เรื่องราวเกิดขึ้นแล้ว เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว เป้าหมายของเรเจลคือตระกูลซือ ตระกูลกุงก็แค่หมากตัวหนึ่งในแผนที่เขาใช้จัดการตระกูลซือ""งั้นคุณกับซือเย่เจ๋วล่ะ มีความแค้นอะไรกัน?" เธอหัวเราะขึ้นมาอย่างเหยียดหยาม "หรือเป็นเพียงเพราะคุณเป็นหมาของเรเจลจนเสพติดแล้ว?"หลานอู๋เหยียนเดาะลิ้น ก้าวเท้าเดินไปตรงหน้าเจียงเซิง มองดูสีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความแค้นเคือง "คุณเจียง ให้ผมพูดมากขนาดนี้ เพราะอยากยื้อเวลาให้คนมาช่วยคุณเหรอ?"เจียงเซิงไม่ได้พูดอะไรเขาหัวเราะในลำคอ "น่าเสียดายที่ไม่มีคนมาช่วยคุณหรอก ตอนที่คุณหมดสติ ของที่อยู่บนตัวคุณถูกคนเอาไปแล้ว ไม่มีเครื่องติดตามจีพีเอส ใครจะหาสถานที่นี้เจอ?"มือที่ถูกมัดอยู่ด้านหลังของเจียงเซิงแอบคลายออก เธอรู้ว่าจากความระมัดระวังของหลานอู๋เหยียน เขาจะต้องให้พวกเขาเก็บสิ่งของติดตัวของเธอไปมีเพียงแหวนเท่านั้นที่ไม่พบว่ามีความผิดปกติเขาโน้มตัวไปข้างหน้าและสายตาเคร่งขรึมจ้องมองเธอ "เรื่องที่ซือเย่เจ๋วติดเชื้อไวรัสคงจะถูกเปิดเผยในไม่ช้าสินะ?"เมื่อเห็นดวงตาของเจียงเซิงสั่นคลอนอย่างเห็นได้ชัด เขายื่นมือออกไปจับคางของเธอ "ซือเย่เจ๋วมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแล
ฝ่ามือใหญ่ของเขาบีบคอของเธอ "ทำไม คุณคิดว่ายังจะมีคนมาช่วยคุณเหรอ?"เจียงเซิงถูกบีบจนหน้าแดงก่ำ หายใจติดขัดขึ้นมา แต่เธอยังคงฝืนยิ้มออกมา "ห้องใต้ดินลึกลับขนาดนี้ ฉันคิดว่าไม่ได้มีแค่ตัวโม่จ้วงไวรัสหรอกนะ? น่าจะมีไวรัสชนิดอื่นอีกด้วยถ้าหากเกิดการรั่วไหลขึ้นมา คนที่อยู่ในนี้จะหนีออกไปได้ไหม?"หลานอู๋เหยียนยังไม่มีการตอบสนองใด ๆจู่ ๆ เจียงเซิงก็ยกเท้าเตะไปที่เป้าของเขา เขารู้สึกเจ็บปวด สีหน้าคลุมเครือ สายตาเฉียบคมเหมือนจะกินคนเธอรีบสะบัดเชือกที่มัดเธอออกอย่างรวดเร็ว และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เหล่านั้นที่อยู่ด้านหลังเขาพากันชักปืนออกมา แต่กลับไม่กล้ายิงออกไปหากสัมผัสโดนไวรัสตัวอื่น ต่อให้พวกเขาสวมชุดป้องกัน แต่ไม่ได้ใส่หน้ากากป้องกันพิษ เมื่อสูดก๊าซไวรัสตัวอื่นเข้าไป นั่นก็จบเห่แน่นอน!เจียงเซิงวิ่งไปที่ด้านหลังสิ่งทดลองอย่างรวดเร็ว ด้านในกล่องสีเงินมีหลอดที่เป็นสีฟ้าทั้งหมดวางอยู่ข้างใน"เจียงเซิง รนหาที่ตาย!" หลานอู๋เหยียนชักปืนออกมา เจียงเซิงหลบเลี่ยงอย่างรวดเร็ว"เสียงดังกราว!"ตู้ที่ใส่ฟอร์มาลีนอยู่ด้านหลังถูกยิงจนเกิดรอยร้าว"คุณชายหลาน ห้ามยิงเด็ดขาดนะ!" เจ้าหน้าที่ทา
