เจ้าจันทร์เผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เมื่อคิดไปถึงว่าเธอกำลังจะได้เห็นส่วนลับของเจ้านายตัวเอง
รองเท้าส้นหักนั่นถูกถอดออกไปแล้วท่ามกลางสายตาเสียอกเสียดายของสิงหราช หญิงสาวค่อย ๆ คุกเข่าลงตรงหน้าเมื่อเดินมาถึง เธอยื่นมือที่ติดจะสั่นเล็กน้อยออกไปแล้วจัดการปลดเข็มขัดของเขาออก
เข็มขัดผู้ชายปลดยากกว่าที่คิด แต่ก็ไม่ยากเกินความพยายาม…
"คุณ…ฉันยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะคะ"
เธอร้องบอกเดี๋ยวนั้น ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองเจ้าของร่างสูงใหญ่
นี่แค่ยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ และรูดซิปกางเกงลงแบบที่เคยเห็นจากในหนังติดเรท แค่นั้นก็ทำเอาส่วนลับแข็งคึกจนดันเป้ากางเกงขึ้นมาเป็นรูปทรงแล้วหรือ
"หึ ผมไม่รู้ว่าคุณจะยั่วตาใสเก่งขนาดนี้" สิงหราชกัดฟันพูดคล้ายกำลังอดทน
เจ้าจันทร์ขมวดคิ้วเข้าหากัน เธอสบตาเขาอีกหนในตอนที่กล่าวปฏิเสธออกไป "ยั่วอะไร แค่รูดซิปเนี่ยนะคะ"
"ใช้ปากรูดซิปกางเกงให้ผู้ชาย ถ้าไม่เรียกยั่วจะเรียกอะไร หืม?"
คำถามนั้นเจ้าจันทร์เองก็ตอบไม่ได้ เธอแค่อยากลองทำแบบนั้นสักครั้งก็เท่านั้นเอง
แต่เพราะมืออุ่น ๆ ของสิงหราชนั่นแหละที่ยื่นมากุมใบหน้าด้านขวาของเธอเอาไว้ ไหนจะนิ้วโป้งที่ไล้แก้มเธอไปมา แววตาที่ร้อนแรงของเขามันทำเอาเธอคิดหาคำพูดไม่ออกเลยสักคำ สุดท้ายเลยกลายเป็นเธอที่เงียบเหมือนกับยอมรับคำที่เขาพูดมา
"ทำต่อสิ ถ้าคุณทำให้ผมเสร็จได้…สัญญาอะไรนั่นผมจะเขียนแล้วเซ็นมันเดี๋ยวนี้เลย"
"ไหนว่าจะทดสอบความเข้ากันได้ เป็นเซ็กซ์พาร์ทเนอร์มันก็ควรจะวินวินนี่คะ จะให้ฉันช่วยคุณจนเสร็จฝ่ายเดียวได้ยังไง"
เจ้าจันทร์ที่เริ่มสนุกยิ้มที่มุมปาก เรื่องผลประโยชน์ เธอเองก็เขี้ยวไม่ต่างจากเขาหรอก
"เชิญที่ห้องพักด้านในดีกว่าค่ะท่านประธาน รอบทดลองแบบนี้ ดิฉันว่าหกเก้าน่าจะเหมาะสมที่สุดค่ะ"
สิงหราชถูกใจจนหลุดหัวเราะในลำคอ มองคนที่ยืนขึ้นและผายมือไปทางห้องพักซึ่งอยู่ด้านหลัง
ห้องที่มีเตียงนอนพร้อมสำหรับกิจกรรมที่เราจะทำร่วมกันหลังจากนี้
ไม่รู้จะแปลกใจเรื่องไหนก่อนดี ระหว่างเรื่องที่ถูกชวนเข้าห้อง กับเรื่องที่เธอรู้จักท่าหกเก้าตั้งแต่วันแรกที่นอนด้วยกัน
เพิ่งทำงานด้วยกันวันแรกแท้ ๆ แต่ทำไมถึงรู้ใจกันนักนะ แบบนี้ค่อยสมน้ำสมเนื้อขึ้นมาหน่อย
"เชิญคุณเลขานำเข้าไปเลยครับ และถ้าจะนับความเท่าเทียม…ก็ถอดกระโปรงคุณออกด้วยล่ะ ผมถอดคุณถอด วินวิน"
เจ้าจันทร์หันหลังแล้วเดินหนีเข้าห้องไปเพื่อหลบซ่อนใบหน้าเขินอายของตัวเอง หัวใจของเธอเต้นกระหน่ำเมื่อจะได้ลองของจริงเป็นครั้งแรก อยากรู้จนใจสั่นไปหมดว่ามันจะเหมือนตอนเธอใช้ของเล่นหรือเปล่า แต่ของที่มันอุ่นร้อนก็คงจะเสียวกว่าของเย็นชืดล่ะมั้ง…
หญิงสาวที่เข้ามาถึงด้านในห้องก็จัดการเปิดเครื่องปรับอากาศเป็นสิ่งแรก ก่อนที่เธอจะจับขอบกระโปรงเอาไว้เพื่อเตรียมรูดซับที่ด้านข้างลงมา
ทว่าก่อนที่จะทำ เธอกลับนึกบางอย่างขึ้นมาได้เสียก่อน
ทำไมจะต้องรีบถอดด้วยล่ะ?
