 LOGIN
LOGIN“ท่านชายไม่ได้แม่ของมัน...ก็ยังจะเอาลูกของมันมาเหรอคะ...อืม...ดูแล้วก็เป็นสาวแล้วนี่...คงแทนแม่มันได้สินะ”
“หยุด! เดี๋ยวนี้นะคุณหญิง! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ที่ผ่านมาผมไม่เคยจะนึกรักคุณเลยสักที! คุณเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจมาก!”
หม่อมราชวงศ์นวพลได้แต่โทษตัวเองซ้ำๆ ที่ตอนวัยหนุ่มนั้นเขาไม่มีความกล้าเลยสักนิด ไม่กล้าแม้จะปฏิเสธคำประกาศิตของพ่อแม่เขาเลย ได้แต่ปล่อยให้ทุกอย่างครอบงำเขาไปหมด จนต้องสูญเสียคนที่เขารักไป
“ท่านชาย!” คุณหญิงบงกชเพชรอารมณ์เดือดปรี๊ด กระทืบเท้าและเดินจากไปอย่างขัดใจ เมื่อได้ยินคำพูดที่แทงใจเธอมาตลอด 20กว่าปี เขาไม่เคยรักเธอเลย ทั้งที่เธอพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งให้กำเนิดลูกกับเขาถึงสองคน แต่ทว่าเขาก็ยังไม่ลืมคนรักเก่า ‘นังมุกดา มันตายไปแล้ว ก็ยังไม่ลืมมันอีก’
“นี่ห้องของหนูนะขวัญข้าว และห้องตรงข้ามเป็นห้องของเธอณภัทร”
“ขอบคุณค่ะคุณลุง / ขอบคุณครับ”
“เธอสองคนไม่ต้องกังวลอะไรนะ ตั้งใจเรียน ลุงจะมีเงินค่าขนมให้เธอสองคนทุกเดือน...ถ้าอยากให้แม่เธอที่ดูจากบนฟ้าสบายใจล่ะก็...หนูสองคนต้องตั้งใจเรียนนะ...รู้มั้ย”
“ค่ะคุณลุง / ครับ”
“เอาล่ะ...ขาดเหลืออะไรก็บอกลุงได้นะ หรือมีเรื่องอะไรก็โทรหาลุงได้นะ มือถือที่ลุงซื้อให้ ลุงบันทึกเบอร์ของเราไว้แล้วนะ”
“ค่ะ /ครับ”
จากนี้ไปชีวิตของเด็กสาวกับเด็กชายจะเป็นอย่างไร เมื่อต้องมาอาศัยอยู่ร่วมชายคาท่ามกลางบุคคลที่ไม่รู้จัก และคนเหล่านั้น ก็จงเกลียดจงชังแม่ของเธอ มีเพียงหม่อมราชวงศ์นวพลเท่านั้นที่ดีกับเธอ...
