คนเป็นพ่อได้ยินก็เดินขึ้นจากน้ำ และนั่นก็ทำให้มายาวดีถึงกับตาค้างเมื่อร่างนั้นเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“นั่นพ่อเธอจริงๆ หรือกึ้ง” สะกิดคนข้างๆ ถามให้แน่ใจ เพราะคนที่เห็นนั้นห่างไกลคำว่าพ่อหลายขุม
“ใช่ นี่แหละพ่อฉัน เป็นไง ตาค้างเลยล่ะสิ” ประกายแก้วหัวเราะคิก
"ใช่...ตาค้างเลยล่ะ"
สายตาของเธอกวาดมองไปทั่วร่างสูงตระหง่านที่เดินขึ้นมาจากน้ำทะเล ใบหน้านั้นหล่อเหลาคมเข้ม แผงอกกว้างแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ ผิวกายสีทองแดง ต่ำลงมายังกางเกงว่ายน้ำสีดำที่ห่อหุ้มลำชายตุงๆ โอยยย เคยเห็นแต่ในทีวี เป้าตุงๆ เหมือนห่อหมก ของจริงมันยิ่งกว่าห่อหมกเสียอีกนะ
“ยะหยา ฟังฉันอยู่หรือเปล่า"
ประกายแก้วแกล้งสะกิดเพื่อนทั้งที่เห็นสายตาเพื่อนจับจ้องไปยังพ่อสุดหล่อของตนไม่วางตา ไม่แปลกใจเพราะใครๆ ที่เห็นนายหัวเดโชก็มักมีอาการแบบนี้ ยิ่งเป็นเพื่อนรักของเธอด้วยแล้วล่ะก็ สงสัยความฝันไม่ไกลเกินเอื้อม
เดโชพาหุ่นนายแบบที่พกห่อหมกยักษ์ติดตัวมาแต่เกิดหยุดอยู่ตรงลูกสาวแท้ๆ ที่อายุอ่อนกว่าเขาเพียง 19 ปีเศษ แล้วสายตาก็สะดุดอยู่ตรงสาวน้อยหน้าหวานเจ้าของดวงตากลมโต แพขนตางอนยาว เครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋ม ผิวขาวอมชมพูเหมือนคนภาคเหนือ เกิดความพึงพอใจกับสาวงามตรงหน้าลึกๆ แต่ยังวางตัวละสายตาไปหาลูกสาวของเขา
“สวัสดีค่ะพ่อ กึ้งคิดถึงพ่อที่สุดเลย” ประกายแก้วกอดบิดาบังเกิดเกล้าด้วยความรักและเคารพ
“คิดถึงแต่เพิ่งจะกลับมา แถมยังพาเพื่อนมาด้วย”
“หือ...ทีพ่อยังไม่ไปหากึ้งได้เลย”
“ไม่ได้ไป ก็ใช่ว่าจะไม่สนใจ กลับมาก็ดีแล้วจะได้ช่วยพ่อทำงานบ้าง ไม่ใช่เอาแต่เที่ยวตะลอนๆ เหมือนเจ้าไม่มีศาล”
“พ่อน่ะ ไม่เคยเลยสักครั้งจะบอกว่าคิดถึงกึ้ง เป็นห่วงกึ้ง” ประกายแก้วกระเง้ากระงอดผละห่าง
เดโชมองบุตรสาวด้วยแววตาคมกริบจริงจัง
“พ่อยังมีเวลาเป็นห่วงเราอีกทั้งชีวิต แต่เรานั่นล่ะ ที่อยากออกห่างจากพ่อเหลือเกิน”
นายหัวหนุ่มรูปงามมองเลยไปยังชายหนุ่มที่ยืนเงียบอยู่หลังประกายแก้ว แววตาคู่นั้นจริงจังขึ้นกว่าเดิม เข้มจัดและกรุ่นไปด้วยความไม่พอใจ
“แล้วนี่ใคร” ราวกับเป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ แค่เพียงเห็นหน้าไอ้หนุ่มหน้าละอ่อน เดโชก็กำหมัดแน่น
“เอ่อ...คือ...” ประกายแก้วอ้ำอึ้งไม่กล้าบอกความจริงกับพ่อ
“ไอ้นี่มันเป็นใคร” ถามลูกสาวเสียงเข้มจนเกือบเป็นตวาด และประกายแก้วก็สะดุ้งโหยงพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
“คือ...”
