สนามบินฮีทโธรว์ประเทศอังกฤษ
“ณัฐชาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมกรีนจะต้องรีบกลับประเทศไทยด้วยล่ะ ทำไมไม่อยู่เที่ยวด้วยกันก่อน”
“ก็ตอนนี้กรีนเรียนจบแล้วก็อยากจะรีบกลับไปช่วยงานคุณท่านที่เมืองไทย”
“แต่กรีนเรียนจบก่อนเวลาตั้งหนึ่งเดือนนะถ้าไม่บอกคุณท่านคุณท่านก็ไม่รู้หรอกว่าเรียนจบแล้ว”
“กรีนไม่อยากโกหกคุณท่านนะ แค่คุณท่านส่งให้เรียนต่อจนจบแบบนี้ก็รู้สึกเกรงใจมากๆ แล้ว”
กรีนหรือกีรติกาพูดกับณัฐชาเพื่อนสนิทที่มาเรียนออกแบบเครื่องประดับด้วยกันที่ประเทศอังกฤษนานถึงสี่ปี
ตอนนี้หญิงสาวเรียนจบและกำลังจะกลับไปทำงานกับคุณท่านหรือคุณสุธีเพื่อนของบิดาที่ส่งเธอเรียนหลังจากบิดาของเธอเสียชีวิตไปแล้ว
“กรีนจะกลับไปทำงานที่บริษัทของคุณท่านเลยใช่ไหม”
“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละคุณท่านส่งให้กรีนเรียนพอเรียนจบก็ต้องกลับไปช่วยงานบริษัท”
เมื่อพูดถึงบริษัทหญิงสาวก็มีสีหน้าสลดลงเล็กน้อยเพราะบริษัทที่เธอพูดถึงนั้นครึ่งหนึ่งเคยเป็นของบิดาแต่เมื่อเธอมาเรียนต่อที่อังกฤษบิดาของเธอก็ติดการพนันอย่างหนักจนเป็นหนี้เขาไปทั่ว
คุณสุธีเลยขอซื้อหุ้นทั้งหมดเพื่อแลกกับเงินให้บิดาของเธอเอาเงินไปใช้หนี้แต่มันก็ยังไม่พอ บ้านที่เธอเคยอยู่ตั้งแต่เด็กก็ถูกขายไปเพื่อใช้หนี้จนหมดแต่ท่านก็ไม่สามารถสู้หน้ากับคนอื่นได้ บิดาของเธอตัดสินใจจบชีวิตตนเองในรถยนต์เมื่อสองปีที่แล้ว คุณสุธีจึงเข้ามาดูแลกีรติกาในฐานะคู่หมั้นของลูกชาย การที่เธอหมั้นกับลูกชายของคุณสุธีนั้นเป็นความต้องการของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายซึ่งคุยกันไว้ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน
“กรีนยังไม่เลิกคิดถึงเรื่องนั้นอีกเหรอ” ณัฐชาที่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเพื่อนของตนเองทุกอย่างถามด้วยความเป็นห่วง เพราะบิดาของเพื่อนเสียชีวิตไปนานถึงสองปีแล้วแต่กีรติกาก็ยังดูเศร้าทุกครั้งเมื่อพูดถึงเรื่องในอดีต
“มันอดคิดถึงไม่ได้นะ ถ้าตอนนั้นกรีนไม่มาเรียนที่นี่และได้อยู่กับพ่อท่านอาจจะไม่ตัดสินใจจบชีวิตแบบนั้น”
“อย่าโทษตัวเองเลยกรีนไม่มีใครรู้หรอกว่าตอนนั้นพ่อคิดอะไรอยู่ ท่านอาจมีหลายเรื่องที่เราไม่รู้ ณัฐชาว่าก็คงอดทนอย่างที่สุดแล้วแต่ปัญหามันคงใหญ่มากจริงๆ”
“ใช่ปัญหามันใหญ่มาก ถ้าไม่ได้คุณท่านเข้ามาช่วยเหลือกรีนก็อาจจะไม่ได้เรียนต่อจนจบก็ได้”
“ณัฐชาเข้าใจนะว่ากรีนต้องกลับไปทำงานที่บริษัทเพราะคุณท่านส่งให้เรียนต่อจนจบแต่เรื่องที่กรีนจะต้องแต่งงานกับลูกชายของคุณท่านณัฐชาไม่เห็นด้วยเลย”
