ในวันรุ่งขึ้น ซาเอบะและหลินหลินกลับมาที่สำนักงานเพื่อจัดระเบียบข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมมา การสอบถามกับปุ๊บและการตรวจสอบเอกสารทำให้พวกเขามีมุมมองที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างเมย์และอาร์ม
“เราต้องหาวิธีที่จะเชื่อมโยงข้อมูลที่เรามีอยู่ในตอนนี้” ซาเอบะกล่าว “ความขัดแย้งระหว่างเมย์และอาร์มอาจเป็นจุดเริ่มต้น แต่เราต้องหาหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อยืนยันว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้อง”
หลินหลินเสริม “เราอาจจะต้องกลับไปตรวจสอบสถานที่ที่เมย์อาจไปเยี่ยมบ่อย ๆ หรือพูดคุยกับคนที่ใกล้ชิดกับเธอ เพื่อหาความสัมพันธ์ที่อาจส่งผลต่อการหายตัวไปของเธอ”
ซาเอบะเห็นด้วยและตัดสินใจไปที่ห้องเรียนของเมย์เพื่อพูดคุยกับเพื่อนร่วมชั้นที่อาจมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเธอและสถานการณ์ของเธอ ก่อนที่พวกเขาจะไปที่ห้องเรียน ซาเอบะได้ทบทวนข้อมูลที่พวกเขามีในมืออีกครั้ง และพบว่ามีข้อมูลที่ยังไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด
ซาเอบะเริ่มสังเกตเห็นการกระทำที่ผิดปกติในบันทึกของเมย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงก่อนที่เธอหายตัวไป เขาพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงในลำดับเวลาและการจัดการเอกสาร ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของบางสิ่งที่ไม่ปกติ
เมื่อไปถึงห้องเรียน ซาเอบะและหลินหลินพบกับ “อันนา” เพื่อนร่วมชั้นของเมย์ที่รู้จักเธอดี อันนาเป็นคนที่อ่อนโยนและเคยมีการพูดคุยกับเมย์เกี่ยวกับปัญหาที่เธอเผชิญอยู่
“อันนา, คุณพอจะบอกเราเกี่ยวกับความรู้สึกของเมย์ในช่วงก่อนที่เธอหายตัวไปไหม?” ซาเอบะถาม
อันนาเริ่มต้นด้วยความรู้สึกเศร้า “เมย์ดูเครียดมากในช่วงนั้น เธอพูดถึงการมีปัญหากับโปรเจกต์และรู้สึกว่าเธอไม่สามารถรับมือได้”
“เมย์เคยบอกอะไรเกี่ยวกับอาร์มหรือการขัดแย้งระหว่างพวกเขาหรือเปล่า?” หลินหลินถาม
“เธอเคยพูดถึงอาร์มว่าเขาเป็นคนที่ไม่ยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น และมันทำให้เกิดความขัดแย้งในโปรเจกต์” อันนาตอบ “แต่เธอไม่เคยบอกว่าเขามีการข่มขู่หรือมีความคิดที่จะทำร้ายเธอ”
ซาเอบะและหลินหลินขอบคุณอันนาและกลับไปที่สำนักงานพร้อมกับข้อมูลใหม่ การพูดคุยกับอันนาได้ให้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นเกี่ยวกับความรู้สึกของเมย์ในช่วงที่เธอหายตัวไป
“เราต้องย้อนกลับไปดูเอกสารทั้งหมดที่เรามีเพื่อหาสิ่งที่อาจถูกมองข้าม” ซาเอบะกล่าว “และหากมีข้อมูลเพิ่มเติมที่อาจเป็นเบาะแสสำคัญ”
ซาเอบะและหลินหลินเริ่มตรวจสอบเอกสารที่พบในห้องของเมย์อีกครั้ง โดยพยายามหาความเชื่อมโยงระหว่างข้อมูลที่พวกเขามีและสถานการณ์ที่เมย์เผชิญอยู่
