LOGIN“แต่เขามองแรงจริงๆ นะมิลิน พี่ชักกลัวแล้วสิ...พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะ...รางวัลพนักงานดีเด่นของปีที่แล้วก็การัณตีอยู่...เธอล่ะมิลิน...ไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า...ลองนึกดูสิ ไม่ใช่เรื่องดีเลยนะถ้าท่านประธานจะไม่ชอบหน้าเราน่ะ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่...มิลินว่าเขาน่าจะมองเราสองคน ที่พูดกันไม่หยุด รบกวนที่ประชุมมากกว่านะคะ”
ปุณณดาหาเหตุระงับเสียงพูดของอีกฝ่าย
“อืม...น่าจะใช่...^<>^”
เวลาผ่านไปราว 30 นาที...
“คุณปุณณดาคะ...เสร็จจากประชุมท่านประธานเชิญคุณที่ห้องทำงานนะคะ”
“คะ? เอ่อ...เรื่องอะไรหรือคะ คือว่าดิฉันไม่น่าจะมีงานที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหารขนาดนั้นนะคะ”
ปุณณดาตกใจอย่างที่สุด ที่อยู่ดีๆ เลขาของท่านประธานเดินเข้ามากระซิบบอกเธอ
“ดิฉันไม่ทราบค่ะ ท่านให้ดิฉันมาบอกคุณค่ะ เดี๋ยวถ้ายังไงเชิญตามดิฉันมาเลยนะคะ”
“อุ้ย! นั่นไง! พี่บอกแล้วไงว่าท่านประธานจะต้องมีอะไรแน่ๆ มิลินเธอทำอะไรผิดไว้หรือเปล่าเนี่ย เธอต้องใจเย็นๆ นะค่อยๆ คิดก่อนพูดนะ...ตายแล้ว! พี่ก็คิดว่าเป็นพี่ซะอีก รอดตัวไป...ขอให้โชคดีนะจ๊ะน้องสาว”
“พี่ไปกับมิลินด้วยไหมคะ...เผื่อ”
ปุณณดาพยายามหาตัวช่วย
“ไม่เลยค่ะ...พี่ไม่ไปแน่นอน ต้องขอโทษด้วยนะคะ”
“เชิญค่ะคุณปุณณดา” เลขาเดินมาบอกอีกครั้ง
“ค่ะ”
@ ห้องทำงานใหญ่...
“เชิญค่ะคุณปุณณดา...ท่านประธานรอคุณแล้วค่ะ”
เลขาเดินนำหน้ามายังห้องทำงานท่านประธาน ที่ใหญ่โตรโหฐานเป็นอย่างมาก บรรยากาศภายในห้องใหญ่เย็นเฉียบด้วยเครื่องปรับอากาศชั้นดี ปุณณดาค่อยก้าวไปอย่างช้าๆ เธอไม่ทันตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ กับการที่จะต้องมาเผชิญหน้ากับเขาแบบนี้
“เชิญค่ะ” เลขาเปิดประตูเข้าไปอีกห้องที่อยู่ด้านใน
“เอ่อ...” ปุณณดาลังเลเป็นอย่าง ท่าทีตื่นตระหนกแสดงออกมาอย่างชัดเจน จนเลขาสาวสวยยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูในท่าทีของเธอ
“เข้าไปเถอะค่ะไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
“ค่ะ”
“...” ปุณณดาเดินเข้าไปยังห้องทำงานใหญ่ของเขา โดยชายหนุ่มนั่งหันหลังรอเธออยู่ก่อนแล้ว ปุณณดามองแผ่นหลังของชายหนุ่ม แค่มองจากด้านหลัง ใจของเธอก็เต้นรัวเร็วขนาดนี้แล้ว ถ้าเขาหันมาจะขนาดไหน
“นั่งสิ” เสียงทุ้มห้าวเอ่ยขึ้น พร้อมกับหมุนเก้าอี้หันหน้าเผชิญกับหญิงสาวทันที
“ค่ะ” ปุณณดายกมือไหว้เขา โดยที่สายตาของเธอไม่ได้มองเขาแต่อย่างใด จะให้เธอมองเขาได้ยังไง ใจของเธอเต้นเร็วขนาดนี้ ปุณณดาจะต้องตายแน่ๆ
“...” เงียบ
หนึ่งนาทีต่อมา...
