"ขอโทษด้วยนะคะ ทางบริษัทของเราปิดรับสมัครพนักงานใหม่แล้วค่ะ"
"ขอบคุณนะคะ"แม้จะเสียใจแต่บัวบูชาก็ยังยิ้มรับแล้วเดินออกมาจากบริษัทตรงหน้า นี่ก็เป็นเวลาสามวันแล้วที่เธอเดินหางานใหม่ ซึ่งมันไม่ได้ง่ายเลยที่จะหากันได้ง่าย ๆ ยิ่งนานวันเข้าค่าใช้จ่ายก็เริ่มมากขึ้นแตกต่างกับเงินในกระเป๋าที่เริ่มร่อยหรอลงทุกวัน ๆ แต่ถึงอย่างนั้นบัวบูชาก็ไม่คิดที่จะย่อท้อเธอยังคงเดินไปต่อเพื่อจะหาบริษัทที่เปิดรับสมัครพนักงานใหม่ "นี่ นังทับทิมที่ทำงานเป็นเลขาให้กับคุณภูผาถูกไล่ออกแล้วนะเธอรู้ยัง" "จริงดิ ทำไมถึงถูกไล่ออกได้ล่ะ ไหนว่าลีลาเด็ดมัดใจคุณภูผาได้" "หึ ลีลาเด็ดแค่ไหนถ้าไปทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของก็โดนขี่ทิ้งทั้งนั้นแหละย่ะ ตอนนี้คุณภูผาก็ส่งให้ผู้ช่วยเปิดรับสมัครพนักงานในตำแหน่งเลขาคนใหม่ ไม่รู้จะได้วันไหน"เสียงของสวรรค์ลอยเข้าหูของบัวบูชายามเมื่อเธอแวะทานอาหารข้างทางในยามเที่ยงของวัน บทสนทนาของพนักงานทั้งสองคนซึ่งนั่งอยู่ตรงโต๊ะตัวถัดไปไม่ไกลจากเธอเปรียบเสมือนระฆังหมดเวลาในการตกงาน ริมฝีปากสีธรรมชาติคลี่ยิ้มความหวังของบัวบูชาเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง หลังจากทานข้าวเสร็จเธอจึงเดินดิ่งไปหาพนักงานสองคนนั้นซึ่งกำลังยื่นจ่ายเงินค่าอาหารอยู่ตรงหน้าร้าน "คุณคะ"เสียงหวานดังขึ้นทำให้พนักงานหญิงทั้งสองหันไปมองยังต้นเสียงที่มา บัวบูชาขยับแว่นตาให้ดันเข้ากับกรอบหน้าสายตาของเธอมองทั้งคู่ด้วยความเป็นมิตร "มีอะไรหรือเปล่าคะ" "คือบริษัทที่คุณพูดถึงเมื่อครู่ มีคนมาสมัครงานแล้วหรือยังคะ" "..." "ขอโทษนะคะที่เสียมารยาทแอบฟัง คือบัวสนใจที่จะไปสมัครงานบริษัทที่คุณพูดถึงเมื่อสักครู่"สองสาวหันมองหน้าพลางกวาดสายตามองดูการแต่งตัวรวมไปถึงบุคลิกของบัวบูชา "ตอนนี้ยังไม่มีใครมาสมัครหรอกเพราะเลขาคนเก่าพึ่งถูกไล่ออกไปเมื่อเช้า ถ้าเธอสนใจที่จะสมัครก็ตามพวกฉันสองคนมาสิ" "ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ"ดวงตากลมโตเปล่งประกาย บัวบูชาเดินตามทั้งคู่ไปยังบริษัทยักษ์ใหญ่ซึ่งเป็นบริษัทที่เกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออกรายใหญ่ของเอเชียและมีธุรกิจอื่น ๆ ในเครือของ 'สหกรุป'อีกมากมายซึ่งสร้างรายได้จำนวนหลายร้อยล้านต่อปี "คุณมีประวัติในการทำงานดีเยี่ยม และไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน อืม" "..." "ได้ตำแหน่งพนักงานดีเด่นสี่ปีซ้อน นับว่าไม่เลว"ฝ่ายบุคคลไล่อ่านประวัติการทำงานรวมไปถึงผลการเรียนของบัวบูชา แววตาของหญิงสาวมีความหวังโชคยังเข้าข้างที่ตอนนี้ยังไม่มีคนอื่นมาสมัครแย่งตำแหน่งเลขาไป "บริษัทของเราเป็นบริษัทใหญ่ หน้าที่การทำงานอาจจะเคร่งครัดและหนักกว่าการทำงานในบริษัทที่คุณผ่านมา"ฝ่ายบุคคลเงยหน้ามองบัวบูชาด้วยแววตาที่จริงจังจนหัวใจของเธอวูบโหวง "ผมจะให้คุณทดลองทำงานดูก่อนเป็นระยะเวลาสามเดือนซึ่งสามเดือนนี้ทางบริษัทของเราจะมีเงินเดือนให้ และถ้าคุณผ่านการทดลองงานสามเดือนนี้ไปได้คุณจะได้เป็นพนักงานในบริษัทของเราอย่างเต็มรูปแบบ คุณยินดีไหมคุณบัวบูชา" "ยินดีค่ะ"ขอแค่เธอมีงานทำมีเงินต่อชีวิตผู้เป็นแม่ บัวบูชายอมที่จะทำทุกอย่างแม้ว่างานในบริษัทใหญ่จะหนักหน่วงสักเพียงไหนก็ตาม "คุณพร้อมที่จะเริ่มงานเมื่อไหร่" "พรุ่งนี้เลยก็ได้ค่ะ" "โอเค งั้นพรุ่งนี้คุณเริ่มมาทำงานได้ ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะครับ" "ยินดีเช่นกันค่ะ ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ"บัวบูชาดีใจน้ำตาแทบไหล แสงสว่างเริ่มเปล่งประกายในชีวิตของเธออีกครั้ง หลังจากจัดการเซ็นเอกสารทุกอย่างเสร็จบัวบูชารีบแบกความดีใจไปหาผู้เป็นแม่ เพียงแค่ได้เห็นว่าแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่น้ำตาของคนเป็นลูกที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อต่อลมหายใจของท่านเอาไว้ก็แทบไหล บัวบูชาเดินตรงไปยังห้องพักฟื้นในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งดวงตาสั่นเครือมองร่างของผู้เป็นแม่ที่นอนหลับอยู่บนเตียง ร่างกายของท่านซูบผอมจนแทบจะเห็นกระดูก ท่านเป็นมะเร็งหมอตรวจพบก้อนเนื้อชิ้นใหญ่ที่สมองกว่าเธอจะรู้อาการของมารดาก็เกินกว่าจะรักษาให้หาย โรคร้ายลุกลามเกินจะรักษามีทางเดียวคือการผ่าตัดเพื่อที่จะยื้อชีวิตของท่านเอาไว้ให้อยู่กับเธอให้นานที่สุด "แม่ขา" "..." "บัวได้งานทำแล้วนะคะแม่" "..." "แม่ไม่ต้องเป็นห่วงบัวนะคะ บัวสัญญาว่าจะรักษาแม่ให้หาย" "..." "อย่าทิ้งบัวไปอีกคนเลยนะคะ แค่พ่อคนเดียวบัวก็รู้จะมีชีวิตอยู่ต่อไปยังไง"นานนับสิบปีที่พ่อของเธอเสียไปทำให้แม่คือที่พึ่งแห่งเดียวของบัวบูชา "แม่จะต้องหายนะคะ แม่จะต้องหาย"บัวบูชาบอกท่านเหมือนเดิมทุก ๆ วัน ชีวิตของเธอในตอนนี้เหลือเพียงแค่มารดาคนเดียวเท่านั้นซึ่งเธอจะไม่ยอมเสียท่านไปอีกคน เธอจะสู้จนสุดแรงใจเพื่อจะยื้อท่านเอาไว้ให้อยู่กับเธอให้นานที่สุด "นี่ค่ะค่ารักษา" "ยังไม่ถึงกำหนดเลยนี่คะคุณบัว"พยาบาลช่องจ่ายเงินเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นบัวบูชาถือเอกสารชำระเงินมาวางไว้ตรงหน้า "พรุ่งนี้บัวคงไม่ว่างต้องไปทำงานค่ะ" "พี่เป็นกำลังใจให้กับคุณบัวนะคะ"พยาบาลที่นี่ใจดีกับมารดาและบัวบูชาทุกคนไม่เว้นแม้แต่คุณหมอที่ให้ทำการรักษา "ถ้าพรุ่งนี้บัวมาไม่ได้ฝากดูแลคุณแม่ให้บัวด้วยนะคะ" "ได้ค่ะ คุณบัวไม่ต้องเป็นห่วง"หลังจากจัดการค่ารักษา ค่ายา และค่าห้องพักแบบพิเศษแล้วเสร็จบัวบูชาก็กลับมายังบ้านหลังเล็กของตัวเอง