เจียงเซิงมองดูเขา และพูดอย่างไร้เรี่ยวแรง "ฉันกำลังคิดอยู่ว่า ทำไมตระกูลหลานของพวกคุณถึงพยายามอย่างหนักเพื่อจะได้รับความสำคัญจากเรเจลและตระกูลสูงศักดิ์เหล่านั้นเพราะว่าเนื้อแท้ของพวกคุณนั้นต่ำต้อย พวกคุณใช้ทรัพย์สินของคนอื่นก่อร่างสร้างตัว สายเลือดบรรพบุรุษของพวกคุณไม่ใช่สกุลหลานด้วยซ้ำ และก็ไม่ใช่ลูกหลานของพ่อค้าเศรษฐี แต่เป็นครอบครัวคนธรรมดาที่แอบลักลอบเข้ามาก็เท่านั้นตระกูลกุงเป็นตระกูลสูงศักดิ์ที่แท้จริง แต่ตระกูลหลานของพวกคุณไม่ใช่ พวกคุณอยากได้รับความสำคัญ ดังนั้นเพียงแค่ค้นคว้าวิจัยยาที่ระงับมะเร็วและอาการเจ็บปวดให้พวกเขาได้ นั่นถึงจะเป็นความหมายที่แท้จริงในการมีตัวตนอยู่ของพวกคุณสินะ?"หลานอู๋เหยียนพูดไม่ออก และกระอักเลือดออกมาอีกมากมายเธอยิ้มเยาะ "หลานอู๋เหยียน นี่คือโทษที่คุณสมควรได้รับ คุณบอกว่าชีวิตคนเราก็คือการเดิมพัน ถูกต้องแล้ว ฉันตั้งใจให้สิบเจ็ดคุ้มกันฉัน ฉันหนีไป อันที่จริงฉันก็กำลังเดิมพันอยู่ ว่าพวกคุณจะจับตัวเพียงแค่ฉัน"เธอค่อย ๆ ถอดแหวนออก แสงไฟสีแดงที่สว่างอยู่ภายในแหวนคือเครื่องติดตามขนาดเล็กมาก"และการเดิมพันครั้งนี้ ฉันชนะแล้วรถตำรวจหลายคันปิดล้อมท
ตอนที่หลานอู๋เหยียนถูกพาออกมา เป็นเพราะได้รับเชื้อจากก๊าซพิษ ปอดกับหัวใจเกิดการสูญเสีย บวกกับบาดแผลที่ขาเสียเลือดมากเกินไป จะช่วยเหลือก็สายเกินไปแล้วเจียงเซิงเคลื่อนไหวดวงตา ไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วมองดูเธอ "ทางด้านตำรวจผมอธิบายแทนคุณแล้ว คุณป้องกันตัวเองถึงได้ยิงปืน และคุณก็ไม่ได้คิดจะฆ่าเขา ดังนั้นจึงยิงแค่ที่ขา"เธอยิ้ม “ถ้าหากฉันต้องการฆ่าเขาจริง ๆ ล่ะ”เขาหรี่ตาลงไม่พูดจาเจียงเซิงหันหน้ามองไปทางนอกหน้าต่าง "อุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อนเขาเป็นคนวางแผน คนที่ลงมือคือซูหลิงโหรว ถึงแม้ตอนนั้นฉันคิดอยากจะยิงหัวเขาให้กระจุยจริง ๆ แต่เมื่อได้เห็นกรรมที่เขาได้รับ ฉันก็ไม่ได้เสียดายขนาดนั้นแล้ว""เซิงเซิง"ซือเย่เจ๋วโน้มตัวมองเธอ จับใบหน้าของเธอให้หันมาจ้องตากับตัวเอง "รับปากผม ต่อไปไม่ว่าทำอะไร ก็ห้ามเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงอีก"เจียงเซิงหยุดนิ่ง จากนั้นก็ยิ้มขึ้นมา “แล้วคุณล่ะ?”เขาไม่ได้พูดอะไรเธอถาม "ซือเย่เจ๋ว สามปีก่อนคุณกันกระสุนแทนฉัน คุณไม่เคยคิดเลยว่า ถ้าหากคุณเป็นอะไรขึ้นมาจริง ๆ ฉันจะทำอย่างไร?"ซือเย่เจ๋วลดหน้าผากแตะหน้าผากของเธอและพูดเสียงเบา "งั้นต่อไปพวกเราสองคนห้
