 LOGIN
LOGIN
[ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง]
“มุก...คงไม่โอกาสแล้วค่ะท่านชาย”เสียงอันแหบแห้งพร้อมกับมือของเธอที่ถูกโยงด้วยสายให้น้ำเกลือเอื้อมไปกุมมือชายคนเคยรักที่ยืนอยู่ข้างกาย
“เธอต้องเข้มแข็งนะมุกดา อดทนอีกหน่อย ฉันกำลังจะย้ายเธอไปอยู่ห้องพิเศษ และเตรียมหมอมือหนึ่งมารักษาเธอแล้ว”
เสียงทุ้มอันสั่นเครือของชายวัย 54 ปีบอกกับหญิงสาวอันเป็นที่รัก พร้อมกับกุมมือเธอเอาไว้แน่น ‘หม่อมราชวงศ์นวพล’ รีบรุดมายังโรงพยาบาลทันทีที่ทราบข่าวว่า ‘มุกดา’ ผู้หญิงอันเป็นที่รักของเขา เธอกำลังจะถูกเจ้าโรคร้ายนี้คร่าชีวิตของเธอไปจากเขา
“มุกอยากจะขอร้องท่านชายค่ะ เรื่องลูก...”
สายตาของผู้เป็นแม่เหลือบมองไปยังเด็กสาวและเด็กชาย ที่นั่งนิ่งเงียบอยู่ข้างกายเธอไม่ห่าง ลูกทั้งสองของเธอจะอยู่อย่างไรเมื่อไม่มีเธอต่อจากนี้ มุกดาห่วงเหลือเกิน
“เธอจะต้องไม่เป็นไรนะมุกดา”
หม่อมราชวงศ์นวพลเฝ้าตามหามุกดามาตลอดหลายปี หลังจากที่ได้รู้ว่าสามีของเธอเสียชีวิตลง เธอกับลูกน้อยลำบากเป็นอย่างมาก เขาจึงรีบไปช่วยเหลือ โดยการรับเธอและลูกมาอยู่กับเขาที่บ้าน ทั้งที่เขาเองก็มีภรรยาและลูกแล้ว แต่เพราะอดีตความรักในวัยหนุ่มสาวของเขาและมุกดานั้น มีมาอย่างช้านานและมั่นคง และก่อนหน้านี้ความรักของเขากับเธอไม่สามารถไปต่อได้ นั่นเป็นเพราะฐานะเธอกับเขาที่ต่างกัน ราวฟ้ากับเหว ท้ายที่สุดแล้วเขาและเธอก็แยกจากกันเพราะผู้ใหญ่ของทางฝ่ายหม่อมราชวงศ์นวพลมาจัดการเรื่องทุกอย่าง จึงทำให้เขาและเธอ ต่างคนต่างไปใช้ชีวิตของตัวเอง ภรรยาคนแรกของหม่อมราชวงศ์นวพลคือ ‘หม่อมราชวงศ์นวลปรางค์’ หญิงสาวที่ถูกเลือกให้แต่งงานกับเขาเพราะผู้ใหญ่ และมีลูกด้วยกันหนึ่งคน แต่แล้วหลังจากนั้นหม่อมราชวงศ์นวลปรางค์ก็ขอเลิกกับเขา เพียงเพราะเธอไม่อาจทนความเฉยชาจากเขาได้ ‘บงกชเพชร’ คือผู้หญิงคนปัจจุบันที่ทางครอบครัวของเขาจัดหาให้ และมีลูกด้วยกันสองคนชายหญิง
“มุกรู้ตัวเองดีค่ะท่านชาย ว่ามุกไม่สามารถที่จะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกแล้ว...ท่านชายคะ...มุกอยากจะขอร้องท่านชาย...เรื่องลูกของมุก...ฝากดูแลขวัญข้าวและณภัทรด้วยนะคะ”
เธอรู้ดีว่าลมหายใจของเธอนั้น เริ่มลดน้อยลงไปทุกนาที มุกดาห่วงลูกทั้งสองของเธอที่สุด หลังจากสามีของเธอเสียชีวิตลง มุกดากับลูกก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบากมาหลายปี จวบจนกระทั่งเธอได้เจอหม่อมราชวงศ์นวพล ชายคนรักเก่า เขาได้ให้ความช่วยเหลือเธอและลูก โดยพาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านของเขา แต่เพียงไม่นาน หกเดือนหลังจากนั้น มุกดาก็ตรวจเจอโรคร้ายนี้เข้า ซึ่งเธอก็เหลือเวลาอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นานแล้ว...
