“ผมแอบรักผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ และผมจะต้องจับเธอมาเป็นเมียให้ได้ พี่วิครอรับขวัญน้องสะใภ้ได้เลย..”
พูดจบราเมศก็เดินจากไป ปล่อยให้วิคเตอร์มองตามแผ่นหลังกว้างของคนที่มีศักดิ์เป็นน้องชายไปด้วยความขัดเคืองในใจลึกๆ
แต่เขาไม่ได้โกรธเคืองราเมศ แต่เป็นผู้หญิงคนนั้นต่างหาก
“อย่างนี้นี่เองสินะที่เธอบอกว่าไม่เบื่อที่จะอยู่กับฉันแล้ว...”
ดวงตาคมวาวโรจน์ กรามแกร่งขบกันแน่น ก่อนจะกระแทกลมหายใจหนักๆ ออกมา สีหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด
โชติกากับพิมพ์ผกา สองสาวเพื่อนรักที่ชื่อลงท้ายเหมือนกัน กำลังนั่งรับประทานอาหารเที่ยงด้วยกันที่โรงอาหารของบริษัทอย่างเอร็ดอร่อย พิมพ์ผกากำลังพูดถึงพี่ชายของตน และแอบเชียร์ให้ พนา ลงเอยกับเพื่อนรัก เธอกำลังบรรยายสรรพคุณอันแสนดีของพี่ชายให้เพื่อนรักฟัง จนโชติกาอดขันไม่ได้ เพราะรู้ว่าพิมพ์ผกานั้นอยากให้เธอกับ พี่พัน ของตนลงเอยกันมากแค่ไหน แต่เธอไม่ได้มีใจคิดกับพนาเกินกว่าคำว่าพี่ชายเลย
“พี่พันนี่ดีทุกอย่าง ยกเว้นเป็นเพื่อนกับอีตาลามเป็นขี้กลากนั่น”
พิมพ์ผกาทำหน้าบูดบึ้งเมื่อพูดถึงราเมศ ทั้งยังตั้งให้หลายฉายา แต่ที่ใช้บ่อยสุด นี่น่าจะเป็น อีตาลามเป็นขี้กลาก นี่ล่ะ จาก ราม รอเรือ เป็น ลาม ลอลิง
“นี่ถามจริงๆ เถอะ เธอโกรธเคืองเคียดแค้นอะไรคุณรามเขานักหนา แล้วดูสิ เรียกเขาแบบนั้น น่าเกลียดจริง” โชติกาพูดพลางหัวเราะเบาๆ
“หึ.. อย่าให้พูดเลย”
พิมพ์ผกาบ่นงึมงำแล้วเมินหน้าหนี ดูท่าทางมีพิรุธ แต่ไม่ทันที่โชติกาจะเอ่ยถาม ก็ปรากฏมีหญิงสาวสวยคนหนึ่งเดินมาที่โต๊ะของพวกเธอที่นั่งกินข้าวกันอยู่
“อุ๊ย ต๊าย อีกาสองตัว วันนี้มากินอาหารในโรงอาหารด้วย คงไม่มีปัญญาไปกินอาหารหรูๆ ดีๆ อย่างพวกเราเนอะ”
สองสาวเงยหน้ามองคนพูด ที่มืออีกข้างก็ถือถุงกระดาษใส่กล่องอาหารร้านดัง ที่ราคาอาหารก็โคตรแพง อีกมือยกแก้วกาแฟยี่ห้อดังราคาแพงหูดับตับปลิ้นขึ้นดูดด้วยท่าทางที่โชติกากับพิมพ์ผากมองหน้ากัน แล้วก็คิดตรงกันโดยไม่ต้องพูดออกมา
ดัดจริต... คำเดียวสั้นๆ อ้อ.. แถม น่าถีบ อีกหนึ่งคำ...