“ที่ผมเชิญคุณมาก็เพราะ...ผมอยากขอโทษคุณ...มิลิน”
แม็กซ์เอ่ยประโยคที่ตัวเองเตรียมไว้เป็นอย่างดี เมื่อเจอหน้าเธอ สิ่งนี้มันติดอยู่ในใจและความรู้สึกของเขาตลอดเวลา
“คะ?” ปุณณดาตกใจกำลังสองเข้าไปอีก ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองทันที เธอมาถูกห้องหรือเปล่า ภาพที่เธอเห็นกลับทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจเพิ่มรัวเร็วเข้าไปอีกเป็นเท่าตัว
“ผมขอโทษกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับคุณ...มิลิน”
แม็กซ์เวลย้ำประโยคนี้อีกครั้ง เมื่อก่อนเขายอมรับว่าตัวเขาเองยังไม่เป็นผู้ใหญ่เท่าที่ควร อายุ 22 ปีของเขายังคงเป็นวัยรุ่นเลือดร้อน ทำอะไรลงไปไม่ทันคิดเลยสักนิด และตอนนี้เขาอายุ 30 แล้ว แปดปีที่ผ่านมาเขาได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย มันทำให้เขาได้คิดและทบทวนด้วยเหตุและผล แม็กซ์เวลอยากขอชดใช้เธอให้ได้มากที่สุด
“เรื่องนั้นดิฉันลืมมันไปแล้วค่ะ ดิฉันไม่คิดจะเอาผิดจากคุณอีกแล้ว การชดใช้ของแม่และดิฉันจบลงแล้ว”
ปุณณดาในวัย 24 ปีก็ผ่านเรื่องราวและประสบการณ์ทุกอย่าง จนโตเป็นผู้ใหญ่มีความเข้มแข็ง พร้อมกับเผชิญสิ่งต่างๆ ได้หมดแล้ว
“ผมจะชดใช้สิ่งที่ผมได้กระทำไปทั้งหมดกับคุณ”
แม็กซ์เวลมองปลายจมูกโด่งเชิดรั้นของเธอ หญิงสาวก้มหน้าตลอดเวลา ทำให้เขามีโอกาสที่จะสำรวจเธอได้อย่างเต็มตาอีกครั้ง
“คุณไม่ต้องชดใช้อะไรอีกแล้วค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างดิฉันลืมมันไปหมดแล้ว ดิฉันไม่มีอะไรติดค้างกับคุณอีกต่อไป”
ปุณณดาไม่คิดว่าตัวเองจะได้ยินประโยคคำขอโทษจากเขาด้วยซ้ำ ถ้าเล่าให้กันยกรฟัง คงจะตกใจมากแน่ๆ สิ่งที่เธอกับเพื่อนคาดการณ์นั้นผิดถนัด
“ผมไม่สบายใจ”
แม็กซ์เวลอยากเปิดเปลือยความรู้สึกของตัวเองเหลือเกิน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เขาก็ยังจำบทรักของเธอกับเขาได้เสมอ ทุกท่วงท่าทุกทำนองระหว่างเขากับเธอ เขายังเก็บเป็นภาพจำของเขามาตลอด จนแม็กซ์เวลไม่สามารถที่จะมีใครมาแทนที่ของเธอได้อีก
“ดิฉันบอกแล้วไงคะ!”
