Masuk“คุณ!”
หลังจากที่ถูกพามาขังเอาไว้ในห้องหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ในทุกๆวันเพียงพอใจก็มักจะนั่งอยู่ตรงมุมห้องแคบๆเพื่อพยายามนึกให้ออกว่าเธอคือใคร และในวันนี้ก็เหมือนกัน
เธอกำลังพยายามนึกอย่างนักจนไม่ได้สนสิ่งรอบตัว แต่แล้วก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อเขาที่เธอนั้นแสนคุ้นหน้ามายืนอยู่ตรงหน้าของเธอ
“เออ กูเอง”
มาเฟียหนุ่มที่กำลังได้ที่ตอบกลับออกไปด้วยความไม่สบอารมณ์ เขาไม่ชอบให้ผู้หญิงที่จะมีอะไรด้วยมาพูดมากแบบนี้
พวกเธอควรแค่นอนเป็นที่ระบายอารมณ์ของเขาก็พอ ไม่ควรมีปากมีเสียงให้เขาต้องรำคาญ
“ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”
หญิงสาวเอื้อนเอ่ยคำถามที่คาใจมาตลอดหลายวันด้วยความอยากรู้ เมื่อเธอนั้นไม่อาจนึกออกเองได้
“หุบปากซะถ้าไม่อยากตายคามือกู”
ร่างหนาจับกดร่างเล็กให้ลงไปนอนกับพื้นด้วยกำลังที่มีมากกว่า ขึ้นคร่อมร่างเล็กนั้นเอาไว้ในทันทีไม่ให้เธอขยับหนีไปไหนให้ต้องเสียเวลา
“ทำไมฉันถึงเป็นนางบำเรอของคุณ”
เธอเฝ้าตามเด็กสาวคนนั้นที่เข้ามาส่งข้าวส่งน้ำให้เธอมาหลายวันว่านางบำเรอคืออะไรจนได้คำตอบ เลยรีบถามเขาเมื่อมีโอกาสเพราะกลัวว่าเขาจะหายตัวไปอีก แล้วเธอก็จะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองอีกเลย
“ก็เพราะเธอมันร่านไง อืม”
ใบหน้าหล่อคมของพ่อหนุ่มที่มีหลายเชื้อชาติอยู่ในตัวก้มลงหาซอกคอขาวของหญิงสาว ก่อนจะซุกซบลงไปด้วยปลายจมูกโด่งเป็นสัน
สูดหอมเอากลิ่นกายสาวที่หอมฟุ้งออกมาตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าใกล้เข้าไปในปอด ตักตวงเอาใส่ตัวเองให้มากที่สุด
“ฉันทำเพราะแบบนั้นจริงๆเหรอ”
เธอถึงกับลูกสึกใจหายไม่น้อยเมื่อได้ยินคำตอบจากปากของเขา ถ้าเขาไม่ใช่คนที่เธอคุ้นหน้าด้วย เธอคงไม่มีวันเชื่อหรอกว่าเขาพูดความจริง
“อืม หุบปากสักทีเหอะน่ะ”
มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดของเธอ คว้าเอาเอวกางเกงยางยืดของเธอไว้และกำลังจะดึงมันออก
“ไม่นะ”
เพียงพอใจรู้สึกถึงความไม่คุ้นในการต้องมาเปลืองผ้าต่อหน้าเขา ก็ทำเอาเธอจำต้องดิ้นขัดขืน
“ดิ้นทำไมวะ”
มือหนาขยับขึ้นไปกดไหล่เล็กของเธอเอาไว้อย่างแรงเมื่อเธอกล้าดีมาขัดขืนคนอย่างเขา เธอก็เป็นแค่ที่ระบายความแค้นของเขาไม่มีสิทธิ์คิดจะทำอะไรนอกเหนือคำสั่งของเขา
“หนูคงไม่เคยทำอะไรแบบนี้”
เธอเจ็บจนพูดไม่ออกแต่ก็ฝืนพูดออกมา เมื่อไม่ได้เต็มใจที่จะทำอะไรแบบนั้นกับเขา