[คฤหาสน์วรารักษ์เมธานนท์]
“นั่งสิ! ยืนค้ำหัวอยู่ทำไม! นังอบเชยจับมันให้นั่งลง”เสียงตวาดดังกึกก้องอยู่กลางห้องโถงของคฤหาสน์หลังใหญ่ ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ 20ไร่เศษ ตระกูลวรารักษ์เมธานนท์เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างในฐานะที่มีเชื้อสายของราชวงศ์ที่มีมาอย่างช้านาน วันนี้เป็นวันที่ประมุขของบ้านไม่อยู่ ท่านผู้หญิงบงกชเพชรจึงสบโอกาสในการที่จะกำจัดทายาทเสี้ยนหนามที่มันตำอยู่ในอกของเธอมานาน
“ค่ะคุณท่านผู้หญิง”
อบเชยหัวหน้าข้าทาสบริวารน้อมรับคำสั่งจากนายหญิงของบ้าน จับเด็กสาวและเด็กชายทั้งสองกดให้นั่งคุกเข่าลงกับพื้น เบื้องหน้าของทั้งสองมีเจ้านายของบ้านนั่งเรียงรายด้วยกันสามคน บุตรชายคนโต ‘ธนนท์’ เด็กหนุ่มวัย 22 ปี และ ‘แพรพิไล’ เด็กสาววัย 16 ปี ซึ่งเป็นบุตรของหม่อมราชวงศ์นวพลและคุณท่านผู้หญิงบงกชเพชร
“แกสองคนคงคิดว่าท่านชายให้แกมาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะของลูกสินะ...แม่ของแกตายไป แทนที่จะเอาแกไปด้วย กลับมาอ้อนวอนท่านชาย ให้เอาแกสองคนมาอยู่ที่นี่”
คุณท่านผู้หญิงบงกชเพชรมองเด็กสาวและเด็กชายที่มีหน้าตาละหม้ายคล้ายกับนังผู้หญิงที่เป็นหนามยอกอกของเธอตลอด 20 กว่าปี หม่อมราชวงศ์นวพลรักผู้หญิงชื่อมุกดามานานมาก ก่อนหน้านี้หม่อมราชวงศ์นวลปรางค์ยังยอมพ่ายแพ้ให้กับนังมุกดาผู้หญิงหน้าด้านหน้าหนาที่สุด โดยยอมทิ้งทุกอย่างไป เหลือไว้เพียงแต่ ท่านชายอคิราห์ บุตรชายที่มีเชื้อสายของคนทั้งสองเอาไว้
“คุณลุงเป็นคนให้หนูและน้องมาอยู่ค่ะ”
ขวัญข้าวโต้กลับอย่างตรงไปตรงมา สายตาของเธอกวาดมองผู้ที่นั่งอยู่ตรงหน้าของเธอ ท่านผู้หญิง พร้อมด้วยบุตรจำนวนสองคน มองเธอด้วยสายตาชนิดเดียวกัน ความเกลียดชังแสดงออกทางสายตาของคนทั้งสามอย่างชัดเจน
“ฉันไม่ใช่ป้าของแก และอีกอย่างท่านชายนวพล ก็ไม่ใช่คุณลุงของแกอีกด้วย เพราะฉะนั้นต่อไปนี้แกอย่าสะเออะมาเรียกแบบนี้อีกเข้าใจมั้ย!”
“ค่ะคุณผู้หญิง”
ขวัญข้าวรับคำพร้อมกับก้มหน้า เธอไม่อยากมีปัญหา นั่นก็เป็นเพราะแม่ของเธอ ‘ลูกจะต้องอดทนนะข้าว ไม่ว่าจะเจออะไร ข้าวต้องดูแลน้องต่อจากแม่’
