มุมปากของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันกระตุกขึ้น“ตงฟางหลีท่านเป็นบ้างั้นหรือ?”“ข้าเป็นบ้าจริง ๆ ”“อย่า พี่เจ็ด หม่อมฉันรู้ว่าตนเองผิดไปแล้ว”“ในเมื่อรู้ว่าตนเองผิดเช่นนั้นเจ้าก็ต้องชดใช้”......ในคืนวันส่งท้ายปีเก่านั้น เทียนจะต้องจุดสว่างไสวตลอดทั้งคืน เพื่อสื่อถึงความหมายอายุอันยืนยาวภายในจวนนั้นจึงถูก
ตงฟางหลีจับข้อมือของฉินเหยี่ยนเย่ว์เอาไว้ “ยัยหนู เจ้ากำลังพยายามบีบคอข้าให้ตายเลยหรือ?”“อย่าขัดหม่อมฉัน จะพูดหรือไม่? หากท่านไม่พูดหม่อมฉันจะลงโทษท่านแล้วนะ”“ลงโทษ?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์แย้มยิ้มออกมาด้วยความอำมหิตพลันปรากฏเข็มเงินบาง ๆ ขึ้นอยู่ระหว่างนิ้วมือของนางในทันทีเส้นเลือดบนหน้าผากของตงฟางหลี
“แข็ง” หลังจากที่เจ้าเก้ากัดเกี๊ยวลงไปแล้ว พลันถูกของอะไรบางอย่างกระทบฟันเขารีบคายเกี๊ยวออกมาทันควัน ก่อนจะมองเห็นว่าด้านในมีหยกส่องแสงแวววาวอยู่ชิ้นหนึ่ง“เอ๋?” พระสนมเหยาประหลาดใจ “พวกเราห่อเกี๊ยวมากมายเพียงนั้น แต่ใส่หยกลงไปแค่ก้อนเดียว กลับถูกเจ้ากินเสียนี่”“เจ้าเป็นดาวนำโชคของพวกเราเสียจริง”
“ในวันพระราชสมภพของเสด็จพ่อ ลูกจะทำเค้กเก้าชั้นให้กับเสด็จพ่อเป็นอย่างไร?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยิ้มจนดวงตาหยีโค้งลงฮ่องเต้ทำหน้าบึ้งตึงทันควัน “เค้กอย่างเดียวก็คิดจะไล่เราออกไปแล้วงั้นรึ?”“เอ๋ หากเสด็จพ่อทรงรังเกียจ เช่นนั้นลูกก็จะไปเก็บรวบรวมเพชรนิลจินดาหายากและหินโมรามาแล้วกันเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์หัว
“ทีรามิสุเพคะ”“อะไรสุ ๆ นะ?”“พระองค์จะเรียกว่าเค้กมิสุก็ได้เพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าว“ไม่เลวเลย” ฮ่องเต้กินอย่างปิติยินดี เรียวคิ้วเลิกขึ้นไม่หยุด เห็นได้ชัดเจนว่า พึงพอใจกับรสชาตินี้อย่างยิ่ง“เสด็จพ่อ เห็นแก่ที่เค้กรสชาติดี พระองค์พอจะยอมรับฟังได้หรือไม่?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นว่าเขาอารมณ์ดีไม่เล
ฮ่องเต้ริมฝีปากสั่นเขาเคยได้ยินมาเหมือนกัน ว่าเจวี๋ยเอ๋อร์กำลังฝึกเดินมาได้สักพัก และเริ่มเห็นผลได้บ้างแล้ว ระยะนี้ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลใด จู่ ๆ เจวี๋ยเอ๋อร์ก็ทรุดโทรมลง วันทั้งวันเอาแต่ร่ำสุราคลายความเศร้าโศก หมดอาลัยตายอยากในบรรดาโอรสเหล่านี้ เจวี๋นเอ๋อร์เหมือนเขาในตอนวัยหนุ่มมากที่สุด และก็เป็นบ