ถ้าก่อนหน้านี้เธอเคยทำได้ แต่ตอนนี้เธอทำไม่ได้แล้ว เพราะในหัวของเธอมันไม่มีความจำอะไรเกี่ยวกับเรื่องอย่างว่านั้นเลย
“ไหนบอกว่าความจำเสื่อมไงวะ”
มือหนาขยับเข้าหาลำคอเล็กๆของเธออย่างรวดเร็วแล้วบีบเอาไว้อย่างแรง เมื่อเธอตั้งท่าจะโกหกเขาว่าความจำเสื่อม
ไม่มีใครกล้าโกหกต่อหน้าเขามาก่อน ถ้าเธอเป็นคนแรกที่กล้าทำเขาก็ยินดีจะฆ่าเธอให้ตายคามือเขา แล้วส่งศพกลับไปให้พ่อของเธอ ไม่จำเป็นต้องแก้แค้นต่อก็ได้ เพราะเขาเกลียดการโกหกเป็นที่สุด
“อื้อ อ่อย อื้อ”
ร่างเล็กถึงกับดิ้นพล่านภายในเงื้อมมือของเขาเพื่อเอาชีวิตรอด เธอไม่ได้โกหกอะไรกับเขาทั้งนั้น เพียงแต่ไม่เต็มใจจะทำอะไรอย่างว่ากับเขาก็แค่นั้นเอง
“ถ้าขืนดิ้นอีก กูจะฆ่ามึงทิ้งซะ”
ยิ่งเธอดิ้นเขาก็ยิ่งเกิดความต้องการจนห้ามตัวเองเอาไว้ไม่ไหว จำต้องปล่อยลำคอเล็กๆนั้นออกจากมือ แล้วเขากระชากเสื้อผ้าของเธอออกจากเรือนร่างอรชรนั้นแทน
“ฮือ”
หญิงสาวนอนนิ่งด้วยความหวาดกลัวไม่กล้าแม้แต่จะดิ้น มีเพียงหยดน้ำตาเท่านั้นที่ไหลอาบสองแก้มขาวไม่ขาดสายอย่างไม่อาจห้ามเอาไว้ได้ ให้เขาทำอะไรตามใจชอบกับร่างกายของเธอก็ได้ราวกับเธอไม่มีชีวิตและความรู้สึก
“อ้าส์”
มือหนาเอาตะขอกางเกงของตัวเองลงแล้วงัดเอาความใหญ่โตออกมาจากภายในกางเกง
ชักรูดความใหญ่โตที่ใหญ่จนคับมือตัวเองนั้นต่อหน้าเธอหลายครั้งจนมันตั้งลำแข็งราวกับเหล็กกล้า
จับสองขาเรียวแยกออกจากกันจนกว้างสุดอย่างเอาแต่ใจ จนกลีบกุหลาบของเธอมันแยกออกจากกันจนเห็นได้เด่นชัดด้วยตาเปล่า
เสียบแทงท่อนเอ็นยักษ์ของเขาเข้าไปในตัวเธออย่างไร้ความปรานีเพราะเขาไม่เคยมี มีแต่ความสะใจเท่านั้น
“กรี๊ด”
หญิงสาวกรีดร้องสุดเสียงด้วยความเจ็บปวดอย่างไม่อาจห้ามปากตัวเองเอาไว้ได้ ร่างกายเหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆอย่างไม่เหลือชิ้นดี
แหลกสลายทั้งความรู้สึกที่เธอไม่ได้เต็มใจจะให้เขาสนุกกับเรือนร่างของเธอแม้ว่าเธอจะถูกตราหน้าว่าเป็นนางบำเรอของเขา แหละสลายทั้งร่างกายที่ถูกเขาใช้ความรุนแรงนั้นด้วย
“อ้าส์”
ยิ่งเธอกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด สะโพกแกร่งของมาเฟียหนุ่มก็ยิ่งตอกหนักเข้าหาเธอแบบไม่ยั้งมือ
เสียงของเธอช่างปลุกเร้าให้อารมณ์ความป่าเถื่อนของเขามันลุกโชนได้ดีจริงๆ
“เจ็บ ฮือออ”
เสียงกรีดร้องยังคงดังไม่ขาดสายเมื่อร่างหนายังคงตักตวงความสุขจากเรือนร่างของเธออยู่