ถอดตอนนี้ก็ไม่น่าสนใจน่ะสิ
รอจนสิงหราชเดินตามเข้ามา เจ้าจันทร์จึงจัดการให้เขานั่งลงที่ปลายเตียง เห็นเจ้าตัวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีเธอก็ยิ่งรู้สึกพอใจ อดไม่ได้ที่จะแกล้งให้เขาอดทนรอมองเธอค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าท่อนล่างอย่างเชื่องช้า
รู้ดีว่าหากเขาอดอยากมาสิบกว่าปีเพราะส่วนนั้นไม่สามารถแข็งตัวจริงตามเอกสารทางการแพทย์บอก การแกล้งให้รอแบบนี้ก็ยิ่งยั่วให้ตื่นเต้นดีไม่ใช่หรือไง
"ขยันทำตัวน่ามันเขี้ยวนักนะคุณเลขา ไม่ดีเลยรู้ไหม" ชายหนุ่มว่าอย่างไม่จริงจังนัก
"อย่ามาทำเป็นพูดดีไปหน่อยเลยค่ะ ที่ฉันเห็น คือคุณจ้องเหมือนอยากจะเข้ามาถอดมันออกเองเลยนะ ท่านประธาน"
พรึ่บ!
เสื้อผ้าของหญิงสาวก็ถอดออกกองลงที่พื้น
ร่างกายท่อนล่างของเจ้าจันทร์เปลือยเปล่าต่อหน้าชายหนุ่ม เธอขยับเดินเข้าไปหาชายเจ้าของห้องโดยที่สีหราชก็ลุกขึ้นยืนอย่างรู้หน้าที่ ดวงตาคมกริบเฝ้ามองหญิงสาวที่กำลังช่วยเขาปลดกางเกงออกไป จนส่วนแข็งขืนที่ถูกเก็บซ่อนไว้ด้านในสุดได้ออกมารับลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงาน
"อ่าาา 56 เลยหรือเปล่านะ" หญิงสาวพึมพำเสียงเบาเมื่อเห็นว่ามันทั้งใหญ่ทั้งยาวกว่าของเล่นของเธอไม่ใช่น้อย
สิงหราชเองก็ไม่ได้เห็นขนาดที่ผงาดชันของตนเองมานาน เขาไม่แน่ใจว่ามันใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า แต่ด้วยขนาดเท่านี้ก็ทำเอาเขาอดภูมิใจไม่ได้
กลัวแต่ว่ามันจะใหญ่จนสร้างความเจ็บแสบให้คนที่ต้องรองรับก็เท่านั้น
คู่รักกำลังจะหยอกล้อกันบนเตียงอีกสักหน่อย ริมฝีปากกำลังจะสัมผัสกันอยู่แล้วเชียวถ้าไม่มีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้น มันคือเสียงโทรศัพท์มือถือของสิงหราชที่แผดเสียงดังอยู่ไม่ไกล จนเขาทนหัวเสียไม่ไหวยื่นมือไปคว้ามากดรับสาย โดยที่เจ้าจันทร์ก็ยังนั่งนิ่งอยู่ในอ้อมแขน รับฟังปลายสายไปพร้อมๆ กันเมื่อเขากดสปีกเกอร์โฟน "ไง มีอะไร" "โอ้โห ถามมาได้ พี่ให้พ่อโยนวีกรุ๊ปมาให้ผมดูแลใช่ไหม ฝีมือพี่ใช่ไหมวะ!" ปลายสายคือเหมราชที่โวยวายกลับมา "อ่า ใช่ ถ้าแกไม่ชอบก็ปฏิเสธไปสิ" สิงหราชบอกไปอย่างไม่ทุกข์ร้อน เจ้าจันทร์เองก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ท่าทางน่ารักของเธอทำเอาสีหราชหมันเขี้ยวก้มหน้าลงมาหอมไปอีกฟอดใหญ่ "ปฏิเสธบ้าอะไรล่ะ พ่อยอมที่ไหน อีกอย่าง ผมอยากทำเกี่ยวกับอุปกรณ์กีฬามาตั้งนานพี่ก็รู้ พี่แม่ง ไม่บอกกันล่วงหน้าบ้างเลย คุณเจ้าอีกคน ก็นึกว่าจะควบรวมกิจการเฉย ๆ ใครจะรู้ว่าจะยกให้ผมวะ" "อ้าว ๆ นี่ตกลงชอบหรือไม่ชอบกันแน่วะ งงแล้วนะโว้ย" "ชอบ แต่ไม่ชอบที่พี่ไม่บอกก่อนไงวะ!" "ฮ่าๆ ไอ้บ้านี่" สิงหราชหัวเราะใส่น้องชาย เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมันจะบอกชอบอะไรเลยที่เขาหยิบยื่นให้ "ถูกใจก็ดีแล้วไง ทีนี้ก็
เจ้าจันทร์มองคนเสนอความตื่นเต้นอย่างนึกสนุก ใครกันแน่ที่ร้ายปากเขาบอกยอมลงให้เธอ แต่สุดท้ายราชสีห์ก็ร้ายอยู่ดี แต่ก็เอาเถอะ ไม่ว่าครั้งนี้ หรือครั้งไหน ๆ เธอก็จะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยู่เหนือเขา ก็เขาบอกเองนี่ อยากอยู่ใต้เท้าเธอ มันก็ต้องเป็นเช่นนั้นตลอดไป "ยิ้มอะไรครับ ไม่อยากเห็นผมเจ็บเหรอ" "เปล่าค่ะ แค่กำลังคิดว่าจะข่วนให้เลือดซิบตรงส่วนไหนดีต่างหากล่ะ" "ฮ้าาา...ร้ายไม่เบา" "ก็มีแฟนเจ้าเล่ห์อย่างคุณ เจ้าก็ต้องเป็นยิ่งกว่าสิคะ" "ฮ่าๆๆ ผมชอบคุณจัง" "ไม่เอาค่ะ คุณต้องรักเจ้าให้มากกว่าชอบสิ" สิงหราชยกมุมปากขึ้นยิ้ม ก่อนจะจับมือของเธอมาวางลงที่แผงอก เขากดนิ้วเธอที่มีเล็บยาวๆ ลงกลางร่องอกของตัวเอง เจ้าจันทร์มองการกระทำนั้นอย่างพอใจ แฟนของเธอมีมุมดิบเถื่อนเช่นนี้ด้วยเหรอ ความแบบนี้ก็ไม่บอก "อ่าส์...คุณเจ้า เล็บคุณทำผมเสียวจัง" ยิ่งเขาพูดแบบนั้น เจ้าจันทร์ก็ยิ่งสนุก คราวนี้เป็นเธอเองที่กดปลายเล็บลากยาวไปบนแผงอกกว้าง ก่อนกดลึกเรื่อยลงมาถึงหน้าท้อง ร่างบางถอยต่ำลง เพื่อให้นิ้วลากไปถึงจุดหมาย เธออยากจะกดปลายเล็บลงกลางรูเล็กๆ นั่นเหลือเกิน "ซี้ดดด...ที่รัก" สิงหราชครางออกมาทันทีท
เจ้าจันทร์กลับมาถึงห้องพักในคอนโดมิเนียมที่สิงหราชเป็นเจ้าของ เปิดประตูเข้าไปได้ไม่ทันไรก็ได้กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำแบรนด์หรูลอยฟุ้งไปทั่วห้อง อาาา...แฟนของเธอน่ารักเสมอ เขารู้ว่าเธอชอบกลิ่นนี้ถึงได้อาบน้ำรอไว้ก่อนเลย หญิงสาวยิ้มหวานพลางสูดดมกลิ่นหอมๆ นั้นจนชุ่มปอด ก่อนเดินเข้าไปยังห้องนอน แล้วพบสีหราชเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี "กลับมาแล้วเหรอกระต่ายน้อยของผม" ถึงจะจั๊กจี้กับคำเรียกแทนตัวแบบนั้น แต่เจ้าจันทร์ก็ยิ้มแก้มแทบปริรีบโผกายเข้าสวมกอดเขาแน่นจะว่าไป