“แหม... ก็ใคร จะไปมีเงินทองกองท่วมหอย เอ๊ย ท่วมหัว มีทรัพย์สินมีกินมีใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด แต่ต้องมาเป็นลูกจ้าง ทำงานงกๆ แถมตำแหน่งก็ด้อยน้อยกว่าฉันที่เป็นแค่ทายาทสัปเหร่อมืออาชีพ อย่างเธอล่ะจ๊ะ คุณหนูเชอแรดดด เอ๊ย เชอร์รี่ ศรีสยาม นามก็เพราะอย่าง คุณชาลินี มณีสวรรค์สร้าง ที่ทั้งสวย ทั้งปากดีปากเก่งงงงงงงง”
เป็นพิมพ์ผกาที่เอ่ยขึ้น ทั้งจีบปากจีบคอพูดด้วยท่าทางที่เลียนแบบชาลินี คู่กัดเจ้าเก่าขาประจำที่มาพร้อมเพื่อนลิ่วล้ออีกสองคน พิศสมร กับ หนึ่งฤทัย ซึ่งทั้งสามสาวนี้ มักจะชอบมาหาเรื่องแขวะและเหน็บแนมเธอกับโชติกาเสมอ
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน ที่ทำให้ชาลินีชอบมาหาเรื่องพวกเธอนัก ทั้งๆ ที่อยู่กันคนละแผนก และเธอกับโชติกา ก็ไม่เคยไปหาเรื่องระรานชาลินีกับลิ่วล้อเลยสักครั้ง
“นี่ฉันพูดด้วยดีๆ นะยะ” ชาลินีเสียงเขียว
“อ้าว แล้วนี่ฉันพูดไม่ดีตรงไหน มีแต่ชื่นชมเธอเลยนะ แล้วก็ยังพูดจริงทุ้กกก คำเลยนะจ๊ะ”
พิมพ์ผกาลุกขึ้นเผชิญหน้ากับชาลินีที่ทำท่าจะดีดดิ้น ทั้งที่ตัวเองเข้ามาหาเรื่องก่อน แล้วยังเรียกพวกเธอว่า อีกา แล้วยังแทนคำเรียกพวกเธอว่า ตัว อีกต่างหาก พวกเธอไม่เอาจานส้มตำปูปลาร้าฟาดปาก ก็บุญหัวเท่าไหร่แล้ว
“แกประชดประชันฉัน”
“แล้วที่เธอเรียกพวกฉันว่า อีกาล่ะ มันดีกว่าตรงไหน นี่จะบอกอะไรให้นะ ปาหินใส่หัวคนอื่นแล้วมาทำดัดจริต ทำตัวเป็นผู้ถูกกระทำตอนเขาปาหินกลับ มันเรียกว่าอะไรนะ..”
พิมพ์ผกาเป็นคนประเภทกล้าได้กล้าเสีย แถมเก่งรอบด้าน และไม่เคยกลัวใคร ทั้งยังไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายข่มเหง มีหรือจะยอม ปาหินมาก็ปาหินกลับสิ จะยอมทำไม หรือถ้าจะเอาดอกไม้ ก็คงเป็นดอกไม้จันท์เท่านั้นล่ะ
“ผิง ไม่เอาน่า คนมองใหญ่แล้ว”
โชติกาที่เป็นคนอ่อนโยน น่ารักและแน่นอนว่าอ่อนแอกว่าเพื่อนรักที่มักออกหน้าปกป้องอยู่เสมอ เอ่ยขึ้นพลางมองไปรอบๆ และสายตาของเธอก็ไปสะดุดที่วิคเตอร์กับราเมศ ที่ไม่รู้ทำไมวันนี้มาที่โรงอาหาร แต่อยู่ในโซนของห้องอาหารผู้บริหาร แต่กระจกใสนั้นทำให้สามารถมองเห็นโซนที่ห้องอาหารของพนักงานทั่วไป
“ยายนี่อีกคน ทำตัวเป็นนางเอกผู้แสนดี สนิมสร้อยซะจริ๊ง”
ชาลีนีหันมาจิกตาใส่โชติกา แล้วสองลิ่วล้อก็ก้าวขึ้นมายืนข้างๆ ซ้ายขวา พิมพ์ผกายิ้มเยาะ ยกมือขึ้นกอดอกแล้วเดินเข้าไปหาด้วยท่าท่างเอาเรื่อง ดวงตาคมสวยแข็งกร้าวมองพิศสมรกับหนึ่งฤทัยนิ่ง จนทั้งสองรีบก้าวถอยหลังไปยืนอยู่ด้านหลังชาลีนี และท่าทางของทั้งสองทำให้ชาลินีไม่พอใจมาก
“นี่พวกแก จะไปกลัวมันทำไม มันตัวเล็กกว่าแถมมันก็มีแค่คนเดียว นังแก้มน่ะมันไม่กล้าสู้พวกแกหรอก”