เงินเก็บอันเพียงน้อยนิดบวกกับเงินที่เธอนำของมีค่าชิ้นสุดท้ายไปขายเพื่อนำมารักษามารดาได้หมดไปแล้วในวันนี้ ทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอเหลือเงินติดตัวเพียงไม่กี่ร้อยบาท มันชั่งน้อยนิดจนบัวบูชาต้องถอนหายใจหนัก ๆ ออกมา "อย่าพึ่งท้อนะบัว พรุ่งนี้ก็เป็นวันที่ดีของเธอแล้ว"ใครจะไปคิดล่ะว่าจากชีวิตของผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่งอย่างเธอจะได้มาเจอกับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่างเขา และตอนนี้เราสองคนกำลังได้เข้าพิธีวิวาห์ด้วยกัน มันเป็นความฝันที่บัวบูชาไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง จากผู้หญิงธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรพิเศษอยู่ในวิกฤตตกงานไม่มีงานทำต้องหาเงินมารักษามารดาซึ่งป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย โชคชะตาเข้าข้างให้เธอได้สมัครมาเป็นเลขาและบุญวาสนาได้ผลักเธออีกครั้งให้มาเป็นผู้หญิงของเขาและตอนนี้เราสองคนกำลังเข้าพิธีวิวาห์ในช่วงเช้าด้วยกัน ตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้ก็เธอกับเขาก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมาร่วมหนึ่งปีกว่า ภูผาฉีกสัญญาว่าจ้างระหว่างเธอกับเขาเมื่อชีวิตคู่ของสองเราครบหนึ่งปี"คุณภูผาและคุณบัวบูชาเชิญเซ็นชื่อลงตรงนี้ได้เลยนะครับ"เจ้าหน้าที่จากอำเภอเอ่ยบอกกับคู่บ่าวสาวซึ่งตอนนี้เธอและเขากำลังนั่งอยู่ตรงที่โต๊ะตรงหน้ามีกระดาษสำคัญมีอักษรสีแดงตัวใหญ่เขียนว่าใบสำคัญในการสมรส"ขอแสดงความยินดีกับคุณทั้งสองด้วยนะครับ และผมหวังว่าจะได้ยินข่าวดีเรื่องทายาทเร็ว ๆ นี้""ขอบคุณครับ""ขอบคุณค่ะ"บัวบูชาน้ำตาไหลเธอมองแผ่นกระดาษตรงหน้าตาไม่กะพริบ สัมผัสอ่อนโยนจากปลายนิ้วของชายหนุ่มท
"อื้อ"นิ้วใหญ่สอดเข้าไปในช่องทางรักของหญิงสาวทำเอาเธอส่งเสียงครางออกมา ความคับแน่นตรงส่วนนั้นมันทำให้เธอเชื่อแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าและคำบอกรักจากปากของเขามันคือเรื่องจริง"คะ...คุณภูผา""ยังคับแน่นเหมือนเดิมอยู่เลยนะ"เขาก้มมองช่องทางรักของเธอซึ่งตอนนี้มีนิ้วของเขาเสียบคาอยู่ด้วยแววตาหื่นกระหาย"เนินใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า""อื้อ อ๊าส์"ริมฝีปากเล็กส่งเสียงครางออกมายามเมื่อชายหนุ่มขยับปลายนิ้วเข้าออกจนตอนนี้เริ่มมีน้ำหล่อลื่นสีใสไหลออกมาใบหน้าของบัวบูชาบิดเบี้ยวแสดงถึงความทรมาน อารมณ์วาบหวามทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินวนอยู่ในช่องท้องยามเมื่อเธอผงกศีรษะขึ้นมองก็ยิ่งเห็นว่าใบหน้าของภูผาอยู่ห่างไม่ไกลจากตรงส่วนนั้นของเธอเท่าไหร่ และมันยิ่งเพิ่มเข้ามาใกล้เมื่อน้ำเมือกใสของเธอเริ่มไหลอาบนิ้วของเขามากยิ่งขึ้น"ขอชิมหน่อยนะ""อย่าค่ะคุณภูผา อื้อ มันสกปรก"แผล็บ แผล็บ แผล็บเสียงห้ามปรามของเธอเล็ดลอดผ่านหูของชายหนุ่ม ปลายลิ้นสากแตะลงบนกลีบอูมทั้งสองข้างทันทีโดยที่ชายหนุ่มไม่เคยคิดจะฟังเสียงห้ามปรามของเธอเลยสักนิดปลายลิ้นสากตวัดเลียดูดดึงเม็ดเสียวด้วยความช่ำชองทำเอาบัวบูชายกเอวจน
