เพราะดันไปล่วงรู้ความลับของประธานหนุ่มเข้าทำให้เลขาสาวอย่างเธอต้องถูกดึงเข้าไปวังวนแสนหวามของเขา สิงหราช ผู้บริหารหนุ่มไฟแรงแห่งบริษัทแอลกรุ๊ป เพียบพร้อมทั้งหน้าตา ฐานะ และการศึกษา ทว่าเขากลับมีความลับบางอย่างที่มิอาจให้ใครล่วงรู้ได้ เจ้าจันทร์ เลขาสาวสุดเนี้ยบ และฉลาดเป็นกรดที่ดันไปล่วงรู้ความลับของท่านประธานเข้าโดยบังเอิญทำให้เธอต้องถูกดึงตัวมาอยู่ใกล้ ๆ ท่านประธานจอมหื่นอย่างเลี่ยงไม่ได้
View Moreในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดที่เหมาะกับการพักผ่อนหลังจากต้องเผชิญหน้ากับความเหนื่อยล้าจากการทำงานมาตลอดห้าวัน ท่ามกลางกลิ่นหอมของนมและเนยที่ลอยกรุ่นอยู่ในคาเฟ่ร้านดังที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง เสียงเพลงสากลที่เปิดคลอไปกับบรรยากาศทำให้ทั้งรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายไม่น้อย
เสียงสนทนาที่ดังมาเป็นระยะจากลูกค้าแต่ละโต๊ะยิ่งทำให้คาเฟ่แห่งนี้ดูครึกครื้นขึ้นมา เครื่องดื่มแก้วโปรดและของว่างยามบ่ายพาให้บทสนทนายิ่งไหลลื่น
เจ้าจันทร์ หรือชื่อที่เพื่อนๆ เรียกจนชินปากว่าคุณเจ้า ก็เป็นหนึ่งในคนที่มาใช้บริการคาเฟ่แห่งนี้ด้วย
ฉายา 'คุณเจ้า' ที่ได้มาเพราะความเจ้าระเบียบนั้นดูจะละลายหายไปเมื่อเวลานี้เจ้าตัวอยู่นอกเวลางาน เจ้าจันทร์ที่ถูกเพื่อนนัดให้ออกมาเที่ยวเล่นด้วยกันแทบจะสลัดภาพลักษณ์เลขาจอมเนี้ยบไปจนหมด
ชุดทางการกับแว่นตาอันโปรดที่ชอบสวมใส่ พอเปลี่ยนมาสวมคอนแทคเลนส์กับชุดสบายๆ ก็ให้ความรู้สึกราวกับเป็นคนละคนจนโดนเพื่อนแซวตั้งแต่เห็นหน้า
นั่งคุยกันไปๆ มาๆ ก็กลายเป็นว่าหัวข้อสนทนาเปลี่ยนไปเรื่อยเปื่อยจนแทบจำไม่ได้แล้วว่าคุยอะไรกันไปบ้าง
"เอ๊ะ นั่นคุณสิงหราชที่เป็นซีอีโอของแอลกรุ๊ปหรือเปล่า" นินจาร้องถามขึ้นหลังจากเห็นร่างสูงของบุคคลที่เธอกล่าวถึงลงจากรถยนต์ส่วนตัว
ข้าวหอมรีบหันมองตาม "หือ? ไหนๆ ฉันยังไม่เคยเห็นตัวจริงเลยแก"
"ใครคือคุณสิงหราช แอลกรุ๊ปไหนวะ" ปิดท้ายด้วยเพื่อนคนสุดท้ายในกลุ่มของเจ้าจันทร์ นิลิน ผู้ซึ่งทำงานราชการ เธอจะไม่รู้จักคุณสิงหราชคนนั้นก็คงไม่แปลก เพราะสายงานที่ทำไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่น้อย
ต่างจากนินจาและข้าวหอมที่ทำงานอยู่ในบริษัทเกี่ยวกับการเงินและการลงทุน พวกเธอย่อมรู้จักเจ้าของธุรกิจที่ครอบคลุมกิจการหลายอย่างอย่างคุณสิงหราชอยู่แล้ว