“แต่กรีนอยากทำตามที่ตามความต้องการของพ่อ”
แม้เธอกับกิตติเดชจะไม่ได้รู้จักหรือสนิทสนมกันมากแต่หญิงสาวก็อยากจะทำตามความต้องการของบิดาเพราะเธอเองก็ไม่มีคนรักที่ไหน หญิงสาวคิดว่าแต่งงานไปก็คงจะรักเขาได้ไม่ยาก
“แต่พี่กิตเขาเจ้าชู้มากเลยนะกรีน ณัฐชาไม่อยากให้กรีนไปแต่งงานกับผู้ชายที่เจ้าชู้แบบนั้นเลย”
“กรีนก็ไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้แต่คิดว่าถ้าแต่งงานแล้วพี่กิตเขาอาจจะเลิกเจ้าชู้ก็ได้นะ”
“มันเป็นไปได้ยากนะคนที่เคยเจ้าชู้มากจะมาเลิกเจ้าชู้ได้ยังไงแล้วกรีนกับเขาก็เคยเจอกันไม่กี่ครั้งเองนะ”
“คนเจ้าชู้จะเลิกเจ้าชู้ยากแต่กรีนก็ไม่มีทางเลือกถ้ากรีนได้แต่งงานกับพี่กิต กรีนก็จะได้เข้าไปมีส่วนในบริษัทของพ่อ”
“ยังไม่คิดจะเอาบริษัทคืนมาอีกเหรอ เงินมันหลายล้านเลยนะ”
“กรีนคงไม่เอาบริษัทคืนหรอกแต่อยากไปทำงานในบริษัทที่เคยเป็นของพ่อแต่ถ้าเขาจะให้มันก็ดี”
“แต่กรีนก็ไม่น่าจะเอาชีวิตทั้งชีวิตไปทิ้งกับผู้ชายคนนั้นเลยนะ ณัฐชาเข้าใจว่ากรีนอยากได้บริษัทของพ่อคืนมาแต่มันจะคุ้มค่าเหรอกรีน”
“แต่มันก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย มันฟังดูเหมือนกรีนหิวเงินมากเลยใช่ไหม”
“ถ้าคนอื่นมองก็อาจจะคิดว่าเป็นแบบนั้นแต่ณัฐชามองว่าสิ่งที่กินกำลังทำอยู่ก็เพราะอยากได้สมบัติของพ่อคืนมาใช่ไหมล่ะ”
“อือ กรีนก็หวังอย่างนั้นนะ”
“ณัฐชาก็ไม่รู้จะช่วยกรีนเรื่องนี้ยังไงดี ขอให้พี่กิตเขากลับตัวกลับใจเป็นคนดีได้เลิกเจ้าชู้นะ แล้วงานแต่งงานจะจัดตอนไหนล่ะ”
“คุณท่านยังไม่ได้บอกเลยแต่ที่คุยไว้ก็คือหลังจากกรีนเรียนจบแต่กรีนอยากจะขอเวลาศึกษาดูใจพี่กิตอีกสักนิดถ้า หากคุยกันแล้วมันไม่โอเคหรือนิสัยเข้ากันไม่ได้จริงๆ กรีนก็จะลองคุยกับคุณท่านอีกทีว่าจะขอทำงานใช้หนี้ที่คุณท่านส่งเสียให้กรีนเรียนแต่เรื่องแต่งงานถ้ามันไม่ไหวกรีนก็คงไม่ฝืนหรอก”
“ถ้าไม่อยากทำงานกับคุณท่านมาทำงานกับณัฐชาก็ได้นะ”
“ขอบใจมากนะณัฐชาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกรีนเลย เอาล่ะใกล้เวลาเครื่องจะออกแล้วกรีนคงต้องรีบไป”
“ถึงแล้วไลน์บอกณัฐชาด้วยนะแล้วก็อย่าลืมซื้อซิมใหม่ด้วยล่ะเราจะได้โทรคุยกัน”
“ได้จ้ะขอให้ณัฐชาเที่ยวให้สนุกนะ”
“เดินทางปลอดภัยนะ บ๊ายบายจ้ะ” หญิงสาวทั้งสองคนกอดกันอีกครั้งก่อนจะออกและเดินแยกไปคนละทาง
