 LOGIN
LOGIN“หนูกับน้องต้องเรียนหนังสือนะคะคุณผู้หญิง”
ขวัญข้าวเรียนอยู่แค่ชั้น ‘มอห้าเท่านั้นเอง อีกอย่างช่วงนี้เธอต้องเตรียมตัวเพื่อหาที่เรียนต่างๆ ความฝันของขวัญข้าวคือการเป็นหมอ เหตุผลคงเป็นเพราะผลพวงจากที่แม่ของเธอป่วยนั่นเอง
“แกอย่ามาแถให้มากนัก แกกับน้องมีเวลาเยอะแยะ เลิกเรียนและเสาร์อาทิตย์อีก ถ้าพวกแกไม่ทำ ฉันจะลงโทษแกสองคนเลยคอยดู และถ้าเรื่องนี้ถึงหูท่านชายล่ะก็ ฉันจะฆ่าแกและน้อง! จำไว้อย่าริอาจมาลองดีกับฉัน!”
“ค่ะคุณผู้หญิง”
ขวัญข้าวไม่สามารถที่จะโต้แย้งอะไรได้อีกต่อไป เธอสงสารน้องชายของเธอ ญาติมิตรทั้งฝ่ายพ่อกับแม่ก็ไม่มี เหลือเพียงขวัญข้าวกับน้องเท่านั้น ถ้าไม่มีคุณลุงล่ะก็ ขวัญข้าวและน้องคงต้องลำบากกว่านี้แน่นอน
“ดี! จำใส่หัวแกไว้ให้ดี”
“คุณท่านคะ...คือว่า...”
“มีอะไรนังเอม”
“ท่านชายคินน์กลับมาแล้วค่ะ”
“อุ้ยตาย! แกไปรับหน้าก่อนนังอบเชย”
“ค่ะคุณผู้หญิง”
“แกสองคนอยู่เงียบๆ อย่าได้สะเออะปากพูดอะไรให้ท่านชายรู้ล่ะ...ไม่งั้นฉันเอาแกตายแน่”
คุณท่านผู้หญิงบงกชเพชรพยายามทำตัวเองให้ดูดีมาตลอด เพื่อให้ลูกเลี้ยงของเธอนั้นจะได้ยอมรับเธอในฐานะมารดา หม่อมราชวงศ์อคิราห์ หรือท่านชายคินน์ในวัย 29 ปีถูกเธอเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีตั้งแต่ยังวัยห้าขวบ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามมันสักเท่าไหร่ ท่านชายอคิราห์ก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่เคยยอมรับความหวังดีจากเธอเลยสักครั้ง
“ค่ะ” ขวัญข้าวและน้องชายก้มหน้ารับคำบัญชาต่อ หม่อมราชวงศ์อคิราห์ก็ไม่ต่างจากคนพวกนี้สักเท่าไหร่ ขวัญข้าวเคยพบหน้าเขาอยู่หลายครั้ง สายตาของท่านชายที่มองมาที่เธอนั้น แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบในตัวเธอ เหตุผลก็คงเป็นเหมือนกับท่านผู้หญิงบงกชเพชร แต่อาจจะมากกว่าสักหน่อย
หม่อมราชวงศ์อคิราห์เป็นชายหนุ่มรูปงาม ส่วนสูง 189 เซนต์ ไหล่หนากว้างที่ตั้งตรงดูผึ่งผาย ดูมีเสน่ห์น่าหลงใหล ผมสีบลอนด์เข้มหยักศกนิดๆ ตัดได้รูปกับใบหน้าคมสัน ปากได้รูปสวย สายตาอัน คมเข้มที่ถูกปกคลุมด้วยแพขนตาหนา ชายหนุ่มมักจะติดท็อปอันดับยืนหนึ่งความหน้าตาดีของกลุ่มเหล่าไฮโซ ที่บรรดาเซเลปทั้งหลายมักตั้งฉายาให้ว่า ‘ชายคินน์ทรงเสน่ห์’