ในการตรวจสอบครั้งนี้ ซาเอบะพบว่ามีบันทึกบางอย่างที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของเมย์ในช่วงก่อนที่เธอหายตัวไป บันทึกนี้ระบุถึงการประชุมลับที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์ ซึ่งอาจเป็นการประชุมที่สำคัญ
“นี่อาจเป็นเบาะแสสำคัญ” ซาเอบะกล่าว “เราต้องค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุมนี้และผู้ที่เกี่ยวข้อง”
เมื่อท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้น รถของซาเอบะและทาเคชิก็แล่นกลับมายังสำนักงานลับที่พวกเขาใช้เป็นฐานชั่วคราว เมย์ หลินหลิน และอาคิระยืนรออยู่ด้านหน้าอาคารเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมหนึ่งของเขตชานเมือง สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและเหน็ดเหนื่อย “กลับมาแล้ว” ทาเคชิกล่าวพลางเปิดประตูรถ “ทุกอย่างเป็นไปตามแผน” “ได้ข้อมูลที่ต้องการไหม?” หลินหลินถามทันที ซาเอบะพยักหน้า เขาชูแฟลชไดรฟ์ในมือขึ้น “รายชื่อเป้าหมายทั้งหมดอยู่ในนี้ รวมถึงที่ตั้งขององค์กรด้วย” “แล้วแผนต่อไปล่ะ?” เมย์ถาม สีหน้าของเธอบ่งบอกถึงความกดดัน “เราต้องพักก่อน” ซาเอบะตอบเสียงเรียบ “ทุกคนต้องพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้” พวกเขาทั้งหมดเดินเข้าไปในสำนักงาน ทาเคชิล็อกประตูทันทีเพื่อป้องกันการถูกติดตาม ห้องภายในดูเรียบง่าย มีเพียงโต๊ะทำงานเก่าๆ และแผนที่ขนาดใหญ่ที่ปิดทับผนังด้านหนึ่ง “พักฟื้นก่อน” ซาเอบะพูดพร้อมกับวางกระเป๋าเป้ลง “คืนนี้เราจะเริ่มวางแผนตอบโต้” หลังจากพักผ่อนและรักษาบาดแผลจากการปะทะที่ผ่านมา ทุกคนรวมตัวกันในห้องประชุมขนาดเล็ก แสงไฟจากโคมเพดานทำให้บรรยากาศดูจริงจัง “นี่คือเป้าหมายที่เราต้องจัดการ” ซาเอบ
รถคันเล็กแล่นผ่านเส้นทางเปลี่ยวในยามเช้าตรู่ เสียงเครื่องยนต์ที่ดังแผ่วๆ กลมกลืนกับบรรยากาศเงียบสงบ ซาเอบะและทาเคชิยังคงอยู่ในชุดที่พร้อมสำหรับการต่อสู้ โดยทั้งคู่ไม่มีการพูดคุยมากนักระหว่างทาง ทั้งสองต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง “ใกล้ถึงแล้ว” ทาเคชิเอ่ยขึ้นขณะมองแผนที่ GPS บนหน้าจอคอนโซล “อีกห้านาทีก็จะถึงจุดพักที่เราวางแผนไว้” ซาเอบะพยักหน้า “อย่าลืมว่าเราต้องหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าตรงๆ เข้าไปแบบเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้” “แน่นอน” ทาเคชิตอบ พร้อมกับขับรถเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กๆ ที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ เส้นทางนี้นำไปสู่จุดซ่อนตัวซึ่งห่างจากโกดังเป้าหมายเพียงไม่กี่ร้อยเมตร เมื่อจอดรถเสร็จ ทั้งสองก็ลงจากรถและตรวจสอบอุปกรณ์เป็นครั้งสุดท้าย ซาเอบะสะพายกระเป๋าเป้ที่บรรจุเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์และระเบิดขนาดเล็ก ส่วนทาเคชิถือปืนไรเฟิลติดกล้องซึ่งเขาใช้เพื่อการป้องกันระยะไกล “พร้อมไหม?” ทาเคชิถาม ขณะที่ทั้งสองคนเริ่มเดินเท้าไปยังจุดเป้าหมาย “พร้อม” ซาเอบะตอบเสียงเรียบ โกดังขนาดใหญ่ปรากฏให้เห็นอยู่ลิบๆ ท่ามกลางความมืดสลัวของเงาต้นไม้ อาคารนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่รกร้าง มีรั้วลวดหนามล้อมรอบแล
