“ใครมันท้องแก่จะคลอดลูกวะ ก็ไม่มีนี่หว่า หรือจะเป็นนักท่องเที่ยว” เดโชก็เดาสุ่มเพราะไอ้เข้มไม่บอกให้ละเอียด
“ไม่ใช่ครับนายหัว”
“โอ๊ย! มึงจะถนอมปากถนอมคำไว้แลกทองหรือไงวะไอ้ห่าเข้ม! มีอะไรมึงก็พูดมาให้หมดสิวะ” เดโชเริ่มหงุดหงิด
“อีเปรี้ยวครับอีเปรี้ยว”
“ถ้าเรื่องอีนี่ มึงไม่ต้องบอก กูรู้ตั้งแต่ออกข่าววันแรก” ว่าแล้วเดโชก็หันหลังเดินหนี เบื่อที่ไอ้เข้มมันใช้สอยคำพูดอย่างประหยัด ถามยาวเหยียดตอบมาสั้นๆ กว่าจะรู้กันก็คงข้ามวัน ดีที่มันเป็นคนซื่อ เลี้ยงมันไว้ไม่เสียหายอะไร
“นายหัว!” เสียงของไอ้เข้มดังขึ้นเหมือนมันก็เริ่มจะเบื่อตัวเอง “อีเปรี้ยวน่ะควายผม มันจะออกลูก นายช่วยทำคลอดให้มันที” แล้วทุกอย่างก็หลุดจากปากไอ้เข้ม
บนเกาะปะการังมีความอุดมสมบูรณ์ขนาดมีแอ่งน้ำใหญ่ที่ใช้สำหรับทำนาข้าวได้ นาข้าวบนเกาะนี้เกือบ 50 ไร่ ก็เป็นของครอบครัวไอ้เข้ม เก็บเกี่ยวได้ก็นำมาขายให้นายหัวของมัน ไม่ต้องระเห็จไปขายให้โรงสีบนฝั่งแผ่นดินใหญ่ เพราะกิจการของนายหัวเดโชมีมากมาย รีสอร์ต 5 แห่งบนเกาะนี้เป็นของนายหัว ผู้คนบนเกาะก็นับหน้าถือตานายหัวเดโชประหนึ่งเจ้าพ่อของจังหวัดนี้
เขาเก่งทุกอย่าง ทำได้ทุกเรื่อง แต่ทำไม...ไอ้บ้าเข้มต้องเห็นเป็นหมอตำแยทำคลอดให้วัวควายของมันประจำ
“กูไม่ใช่หมอตำแย ไม่ใช่สัตวแพทย์”
“แต่นายหัวเก่งที่สุดบนเกาะนี้ นายหัวต้องทำได้” ไอ้เข้มยังยืนยันคำเดิม
“ไอ้เข้ม! กูเป็นนายหัว” เท้าใหญ่กระทืบพื้นดินอย่างยัวะ
“ครับผมรู้ แต่อีเปรี้ยวมันน่าจะยอมนายหัว”
“นี่มึงว่ากูเป็นผัวอีเปรี้ยวหรือไงไอ้เข้ม!!”
บาทาลอยมาแต่ไกล ดีนะคนซื่ออย่างไอ้เข้มหลบทันไม่งั้นมีหวังปากแตก
“ไม่ใช่ๆ ใครจะกล้าคิดอย่างนั้น ผมหมายถึง...นายหัวต้องดึงลูกออกจากท้องอีเปรี้ยวได้แน่ๆ เพราะมันเชื่องกับนายหัวครับ”
เดโชพ่นลมหายใจอย่างแรง ไอ้เข้มมันพูดถูก ที่จริงมันพูดไม่เคลียร์ และเขาก็กวนประสาทมันเอง แต่เห็นหน้าซื่อๆ ของมันแล้วก็อดไม่ได้ สุดท้ายเดโชก็เลยไปทำคลอดให้อีเปรี้ยว นอกจากจะเป็นนายหัวแห่งเกาะปะการังแล้วยังควบตำแหน่งสัตวแพทย์ของเกาะนี้อีกด้วย เก่งจริงๆ มึง...ไอ้เดย์
หลังจากทำเป็นหมอตำแยจำเป็นเสร็จเรียบร้อย เดโชก็ออกมายืนมองน้ำทะเลสีสวยๆ อีกฟากหนึ่งของเกาะ ชายหาดฟากนี้จัดเป็นหาดส่วนตัวของเดโช เขามักจะใช้เวลาอยู่ที่นี่ตามลำพังเวลาต้องการพักผ่อน ร่างสูงเหยียดตัวขึ้นก่อนจะถอดเสื้อถอดกางเกงเหลือไว้เพียงกางเกงว่ายน้ำที่มักจะใส่แทนกางเกงชั้นในเป็นประจำด้วยความที่ชอบว่ายน้ำ