เป็นกระต่ายน้อยในอ้อมกอดราชสีห์ก็ถือว่าโอเคนะ อย่างน้อยก็ได้เปลี่ยนบทบาทมาอ่อนแอดูบ้าง ก็เธอน่ะ เพิ่งฟาดฟันกับวิสาลีนีมาหมาด ๆ หมดพลังเปลื้องน้ำลายไปเยอะเชียวกว่าอีกฝ่ายจะยอมสงบปากสงบคำอยู่ในที่ของตัวเอง อีกอย่าง เธอเองก็อยากได้กอดอุ่นๆ มาเติมกำลังใจสักหน่อย เพราะเรื่องนี้มันคงไม่จบลงง่าย ๆ แค่นี้ ในเมื่อวิลาสินียังมีหุ้นเหลืออยู่ยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ คงไม่ต้องบอกเลยว่าการประชุมบอร์ดบริหารรอบหน้าจะมีการเปลี่ยนตำแหน่งภายในกันอย่างไรบ้าง แม้การจะเปลี่ยนก็ยังต้องฟังผลโหวตในที่ประชุมอีกครั้งอยู่ดี แต่ใครจะสนกันล่ะอีกไม่กี่วันนี้คนร
เจ้าจันทร์นึกสงสารอีกฝ่ายอยู่บ้างเช่นกัน แต่พอนึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้เคยตั้งใจอ่อยสิงหราช ตั้งใจแบล็กเมล์คนรักของเธอ เจ้าจันทร์ก็แทบไม่หลงเหลือความเห็นใจอะไรอีก ในตอนนั้นถ้าปล่อยให้วิลาสินีทำสำเร็จ ก็คงเป็นแอลกรุ๊ปนั่นแหละที่จะต้องเดือดร้อนเสียหาย ถึงเวลานั้นความสงสารจะช่วยอะไรได้ คนเราไม่ได้กินความสงสารเป็นอาหารสักหน่อย ในเมื่อเงินก่อตั้งและเงินหมุนเวียนในบริษัทนี้ก็มาจากสามีของวิลาสินีมาตั้งแต่ต้น กับคนที่วัน ๆ เอาแต่วางท่าเป็นนางพญา ชูคอว่าเป็นเจ้าของบริษัทแต่กลับไม่เคยบริหารอย่างจริงจัง คนแบบวิลาสินีมองอย่างไรก็ไม่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทเลยสักนิด สู้จ้างคนเก่ง ๆ มานั่งบริหารยังจะเข้าท่ากว่า "คุณสิงหราชไม่รู้เรื่องนี้หรอกค่ะ ส่วนคนที่ช่วยฉันคุณต้องไม่เชื่อแน่ว่าเป็นใคร" เจ้าจันทร์ยกยิ้ม ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับไปไม่ถึงดวงตา "บังเอิญจังเลยนะคะที่ฉันรู้จักคนค่อนข้างเยอะ ทีแรกก็ไม่มั่นใจหรอกว่าวิลาสินีที่ว่าจะใช่คุณหรือเปล่า แต่พอสืบไปสืบมานิดเดียวก็ได้รู้ความจริงเข้าจนได้" "เลิกอ้อมค้อมซะที! รีบ ๆ บอกมาซะ ฉันจะไปเล่นงานมัน ฉันไม่เอามันไว้แน่!" "คนคนนี้เขาก็รอคุณอยู่เหมือนกันค่ะ คุณจำ
