ผ่านไปหลายวัน และปีใหม่ก็เข้ามาทุกทีถนน ตรอกซอกซอย โรงน้ำชา และร้านอาหารในเมืองเหวินจิงกำลังกระจายข่าวเกี่ยวกับสามเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในเมืองเหวินจิงเมื่อเร็ว ๆ นี้เหตุการณ์สำคัญแรก คือฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ทั้งโง่เขลาและชั่วร้ายแห่งสกุลฉินถูกลดขั้นจากพระชายาเอกไปเป็นอนุชายาข่าวนี้เป็นที่เล่าปาก
นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่ได้รับบทลงโทษร้ายแรงใดเลย“เรื่องนี้แปลกจริง ๆ ” หมิ่นจูพูดขึ้นนางเก่งเรื่องการให้เหตุและผล มีความรู้ด้านโหราศาสตร์ และอภิปรัชญาเป็นอย่างดีทักษะคุณไสยประเภทพิษกู่ก็พอรู้เล็กน้อยว่าตามเหตุผลแล้ว หลังจากที่นำชื่อ วันเกิด และดวงชะตาของฉินเหยี่ยนเย่ว์ไปทำพิธีกรร
“จูเอ๋อร์ คิดถึงข้าบ้างไหม?”พร้อมกับเสียงกระทบกันของม่านลูกปัด มีคนเปิดม่านครู่ต่อมา บุรุษผู้มีดวงตาสีดอกท้อก็ย่างกรายเข้ามา“องค์ชายหก ท่านมาแล้ว” หมิ่นจูสูดดมกลิ่นที่คุ้นเคย แล้วหมุนกายไป เรียวคิ้วของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ“วันนี้ไม่ได้พบจูเอ๋อร์ จูเอ๋อร์งดงามขึ้นอีกแล้ว”“จู้เอ๋อร์ชราและโรย
เมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้ว แน่นอนว่าพี่สามต้องรับผิดชอบแม้ว่าพี่สามจะโง่เขลา ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยสักนิด ทั้งยังรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง ทว่า นี่มิได้หมายความว่าทุกคนจะมองหมากในกระดานไม่ออกหากพี่สามหวนกลับมาครุ่นคิดให้ถ่องแท้ขึ้นสักนิด หรือเสด็จพ่อตรวจสอบใหม่อีกครั้ง เขาที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลัง
หมิ่นจูกลัวว่าเสียงดังจะไปรบกวนองค์ชายหกเข้า จึงพยายามกดเสียงลงอย่างสุดความสามารถนางล้วงยาออกมาจากในแขนเสื้อด้วยสองมือที่สั่นเทาเม็ดยากลิ้งไปบนพื้น นางหมอบคลานลง ใช้มืออันพ่ายผอมคว้าไปข้างหน้า ในระหว่างนั้นก็สะกดอาการไออย่างรุนแรงไว้ไม่อยู่ ต้องเปลืองแรงไปมากโขถึงคว้ายาเม็ดไว้ได้ยาเม็ดได้ระงับอาก
“ขอบคุณองค์ชายหกเพคะ” ในน้ำเสียงหมิ่นจูนั้นระคนเสียงสะอึกสะอื้นอยู่เล็กน้อย“คนโง่ ขอบคุณอันใดกัน” แววตาองค์ชายหกฉายถึงความตามใจ ความอบอุ่นนั้นคล้ายกับใบชาที่ก้นถ้วย เข้มข้นอย่างยากจะหาใดเปรียบได้ “เจ้าต้องดีขึ้นในเร็ววันสิถึงจะถูก”“หม่อมฉันคิดว่าองค์ชายหกรังเกียจร่างกายที่ป่วยมานานของหม่อมฉันแล้วเ
ยังไม่ทันพูดคำว่า “สาม” ออกมา หลิงอวิ๋นจวินก็สะบัดนางออกอย่างแรงเขายกมือขึ้น ฝ่ามือหนึ่งตวัดลงบนใบหน้าหมิ่นจู “นังแพศยา เจ้ากล้าข่มขู่ข้ารึ!”“ข่มขู่? ข้าก็แค่ออกคำสั่งกับเจ้า หลิงอวิ๋นจวิน ข้า หมิ่นจู แทบจะทนรอสับเจ้าเป็นพันชิ้นหมื่นชิ้นไม่ไหว” หมิ่นจูถูกฝ่ามือนี้ตบอย่างแรงจนมีเลือดไหลนางใช้แขนเส
อย่างไรก็ตาม หลังจากออกจากหอแดงแห่งนี้แล้ว การที่หมิ่นจูจะเป็นหรือตาย หาได้เกี่ยวกับเขาไม่“กระหม่อมเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ นายท่านเพียงแค่เล่นสนุกเท่านั้น” คนสนิทพยักหน้า “ฮูหยินหมิ่นอายุมาก รูปร่างหน้าตาไม่งดงาม ไม่เหมาะสมกับนายท่านจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”“ไม่” องค์ชายหกหรี่ตา “ข้ามิได้เล่นสนุก”ยามที่อยูด้