“ได้สิ...ฉันจะดูแล ‘ขวัญข้าว’ และ ‘ณภัทร’ เป็นอย่างดี เธอไม่ต้องเป็นห่วง ฉันให้สัญญานะ”
มือของเขาจับมือบางอันผอมเกร็งของอีกฝ่ายไว้แน่น เขาได้เจอมุกดาเพียงสั้นๆ เธอก็จะจากเขาไปอีก หนำซ้ำครั้งนี้อาจจะไม่มีวันหวนคืนกลับมาอีกแล้ว
“ขอบคุณท่านชายมากค่ะ ที่...ช่วยมุกดา”
น้ำตาไหลนองอาบสองแก้ม ความรักที่ได้แต่มองเขาอยู่ห่างๆ อย่างแสนทรมานเกือบ 30 ปีความรักของชายคนนี้ก็ยังมิแปรเปลี่ยนไปจากเธอ ชาตินี้มุกดาได้แค่รัก แต่มิอาจได้ครองคู่กัน ท่านชายนวพลมีฐานันดรที่สูงส่ง ไม่อาจลงมาเคียงคู่ผู้หญิงต่ำต้อยไร้ค่าอย่างเธอได้เลย
“ฉันรักเธอ...มุกดา...เธอคือคนที่ฉันรักเสมอ...เธอไม่ต้องห่วง...หลังจากนี้...ฉันจะเลี้ยงดูลูกทั้งสองคนของเธอเป็นอย่างดี”
“ท่านชาย...”
[คฤหาสน์หลังใหญ่...ปัจจุบัน]
“หนูเลิกร้องไห้ได้แล้วนะขวัญข้าว...แม่ของหนูไปสบายแล้ว...ต่อจากนี้ฉันจะดูแลหนูและน้องเอง”
หม่อมราชวงศ์นวพลพาเด็กสาววัย 16 ปี และเด็กชายวัย 10 ปีเข้ามายังคฤหาสน์หลังใหญ่ของเขา ก่อนหน้านี้มุกดากับลูกอยู่ในเรือนคนรับใช้มาเกือบหกเดือน ยังไม่ทันที่เขาจะขยับขยายที่อยู่ให้มุกดากับลูกได้อยู่อย่างสบายเลย...มุกดาก็ชิงจากไปเสียก่อน
“หนูคิดถึงคุณแม่ค่ะคุณลุง”
ขวัญข้าวเด็กสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้ม แต่ทว่าแววตาของเธอดูเศร้าหมองเป็นอย่างมาก ช่างผิดกับรูปร่างหน้าตาอันสดใสของเธอเหลือเกิน
“ถ้าหนูคิดถึงคุณแม่...หนูจะต้องเข้มแข็งนะ...และดูแลน้องของหนูให้ดีๆ แม่ของหนูจะได้ไม่ห่วงนะ หนูเข้าใจที่ลุงพูดมั้ยลูก”
สิ่งที่นวพลกังวลมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ คุณหญิงบงกชเพชรและลูกทั้งสอง อีกทั้งยังมีลูกชายคนโตเขาอีกคนคือ ‘อคิราห์’ บุตรชายที่เกิดกับหม่อมราชวงศ์นวลปรางค์ ซึ่งเธอคือคนที่บอกเลิกเขาไปเมื่อ 24 ปีที่แล้ว เหตุผลนั่นก็เป็นเพราะเขารักมุกดา นวลปรางค์หนีไปอยู่อังกฤษ โดยทิ้งลูกชายวัยห้าขวบไว้กับเขา
“เข้าใจค่ะคุณลุง” ดวงตากลมโตที่พร่ามัวไปด้วยหยาดน้ำตามองคนตรงหน้าเป็นที่พึ่งเพียงคนเดียวในเวลานี้
“เราก็ด้วยณภัทร...ดูแลพี่สาวเราด้วยล่ะ”