“อ้าส์”
สะโพกแกร่งกระแทกกระทั้นเข้าหาเธอด้วยความรุนแรงแบบไม่มีหยุดพัก ระบายความใคร่ใส่ตัวเธออย่างไม่สนใจในความเจ็บปวดของเธอที่มันถูกระบายออกมาเป็นเลือดนั้น
เขาสนใจเพียงว่าจะทำยังไงให้เธอได้เจ็บปวดมากที่สุด และตัวเขามีความสุขมากที่สุดแค่นั้นเอง
“อ้าปากซิวะ”
เขาดึงท่อนเอ็นยักษ์ออกกลางทางระหว่างที่อารมณ์ของเขายังไม่ได้ถูกปลดปล่อยออกมาจนหมดออกจากตัวเธอ
แล้วใช้มือสาวลำใหญ่นั้นจดจ่อเอาไว้ตรงปากของเธอ ก่อนจะบังคับให้เธออ้าปากออก
“อ้าส์”
จับยัดลำยาวนั้นใส่เข้าไปในปากของเธอก่อนจะปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเข้าใส่ไปในโพรงปากของเธอด้วยการใช้มือช่วย
“กลืนลงไป”
แล้วดึงออกอย่างรวดเร็วก่อนจะบังคับให้เธอกลืนน้ำของเขาลงไป
“อืม”
เพียงพอใจไม่อาจขัดขืนเขาได้ด้วยความหวาดกลัวที่มีมากเกินไป เธอได้แต่จำยอมกลืนน้ำที่มีรสชาติแปลกๆนั้นลงคอไป
“แหกขาออกดิวะ”
แต่ทว่ามาเฟียหนุ่มกลับไม่พอใจเพียงแค่รอบเดียวเท่านั้น แท่งเนื้อยักษ์ของเขายังคงอยากจะปลดปล่อยอยู่เลย
ออกคำสั่งให้เธอทำตามใจเขาอีกครั้ง เพราะค่ำคืนนี้มันยังไม่จบสำหรับนางบำเรออย่างเธอ
“หนูไม่ทำแล้ว มันเจ็บ ฮือออ”
หญิงสาวขัดขืนด้วยเสียงร้องไห้ที่ดังสุดเสียง เธอเจ็บปวดเกินจะรับไหวอยู่แล้ว
“หุบปาก”
เซนต์ถอดเสื้อเชิ้ตแขนยาวของตัวเองออกมา แล้วใช้เสื้อตัวนั้นอุดปากหญิงสาวเอาไว้อย่างแน่นหนา สองมือหนาจับกดสองมือบางเอาไว้แน่นกับพื้นไม่ให้เธอขยับหนีไปไหนได้
“อ้าส์”
เสียบแทงท่อนเอ็นยักษ์กับเธออีกครั้งอย่างเอาแต่ใจตัวเอง ผ่านความเจ็บปวดของเธอเข้าไปจนลึกสุดลำยาว
กระแทกกระทั้นอย่างหนักหน่วงเพื่อระบายความต้องการของตัวเอง ท่ามกลางหยดน้ำตาของเธอที่เขายิ่งมองก็ยิ่งเกิดอารมณ์
แล้วคืนนั้นตลอดทั้งคืน นรกบนดินก็ได้เกิดขึ้นกับหญิงสาว มัจจุราชอย่างเขาแทบไม่ปล่อยให้เธอได้พัก เฝ้าแต่โหมโรมรันกระแทกกระทั้นใส่เธอไม่หยุดหย่อนเสียจนฟ้าเกือบสาง
ร่างเล็กสิ้นสติคาพื้นห้องที่เต็มไปด้วยคราบเลือดบริสุทธิ์ของตัวเองเพียงลำพัง โดยที่เขากลับไปนอนหลับอย่างสบายตัวที่ห้องนอนใหญ่ของตัวเอง