“ชายคินท์เป็นอย่างไรบ้างลูก แหม กลับมาจากสิงคโปร์ไม่บอกแม่เลยนะ แม่จะได้จัดเตรียมต้อนรับไว้รอ”“ผมไปประชุมที่สิงคโปร์แค่ห้าวัน ไม่เห็นว่าคุณหญิงจะต้องลำบากต้อนรับอะไร”
ท่าทีเฉยชาที่มีต่อแม่เลี้ยงของอคิราห์ยังคงเหมือนเดิมไม่แปรเปลี่ยน ไม่มีใครแทนที่แม่ของอคิราห์ได้เลย ความเจ็บปวดที่แม่เขาได้รับ เขาจดจำมันได้เป็นอย่างดี สายตาคมดุเหลือบมองไปยังทายาทของตัวต้นเหตุนั้นทันที
“นั่นแหละ ห้าวันแม่ก็เตรียมข้าวปลาอาหารต้อนรับก็ได้นี่จ๊ะ...วันนี้อยู่กันพร้อมหน้าเลย เดี๋ยวคุณพ่อของท่านชายก็คงจะกลับแล้ว แม่ให้อบเชยสั่งอาหารเรียบร้อยแล้วจ้า”
“พี่คินท์มีอะไรมาฝากน้องแพรบ้างคะเนี่ย”
แพรพิไลพุ่งตรงเข้าไปเกาะแขนของพี่ชายต่างมารดาทันที ใครๆ ก็รู้ว่าทรัพย์สมบัติและบริษัทในเครือวรารักษ์เมธานนท์นั้น บุตรของหม่อมราชวงศ์นวพลคือตัวเต็งของทายาทอันดับหนึ่งกันทั้งนั้น
“มีสิ...พี่ให้เลขาซื้อมาแล้ว”
สายตาของอคิราห์จ้องไปที่เด็กสาวที่นั่งนิ่งและก้มหน้าตลอดเวลา โดยที่เธอไปไม่คิดที่จะเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยซ้ำ
“อ๋อ...คือแม่เรียกเด็กสองคนนี่มาทำความเข้าใจ เรื่องการอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้น่ะ ชายคินน์คงจะทราบแล้วใช่มั้ยลูก ว่าคุณพ่อได้ให้เด็กสองคนนี้เข้ามาอยู่ในบ้านแล้ว”
“คุณพ่อน่ะเหรอ...ผมไม่เห็นจะรู้เรื่องนี้เลย”
อคิราห์มองกลับไปที่เด็กสาวอีกครั้ง ความรู้สึกไม่พอใจแล่นขึ้นมาทันที เหตุผลที่แม่ทิ้งเขาไป นั่นก็เป็นเพราะบุพการีของเด็กสองคนนี้ ภาพจำในวัยเด็กของอคิราห์กำลังฉายเข้ามาอย่างช้าๆ
“อุ้ยตาย...แม่เผลอบอกไปแล้ว แม่ไม่รู้จริงๆ คิดว่าคุณพ่อของชายคินน์จะคุยกันแล้วซะอีกค่ะ”
“แล้วคุณพ่อให้เด็กสองคนนี่อยู่ห้องไหนครับ”
สายตาพิฆาตจับจ้องไปที่ร่างของเด็กสาวทันที แม่ของเขาต้องเจ็บปวดและทิ้งเขาไปเพราะผู้หญิงที่ชื่อมุกดาแม่ของเด็กคนนี้ และในตอนนี้พ่อของเขา ยังพาทายาทของคนรักเก่าเข้ามาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเขาอีก
“ห้องเก่าของชายคินน์ไงคะ แม่ห้ามท่านพ่อก็ไม่ยอมฟัง ว่าเป็นห้องเก่าของชายคินน์ และ...เอ่อ...ชายคินน์รักห้องนั้นมาก”
คุณผู้หญิงบงกชเพชรเติมเชื้อไฟลงไปทันที เมื่อเธอรู้ว่าไฟเริ่มที่จะติดแล้ว ห้องเก่านั้นก็คือห้องของหม่อมราชวงศ์นวลปรางค์ มารดาของท่านชายอคิราห์นั่นเอง
“ห้องมีตั้งเยอะแยะ ทำไมคุณพ่อถึงเลือกห้องนั้นให้เธอ!”