ความเงียบยามค่ำคืนปกคลุมสำนักงานลับของทาเคชิ แม้สมาชิกในทีมคนอื่นๆ จะพักผ่อนอยู่ในห้องต่างๆ แต่ซาเอบะกับทาเคชิยังคงนั่งจมอยู่กับกองข้อมูลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ สายตาของทั้งคู่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น พวกเขารู้ดีว่าทุกนาทีมีค่า และการตอบโต้ต้องเกิดขึ้นก่อนที่ศัตรูจะได้เปรียบ “ข้อมูลนี้…” ทาเคชิชี้ไปที่ไฟล์รายชื่อบุคคลสำคัญในองค์กรร้ายที่ปรากฏบนหน้าจอ “ฉันเจาะเข้าไปในระบบของพวกมันได้บางส่วน รายชื่อเหล่านี้คือคนที่มีบทบาทสำคัญในการตามล่าเรา” ซาเอบะก้มลงอ่านรายละเอียด ชื่อแต่ละชื่อถูกบันทึกไว้พร้อมตำแหน่ง หน้าที่ และความเชื่อมโยงกับหัวหน้าองค์กร หลายคนเป็นผู้ที่พวกเขาเคยเจอหน้าในสนามรบก่อนหน้านี้ “เราจะเริ่มยังไงดี?” ซาเอบะถามเสียงเบา “ก่อนอื่น เราต้องตัดกำลังพวกมัน” ทาเคชิกล่าว “คนพวกนี้แต่ละคนเป็นเหมือนเสาหลักขององค์กร ถ้าเราสามารถจัดการพวกเขาได้แม้เพียงบางส่วน ความสามารถในการเคลื่อนไหวของพวกมันจะลดลง” “แต่นั่นก็หมายความว่าเราต้องเสี่ยงอีกครั้ง” ซาเอบะเอ่ยพร้อมถอนหายใจ “เรายังไม่รู้เลยว่าพวกมันจะวางแผนอะไรต่อ” ทาเคชิพยักหน้าเห็นด้วย “นั่นแหละที่ทำให้มันยากขึ้น แต่เราก็ไม่มีทางเลือกอื่น
บรรยากาศภายในสำนักงานลับของทาเคชิเริ่มเงียบสงบลงหลังจากความโกลาหลที่พวกเขาเผชิญมาตลอดหลายวัน ซาเอบะเดินสำรวจพื้นที่โดยรอบในขณะที่ทาเคชิกำลังตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัย ทั้งคู่รู้ดีว่าความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ “ทุกคนไปพักผ่อนเถอะ” ซาเอบะเอ่ยเสียงเรียบขณะหันมองหลินหลิน เมย์ และอาคิระที่ดูอ่อนล้าจนเห็นได้ชัด หลินหลินถอนหายใจยาว ก่อนพยักหน้า “ก็ดีเหมือนกันค่ะ ฉันแทบจะยืนไม่ไหวแล้ว” เมย์ยิ้มบางๆ พร้อมกับพยุงหลินหลินเดินไปยังโซฟาตัวยาวที่ตั้งอยู่มุมห้อง “พักก่อนเถอะหลินหลิน ฉันจะหาน้ำมาให้” อาคิระนั่งลงกับเก้าอี้ตัวหนึ่งแล้วเอนหลังพิงกำแพง “พวกนายควรพักเหมือนกัน ไม่ใช่แค่พวกเราหรอกที่เหนื่อย นายสองคนก็คงไม่ต่างกัน” ทาเคชิหัวเราะเบาๆ พลางเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลจากชั้นวาง “ยังมีงานที่ต้องจัดการ แต่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวเราจะพักบ้าง” เมื่อทุกคนเริ่มผ่อนคลาย ซาเอบะจึงเดินไปที่ห้องครัวเล็กๆ ที่มุมสำนักงาน เขาเปิดตู้เย็นและหยิบขวดน้ำออกมา มือที่หยิบขวดน้ำยังมีรอยช้ำจากการต่อสู้ที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ขยับเขารู้สึกเจ็บแปลบ แต่ก็พยายามไม่แสดงออก “เจ็บอยู่ใช่ไหม?” ทาเคชิถามขณะเดิ