เซนต์ใช้เวลาเดินทางไม่นานเขาก็มาถึงยังบ้านหลังใหญ่ที่เก็บซ่อนเพียงพอใจเอาไว้ภายในนั้นพร้อมกับลูกน้องอีกไม่รู้กี่สิบคนนับไม่ถ้วนจริงๆเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับเธอเพียงก้าวเท้าลงจากเขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติภายในบ้านหลังใหญ่นั้นนี้ในทันที เมื่อทุกอย่างมันดูเงียบไปหมดราวกับบ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่อาศัยร่างหนารีบวิ่งเข้าไปภายในบ้านทันที เขาขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านด้วยความรวดเร็ว ใช้ฝีเท้าเร็วกว่าความคิดในหัวซะอีก“นาย.....”โจกระเสือกกระสนออกมาจากภายในห้องของเพียงพอใจพร้อมกับเลือดที่อาบเต็มใบหน้าของเขา สองมือของเขาพยายามขยับไปตามพื้นเพื่อฉุดรั้งร่างกายใหญ่โตให้เคลื่อนไปข้างหน้า หวังจะออกมาพบใครสักคนเพื่อร้องขอความช่วยเหลือแล้วเขาก็ได้พบกับเจ้านายเข้าพอดี ทำเอาลูกน้องอย่างโจถึงกับฝืนยิ้มผ่านเลือดที่เปียกชุ่ม“ไอ้โจ”ร่างหนาย่อตัวลงไปช่วยพยุงร่างของลูกน้องให้ลุกขึ้นนั่ง โดยใช้ลำตัวหนาของเขาเป็นพนักพิงให้อีกฝ่ายแทนเก้าอี้แต่สายตากลับกวาดมองไปรอบๆเพื่อมองหาหญิงสาวที่ควรจะอยู่ในห้องนั้นให้เจอ“นายครับ พวกมัน แค๊กๆ วางยาพวกเรา”โจเอ่ยออกมาด้วยความอยากลำบากสลับกับลมหายใจที่ติดขัดแทบห
“ขนกันมาทำเหี้ยอะไรวะเนี้ย”เซนต์พอนอนหลับพักไปได้ไม่กี่ชั่วโมงเขาก็ออกมาทำงานของเขาต่อ ด้วยช่วงนี้เรื่องอำนาจของเขาค่อนข้างสั่นคลอนเพราะไปยุ่งเกี่ยวกับไอ้อัลวินตรงๆทำให้เขาห่วงเรื่องงานมากกลัวจะมีปัญหาก็เลยทิ้งไปนานไม่ได้ จำเป็นต้องตรวจตราด้วยหูตาของตัวเองอย่างใกล้ชิดพอมาถึงยังโกดังใหญ่ริมท่าเรือที่ซึ่งเป็นทั้งที่ส่งของและที่นัดรับของผิดกฎหมายทุกประเภท เขากลับไม่ได้ทำงานแต่กลับได้ต้อนรับแขกที่เป็นเพื่อนสนิททั้งสองคนแทน และไม่รู้ว่าไอ้แขกมันมารอพบเขาตั้งแต่ตอนนไหนเพราะลูกน้องก็ไม่เคยรายงานอะไรไปก่อนหน้านี้เลย ก็คงเป็นเพราะพวกมันสองคนสั่งลูกน้องของอีกทีนั่นแหละประหนึ่งว่าไอ้เพื่อนสนิททั้งสองคนมันวางแผนกันมาแบบนี้ไว้แล้ว ข่าวการมาของมันสองคนถึงได้เงียบไม่เข้ามาในหูของเขาเลยสักนิด “ก็แค่มาเยี่ยมมึง”บอนเนอร์ลงทุนออกจากผับอันแสนสุขของตัวเขาเองมายังโกดังอันแสนน่าเบื่อที่เต็มไปด้วยงานและก็งานของไอ้เซนต์ด้วยสีหน้าฝืนยิ้มนี่ถ้าเขาไม่ได้อยากจะรู้ว่ามันขนลูกน้องของเขากับไอ้ออสตินไปทำเรื่องเหี้ยอะไรเอาไว้ เขาไม่มีทางมาในที่ที่เต็มไปด้วยความน่าเบื่อแบบนี้เป็นอันขาด“เยี่ยม?”เครื่องหม