“กูถามว่ามึงเป็นใคร ตอบ!!” นายหัวเดโชทนไม่ไหวตะคอกเสียงกร้าว
“ผมชื่อวงศกรครับ เป็นแฟนกับกึ้งครับ” วงศกรยังกลัวลนลานไม่ต่างจากท่าทีของแฟนสาว ก็ท่าทางเอาเรื่องของคนตรงหน้า น่ากลัวใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่ สีหน้านั้นบ่งบอกว่าไม่ใครก็ใครต้องตายกันไปข้าง และคนตรงหน้าคงไม่ยอมตายแน่นอน คนที่จะตายก็คงเป็นเขานั่นเอง
“แฟน?”
“ใช่ค่ะ พี่ว่านเป็นแฟนกึ้ง ทำงานเป็นวิศวกรในองค์กรใหญ่แห่งหนึ่งค่ะ พี่ว่านรักกึ้งมากนะคะ ไม่เคยทำให้กึ้งเสียใจเลยสักครั้ง”
ประกายแก้วอธิบายความเป็นวงศกรให้พ่อฟังแล้วถอนใจเฮือก ทว่าพ่อของเธอกลับเงียบกริบจนน่าประหลาดใจ
“พ่อคะ” เธอเรียก
“คบกันมานานเท่าไหร่” นานทีเดียวกว่าเดโชจะถามประโยคนี้ “ฉันต้องการรู้จากปากนาย ไม่ใช่กึ้ง”
แม้จะเป็นถ้อยคำที่คล้ายจะเย็นลงอยู่ในที แต่ประกายแก้วไม่ยักจะสบายใจเลยที่ได้ยิน เธอหันไปมองวงศกรแฟนหนุ่ม
“ปีกว่าๆ ครับ” วงศกรตอบ
“คือ...พี่ว่านจะมาขอขมาพ่อค่ะ” แล้วประกายแก้วก็ตัดสินใจบอกไป
“ขอขมา? นี่แกท้องรึไงยัยกึ้ง!”
“ค่ะ กึ้งท้อง”
มายาวดีมองเพื่อนที แฟนเพื่อนที และหยุดลงที่พ่อของเพื่อน ท่าทางของเขาพร้อมจะล้มทุกคนให้คว่ำ และถ้าทำขึ้นมาจริงๆ เธออดสงสารเพื่อนไม่ได้แน่ๆ
“ท้องรึ?” เหมือนทุกสรรพสิ่งจะเงียบลงในทันทีทันใด และแม้แต่ลมหายใจของมายาวดีก็ยังไม่หลุดจากปลายจมูก
ช่างเป็นคำถามที่เปล่งมาจากน้ำเสียงชวนประหวั่นพรั่นพรึงเสียนี่กระไร
“ครับ ผมจะขอขมาและขอรับผิดชอบกึ้งกับลูกที่อยู่ในท้องกึ้งครับ” วงศกรพูดจบเข่าก็เหมือนจะอ่อนลงจนทรุดฮวบ เขาคุกเข่าเพื่อขอขมาพ่อแท้ๆ ของคนรัก และหวังจะให้เขาเข้าใจยอมรับลูกเขยคนนี้
แต่...
“ผลัวะ!!!” ก้านคอของวงศกรถูกเตะ ร่างของเขาล้มคว่ำไปกองรวมกับเม็ดทราย
“กรี๊ดดดด พี่ว่าน!!!” ประกายแก้วกรีดร้องตาลีตะเหลือกเข้าไปประคองคนรักของเธอ วงศกรถึงขั้นสลบ และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกโกรธพ่อตัวเองขึ้นมา
“พ่อเตะพี่ว่านทำไม พ่อจะพูดดีๆ ไม่เป็นรึไง ทำไมต้องใช้ความรุนแรงด้วย”
“แกถามฉัน? แล้วแกไปนอนแผ่ให้มันเอาทำไมไม่ถามความเห็นจากฉันก่อน”
“แต่นี่มันชีวิตกึ้งนะพ่อ อนาคตของกึ้ง มันน่าจะถูกกำหนดด้วยตัวกึ้งเองหรือเปล่า”
“แต่ฉันเป็นพ่อแก”
“พ่อที่ทำพลาดจนมีกึ้งออกมานี่นะ”
“ใช่ และฉันก็เลี้ยงดูแกตั้งแต่เกิดด้วยความรับผิดชอบ”
“ใช่ไง พ่อแค่รับผิดชอบกึ้ง แต่ไม่เคยรักกึ้งเลย เพราะถ้ารักพ่อจะไม่ทำแบบนี้”