อคิราห์หันไปฟาดเด็กสาวที่นั่งหน้านิ่งนั้นทันที ใบหน้า สง่างามเต็มไปด้วยความดุร้าย ความเจ็บปวดที่แม่ทิ้งเขาไปยังอยู่ในความทรงจำของเขาตลอดเวลา ทำไมคุณพ่อถึงได้บดขยี้ใจของเขาซ้ำเพิ่มขึ้นไปอีก
“ท่านชายคินน์ถามแก ไม่ได้ยินหรือไง นังขวัญข้าว!”
นายว่าขี้ข้าพลอย คุณหญิงบงกชเพชรใช้จังหวะนี้เล่นงานทายาทศัตรูใจของเธอทันที
“หนูไม่รู้ค่ะ...คุณ-ละ เอ่อ ท่านชายนวพลให้หนูกับน้องมาอยู่ค่ะ...หนูไม่รู้จริงๆ ว่าคือห้องของใครค่ะ”
ขวัญข้าวตอบกลับไปแบบตรงๆ เธอไม่รู้ว่าการที่แม่ของเธอเป็นคนรักเก่าของหม่อมราชวงศ์นวพลนั้น มันผิดมากมายขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมทุกคนถึงได้จงเกลียดจงชังแม่ของเธอนัก ทั้งที่แม่ของเธอกับหม่อมราชวงศ์นวพลก็เป็นได้แค่คนเคยรักกันเท่านั้น
“งั้น เธอควรรีบย้ายของออกจากห้องนั้น เพราะฉันไม่อนุญาตให้ใครมาแตะห้องของแม่ฉันโดยเด็ดขาด”
ถึงแม้อคิราห์จะอยู่ในวัย 29 ปีแล้วก็ตาม แต่ความรู้สึกและความทรงจำในวัยเด็กของเขานั้น ยังมีแม่ของเขาอยู่เสมอ ภาพจำที่แม่ของเขาเดินจากไป มันยังตราตรึงอยู่ในใจเขาทุกห้วงเวลา
“งั้น ท่านชายคินน์ ก็ควรที่จะบอกกับท่านชายนวพลสิคะ เพราะท่านพ่อของท่านชายเองเป็นคนที่ให้หนูมาอยู่ค่ะ”
ขวัญข้าวหมายความอย่างที่เธอพูดจริงๆ ไม่ได้คิดที่จะก้าวร้าวแต่อย่างใด หม่อมราชวงศ์นวพลคือคนที่พาเธอกับน้องมาจริงๆ เพราะฉะนั้นถ้าจะให้เธอย้ายห้องนั้น ท่านก็ควรจะมาเอ่ยด้วยตัวเองสิ ถึงจะถูก

“พักเรื่องงานไว้ก่อนครับ วันนี้ผมขอดื่มฉลองมิตรภาพของเราก่อนนะครับ”วิลเลี่ยมยกแก้วเครื่องดื่มชูขึ้น สายตาคมสีฟ้าของเขามองไปยังเลขาแสนสวยที่อยู่ในชุดเดรสสีแดงที่มีความเซ็กซี่อย่างที่สุด“อ่อ ครับ ผมนี่แย่จริงๆ นะครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่พูดเรื่องงานซะเยอะเลย ความจริงวันนี้ผมก็พาคุณมาผ่อนคลายครับ”ธนนท์รีบยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นเพื่อเป็นการขอโทษ“สองสาวนี่ไม่ต้องห่วงนะครับ วันนี้พักเรื่องงานสักวัน เดี๋ยวผมขออนุญาตเจ้านายคุณเองครับ...โอเค มั้ยครับคุณธนนท์”“ได้ครับ หมดเวลางานแล้วครับ” ธนนท์หันไปพยักหน้าให้กับสองสาวเพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูด“ค่ะ/ค่ะ”“อืม ขออนุญาตถามเรื่องส่วนตัวคุณ...