ชาลินีกัดฟันพูดกับเพื่อนทั้งสองพอได้ยินกันสามคน แต่พิมพ์ผกาที่เอียงหูฟังอย่างตั้งใจก็ได้ยิน
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าฉันไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจ แต่การที่เธอมาว่าฉันแบบนี้ เพื่อนฉันคงไม่ทน”
โชติกาพูดเรื่อยๆ น้ำเสียงนุ่มนวลในแบบของตน แต่คนฟังอย่างพิมพ์ผกานั้นรู้ดีว่า ในใจของโชติกานั้นกรุ่นโกรธเพียงใด
ตอนที่36. ตอนอวสาน“เป็นไงล่ะหมดสภาพเลยเหรอจ๊ะพี่เลี้ยงคนเก่ง”“ไม่ไหวๆ มะลิของนอนงีบสักหน่อย ตาจะปิดแล้ว”พูดจบมัลลิกาก็หลับไปทันที โชติกาหัวเราะร่วนอย่างขบขันแกมเอ็นดู สมน้ำหน้าและสงสารในเวลาเดียวกัน“เป็นไงครับที่รัก เด็กแสบสามคนหลับแล้วหรือ”วิคเตอร์เดินมาโอบเอวภรรยาแล้วหอมแก้มนวลอย่างรักใคร่“หมดฤทธิ์สิ้นสภาพตามที่เห็นค่ะ”แล้วทั้งสองก็หัวเราะออกมาพร้อมกันอีกครั้งเมื่อมองไปยังลูกๆ และมัลลิกาที่นอนน้ำลายยืดแข่งกับน้องๆ พร้อมด้วยเสียงกรนเบาๆ“ให้เด็กๆ พักกันเถอะ ส่วนเราก็...”สายตาพราวพรายของสามีทำให้แก้มสาวแดงปลั่งขึ้นมาอย่างขัดเขิน โชติกาจึงทุบต้นแขนของสามีเบาๆ แก้เก้อเขิน“บ้า พี่วิคเนี่ย ไหนว่าทนได้ไงคะ”“ก็ทนได้แหละครับ แต่ถ้าที่รักจะเมตตา...”เขาเว้นวรรคไว้ให้เข้าใจกันสองคน โชติกเมิหน้าหนีดวงตาคมพราวระยับของเขาแล้วอมยิ้ม“ก็ไปที่ห้องเราสิคะ จะมายืนทำตาเจ้าชู้ใส่แก้มทำไม”พูดแล้วเธอก็เดินนำหน้าเขาไปก่อน วิคเตอร์ดีใจจนกระโดดตัวลอยก่อนจะรีบเดินแกมวิ่งไปโอบกอดร่างอรชรของภรรยา แล้วอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน เดินเร็วๆ เข้าห้องไป เหมือนว่าเธอเดินช้าไม่ทันใจอย่างไรอย่างนั้นประตูห้องที่ปิดส
ตอนที่35หญิงสาวพูดพร้อมกับทำท่าแง่งอนไม่จริงจังนัก แต่มุมปากก็มีรอยยิ้มน้อยๆ วิคเตอร์มองภรรยาอย่างรักใครหลงใหลจนหมดหัวใจ“ยายตัวร้ายก็คือเมียพี่นี่เอง”“แน่นอนค่ะ แม้แก้มจะเป็นหญิงสาวที่ดูอ่อนแอ บอบบางน่าทะนุถนอม แต่แก้มน่ะเป็นนักสู้นะคะแล้วก็ไม่ยอมใครง่ายๆ ด้วย แต่ที่ยอมพี่วิคง่ายๆ ก็เพราะแก้มรักพี่วิคไงคะ”“โถ.. ที่รักของพี่ พี่ก็รักเกรซครับ ทั้งรักทั้งหลงจนไปไหนไม่ได้แล้ว เกรซจะบีบพี่ก็ตาย จะคลายพี่ก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น..”ชายหนุ่มบอกพร้อมทั้งหอมแก้มนวลซ้ายขวาอย่างแสนรักแม้ว่าเขาจะสามารถออกเสียงเรียกชื่อเล่นของเธอได้อย่างชัดเจนแล้ว แต่วิคเตอร์ก็ยังเรียกเธอว่าเกรซ เขาให้เหตุผลว่า เธอเป็นแก้มของใครๆ แต่เกรซเป็นของเขาคนเดียว มีเขาเท่านั้นที่มีสิทธิ์เรียกเธอว่า เกรซ เกรซ... ผู้ซึ่งเป็นหญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในใจ เป็นผู้หญิงที่เขารักเทิดทูน ให้เกียรติ ให้ความรักความเอาใจใส่เธอด้วยความรักทั้งหมดของหัวใจ“ทูนหัวของแก้ม” หญิงสาวประคองใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างรักใคร่เช่นกัน“งั้นให้รางวัลพี่อีกครั้งได้มั้ยครับ”“ไม่ได้ค่ะ พอแล้ว..”หญิงสาวแก้มแดงจัดพร้อมทั้งบิดเนื้อที่เอวสอบไปหนึ่งทีอย่างขัด