“แกรู้ได้ไงว่าฉันไม่รัก ถ้าไม่รักแล้วจะส่งคนให้ไปเฝ้าดูแกทุกเมื่อเชื่อวันแบบนี้เหรอ แกคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องที่แกอยู่กินกับผู้ชายหรือไง แต่ที่ฉันไม่แสดงตัวเพราะฉันจะดูว่าแกจะเอาตัวรอดได้ไหม แกคบกับมันแค่ปีเดียวก็ปล่อยให้ตัวเองท้อง แกคิดว่าพ่ออย่างฉันควรดีใจไหมที่ลูกในอก เลือดเนื้อเชื้อไขที่ฉันรักถูกคนอื่นแย่งไป ฉันเงียบเพราะเห็นแกมีความสุข และรอว่าเมื่อไหร่ไอ้ห่านี่มันจะพาแกกลับมาแต่งงาน จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มา กระทั่งแกต้องพามันมาขอขมาฉันเอง แบบนี้จะให้ฉันต้องกราบมันมั้ย”
“เรารักกัน พี่ว่านรักกึ้ง” ประกายแก้วร่ำไห้กอดวงศกรแนบแน่นด้วยความเสียใจ เป็นห่วงคนรักสุดหัวใจ
ธนนท์ชัยลุกขึ้นสวมกางเกง “ถ้าคุณพูดแบบนี้ก็แสดงว่านี่คือแผนของคุณสินะ” “ไม่ใช่หรอกค่ะ ฉันไม่ได้วางแผนเพื่อฮุบสมบัติด้วยการฟ้องร้องผัวตัวเอง แต่ฉันวางแผนก็เพื่ออยากรู้คนอย่างคุณเป็นฤาษีจริงๆ หรือเปล่า” “ทำแล้วจะได้อะไร” “ได้รู้ไงคะ รู้ว่าคุณชอบหรือไม่ชอบอะไร” “คุณภา ผมรู้ว่าผมทำผิด แต่คุณก็ใช่ว่าจะไม่ทำผิด” “ฉันไม่เคยบอกว่าไม่ทำผิดนี่คะ ฉันก็เอากับเด็กหนุ่มสบายใจเฉิบ คุณไม่ต้องทำหน้าตกใจหรอกค่ะคุณนน ฉันทำก็เพื่อจะได้หมดห่วง” “หมดห่วง?” “ฉันกลัวว่าคุณอยู่คนเดียวแล้วจะเป็นบ้า คุณไม่แตะต้องฉันมานานมากจนฉันคิดว่าคุณเป็นเกย์” “ผมนี่นะจะเป็นเกย์” “ฉันรู้แล้วว่าคุณไม่ได้เป็น และยังห่างไกลคนพวกนั้นอีกเยอะ นี่พอเห็นภาพจากกล้องวงจรปิด ฉันก็เลยหมดห่วง ต่อจากนี้ไปเราต่างคนต่างอยู่นะคะ” “หมายความว่าอะไร” “เราหย่ากันเถอะค่ะ ที่ว่าจะไม่ฟ้องร้อง เพราะฉันจะขอหย่าขาดจากคุณเอง ง่ายๆ ไม่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล” ดวงใจมองคนทั้งคู่สลับกันไปมา เกิดอะไรขึ้นกับเร
“ไหนเธอบอกจะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย” “ค่ะ แต่ดวงติดใจลิ้นสว่านของคุณผู้ชายนี่คะ” ไม่มีทางทางเหนียมอายใดๆ นอกจากแก้มสาวจะเข้มขึ้นนิดหน่อย “อยากอยู่ที่นี่ต่อเหรอ” “ไม่ค่ะ ดวงอยากเป็นบ้านเล็กของคุณผู้ชาย” เออแหน่ะ เธอก็กล้าพูดกล้าขอกันตรงๆ แล้วเขาจะไม่กล้าให้ได้อย่างไร “เคยมีคนขอแบบนี้ แต่ฉันไม่ให้” “แล้วดวงขอ คุณผู้ชายจะให้ดวงได้หรือเปล่าคะ” ธนนท์ชัยนิ่งไป ดวงใจสอดมือเข้าไปใต้หว่างขากอบกุมท่อนเนื้อลำยักษ์ สีหน้าของธนนท์ชัยเริ่มเปลี่ยน “ตกลง ฉันจะผูกปิ่นโตกับเธอ แต่เธอต้องอยู่ในที่ที่ควรอยู่ ถึงอย่างไรเธอกับภาริณีก็ไม่เหมือนกัน เข้าใจใช่มั้ย” ดวงใจยิ้มกว้างออกมาจนได้ “ได้ค่ะ ดวงอยากเรียนให้จบปริญญาตรี พอเรียนจบดวงขอทำงานนะคะ” “นี่เธอจะขอมากไปหรือเปล่า” ธนนท์ชัยหัวเราะ “ดวงไม่คิดจะเกาะคุณผู้ชายกินอย่างเดียวนี่คะ ถ้าวันใดคุณผู้ชายเบื่ออยากทิ้งดวงก็ทิ้งได้เลย ดวงเข้าใจ แต่ถึงวันนั้นดวงต้องมีอาชีพหาเลี้ยงตัวเองกับแม่ได้” “เธอนี่...น่ารักจร
“ดูเหมือนว่าคุณผู้ชายจะร้อนจนหอบ ดวงว่าน้ำอุ่นๆ ในอ่างคงไม่จำเป็นแล้ว แบบนี้ต้องใช้น้ำเย็นๆ จากฝักบัวดับร้อนค่ะ” ว่าแล้วเธอก็ลุกขึ้นเปิดน้ำล้างหน้าจนเกลี้ยง แล้วถอยออกมาจากห้องน้ำ “ดวงขอลงไปทำอาหารรอคุณผู้ชายก่อนนะคะ” ธนนท์ชัยมองตามตาปรอย บ้าฉิบ!! ดวงใจทำอะไรกับเขากันนี่ แม่นั่นปลุกปั่นเขาจนเสร็จแล้วถอยห่างอย่างง่ายดายแบบนี้นี่นะ เขาสบถเหมือนคนบ้าอยู่ในห้องน้ำ อารมณ์พลุ่งพล่านจนปลายจมูกร้อนฉ่า ร่างหนาเข้าไปอยู่ในสายน้ำที่แม่ตัวดีเปิดทิ้งไว้ให้ กว่าอารมณ์จะสงบร่างหนาก็แทบเปื่อยย่น เมื่อจัดการกับตัวเองเสร็จเรียบร้อย ธนนท์ชัยตรงเข้าครัวแล้วปลายเท้าก็ชะงักอยู่แค่หน้าห้องครัว เมื่อเห็นสภาพของสาวใช้เต็มตา “อาบน้ำเสร็จแล้วหรือคะคุณผู้ชาย” ดวงใจหันมาถามเสียงใส แต่ธนนท์ชัยไม่ได้ตอบ เขามัวแต่มองร่างบั้นท้ายเปลือยเปล่า แผ่นหลังนวลเนียน ต้นขาค่อนข้างอวบ เบื้องหน้านั้นมีผ้ากันเปื้อนปิดบัง แต่พอเธอยกแขนขึ้นก็มองใต้วงแขนเห็นทรวงอกกลมเป็นกระเปาะ แม้มันจะมีขนาดเล็กไม่อวบใหญ่ แต่ก็ได้รูปน่าขย้ำ
“นวดกระปู๋เป็นไหม” สาวใช้วัย 25 ทำตาโต เขาไม่รู้ว่านั่นคือการเสแสร้งหรือเป็นไปโดยอัตโนมัติ กระนั้นมือของเธอก็ยังสัมผัสท่อนเอ็นลำใหญ่ ที่แท้สิ่งที่เขาเจอมาตลอดก็คือการยั่วยวนนี่เอง ดวงใจไม่ใช่สาวน้อยวัยแรกแย้ม เธอก็บอกอยู่ตลอด แล้วจะไปคิดว่าเธอคือสาวแรกรุ่นดรุณีได้อย่างไร “ชอบมือของดวงไหมคะ” ธนนท์ชัยกดหน้าลงมองมือน้อยที่กอบกุมท่อนเนื้อแล้วรูดขึ้นรูดลง จากธนนท์ชัยน้อยก็กลายเป็นมังกรยักษ์ในอุ้งมือเล็กๆ “ชอบสิ ทำต่อเถอะ” มือบางกำรูดลำชายหนักเบาสลับกัน เธอทำมันอย่างนั้นเป็นจังหวะ มือน้อยให้ความอบอุ่นแก่ลำชายขนาดที่มันยังแข็งกร้าว ภาริณีไม่ได้แตะต้องสัมผัสสิ่งที่เป็นของเธอโดยชอบธรรมมานานมากแล้ว เขาเองก็ไม่คิดอยากแตะต้องเธอเหมือนกัน ผู้หญิงที่อยู่บ้านไม่ติด ดีแต่ออกไปแรดๆ หาผู้ชายนอกบ้าน เห็นผัวตัวเองเป็นของตาย คนอย่างนั้นเขาไม่อยากเก็บมาใส่ใจ แต่ก็อดเปรียบเทียบกับดวงใจไม่ได้ “อืมม์...ดีจัง เธอเคยทำเหรอ” “ถ้าจะบอกว่าดวงยังซิงก็คงเป็นการโกหก เรื่องแบบนี้ดวงเคยผ่านมาบ้างแล้ว