“คุณแม่ไล่มันออกจากบ้านเราไปเลยสิคะ ให้เงินมันไปเลยค่ะ มันจะได้ไม่ต้องมาอยู่รกหูรกตาที่นี่อีก”
แพรพิไลมองคนที่เธอเอ่ยถึงด้วยสายตาที่เกลียดชังอย่างที่สุด เหตุผลก็คงเป็นเพราะความสวยและน่ารักของมันที่ทำให้แฟนหนุ่มที่แวะมาหาเธอที่บ้านเอ่ยชมอย่างออกนอกหน้า จนเธอเกิดความหมั่นไส้นั่นเอง
“ไล่มันไปได้ยังไงลูก คุณพ่อของลูกจะต้องโกรธแม่สิ”
ท่านผู้หญิงบงกชเพชรรู้ว่า ถ้าเธอทำตามอย่างที่ลูกสาวของเธอบอกล่ะก็ หม่อมราชวงส์นวพลคงจะไม่เอาเธอไว้อย่างแน่นอน ‘เจ็บใจนัก ทำไมอีนังมุกดามันถึงทำให้ท่านชายรักได้ขนาดนี้นะ’
“ให้ผมจัดการมั้ยครับคุณแม่”
เสียงทุ้มวัยแตกหนุ่มเอ่ยขึ้นทันที สายตาวิบวับเจ้าเล่ห์ของชายหนุ่มเต็มเปี่ยมไปด้วยเพลิงปรารถนาอย่างโจ่งแจ้ง มองเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้ม ขาวเนียน น่ารักสดใส วัยสาวของเธอกำลังเบ่งบานน่าลิ้มลองเป็นอย่างมาก ธนนท์ถนัดเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ขอเพียงแค่แม่เขาเอ่ยอนุญาต
“ลูกไม่ต้องไปเกลือกกลั้วกับมันหรอก อีเด็กนี่มันก็คงจะสกปรกเหมือนแม่มันแหละ นนท์อย่าไปยุ่งกับมันนะลูก”
วาจาแบ่งชนชั้นพร้อมกับพ่นคำพูดเหยียดหยามเข้าใส่ คุณหญิงบงกชเพชรพยายามสรรหาทุกคำด่า เพื่อกำจัดสิ่งเลวร้ายให้หมดไปจากชีวิตเธอ ความแค้นที่ส่งต่อจากแม่สู่ลูกไม่มีวันที่จะจางหายไปได้
“แต่ถ้าให้ผมจัดการ รับรองมันอยู่ที่นี่ไม่ได้แน่ๆ เลยครับแม่ วิธีของผมไม่ยากครับ”
สายตาโลมเลียเผยออกมาอย่างชัดเจนเมื่อยามที่มองไปยังร่างอวบอิ่มของวัยสาวที่อยู่ตรงหน้า ธนนท์หมายตาเธอคนนี้มานานแล้ว แต่ยังไม่เคยสบโอกาสเลยสักที เมื่อแม่ของเธอตายทุกอย่างก็เข้าทางเขาแล้วทีนี้
“ไม่ได้! แม่จะไม่ยอมให้ลูกนนท์ของแม่ ต้องมาแปดเปื้อนนังเด็กชั้นต่ำคนนี้แน่นอน...”
“งั้น คุณแม่จะทำยังไงคะ เราไล่มันไปก็ไม่ได้ จะให้พี่นนท์จัดการมันก็ไม่ได้”
“แกอยู่บ้านหลังนี้ ท่านชายให้ข้าวให้น้ำแกแบบฟรีๆ เพราะฉะนั้นแกจะต้องทำงานแลกด้วยมันถึงจะถูก ต่อไปนี้ฉันจะให้นังอบเชยคอยกำกับแกเรื่องการทำงานในบ้านหลังนี้ และห้ามแกเอาเรื่องนี้ไปบอกท่านชายเด็ดขาด ถ้าท่านชายรู้เรื่องนี้เมื่อไหร่ล่ะก็ แกและน้องเตรียมขุดหลุมฝังศพตัวแกไว้ได้เลย ฉันไม่เอาไว้แน่!”