ซือเย่เจ๋วหยุดฝีเท้าลง แต่ไม่ได้หันกลับไป "ฉันไม่กลัวตาย ฉันแค่กลัวจะตายต่อหน้าเธอ"เขาหันหน้ามา "พรุ่งนี้ให้เหยียนเหยียนมาอยู่เป็นเพื่อนเธอเถอะ"**วันต่อมา เจียงเซิงนั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสือพิมพ์เป็นอย่างที่คิด หลานอู๋เหยียนตายไป หลังจากที่ความจริงของไวรัสถูกเปิดเผย คนเหล่านั้นผลักเรื่องทุกอย่างไปที่ตระกูลหลานแม้แต่เรื่องที่พวกเขากับตระกูลหลานทำก็ไม่ได้เอ่ยถึง พวกกเขาใช้ประโยชน์ตระกูลหลานศึกษาเทคนิคนี้ จนถึงตอนสุดท้ายตระกูลหลานล้มแล้ว หลานอู๋เหยียนตายแล้ว เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับผลกระทบไปด้วย"หม่ามี้!"เมื่อได้ยินเสียงใครบางคน เจียงเซิงมองไปทางนอกประตูอย่างประหลาดใจดวงตาของเธอแดงก่ำในทันที "เหยียนเหยียน?"เจียงเหยียนเหยียนเดินมาข้างเตียงอย่างรวดเร็ว เจียงเซิงกอดเขาเอาไว้ทันที "เหยียนเหยียน ใช้ลูกจริง ๆ เหรอ หม่ามี้คิดถึงพวกลูกมาก!"ตอนนี้ลูก ๆ อายุแปดขวบแล้ว ตอนนั้นยังเล็กกระจิดริดอยู่เลย เพิ่งไม่เจอกันสามปี เธอรู้สึกเหมือนนานมาก นานมาก ๆเจียงเหยียนเหยียนก็กอดเธอเอาไว้ "หม่ามี้ พวกเราก็คิดถึงหม่ามี้มาก พวกเราต่างรอหม่ามี้กลับไปอยู่นะครับ""หม่ามี้ เลิ
และสองวันมานี้ นอกจากสิบเจ็ดกับเหยียนเหยียนที่อยู่เป็นเพื่อนเธอในโรงพยาบาล ไม่เห็นเงาซือเย่เจ๋วด้วยซ้ำภายในรถ เจียงเซิงมองออกไปนอกหน้าต่าง ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ต้นแปะก๊วยที่อยู่สองข้างทางเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองเหลืองใบไม้สีทองที่ตกลงบนพื้นเหมือนปูพรมสีทองอร่าม ช่วยเพิ่มสีสันให้กับอาคารที่แปลกตาโดยรอบใบไม้ร่วงหล่นปลิวไปตามรถที่แล่นผ่านไปมาเจียงเซิงพาเจียงเหยียนเหยียนมายังคฤหาสน์สโตน เมื่อเดินเข้าไปในคฤหาสน์ ก็เห็นเซียวรอเธออยู่ในห้องรับแขก"คุณพ่อ" เจียงเซิงจับมือของเจียงเหยียนเหยียนเดินไปหาเขาเซียวมองดูเจียงเหยียนเหยียน "เด็กคนนี้คือ?""เขาคือลูกชายของหนูค่ะ" เจียงเซิงวางมือบนบ่าของเจียงเหยียนเหยียน "เจียงเหยียนเหยียน"เซียววางแก้วชาลงและยิ้มบาง "ที่แท้เธอก็มีลูกชายหนึ่งคน โตขนาดนี้แล้วเหรอ"เจียงเหยียนเหยียนตอบกลับแล้วพูดขึ้น "ไม่ใช่หนึ่งคนครับ แต่เป็นสามคน ผมยังมีน้องชายและน้องสามอีก"เมื่อเห็นสีหน้าของเซียวเผยความประหลาดใจออกมา เจียงเซิงยิ้มบางและไม่พูดจาเธอให้สิบเจ็ดพาเจียงเหยียนเหยียนไปเดินเล่น จากนั้นพูดคุยอยู่ภายในห้องกับเซียว เซียวฟังเล่ห์กลและแผนการระหว