นวพลหันไปยังเด็กชายวัย 10 ปีที่มีใบหน้าละหม้ายคล้ายกับพี่สาวเป็นอย่างมาก ลูกทั้งสองของมุกดา คือตัวแทนของเธอ ทั้งรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ ทั้งหมดทั้งมวลราวกับถอดแบบพิมพ์มาเลยทีเดียว สิ่งนี้เองมันทำให้เขาหวนคิดถึงมุกดาทีไร เขามักจะมองใบหน้าเด็กสองคนนี้เพื่อคลายความคิดถึงคนึงหา
“ครับคุณลุง”
“มา...เดี๋ยวลุงจะพาไปดูห้องของเธอทั้งสองคนนะ”
แต่ยังไม่ทันที่หม่อมราชวงศ์นวพลจะพาเด็กทั้งสองออกไป มีเสียงหนึ่งดังปรากฏขึ้นเสียก่อน
“นึกว่ามันสองคน จะตายตามแม่ของมันไปซะอีก ท่านชายจะเอามันเข้ามาในบ้านนี้ทำไมอีกคะ”
“ผมต้องดูแลขวัญข้าวกับณภัทรตามสัญญาที่ให้ไว้กับมุกดา...และคุณหญิงเองก็ไม่ควรใช้คำพูดแบบนี้นะ”
น้ำเสียงแฝงตำหนิของเขามีร่องรอยของการสกัดกั้นอารมณ์บางอย่างเอาไว้ นวพลไม่เคยนึกรักผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเลยแม้แต่น้อย 25 ปีที่เขาทนอยู่กับเธอนั่นก็เป็นเพราะหน้าที่ของความเป็นพ่อ คุณหญิงบงกชเพชรคือคนที่แม่ของเขาเป็นคนจัดสรรมาให้ เหตุผลคือ ‘ความเหมาะสม’
“ทำไมเหรอคะ อีนังมุกดามันตายไปแล้ว ท่านชายกลัวว่ามันจะตื่นขึ้นมาได้ยินเหรอคะ”
“คุณหญิง!!” หม่อมราชวงศ์นวพลกระชากเสียงออกมาทันทีอย่างเหลืออดกับคำพูดของเธอ

“พักเรื่องงานไว้ก่อนครับ วันนี้ผมขอดื่มฉลองมิตรภาพของเราก่อนนะครับ”วิลเลี่ยมยกแก้วเครื่องดื่มชูขึ้น สายตาคมสีฟ้าของเขามองไปยังเลขาแสนสวยที่อยู่ในชุดเดรสสีแดงที่มีความเซ็กซี่อย่างที่สุด“อ่อ ครับ ผมนี่แย่จริงๆ นะครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่พูดเรื่องงานซะเยอะเลย ความจริงวันนี้ผมก็พาคุณมาผ่อนคลายครับ”ธนนท์รีบยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นเพื่อเป็นการขอโทษ“สองสาวนี่ไม่ต้องห่วงนะครับ วันนี้พักเรื่องงานสักวัน เดี๋ยวผมขออนุญาตเจ้านายคุณเองครับ...โอเค มั้ยครับคุณธนนท์”“ได้ครับ หมดเวลางานแล้วครับ” ธนนท์หันไปพยักหน้าให้กับสองสาวเพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูด“ค่ะ/ค่ะ”“อืม ขออนุญาตถามเรื่องส่วนตัวคุณ...