นิดาลืมตาขึ้นมาในช่วงเย็นวันที่สามสิบ ธันวาคม เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องก็ไม่เห็นว่ามีใครอยู่ และตอนนี้ท้องของเธอมันกำลังส่งเสียงร้องคำรามด้วยความหิวโหย
เธอสวมเสื้อยืดสีขาวและกางเกงที่ใหญ่เกินตัวไปมาก เพราะแบบนั้นนิดาจึงต้องจับกางเกงเอาไว้ในยามที่เธอเดินลงบันไดมาชั้นล่าง และเมื่อเดินลงมาก็พบกับพ่อบ้านที่ส่งยิ้มทักทาย “มาทานมื้อเย็นก่อนสิครับ..อ่า อาจจะต้องบอกว่าเป็นมื้อแรกของวันรึเปล่า” เขาดูเป็นชายชราที่หน้าตาใจดี นิดาส่งยิ้มให้คุณลุงก่อนที่เธอจะเดินตรงไปยังโต๊ะอาหาร “ทานได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ นานๆ คุณหนุ่มจะพาแขกมาบ้านสักที” ใบหน้าพลันเห่อร้อนขึ้นมาเมื่อคุณลุงพูดถึงเจ้านายของเธอ บ้านของเขานั้นใหญ่โตพอสมควรเลย เป็นบ้านหรูที่อยู่ใจกลางเมือง สวนด้านหน้ามีดอกไม้มากมายแปลกตาที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้อยู่กันสองคนอย่างนั้นหรือ? “ตื่นแล้วเหรอนิดา..” เธอกำลังเคี้ยวข้าวจนแก้มทั้งสองข้างพองออก และเมื่อเห็นหน้าเขามันทำให้เธอทำหน้าไม่ถูก “..ตะ ตื่นแล้วค่ะ” รอยยิ้มที่ไม่คุ้นชินปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขา เธอควรจะรีบกินข้าวและรีบกลับบ้านเพราะหากว่ายังอยู่ที่นี่ อยู่กับเขามันจะต้องแย่แน่ๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่หัวใจจะต้านทานใบหน้านั้นได้ เธอจะหวั่นไหวกับเขาอย่างแน่นอน ความใกล้ชิดจะทำให้เธอตกหลุมรักเขาอย่างง่ายดาย ซึ่งทำแบบนั้นไม่ได้นะโว้ยนิดา!! เขาจะรู้สึกแบบไหนกันหากว่าเขารู้ว่าผู้หญิงที่เขานอนด้วย เป็นเจ้าของนิยายอีโรติกที่เขาอ่าน.. ฟังดูแย่มากเลยใช่ไหม และเพราะแบบนั้นเธอไม่ควรจะถลำลึกเข้าไปในความสัมพันธ์มากกว่านี้! “กับข้าวนี่ อร่อยมากเลยค่ะ” นิดาพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้คุณลุงที่กำลังเตรียมตักของหวาน “หากว่าอร่อยก็มาทานบ่อยๆ สิ ลุงแหวนน่าจะดีใจมาก หากว่าเธอมาที่นี่บ่อยๆ” นิดาได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับทั้งลุงแหวนและเจ้านายที่กำลังมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง “คือหนูต้องกลับบ้านค่ะ เพราะว่านัดกับครอบครัวเอาไว้ว่าจะกลับไปเยี่ยมพ่อกับแม่ที่ต่างจังหวัด” “เดินทางตอนนี้อันตรายมากนะ รถน่าจะติด