Masuk@ แผนกไอที...
“มิลิน แกเป็นยังไงบ้าง”
กันยกรร้องเรียกเพื่อนสาวทันที เมื่อเห็นใบหน้าสวยแดงกล่ำ ย่ำเท้าก้าวเข้ามาภายในห้องทำงาน ที่ตอนนี้มีกันยกรนั่งรอปุณณดาอยู่ในห้องเพียงคนเดียว เนื่องจากเป็นเวลาพักกลางวัน
“สักครู่...ตัง”
ปุณณดานั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มันทำให้ปุณณดาเกิดภาวะแพนิคชั่วขณะ เธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ทำไมเขาถึงต้องการที่จะขอโทษเธอ เขาไม่แค้นเธอแล้วหรือ? เขารู้สึกผิดขนาดนั้นเชียวหรือ?
“...” กันยกรมองหน้าเพื่อนสาวด้วยความรู้สึกลุ้นระทึกเช่นกัน เมื่อเธอได้ทราบข่าวเม้าท์จากแผนกประชาสัมพันธ์โดยหัวหน้าแผนก ‘มิลินไปทำอะไรให้ท่านประธานไม่พอใจหรือเปล่าไม่รู้...แต่ที่รู้คือตอนนี้โดนเรียกเข้าไปห้องท่านประธานแล้วแก...’ นี่คือสิ่งที่ขาเม้าท์กำลังแพร่กระจายข่าว จนเกิดเป็นวงกว้างในวงการสายนินทาโดยมีหัวข้อ ‘แจ๊คพอตมิลิน!’
“เขาเรียกฉันเข้าไปคุย...ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงาน”
ปุณณดาเริ่มเล่าเรื่องราวเมื่อครู่ให้เพื่อนฟัง กันยกรผ่านทุกเรื่องราวทั้งหมดของเธอมาตลอด เธอจึงไม่คิดที่จะปิดบังเพื่อนรักของเธอเลยแม้แต่นิด
“เขาคุยเรื่องอะไร”
“เขาขอโทษฉันเรื่องเมื่อแปดปีที่แล้ว...”
“ห๊ะ!!” กันยกรอุทานด้วยความตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
“ใช่! แกได้ยินไม่ผิดหรอก เขาขอโทษฉัน...และขอโอกาสจากฉัน...ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่ามันคือโอกาสอะไร ฉันไม่ได้ถามเขากลับหรอกนะ”
“แล้ว...ยังไงต่อ”
“เขากอดฉัน”
“ห๊ะ!!!”
“เรื่องจริง...ฉันยังงงในสิ่งที่เขาทำอยู่เลย มันจะเป็นไปได้ยังไงแก ใครไปทำอะไรให้เขา เขาถึงคิดได้แบบนั้น และเอ่ยคำขอโทษกับฉัน”
“เอาจริงๆ นะฉันก็ยังมึนเลยแก ตานั่นเนี่ยนะ ขอโทษ! ฉันว่าเขาเมากาวหรือเปล่าวะ เป็นไปไม่ได้อ่ะ ตาลูกชายคุณนายร้ายจะตาย ทำกับแกอย่างโหดเหี้ยมขนาดนั้น ฉันว่าต้องมีอะไรผิดพลาดสักอย่างแน่ๆ มิลิน”
“นั่นสิ...ฉันเลยตอบกลับไป ว่าฉันลืมไปหมดแล้ว และเขาพูดว่าขอโอกาส ฉันก็เลยบอกเขาว่า ฉันมีแฟนแล้ว แกคิดว่ายังไงวะตัง…คำว่าขอโอกาสจากเขา มันคืออะไร?”
“ประโยคนี้ก็พีคสุด! ขอโอกาสแก? แต่แกตอบไปว่ามีแฟนแล้ว...นั่นคือดีที่สุดแล้ว เขาทำกับแกมากมายมหาศาลขนาดนั้น ก็ไม่ควรที่เขาจะได้รับการอภัยจากแกหรอกนะ...มิลิน”
“ฉันไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขาอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ ฉันคิดว่าฉันชดใช้ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวฉันเองไปหมดแล้ว”
“ใช่! แกคิดถูกต้องนะมิลิน ถ้าเป็นฉันก็คิดแบบแกแหละ ตอนนี้แกมีแฟนแล้ว แกมีนนท์ที่รักแกแล้วมิลิน แกควรจะเริ่มต้นกับคนที่รักแกอย่างจริงใจนะ”
“อืม...จริงอย่างที่แกบอกฉันนะตัง รัชชานนท์ดีกับฉันมาตลอด ฉันควรจะโฟกัสที่เขาเท่านั้น กว่าฉันจะผ่านเรื่องนั้นมา ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย...”
