แชร์

ตอนที่ 7 แม่นางมีนามว่าอะไร

ผู้เขียน: JAOTUNTEE
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-13 00:59:23

ตอนที่ 7

แม่นางมีนามว่าอะไร

คำพูดจากชายเบื้องหน้าดังขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม ส่งผลให้ไป๋อวี่ซีจำเป็นต้องเลื่อนสายตาไปมองอย่างช่วยไม่ได้ บุรุษรูปงามแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเพียงแรกพบสบตาร่างกายถึงกับชาไปชั่วขณะ

"คุณหนูผู้นี้ได้ยิน.."

"เชิญนั่งเจ้าค่ะ"

เธอจ้องมองเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย รู้สึกได้ว่าน้ำลายไหลออกจากริมฝีปาก เมื่อได้สติอวี่ซียกมือตนเองขึ้นมาเช็ดมุมปากด้วยท่าทางเขินอาย โชคยังดีที่ใบหน้าของเธอนั้นยังอยู่ภายใต้หมวกสานใบใหญ่ ไม่เช่นนั้นต่อหน้าชายผู้นี้คงทำเรื่องน่าขายหน้าไปเสียแล้ว

เธอมองไปรอบร้านอีกครั้งถึงเห็นว่าที่แห่งนี้โต๊ะเก้าอี้เต็มทุกตัว พอทำให้เข้าใจได้ว่าเหตุใดบุรุษรูปงามเช่นนี้ถึงมาขอร่วมโต๊ะ แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองก็ทำได้เพียงแค่ต่างคนต่างกินอาหารที่ตนเองสั่งมา

"มื้อนี้ข้าเลี้ยงเอง.. ขอบคุณแม่นางมาก"

"ข้าไม่ชอบติดหนี้ใคร ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณชายเพียงแต่ข้าขอปฏิเสธ"

ในขณะที่ทานอาหารไปเธอก็ยังคงลอบสังเกตชายที่อยู่ชั้นบนไปตลอดเวลา จนมั่นใจได้ว่าชายคนที่เห็นนั้นคือท่านเจ้าเมืองของเมืองนี้ เมื่อทางนั้นเริ่มเคลื่อนไหวนางจึงต้องตัดใจจากขาหมูน่องโตตรงหน้าอย่างช่วยไม่ได้

"ข้าขอตัว"

แต่ไม่รู้ว่าชายผู้นี้จงใจหรือเป็นเรื่องบังเอิญ ในตอนที่นางลุกขึ้นเพื่อที่จะสะกดรอยตามชายผู้นั้น บุรุษรูปงามที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็ลุกขึ้นด้วยเช่นกัน

ปึก!

ทำให้ทั้งคู่ชนกันอย่างแรงจนอวี่ซีนั้นเกือบล้มหงายหลัง โชคยังดีที่พ่อหนุ่มรูปหล่อผู้นี้รับนางเอาไว้ได้ทันก่อนที่จะล้มลงไปนอนจูบพื้น แต่เหมือนโชคของนางร้ายตัวท็อปอย่างเธอจะใช้หมดไปเสียแล้วกระมัง เพราะตอนที่ชายผู้นั้นรับตัวเธอเอาไว้ใบหน้าของเขาได้เข้ามาในหมวกสานของเธอ

ดวงตาคู่คมจ้องมองดวงตาคู่กลมด้วยความรู้สึกหลากหลาย หากเป็นยุคปัจจุบันคงเรียกอาการเหล่านี้ว่ารักแรกพบเห็นจะได้ ใบหน้าที่แม้แต่ดาราอันดับหนึ่งของประเทศยังสู้ไม่ได้ ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกเคลิบเคลิ้มจนแทบลืมตัว

"อะแฮ่ม! ขออภัยแม่นาง.. ล่วงเกินแล้ว"

"มะ.. ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าขอตัว"

"เดี๋ยว!"