กายแกร่งกำยำก้าวลงทะเล ครู่เดียวก็แหวกว่ายอยู่ในสายน้ำอย่างเพลิดเพลิน เป็นช่วงเวลาที่ได้ปลดปล่อยความเครียดที่มักจะเข้ามามีบทบาทในสมองร่ำไป
มายาวดีมองเกาะปะการังอย่างตื่นตาตื่นใจ เธอคิดว่าเป็นเกาะเล็กๆ แต่ภาพที่เห็นเกาะตรงหน้านั้นใหญ่มากเลยทีเดียว ที่สำคัญบนเกาะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากๆ มายมานอนอาบแดดหน้าหาดใกล้ๆ กับท่าเรือเล็กๆ
“สวยล่ะสิ มองตาค้างเลย” ประกายแก้วกระเซ้าเย้าแหย่เพื่อน
“สวย สวยมาก”
“บนเกาะนั่นก็มีคนหล่อมากๆ อยู่ด้วยนะ”
มายาวดีถอนใจ รู้ดีว่าเพื่อนรักหมายถึงใคร
“เธอยังไม่เลิกจับคู่ฉันกับพ่อเธออีกเหรอ เขาคงไม่สนใจเด็กๆ อย่างเราหรอก นี่รุ่นลูกเลยนะ”
“พ่อฉันทำแม่ท้องตั้งแต่อายุ 19 ตอนนี้อายุแค่ 40 ยังหนุ่มยังแน่น ถ้าเห็นแล้วเธอจะเชื่อ ฉันไม่ได้โกหก” ประกายแก้วหัวเราะคิกคัก แล้วหันไปจับมือคนรักเดินนำหน้าเพื่อนขึ้นเกาะ
มือที่ประสานกันอยู่นั้นเตือนมายาวดีถึงสาเหตุของการมาที่นี่ เธอมาเพื่อเป็นไม้กันหมา เอ๊ย! มาเพื่อให้พ่อยอมรับในตัวลูกเขย แล้วมันเกี่ยวอะไรด้วยเธอก็ยังงงๆ พ่อประกายแก้วจะมาเชื่ออะไรกับคำพูดของเธอ ไม่ใช่ญาติผู้ใหญ่ของเขาสักหน่อย ทว่ามายาวดีมาแล้วก็ต้องทำให้เพื่อนประสบความสำเร็จได้แต่งงานอยู่กินกับคนรักสมปรารถนา
“คุณหนู! คุณหนูกึ้งมาแล้ว!!!” ป้าลำเจียกที่อยู่ใกล้ชิดกับนายหัวมานานเห็นประกายแก้วกลับมาก็ดีใจ วิ่งเข้าใส่แต่ยั้งฝีเท้าไว้ได้ทันก่อนจะทำคุณหนูหงายท้อง
“ป้าเจียก คิดถึงจังเลย” ประกายแก้วกอดป้าลำเจียก ได้กอดแล้วก็คิดถึงทุกๆ คนที่อยู่บนเกาะนี้
“พวกเราคิดถึงคุณหนูมาก”
“แต่คงไม่ใช่พ่อ เพราะพ่อไม่เคยไปหากึ้งเลย ได้แต่โทร.ถามตลอด” เธอบอกคล้ายจะน้อยใจ ซึ่งจริงๆ แล้วประกายแก้วไม่รู้สึกแบบนั้น เธอรู้จักพ่อของตนดีที่สุด เขาจะไม่ค่อยแสดงออกว่ารักหรือห่วงแค่ไหน พ่อเข้มแข็งมากเป็นซุปเปอร์แมนของเธอและของทุกคนบนเกาะ
“คุณหนูอย่าน้อยใจ นายหัวก็เป็นแบบนี้ ไปค่ะไป ไปหานายหัวกัน ไอ้เฒ่า!” ป้าลำเจียกตะโกนเรียกผัวตัวเองสุดเสียง “เอารถออกไปหานายหัวเร็ว” สำเนียงทองแดงชัดเจน ประกายแก้วฟังไปยิ้มไป
เมื่อรถกระบะของลุงหยวนหรือไอ้เฒ่าของป้าลำเจียกมาถึงชายหาดอีกฟากหนึ่งของเกาะ มายาวดีก็แทบจะอ้าปากค้างเมื่อเห็นหาดทรายสีขาวสว่างมาก ราวกับมีออร่อลอยขึ้นมาจากเม็ดทราย
พระเจ้า!!