เขม หน่อยนะครับ ไม่ทราบว่าคุณมีครอบครับหรือยังครับ”วิลเลี่ยมเปิดประเด็นคำถามในสิ่งที่เขาสนใจทันที เขารู้สึกถูกใจหญิงไทยคนนี้มาก“ยังค่ะ ดิฉันยังโสดค่ะ” เขมมิกาตื่นเต้นอย่างที่สุด สุดท้ายแล้วเธอก็เข้าตาหนุ่มสายฝอเข้าแล้ว ^^“ไหนๆ คุณเขมก็ถูกท่านประธานถามเรื่องนี้ไปแล้ว จริงๆ ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะครับ ว่าคุณชมพูนุทตอนนี้คุณยังโสดเหมือนกับคุณเขมหรือเปล่าครับ”ปรเมศยิงคำถามต่อจากเจ้านายของตัวเองทันที“เอ่อ
“ค่ะ...” “ฉันอยากจะขอโทษเธอ...ขวัญข้าว ขอโทษในสิ่งที่ฉันทำไม่ดีกับเธอและน้องของเธอ อภัยให้ฉันเถอะนะ...” “ค่ะคุณผู้หญิง ดิฉันให้อภัยคุณผู้หญิงค่ะ และดิฉันเชื่อว่าแม่ของดิฉันก็คงจะคิดเหมือนกันค่ะ เรื่องราวในอดีต ดิฉันไม่ได้เก็บเอามาคิดอีกแล้วค่ะ คุณผู้หญิงไม่ต้องคิดมากนะคะ” “ขอบใจเธอมากนะขวัญข้าว ฉันขอบใจเธอจริงๆ บ้านหลังนี้เธออยู่ได้สบายเลยนะ ไม่ต้องย้ายออกไปอยู่ที่ไหนแล้ว นอกเสียจากเธอจะแต่งงานมีครอบครัวไป นั่นก็แล้วแต่เธอนะ ฉันไม่ได้มีอำนาจที่จะตัดสินใจ อย่างที่บอก ชายคินน์ต่างหาก ที่เป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้ และในตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งชายคินน์กับนนท์ลูกชายของฉัน ทำไมถึงยังไม่แต่งงานมีครอบครัวกันอีก เรื่องนี้ก็ทำให้ฉันกลุ้มใจอยู่พอสมควร” “ท่านชายคินน์กับคุณนนท์อาจจะมีแล้วก็ได้นะคะ คุณทั้งสองอาจจะยังไม่เปิดตัวก็ได้ค่ะคุณผู้หญิง” “ไม่มีหรอก...ฉันตามสืบมาหมดแล้ว” “ห๊ะ! อะไรนะคะ คุณผู้หญิงตามสืบเหรอคะ”คำพูดของคุณหญิงบงกชเพชรทำให้ขวัญข้าวตกใจเป็นอย่างมาก หัวใจเธอเต้นแรงแทบจะทะลุออกจากอก ขวัญข้าวกังวลเรื่องเธอกับท่านชายในอดีต
[บ้านวรารักษ์เมธานนท์...ในเวลายามเย็น] “นั่นลูกจะออกไปไหนอีกล่ะ พึ่งกลับเข้ามาไม่ใช่เหรอ”คุณหญิงบงกชเพชรมองบุตรีของตัวเองที่อยู่ในชุดพร้อมที่จะออกจากบ้าน “แพรนัดเพื่อนไว้ค่ะคุณแม่ วันนี้วันเกิดมิ้นท์ค่ะ เราจะไปฉลองกันค่ะ” “เรื่องเรียนของลูกไปถึงไหนแล้ว ตามแก้รายวิชาครบแล้วหรือยัง