แต่ยังไม่ทันที่ไป๋อวี่ซีจะได้เดินออกจากตรงนั้น เขากลับเรียกเธอเอาไว้ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูน่าเกรงขาม

"คุณชายท่านนี้มีอะไรกับข้างั้นหรือ"

"ไม่ทราบว่าแม่นางมีชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไรงั้นหรือ ข้าขอทราบได้หรือไม่"

หญิงสาวมองบุรุษผู้นี้ด้วยความตกใจผ่านหมวกสานใบโต ตั้งแต่เกิดมาจน24ปี เธอไม่เคยรู้สึกถึงการรุกหนักจากผู้ชายที่ดูจริงใจเท่านี้มาก่อน หากเป็นแค่คำถามก็อาจจะคิดว่าเป็นการถามไถ่มนุษย์โลกทั่วไป แต่ใบหน้าและแววตาที่ดูหวานเยิ้มราวกับคนคลั่งรักนั่นคืออะไรกัน

"เพียงแค่คนผ่านทางเกรงว่าไม่จำเป็น.. หากมีบุญวาสนา หากได้พบกันคราวหน้าข้าจะบอกชื่อกับท่าน"

ไป๋อวี่ซีเอ่ยเพียงแค่นั้นพร้อมทั้งเดินออกห่างจากโต๊ะมาสองสามก้าว

"ได้! หากครั้งหน้าพบกันอีกคราคงเป็นบุญวาสนาของเราสอง ข้าจะขอถามชื่อแม่นางอีกครั้ง"

•••••

"ท่านอ๋อง.."

"อยู่ที่นี่อย่าเรียกข้าว่าท่านอ๋อง.. เรื่องที่ข้าให้เจ้าไปจัดการไปถึงไหนแล้ว"

เหิงเยว่มองตามสตรีผู้นั้นไปจนสุดสายตา นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกถูกชะตากับสตรีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าของนางช่างงดงามหาใครเปรียบ ดวงตากลมโตเป็นประกายสีน้ำผึ้ง ริมฝีปากบางได้รูปแม้ไม่ถูกแต่งแต้มด้วยชาดราคาแพงแต่กลับดูน่ามอง ช่างเป็นใบหน้าที่ชวนหลงใหลยิ่งนัก

"สืบได้ความแล้วขอรับ"

"เช่นนั้นก็ดี โม่ฉินเจ้าไปจัดการเถอะ"

"ขอรับ"

เยว่อ๋องสั่งองครักษ์ให้ไปจัดการหาหลักฐานการทุจริต พลางคิดไปถึงหนังสือร้องเรียนและขอความช่วยเหลือที่ถูกส่งเข้าไปในราชสำนัก โชคดีที่ก่อนออกมาขอร้องฮ่องเต้ว่าอย่าป่าวประกาศเรื่องการมาของตนรวมถึงชายา ทำให้หาหลักฐานได้ง่ายยิ่งนัก 

"ยุงก็กัดยากันยุงก็ไม่มี ครีมทาผิวก้ไม่มี แย่แล้ว ๆ ผิวเป็นจุดด่างดำหมดแล้วอวี่ซี!"

ในตรอกแคบ ๆ ใกล้จวนเจ้าเมือง ไป๋อวี่ซีที่แอบซุ่มดูสถานการณ์อยู่เอ่ยออกมาด้วยเสียงที่บ่งบอกว่าไม่สบอารมณ์ นานหลายชั่วยามที่นางเฝ้าอยู่ที่นี่เพื่อรอดูช่องโหว่ของท่านเจ้าเมืองหนาน แต่จนแล้วจนรอดหลังจากที่ท่านเจ้าเมืองกลับมายังจวนก็ยังไม่มีผู้ใดเข้าออกที่แห่งนี้เลยสักคน จวบจนตะวันลับขอบฟ้าก็ยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการเลยสักอย่าง

ฟรึ่บ!

ด้วยความมืดสลัวผสมกับความเงียบ  ปลายหางตาของนางมองเห็นเงาดำเงาหนึ่งกระโดดข้ามกำแพงรั้วของจวนเจ้าเมืองเข้าไปด้านใน

"ใครกัน ขโมยงั้นเหรอ"

ฟรึ่บ!

แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้หายสงสัย ได้มีเงาดำอีกเงากระโดดข้ามกำแพงจวนตามไปติด ๆ เป็นไปได้มากกว่าทั้งสองเงานั้นจะเป็นพวกเดียวกัน แต่จากที่คาดเดาหากเป็นแขกท่านเจ้าเมืองไม่น่าจะต้องใช้วิธีเช่นนี้ จึงเป็นไปได้มากว่าทั้งสองคนเมื่อครู่ก็อาจจะเป็นศัตรูของเจ้าเมือง แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าสองคนนั้นเห็นจะเป็น..

"โหว~ ไม่มีสลึงยังกระโดดตัวปลิวกันขนาดนั้น ถ้ามีสลึงไม่ลอยบนฟ้าได้เลยงั้นเหรอ"

และเพราะว่าชีวิตจริงนางก็เป็นเพียงแค่ดารานักแสดง เมื่อประสบกับชีวิตจริงการลอยตัวเช่นนั้นไม่มีทางทำได้ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าผู้ที่เข้าไปนั้นคือผู้ใดแต่การบุกรุกเคหสถานยามวิกาลย่อมไม่ใช่สหายแน่นอน

"รอดูสถานการณ์ไปก่อนแล้วกัน"

•••••

"อู่ถังเจ้าว่าเหตุใดคุณหนูยังไม่กลับมา จะเกิดอันตรายกับคุณหนูหรือไม่"

"ยังไม่ครบสามชั่วยามตามที่คุณหนูสั่ง"

"ข้ารู้.. เพียงแต่ข้าไม่ไว้ใจ"

"หากเป็นเช่นนั้นเจ้าจะไปดูที่จวนเจ้าเมืองหรือไม่"

"ไป"

ทั้งสองพยักหน้าให้การพร้อมกับตัดสินใจที่จะเดินทางไปยังจวนเจ้าเมือง เมื่อสองชั่วยามก่อนอวี่ซีสั่งให้เมี่ยวเมี่ปรากฏไปที่จวนสกุลเฉิง บอกเรื่องราวทั้งหมดให้กับเฉิงเหว่ยเพื่อให้เขาตามหาที่ซ่อนเสบียงทำให้ต้องแยกย้ายกันทำงาน และมาพบกับที่รถม้าในอีก3ชั่วยามต่อมา

"แต่หากเราไปแล้วคุณหนูมาที่นี่ไม่เจอเราจะทำอย่างไร"

สองเท้าของหญิงสาวเตรียมจะวิ่งขึ้นรถม้า แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังไม่เกินเวลาที่คุณหนูของนางตั้งไว้จึงเริ่มเป็นกังวล

"เช่นนั้นเรารออยู่ที่นี่อีกหน่อย อีกหนึ่งก้านธูปก็จะครบเวลาที่เรานัดกันไว้หากคุณหนูยังไม่มาเราจะไปที่จวนเจ้าเมืองทันที"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ท่านเองน่ะหรือคือสามีของข้า   ตอนที่ 30 ความสุขที่ถูกเติมเต็ม