รถหรูสีดำคันใหญ่หรือเรียกอีกอย่างว่ารถแนวครอบครัวที่สามารถขนคนทั้งหมู่บ้านได้เลย ที่มักจอดอยู่ในโรงจอดรถไม่เคยได้ขับออกไปไหนด้วยเจ้าของรถไม่ค่อยชื่นชอบในความใหญ่โตเกินความจำเป็นของมันเพราะส่วนมากแล้วเขามักจะนั่งรถไปไหนมาไหนคนเดียว ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถของโรงพยาบาลอย่างช้าๆอย่างระมัดระวัง และมีขบวนรถติดตามล้อมหน้าล้อมหลังอีกนับสิบคันเพื่อความปลอดภัยของคนที่นั่งอยู่ภายในรถมือเล็กๆหยิบยื่นแผ่นฟิล์มอัลตร้าซาวด์ให้เขาที่นั่งอยู่ข้างๆเธอ หลังจากที่ถือมันมาได้สักพักใหญ่แล้วตั้งแต่ลงจากเตียงนอนที่โรงพยาบาลใจเธออยากเก็บมันไว้กับตัวเพราะนับเป็นภาพแรกของลูกชายทั้งสองในท้อง แต่อีกใจก็ตัดสินใจว่าควรให้เขาไปดีกว่า “อะไร”สายตาคมที่เคลือบไปด้วยความเย็นชาไม่เคยแสดงความรู้สึกออกมาเลยนั้นจ้องมองไปยังแผ่นอะไรบางอย่างสีดำๆตรงหน้าก่อนจะจ้องมองไปยังคนตัวเล็กที่โตแต่ท้องจนหมอต้องสั่งเพิ่มน้ำหนักนั้น พร้อมกับขมวดคิ้วแสดงความสงสัยออกมา“แผ่นฟิล์มอัลตร้าซาวด์ของลูกนะคะ คุณเป็นคนออกเงินค่าโรงพยาบาลทั้งหมด ฉันคิดว่าคุณควรเก็บเอาไว้”“เฮ้อ”คนตัวโตถอนหายใจยาวดังพรืดใหญ่ใส่คนตัวเล็กตรงหน้าราวกั
“มีสองคนเลยเหรอเนี้ย มิน่าถึงได้ดิ้นกันแรงนัก”“เข้มแข็งนะคนเก่งทั้งสองของแม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราก็ได้กลับบ้านกันแล้วนะ”เพียงพอใจนอนพักบนเตียงของคนไข้ที่ดูกว้างขวางนอนสบายและสะอาดตาภายในห้องพักที่เรียกได้ว่าเป็นแบบวีไอพีพรีเมียมที่ราคาคงแพงน่าดู แต่ทว่าก็คงแลกมากับความสบายที่เหมือนนอนพักที่บ้านของตัวเอง ในส่วนนี้เธอไม่รู้ค่าใช้จ่ายใดๆเพราะมาเฟียคงเป็นฝ่ายจัดการให้แล้วเธอคงต้องไปหาจ่ายชดใช้เขาภายหลังเธอนอนลูบท้องเบาๆเพื่อคุยกับลูกน้อยเหมือนเช่นทุกคนที่ผ่านมา แต่ทว่าครั้งนี้พิเศษกว่าครั้งก่อนๆเมื่อเธอนั้นเพิ่งจะได้รู้ว่าในท้องมีลูกน้อยถึงสองคนที่กำลังดิ้นแข่งกันอยู่“น้ำเน่าอะไรหนักหนาวะ”บานประตูของห้องพักคนไข้ถูกเปิดแง้มเล็กน้อยให้สายตาคมลอดผ่านเข้าไปภายในห้องได้มาเฟียหนุ่มกำลังยืนมองคนที่เขาเผลอพูดออกไปว่าเป็นลูกกับเมียอย่างเพลิดเพลินจนลืมเวลา หลังจากที่ให้ลูกน้องวนรถกลับมาส่งทั้งที่เอ่ยปากบอกว่าจะออกไปทำงานก่อนหน้านี้แต่ทว่าพอหันหน้ากลับออกมาก็เจอกับลูกน้องหลายคนยืนจ้องหน้าเขาอยู่ คำพูดเฉไฉไปในทางต่อว่าเธอก็เลยหลุดออกจากปากของเขา“นายไม่เข้าไปเหรอครับ”โจกับลูคัสที่มีหน้าที