แล้วเทอมนี้จะจบหรือเปล่าลูก” “ยังค่ะคุณแม่ คงต้องจบเทอมหน้าค่ะ เพราะเหลืออีกแค่สองตัวค่ะ ยังไงแพรก็ต้องเรียนจบอยู่แล้วค่ะ คุณแม่ไม่ต้องห่วงค่ะ” “อะไรนะ! ไหนลูกบอกว่าเทอมนี้จะจบ แล้วนี่เลื่อนไปเทอมหน้าอีกเหรอ ตายแล้วยัยแพร ทำไมเรียนแค่นี้ ถึงไม่จบซะที ดูพี่นนท์เราสิ ถึงแม้จะเกเรยังไงแต่ก็ยังเรียนจบ ทำไมลูกถึงไม่เอาอย่างพี่นนท์บ้างล่ะลูก” “ก็อาจารย์ที่ ‘มหาลัยสิคะคุณแม่ แกล้งแพรค่ะ ความจริงแพรก็จะจบเทอมนี้แหละค่ะ”แพรพิไลกุเรื่องเพื่อโกหกผู้เป็นแม่ ความเป็นจริง เธอเองต่างหากที่ไม่อยากเรียนจบ เพราะถ้าเธอเรียนจบแล้ว แม่ของเธอจะต้องจับเธอยัดเข้าทำงานที่บริษัทพี่ชายของเธอเป็นแน่ “แม่ไม่เชื่อที่ลูกบอกหรอกนะแพร ครั้งที่แล้วลูกก็บอกว่าอาจารย์แกล้งแบ
“อึก! อึก!” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความตกใจที่จู่ๆ ริมฝีปากของชายหนุ่มก็ฉกวูบลงมาด้วยความเร็วแสงประกบจูบปากของเธออย่างรวดเร็ว ขวัญข้าวพยายามสะบัดหน้าหนี แต่ทว่าก็ถูกมือใหญ่บีบปลายคางของเธอเอาไว้ ลมหายใจปัดผ่านข้างใบหน้าใกล้ชิด ลิ้นหนาเกี่ยวกวัดลิ้นเล็กไว้ในปากอย่างหิวกระหาย อีกมือก็เกี่ยวกระหวัดร่างบางเข้ามาแนบร่างแกร่งราวกับงูใหญ่กำลังรัดเหยื่ออย่างหิวโหย“อึ้ม...” ขณะที่ริมฝีปากของเขาแนบสนิทก็ไม่อาจซ่อนรอยยิ้มอันพึงใจไว้ได้ ความหวานที่เคยลิ้มลองไม่เคยลดน้อยลงไปเลยสักนิด ชายหนุ่มตะโบมจูบอย่างร้อนแรงและหนักหน่วงจนได้ยินเสียงอู้อี้ในลําคอของอีกฝ่าย“ไม่! อึก!” ขวัญข้าวพยายามดิ้นเพื่อหนีริมฝีปากร้อน แต่เธอก็ไม่สามารถจะหลบหลีกริมฝีปากความเร็วแสงนั้นได้ มือทั้งสองข้างของเธอผลักอกแกร่งจนสุดแรง แต่ทว่ามันก็เหมือนกับผลักหินผาก็ไม่ปาน สะโพกมนเกยอยู่บนโต๊ะทำงานในสภาพกึ่งนั่งกึ่งยืน โดยที่ตัวของชายหนุ่มใช้ร่างของเขากันเธอเอาไว้ ไม่ให้หนีออกไปได้สำเร็จ“อืม...หวานเหมือนเดิมนี่”อคิราห์ถอนริมฝีปากของตัวเองออก พร้อมกับก้มมองใบหน้าของเธอ ที่ตอนนี้มีสภาพแดงเห่อไปทั่วทั้งหน้า ชายหนุ่มยกยิ้มอย