    ตอนที่ 30ความสุขที่ถูกเติมเต็มเวลาผ่านไปไม่นาน..“อุแว้! อุแว้!”เสียงร้องของทารกแรกเกิดดังขึ้นก้องกระท่อมท่ามกลางความเงียบจากด้านนอก มีเพียงแค่เสียงกรีดร้องของเยว่เฟยและก้อนแป้งที่ลืมตาดูโลก“เป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ!”หมอประกาศเสียงดังก่อนที่ไม่กี่อึดใจต่อมาเสียงร้องอีกเสียงก็ดังขึ้น“และเป็นคุณหนูอีกคนเจ้าค่ะ!”ท่านอ๋องยืนนิ่ง ดวงตาเต็มไปด้วยความตื้นตันน้ำเสียงของเขาสั่นเล็กน้อยเมื่อเอ่ยถาม“ลูก.. ปลอดภัยหรือไม่”“เด็กทั้งสองแข็งแรงมากเจ้าค่ะ!”ท่านอ๋องถอนหายใจอย่างโล่งอก ใบหน้าของเขาคลายความตึงเครียดลและในที่สุดเขาก็ได้เห็นลูกน้อยของตนเป็นครั้งแรก แต่ในวินาทีที่ความยินดีท่วมท้นไปทั่วหัวใจ เขากลับได้ยินเสียงของหมอที่ทำให้ร่างกายเย็นเยียบ“พระชายาเสียเลือดไปมาก!”ไป๋อวี่ซีที่เพิ่งผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดกลับหมดแรงโดยสิ้นเชิง ดวงตาของเธอลืมขึ้นเล็กน้อยแต่สติเลือนราง เธอมองเห็นเงาของท่านอ๋องอยู่ตรงหน้า มองเห็นเงาตะคุ่มของเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของหมอ เธออยากยิ้มอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ร่างกายกลับไม่ตอบสนอง“เหิง.. เยว่..”เสียงเธอแผ่วเบาราวกับสายลมพัดผ่าน ทันใดนั้นเปลือกตาของเธอก

  • ท่านเองน่ะหรือคือสามีของข้า   ตอนที่ 29 ออกจากเมืองหลวง

    ตอนที่ 29ออกจากเมืองหลวงท้องพระโรงหลวงบรรยากาศภายในท้องพระโรงเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม ทหารและขุนนางยืนเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบขณะที่ฮ่องเต้ประทับอยู่บนบัลลังก์ทอง พระพักตร์ทรงอำนาจทอดพระเนตรชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ยืนคุกเข่าอยู่เบื้องล่างท่านอ๋องค้อมศีรษะลงต่ำ ร่างสูงสง่ากรำศึกจนเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นแต่แววตาของเขากลับแน่วแน่ดังเดิม“เยว่อ๋อง.. เจ้าทำศึกครั้งนี้ได้ดีนักราชสำนักและประชาชนต่างซาบซึ้งในคุณงามความดีของเจ้า”สุรเสียงของฮ่องเต้ดังก้องไปทั่วท้องพระโรง ก่อนจะมีรับสั่งให้ขันทีนำทองหนึ่งพันชั่ง ที่ดินสองผืน แก้วแหวนเงินทอง รวมถึงทหารสองหมื่นนายมาเป็นรางวัลตอบแทนขุนนางพากันซุบซิบถึงพระกรุณาขององค์จักรพรรดิ นับว่าเป็นรางวัลที่มากมายและล้ำค่าท่านอ๋องควรจะปลาบปลื้มยิ่งนัก แต่แทนที่เขาจะยินดีท่านอ๋องกลับเงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ริมฝีปากยกยิ้มบาง ก่อนจะเอ่ยบางอย่างที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง“กระหม่อมขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณพ่ะย่ะค่ะ แต่นอกจากของรางวัลเหล่านี้ กระหม่อมมีข่าวดีถวายฝ่าบาท..”“ว่ามาเถิด”ฮ่องเต้เลิกพระขนงเล็กน้อย ดวงตาคมจ้องมองไปยังบุรุษเบื้องล่าง ท่านอ๋องสบตากับฮ่องเต้ก