ปุณณดาเงยหน้าขึ้นอย่างอดไม่ได้ ทันทีที่ดวงตากลมโตจ้องไปยังใบหน้าคมเข้มของเขาในระยะไม่ถึงหนึ่งเมตรด้วยซ้ำ มันทำให้หัวใจของปุณณดาเต้นแรงผิดจังหวะ มันแทบจะทะลุออกมาจากอกของเธอเลยทีเดียว ภาพจำต่างๆ ถูกประมวลผลขึ้นมาใหม่ บทรักที่ดุเดือดและรุนแรง ทั้งเจ็บ และสุขนั้นประเดประดังเข้ามาในโสตประสาทของปุณณดา ราวกับภาพยนตร์ที่ถูกฉายซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณไม่ต้องชดใช้อะไรดิฉันอีกแล้ว ตอนนี้ดิฉันมีความสุขดี และไม่ต้องการอะไรจากคุณหรือครอบครัวคุณอีกแล้ว สิ่งที่มันเกิดขึ้นในอดีต ดิฉันขอให้คุณลืมมันไปเถอะค่ะ...เรื่องทั้งหมดมีแค่นี้ใช่ไหม...งั้นดิฉันขอตัวนะคะ”
ปุณณดาลุกขึ้นยืนทันที แต่ยังไม่ทันที่เธอจะก้าวออกไป มือเขาคว้ามาที่แขนเธอทันที พร้อมกับดึงตัวเธอเข้าไปปะทะอกกว้าง ปุณณดายืนตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกะทันหัน
“ได้โปรด...อย่าพึ่งไป...มิลิน”
“ปล่อยดิฉันค่ะ!”
ปุณณดายืนตัวแข็งทื่ออยู่แบบนั้น อ้อมกอดของเขากระชับขึ้นอีกครั้ง ราวกับต้องการความอบอุ่นจากร่างกายของเธอ
“ผมทำผิดกับคุณมากมาย...และผมอยากจะขอโอกาส...”
แม็กซ์เวลกอดกระชับร่างบางเข้าหาตัว เพื่อต้องการเผยความรู้สึกที่อยู่ด้านในออกมา แต่ทว่า...
“ไม่ค่ะ! ดิฉันบอกคุณแล้วไงคะ ว่าดิฉันลืมมันไปหมดแล้ว และกรุณาปล่อยตัวดิฉันเดี๋ยวนี้!”
ร่างบางพยายามดิ้นออกจากอกแกร่ง ความเจ็บช้ำที่เธอได้รับไม่สมควรได้แค่ ‘คำขอโทษ’
“มิลิน...” แม็กซ์เวลดันร่างบางออกเพื่อมองหน้าหญิงสาวให้ชัดเจนอีกครั้ง
“ดิฉันมีแฟนแล้ว...ขอความกรุณาคุณอย่าก้าวล่วงดิฉันอีก! ตอนนี้ดิฉันไม่ใช่เด็กที่อายุ 16 คนนั้นแล้ว เพราะฉะนั้น...โปรดอย่ามายุ่งกับดิฉันอีกต่อไป! ขอตัวนะคะ”
ปุณณดาสะบัดร่างของตัวเองออกทันที พร้อมกับหันหลังและก้าวออกไปจากห้องใหญ่ โดยไม่แม้จะหันหลังกลับมามอง...
