแต่เมื่อเช้าค่ะ” “Sales Engineer คนใหม่เหรอคะ เอ่อ ไม่ทราบว่าเธอชื่อชมพูนุทหรือเปล่าคะ”เมื่อเช้าเพื่อนของเธอได้แชทหาเธอตั้งแต่เช้า ว่าจะรีบออกไปทำงาน วันแรกของชมพูนุทก็ดูจะรีบร้อนไปหมด “ใช่ค่ะ คุณชมพูนุทพึ่งมาทำงานวันนี้วันแรกค่ะ เผอิญมีลูกค้าใหญ่ที