“พักเรื่องงานไว้ก่อนครับ วันนี้ผมขอดื่มฉลองมิตรภาพของเราก่อนนะครับ”วิลเลี่ยมยกแก้วเครื่องดื่มชูขึ้น สายตาคมสีฟ้าของเขามองไปยังเลขาแสนสวยที่อยู่ในชุดเดรสสีแดงที่มีความเซ็กซี่อย่างที่สุด“อ่อ ครับ ผมนี่แย่จริงๆ นะครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่พูดเรื่องงานซะเยอะเลย ความจริงวันนี้ผมก็พาคุณมาผ่อนคลายครับ”ธนนท์รีบยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นเพื่อเป็นการขอโทษ“สองสาวนี่ไม่ต้องห่วงนะครับ วันนี้พักเรื่องงานสักวัน เดี๋ยวผมขออนุญาตเจ้านายคุณเองครับ...โอเค มั้ยครับคุณธนนท์”“ได้ครับ หมดเวลางานแล้วครับ” ธนนท์หันไปพยักหน้าให้กับสองสาวเพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูด“ค่ะ/ค่ะ”“อืม ขออนุญาตถามเรื่องส่วนตัวคุณ...เขม หน่อยนะครับ ไม่ทราบว่าคุณมีครอบครับหรือยังครับ”วิลเลี่ยมเปิดประเด็นคำถามในสิ่งที่เขาสนใจทันที เขารู้สึกถูกใจหญิงไทยคนนี้มาก“ยังค่ะ ดิฉันยังโสดค่ะ” เขมมิกาตื่นเต้นอย่างที่สุด สุดท้ายแล้วเธอก็เข้าตาหนุ่มสายฝอเข้าแล้ว ^^“ไหนๆ คุณเขมก็ถูกท่านประธานถามเรื่องนี้ไปแล้ว จริงๆ ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะครับ ว่าคุณชมพูนุทตอนนี้คุณยังโสดเหมือนกับคุณเขมหรือเปล่าครับ”ปรเมศยิงคำถามต่อจากเจ้านายของตัวเองทันที“เอ่อ
“ค่ะ...” “ฉันอยากจะขอโทษเธอ...ขวัญข้าว ขอโทษในสิ่งที่ฉันทำไม่ดีกับเธอและน้องของเธอ อภัยให้ฉันเถอะนะ...” “ค่ะคุณผู้หญิง ดิฉันให้อภัยคุณผู้หญิงค่ะ และดิฉันเชื่อว่าแม่ของดิฉันก็คงจะคิดเหมือนกันค่ะ เรื่องราวในอดีต ดิฉันไม่ได้เก็บเอามาคิดอีกแล้วค่ะ คุณผู้หญิงไม่ต้องคิดมากนะคะ” “ขอบใจเธอมากนะขวัญข้าว ฉันขอบใจเธอจริงๆ บ้านหลังนี้เธออยู่ได้สบายเลยนะ ไม่ต้องย้ายออกไปอยู่ที่ไหนแล้ว นอกเสียจากเธอจะแต่งงานมีครอบครัวไป นั่นก็แล้วแต่เธอนะ ฉันไม่ได้มีอำนาจที่จะตัดสินใจ อย่างที่บอก ชายคินน์ต่างหาก ที่เป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้ และในตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งชายคินน์กับนนท์ลูกชายของฉัน ทำไมถึงยังไม่แต่งงานมีครอบครัวกันอีก เรื่องนี้ก็ทำให้ฉันกลุ้มใจอยู่พอสมควร” “ท่านชายคินน์กับคุณนนท์อาจจะมีแล้วก็ได้นะคะ คุณทั้งสองอาจจะยังไม่เปิดตัวก็ได้ค่ะคุณผู้หญิง” “ไม่มีหรอก...ฉันตามสืบมาหมดแล้ว” “ห๊ะ! อะไรนะคะ คุณผู้หญิงตามสืบเหรอคะ”คำพูดของคุณหญิงบงกชเพชรทำให้ขวัญข้าวตกใจเป็นอย่างมาก หัวใจเธอเต้นแรงแทบจะทะลุออกจากอก ขวัญข้าวกังวลเรื่องเธอกับท่านชายในอดีต