ตอนที่34.“ผิงน่ะมาตรฐานสูงค่ะพี่พัน ใครจะมาเป็นสามีผิง บอกเลยต้องหล่อและรวยมากเท่าๆ กับท่านประธาน และต้องช่างเอาอกเอาใจ ไม่เถียง ไม่พูดมาก ไม่ออกนอกลูกนอกทาง เชื่อฟัง ตามใจผิงทุกอย่าง ห้ามขัดใจ และผิงต้องเป็นที่หนึ่ง หนึ่งเดียวเท่านั้น ที่สำคัญพวกเจ้าชู้กระลิ้มกระเหรี่ยไปทั่วเนี่ย อย่าหวัง...”พิมพ์ผกาเองก็กอดอกเชิดหน้าอย่างมาดมั่น ทั้งปรายตามองราเมศเหมือนจะบอกให้รู้เป็นนัย“ได้ยินแล้วนะไอ้ราม”“ชัดๆ เต็มๆ สองหูเลยเพื่อนรัก..”“เอ๊ะ พี่พันเนี่ย มันเกี่ยวอะไรกับอีตานี่ด้วย”“ไม่รู้ไม่ชี้”พนาหัวเราะร่วน พลางแปะมือกับราเมศอย่างถูกอกถูกใจ ยิ่งทำให้พิมพ์ผกาหน้างอง้ำกว่าเดิม“เนี่ยล่ะนะเขาว่ากันว่า คู่กันแล้วจะไม่แคล้วกัน”โชติกาเอ่ยขึ้นหลังจากเธอกับวิคเตอร์นั่งเป็นผู้ชมมานาน“เธอก็เป็นกับเขาด้วยนะยายแก้ม”“แหม.. ก็แค่อยากให้เพื่อนมีความสุขเหมือนกัน ใช่มั้ยคะพี่วิค” โชติกาหันไปออดอ้อนสามีเสียงหวาน“ใช่ครับที่รัก พี่ว่าเราอาจจะได้ไปงานแต่งใครสักคนเร็วๆ นี้แน่นอน”วิคเตอร์เองก็เออออไปกับภรรยา ซึ่งท่าทางหวานชื่นของทั้งสองทำเอาทุกคนต่างเหลือบตามองบนอย่างหมั่นไส้“โอ้ยยย เลี่ยนจะแย่แล้วไปหาอะไ
ตอนที่33.“พี่รักเกรซ นายวิคเตอร์สุดหล่อคนนี้รักเกรซที่สุด รักมานานแล้ว และเพราะกลัวว่า ความรักจะทำให้ชีวิตพังก็เลยเลือกที่จะปฏิเสธหัวใจตัวเองและฉีกสัญญาของเรา ทำท่าเย็นชาหมางเมินใส่ แต่สุดท้ายแล้ว นายวิคเตอร์สุดหล่อคนนี้ ก็หนีหัวใจตัวเองไม่พ้น อย่างที่เกรซรู้ว่าพี่พูดไม่เก่ง เก่งแสดงมากกว่า แต่มักแสดงออกตรงข้ามกับความรู้สึก จนเมื่อจะเสียเกรซไปจริงๆ พี่ถึงได้รู้ตัวว่าจะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้เกรซหนีไป ก็เลยทำทุกวิถีทางและวางแผนต่างๆ เพื่อให้ได้เกรซกลับมาอยู่ในชีวิตพี่อีกครั้ง พี่หลอกเกรซมาแต่งงานด้วย โดยการอ้างสัญญางี่เง่าเอาแต่ใจ ทั้งยังหลอกว่าคุณแม่เป็นโรคหัวใจ ส่วนมะลิก็ไปสร้างเรื่องว่าป้าวีนาเป็นโรคร้าย แต่จริงๆ แล้วเรื่องโกหกทั้งนั้น และจริงๆ แล้ว สัญญางี่เง่านั้นพี่ฉีกมันทิ้งไปนานแล้ว และก็ไม่คิดจะทำตามสัญญาด้วย เพราะพี่จะไม่ยอมหย่ากับเกรซเด็ดขาด ที่ผ่านมาพี่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เกรซเห็นถึงความจริงใจของพี่ และหวังว่าเกรซจะเห็นมัน เกรซ... อยู่กับพี่นะ อยู่เป็นภรรยาของพี่ตลอดไป นี่คงเป็นคำพูดที่ยาวที่สุดแล้ว แต่คำสั้นๆ ที่ว่า พี่รักเกรซ นั้นจะยืนยาวตลอดไป...”โชติกาน้ำตาซ
