LOGINแพร์พีญายอมทำทุกอย่างเพื่อเหตุผลบางอย่าง เธอยอมจำนนตกเป็นของเขาอีกครั้ง แต่เธอสัญญาว่าหลังจากคืนนี้ เขาและเธอจะต้องตายจากกัน อย่างที่เขาเคยทิ้งเธอไปตลอด...ห้าปี!
View Moreท้องฟ้ามืดครึ้มกลายว่าอีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้ ฝนฟ้าต้องตกกระหน่ำลงมา ผู้คนวัยทำงานต่างลุกลี้ลุกลนเก็บข้าวของเพื่อไม่ให้โดนน้ำฝนจนเสียหาย ทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะตั้งแผงกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
“พีท รีบเก็บเร็ว”
หญิงสาววัยยี่สิบห้าปีที่เข้าสู่วัยเบญจเพสส่งเสียงเร่งน้องชายต่างพ่อให้ช่วยเก็บขาตั้งวาดรูปและกระดาษใส่กลับลงไปในกล่องลังพลาสติกเตรียมตัวกลับบ้าน
แพร์พีญา หรือ แพร อาร์ตติสท์ที่เพิ่งจะตั้งแผงเปิดร้านรับวาดภาพเหมือนในตลาดนัดกลางคืนเสร็จเรียบร้อยก็ต้องรีบเก็บร้านกระทันหัน ดูเหมือนว่าบรรยากาศจะไม่เป็นใจสักเท่าไรนักกับหาเงินในคืนนี้
ยิ่งลำบากยิ่งมีอุปสรรค…สำหรับเธอมันเป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่จำความได้
“ผมบอกแล้วว่าวันนี้ไม่ต้องมา ยังจะมา”
“พี่ต้องใช้เงินนี่ พีทก็รู้”
“เพื่อนผมก็บอกอยู่ว่าให้พี่ไปถ่ายแบบเสื้อผ้าให้ที่ร้าน เงินก็ดี พี่แพรเรื่องมากเอง” พีรภัทรบ่นออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายกับความดื้อรั้น ทั้งที่เขาพยายามหางานที่รายได้มากกว่าให้ตลอด ทว่าโดนปฏิเสธอยู่เรื่อยมา อุตส่าห์เกิดมามีทุนรูปร่างหน้าตาดี แต่ก็ไม่รู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์
“...” แพร์พีญาเงียบไม่พูดต่อ ก้มหน้าก้มตาจัดจานสีเก็บเข้าที่ กันไม่ให้โดนน้ำฝนจนเสียหายเพราะกว่าจะเก็บเงินซื้อได้ก็ต้องเหลือเงินจากค่าใช้จ่ายจำเป็นจริง ๆ
“หรือกลัวว่าใครจะมาเห็นรูปพี่แพร!?” น้องชายอดที่จะเอ่ยจี้ใจดำไม่ได้ รู้ดีว่าในใจพี่สาวกำลังคิดอะไรอยู่ คนเรามีไม่กี่เหตุผลหรอกในการปฏิเสธงานที่เงินดี อย่างเช่น ไม่ชอบแต่งตัวโป๊ แต่สำหรับคนที่ร้อนเงิน เรื่องแต่งตัวโป๊ไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่โต พีรภัทรคิดว่าน่าจะเป็นเหตุผลที่เขาเพิ่งจะเอ่ยถามออกไปมากกว่าที่ทำให้ปฏิเสธงานถ่ายแบบมาตลอด
“พูดมากนะพีท ไปรีบกลับ ฝนเริ่มลงเม็ดหนาแล้ว” ร่างบอบบางลุกขึ้นเต็มความสูง แพร์พีญาเธอสูง หุ่นเพรียว มีใบหน้าเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ หากมีใครชักชวนเข้าวงการก็สามารถเข้าได้อย่างสบาย ไม่ต้องแต่งเติมอะไรมากมาย นอกจากทานอาหารเสริมให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เข้าร้านทำสปาบ้าง แค่นี้แพร์พีญาก็ดูดีดึงดูดสายตาได้แล้ว
“อืม รีบไปเถอะ ผมไม่อยากเปียกเหมือนกัน”
ซ่า!
ซ่า!