ปึ่ง! เสียงประตูบานใหญ่ถูกปิดดังสนั่น
“...” แม็กซ์เวลยืนมองร่างบางเดินจากไป ด้วยความรู้สึกเหมือนกับว่าดวงใจของเขาถูกกระชากอย่างแรงและตกร่วงลงดิ่งจากที่สูง
“อึก! อื้อ!” เสียงร้องของปุณณดาถูกปิดกั้น เมื่อเธอได้สติหญิงสาวก็ดิ้นสุดฤทธิ์ จนทำให้เอกสารบนโต๊ะทำงานเขาร่วงหล่นบนพื้นกระจัดกระจาย คนที่อยู่ด้านนอกตกใจ พร้อมกับวิ่งกรูเข้าไปยืนลุ้นหน้าประตูใหญ่ด้วยความตื่นตระหนกและกระวนกระวายใจ “คุณจะเข้าไปไม่ได้นะคะ ถ้าท่านประธานไม่เรียก”เลขาแสนสวยเข้ามาขวางกันยกรทันที “แต่เพื่อนดิฉัน...” “ท่านประธานไม่ทำอะไรเพื่อนคุณหรอกค่ะ ท่านเป็นถึงประธานบริษัทนะคะ จะทำเรื่องไม่ดีอย่างที่คุณคิดได้ยังไง” “คุณก็พึ่งจะทำงานกับท่านประธานไม่กี่วัน คุณรู้ได้ยังไง”กันยกรกระชากเสียงใส่เลขาหน้าห้อง ด้านใน... เพี๊ยะ! ฝ่ามือบางฟาดลงบนใบหน้าคม เมื่อร่างกายของเธอเป็นอิสระจากการพยายามทำตัวเองให้หลุดพ้นจากอ้อมแขนอันแข็งแกร่งนั่น “อุ๊บ!” ปากบางถูกบดขยี้อีกครั้งด้วยความรุนแรงและดุเดือดกว่าครั้งเก่า ลิ้นเล็กถูกตวัดด้วยลิ้นหนาของเขา ดูดเม้มเอาแต่ใจ ราวกับหิวโหยมานานแรมปี จูบร้อนนั้นดุเดือดกินเวลาไปหลายนาที จนร่างบางเริ่มอ่อนระทวย พรึ่บ! ร่างกำยำผละออกจากร่างบางทันที เมื่ออารมณ์ของเขาตอนนี้ค่อนข้างจะเ
@ โรงแรมสุดหรู ประเทศสิงคโปร์... “ทำไมห้องที่ฉันจองมาต้องติดกับนายคนนี้ด้วย”ณิศรากำลังเกรี้ยวกราดใส่พนักงานต้อนรับ เธอสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี โดยที่อีกฝ่ายก็พยายามที่จะอธิบาย “ห้องมันเต็มคุณก็เห็นอยู่ และอีกอย่างโรงแรมนี้ เป็นสถานที่จัดงานด้วย คุณจะยกเลิกและไปพักที่อื่นก็ได้นะ และถ้าคุณมาไม่ทันนัดของลูกค้าแต่ละครั้งล่ะก็ คงต้องให้พ่อของคุณมาจัดการล่ะมั้ง”สายตาเหยียดๆ ของกันต์ธีส่งถึงณิศราทันทีโดยไม่เกรงกลัวใดๆ “ฉันไม่ได้คุยกับแก ไม่ต้องออกความคิดเห็น”ณิศราตอบกลับทันทีเช่นกัน ทำยังไงเธอถึงจะจัดการไอ่บ้านี้ได้นะ “อืม...ก็แล้วแต่ อย่าให้ปัญหามันลามมาหาผมแล้วกัน”กันต์ธีหยักไหล่แบบไม่สนใจ เขาเบื่อหน่ายผู้หญิงแบบนี้มากๆ นอกจากเธอจะกรี๊ดกร้าดหนวกหูแล้ว ยังน่าเบื่ออีกต่างหาก “สรุปฉันขอเปลี่ยนห้องได้ไหมคะ”ณิศราหันไปต่อรองกับพนักงานของโรงแรม แต่คำตอบที่ได้คือ “ห้องเต็มครับ” “โอเค...”ณิศราหันมาถลึงตาใส่คนข้างหลังทันที นั่นมันเพราะนายนั่นแหละ ไม่งั้นฉันคงไม่เป็นแบบนี้แน่ๆ “อย่ามาพาลไม่เข้าเรื่อง อายุก็ไม
@ บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์น... “กายลูกจะไปกี่วัน แม่จะได้เตรียมเสื้อผ้าให้ถูก”ธีรยาเอ่ยขึ้นในเช้าวันหนึ่ง เธอและลูกทั้งสองกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ “ต้องเตรียมไปสิบวันก่อนครับแม่ ผมยังไม่แน่ใจเลยครับ คือว่า...มีปัญหานิดหน่อยครับ”สิ่งที่นายท่านอดัมโทรมาบอกกันต์ธีเมื่อคืน มันทำให้เขารู้สึกไขว้เขวเป็นอย่างมาก อย่างหนึ่งคือบุณคุณ ‘ฝากริต้าหน่อยนะ คนนี้เอาแต่ใจตัวเองไปหน่อย ยังไงลุงขอให้กายอดทนกับเธอสักหน่อย ถูกตามใจจนเคยตัว’ อีกอย่างหนึ่งก็คือ ‘ความแค้นที่รอการเอาคืนอย่างสาสม’ “มีอะไรเหรอกาย?” ปุณณดาเอ่ยถามอย่างสงสัย “นิดหน่อยครับพี่มิลิน ไปหลายวันผมคิดถึงแม่ครับ”กันต์ธีหลีกเลี่ยงคำตอบที่แท้จริง เขาไม่อยากให้แม่และพี่สาวทุกข์ใจกับเรื่องที่เขาคิดจะทำต่อจากนี้ “กายจะไปสิงคโปร์วันไหน เดี๋ยวพี่ไปส่งที่สนามบิน” “วันจันทร์ครับ” “แล้วไปกับ...เอ่อ...หัวหน้าฝ่ายการตลาดใช่ไหม?”ปุณณดารู้อยู่ก่อนแล้ว ว่าน้องชายเธอกำลังมีปัญหากับณิศราลูกสาวของบ้านนั้น กันต์ธีมักจะเล่าเรื่องราวให้เธอได้ฟังตลอด ปุณณดาห้ามน้องแ
@ แผนกไอที... “มิลิน แกเป็นยังไงบ้าง”กันยกรร้องเรียกเพื่อนสาวทันที เมื่อเห็นใบหน้าสวยแดงกล่ำ ย่ำเท้าก้าวเข้ามาภายในห้องทำงาน ที่ตอนนี้มีกันยกรนั่งรอปุณณดาอยู่ในห้องเพียงคนเดียว เนื่องจากเป็นเวลาพักกลางวัน “สักครู่...ตัง”ปุณณดานั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มันทำให้ปุณณดาเกิดภาวะแพนิคชั่วขณะ เธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ทำไมเขาถึงต้องการที่จะขอโทษเธอ เขาไม่แค้นเธอแล้วหรือ? เขารู้สึกผิดขนาดนั้นเชียวหรือ? “...” กันยกรมองหน้าเพื่อนสาวด้วยความรู้สึกลุ้นระทึกเช่นกัน เมื่อเธอได้ทราบข่าวเม้าท์จากแผนกประชาสัมพันธ์โดยหัวหน้าแผนก ‘มิลินไปทำอะไรให้ท่านประธานไม่พอใจหรือเปล่าไม่รู้...แต่ที่รู้คือตอนนี้โดนเรียกเข้าไปห้องท่านประธานแล้วแก...’ นี่คือสิ่งที่ขาเม้าท์กำลังแพร่กระจายข่าว จนเกิดเป็นวงกว้างในวงการสายนินทาโดยมีหัวข้อ ‘แจ๊คพอตมิลิน!’ “เขาเรียกฉันเข้าไปคุย...ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงาน”ปุณณดาเริ่มเล่าเรื่องราวเมื่อครู่ให้เพื่อนฟัง กันยกรผ่านทุกเรื่องราวทั้งหมดของเธอมาตลอด เธอจึงไม่คิดที่จะปิดบังเพื่อนรักของเธอเลยแม้แต่นิด