ธนนท์ชัยเลิกคิ้วขึ้นอย่างเริ่มรู้สึกแปลกๆ การเอาใจใส่เกินหน้าที่ของดวงใจทำให้เขาไพล่คิดไปถึงภาริณี นานแค่ไหนแล้วที่ภาริณีไม่เคยเอาใจใส่เขาแบบนี้ นานมาก นานนับสิบปี นานเสียจนลืมไปว่าอดีตเคยหวานชื่นเพียงใด ผ้าเย็นถูกยื่นมาให้ตรงหน้า ไม่ใช่ผ้าเย็นที่ซื้อจากร้าน 7-11 แต่เป็นผ้าขนหนูผืนเล็กถูกยัดใส่ถุงแล้วแช่ในช่องฟรี๊ซ ธนนท์ชัยมองหน้าดวงใจ เธอเองก็มองมาอยู่เหมือนกัน ดวงตาสองคู่สบกันก่อนที่เขาจะจำได้ว่า เมื่อช่วงสายก่อนไปทำงานได้เห็นดวงใจปีนขึ้นไปแอบมองบ้านข้างๆ “เรื่องเมื่อเช้า ฉันยังไม่ลืมนะดวงใจ” ดวงใจเบิกตากว้างขึ้นคล้ายตระหนก ก่อนจะบิดชายเสื้อตัวเองอย่างขัดเขิน “คุณผู้ชายจะให้ดวงใจทำอะไรคะ” “ก็ไม่อยากแกล้งหรอกนะ แต่ถ้าไม่สั่งสอนเธอบ้าง ประเดี๋ยวเธอก็ไปเที่ยวแอบมองชาวบ้านอีก” เธอซ่อนประกายตาเอาไว้แต่แพขนตา คำพูดของคุณผู้ชายกำลังทำให้เธอหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก “คุณผู้ชายจะลงโทษดวงยังไงหรือคะ” ธนนท์ชัยกระตุกมุมปากขึ้นยิ้มเมื่อนึกวิธีการสั่งสอนดวงใจให้สนุกที่ส
ให้ตายเถอะ! ร่างกายของเขาไม่ว่าจะส่วนแข็งกระด้างหรือนุ่มนิ่มก็เขย่าความรู้สึกของเธอได้อย่างดี ดวงใจอ้าปากกว้างครอบครองความเป็นชายจนปากตุง โอว...มันใหญ่จนคับปากเธอไปหมด ปลายลิ้นก็แล่บเลียไปทั่วอย่างเอร็ดอร่อย จนน้ำลายเปียกชุ่มไปทั่วริมฝีปาก “อ๊ะ...อูว์...เสียวชะมัด” เสียงแหลมเล็กอุทานดัง ดวงใจลืมตามองเห็นหญิงสาวกำลังคุกเข่าท่าหมา แล้วท่อนเนื้อกำลังขยับเข้าออกจากร่องเสียว ซี้ดดด...เธอเสียวร่องเหลือเกิน ฝ่ายปรมัยก็ขยับโยกคลึงลำชายอย่างเพลิดเพลิน บั้นท้ายดินระเบิดกระเพื่อมไหวยามโยกโยนตัวตนอย่างรุนแรง แสงดาวสะท้านเป็นระลอกคลื่นจนเจ็บหัวเข่า แต่เธอก็ยังไม่ยอมแพ้ กระเด้งบั้นท้ายยั่วยวนเป็นจังหวะ ทั้งคู่มัวเมาอยู่ในวังวนกามา ส่งเสียงแห่งความสุขอย่างไม่รู้ว่ามีใครบางคนแอบมองและจินตนาการเป็นตนเอง ทั้งคู่มีสุข สาวใช้ข้างบ้านก็มีความสุขไปด้วย จวบจนปรมัยเสร็จสมอารมณ์หมาย เขาก็อุ้มแสงดาวเข้าบ้าน ดวงใจก็ปีนบันไดลงมา “ตาเถร!!! คุณผู้ชาย!!!” “เธอทำอะไรน่ะดวงใจ” ธนนท์ชัยแอ