พูดไม่ทันขาดคำ จู่ ๆ เม็ดฝนกระหน่ำตกลงมาหนักกว่าเดิมจนได้ ทำเอาสองพี่น้องต้องรีบหาที่หลบก่อนที่เนื้อตัวจะเปียกปอนไปมากกว่านี้ ทั้งสองข้ามถนนไปยังฝั่งหน้าโรงพยาบาลเพื่อขึ้นรถสายประจำกลับบ้าน แต่แล้วก็ไม่สามารถหาที่หลบฝนได้เพราะมีกลุ่มคนมากมายยืนเบียดกันตรงป้ายรถเมล์ แพร์พีญาและพีรภัทรจึงต้องเปลี่ยนที่ยืนใหม่ เข้าไปหลบใต้ร่มขายของคันเล็กเก่า ๆ ที่แทบจะซ่อนตัวไม่มิด
เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงไม่มีวี่แววว่ารถประจำทางจะผ่านมา
“ฝนก็ตกหนัก รถก็ไม่มาสักที เพราะพี่แพรคนเดียวเลย ดื้อจะมาวาดภาพขายให้ได้ ไม่งั้นผมไม่ต้องมายืนตากฝนแบบนี้หรอก”
“บ่นอย่างกัับมีค่าเทอมจ่ายแล้วอ่ะเนอะ”
“ไม่มีไม่เห็นเป็นไร” พีรภัทรตอบกลับแบบไม่สะทกสะท้าน
“รู้น่ะว่ากำลังคิดไรอยู่ อย่าหวังว่าพี่จะให้ออกจากเรียนเด็ดขาด” คนเป็นพี่ยื่นคำขาดไม่รู้รอบที่เท่าไร แต่เธอจะไม่ยอมแพ้ปล่อยให้น้องออกจากเรียนกลางคันแบบเธอ ถ้าเธอยังหาเงินไหวก็ต้องส่งน้องเรียนให้จบ น้องชายทำได้เพียงส่ายหน้าเมื่อเถียงกลับไม่ได้
จนกระทั่งร่างสูงใหญ่ก้าวเท้ายาว ๆ ออกมาจากโรงพยาบาลมาหยุดหน้าถนนใหญ่ ในมือถือร่มสีดำบังเม็ดฝนให้เห็นแค่เสี้ยวหน้า
ทว่ากลับทำให้ใครอีกคนจำได้ขึ้นใจจนต้องตะโกนเรียก “เฮียคูเปอร์!”
เจ้าของชื่อเบี่ยงตัวหันไปมองด้านหลัง ดวงตาสีนิลไร้ความรู้สึกไม่ได้จับจ้องต้นเสียง แต่ปลายตามองหญิงสาวที่ตอนนี้ถอดสีหน้าจนซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด สภาพของเธอแทบจะดูไม่ได้เพราะผ่านการยืนตากฝนมานานนับชั่วโมง
“เฮียจริง ๆ ด้วย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะเจอเฮีย” เด็กหนุ่มเอ่ยอย่างประหลาดใจ ขยี้ตาหลายรอบเพื่อย้ำว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาด
ไม่มีเสียงใดจากปากอีกสองคน มีแต่การสบตากัน ก่อนที่ร่างบอบบางจะเป็นฝ่ายเบนหน้าไปทางอื่นเอง ถ้าให้เล่นเกมสบตากัน เธอขอยกธงขาวตั้งแต่ยังไม่เริ่มเกมดีกว่า อะไรให้ต้องบาดลึกไปกว่านี้เลย
เอี๊ยดดดด~
กระทั่งรถตู้สีดำตรงเข้ามาจอดเทียบข้างทาง ประตูรถด้านหน้ามีชายฉกรรจ์ลงมา โค้งศีรษะเล็กน้อยแล้วเอื้อมมือไปเปิดประตูรถในนาทีต่อมา
“เชิญครับ”
“เฮีย...” มือบางยกขึ้นมาปิดปากพีรภัทรทันที ไม่ใช่สรรพนามที่ควรเรียกเลยสักนิดและไม่เหมาะที่คนหาเช้ากินค่ำอย่างพวกเธอจะล้ำเส้นได้
เสียงเด็กหนุ่มส่งผลให้ลูกน้องร่างสูงที่ดูลึกลับเหลือบมามองเสียงอู้อี้นั้น แล้วถามเจ้านายออกมา
“รู้จักเหรอครับ”
ตุบ!