ผู้ชายอย่าง คุณสิงหราช ที่ทั้งหล่อ รวย มีงานตำแหน่งสูงๆ โปรไฟล์ดีพร้อมไปแทบทุกด้าน ใครบ้างจะไม่อยากรู้จัก หากไม่นับข้อเสียที่ว่าเป็นเพลย์บอยตัวพ่อละก็นะ
"คุณเขาเป็นเจ้านายของคุณเจ้าไง นั่งตำแหน่งซีอีโอ ส่วนคุณเจ้าเป็นเลขา ใช่ไหมๆ" ข้าวหอมทั้งอธิบายและเอ่ยถามไปในคราวเดียวกัน
เจ้าจันทร์ส่ายหน้าตอบ สายตายังมองสิงหราชที่ควงนางแบบสาวเดินผ่านหน้าร้าน
ตั้งแต่เธอทำงานและได้รู้จักกับเขา เธอเองก็ยังไม่เคยเห็นเลยว่าคุณซีอีโอจะคบหาใครจริงจัง แต่ละคนเห็นหน้ากันครั้งสองครั้งก็หายไปแล้ว วันๆ หนึ่งเธอเห็นไม่ต่ำกว่าสามคนที่มาแล้วก็ไป
คนอะไรใช้ผู้หญิงได้เปลืองกว่าทิชชู่เสียอีก
"ฉันทำงานให้น้องชายคุณเขาต่างหากล่ะ ขืนเป็นเลขาของคนแบบนั้นคงได้ปวดหัวตายแน่แกเอ๊ย"
"เออ นั่นดิ นี่เห็นคุณเขาช่วงบ่ายๆ ประจำเลย ทำงานถึงครึ่งวันหรือเปล่าก็ไม่รู้" นินจาพยักหน้าตาม "คอนโดนี้ก็ห้องเชือดดี ๆ นี่แหละ นั่งต่ออีกสักพักเดี๋ยวก็เห็น"
เจ้าจันทร์ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากนินทาเจ้านาย เธอเพียงนั่งฟังอย่างเงียบๆ และคอยแย้งบ้างหากสิ่งที่เพื่อนพูดมานั้นไม่เป็นความจริง จนหัวข้อสนทนาเปลี่ยนไปเรื่องอื่น เจ้าจันทร์ก็ยังเผลอเหลือบสายตามองไปยังทางเข้าคอนโดอยู่บ่อยครั้ง
ลึกๆ แล้วเธอก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าคนอย่างสิงหราชจะควงผู้หญิงติดๆ กันได้สักกี่คน
คู่รักกำลังจะหยอกล้อกันบนเตียงอีกสักหน่อย ริมฝีปากกำลังจะสัมผัสกันอยู่แล้วเชียวถ้าไม่มีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้น มันคือเสียงโทรศัพท์มือถือของสิงหราชที่แผดเสียงดังอยู่ไม่ไกล จนเขาทนหัวเสียไม่ไหวยื่นมือไปคว้ามากดรับสาย โดยที่เจ้าจันทร์ก็ยังนั่งนิ่งอยู่ในอ้อมแขน รับฟังปลายสายไปพร้อมๆ กันเมื่อเขากดสปีกเกอร์โฟน "ไง มีอะไร" "โอ้โห ถามมาได้ พี่ให้พ่อโยนวีกรุ๊ปมาให้ผมดูแลใช่ไหม ฝีมือพี่ใช่ไหมวะ!" ปลายสายคือเหมราชที่โวยวายกลับมา "อ่า ใช่ ถ้าแกไม่ชอบก็ปฏิเสธไปสิ" สิงหราชบอกไปอย่างไม่ทุกข์ร้อน เจ้าจันทร์เองก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ท่าทางน่ารักของเธอทำเอาสีหราชหมันเขี้ยวก้มหน้าลงมาหอมไปอีกฟอดใหญ่ "ปฏิเสธบ้าอะไรล่ะ พ่อยอมที่ไหน อีกอย่าง