[บ้านวรารักษ์เมธานนท์...ในเวลายามเย็น] “นั่นลูกจะออกไปไหนอีกล่ะ พึ่งกลับเข้ามาไม่ใช่เหรอ”คุณหญิงบงกชเพชรมองบุตรีของตัวเองที่อยู่ในชุดพร้อมที่จะออกจากบ้าน “แพรนัดเพื่อนไว้ค่ะคุณแม่ วันนี้วันเกิดมิ้นท์ค่ะ เราจะไปฉลองกันค่ะ” “เรื่องเรียนของลูกไปถึงไหนแล้ว ตามแก้รายวิชาครบแล้วหรือยัง แล้วเทอมนี้จะจบหรือเปล่าลูก” “ยังค่ะคุณแม่ คงต้องจบเทอมหน้าค่ะ เพราะเหลืออีกแค่สองตัวค่ะ ยังไงแพรก็ต้องเรียนจบอยู่แล้วค่ะ คุณแม่ไม่ต้องห่วงค่ะ” “อะไรนะ! ไหนลูกบอกว่าเทอมนี้จะจบ แล้วนี่เลื่อนไปเทอมหน้าอีกเหรอ ตายแล้วยัยแพร ทำไมเรียนแค่นี้ ถึงไม่จบซะที ดูพี่นนท์เราสิ ถึงแม้จะเกเรยังไงแต่ก็ยังเรียนจบ ทำไมลูกถึงไม่เอาอย่างพี่นนท์บ้างล่ะลูก” “ก็อาจารย์ที่ ‘มหาลัยสิคะคุณแม่ แกล้งแพรค่ะ ความจริงแพรก็จะจบเทอมนี้แหละค่ะ”แพรพิไลกุเรื่องเพื่อโกหกผู้เป็นแม่ ความเป็นจริง เธอเองต่างหากที่ไม่อยากเรียนจบ เพราะถ้าเธอเรียนจบแล้ว แม่ของเธอจะต้องจับเธอยัดเข้าทำงานที่บริษัทพี่ชายของเธอเป็นแน่ “แม่ไม่เชื่อที่ลูกบอกหรอกนะแพร ครั้งที่แล้วลูกก็บอกว่าอาจารย์แกล้งแบ
“อึก! อึก!” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความตกใจที่จู่ๆ ริมฝีปากของชายหนุ่มก็ฉกวูบลงมาด้วยความเร็วแสงประกบจูบปากของเธออย่างรวดเร็ว ขวัญข้าวพยายามสะบัดหน้าหนี แต่ทว่าก็ถูกมือใหญ่บีบปลายคางของเธอเอาไว้ ลมหายใจปัดผ่านข้างใบหน้าใกล้ชิด ลิ้นหนาเกี่ยวกวัดลิ้นเล็กไว้ในปากอย่างหิวกระหาย อีกมือก็เกี่ยวกระหวัดร่างบางเข้ามาแนบร่างแกร่งราวกับงูใหญ่กำลังรัดเหยื่ออย่างหิวโหย“อึ้ม...” ขณะที่ริมฝีปากของเขาแนบสนิทก็ไม่อาจซ่อนรอยยิ้มอันพึงใจไว้ได้ ความหวานที่เคยลิ้มลองไม่เคยลดน้อยลงไปเลยสักนิด ชายหนุ่มตะโบมจูบอย่างร้อนแรงและหนักหน่วงจนได้ยินเสียงอู้อี้ในลําคอของอีกฝ่าย“ไม่! อึก!” ขวัญข้าวพยายามดิ้นเพื่อหนีริมฝีปากร้อน แต่เธอก็ไม่สามารถจะหลบหลีกริมฝีปากความเร็วแสงนั้นได้ มือทั้งสองข้างของเธอผลักอกแกร่งจนสุดแรง แต่ทว่ามันก็เหมือนกับผลักหินผาก็ไม่ปาน สะโพกมนเกยอยู่บนโต๊ะทำงานในสภาพกึ่งนั่งกึ่งยืน โดยที่ตัวของชายหนุ่มใช้ร่างของเขากันเธอเอาไว้ ไม่ให้หนีออกไปได้สำเร็จ“อืม...หวานเหมือนเดิมนี่”อคิราห์ถอนริมฝีปากของตัวเองออก พร้อมกับก้มมองใบหน้าของเธอ ที่ตอนนี้มีสภาพแดงเห่อไปทั่วทั้งหน้า ชายหนุ่มยกยิ้มอย