กลุ่มของซาเอบะเดินต่อผ่านป่าเขาที่หนาแน่น ทิวไม้สูงตระหง่านและเสียงนกกาหม่นมัวในอากาศให้บรรยากาศที่ทั้งสงบและน่าหวาดหวั่น ทุกคนยังคงระวังภัย แม้ว่าพวกเขาจะเริ่มห่างจากการไล่ล่าของคนร้ายไปแล้ว หลินหลินเดินอยู่ข้างเมย์ มือของเธอแตะไหล่เพื่อนอย่างปลอบโยน “ไม่ไกลแล้ว เมย์ เราต้องออกจากป่านี้ได้แน่” ซาเอบะซึ่งนำหน้าอยู่หันกลับมามอง “พวกเราต้องเก็บแรงไว้ ถ้าออกจากป่านี้เมื่อไร เราต้องหารถเพื่อเดินทางต่อให้เร็วที่สุด” อาคิระที่เดินตามหลังก้มมองแผนที่กระดาษในมือ “เส้นทางนี้ควรนำเราไปถึงถนนสายเล็กที่มุ่งหน้าออกจากป่า ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่คิด เราอาจเจอใครสักคนที่ช่วยได้” การเดินทางยังคงดำเนินต่อไป เสียงฝีเท้าของพวกเขาเป็นเพียงเสียงเดียวที่ดังก้องอยู่ในป่า แม้ทุกคนจะเหนื่อยล้า แต่ก็ไม่มีใครบ่น ทุกก้าวที่เดินคือการเข้าใกล้ความปลอดภัย จนกระทั่งในที่สุด ขอบป่าก็ปรากฏขึ้นมาในสายตา ทุกคนต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลินหลินยิ้มให้เมย์ “เห็นไหม? เราทำได้แล้ว!” เมื่อพวกเขาออกมาจากป่า ก็พบกับถนนลูกรังสายเล็กที่ทอดยาวไปยังพื้นที่ชนบท มีป้ายบอกทางเก่าๆ ตั้งอยู่ริมถนน ซาเอบะมองไปรอบๆ แล้วพูดขึ้น “เรา
แสงแดดยามเช้าสาดส่องไปทั่วหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมป่า กลุ่มของซาเอบะที่เพิ่งผ่านพ้นการหนีตายอย่างหวุดหวิดเริ่มตั้งหลักได้อีกครั้ง พวกเขาได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านในแบบเรียบง่าย ผู้คนในหมู่บ้านนี้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ไร้ความวุ่นวายจากโลกภายนอก ชายแปลกหน้าที่เป็นผู้นำทางมายังหมู่บ้านยืนอยู่ห่างออกไปจากกลุ่ม สีหน้าของเขาบ่งบอกถึงความลังเลบางอย่าง ซาเอบะมองเขาแล้วเดินเข้าไป “คุณดูเหมือนมีเรื่องจะพูด” เขาเอ่ยเสียงเรียบ ชายแปลกหน้าหันมามองเขา ก่อนจะถอนหายใจ “พวกคุณปลอดภัยแล้ว ผมคิดว่าถึงเวลาที่ผมจะต้องแยกตัวไป” คำพูดนั้นทำให้ทุกคนในกลุ่มหันมาสนใจ หลินหลินถามขึ้น “ทำไมคุณต้องไปตอนนี้? พวกเรายังต้องการความช่วยเหลือของคุณอยู่นะ” ชายแปลกหน้ายิ้มเล็กน้อย “ผมมีเรื่องที่ต้องจัดการ พวกคุณมีจุดหมายที่ชัดเจนแล้ว ผมมั่นใจว่าคุณซาเอบะจะนำพวกคุณไปสู่ทางออกได้” ซาเอบะจับจ้องชายคนนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ “คุณช่วยเรามากแล้ว เราไม่มีสิทธิ์รั้งคุณไว้” “แต่ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลืออีก คุณจะหาผมได้ที่ไหน?” ซาเอบะถาม ชายแปลกหน้าหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆ ออกมา เขียนข้อความสั้นๆ แล้วส่งให