ผมอยากทำเกี่ยวกับอุปกรณ์กีฬามาตั้งนานพี่ก็รู้ พี่แม่ง ไม่บอกกันล่วงหน้าบ้างเลย คุณเจ้าอีกคน ก็นึกว่าจะควบรวมกิจการเฉย ๆ ใครจะรู้ว่าจะยกให้ผมวะ" "อ้าว ๆ นี่ตกลงชอบหรือไม่ชอบกันแน่วะ งงแล้วนะโว้ย" "ชอบ แต่ไม่ชอบที่พี่ไม่บอกก่อนไงวะ!" "ฮ่าๆ ไอ้บ้านี่" สิงหราชหัวเราะใส่น้องชาย เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมันจะบอกชอบอะไรเลยที่เขาหยิบยื่นให้ "ถูกใจก็ดีแล้วไง ทีนี้ก็
เจ้าจันทร์มองคนเสนอความตื่นเต้นอย่างนึกสนุก ใครกันแน่ที่ร้ายปากเขาบอกยอมลงให้เธอ แต่สุดท้ายราชสีห์ก็ร้ายอยู่ดี แต่ก็เอาเถอะ ไม่ว่าครั้งนี้ หรือครั้งไหน ๆ เธอก็จะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่อยู่เหนือเขา ก็เขาบอกเองนี่ อยากอยู่ใต้เท้าเธอ มันก็ต้องเป็นเช่นนั้นตลอดไป "ยิ้มอะไรครับ ไม่อยากเห็นผมเจ็บเหรอ" "เปล่าค่ะ แค่กำลังคิดว่าจะข่วนให้เลือดซิบตรงส่วนไหนดีต่างหากล่ะ" "ฮ้าาา...ร้ายไม่เบา" "ก็มีแฟนเจ้าเล่ห์อย่างคุณ เจ้าก็ต้องเป็นยิ่งกว่าสิคะ" "ฮ่าๆๆ ผมชอบคุณจัง" "ไม่เอาค่ะ คุณต้องรักเจ้าให้มากกว่าชอบสิ" สิงหราชยกมุมปากขึ้นยิ้ม ก่อนจะจับมือของเธอมาวางลงที่แผงอก เขากดนิ้วเธอที่มีเล็บยาวๆ ลงกลางร่องอกของตัวเอง เจ้าจันทร์มองการกระทำนั้นอย่างพอใจ แฟนของเธอมีมุมดิบเถื่อนเช่นนี้ด้วยเหรอ ความแบบนี้ก็ไม่บอก "อ่าส์...คุณเจ้า เล็บคุณทำผมเสียวจัง" ยิ่งเขาพูดแบบนั้น เจ้าจันทร์ก็ยิ่งสนุก คราวนี้เป็นเธอเองที่กดปลายเล็บลากยาวไปบนแผงอกกว้าง ก่อนกดลึกเรื่อยลงมาถึงหน้าท้อง ร่างบางถอยต่ำลง เพื่อให้นิ้วลากไปถึงจุดหมาย เธออยากจะกดปลายเล็บลงกลางรูเล็กๆ นั่นเหลือเกิน "ซี้ดดด...ที่รัก" สิงหราชครางออกมาทันทีท
เจ้าจันทร์กลับมาถึงห้องพักในคอนโดมิเนียมที่สิงหราชเป็นเจ้าของ เปิดประตูเข้าไปได้ไม่ทันไรก็ได้กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำแบรนด์หรูลอยฟุ้งไปทั่วห้อง อาาา...แฟนของเธอน่ารักเสมอ เขารู้ว่าเธอชอบกลิ่นนี้ถึงได้อาบน้ำรอไว้ก่อนเลย หญิงสาวยิ้มหวานพลางสูดดมกลิ่นหอมๆ นั้นจนชุ่มปอด ก่อนเดินเข้าไปยังห้องนอน แล้วพบสีหราชเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี "กลับมาแล้วเหรอกระต่ายน้อยของผม" ถึงจะจั๊กจี้กับคำเรียกแทนตัวแบบนั้น แต่เจ้าจันทร์ก็ยิ้มแก้มแทบปริรีบโผกายเข้าสวมกอดเขาแน่นจะว่าไป