ชายหนุ่มร่างสูงไม่ตอบ แต่เลือกที่จะโยนร่มลงในถังขยะข้างเสาไฟฟ้า ก่อนจะก้าวขึ้นรถ แววตามุ่งตรงไปด้านหน้าไม่คิดจะเหลียวหลังกลับไปมองใต้ร่มคันเก่านั้นสักนิดเดียว
“อื้อ~”“เสียงหอบเชียว” คูเปอร์แซวคนรักขณะที่เธอนอนหอบใต้ร่าง หน้าอกหน้าใจกระเพื่อมตามแรง จนร่างสูงอดไม่ได้ที่จะก้มลงมางับยอดเต้าเข้าปาก“อื้อ! พี่เปอร์ พอแล้ว แพรหายใจไม่ทัน” มือบางดันหน้าคมเข้มให้พ้นเต้าอกตัวเอง ประคองหน้าเขาไว้ไม่ให้หันมาทรมานเธอต่อตั้งแต่คืนดีกัน เขาใส่ใจ ดูแล มากกว่าเดิมหลายเท่ามาก ไหนจะเรื่องบนเตียงที่ดุดันเกินคำบรรยาย ต่อให้เธอเต็มใจปรีกายให้เขาทุกครั้งที่ขอ แต่ความต้องการที่ไม่มีสิ้นสุดทำให้เธอเหนื่อยอย่างที่เป็นตอนนี้“พี่ยังไม่หายอยากเลย อีกรอบนะครับ” เขาคลอเคลียซุกไซ้กับต้นคอ กระซิบข้างหู ชวนให้ขนลุก จากที่รักมากอยู่แล้ว พออะไรมันลงตัวกลับทำให้ความรู้สึกที่มีมันมากตามไปด้วย“แต่แพรเหนื่อย” คราวนี้น้ำเสียงแพร์พีญาออกอาการดุ อย่างน้อยก็น่าจะให้เธอได้พักบ้าง แต่นี่เขาล่อเธอตั้งแต่กลับจากบ้านใหญ่“พี่ให้พักก็ได้” คูเปอร์พลิกตัวลงไปนอนข้าง ๆ ดึงเธอมาโอบกอดเอาไว้“อื้อ! น่ารักจัง”“หายเหนื่อยแล้วค่อยต่อไง”“พี่เปอร์จะย้ำอีกกี่รอบ แพรท้องจริง ๆ นะคะ” ใบหน้าสวยเงยขึ้นไปสบตาด้วยอารมณ์แสนงอน พอบอกว่าท้อง เขาก็ดีใจยกใหญ่ แถมยังอยากทักทายลูกครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งที่เ
ห้องโถงใหญ่มีพี่น้องนั่งพร้อมหน้ากัน ทั้งสามไม่มีอะไรค้างคาในใจ ตอนนี้พวกเขามีครอบครัวที่สมบูรณ์ มีชีวิตใหม่ที่พร้อมจะสร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข เขามองภาพพีพีกำลังนั่งเล่นกับคัพเค้ก มีแพร์พีญาที่นั่งพูดคุยกับรวงข้าวภรรยาคริสเตียน แพร์พีญาให้คำปรึกษาสาวสวยที่ใกล้วันคลอดเพราะเธอมีประสบการณ์มาก่อนคริสเตียน เคนตะ และคูเปอร์มองคนรักด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ผู้หญิงที่สามารถหยุดหัวใจผู้ชายดิบเถื่อนอย่างพวกเขาได้และไม่มีวันที่ใครจะเข้ามาแทนที่ได้เพราะหัวใจมาเฟียเถื่อนปิดตายตั้งแต่วินาทีที่รักผู้หญิงตรงหน้า“อยากได้สักคนไหมเค้ก” เคนตะเอ่ยถามคู่หมั้นด้วยสายตาสื่อความหมาย“หยุดความคิดเดี๋ยวนี้” คัพเค้กรู้ทันสายตาหื่น ๆ นั้นดี เธอรีบปรามเพราะคู่หมั้นชอบแสดงอาการหื่น ๆ ต่อหน้าคริสเตียนและคูเปอร์อยู่เรื่อย “พี่คริส จัดการน้องชายซะบ้างนะ” ก่อนที่เธอจะหันไปฟ้องคริสเตียน“พี่คริสมันจะกล้าทำไรพี่ นอกจากจะอิจฉาเพราะเมียใกล้คลอด ขาดของไปอีกนาน ฮ่า ๆ”ตุบ!ขาเรียวยกขึ้นมาถีบน้องชายตัวดีด้วยความหมั่นไส้ กล้ามากที่ล้อเลียนเขาแบบนี้ เรื่องอดเพราะเมียใกล้คลอดคนรักเมียแบบเขาทนได้อยู่แล้ว“หึ” คูเปอร์
“น้องพียืนนิ่ง ๆ ลูก” เสียงทุ้มบอกลูกสาวตัวน้อยไม่ให้กระดุกกระดิกเพราะคนที่ไม่เคยอาบน้ำให้พีพีโดยใช้ฝักบัวมาก่อน ค่อนข้างลำบากที่จะไม่ให้ตัวเองพลอยเปียกปอนไปด้วย“คิก ๆ คุณพ่อเปียกหมดแล้ว” พีพีหัวเราะชอบใจ มองคูเปอร์ด้วยสายตาวาววับ“ถ้าไม่อยากให้คุณพ่อเปียกไปกว่านี้ น้องพีควรยืนนิ่ง ๆ ครับ”“แล้วทำไมคุณพ่อไม่อาบน้ำพร้อมน้องพีไปด้วยเลยคะ” เด็กน้อยถามต่อ“ไม่ได้ครับ คุณพ่อเป็นผู้ชายอาบน้ำพร้อมน้องพีไม่ได้”“เหรอคะ~”พีพีลากเสียงยาว นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ “แต่คุณพ่อเคยอาบน้ำพร้อมคุณแม่ ทำไมอาบด้วยกันได้ล่ะคะ” พีพีจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยเข้ามาในห้องคุณพ่อคุณแม่โดยที่ไม่ได้เคาะประตู จากนั้นจึงเดินตามหาในห้อง กระทั่งรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่กำลังอาบน้ำกันอยู่ ซึ่งไม่ทันได้เอ่ยเรียกบอดี้การ์ดส่วนตัวของคูเปอร์ก็เข้ามาปิดปากและอุ้มออกนอกห้องไปซะก่อน“คือ...” คูเปอร์จนปัญญาไม่รู้จะอธิบายลูกยังไงดีพีพียังคงยืนมองหน้าผู้เป็นพ่อเพื่อรอคำตอบ“ไว้หนูโต หนูจะรู้เองนะครับ”“อ้อ ถ้าหนูโตแล้วสามารถอาบน้ำกับคนอื่นได้เหรอคะ”คราวนี้คูเปอร์ถึงกับกุมขมับ แย่แล้ว! แบบนั้นยิ่งไม่ได้“ไม่ได้ครับ น้องพีลูกสาวพ่อเปอ
วันเวลาผ่านไปครบหนึ่งปีหลังจากที่คูเปอร์ได้รับโอกาสจากคนรักให้กลับมาทำหน้าที่พ่ออย่างเต็มตัวพร้อมกับหน้าที่สามีเมื่อทั้งคู่เชื่อมั่นว่าครั้งนี้จะไม่มีอะไรสามารถทำลายความรักของพวกเขาอีก ชายหนุ่มจึงมัดมือชกรีบพาคนตัวเล็กไปจดทะเบียนสมรสและรับรองบุตรเป็นพ่อของเด็กหญิงพีพี เพราะช่องว่างตรงนี้แพร์พีญาไม่เคยคิดจะยกตำแหน่งให้ใครถ้าหากเจ้าตัวไม่มาทำหน้าที่นี่ เธอก็จะเว้นว่างเอาไว้อย่างนั้นตลอดไป“คุณพ่อ~” เสียงแจ๋วแหววดังแต่ไกล เอ่ยเรียกผู้ชายร่างสูงใหญ่สวมใส่เสื้อกล้ามบดบังรอยสักตรงลำตัว ทว่าทั้งสองแขนกำยำตอนนี้ไม่มีลวดลายให้ลูกสาวตัวเล็กของเขาหวาดกลัวอีกแล้ว“อย่าวิ่งพีพี” น้ำเสียงออกจะดุไปนิด คนเป็นพ่อจึงลดท่าทีสีหน้าด้วยการฉีกยิ้มรอยยิ้มที่ไม่ค่อยมีใครเห็นนอกจากภรรยาและลูกสาวเท่านั้น“น้องพีแข็งแรงแล้ว คุณอาหมอบอกว่าให้น้องพีเล่นได้” พีพีพูดตามประสาเด็กไม่ได้คิดอะไรซับซ้อน“...” คูเปอร์ถอดสีหน้าอีกครั้ง ทันทีที่ลูกสาวเอ่ยชื่ออีกคนกี่ครั้งแล้วที่พีพีเอ่ยชื่อหมอนั่นให้เขาฟัง ได้ยินทีไรก็ออกอาการเลือดขึ้นหน้าทุกที“คุณพ่อเป็นอะไรไปคะ ทำไมทำหน้าอย่างนั้น ทะเลาะกับคุณแม่อีกแล้วเหรอคะ” เด็กชั