คุณวัชรีเดินออกจากห้องรับแขกไปแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่กีรติกากับวิคเตอร์เพียงสองคนเท่านั้น“สนุกมากไหมคะที่ทำแบบนี้กับฉัน”“ไม่เลยกรีน ฉันเครียดมากตอนที่หาเธอไม่เจอ ฉันคิดจะขอเธอแต่งงานหลังจากเครื่องเพชรทั้งหมดทำเสร็จแล้ว แต่พอมาเจอเธอวันนี้ก็เลยคิดว่าขอเธอแต่งงานวันนี้น่าจะดีกว่าเพราะฉันไม่อยากให้เธอหนีไปไหนอีกแล้ว”“คุณไม่รู้จริงๆ เหรอว่าฉันอยู่ที่นี่”“ไม่รู้เลย แม่ไม่เคยบอกอะไรฉัน ที่มาวันนี้ก็เพราะแม่ชวนมากินข้าวและฉันก็อยากจะเอาแหวนมาอวดแม่ด้วย”“จะให้ฉันแน่ใจได้ยังไงว่าคุณไม่หลอก ที่ผ่านมาคุณไม่เคยพูดหรือแสดงความรู้สึกอะไรกับฉันเลย”“ถ้าฉันจะหลอกเธอฉันจะกล้าขอเธอแต่งงานต่อหน้าแม่เหรอกรีน ถึงฉันไม่ใช่คนดีเต็มร้อย แต่ฉันก็คิดว่าฉันทำทุกอย่างก็เพราะฉันรักเธอนะ” เพราะมารดาไม่อยู่แล้วชายหนุ่มก็พูดคำว่ารักออกมา“รักฉันเหรอคะ”“ใช่สิถ้าไม่รักคงไม่ตามตื๊ออยู่แบบนี้หรอก”“ฉันว่าคุณอยากจะเอาชนะฉันมากกว่า”“ฉันไม่เคยคิดแบบนั้น ฉันแค่อยากอยู่กับเธออยากใช้ชีวิตกับเธอ”“ฉันไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่คุณพูดหรอกนะคุณวิคเตอร์ เราสองคนต่างกันมาก”“พ่อกับแม่ของฉันก็ต่างกันมากแต่ท่านก็อยู่ด้วยกันอย่างมีคว
เย็นวันนี้ลูกชายของคุณวัชรีจะมาทานอาหารเย็นที่บ้านกีรติกากับป้าบัวโรยและมะลิจึงช่วยกันทำอาหารตั้งแต่บ่ายเมื่ออาหารทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยกีรติกาก็ขอตัวไปอาบน้ำ ก่อนจะลงมาที่ห้องรับแขกอีกครั้งในเวลาเกือบจะหกโมงเย็นซึ่งเป็นเวลาทานอาหารของคุณวัชรีหญิงสาวเดินลงบันไดมาและเห็นว่าตอนนี้มีผู้ชายคนหนึ่งนั่งหันหน้าออกไปทางหน้าบ้านกีรติการณ์คิดว่าน่าจะเป็นลูกชายของคุณวัชรี แต่พอเดินอ้อมมาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่คือใคร“กรีนเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” วิคเตอร์ตกใจมากที่มาเจอหญิงสาวที่นี่“ฉันควรถามคุณมากกว่านะว่าคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงแล้วมาคุยอะไรกับคุณน้า”“เดี๋ยวใจเย็นๆ ก่อนทั้งสองคนเลยหนูกรีนมานั่งกับน้าตรงนี้”“ค่ะน้าหนิง” หญิงสาวเดินไปนั่งคู่กับเจ้าของบ้านแต่สายตาก็จ้องวิคเตอร์อย่างจ้องจับผิดเธอกลัวว่าชายหนุ่มจะมาพูดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาและก็กลัวว่าคุณวัชรีจะบอกวิคเตอร์เรื่องที่เธอกำลังตั้งครรภ์อยู่“หนูกับลูกชายน้ารู้จักกันมาก่อนเหรอ”“คนนี้ลูกชายน้าหนิงเหรอคะ”“ใช่จ้ะ น้าไม่รู้เลยว่าทั้งสองคนรู้จักกันมาก่อน”“น้าหนิงไม่รู้จริงๆ ใช่ไหมคะว่าหนูกับเขารู้จักกัน” หญิงสาวสา