บรรยากาศภายในรถยามค่ำคืนเงียบสงัดอากาศช่างหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจของบัวบูชา เธอเอียงศีรษะมองหน้าออกไปยังนอกหน้าต่างรถซึ่งตอนนี้เธอและเขากำลังเดินทางกลับที่พักหลังจากเยี่ยมมารดาของเขาเสร็จภายในรถตกอยู่ในความเงียบตั้งแต่ที่เขาและเธอก้าวขึ้นมาจนเวลาผ่านมาถึงตอนนี้ เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะวางตัวยังไงดีคำพูดของคุณหญิงแห่งตระกูลดังยังคงล่องลอยอยู่ในโซนประสาทหูท่านอยากได้เธอไปเป็นลูกสะใภ้นี่คือสิ่งที่ท่านพร่ำบอกเธอเอาไว้ก่อนจะออกมา แต่ทว่าคนด้านข้างกลับไม่มีปฏิกิริยาแสดงอาการอะไร มันอดไม่ได้ที่จะทำให้เธอคิดว่าเขาคงไม่ต้องการอยากจะเกี่ยวดองกับเธอ นั้นสิเนอะเขาซื้อเธอมาบำเรอความใคร่ใครอยากจะยกตำแหน่งแต่งตั้งให้มาเป็นตัวจริงกันเมื่อคิดได้อย่างนั้นก็เกิดความรู้สึกน้อยใจ เธอคงไร้ค่าไม่เหมาะสมกับคนอย่างเขาหรอก อย่าคิดหวังสูงมากเกินไปบรรยากาศภายในรถยังคงจมอยู่กับความเงียบจนชายหนุ่มขับรถมาถึงคอนโดที่พักทั้งเขาและเธอในตอนนี้ยังไม่มีแม้แต่คำพูดให้กับต่างฝ่ายจนทั้งสองเดินขึ้นไปถึงยังห้องพัก"เธอเป็นอะไรไป"ชายหนุ่มเอ่ยถามเธอทันทีเมื่อทั้งสองก้าวเข้ามาอยู่ในห้องพัก แววตาอมทุกข์ในเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วย
เวลาล่วงเลยไปจนถึงเวลาเลิกงาน บัวบูชารีบเก็บข้าวขอแล้วรีบลงมายอดรอภูผาอยู่ตรงหน้าป้ายรถเมล์ซึ่งก่อนหน้านี้เพียงแค่สิบนาทีชายหนุ่มได้ส่งข้อความมาบอกว่าใกล้จะถึงแล้วให้เธอรีบลงมารอก่อนได้เลยปี๊นบัวบูชาคลี่ยิ้มบาง ๆ ทันทีเมื่อเธอได้เห็นรถของชายหนุ่มเคลื่อนตัวก่อนจะหยุดจอดอยู่ตรงหน้าของเธอหญิงสาวรีบเปิดประตูก้าวขาขึ้นไปนั่งโดยมีสายตาของพนักงานบางคนมองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นเพราะทุกคนล้วนรู้ว่ารถที่ขับมารับบัวบูชานั้นเป็นรถของใคร "เหนื่อยไหม""ไม่เหนื่อยเลยค่ะ แล้วคุณแม่ของคุณภูผาท่านเป็นยังไงบ้างคะ""คุณแม่ท่านฟื้นแล้ว""ยินดีด้วยนะคะ"เธอแสดงออกถึงความจริงใจอย่างเป็นธรรมชาติโดยไร้การปรุงแต่ง รถคันหรูเคลื่อนตัวออกจากหน้าบริษัทขับกลับไปยังเส้นทางเดิมที่ภูผาพึ่งจะขับออกมาจากเมื่อครู่"คุณภูผาจะไปทำธุระที่ไหนเหรอคะ""ธุระที่ฉันว่าเอาไว้ไปทำวันอื่น ส่วนวันนี้ฉันจะพาเธอไปเจอใครคนหนึ่ง""ใครคะ""ไปถึงเดี๋ยวเธอก็จะรู้เอง"ความนัยของเขายิ่งทำให้เธอสงสัยแต่บัวบูชาก็ไม่มีความสามารถมากพอที่จะกล้าถามออกไป เธอได้แต่นั่งเงียบ ๆ อยู่ตรงเบาะข้างคนขับโดยไม่รู้ว่ามีสายตาของชายหนุ่มในตำแหน่งคนขับคอยลอบม