“โอเค...ไปกินข้าวกลางวันกันเถอะ ป่านนี้ยัยน้ำขิงเขมือบแฟนแกไปล่ะมั้ง...อย่าปล่อยปลาย่างไว้กับยัยแม่มดเด็ดขาด”
“เค...”
อีกหนึ่งเหตุการณ์...
“ก่อนที่ริต้าจะไปทำการตลาดต่างประเทศ ริต้าอยากจะขอร้องคุณพ่ออีกสักครั้งได้มั้ยคะ ว่าริต้าขอเปลี่ยนวิศวกรที่จะไปกับริต้าได้มั้ยคะคุณพ่อ ริต้าไม่สบายใจจริงๆ ค่ะที่จะต้องทำงานกับนายคนนั้นค่ะ”
ณิศรากำลังออดอ้อนพ่อเลี้ยงของเธอให้ใจอ่อน เธอจะต้องเดินทางไปต่างประเทศพร้อมกับนายปากเสียคนนั้น เธอไม่ยอมแน่นอน
“ลูกจะไปอีกสองวันแล้ว จะมาขอเปลี่ยนตัวทำไมกันริต้า กันต์ธีเป็นวิศวกรที่ทำงานเก่ง ถึงแม้เขาจะพึ่งเข้ามาทำงานก็เถอะ เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ความรับผิดชอบสูง พ่อเชื่อว่าถ้าเขาได้มีโอกาสที่จะแสดงศักยภาพล่ะก็ เขาต้องทำงานได้ดีแน่ๆ และลูกก็จะสบายที่มีทีมที่ดีนะริต้า”
“แต่ลูกไม่ชอบมันนี่คะ”
“ลูกอายุ 32 แล้วนะริต้า ควรจะระวังการใช้คำพูด และลูกพยายามอย่าให้อารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผลแบบนี้เลยนะพ่อขอร้อง”
“ก็ได้ค่ะ...ลูกไม่อยากทำงานกับนายกันต์ธีค่ะ คุณพ่อช่วยหาคนอื่นมาแทนนายกันต์ธีหน่อยได้มั้ยคะ หรือจะเอาคนล่าสุดที่ร่วมทำงานกับริต้ากลับเข้ามาทำใหม่ก็ได้นะคะ”
“เฮ้อ...พ่อเหนื่อยนะริต้า...คำเดียวที่พ่อจะพูดคือ ลูกจะต้องทำงานร่วมกับกันต์ธีให้ได้ ถ้าไม่ได้พ่อก็จำเป็นที่จะปลดหนูออกจากการเป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาด!”
“คุณพ่อ!” ณิศราตะลึงกับประโยคของพ่อเลี้ยง เธอโมโหเป็นอย่างมาก นายบ้าคนนั้นทำให้เธอเป็นแบบนี้ พ่อของเธอไม่เคยที่จะยื่นคำขาดถึงขนาดปลดเธอออกแบบนี้ คอยดูล่ะกัน...แม่จะเล่นให้แหลกกันไปข้างหนึ่ง...
ติ๊ด! ติ๊ด! สายร้อนต่อตรงถึงกิริฎาทันที
“ว่าไงจ๊ะริต้า มีอะไรถึงคอลมาหาฉันแบบนี้ นี่มันเวลางานนะ มีเรื่องด่วนอะไรเหรอ”
กิริฎามองหน้าเพื่อนสาวผ่านการวีดีโอคอล
“ฉันโมโหมาก! ไลลา อกฉันจะแตกตายอยู่แล้ว ไม่รู้จะไประบายกับใครดี...เรื่องพ่อเลี้ยงฉัน กับนายวิศวกรบ้าคนนั้น”
“นายวิศวกรบ้า? คือใครเหรอ? ทำไมถึงทำให้เธอโกรธแบบนี้ล่ะ”
“พ่อจะให้ฉันทำงานร่วมกับมัน อีกสองวันฉันต้องบินไปทำการตลาดที่สิงคโปร์และฉันต้องไปกับมันสองคน ซึ่งฉันขอพ่อเปลี่ยนตัวมัน แต่พ่อฉันไม่ยอม พ่อบอกจะปลดฉันออกจากการเป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาด จะไม่ให้ฉันโมโหได้ยังไงไลลา เจ็บใจนักฉันจะทำยังไงกับมันดี”
“ใจเย็นๆ นะริต้า...ฉันขอถามเธอก่อน ว่าเธอกับนายวิศวกรคนนั้นมีเรื่องอะไรกันมาก่อนหรือเปล่า ทำไมเธอถึงไม่ชอบเขา”
“ก็มันกวนประสาทฉันตั้งแต่วันแรกที่สัมภาษณ์น่ะสิ...มันพูดกับฉันแบบไม่เกรงใจเลย ฉันเป็นถึงระดับไหนมันก็ไม่สนใจ มันถือว่าคุณพ่อเอามันเข้ามา เลยอวดดีน่ะสิ”
“อืม...แต่เธอก็ต้องใจเย็นๆ นะริต้า เธอต้องทำหน้าที่ก่อนนะ เรื่องแบบนี้ฉันว่าต้องค่อยๆ คิด และใจเย็นๆ ก่อนดีกว่า คุณพ่อของเธอจะต้องรู้ว่าเขาเก่งแน่ๆ ถึงพาเข้ามาทำงานแบบนี้”
“ก็แค่เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เชอะ! อายุก็แค่ 22 ทำอวดเก่ง ฉันแก่กว่ามันเป็น 10 ปี มันควรจะให้ความเคารพฉันสิถึงจะถูก”
“ฉันแนะนำเธอได้อย่างเดียวนะริต้า...คือต้องใจเย็น”
“โอ้ย...ฉันจะทำยังไงดีเนี่ย”
ณิศรามืดแปดด้าน เธอไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครอีกแล้ว เธอจะต้องไปกับมันอย่างนั้นหรือ ไปเกือบสิบวัน เธอคงบ้าตายแน่ๆ
....................
“อึก! อื้อ!” เสียงร้องของปุณณดาถูกปิดกั้น เมื่อเธอได้สติหญิงสาวก็ดิ้นสุดฤทธิ์ จนทำให้เอกสารบนโต๊ะทำงานเขาร่วงหล่นบนพื้นกระจัดกระจาย คนที่อยู่ด้านนอกตกใจ พร้อมกับวิ่งกรูเข้าไปยืนลุ้นหน้าประตูใหญ่ด้วยความตื่นตระหนกและกระวนกระวายใจ “คุณจะเข้าไปไม่ได้นะคะ ถ้าท่านประธานไม่เรียก”เลขาแสนสวยเข้ามาขวางกันยกรทันที “แต่เพื่อนดิฉัน...” “ท่านประธานไม่ทำอะไรเพื่อนคุณหรอกค่ะ ท่านเป็นถึงประธานบริษัทนะคะ จะทำเรื่องไม่ดีอย่างที่คุณคิดได้ยังไง” “คุณก็พึ่งจะทำงานกับท่านประธานไม่กี่วัน คุณรู้ได้ยังไง”กันยกรกระชากเสียงใส่เลขาหน้าห้อง ด้านใน... เพี๊ยะ! ฝ่ามือบางฟาดลงบนใบหน้าคม เมื่อร่างกายของเธอเป็นอิสระจากการพยายามทำตัวเองให้หลุดพ้นจากอ้อมแขนอันแข็งแกร่งนั่น “อุ๊บ!” ปากบางถูกบดขยี้อีกครั้งด้วยความรุนแรงและดุเดือดกว่าครั้งเก่า ลิ้นเล็กถูกตวัดด้วยลิ้นหนาของเขา ดูดเม้มเอาแต่ใจ ราวกับหิวโหยมานานแรมปี จูบร้อนนั้นดุเดือดกินเวลาไปหลายนาที จนร่างบางเริ่มอ่อนระทวย พรึ่บ! ร่างกำยำผละออกจากร่างบางทันที เมื่ออารมณ์ของเขาตอนนี้ค่อนข้างจะเ
@ โรงแรมสุดหรู ประเทศสิงคโปร์... “ทำไมห้องที่ฉันจองมาต้องติดกับนายคนนี้ด้วย”ณิศรากำลังเกรี้ยวกราดใส่พนักงานต้อนรับ เธอสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี โดยที่อีกฝ่ายก็พยายามที่จะอธิบาย “ห้องมันเต็มคุณก็เห็นอยู่ และอีกอย่างโรงแรมนี้ เป็นสถานที่จัดงานด้วย คุณจะยกเลิกและไปพักที่อื่นก็ได้นะ และถ้าคุณมาไม่ทันนัดของลูกค้าแต่ละครั้งล่ะก็ คงต้องให้พ่อของคุณมาจัดการล่ะมั้ง”สายตาเหยียดๆ ของกันต์ธีส่งถึงณิศราทันทีโดยไม่เกรงกลัวใดๆ “ฉันไม่ได้คุยกับแก ไม่ต้องออกความคิดเห็น”ณิศราตอบกลับทันทีเช่นกัน ทำยังไงเธอถึงจะจัดการไอ่บ้านี้ได้นะ “อืม...