  • ท่านเองน่ะหรือคือสามีของข้า   ตอนที่ 28 แก้แค้น

    ตอนที่ 28แก้แค้นไป๋อวี่ซีเอ่ยออกมาเสียงแหบแห้งน้ำตาคลอเบ้า ในเวลานี้เธอไม่สามารถคิดไปในทางที่ดีได้เลยแม้เพียงน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังอยากได้ยินว่าลูกของเธอไม่เป็นอะไรอยู่ดีหมอหลวงยิ้มบาง ๆ อย่างอบอุ่น ก่อนที่จะเบาเสียงตอบกลับ“พระชายาท่านไม่ต้องกังวล ลูกของท่านปลอดภัยดี.. แม้จะได้รับบาดเจ็บจากการกระทบกระเทือน แต่ทารกในครรภ์ยังคงแข็งแรงดี ทั้งท่านและลูกจะต้องพักฟื้นให้ดี”เยว่เฟยรู้สึกเหมือนกับว่าหินก้อนใหญ่ที่ทับอยู่บนอกของเธอนั้นถูกยกออก น้ำหนักทั้งหมดที่ครอบงำเธอมาเป็นเวลาหลายชั่วยามนั้นหลุดออกไปทำให้เธอหายใจได้ลึกขึ้น“จริงหรือ”เธอกล่าวเสียงสั่น ปากแห้งผาก ริมฝีปากบานฉีกยิ้มด้วยความดีใจ ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าของหมอหลวงอย่างมีความหวังจนเมื่อเธอเห็นเขาพยักหน้าตอบ“ตอนนี้ท่านต้องพักให้เต็มที่ ร่างกายยังต้องฟื้นฟูอีกมาก”น้ำตาที่ไป๋อวี่ซีพยายามจะกลั้นเอาไว้หลั่งรินลงมา เหมือนกับฝนที่ตกจากฟ้าในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ความรู้สึกขอบคุณเต็มหัวใจจนไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ นอกจากการขอบคุณที่เงียบสงบ แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับหมอหลวงที่ยืนข้างเตียงความเงียบแผ่ขยายไปทั่วห้อง แต่ในใจของไป๋

  • ท่านเองน่ะหรือคือสามีของข้า   ตอนที่ 27 ข้ามาช้าไป

    ตอนที่ 27ข้ามาช้าไป“เป็นอย่างไรบ้างหมอหลวง! พระชายาและลูกของข้าปลอดภัยดีหรือไม่”“ท่านอ๋อง.. พระชายาเวลานี้ร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส กระหม่อมใช้ความสามารถที่มียื้อชีวิตเยว่เฟยเอาไว้ได้ เพียงแต่..”“เพียงแต่อะไร!”“เพียงแต่เด็กในครรภ์พระชายา.. กระหม่อมไร้ความสามารถ”เยว่อ๋องทรุดตัวลงกับพื้น ดวงตาของเขาแดงก่ำหยดน้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่สามารถหักห้ามได้“ที่ท่านพูดหมายความว่าอย่างไร.. ข้าไม่สามารถรักษาลูกของข้าไว้ได้อย่างนั้นหรือ”“หากท่านอ๋องพาพระชายามาเร็วกว่านี้อีกสักหน่อย กระหม่อมยังพอมีทางรักษาเอาไว้ได้”“ข้ามาช้าไปอย่างนั้นหรือ.. ไม่ได้! หากนางฟื้นขึ้นมาแล้วพบว่านางสูญเสียบุตรในครรภ์ไปต้องเสียใจมากเป็นแน่ หมอหลวง! ท่านต้องหาทางช่วยรักษาลูกของข้าเอาไว้ให้ได้”เหิงเยว่ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนจะไปคว้าที่ข้อมือของหมอหลวงเอาไว้“ท่านอ๋อง~ ฝ่าบาทส่งกระหม่อมมาดูอาการพระชายา ไม่ทราบว่าท่านอ๋องสะดวกหรือไม่”เขาหันไปมองผู้ที่มาใหม่ก็พบว่าเป็นไท่อี้เฉิงหมอประจำกายของฝ่าบาท เยว่อ๋องรีบหลบเพื่อให้เขาเข้าไปรักษาพระชายาอย่างว่าง่าย“ไท่อี้เฉิง.. ท่านต้องช่วยรักษาภรรยาและบุตรของข้าเอาไว้ใ