พอลงจากรถได้เธอก็เดินลิ่วไปหาเม็ดทรายเหมือนถูกมนตร์สะกด มายาวดีนั่งยองๆ กอบทรายสีขาวละเอียดขึ้นมา มันนุ่มมาก ขาวสะอาดเงยหน้ามองไปทางไหนก็ไม่เห็นแม้แต่เศษขยะสักชิ้น
แต่เอ๊ะ!!
นั่น...มีคนกำลังเล่นน้ำอยู่ด้วย
“นายหัวลงไปว่ายน้ำเล่นหลังจากทำคลอดให้อีเปรี้ยวเสร็จ คุณหนูรอนายหัวอยู่ตรงนี้นะคะ ใต้ร่มไม้ นั่งมองทะเลสวยๆ ไปก่อน”
“ค่ะป้าเจียก” ประกายแก้วรับคำแล้วจุ๊บแก้มป้าเจียกให้สมกับความคิดถึง แล้วก็โบกไม้โบกมือให้คนในน้ำทะเลต่อ
“พ่อ!!! พ่อขึ้นมาได้แล้ว!!! กึ้งกลับมาหาพ่อแล้ว!!!” ยกมือป้องปากตะโกนสุดเสียงเรียกคนที่อยู่ในทะเล
ธนนท์ชัยลุกขึ้นสวมกางเกง “ถ้าคุณพูดแบบนี้ก็แสดงว่านี่คือแผนของคุณสินะ” “ไม่ใช่หรอกค่ะ ฉันไม่ได้วางแผนเพื่อฮุบสมบัติด้วยการฟ้องร้องผัวตัวเอง แต่ฉันวางแผนก็เพื่ออยากรู้คนอย่างคุณเป็นฤาษีจริงๆ หรือเปล่า” “ทำแล้วจะได้อะไร” “ได้รู้ไงคะ รู้ว่าคุณชอบหรือไม่ชอบอะไร” “คุณภา ผมรู้ว่าผมทำผิด แต่คุณก็ใช่ว่าจะไม่ทำผิด” “ฉันไม่เคยบอกว่าไม่ทำผิดนี่คะ ฉันก็เอากับเด็กหนุ่มสบายใจเฉิบ คุณไม่ต้องทำหน้าตกใจหรอกค่ะคุณนน ฉันทำก็เพื่อจะได้หมดห่วง” “หมดห่วง?” “ฉันกลัวว่าคุณอยู่คนเดียวแล้วจะเป็นบ้า คุณไม่แตะต้องฉันมานานมากจนฉันคิดว่าคุณเป็นเกย์” “ผมนี่นะจะเป็นเกย์” “ฉันรู้แล้วว่าคุณไม่ได้เป็น และยังห่างไกลคนพวกนั้นอีกเยอะ นี่พอเห็นภาพจากกล้องวงจรปิด ฉันก็เลยหมดห่วง ต่อจากนี้ไปเราต่างคนต่างอยู่นะคะ” “หมายความว่าอะไร” “เราหย่ากันเถอะค่ะ ที่ว่าจะไม่ฟ้องร้อง เพราะฉันจะขอหย่าขาดจากคุณเอง ง่ายๆ ไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล” ดวงใจมองคนทั้งคู่สลับกันไปมา เกิดอะไรขึ้นกับเร
“ไหนเธอบอกจะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย” “ค่ะ แต่ดวงติดใจลิ้นสว่านของคุณผู้ชายนี่คะ” ไม่มีทางทางเหนียมอายใดๆ นอกจากแก้มสาวจะเข้มขึ้นนิดหน่อย “อยากอยู่ที่นี่ต่อเหรอ” “ไม่ค่ะ ดวงอยากเป็นบ้านเล็กของคุณผู้ชาย” เออแหน่ะ เธอก็กล้าพูดกล้าขอกันตรงๆ แล้วเขาจะไม่กล้าให้ได้อย่างไร “เคยมีคนขอแบบนี้ แต่ฉันไม่ให้” “แล้วดวงขอ คุณผู้ชายจะให้ดวงได้หรือเปล่าคะ” ธนนท์ชัยนิ่งไป ดวงใจสอดมือเข้าไปใต้หว่างขากอบกุมท่อนเนื้อลำยักษ์ สีหน้าของธนนท์ชัยเริ่มเปลี่ยน “ตกลง ฉันจะผูกปิ่นโตกับเธอ แต่เธอต้องอยู่ในที่ที่ควรอยู่ ถึงอย่างไรเธอกับภาริณีก็ไม่เหมือนกัน เข้าใจใช่มั้ย” ดวงใจยิ้มกว้างออกมาจนได้ “ได้ค่ะ ดวงอยากเรียนให้จบปริญญาตรี พอเรียนจบดวงขอทำงานนะคะ” “นี่เธอจะขอมากไปหรือเปล่า” ธนนท์ชัยหัวเราะ “ดวงไม่คิดจะเกาะคุณผู้ชายกินอย่างเดียวนี่คะ ถ้าวันใดคุณผู้ชายเบื่ออยากทิ้งดวงก็ทิ้งได้เลย ดวงเข้าใจ แต่ถึงวันนั้นดวงต้องมีอาชีพหาเลี้ยงตัวเองกับแม่ได้” “เธอนี่...น่ารักจร
“ดูเหมือนว่าคุณผู้ชายจะร้อนจนหอบ ดวงว่าน้ำอุ่นๆ ในอ่างคงไม่จำเป็นแล้ว แบบนี้ต้องใช้น้ำเย็นๆ จากฝักบัวดับร้อนค่ะ” ว่าแล้วเธอก็ลุกขึ้นเปิดน้ำล้างหน้าจนเกลี้ยง แล้วถอยออกมาจากห้องน้ำ “ดวงขอลงไปทำอาหารรอคุณผู้ชายก่อนนะคะ” ธนนท์ชัยมองตามตาปรอย บ้าฉิบ!! ดวงใจทำอะไรกับเขากันนี่ แม่นั่นปลุกปั่นเขาจนเสร็จแล้วถอยห่างอย่างง่ายดายแบบนี้นี่นะ เขาสบถเหมือนคนบ้าอยู่ในห้องน้ำ อารมณ์พลุ่งพล่านจนปลายจมูกร้อนฉ่า ร่างหนาเข้าไปอยู่ในสายน้ำที่แม่ตัวดีเปิดทิ้งไว้ให้ กว่าอารมณ์จะสงบร่างหนาก็แทบเปื่อยย่น เมื่อจัดการกับตัวเองเสร็จเรียบร้อย ธนนท์ชัยตรงเข้าครัวแล้วปลายเท้าก็ชะงักอยู่แค่หน้าห้องครัว เมื่อเห็นสภาพของสาวใช้เต็มตา “อาบน้ำเสร็จแล้วหรือคะคุณผู้ชาย” ดวงใจหันมาถามเสียงใส แต่ธนนท์ชัยไม่ได้ตอบ เขามัวแต่มองร่างบั้นท้ายเปลือยเปล่า แผ่นหลังนวลเนียน ต้นขาค่อนข้างอวบ เบื้องหน้านั้นมีผ้ากันเปื้อนปิดบัง แต่พอเธอยกแขนขึ้นก็มองใต้วงแขนเห็นทรวงอกกลมเป็นกระเปาะ แม้มันจะมีขนาดเล็กไม่อวบใหญ่ แต่ก็ได้รูปน่าขย้ำ
“นวดกระปู๋เป็นไหม” สาวใช้วัย 25 ทำตาโต เขาไม่รู้ว่านั่นคือการเสแสร้งหรือเป็นไปโดยอัตโนมัติ กระนั้นมือของเธอก็ยังสัมผัสท่อนเอ็นลำใหญ่ ที่แท้สิ่งที่เขาเจอมาตลอดก็คือการยั่วยวนนี่เอง ดวงใจไม่ใช่สาวน้อยวัยแรกแย้ม เธอก็บอกอยู่ตลอด แล้วจะไปคิดว่าเธอคือสาวแรกรุ่นดรุณีได้อย่างไร “ชอบมือของดวงไหมคะ” ธนนท์ชัยกดหน้าลงมองมือน้อยที่กอบกุมท่อนเนื้อแล้วรูดขึ้นรูดลง จากธนนท์ชัยน้อยก็กลายเป็นมังกรยักษ์ในอุ้งมือเล็กๆ “ชอบสิ ทำต่อเถอะ” มือบางกำรูดลำชายหนักเบาสลับกัน เธอทำมันอย่างนั้นเป็นจังหวะ มือน้อยให้ความอบอุ่นแก่ลำชายขนาดที่มันยังแข็งกร้าว ภาริณีไม่ได้แตะต้องสัมผัสสิ่งที่เป็นของเธอโดยชอบธรรมมานานมากแล้ว เขาเองก็ไม่คิดอยากแตะต้องเธอเหมือนกัน ผู้หญิงที่อยู่บ้านไม่ติด ดีแต่ออกไปแรดๆ หาผู้ชายนอกบ้าน เห็นผัวตัวเองเป็นของตาย คนอย่างนั้นเขาไม่อยากเก็บมาใส่ใจ แต่ก็อดเปรียบเทียบกับดวงใจไม่ได้ “อืมม์...ดีจัง เธอเคยทำเหรอ” “ถ้าจะบอกว่าดวงยังซิงก็คงเป็นการโกหก เรื่องแบบนี้ดวงเคยผ่านมาบ้างแล้ว