"เก็บกวาดทุกอย่างอย่าให้เหลือร่องรอย""ครับคุณภูผา"หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นชายหนุ่มก็รีบเดินกลับมายังรถคันหรู เขาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาแม่เลขาสาวทันทีที่ก้าวขาขึ้นมานั่งภายในรถ หัวใจแกร่งในตอนนี้กำลังว้าวุ่นเพราะเขากำลังนึกถึงคำพูดของภาคภูมิในเมื่อครู่'นี่กูวางแผนไว้เลยนะ ถ้าเสร็จจากแม่มึงเมื่อไหร่อีบัวบูชาจะเป็นรายต่อไป''...''อยากรู้จริง ๆ ว่านังบัวบูชามันจะเอามันไหม แต่สงสัยจะมันสินะมึงถึงได้ติดใจ อยากรู้จริง ๆ ถ้ากูได้ลิ้มลองร่างอันหอมหวานของบัวบูชามันจะเป็นยังไง'"มึงจะไม่มีวันได้แตะต้องผู้หญิงของกูหรอกไอ้ภาคภูมิ"ภูผากัดฟันกรอดเขานั่งรอสายนานอยู่หลายนาที สายแรกเธอไม่ยอมรับยิ่งทำให้คนรออย่างเขากระวนกระวายใจเข้าไปใหญ่ชายหนุ่มจึงกดต่อสายย้ำอีกครั้งไปหาเขาเร่งสตาทร์รถก่อนจะขับออกมาด้วยความเร็ว"สวัสดีค่ะคุณภูผา"รถคันหรูลดความเร็วลงเมื่อบัวบูชากดรับสายของเขาในเวลาต่อมา เพียงแค่ได้น้ำเสียงสดใสของเธอช่วยคลายความกังวลให้เขาได้"ทำอะไรอยู่ แล้วเมื่อกี้ฉันโทรไปทำไมไม่รับ""บัวพึ่งจะกลับมาจากห้องน้ำค่ะ โทรศัพท์อยู่ในกระเป๋าไม่ได้เอาติดตัวไป"คำอธิบายของเธอคลายอึดอัดภายในใจของภูผา
เปลือกตาหนังอึ้งค่อย ๆ เปิดขึ้นเมื่อแสงแดดของวันส่องกระทบตาม่านตาเริ่มเปิดขยายรับแสงของเช้าวันใหม่ซึ่งวันนี้มีท่อนแขนใหญ่ของภูผากอดเธอเอาไว้ เธออยู่ในห้องพักสุดหรูที่เขาซื้อให้และตอนนี้เธอและเขากำลังนอนอยู่บนเตียงคิงไซซ์ขนาดใหญ่และยังมีชายหนุ่มคอยนอนกอดเธอเอาไว้ ลมหายใจของชายหนุ่มยังคงสม่ำเสมอเขาคงพาเธอกลับมายังที่พักภาพสุดท้ายที่เธอจำได้ก่อนจะหมดสติไปคือเธอและเขากำลังนั่งอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินเธอได้บริจาคเลือดช่วยชีวิตมารดาของภูผาเมื่อเธอยกแขนขึ้นมาก็พบว่ายังมีสำลีก้อนเล็กติดอยู่ตรงที่ข้อพับแขนนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาและเธอนอนกอดกันแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้เธอมีความสุข การที่เธอได้ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดของเขามันทำให้เธอรู้สึกมีความสุข ความสุขที่ผู้หญิงอย่างเธอไม่สามารถเรียกร้องให้เขาทำแบบนี้บ่อย ๆ ได้แต่ถ้าหากเขาทำด้วยความเต็มใจเธอก็ขอเก็บความสุขเหล่านี้เอาไว้ถ้าหากวันใดวันหนึ่งเธอไม่ได้มีสิทธิ์ยืนอยู่ในตรงจุดนี้อย่างน้อยก็ยังมีความรู้สึกดี ๆ ที่เขาเคยทำให้ถูกเก็บเอาไว้ในความทรงจำ"บัวรักคุณนะคะ"ถ้าหากเขาตื่นเธอคงไม่กล้าที่จะบอกคำคำนี้ให้ชายหนุ่มได้ยิน ผู้หญิ