ให้ผมไปด้วยไหมเราขับรถไม่เก่งนี่..” ให้เขาไปด้วยทำไมก่อน จะไปในฐานะอะไรกัน! เธอจะกลับบ้านไม่ได้ไปทำงาน “แม่หนูจะต้องตกใจมากแน่ๆ หากว่าหนูพาบอสได้ด้วย เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกันค่ะ” เขายกยิ้มจางๆ “สัญญาแล้วนะว่าครั้งหน้าจะพาไป” ลุงแหวนหัวเราะเบาๆ ชายชรายกถ้วยขนมหวานมาวางเบื้องหน้าของนิดา “ทานนี่ก่อนสิครับ อันที่จริงช่วงปีใหม่เดินทางลำบากมากจริงๆ เป็นผู้หญิงขับรถกลับคนเดียวมันน่าเป็นห่วงนะครับ คุณนิดาพักอยู่ที่นี่ก่อนเถอะครับ หลังปีใหม่ค่อยให้คุณหนุ่มไปส่งกลับบ้าน พอดีว่าผมจะขอลากลับไปอยู่บ้านสักระยะ คุณหนุ่มอยู่บ้านคนเดียวไม่ค่อยได้ ท่านจำเป็นต้องมีคนช่วย ผมได้แต่หวังว่าคุณนิดาจะรับฟังคำขอร้องของคนแก่ๆ อย่างผม” เธอแพ้อะไรแบบนี้มากเลยให้ตายเถอะ อันที่จริงเรื่องกลับไปไปหาพ่อกับแม่ เธอไม่ได้กลับอยู่แล้ว เพราะเธอไม่ค่อยสนิทกันกับพ่อแม่ จะกลับไปก็ต่อเมื่อลายาวๆ ที่ไม่ใช่ช่วงเทศกาล เพราะเธอขับรถไม่คล่องจริงๆนั่นแหละ จะนั่งรถโดยสารสาธารณะก็ไม่สะดวก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็โอนเงินให้พ่อกับแม่ทุกเดือน ถึงจะไม่ได้สนิทกันมากก็เถอะ แต่พวกท่านก็เลี้ยงเธอมานี่ “ค่ะ..ลุงกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวเถอะค่ะ หนูจะแวะมาหาบอสบ่อยๆ” “แบบนั้นไม่ได้สิครับ พอดีว่าคุณหนุ่มมีโรคประจำตัวที่บอกใครไม่ได้ ปล่อยให้ท่านอยู่คนเดียวไม่ได้นะครับ” “ไม่เป็นไรหรอกลุง ลุงไปเถอะครับผมอยู่ได้ อย่ารบกวนนิดามากนักเลย” คำพูดกับแววตาของเขามันตรงข้ามกันเลยนะ ให้ตายเถอะ!! นั่นมันเป็นการกดดันเธอนะเฟ้ย!! เธอเริ่มทานขนมหวานในถ้วยเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ลุงแหวนยกกระเป๋าออกมาพอดี “ลูกผมมารับแล้ว ไปก่อนนะครับคุณหนุ่ม คุณนิดา” หนุ่มยกกระเป๋าให้ลุงแหวนก่อนจะเดินไปส่งที่รถ “เดินทางปลอดภัยนะครับ” ลุงแหวนจับมือของเจ้านายเบาๆ เด็กน้อยที่เขาเลี้ยงมาบัดนี้ได้เติบโตจนเป็นหนุ่มใหญ่ แต่กลับยังไม่มีใครได้เป็นผู้หญิงโชคดีที่ได้รับความรักของชายผู้นี้ไปเลย ชายชราตั้งความหวังว่าผู้หญิงที่โชคดีคนนั้น เขาขอให้เป็นคุณนิดาเถอะนะ หนุ่มปิดประตูรั้วพร้อมกับเดินเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว นิดากำลังกินขนมหวานในถ้วยด้วยแววตาเป็นประกาย เธอดูเหมือนเด็กๆ เวลาได้อยู่กับของที่ชอบ “อร่อยไหม” นิดาพยักหน้าเร็วๆ “มากๆ เลยค่ะ ลุงแหวนทำอาหารเก่งมากเลยนะคะ ไม่อยากจะเชื่อว่าแกจะดูแลบ้านนี้เพียงคนเดียว” “เรื่องการทำความสะอาดบ้านจะมีแม่บ้านมาทำทุกอาทิตย์ เรื่องสวนก็เหมือนกัน” เขารวยมากๆ แถมบ้านหลังนี้ก็ใหญ่มากด้วย ทั้งที่เขาสามารถจ้างคนรับใช้ได้แต่เขากลับไม่จ้างใคร บอสเองก็หวงแหนพื้นที่ส่วนตัวของเขาสุดๆ ไปเลยสินะ อีกเรื่องที่ทำให้นิดาคิดไม่ตกคือ..ในตอนแรกเธอไม่รู้ว่าจะทำหน้าแบบไหนตอนที่เจอหน้าเขา จะยิ้มให้ทำเหมือนว่าไม่เป็นไร หรือว่าจะเย็นชาแบบไม่สนใจ แต่ทั้งสองแบบนั้นมันไม่ใช่เธอเลยนี่ ความสัมพันธ์แบบนี้บางทีมันอาจจะไม่มีชื่อเรียกและเธอ..จะปล่อยมันไปตามเสียงของหัวใจก็แล้วกัน เขาเองก็ไม่น่าจะจริงจังกับเธอ เขาหล่อและรวยมากขนาดนั้นจะมาสนใจพนักงานตัวเล็กๆ ในบริษัทตัวเองได้ยังไงกัน ไม่มีทางหรอก..เราก็แค่หวั่นไหวในระยะสั้นๆ เท่านั้นเอง อีกสักพักเขาจะเบื่อและทิ้งเธอ แล้วเราจะกลับไปเป็นเจ้านายและลูกน้องเหมือนเดิม แบบนั้นตอนนี้..ก็ปล่อยไปตามอารมณ์ที่จะพัดพาเราไปก็แล้วกัน “จะกลับบ้านไหม อ่า..ผมหมายถึงกลับไปเก็บเสื้อผ้า” ก็ไหนตอนแรกบอกว่าจะไม่รบกวนเธอไงเล่า แล้วใช้ให้เธอไปเก็บเสื้อผ้าทำไมกัน “หนูต้องอยู่ที่นี่กับบอสใช่ไหมคะ” เขายักไหล่เล็กน้อย “แน่นอน เธอจะคืนคำที่รับปากลุงแหวนเอาไว้รึไง” “ก็ไหนบอสบอกว่าไม่อยากรบกวนหนู” “ตอนนั้นไม่อยากรบกวน แต่ตอนนี้อยากรบกวนแล้วไง ไปเถอะบ้านอยู่ที่ไหนล่ะ” อะไรของเขากัน! “อยู่คอนโดค่ะ..ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่” ชั้นสี่สิบ..นี่คือสิ่งเดียวที่นิดาทุ่มเงินทั้งชีวิตในการวางดาวน์เพื่อผ่อนคอนโด เธอยินยอมเก็บเงินกว่าสองปีในการมาวางดาวน์คอนโดที่อยู่สูงและราคาแพงสะบัดเพื่อวิวในยามกลางคืน.. เวลาที่เธอนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานแล้วมองลงไปด้านนอกกระจกมันรู้สึกผ่อนคลายกับความสวยงามอย่างบอกไม่ถูกเลย เหมือนว่าไฟจากตึกเหล่านั้นคือดวงดาวและเธอก็นั่งอยู่บนฟ้าที่สามารถเอื้อมมือไปหยิบจับดวงดาวได้เลย...“จะยังไม่ออกผลงานเล่มห้าจริงๆเหรอคะคุณนักเขียน นักอ่านถามหากันมาเยอะมากๆ เลยนะคะ หากว่าคุณนักเขียนออกเล่มห้ามาในตอนนี้จะต้องขายหมดตั้งแต่วันแรกแน่ๆ”นิดาหัวเราะเบาๆ เมื่อปลายสายกล่าวมาเช่นนั้น“หนูว่าจะหยุดออกผลงานสักสามปีค่ะ เพราะว่าตอนนี้กำลังทำตามความฝันที่สองอยู่ ขอบคุณบรรณาธิการมากเลยนะคะที่นึกถึงหนูตลอด..”