ธนนท์ชัยเลิกคิ้วขึ้นอย่างเริ่มรู้สึกแปลกๆ การเอาใจใส่เกินหน้าที่ของดวงใจทำให้เขาไพล่คิดไปถึงภาริณี นานแค่ไหนแล้วที่ภาริณีไม่เคยเอาใจใส่เขาแบบนี้ นานมาก นานนับสิบปี นานเสียจนลืมไปว่าอดีตเคยหวานชื่นเพียงใด ผ้าเย็นถูกยื่นมาให้ตรงหน้า ไม่ใช่ผ้าเย็นที่ซื้อจากร้าน 7-11 แต่เป็นผ้าขนหนูผืนเล็กถูกยัดใส่ถุงแล้วแช่ในช่องฟรี๊ซ ธนนท์ชัยมองหน้าดวงใจ เธอเองก็มองมาอยู่เหมือนกัน ดวงตาสองคู่สบกันก่อนที่เขาจะจำได้ว่า เมื่อช่วงสายก่อนไปทำงานได้เห็นดวงใจปีนขึ้นไปแอบมองบ้านข้างๆ “เรื่องเมื่อเช้า ฉันยังไม่ลืมนะดวงใจ” ดวงใจเบิกตากว้างขึ้นคล้ายตระหนก ก่อนจะบิดชายเสื้อตัวเองอย่างขัดเขิน “คุณผู้ชายจะให้ดวงใจทำอะไรคะ” “ก็ไม่อยากแกล้งหรอกนะ แต่ถ้าไม่สั่งสอนเธอบ้าง ประเดี๋ยวเธอก็ไปเที่ยวแอบมองชาวบ้านอีก” เธอซ่อนประกายตาเอาไว้แต่แพขนตา คำพูดของคุณผู้ชายกำลังทำให้เธอหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก “คุณผู้ชายจะลงโทษดวงยังไงหรือคะ” ธนนท์ชัยกระตุกมุมปากขึ้นยิ้มเมื่อนึกวิธีการสั่งสอนดวงใจให้สนุกที่ส
ให้ตายเถอะ! ร่างกายของเขาไม่ว่าจะส่วนแข็งกระด้างหรือนุ่มนิ่มก็เขย่าความรู้สึกของเธอได้อย่างดี ดวงใจอ้าปากกว้างครอบครองความเป็นชายจนปากตุง โอว...มันใหญ่จนคับปากเธอไปหมด ปลายลิ้นก็แล่บเลียไปทั่วอย่างเอร็ดอร่อย จนน้ำลายเปียกชุ่มไปทั่วริมฝีปาก “อ๊ะ...อูว์...เสียวชะมัด” เสียงแหลมเล็กอุทานดัง ดวงใจลืมตามองเห็นหญิงสาวกำลังคุกเข่าท่าหมา แล้วท่อนเนื้อกำลังขยับเข้าออกจากร่องเสียว ซี้ดดด...เธอเสียวร่องเหลือเกิน ฝ่ายปรมัยก็ขยับโยกคลึงลำชายอย่างเพลิดเพลิน บั้นท้ายดินระเบิดกระเพื่อมไหวยามโยกโยนตัวตนอย่างรุนแรง แสงดาวสะท้านเป็นระลอกคลื่นจนเจ็บหัวเข่า แต่เธอก็ยังไม่ยอมแพ้ กระเด้งบั้นท้ายยั่วยวนเป็นจังหวะ ทั้งคู่มัวเมาอยู่ในวังวนกามา ส่งเสียงแห่งความสุขอย่างไม่รู้ว่ามีใครบางคนแอบมองและจินตนาการเป็นตนเอง ทั้งคู่มีสุข สาวใช้ข้างบ้านก็มีความสุขไปด้วย จวบจนปรมัยเสร็จสมอารมณ์หมาย เขาก็อุ้มแสงดาวเข้าบ้าน ดวงใจก็ปีนบันไดลงมา “ตาเถร!!! คุณผู้ชาย!!!” “เธอทำอะไรน่ะดวงใจ” ธนนท์ชัยแอ