ก็แล้วแต่ อย่าให้ปัญหามันลามมาหาผมแล้วกัน”กันต์ธีหยักไหล่แบบไม่สนใจ เขาเบื่อหน่ายผู้หญิงแบบนี้มากๆ นอกจากเธอจะกรี๊ดกร้าดหนวกหูแล้ว ยังน่าเบื่ออีกต่างหาก “สรุปฉันขอเปลี่ยนห้องได้ไหมคะ”ณิศราหันไปต่อรองกับพนักงานของโรงแรม แต่คำตอบที่ได้คือ “ห้องเต็มครับ” “โอเค...”ณิศราหันมาถลึงตาใส่คนข้างหลังทันที นั่นมันเพราะนายนั่นแหละ ไม่งั้นฉันคงไม่เป็นแบบนี้แน่ๆ “อย่ามาพาลไม่เข้าเรื่อง อายุก็ไม
@ บ้านหลังใหญ่สไตล์โมเดิร์น... “กายลูกจะไปกี่วัน แม่จะได้เตรียมเสื้อผ้าให้ถูก”ธีรยาเอ่ยขึ้นในเช้าวันหนึ่ง เธอและลูกทั้งสองกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ “ต้องเตรียมไปสิบวันก่อนครับแม่ ผมยังไม่แน่ใจเลยครับ คือว่า...มีปัญหานิดหน่อยครับ”สิ่งที่นายท่านอดัมโทรมาบอกกันต์ธีเมื่อคืน มันทำให้เขารู้สึกไขว้เขวเป็นอย่างมาก อย่างหนึ่งคือบุณคุณ ‘ฝากริต้าหน่อยนะ คนนี้เอาแต่ใจตัวเองไปหน่อย ยังไงลุงขอให้กายอดทนกับเธอสักหน่อย ถูกตามใจจนเคยตัว’ อีกอย่างหนึ่งก็คือ ‘ความแค้นที่รอการเอาคืนอย่างสาสม’ “มีอะไรเหรอกาย?” ปุณณดาเอ่ยถามอย่างสงสัย “นิดหน่อยครับพี่มิลิน ไปหลายวันผมคิดถึงแม่ครับ”กันต์ธีหลีกเลี่ยงคำตอบที่แท้จริง เขาไม่อยากให้แม่และพี่สาวทุกข์ใจกับเรื่องที่เขาคิดจะทำต่อจากนี้ “กายจะไปสิงคโปร์วันไหน เดี๋ยวพี่ไปส่งที่สนามบิน” “วันจันทร์ครับ” “แล้วไปกับ...เอ่อ...หัวหน้าฝ่ายการตลาดใช่ไหม?”ปุณณดารู้อยู่ก่อนแล้ว ว่าน้องชายเธอกำลังมีปัญหากับณิศราลูกสาวของบ้านนั้น กันต์ธีมักจะเล่าเรื่องราวให้เธอได้ฟังตลอด ปุณณดาห้ามน้องแ
@ แผนกไอที... “มิลิน แกเป็นยังไงบ้าง”กันยกรร้องเรียกเพื่อนสาวทันที เมื่อเห็นใบหน้าสวยแดงกล่ำ ย่ำเท้าก้าวเข้ามาภายในห้องทำงาน ที่ตอนนี้มีกันยกรนั่งรอปุณณดาอยู่ในห้องเพียงคนเดียว เนื่องจากเป็นเวลาพักกลางวัน “สักครู่...ตัง”ปุณณดานั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มันทำให้ปุณณดาเกิดภาวะแพนิคชั่วขณะ เธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ทำไมเขาถึงต้องการที่จะขอโทษเธอ เขาไม่แค้นเธอแล้วหรือ? เขารู้สึกผิดขนาดนั้นเชียวหรือ? “...” กันยกรมองหน้าเพื่อนสาวด้วยความรู้สึกลุ้นระทึกเช่นกัน เมื่อเธอได้ทราบข่าวเม้าท์จากแผนกประชาสัมพันธ์โดยหัวหน้าแผนก ‘มิลินไปทำอะไรให้ท่านประธานไม่พอใจหรือเปล่าไม่รู้...แต่ที่รู้คือตอนนี้โดนเรียกเข้าไปห้องท่านประธานแล้วแก...’ นี่คือสิ่งที่ขาเม้าท์กำลังแพร่กระจายข่าว จนเกิดเป็นวงกว้างในวงการสายนินทาโดยมีหัวข้อ ‘แจ๊คพอตมิลิน!’ “เขาเรียกฉันเข้าไปคุย...ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงาน”ปุณณดาเริ่มเล่าเรื่องราวเมื่อครู่ให้เพื่อนฟัง กันยกรผ่านทุกเรื่องราวทั้งหมดของเธอมาตลอด เธอจึงไม่คิดที่จะปิดบังเพื่อนรักของเธอเลยแม้แต่นิด