วิคเตอร์เธอยังคงพยายามโทรศัพท์หากีรติกาอยู่ทุกวันแต่หญิงสาวก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์ของเขา เธอจะรับโทรศัพท์ของเขาก็ต่อเมื่อส่งงานมอบงานให้เขาแล้วเท่านั้นแล้ววันนี้ก็เป็นวันที่หญิงสาวทำงานทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเธอส่งไฟล์ให้เขาไม่ถึงห้านาทีชายหนูก็โทรศัพท์กลับมา“กรีนเธอใจร้ายกับฉันมากเลยนะ เราตกลงเป็นแฟนกันแล้วทำไมฉันโทรหาเธอตลอดทั้งสัปดาห์เธอไม่ยอมรับโทรศัพท์ฉันเลย แล้วฉันไปหาที่คอนโดเขาก็บอกว่าเธอไม่อยู่ที่นั่นเธอย้ายไปอยู่ที่ไหนทำไมไม่บอกฉัน เกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือเปล่าฉันเป็นห่วงเธอมากๆ นะ”“ใจเย็นค่ะคุณวิคเตอร์ถามอะไรมายาวแบบนั้นใครมันจะตอบคำถามคุณทันล่ะคะ” กีรติกาอดขำไม่ได้กับคำถามที่วิคเตอร์ถามรัวมา“ถ้างั้นเอาคำถามนี้ก่อนก็แล้วกัน ตอนนี้เธอทำอะไรอยู่ที่ไหน”“ฉันก็ออกแบบงานให้คุณไงคะ งานก็เสร็จแล้วเพิ่งส่งไปเมื่อกี้ ฉันคิดว่าที่คุณโทรหาฉันก็เพราะคุณได้รับงานของฉันแล้วนะคะ”“กรีนเราคงต้องคุยกันอย่างจริงจังนะ”“ก็นี่ไงคะจริงจัง”“ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องงานฉันหมายถึงเรื่องระหว่างเรา”“ระหว่างเรามันก็จบไปแล้วตั้งแต่วันที่ฉันออกมาจากเกาะค่ะและที่ฉันยังติดต่อคุณตอนนี้ก็เพราะเรื่องงานเท่านั้น
บ้านของคุณวัชรีหลังค่อนข้างใหญ่มีบริเวณบ้านกว้างขวางกีรติกาถูกพามาในห้องนอนห้องหนึ่งซึ่งอยู่คนละฝั่งกับห้องนอนของเจ้าของบ้านเพราะเธออยากให้กีรติกามีความเป็นส่วนบ้านหลังนี้มีคนขับรถหนึ่งคนและคนรับใช้อีกสองคนคนหนึ่งชื่อมะลิเป็นหญิงสาวอายุน่าจะประมาณสามสิบปีซึ่งเธอให้กีรติกาเรียกว่าพี่มะลิส่วนอีกคนหนึ่งเป็นมารดาของพี่มะลิชื่อป้าบัวโรยซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องการทำอาหารเช้านี้กีรติกาตื่นมาก็อาเจียนแต่เช้าแต่ก็พยายามฝืนตัวเองลงมาทานอาหารเพราะไม่อยากให้เจ้าของบ้านเป็นห่วงไปมากกว่านี้“หน้าซีดมากเลยเมื่อเช้าอาเจียนใช่ไหม ถ้าหนูลงมาไม่ไหวก็บอกได้นะ น้าจะให้มะลิเอาอาหารขึ้นไปให้บนห้อง”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะอยู่ในห้องมันอุดอู้หนูลงมาแบบนี้อากาศดีๆ เดี๋ยวก็ดีขึ้น”“เช้านี้ป้าทำแกงไตปลากับขนมจีนนะคะคุณกรีนทานได้ไหม”“ได้ค่ะของโปรดหนูเลย”“หนูกรีนชอบทานอาหารใต้เหมือนกันใช่ไหม”“ใช่ค่ะหนูว่ารสชาติมันจัดจ้านดี”“แต่หนูอย่าทานเยอะนะอาหารใต้มันเผ็ดมากๆ เดี๋ยวมันจะไม่ดีกับเด็กในท้อง ป้าทำต้มจืดกับผัดผักด้วยนะ แต่ป้าไม่ได้ใส่กระเทียมนะคะเพราะรู้ว่าคนท้องไม่ชอบกินกระเทียมเจียว”“ขอบคุณป้าบัวโรยมากนะคะ