“ไม่เป็นไรค่ะคุณดา ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ”นิดายกยิ้ม เธอวางโทรศัพท์เอาไว้บนโต๊ะก่อนจะตรงเข้าไปอุ้มเด็กชายวัยสามขวบมากอดเอาไว้เพราะดูเหมือนว่าเขาพึ่งจะตื่นนอน“แม่มาแล้วครับอีธาน นอนนานมากๆ เลยนะ รู้ด้วยรึไงว่าพ่อกำลังจะกลับมา..”ลูกชายของเธอนั้นไม่มีส่วนไหนเลยที่เขาเหมือนเธอ ดวงตาสีนิลที่เหมือนกับพ่อของเขายังกับแกะ“นิดา ขออุ้มเจ้าตัวเล็กหน่อยสิ”คนที่แวะมาหาเธอบ่อยมากกว่าใครๆ คือคุณแม่ของพี่หนุ่ม คุณย่าเห่อหลานตัวน้อยมากทีเดียว“ดูเขาสิ ย่าจะอุ้มไม่ไหวอยู่แล้ว”นิดาส่งยิ้มพร้อมกับมองคุณย่าและหลานที่กำลังเล่นกัน เธอเดินตามความฝันของตัวเองด้วยการเขียนนิยายภาคต่ออีกสามเล่ม เล่มสองถึงสี่ ด้วยระยะเวลาสองปีเต็มๆ และเมื่อเธอคลอดอีธานออกมาเธอก็อยากจะทุ่มเทเวลามาดูแลลูกก่อนเพราะ
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อนิดาหรือเรียกสั้นๆ ว่าดาก็ได้ค่ะ หนูเคยมาฝึกงานที่นี่เมื่อสามเดือนที่แล้ว ดีใจมากๆ เลยค่ะที่ได้กลับมาทำงานที่นี่อีกครั้ง ฝากตัวด้วยนะคะ”เด็กใหม่ที่เข้ามาทำงานแนะนำตัวสั้นๆ แต่ด้วยรอยยิ้มที่น่าจดจำของเธอมันทำให้เขา..เผลอจ้องมองเธอไปโดยไม่รู้ตัวเลย“ยินดีต้องรับนะนิดา จากนี้ไปก็ใช้ความสามารถของเธอให้เต็มที่ได้เลย”แม่ของเขากล่าวสั้นๆ พร้อมกับตบไหล่ของนิดาเบาๆ หนุ่มก้มมองโทรศัพท์ที่มีการแจ้งเตือนของเพื่อนที่จะนัดกันไปดื่มเขาเลือกที่จะไม่ตอบเพราะว่าไม่ค่อยชอบเข้าสังคมสักเท่าไหร่ อีกทั้งปีหน้าเขาจะต้องมารับช่วงที่นี่ต่อจากแม่แล้วเขาไม่อยากใช้เงินของพ่อและเพราะแบบนั้นเขาจะทำให้ที่นี่โด่งดังและได้รับการยอมรับจากเจ้าสาวทุกคนที่กำลังจะแต่งงาน“ตรงนั้นยังดูเหมือนขาดอะไรไป นี่เธอตั้งใจทำงานจริงๆ ไหมเนี่ย แค่นี้ก็ดูไม่รู้เรื่องงั้นเหรอว่ามันยังขาดความสมดุลของดอกไม้”“ขะ..ขอโทษค่ะบอส”“ขอโทษงั้นเหรอ ขอโทษแล้วงานมันกลับมาดีขึ้นไหมละ ไปแก้ไขสิ เรื่องแค่นี้ก็จะต้องให้บอกด้วยรึไง”นิดามองเพื่อนร่วมงานที่ตัวสั่นเทาจากการถูกดุ เธอเดินเข้ามาก่อนจะหยิบดอกไม้ที่จัดแล้วออกมา“ใจเย็นๆ นะ
นิดากวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องทำงานของเธอ เธออยู่ที่นี่มานานหลายปี เข้ามาทำงานตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ ทุ่มเทเวลามากมายไปกับการทำงาน แต่ตอนนี้จะต้องเดินออกไปจากห้องที่นั่งทำงานมาหลายปี “จะมาอาลัยอาวรณ์อะไร รีบๆ เก็บของได้แล้วเพราะว่าห้องนี้มันจะเป็นของพี่แล้ว” นิดาส่งยิ้มให้กับเอเดน “พี่จะทำงานได้สักกี่เดือนกันคะ เดี๋ยวก็ต้องกลับไปนั่งในตำแหน่งบอสของบริษัทไอทีแล้ว” เอเดนทำท่าครุ่นคิด “อาจจะนานมากกว่าที่เธอคิด พอดีพี่มีงานที่อยากเรียนรู้จากอาอีกมาก..” “สู้ๆ นะคะ พี่ทำได้อยู่แล้ว แค่ลดความขี้เกียจลงนิดหน่อย” “นี่เธอ..” นิดารีบยกกล่องกระดาษขึ้นมาเมื่อเอเดนทำท่าว่าจะด่าเธอ เดี๋ยวเอาของไปเก็บที่คอนโดเสร็จแล้วต้องออกเดินทางไปต่างจังหวัดเลย เพราะว่าจะต้องไปจัดดอกไม้ที่นั่น ถึงจะลาออกแต่ก็มีงานที่เธอต้องทำให้เสร็จอีกสองงาน นิดาเดินออกมาข้างนอกก็พบเจอกับพี่เอื้อและคนอื่นๆ ในบริษัทที่ยืนรอเธออยู่ “พี่ดีใจที่ได้ร่วมงานนะ และดีใจล่วงหน้าเลยกับเรื่องของบอส” “ขอบคุณค่ะพี่เอื้อ ขอบคุณที่เอ็นดูหนูแล้วก็สอนงานหนูมาตลอด” พี่เอื้อเดินเข้ามากอดนิดาเอาไว้หลวมๆ “การขอบคุณที่ดีที่สุดคือการบอกบอสให้เพิ
งานแต่งที่สองของเดือนจบไปอย่างสวยงาม และตอนนี้หนุ่มกำลังออกไปดูสถานที่ของงานที่สามในเดือนนี้ งานสุดท้ายจะเป็นงานแต่งคุณพิมน้องสาวของพราว“ลูกค้าต้องการงานแบบไหนครับ..”พี่เอื้อส่งยิ้มให้กับบอส พร้อมกับส่งกระดาษที่เป็นรายละเอียดของงาน“เจ้าสาวต้องการงานแต่งแบบในสวนหลังบ้านที่เป็นกันเอง เพราะตั้งใจจะเชิญแค่เพื่อนและคนในครอบครัวมาเท่านั้นค่ะ สิ่งที่ลูกค้าต้องการคืองานแต่งท่ามกลางสวนดอกไม้”ที่นี่สวยมากๆ เลย เป็นสวนโรงแรมที่ตั้งอยู่บนภูเขา ไม่บ่อยนักที่เขาจะออกเดินทางมาต่างจังหวัดเพื่อจัดงานแต่งงานถ้านิดามาเห็นอากาศที่นี่จะต้องชอบมากแน่ๆ เลย หากว่าจัดงานเสร็จแล้วเขาน่าจะพาเธอไปเที่ยวแถวๆ นี้สักหน่อยเพราะไหนๆ ก็เดินทางออกมาต่างจังหวัดแล้ว“ตามที่ออกมาแบบมาก็ถือว่าสวยตรงกับที่ลูกค้าต้องการแล้วครับ”“ฝีมือของนิดาก็แน่อยู่แล้วค่ะบอส นิดามาเปรยๆ เอาไว้แล้วว่าจะลาออก..หากว่านั่นมันเป็นความต้องการของนิดา เอื้อก็ไม่ขัดหรอกค่ะ แต่อดเสียดายฝีมือของนิดาไม่ได้ หวังว่าบอสจะแอบพานิดามาช่วยงานที่บริษัทบ่อยๆ นะคะ”บอสยกยิ้มขึ้นมา เมื่อพูดถึงนิดาแววตาของเขามักจะอ่อนโยนเสมอเลย นี่คืออาการของคนคลั่งรักสินะ