[อีกด้านหนึ่ง...ห้องทำงานบริษัทวรารักษ์เมธานนท์] “ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะยุ่งยากตรงไหนเลย เธอมาสมัครงานตามที่นายนนท์บอกเธอไว้แล้วนี่ เธอก็รู้อยู่แล้ว ทำไมจะต้องทำเรื่องนี้ให้วุ่นวายไปอีก ฉันไม่เข้าใจ”หม่อมราชวงศ์อคิราห์มองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา และต้องการที่จะพบเขาในเวลานี้ เหตุผลของเธอเพียงเพื่ออยากสมัครงานตามระบบแค่นั้นหรือ เขาไม่เข้าใจเลย “ดิฉันคิดว่ามันไม่ถูกต้องค่ะ ดิฉันไม่อยากจะใช้เส้นค่ะ ดิฉันแค่ต้องการได้สอบและสัมภาษณ์ตามปกติเหมือนคนทั่วไป ก็แค่นั้นเองค่ะท่านชาย” “แล้วเธอได้อะไร จากสิ่งที่เธอกำลังเรียกร้องอยู่ตอนนี้” “ดิฉันไม่ได้เรียกร้องค่ะ แค่ต้องการทำให้มันถูกต้องตามระบบก็เท่านั้นเองค่ะท่านชาย”ดวงตากลมโตจ้องกลับใบหน้าคม เอาจริงๆ วันนี้เป็นครั้งแรกของขวัญข้าวเลยก็ว่าได้ ที่เธอได้มองหน้าเขาได้ชัดเจนและเต็มตามากขนาดนี้ เธออยู่ห่างจากเขาไม่ถึงเมตรเลยด้วยซ้ำ ลมหายใจร้อนเป่ารดมาที่เธอ จนเธอสัมผัสได้ และทำให้เธออดนึกถึงความรู้สึกบางอย่างเมื่อเจ็ดปีที่แล้วไม่ได้... “ผลสุดท้าย เธอก็ต้องเข้าทำงานอยู่ดี ทำไมต้องเรื่องมาก” “นี่
[บริษัทวรารักษ์เมธานนท์] “ขอโทษนะคะ คือว่าดิฉันยังไม่ได้สอบข้อเขียน และสัมภาษณ์เลยนะคะ คุณจะให้ดิฉันเริ่มงานวันพรุ่งนี้เลยเหรอคะ”ขวัญข้าวมาสมัครงานที่บริษัทวรารักษ์เมธานนท์ในวันรุ่งขึ้น ในตำแหน่ง Sales Engineer ตามที่บริษัทได้ประกาศรับ เธอพึ่งจะกรอกใบสมัครไปใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ขวัญข้าวก็ทราบผล เธอรู้สึกไม่โอเคกับสิ่งที่คุณธนนท์ทำมากนัก เธอไม่อยากเป็นเด็กเส้นในสายตาของคนอื่น สังคมการทำงานของเธอก็จะลำบากมากขึ้น “คุณธนนท์เธอได้บอกไว้แล้วค่ะ ว่าถ้าคุณขวัญข้าวมา ก็รับได้เลยแค่กรอกใบสมัครก็พอค่ะ รายละเอียดต่างๆ ในการทำงานอยู่ซองกระดาษนี่นะคะ ดิฉันเตรียมเรียบร้อยแล้วค่ะ” “ดิฉันขอคุยกับคุณธนนท์หน่อยได้มั้ยคะ” “คุณธนนท์ไม่อยู่ค่ะ เธอไปจังหวัดระยองกับเลขา และฝ่าย Sales Engineer คนใหม่ตั้งแต่เมื่อเช้าค่ะ” “Sales Engineer คนใหม่เหรอคะ เอ่อ ไม่ทราบว่าเธอชื่อชมพูนุทหรือเปล่าคะ”เมื่อเช้าเพื่อนของเธอได้แชทหาเธอตั้งแต่เช้า ว่าจะรีบออกไปทำงาน วันแรกของชมพูนุทก็ดูจะรีบร้อนไปหมด “ใช่ค่ะ คุณชมพูนุทพึ่งมาทำงานวันนี้วันแรกค่ะ เผอิญมีลูกค้าใหญ่ที