เขม หน่อยนะครับ ไม่ทราบว่าคุณมีครอบครับหรือยังครับ”วิลเลี่ยมเปิดประเด็นคำถามในสิ่งที่เขาสนใจทันที เขารู้สึกถูกใจหญิงไทยคนนี้มาก“ยังค่ะ ดิฉันยังโสดค่ะ” เขมมิกาตื่นเต้นอย่างที่สุด สุดท้ายแล้วเธอก็เข้าตาหนุ่มสายฝอเข้าแล้ว ^^“ไหนๆ คุณเขมก็ถูกท่านประธานถามเรื่องนี้ไปแล้ว จริงๆ ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะครับ ว่าคุณชมพูนุทตอนนี้คุณยังโสดเหมือนกับคุณเขมหรือเปล่าครับ”ปรเมศยิงคำถามต่อจากเจ้านายของตัวเองทันที“เอ่อ
“ค่ะ...” “ฉันอยากจะขอโทษเธอ...ขวัญข้าว ขอโทษในสิ่งที่ฉันทำไม่ดีกับเธอและน้องของเธอ อภัยให้ฉันเถอะนะ...” “ค่ะคุณผู้หญิง ดิฉันให้อภัยคุณผู้หญิงค่ะ และดิฉันเชื่อว่าแม่ของดิฉันก็คงจะคิดเหมือนกันค่ะ เรื่องราวในอดีต ดิฉันไม่ได้เก็บเอามาคิดอีกแล้วค่ะ คุณผู้หญิงไม่ต้องคิดมากนะคะ” “ขอบใจเธอมากนะขวัญข้าว ฉันขอบใจเธอจริงๆ บ้านหลังนี้เธออยู่ได้สบายเลยนะ ไม่ต้องย้ายออกไปอยู่ที่ไหนแล้ว นอกเสียจากเธอจะแต่งงานมีครอบครัวไป นั่นก็แล้วแต่เธอนะ ฉันไม่ได้มีอำนาจที่จะตัดสินใจ อย่างที่บอก ชายคินน์ต่างหาก ที่เป็นคนตัดสินใจเรื่องนี้ และในตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งชายคินน์กับนนท์ลูกชายของฉัน ทำไมถึงยังไม่แต่งงานมีครอบครัวกันอีก เรื่องนี้ก็ทำให้ฉันกลุ้มใจอยู่พอสมควร” “ท่านชายคินน์กับคุณนนท์อาจจะมีแล้วก็ได้นะคะ คุณทั้งสองอาจจะยังไม่เปิดตัวก็ได้ค่ะคุณผู้หญิง” “ไม่มีหรอก...ฉันตามสืบมาหมดแล้ว” “ห๊ะ! อะไรนะคะ คุณผู้หญิงตามสืบเหรอคะ”คำพูดของคุณหญิงบงกชเพชรทำให้ขวัญข้าวตกใจเป็นอย่างมาก หัวใจเธอเต้นแรงแทบจะทะลุออกจากอก ขวัญข้าวกังวลเรื่องเธอกับท่านชายในอดีต
[บ้านวรารักษ์เมธานนท์...ในเวลายามเย็น] “นั่นลูกจะออกไปไหนอีกล่ะ พึ่งกลับเข้ามาไม่ใช่เหรอ”คุณหญิงบงกชเพชรมองบุตรีของตัวเองที่อยู่ในชุดพร้อมที่จะออกจากบ้าน “แพรนัดเพื่อนไว้ค่ะคุณแม่ วันนี้วันเกิดมิ้นท์ค่ะ เราจะไปฉลองกันค่ะ” “เรื่องเรียนของลูกไปถึงไหนแล้ว ตามแก้รายวิชาครบแล้วหรือยัง แล้วเทอมนี้จะจบหรือเปล่าลูก” “ยังค่ะคุณแม่ คงต้องจบเทอมหน้าค่ะ เพราะเหลืออีกแค่สองตัวค่ะ ยังไงแพรก็ต้องเรียนจบอยู่แล้วค่ะ คุณแม่ไม่ต้องห่วงค่ะ” “อะไรนะ! ไหนลูกบอกว่าเทอมนี้จะจบ แล้วนี่เลื่อนไปเทอมหน้าอีกเหรอ ตายแล้วยัยแพร ทำไมเรียนแค่นี้ ถึงไม่จบซะที ดูพี่นนท์เราสิ ถึงแม้จะเกเรยังไงแต่ก็ยังเรียนจบ ทำไมลูกถึงไม่เอาอย่างพี่นนท์บ้างล่ะลูก” “ก็อาจารย์ที่ ‘มหาลัยสิคะคุณแม่ แกล้งแพรค่ะ ความจริงแพรก็จะจบเทอมนี้แหละค่ะ”แพรพิไลกุเรื่องเพื่อโกหกผู้เป็นแม่ ความเป็นจริง เธอเองต่างหากที่ไม่อยากเรียนจบ เพราะถ้าเธอเรียนจบแล้ว แม่ของเธอจะต้องจับเธอยัดเข้าทำงานที่บริษัทพี่ชายของเธอเป็นแน่ “แม่ไม่เชื่อที่ลูกบอกหรอกนะแพร ครั้งที่แล้วลูกก็บอกว่าอาจารย์แกล้งแบ
“อึก! อึก!” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นมาด้วยความตกใจที่จู่ๆ ริมฝีปากของชายหนุ่มก็ฉกวูบลงมาด้วยความเร็วแสงประกบจูบปากของเธออย่างรวดเร็ว ขวัญข้าวพยายามสะบัดหน้าหนี แต่ทว่าก็ถูกมือใหญ่บีบปลายคางของเธอเอาไว้ ลมหายใจปัดผ่านข้างใบหน้าใกล้ชิด ลิ้นหนาเกี่ยวกวัดลิ้นเล็กไว้ในปากอย่างหิวกระหาย อีกมือก็เกี่ยวกระหวัดร่างบางเข้ามาแนบร่างแกร่งราวกับงูใหญ่กำลังรัดเหยื่ออย่างหิวโหย“อึ้ม...” ขณะที่ริมฝีปากของเขาแนบสนิทก็ไม่อาจซ่อนรอยยิ้มอันพึงใจไว้ได้ ความหวานที่เคยลิ้มลองไม่เคยลดน้อยลงไปเลยสักนิด ชายหนุ่มตะโบมจูบอย่างร้อนแรงและหนักหน่วงจนได้ยินเสียงอู้อี้ในลําคอของอีกฝ่าย“ไม่! อึก!” ขวัญข้าวพยายามดิ้นเพื่อหนีริมฝีปากร้อน แต่เธอก็ไม่สามารถจะหลบหลีกริมฝีปากความเร็วแสงนั้นได้ มือทั้งสองข้างของเธอผลักอกแกร่งจนสุดแรง แต่ทว่ามันก็เหมือนกับผลักหินผาก็ไม่ปาน สะโพกมนเกยอยู่บนโต๊ะทำงานในสภาพกึ่งนั่งกึ่งยืน โดยที่ตัวของชายหนุ่มใช้ร่างของเขากันเธอเอาไว้ ไม่ให้หนีออกไปได้สำเร็จ“อืม...หวานเหมือนเดิมนี่”อคิราห์ถอนริมฝีปากของตัวเองออก พร้อมกับก้มมองใบหน้าของเธอ ที่ตอนนี้มีสภาพแดงเห่อไปทั่วทั้งหน้า ชายหนุ่มยกยิ้มอย
[อีกด้านหนึ่ง...