นิดาอยู่ที่บ้านของพี่หนุ่มตลอดระยะเวลาห้าวันที่เธอและเขาหยุดงาน แม่ของเขาน่ารักมากๆ เลย คุณแม่ชอบอ่านนิยายมากๆ แถมยังสนับสนุนให้เธอเขียนนิยายต่อไปอีกด้วยท่านไม่ได้มองว่ามันไร้สาระ แต่กลับมองว่ามันคือความสามารถที่มีไม่กี่คนหรอกที่สามารถทำได้“อา พอหยุดงานยาวๆ แล้วไม่ชินเลยนะคะที่จะต้องไปทำงาน”หนุ่มลูบผมของนิดาเบาๆ โดยที่อีกมือยังขับรถอยู่“ก็พี่บอกแล้วให้เราลาออก พี่จะเลี้ยงดูเราเอง”นิดาหรี่ตามองหน้าเขา“นี่พี่พูดจริงเหรอคะ อันที่จริงหนูมีความฝันอีกอย่างที่ไม่เคยบอกใครมาก่อนเหมือนกัน หนูอยากเป็นแม่ค่ะ อยากมีลูกน่ารักๆ ทำกับข้าวเพื่อรอสามีกลับมาจากทำงาน ตอนเช้าก็ส่งลูกไปโรงเรียน..แต่ความฝันนี้มันทำคนเดียวไม่ได้เพราะแบบนั้นหนูก็เลยกำลังพยายามตามหาคนที่จะมาร่วมสร้างความฝันไปด้วยกัน”เขาปรายตามองหน้าเธอ“พูดเหมือนจะขอแต่งงานเลยนะ..หน้าที่การขอแต่งงานมันหน้าที่พี่ต่างหากเล่า”นิดาหัวเราะเบาๆ“โอ้ นี่หนูกำลังทำเกินหน้าที่ของตัวเองอยู่ใช่ไหมคะ น่าอายจังเลยน้า”พูดคำว่าน่าอายทั้งที่ทำหน้าระรื่นแบบนั้นเนี่ยนะ น่าจับถอดเสื้อผ้าแล้วตีที่ก้นแรงๆ สักทีจริงๆ เลยวันเสาร์ที่ผ่านมาเธอออกไปพบเจอกับพ
เมื่อได้ยินคำกล่าวของคุณพราว รสขมเฝื่อนก็ผุดขึ้นมาในอกอย่างบอกไม่ถูกเลย เธอไม่ชอบใจกับคำสารภาพรักของแฟนเก่าพี่หนุ่มเลยสักนิดให้ตายเถอะ!!พราวหันกลับมาตามเสียงก็เห็นพี่หนุ่มที่กำลังยืนอยู่พร้อมกับพนักงานในบริษัทของเขา..ริมฝีปากของพราวสั่นเทาอย่างบอกไม่ถูก หลายๆ อย่างมันบอกว่าผู้หญิงที่กำลังยืนอยู่ข้างพี่หนุ่มจะต้องไม่ใช่พนักงานธรรมดาๆ แน่นอน เธอจ้องมองใบหน้าของนิดาด้วยสายตาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ“พราว พี่ไม่มีทางกลับไปหาพราวหรอกนะ พี่มีแฟนใหม่แล้ว”เขายกมือที่กำลังกุมมือของนิดาขึ้นมาให้พราวดูเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าเขาและนิดาเป็นคนรักกันเธอไม่เคยเสียหน้ามากขนาดนี้ เขาทำให้เธอต้องเสียศักดิ์ศรีถึงสองครั้งสองครา“เหอะ! แล้วแฟนใหม่ของพี่รับได้เหรอคะที่ส่วนนั้นของพี่มันใช้การไม่ได้น่ะ พราวรับได้นะคะพี่หนุ่ม ไม่ว่าพี่จะเป็นยังไงตอนนี้พราวรับได้ทั้งหมดเลย แค่พี่ยอมให้พราวกลับไปหาพี่..”“จริงอย่างที่คุณพราวบอก หนูไม่รู้จริงๆ ค่ะว่าส่วนนั้นของพี่หนุ่มใช้การไม่ได้”พราวแสยะยิ้มออกมาด้วยความเหนือกว่า“เห็นไหมล่ะคะ ไม่มีใครรับเรื่องนี้ได้หรอกค่ะ มีแต่พราวเท่านั้น..”“ที่หนูไม่รู้ว่าส่วนนั้น