“แต่เขามองแรงจริงๆ นะมิลิน พี่ชักกลัวแล้วสิ...พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะ...รางวัลพนักงานดีเด่นของปีที่แล้วก็การัณตีอยู่...เธอล่ะมิลิน...ไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า...ลองนึกดูสิ ไม่ใช่เรื่องดีเลยนะถ้าท่านประธานจะไม่ชอบหน้าเราน่ะ” “ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่...มิลินว่าเขาน่าจะมองเราสองคน ที่พูดกันไม่หยุด รบกวนที่ประชุมมากกว่านะคะ”ปุณณดาหาเหตุระงับเสียงพูดของอีกฝ่าย “อืม...น่าจะใช่...^^” เวลาผ่านไปราว 30 นาที... “คุณปุณณดาคะ...เสร็จจากประชุมท่านประธานเชิญคุณที่ห้องทำงานนะคะ” “คะ? เอ่อ...เรื่องอะไรหรือคะ คือว่าดิฉันไม่น่าจะมีงานที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหารขนาดนั้นนะคะ”ปุณณดาตกใจอย่างที่สุด ที่อยู่ดีๆ เลขาของท่านประธานเดินเข้ามากระซิบบอกเธอ “ดิฉันไม่ทราบค่ะ ท่านให้ดิฉันมาบอกคุณค่ะ เดี๋ยวถ้ายังไงเชิญตามดิฉันมาเลยนะคะ” “อุ้ย! นั่นไง! พี่บอกแล้วไงว่าท่านประธานจะต้องมีอะไรแน่ๆ มิลินเธอทำอะไรผิดไว้หรือเปล่าเนี่ย เธอต้องใจเย็นๆ นะค่อยๆ คิดก่อนพูดนะ...ตายแล้ว! พี่ก็คิดว่าเป็นพี่ซะอีก รอดตัวไป...ขอให้โชคดีนะจ๊ะน้องสาว” “พี่ไปกับมิลิ
อีกด้านหนึ่ง...“เธอแวะทักทายใครเหรอไลลา...เธอรู้จักคนในบริษัทฉันด้วยเหรอ?”“น้องที่ฉันรู้จักมานานแล้ว เราเป็นเพื่อนกันน่ะ”“ฉันไม่ยักรู้นะ...ว่าเธอมีเพื่อนคนอื่นอีก นอกจากฉัน”“ฉันสนิทสนมกันมานานหลายปีแล้ว แต่เผอิญน้องเขาดันมาทำงานที่บริษัทของเธอด้วย”“อืม...”“หนูไลลา...ทำไมไม่ไปยืนข้างๆ ตาแม็กซ์ล่ะลูก ตอนนี้หนูควรจะเปิดตัวได้แล้วนะ”“เอ่อ...หนู”สิ่งที่กิริฎาไม่ชอบมากที่สุดก็คือ ‘การเป็นหุ่นเชิด’ เธอเหนื่อยหน่ายกับสิ่งแบบนี้เหลือเกิน กิริฎาต้องตามใจคนทุกคน เพื่ออะไรกัน? กิริฎาอยากเป็นตัวของตัวเอง เธอไม่ได้ต้องการแบบนี้เลยสักนิด...“เธอต้องฝึกไว้นะไลลา...อีกหน่อยถ้าเธอแต่งงานกับแม็กซ์แล้ว เธอเองก็ต้องออกงานสังคมบ่อยๆ เผลอๆ ฉันว่าเธอจะต้องลาออกจากการเป็นหมอด้วยซ้ำ”“เอาไว้ก่อนเถอะริต้า...การเป็นหมอคือสิ่งที่ฉันรักนะ”น้ำเสียงของกิริฎาเริ่มแข็งขึ้น เธอไม่ชอบให้ใครมาแตะเรื่องอาชีพของเธอเลย ‘กิริฎาจะทนกับผู้คนเหล่านี้ได้มากแค่ไหนกัน’“บ้านเรามีเงินมากพอที่จะเลี้ยงหนูไปทั้งชาติเลยนะ เพราะฉะนั้นแม่ว่า หนูควรจะวางแผนที่จะสร้างครอบครัว และมีลูกกับแม็กซ์ให้พ่อกับแม่ได้ชื่นใจดีกว่านะคะ อีกอย่