เป็นกระต่ายน้อยในอ้อมกอดราชสีห์ก็ถือว่าโอเคนะ อย่างน้อยก็ได้เปลี่ยนบทบาทมาอ่อนแอดูบ้าง ก็เธอน่ะ เพิ่งฟาดฟันกับวิสาลีนีมาหมาด ๆ หมดพลังเปลื้องน้ำลายไปเยอะเชียวกว่าอีกฝ่ายจะยอมสงบปากสงบคำอยู่ในที่ของตัวเอง อีกอย่าง เธอเองก็อยากได้กอดอุ่นๆ มาเติมกำลังใจสักหน่อย เพราะเรื่องนี้มันคงไม่จบลงง่าย ๆ แค่นี้ ในเมื่อวิลาสินียังมีหุ้นเหลืออยู่ยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ คงไม่ต้องบอกเลยว่าการประชุมบอร์ดบริหารรอบหน้าจะมีการเปลี่ยนตำแหน่งภายในกันอย่างไรบ้าง แม้การจะเปลี่ยนก็ยังต้องฟังผลโหวตในที่ประชุมอีกครั้งอยู่ดี แต่ใครจะสนกันล่ะอีกไม่กี่วันนี้คนร
เจ้าจันทร์นึกสงสารอีกฝ่ายอยู่บ้างเช่นกัน แต่พอนึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้เคยตั้งใจอ่อยสิงหราช ตั้งใจแบล็กเมล์คนรักของเธอ เจ้าจันทร์ก็แทบไม่หลงเหลือความเห็นใจอะไรอีก ในตอนนั้นถ้าปล่อยให้วิลาสินีทำสำเร็จ ก็คงเป็นแอลกรุ๊ปนั่นแหละที่จะต้องเดือดร้อนเสียหาย ถึงเวลานั้นความสงสารจะช่วยอะไรได้ คนเราไม่ได้กินความสงสารเป็นอาหารสักหน่อย ในเมื่อเงินก่อตั้งและเงินหมุนเวียนในบริษัทนี้ก็มาจากสามีของวิลาสินีมาตั้งแต่ต้น กับคนที่วัน ๆ เอาแต่วางท่าเป็นนางพญา ชูคอว่าเป็นเจ้าของบริษัทแต่กลับไม่เคยบริหารอย่างจริงจัง คนแบบวิลาสินีมองอย่างไรก็ไม่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทเลยสักนิด สู้จ้างคนเก่ง ๆ มานั่งบริหารยังจะเข้าท่ากว่า "คุณสิงหราชไม่รู้เรื่องนี้หรอกค่ะ ส่วนคนที่ช่วยฉันคุณต้องไม่เชื่อแน่ว่าเป็นใคร" เจ้าจันทร์ยกยิ้ม ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับไปไม่ถึงดวงตา "บังเอิญจังเลยนะคะที่ฉันรู้จักคนค่อนข้างเยอะ ทีแรกก็ไม่มั่นใจหรอกว่าวิลาสินีที่ว่าจะใช่คุณหรือเปล่า แต่พอสืบไปสืบมานิดเดียวก็ได้รู้ความจริงเข้าจนได้" "เลิกอ้อมค้อมซะที! รีบ ๆ บอกมาซะ ฉันจะไปเล่นงานมัน ฉันไม่เอามันไว้แน่!" "คนคนนี้เขาก็รอคุณอยู่เหมือนกันค่ะ คุณจำ