  • ท่านเองน่ะหรือคือสามีของข้า   ตอนที่ 26 ภาพที่ปวดใจ

    ตอนที่ 26ภาพที่ปวดใจแต่เพียงแค่เขาออกคำสั่ง ทหารและบ่าวในจวนก็กรูกันเข้าไปค้นหาในจวนอย่างรวดเร็ว เขาปรายตามองเวินหนิงที่ไม่ได้แสดงท่าทีตกใจออกมาเลยแม้แต่น้อย ใช้เวลาอยู่เกือบครึ่งชั่วยามคนที่เข้าไปค้นจวนรองแม่ทัพก็พากันเดินกลับออกมา“ไม่พบขอรับ”“เป็นไปได้อย่างไรกัน..”มือหนากำหมัดไว้แน่นก่อนจะหันไปจ้องใบหน้าของลู่เวินหนิงอีกครั้ง ท่าทางของนางที่ไม่รู้สึกรู้สายิ่งตอกย้ำว่าเธอมีพิรุธ แต่เพราะไร้ซึ่งหลักฐานและยังหาเยว่เฟยไม่พบ ความปลอดภัยของนางย่อมสำคัญกว่าจึงทำได้แค่ถอยออกมาก่อน“ข้าจะให้คำตอบของการกระทำในครั้งนี้กับรองแม่ทัพลู่ฉือเวยเอง กลับ!”เขาเอ่ยเพียงแค่นั้นแล้วพาบ่าวในจวนกลับออกมาแต่โดยดี ลู่เวินหนิงกำมือของตัวเองไว้แน่นด้วยความโมโห เธอไม่คิดว่าเหิงเยว่จะกล้าพาค้นมาบุกจวนของรองแม่ทัพเช่นนี้ เรื่องนี้ไม่มีทางที่เธอจะยอมปล่อยผ่านไปแน่ แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าหวานก็ยังคงฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างสะใจอยู่ดี“อู่ถังจับตาดูคุณหนูลู่เอาไว้ หากนางเคลื่อนไหวให้ตามไปทันทีแล้วรีบแจ้งข้า.. ข้าจะไปจวนอ๋องเจ็ด”เมื่อจัดการเรื่องที่ควรทำเรียบร้อยแล้ว เขาได้ขึ้นม้าเพื่อตรงไปยังจวนหยวนอ๋องตามลำพังทัน

  • ท่านเองน่ะหรือคือสามีของข้า   ตอนที่ 25 ลางสังหรณ์

    ตอนที่ 25ลางสังหรณ์เสียงควบม้าดังกึกก้องไปทั่วผืนป่า แม้ว่าร่างกายจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่จิตใต้สำนึกของเขากลับไม่อยากช้าแม้แต่วินาทีเดียว หลังจากที่เหิงเยว่ฟื้นขึ้นมาจากอาการบาดเจ็บ สิ่งแรกที่เขาทำคือรีบร้อนที่จะกลับไปหาพระชายา แม้ว่าโม่ฉินหรือเหล่าทหารต่างไม่มีใครเห็นด้วยแต่กลับไม่มีใครสามารถห้ามเขาเอาไว้ได้สักคน เยว่อ๋องฝืนร่างกายก่อนจะใช้ยาระงับความเจ็บปวดที่มีฤทธิ์กดความรุนแรงของบาดแผลทั่วร่างกายเอาไว้นาน6ชั่วยาม เพื่อที่จะเร่งเดินทางกลับเมืองหลวงแม้ว่าจะมีผลกระทบภายหลังเกือบถึงชีวิตก็ตาม“ท่านอ๋อง! ช้าหน่อยขอรับร่างกายของท่านยังไม่หายดีอาจถึงตายได้นะขอรับ”โม่ฉินเร่งฝีเท้าควบม้าตามมาด้วยความเป็นห่วงเอ่ยห้ามตลอดทาง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถห้ามเขาได้อยู่ดี“โม่ฉิน! ข้ามีลางสังหรณ์ว่าพระชายากำลังตกอยู่ในอันตราย”“จะเป็นไปได้อย่างไรขอรับ พระชายามีอู่ถังดูแลไม่มีอันตรายแน่นอนขอรับ”“ข้าไม่วางใจจะไปดูให้เห็นกับตา ไป!”เมื่อไม่สามารถห้ามปรามได้สุดท้ายทั้งสองก็รีบควบม้ามุ่งหน้ากลับเมืองหลวง ใช้เวลากว่าสี่ชั่วยามที่เขาเดินทางโดยไม่หยุดพักในที่สุดก็เดินทางมาถึงจวนอ๋อง ทันทีที่เขาเปิดปร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status