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงถัดมาสิงหราชก็นั่งเซ็นสัญญากับวิลาสินี เขาได้หุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์พร้อมกับแผนงานดี ๆ ที่คนรักของเขาเตรียมไว้ให้ เซ็นไปยิ้มไปไม่ได้สนใจสีหน้าอมทุกข์ของวิลาสินีเลยแม้แต่น้อย ในเมื่อทางนั้นเองก็ใช่วิธีสกปรก คิดจะแบล็กเมล์เขา ถ้าอย่างนั้นเจ้าตัวก็ควรรู้ไว้ด้วยว่า กล้าที่จะทำผิดก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมาให้ได้ ในเมื่อวิลาสินีมีโอกาสแต่ดันทำพลาดไปแล้ว ต่อไปก็ลองเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบดูบ้าง ให้เหมือนกับตอนที่เธอคิดทำลายคนอื่นนั่นแหละ "ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะครับ คุณวิลาสินี" สีหราชกล่าวทั้งใบหน้าประดับรอยยิ้ม "หวังว่าต่อไปนี้คุณจะรู้ว่าควรวางตัวยังไง อยู่รอรับผลประโยชน์อย่างเงียบๆ แล้วทุกอย่างจะดีเอง" "คุณ…หมายความว่ายังไง" "ผมก็แค่พูดเผื่อเอาไว้ คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอครับ ว่าแฟนของผมค่อนข้างที่จะ…กัดไม่ปล่อย คนเก่ง ๆ แบบนั้นอาจจะไม่หยุดแค่นี้ก็ได้นะครับ" "คุณ! นี่พวกคุณรวมกันทำอะไร หรือว่าพวกคุณคิดจะผิดข้อตกลง คุณจะแฉฉันใช่ไหม!" เห็นท่าทีราวกับคนจิตตกของวิลาสินีแล้วสิงหราชก็ได้แต่ส่ายหน้า ไม่รู้ว่าโดนเจ้าจันทร์ขู่อะไรไปบ้าง เพราะตอนนั้นเขาเองก็ฟังไม่ได้ชัดทุกคำ แต่ดูไปแล้
ในเช้าวันนี้ สิงหราชได้รับรายงานจากเลขาบอกว่า วิลาสินียอมขายหุ้นให้กับเขา ทั้งยังมีแผนงานใหม่ที่น่าสนใจส่งแนบท้ายมาด้วย การที่อยู่ ๆ วิลาสินียอมอย่างง่ายดายเช่นนี้ สำหรับสิงหราชแล้ว เขาไม่แปลกใจใด ๆ เหตุผลนั้นมีแค่ข้อเดียว... เหตุผลที่ทำให้เขาอึ้งจนพูดไม่ออกเมื่อได้เห็นมันด้วยตาตนเอง ชายหนุ่มบิดมุมปากขึ้นยิ้ม วันนี้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษเมื่อนึกไปถึงเรื่องเมื่อวาน อาาา... ไม่ใช่เรื่องที่เขาจับเจ้าจันทร์แอบแซ่บในห้องทำงานหรอก หากแต่เป็นเรื่องอื่นที่ดีมากไปกว่านั้นมากกว่า ไม่คิดเลย...ว่าเขาจะเจอเพชรแท้ ไม่คิดอีกล่ะ...ว่าเขาจะโชคดีมากขนาดนี้ สิงหราชนั่งทำงานอย่างสบายอารมณ์ รออยู่เกือบครึ่งวันข้อมูลทุกอย่างก็ถูกส่งเข้ามาที่อีเมล์ส่วนตัว เขาไล่เปิดอ่านทั้งหมด รอยยิ้มแห่งชัยชนะปรากฎขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาคนรักของเขาที่คงจะทำงานอยู่ที่ห้อง เจ้าจันทร์รับสายเขาในทันทีก่อนจะทักทายกลับมาเสียงใส "คุณเจ้า ขึ้นมาหาผมหน่อยสิ พอดีมีเรื่องด่วน อยากให้คุณช่วยดูอะไรหน่อย" สิงหราชวางสายลงหลังจากปลายสายตอบกลับมา เขาอดยิ้มไม่ได้เมื่อได้อ่านข้อความในเอกสารนั่นอีก