บุรุษผู้นั้น ไม่เพียงแต่พบสถานที่แห่งนี้ แต่ยังพบตำแหน่งของห้องลับอีกด้วยหากว่าเขาทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้แล้ว นั่นหมายความว่าเขาได้ค้นพบการมีอยู่ของห้องลับห้องนี้อย่างแน่นอนต่อจากนี้ นางเพียงแค่ต้องส่งข่าวว่าตนเองอยู่ด้านล่างไปหาเขาเท่านั้นทั้งนางและเซียวเซี่ยงหว่านจะต้องรอดออกไปแน่นอน!ฉินเหย
ภายในใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกลิงโลดยิ่งนักหากการพบเจอเหรียญทองแดงหนึ่งเหรียญเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญนั้นแล้วการที่เจอเหรียญทองแดงสี่เหรียญในคราเดียวเล่า ย่อมมิใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอนมีคนอยู่ข้างบน!มีคนโยนเหรียญทองแดงลงมาจากช่องระบายอากาศทั้งสี่ช่องการปรากฏตัวที่นี่ในยามนี้ ทั้งยังพยา
เขาต้องหาตัวพวกนางเจอให้เร็วที่สุด!“ท่านอ๋อง” หลังจากเฟยอิ่งค้นหาไปแล้วหนึ่งรอบ “หาอะไรไม่เจอเลยพ่ะย่ะค่ะ นี่ออกจะแปลกเกินไปแล้ว ตามหลักแล้วไม่ว่าจะเป็นกลไกหรือว่าห้องลับ ล้วนจะต้องเหลือร่องรอยไว้บ้าง”“ตามผนังในห้องนี้ล้วนเป็นกำแพงตัน ไม่มีกลไก แล้วก็ไม่มีช่องกั้น ด้านล่างของห้องนี้ก็คือทะเลสาบ แล
นกการเขนเงาเป็นนกที่เงามีโดยเฉพาะ เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างเงาด้วยกันพวกมันอยู่ไปทั่วทุกหนแห่ง และสามารถส่งข่าวสารไปทั่วทุกที่นกกางเขนเงาทุกตัวล้วนได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด และระหว่างพวกมันเองจะมีรูปแบบวิธีการแยกแยะตัวตนหนึ่งชุดไม่เพียงเท่านี้ ช่องทางการสื่อสารข้อมูลระหว่างเงาจะมีระบบรหัสที
ความเป็นไปได้มากที่สุด คือพี่ใหญ่ใช้ประโยชน์จากทาสเป่ยลู่คนนั้น ทำเรื่องที่มิอาจเปิดเผยได้เหล่านั้นอยู่ที่นี่หากเป็นเหตุผลเช่นนี้ เบาะแสทุกอย่างล้วนราบรื่นแล้วตงฟางหลีเดินอ้อมห้องอีกหนึ่งรอบใช้มือสัมผัสและเคาะสิ่งของที่น่าสงสัยทั้งหมดเบา ๆ ไปหนึ่งรอบน่าเสียดาย ที่หาร่องรอยของห้องลับไม่เจอ“จางฉู
ตงฟางหลีพยุงตัวกับราวบันได ใบหน้าหล่อเหลานั้นซีดเผือดหากเป็นน้ำพุจริง ๆ ไม่เพียงแต่รสนิยมเลวร้าย มิหนำซ้ำยังส่งกลิ่นเหม็นจนทำให้คนเดือดดาลจางฉู่ส่ายหน้า “มิทราบได้พ่ะย่ะค่ะ แทนที่จะบอกว่าเป็นน้ำพุ มิสู้บอกว่า พวกมันดูเหมือนเสาค้ำยันศาลามากกว่า ที่แห่งนี้เป็นที่ที่เฉียนอ๋องสร้างขึ้นกับมือเพื่ออนุภร
ในแววตาเขาไร้คลื่นลม และน้ำเสียงก็ราบเรียบมากเช่นกันเฟยอิ่งลอบขมวดคิ้วแน่นเขารู้จักจางฉู่มาแต่ไหนแต่ไร จางฉู่มีนิสัยเย็นชา กระทำการสุขุมหนักแน่น ไตร่ตรองพิจารณารอบด้าน มิใช่คนที่มุทะลุบุ่มบ่ามพรรค์นั้นหากแต่พฤตกรรมครานี้ ผิดแปลกไปอย่างแท้จริงแปลกไปจนมิคล้ายกับเป็นจางฉู่ตัวจริงเฟยอิ่งยิ่งคิดก็ยิ
ตงฟางหลีเดิมทีก็มีโรครักความสะอาดอยู่แล้ว ทนรับกลิ่นแปลกประหลาดเช่นนี้ไม่ได้ที่สุดยามที่กลิ่นเหม็นเน่าสายนั้นถาโถมเข้ามา เขาถึงกับอดถอยหลังไปหลายก้าวไม่ได้ ภายในกระเพาะประหนึ่งพลิกแม่น้ำล้มมหาสมุทรก็มิปานเขารีบล้วงหาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดจมูก สะกดความรู้สึกขยะแขยงลงไปเฟยอิ่งเองก็ถูกความรู้สึกน่ารัง
“เหตุผลที่คุณหนูเซียวหย่ากับพี่ใหญ่ เป็นเพราะว่าพี่ใหญ่สังหารลูกของพวกเขาเองกับมือ” ตงฟางหลีพูดต่อไป “ที่นางมิสามารถตั้งครรภ์มาโดยตลอด ก็เป็นการขัดขวางของพี่ใหญ่เช่นกัน”“พี่ใหญ่คิดว่าการตายของทาสเป่ยลู่เกี่ยวข้องกับคุณหนูเซียว จึงเอาโทสะมาระบายใส่คุณหนูเซียว คุณหนูเซียวที่ลุ่มหลงในความรักอย่างลึกซึ