[อีกด้านหนึ่ง...ห้องทำงานบริษัทวรารักษ์เมธานนท์] “ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะยุ่งยากตรงไหนเลย เธอมาสมัครงานตามที่นายนนท์บอกเธอไว้แล้วนี่ เธอก็รู้อยู่แล้ว ทำไมจะต้องทำเรื่องนี้ให้วุ่นวายไปอีก ฉันไม่เข้าใจ”หม่อมราชวงศ์อคิราห์มองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา และต้องการที่จะพบเขาในเวลานี้ เหตุผลของเธอเพียงเพื่ออยากสมัครงานตามระบบแค่นั้นหรือ เขาไม่เข้าใจเลย “ดิฉันคิดว่ามันไม่ถูกต้องค่ะ ดิฉันไม่อยากจะใช้เส้นค่ะ ดิฉันแค่ต้องการได้สอบและสัมภาษณ์ตามปกติเหมือนคนทั่วไป ก็แค่นั้นเองค่ะท่านชาย” “แล้วเธอได้อะไร จากสิ่งที่เธอกำลังเรียกร้องอยู่ตอนนี้” “ดิฉันไม่ได้เรียกร้องค่ะ แค่ต้องการทำให้มันถูกต้องตามระบบก็เท่านั้นเองค่ะท่านชาย”ดวงตากลมโตจ้องกลับใบหน้าคม เอาจริงๆ วันนี้เป็นครั้งแรกของขวัญข้าวเลยก็ว่าได้ ที่เธอได้มองหน้าเขาได้ชัดเจนและเต็มตามากขนาดนี้ เธออยู่ห่างจากเขาไม่ถึงเมตรเลยด้วยซ้ำ ลมหายใจร้อนเป่ารดมาที่เธอ จนเธอสัมผัสได้ และทำให้เธออดนึกถึงความรู้สึกบางอย่างเมื่อเจ็ดปีที่แล้วไม่ได้... “ผลสุดท้าย เธอก็ต้องเข้าทำงานอยู่ดี ทำไมต้องเรื่องมาก” “นี่
[บริษัทวรารักษ์เมธานนท์] “ขอโทษนะคะ คือว่าดิฉันยังไม่ได้สอบข้อเขียน และสัมภาษณ์เลยนะคะ คุณจะให้ดิฉันเริ่มงานวันพรุ่งนี้เลยเหรอคะ”ขวัญข้าวมาสมัครงานที่บริษัทวรารักษ์เมธานนท์ในวันรุ่งขึ้น ในตำแหน่ง Sales Engineer ตามที่บริษัทได้ประกาศรับ เธอพึ่งจะกรอกใบสมัครไปใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ขวัญข้าวก็ทราบผล เธอรู้สึกไม่โอเคกับสิ่งที่คุณธนนท์ทำมากนัก เธอไม่อยากเป็นเด็กเส้นในสายตาของคนอื่น สังคมการทำงานของเธอก็จะลำบากมากขึ้น “คุณธนนท์เธอได้บอกไว้แล้วค่ะ ว่าถ้าคุณขวัญข้าวมา ก็รับได้เลยแค่กรอกใบสมัครก็พอค่ะ รายละเอียดต่างๆ ในการทำงานอยู่ซองกระดาษนี่นะคะ ดิฉันเตรียมเรียบร้อยแล้วค่ะ” “ดิฉันขอคุยกับคุณธนนท์หน่อยได้มั้ยคะ” “คุณธนนท์ไม่อยู่ค่ะ เธอไปจังหวัดระยองกับเลขา และฝ่าย Sales Engineer คนใหม่ตั้งแต่เมื่อเช้าค่ะ” “Sales Engineer คนใหม่เหรอคะ เอ่อ ไม่ทราบว่าเธอชื่อชมพูนุทหรือเปล่าคะ”เมื่อเช้าเพื่อนของเธอได้แชทหาเธอตั้งแต่เช้า ว่าจะรีบออกไปทำงาน วันแรกของชมพูนุทก็ดูจะรีบร้อนไปหมด “ใช่ค่ะ คุณชมพูนุทพึ่งมาทำงานวันนี้วันแรกค่ะ เผอิญมีลูกค้าใหญ่ที