ตอนที่32..“เป็นไรมากมั้ยจ๊ะหนูแก้ม” นางเองก็อดถามอย่างห่วงใยลูกสะใภ้ไม่ได้“ไม่ ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่”“จริงนะเกรซ ไม่เป็นไรจริงๆ นะ”วิคเตอร์ยังลูบหลังลูบไหล่ภรรยาอย่างห่วงใย แววตาของเขาแสดงออกถึงความรักใคร่อย่างจริงใจจนหญิงสาวหัวใจพองโต ก่อนจะยิ้มบางๆ ให้เขา“แก้มไม่เป็นไรแล้วค่ะ”“เอาล่ะๆ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว นี่จ้ะรายละเอียดของที่พัก แม่จองให้เต็มที่เลยสองอาทิตย์”“สองอาทิตย์เลยหรือคะ”“ใช่จ้ะ จะมากกว่านี้ก็ได้นะจ๊ะ เรื่องงานไม่ต้องห่วงเลยเพราะน้องรามสุดหล่อของแม่จะจัดการแทนเอง”“งั้น ผมก็ขอบคุณคุณแม่มากเลยนะครับ”“แม่ไม่กวนแล้ว จะออกไปทำผมเสียหน่อย แล้วก็จะไปซื้อของไว้ใส่บาตรพรุ่งนี้ด้วย แม่ไปก่อนนะจ๊ะ”ว่าแล้วคุณวิคกี้ก็เดินออกไปจากห้องนั่งเล่น ปล่อยให้หนุ่มสาวอยู่กันเพียงลำพัง“เราไปเตรียมของเดินทางกันเถอะ” วิคเตอร์เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งดึงมือเธอให้ลุกขึ้นตาม“แต่ว่า..”“ไม่มีแต่ครับที่รัก เราจะไปฮันนีมูนกันสองอาทิตย์ และเราจะไม่ทำให้พวกผู้ใหญ่ผิดหวัง ด้วยการมีเจ้าตัวเล็กมาฝากพวกเขา”“บ้า.. พูดอะไรแบบนี้คะ เราแค่แต่งงานกันหลอกพวกผู้ใหญ่เท่านั้นเอง”แม้จะเขินอายกับคำพูดของเขา แต่สัญญาที่ม
ตอนที่31.จากวันนั้นถึงวันนี้ก็เกือบจะสามเดือนแล้ว ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาวิคเตอร์ไม่เคยทำให้เธอรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่า ไม่เคยล่วงเกินหรือเอาแต่ใจตัวเองข่มเหงน้ำใจเธอ แต่เขากลับให้เกียรติ และเอาใจใส่เธออย่างดี เขาเปิดเผยสถานะของเธออย่างไม่ปิดบัง และดูเขาจะยินดีและภาคภูมิใจที่ได้แต่งงานกับเธอ ทุกคนในครอบครัว รวมถึงคนรอบข้างต่างก็ให้การยอมรับเธอและการแต่งงานครั้งนี้ ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี เธอไม่ต้องอยู่ในความลับ ไม่ได้เป็นนางบำเรอของเขาอีกแล้ว แต่เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา...“พี่ต้องการเกรซ”เสียงแหบพร่าของเขาทำให้โชติกาตื่นจากภวังค์คิดอันแสนสับสน แก้มนวลร้อนจัดลามไปทั่วทั้งกายสาว ความวาบไหวรัญจวนโอบล้อมทุกทิศทาง ทำให้เธอไม่อาจจะต้านทานมนต์เสน่ห์แห่งเพศรสที่เคยมีร่วมกันได้“พะ พี่วิค..”“ได้ไหมครับ...”หญิงสาวไม่ได้เอ่ยออกมา แต่ดวงตากลมโตหลับพริ้มลงช้าๆ เป็นคำตอบ และนั่นก็ทำให้หัวใจหนุ่มพองโต ความสุขจนล้นอกมันเป็นแบบนี้นี่เองวิคเตอร์ครางเสียงพร่าชิดริมฝีปากสาวแสนหวาน เขารู้สึกปวดร้าวไปทั้งกายแกร่ง โดยเฉพาะกึ่งกลางลำตัวที่กำลังร้อนระอุ แทบแตกระเบิดด้วยความต้องการที่เก็บกักมาน