ห้องทำงานบริษัทวรารักษ์เมธานนท์] “ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะยุ่งยากตรงไหนเลย เธอมาสมัครงานตามที่นายนนท์บอกเธอไว้แล้วนี่ เธอก็รู้อยู่แล้ว ทำไมจะต้องทำเรื่องนี้ให้วุ่นวายไปอีก ฉันไม่เข้าใจ”หม่อมราชวงศ์อคิราห์มองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา และต้องการที่จะพบเขาในเวลานี้ เหตุผลของเธอเพียงเพื่ออยากสมัครงานตามระบบแค่นั้นหรือ เขาไม่เข้าใจเลย “ดิฉันคิดว่ามันไม่ถูกต้องค่ะ ดิฉันไม่อยากจะใช้เส้นค่ะ ดิฉันแค่ต้องการได้สอบและสัมภาษณ์ตามปกติเหมือนคนทั่วไป ก็แค่นั้นเองค่ะท่านชาย” “แล้วเธอได้อะไร จากสิ่งที่เธอกำลังเรียกร้องอยู่ตอนนี้” “ดิฉันไม่ได้เรียกร้องค่ะ แค่ต้องการทำให้มันถูกต้องตามระบบก็เท่านั้นเองค่ะท่านชาย”ดวงตากลมโตจ้องกลับใบหน้าคม เอาจริงๆ วันนี้เป็นครั้งแรกของขวัญข้าวเลยก็ว่าได้ ที่เธอได้มองหน้าเขาได้ชัดเจนและเต็มตามากขนาดนี้ เธออยู่ห่างจากเขาไม่ถึงเมตรเลยด้วยซ้ำ ลมหายใจร้อนเป่ารดมาที่เธอ จนเธอสัมผัสได้ และทำให้เธออดนึกถึงความรู้สึกบางอย่างเมื่อเจ็ดปีที่แล้วไม่ได้... “ผลสุดท้าย เธอก็ต้องเข้าทำงานอยู่ดี ทำไมต้องเรื่องมาก” “นี่
[บริษัทวรารักษ์เมธานนท์] “ขอโทษนะคะ คือว่าดิฉันยังไม่ได้สอบข้อเขียน และสัมภาษณ์เลยนะคะ คุณจะให้ดิฉันเริ่มงานวันพรุ่งนี้เลยเหรอคะ”ขวัญข้าวมาสมัครงานที่บริษัทวรารักษ์เมธานนท์ในวันรุ่งขึ้น ในตำแหน่ง Sales Engineer ตามที่บริษัทได้ประกาศรับ เธอพึ่งจะกรอกใบสมัครไปใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ขวัญข้าวก็ทราบผล เธอรู้สึกไม่โอเคกับสิ่งที่คุณธนนท์ทำมากนัก เธอไม่อยากเป็นเด็กเส้นในสายตาของคนอื่น สังคมการทำงานของเธอก็จะลำบากมากขึ้น “คุณธนนท์เธอได้บอกไว้แล้วค่ะ ว่าถ้าคุณขวัญข้าวมา ก็รับได้เลยแค่กรอกใบสมัครก็พอค่ะ รายละเอียดต่างๆ ในการทำงานอยู่ซองกระดาษนี่นะคะ ดิฉันเตรียมเรียบร้อยแล้วค่ะ” “ดิฉันขอคุยกับคุณธนนท์หน่อยได้มั้ยคะ” “คุณธนนท์ไม่อยู่ค่ะ เธอไปจังหวัดระยองกับเลขา และฝ่าย Sales Engineer คนใหม่ตั้งแต่เมื่อเช้าค่ะ” “Sales Engineer คนใหม่เหรอคะ เอ่อ ไม่ทราบว่าเธอชื่อชมพูนุทหรือเปล่าคะ”เมื่อเช้าเพื่อนของเธอได้แชทหาเธอตั้งแต่เช้า ว่าจะรีบออกไปทำงาน วันแรกของชมพูนุทก็ดูจะรีบร้อนไปหมด “ใช่ค่ะ คุณชมพูนุทพึ่งมาทำงานวันนี้วันแรกค่ะ เผอิญมีลูกค้าใหญ่ที

![เจ้าเวหา [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)