“ทำไมคุณถึงมาช้า”เสียงเล็กๆเอ่ยถามคนตัวโตอย่างกล้าๆกลัวๆ เป็นคำถามเชิงตำหนิที่ความจริงแล้วเธอไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเอ่ยพูดออกไปเลยด้วยซ้ำแต่เพราะก่อนหน้านี้หวาดกลัวจนลนลานคิดถึงแต่เขาเป็นคนแรกทำให้เธออดไม่ได้ที่จะถามออกไป เพราะถ้าเขามาไม่ทันเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าป่านนี้เธอกับลูกจะเป็นยังไงบ้าง“ถามทำไม”สายตาคมจ้องมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆไม่วางสายตา มองไปรอบๆตัวเธอเพื่อสำรวจถึงความเรียบร้อยว่าไม่มีอะไรบุบสลายไปใช่ไหม“คุณรู้ไหมว่าฉันกลัวมาแค่ไหน”“นั้นมันบ้านของเธอมีอะไรน่ากลัวนักหนา โวยวายน่ารำคาญอยู่ได้”“พวกเขาจะฆ่าลูกในท้องคุณจะไม่ให้ฉันกลัวได้ยังไงกันล่ะ ฉันไม่ได้เก่งเหมือนคุณหนิ่”เสียงหวานๆไม่เพียงแค่บอกกับเขาว่ามันเกิดอะไรขึ้นเท่านั้นยังค่อนขอดใส่เขาด้วยความน้อยอกน้อยใจอีกตั้งหากเพราะความที่เขามาช้าเลยทำให้เธอนั้นกลัวจนต้องวิ่งหนี นี่ถ้าเขามาไม่ทันป่านนี้เธอไม่ต้องวิ่งออกมากลางถนนจนถูกรถชนหรอกเหรอ หรือไม่ก็ถูกพวกเขาพาตัวกลับไปฉีดยาบ้าๆนั้นแล้ว“ไอ้อัลวิน ไอ้สัตว์นรก”เขาแสร้งทำเหมือนไม่สนใจเธอแต่ก็รับฟังเธอในทุกคำพูดนั่นแหละ จนสุดท้ายเก็บอารมณ์เอาไว้ไม่ไหวเมื่อได้ยินว่า
“เรียบร้อยหรือยัง”อัลวินกระซิบกระซาบถามหมอเถื่อนนั้นต่อหน้าลูกสาวที่กำลังนั่งกินผลไม้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขาที่โต๊ะอาหารเดียวกันภายในห้องกินข้าวที่ใหญ่โตหรูหราไม่แพ้กับร้านอาหารระดับห้าดาวเลยล่ะ“เรียบร้อยครับ”“แล้วทำไมยังดูปกติอยู่อีกล่ะ”เวลาผ่านมาเกือบสองชั่วโมงได้แล้วนับตั้งแต่ให้หมอเถื่อนไปจัดการเรื่องทำแท้ง แต่ทำไมเด็กในท้องของลูกสาวของเขานั้นยังดูปกติกันอยู่เลย ไม่ให้มีใครออกมาตายเลยสักคน “ต้องให้เวลายาออกฤทธิ์สักพักครับ”“ไม่มีอะไรที่มันแรงกว่านี้หรือไงวะ”“ถ้าท่านต้องการแบบนั้นผมก็คงต้องจับเธอฉีดยาครับ”“จะทำอะไรก็รีบๆทำซิวะ”“เธอจะยอมเหรอครับ”“ไม่ยอมก็ต้องยอม พวกมึงจับตัวหนูมายด์เอาไว้”จากเสียงกระซิบกระซาบของอัลวินกลายเป็นเสียงตะคอกดังออกมาเมื่ออัลวินทำใจเย็นรอต่อไปไม่ไหว เขาเกลียดพวกเอสเซียโนมากไม่อาจทำใจให้เลือดเนื้อของพวกมันมาอยู่ในท้องลูกสาวของเขาได้ และก็กลัวว่าข่าวของลูกสาวของเขาจะรั่วไหลออกไปสู่หูคนนอกให้เขาต้องเป็นที่อับอายต่อผู้คนอีก จัดการทุกอย่างให้รวดเร็วที่สุด ให้จบภายในคืนนี้เลยยิ่งดี“ครับนาย”ลูกน้องสองคนเดินเข้าไปประชิดตัวลูกสาวของเจ้านายตามคำสั่ง






![DarkZ [I] MYZTERY HORO](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