ในระยะต่อมาไม่กี่วันหลังจากติดเชื้อในปีที่ 3 จะเริ่มไอเป็นเลือดอย่างต่อเนื่อง ภูมิต้านทานลดต่ำลงและเป็นไข้ต่ำต่อเนื่อง สุดท้ายตับก็แบกรับไม่ไหว จากนั้นเสียชีวิตในทันทีส่วนเจียงเซิงนึกอะไรขึ้นมาได้ จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นยืน "ใช่แล้ว ถ้าหาก......ถ้าหากโม่จ้วงไวรัสไม่มีระยะฟักตัว เริ่มเป็นไข้ หรือกระทั่งไอเป็นเลือดตั้งแต่เริ่มติดเชื้อ ไวรัสประเภทนี้คืออะไร?"เซียวหันมามองเธอ "นี่คือโม่จ้วงไวรัสกลายพันธ์ โม่จ้วงไวรัสชนิดนี้จะมีอาการเร็วกว่าชนิดธรรมดา โดยทั่วไป หลังจากติดเชื้อ มีอายุขัยอยู่แค่สามสี่ปีเท่านั้น"อายุขัยสามถึงสี่ปี......เจียงเซิงหน้าซีดเซียวในทันทีทำไมถึงเป็นแบบนี้ มีอายุขัยแค่สามถึงสี่ปีเท่านั้น และตอนนี้ซือเย่เจ๋วติดเชื้อเป็นปีที่สามแล้ว!"เซิงเซิง หนูเป็นอะไร?" เซียวมองเธออย่างสงสัยเจียงเซิงตั้งสติขึ้นมาได้และพูดขึ้น "คุณพ่อ ถ้าหากติดเชื้อแล้ว ไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอคะ?"เซียวขมวดคิ้ว เหมือนกำลังครุ่นคิด "เทคนิคทางการแพทย์ในตอนนี้ยังค้นคว้าศึกษาไม่พบพยาธิวิทยา หรืออาจจะพบในหลายปีข้างหน้าถ้าหากติดเชื้อจริง ๆ งั้นก็ไม่มีวิธีแล้ว ในเมื่อฉันเคยทำการทดลองในตอนที่แม่ของหนูเข
บอดี้การ์ดปรากฏตัวที่ด้านนอก "ท่านเจ๋ว พี่เชว่ คุณเจียงมาแล้วครับ"ซือเย่เจ๋วหยุดชะงัก ตอบกลับด้วยหน้าตานิ่งเฉย "ให้เธอขึ้นมาเถอะ"เดิมทีอยากให้เหยียนเหยียนอยู่เป็นเพื่อนเธอ และไม่เจอกับเธอก่อนในช่วงนี้ สุดท้ายเธอก็มาอยู่ดีเจียงเซิงเดินเข้ามาจากด้านนอกอารมณ์บนใบหน้าลึกซึ้ง นิ่งเฉย มองไม่เห็นความผิดปกติใด ๆหลัวเชว่เดินออกไปและปิดประตูเจียงเซิงเดินไปที่หน้าโต๊ะ "คุณตั้งใจไม่เจอฉัน?"ซือเย่เจ๋วยิ้มเรื่อยเปื่อย "มีเหรอ?"เธอหยิบเอกสารที่อยู่ตรงหน้าเขาไปวางไว้ด้านข้าง "มี ฉันออกจากโรงพยาบาลแล้วคุณก็ไม่มาดูฉัน ทำไม เปลี่ยนใจอีกแล้วเหรอ?"เขายิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรเจียงเซิงสองมือค้ำบนโต๊ะ "ซือเย่เจ๋ว ถ้าคุณมีความคิดที่เปลี่ยนใจ งั้นเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ฉันก็จะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าคุณอีก"เขาจ้องมองเธอโดยไม่ขยับเขยื้อน สีหน้าคลุมเครือส่วนเจียงเซิงนั่งลงบนโต๊ะ โน้มตัวไปหาเขา ผมยาวนุ่มของเธอเหมือนกับสาหร่ายทะเลร่วงหล่นไปตรงหน้าเธอ เพิ่มเสน่ห์มากขึ้นเธอยกนิ้วจิ้มไปที่กระเป๋าหน้าอกของเขา "ไม่พูด ฉันจะถือว่าคุณยอมรับแล้วนะ งั้นฉันจะทำครั้งสุดท้าย""ครั้งสุดท้ายอะไร?" เขาเค้นเสียงอ