วันนี้เป็นวันประชุมผู้ถือหุ้นกีรติกาแต่งตัวตั้งแต่เช้าเธอสวมสูทสีครีมกับกางเกงสีเดียวกันดูสุภาพกว่าวันปกติมาก เมื่อแต่งตัวเสร็จก็ลงมานั่งรอทนายความอยู่บริเวณชั้นล่างของคอนโดเพราะวันนี้ทนายความจะเป็นคนพาเธอไปแนะนำให้กับหุ้นส่วนใหญ่และพนักงานทุกคนได้รู้จักเมื่อไปถึงบริษัทเธอก็ทักทายพนักงานที่พอจะรู้จักกันบ้างจากนั้นก็เข้าไปนั่งรอในห้องประชุมไม่นานนะผู้หญิงดูท่าทางภูมิฐานคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องเธอแนะนำตัวเองว่าชื่อวัชรีเป็นนักธุรกิจชาวไทยที่ไปแต่งงานกับสามีชาวต่างชาติการประชุมในวันนี้ไม่ได้มีเรื่องอะไรมากมายคุณวัชรีอยากให้ทุกคนทำหน้าที่ไปอย่างเดิม ในส่วนของแผนการแผนงานทั้งหมดเธอจะส่งให้ผู้จัดการแต่ละแผนกนำไปปฏิบัติอีกทีหลังเสร็จจากการประชุมแล้วคุณวัชรีก็ขอคุยกับกีรติกาเป็นการส่วนตัวโดยทั้งสองมาคุยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัทมากนัก“คุณวัชรีชอบทานอาหารใต้เหรอคะ”“เราอยู่กันสองคนหนูเรียกฉันว่าน้าหนิงก็ได้”“แต่คุณเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เลยนะคะหนูไม่กล้าเรียกหรอกค่ะ”“ก็ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในบริษัทนะ น้าเคยมีลูกสาวพอเห็นหนูก็ทำให้รู้สึกคิดถึงลูกสาวมากๆ”“ลูกสาวคุณน้าเธอทำงา
เช้านี้กีรติกาตื่นนอนสายกว่าทุกวันหญิงสาวรู้สึกเวียนศีรษะเป็นอย่างมากพอลุกขึ้นได้ยังไม่ทันจะเดินไปไหนไกลก็วิ่งเข้าห้องน้ำ เพื่อโก่งคออาเจียนอยู่หลายครั้งเธอคิดว่าน่าจะเกิดจากอาหารเป็นพิษแต่พอนึกถึงเมนูที่รับประทานไปเมื่อวานก็นึกไม่ออกเลยว่าเมนูไหนที่จะทำให้เธอเกิดอาการแบบนี้หญิงสาวอาบน้ำแล้วคิดว่าถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นก็อาจจะไปให้หมอตรวจดูสักหน่อย แต่ขณะที่เปิดลิ้นชักจะหยิบชุดชั้นใน สายตาก็เหลือบไปเห็นถุงผ้าอนามัยที่อยู่ด้านในสุดซึ่งตนเองซื้อมาตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้วแต่ยังไม่ได้ถูกเปิดใช้งานเลยสักครั้งกีรติกาหน้าซีดเผือดเมื่อนึกย้อนไปตั้งแต่กลับมาจากอังกฤษเธอก็เป็นรอบเดือนแค่ครั้งเดียวและหลังจากที่กลับมาจากเกาะแล้วก็ไม่เป็นอีกเลยเธอคิดว่าตนเองไม่น่าจะท้องเพราะครั้งแรกที่มีอะไรกับวิคเตอร์ก็ทานยาคุมฉุกเฉินจากนั้นก็ทานยาคุมกำเนิดมาตลอดจะมีก็แค่ช่วงที่เธอไปอยู่บนเรือสำราญที่ไม่ได้ทานยาถึงสามวันติดแต่พอกลับมาเธอก็รีบทานยาให้ครบจำนวนแต่เมื่อนึกถึงคำพูดของเภสัชกรแล้วเธอก็รู้สึกตัวชาเพราะหากลืมกินยาติดต่อกันนานเกินสามวันโอกาสที่จะตั้งท้องก็มีอยู่มาก“คงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง” เธอพูดกับ