“แต่เขามองแรงจริงๆ นะมิลิน พี่ชักกลัวแล้วสิ...พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะ...รางวัลพนักงานดีเด่นของปีที่แล้วก็การัณตีอยู่...เธอล่ะมิลิน...ไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า...ลองนึกดูสิ ไม่ใช่เรื่องดีเลยนะถ้าท่านประธานจะไม่ชอบหน้าเราน่ะ” “ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่...มิลินว่าเขาน่าจะมองเราสองคน ที่พูดกันไม่หยุด รบกวนที่ประชุมมากกว่านะคะ”ปุณณดาหาเหตุระงับเสียงพูดของอีกฝ่าย “อืม...น่าจะใช่...^^” เวลาผ่านไปราว 30 นาที... “คุณปุณณดาคะ...เสร็จจากประชุมท่านประธานเชิญคุณที่ห้องทำงานนะคะ” “คะ? เอ่อ...เรื่องอะไรหรือคะ คือว่าดิฉันไม่น่าจะมีงานที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหารขนาดนั้นนะคะ”ปุณณดาตกใจอย่างที่สุด ที่อยู่ดีๆ เลขาของท่านประธานเดินเข้ามากระซิบบอกเธอ “ดิฉันไม่ทราบค่ะ ท่านให้ดิฉันมาบอกคุณค่ะ เดี๋ยวถ้ายังไงเชิญตามดิฉันมาเลยนะคะ” “อุ้ย! นั่นไง! พี่บอกแล้วไงว่าท่านประธานจะต้องมีอะไรแน่ๆ มิลินเธอทำอะไรผิดไว้หรือเปล่าเนี่ย เธอต้องใจเย็นๆ นะค่อยๆ คิดก่อนพูดนะ...ตายแล้ว! พี่ก็คิดว่าเป็นพี่ซะอีก รอดตัวไป...ขอให้โชคดีนะจ๊ะน้องสาว” “พี่ไปกับมิลิ
อีกด้านหนึ่ง...“เธอแวะทักทายใครเหรอไลลา...เธอรู้จักคนในบริษัทฉันด้วยเหรอ?”“น้องที่ฉันรู้จักมานานแล้ว เราเป็นเพื่อนกันน่ะ”“ฉันไม่ยักรู้นะ...ว่าเธอมีเพื่อนคนอื่นอีก นอกจากฉัน”“ฉันสนิทสนมกันมานานหลายปีแล้ว แต่เผอิญน้องเขาดันมาทำงานที่บริษัทของเธอด้วย”“อืม...”“หนูไลลา...ทำไมไม่ไปยืนข้างๆ ตาแม็กซ์ล่ะลูก ตอนนี้หนูควรจะเปิดตัวได้แล้วนะ”“เอ่อ...หนู”สิ่งที่กิริฎาไม่ชอบมากที่สุดก็คือ ‘การเป็นหุ่นเชิด’ เธอเหนื่อยหน่ายกับสิ่งแบบนี้เหลือเกิน กิริฎาต้องตามใจคนทุกคน เพื่ออะไรกัน? กิริฎาอยากเป็นตัวของตัวเอง เธอไม่ได้ต้องการแบบนี้เลยสักนิด...“เธอต้องฝึกไว้นะไลลา...อีกหน่อยถ้าเธอแต่งงานกับแม็กซ์แล้ว เธอเองก็ต้องออกงานสังคมบ่อยๆ เผลอๆ ฉันว่าเธอจะต้องลาออกจากการเป็นหมอด้วยซ้ำ”“เอาไว้ก่อนเถอะริต้า...การเป็นหมอคือสิ่งที่ฉันรักนะ”น้ำเสียงของกิริฎาเริ่มแข็งขึ้น เธอไม่ชอบให้ใครมาแตะเรื่องอาชีพของเธอเลย ‘กิริฎาจะทนกับผู้คนเหล่านี้ได้มากแค่ไหนกัน’“บ้านเรามีเงินมากพอที่จะเลี้ยงหนูไปทั้งชาติเลยนะ เพราะฉะนั้นแม่ว่า หนูควรจะวางแผนที่จะสร้างครอบครัว และมีลูกกับแม็กซ์ให้พ่อกับแม่ได้ชื่นใจดีกว่านะคะ อีกอย่