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงถัดมาสิงหราชก็นั่งเซ็นสัญญากับวิลาสินี เขาได้หุ้นสิบห้าเปอร์เซ็นต์พร้อมกับแผนงานดี ๆ ที่คนรักของเขาเตรียมไว้ให้ เซ็นไปยิ้มไปไม่ได้สนใจสีหน้าอมทุกข์ของวิลาสินีเลยแม้แต่น้อย ในเมื่อทางนั้นเองก็ใช่วิธีสกปรก คิดจะแบล็กเมล์เขา ถ้าอย่างนั้นเจ้าตัวก็ควรรู้ไว้ด้วยว่า กล้าที่จะทำผิดก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมาให้ได้ ในเมื่อวิลาสินีมีโอกาสแต่ดันทำพลาดไปแล้ว ต่อไปก็ลองเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบดูบ้าง ให้เหมือนกับตอนที่เธอคิดทำลายคนอื่นนั่นแหละ "ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะครับ คุณวิลาสินี" สีหราชกล่าวทั้งใบหน้าประดับรอยยิ้ม "หวังว่าต่อไปนี้คุณจะรู้ว่าควรวางตัวยังไง อยู่รอรับผลประโยชน์อย่างเงียบๆ แล้วทุกอย่างจะดีเอง" "คุณ…หมายความว่ายังไง" "ผมก็แค่พูดเผื่อเอาไว้ คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอครับ ว่าแฟนของผมค่อนข้างที่จะ…กัดไม่ปล่อย คนเก่ง ๆ แบบนั้นอาจจะไม่หยุดแค่นี้ก็ได้นะครับ" "คุณ! นี่พวกคุณรวมกันทำอะไร หรือว่าพวกคุณคิดจะผิดข้อตกลง คุณจะแฉฉันใช่ไหม!" เห็นท่าทีราวกับคนจิตตกของวิลาสินีแล้วสิงหราชก็ได้แต่ส่ายหน้า ไม่รู้ว่าโดนเจ้าจันทร์ขู่อะไรไปบ้าง เพราะตอนนั้นเขาเองก็ฟังไม่ได้ชัดทุกคำ แต่ดูไปแล้
ในเช้าวันนี้ สิงหราชได้รับรายงานจากเลขาบอกว่า วิลาสินียอมขายหุ้นให้กับเขา ทั้งยังมีแผนงานใหม่ที่น่าสนใจส่งแนบท้ายมาด้วย การที่อยู่ ๆ วิลาสินียอมอย่างง่ายดายเช่นนี้ สำหรับสิงหราชแล้ว เขาไม่แปลกใจใด ๆ เหตุผลนั้นมีแค่ข้อเดียว... เหตุผลที่ทำให้เขาอึ้งจนพูดไม่ออกเมื่อได้เห็นมันด้วยตาตนเอง ชายหนุ่มบิดมุมปากขึ้นยิ้ม วันนี้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษเมื่อนึกไปถึงเรื่องเมื่อวาน อาาา... ไม่ใช่เรื่องที่เขาจับเจ้าจันทร์แอบแซ่บในห้องทำงานหรอก หากแต่เป็นเรื่องอื่นที่ดีมากไปกว่านั้นมากกว่า ไม่คิดเลย...ว่าเขาจะเจอเพชรแท้ ไม่คิดอีกล่ะ...ว่าเขาจะโชคดีมากขนาดนี้ สิงหราชนั่งทำงานอย่างสบายอารมณ์ รออยู่เกือบครึ่งวันข้อมูลทุกอย่างก็ถูกส่งเข้ามาที่อีเมล์ส่วนตัว เขาไล่เปิดอ่านทั้งหมด รอยยิ้มแห่งชัยชนะปรากฎขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาคนรักของเขาที่คงจะทำงานอยู่ที่ห้อง เจ้าจันทร์รับสายเขาในทันทีก่อนจะทักทายกลับมาเสียงใส "คุณเจ้า ขึ้นมาหาผมหน่อยสิ พอดีมีเรื่องด่วน อยากให้คุณช่วยดูอะไรหน่อย" สิงหราชวางสายลงหลังจากปลายสายตอบกลับมา เขาอดยิ้มไม่ได้เมื่อได้อ่านข้อความในเอกสารนั่นอีก
Comments