Share

บทที่ 74

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-09-18 18:17:06

อาจูขมวดคิ้วมุ่น อดนึกถึงภาพอาม่านั่งกินฝรั่งจิ้มซีอิ๊วกับพี่เลี้ยงไทยแท้ของตัวเองไม่ได้

ตั้งแต่เธอจำความได้ อาม่ากับพี่เลี้ยงที่อาม่าติดจะรักเอ็นดูยิ่งกว่าหลานในไส้ ก็คอยพูดกรอกหูเอาไว้ว่าถ้าเผลอหลับตอนที่ท้องฟ้าเป็นสีแดงแบบนี้ จะปวดหัว เป็นไข้ ที่ผ่านมาเธอไม่ค่อยจะเชื่อถือสักเท่าไหร่ ยิ่งพอถามดูว่าเป็นความเชื่อสายไหนกันแน่แล้วอาม่าตอบไม่ได้ ก็ยิ่งรู้สึกต่อต้าน ใครจะนึกว่าตอนนี้พอเผลอนอนหลับช่วงตะวันแยงตากับเขาบ้าง จะปวดหัวจี้ดๆ ขึ้นมาจริงๆ

หรือจะลุกเร็วเกินไปหว่า?

อาจูกุมขมับแน่น คิดเองเออเองว่าถ้านั่งนิ่งๆ กุมกะโหลกหุ้มสมองให้แน่นๆ เข้าไว้ อีกสักพักความรู้สึกปวดทั้งแบบหนึบๆ กับหน่วงๆ ในหัวก็หายไปเอง ใครจะรู้ว่าแค่เงยหน้าขึ้นอีกนิด สายตาจะปะทะกับสายตาอาจารย์ใจโหดชาติหินเข้าพอดี

ท่านจ้าวหุบเขาผู้นั้นยืนนิ่งมอง นัยน์ตาที่ปกติจะสงบราบเรียบเหมือนผิวน้ำในบ่อ ฉายแววกังวลปนคาดหวังแปลกประหลาด

เอ๊ะ...ท่าทางแบบนี้...เป็นห่วงรึ?

นึกถึงความทรมานช่วงก่อนหน้านี้แล้ว ในใจอาจูลิงโลดถึงขีดสุด

หึหึ...

“ซือฝุ...” เสี่ยวจวี๋

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 114

    หลี่หยางกวาดสายตาคะเนจากมุมสูง ทดลองทิ้งก้อนหินก้อนใหญ่ลงไปแบบเดียวกับหีบไม้เมื่อครู่ เมื่อสังเกตเห็นว่าก้อนหินตกกระทบพุ่มกิ่งไม้ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้พุ่มกิ่งไม้อื่นๆ อีกหลายกิ่ง ก็แตะปลายเท้า ไต่ลงไปยังบริเวณนั้นทันทีบนพุ่มกิ่งไม้ไม่มีร่างลูกศิษย์มากปัญหา แต่ยังมีเศษผ้าจากชายกระโปรงนางติดค้างคากิ่งไม้แห้งๆ กิ่งหนึ่งไม่ผิดแน่...ด้วยเหตุผลบางอย่าง นางพลัดตกลงมาที่นี่ร่างกายนางไม่ได้ติดค้างอยู่บนนี้ ไม่ได้ลอยอยู่ในน้ำ ไม่ได้นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นเย็นชืดด้านล่างเช่นนั้นความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือ...นางยังมีชีวิตอยู่แต่เป็นที่ไหน?หลี่หยางดีดปลายเท้าไต่กลับลงไปในหุบเหวอีกครั้งหุบเหวแห่งนี้เป็นสถานที่ปิดตายอย่างแท้จริง แม้กินอาณาเขตกว้างขวางพอใช้ แต่ก็นับเป็นหุบเหวลับที่มีเพียงคนของหุบเขาเดียวดายที่อาจพบเห็น ทั่วทุกทิศไร้ทางออก หากร่วงหล่นลงไปแล้ว เด็กสาวไร้วรยุทธผู้หนึ่งก็มีแต่จะต้องพยายามปีนป่ายกลับขึ้นมาด้วยกำลังของตนเองเท่านั้นวัดจากพละกำลังของร่างกายนั้นและประสบการณ์กา

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 113

    เหนือหน้าผาสูงชันเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียวอ่อนโปร่งสวย...ร่างในชุดสีน้ำเงินเข้มยืนตระหง่านจ้องมองหีบไม้ใบใหญ่ร่วงลงสู่ก้นเหวลึกสุดหยั่ง สีหน้านิ่งเรียบดูเย็นชา ชวนให้นึกถึงรูปสลักน้ำแข็งพันปีไม่รอจนได้ยินเสียงหีบที่ตนเพิ่งโยนลงไปร่วงลงกระทบผืนน้ำ หลี่หยางดีดปลายเท้ากระโดดลงหน้าผา อาศัยพุ่มไม้และก้อนหินที่ลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ ช่วยพยุง ทุกการเคลื่อนไหวดูคล่องแคล่ว ราวกับเคยทำแบบนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนไม่นานนัก ร่างสง่างามก็ไต่ลงมาถึงก้นเหวเวลานี้หีบไม้ร่วงลงในน้ำเรียบร้อยแล้วดูเหมือนตอนตกกระแทกผิวน้ำจะรุนแรงเกินไป ฝาหีบจึงเปิดอ้า ปลดปล่อยทองคำจำนวนหนึ่งให้ดำดิ่งลงสู้ก้นสระสีมรกตอย่างอิสระเสรี สระน้ำก้นเหวที่มีคราบตะไคร้ขึ้นตามหินก้นสระจนขับให้น้ำสีใสสะท้อนแสงแดดเปล่งประกายสีเขียว พลันดูคล้ายมีประกายสีทองเรืองรองเพิ่มขึ้นเล็กน้อย มองแล้วดูคล้ายอัญมณีที่ส่องประกายใต้แสงแดดหลี่หยางเมินเฉยต่อภาพงดงามนั้น สาวเท้าเข้าหาเนินหินใหญ่โตใต้ผาบริเวณที่แสงสีทองจากสระน้ำส่องกระทบ คุกเข่าลงคำนับสามครั้ง ก่อนปลดขวดน้ำเต้าบรรจุสุราสาลี่ที่เอวออกมารินราดรดด้

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 112

    กระนั้นจ้าวเหว่ยซงก็ไม่คิดว่าบุรุษที่พุ่งทะยานนำหน้าตนจะเป็นผู้คิดอ่านเรียบง่ายเช่นนั้น นอกจากนี้ แม้ตำหนักพันพิษจะเป็นค่ายพรรคมารก็ใช่ว่าจะยินยอมรับงานจากผู้ใดโดยง่าย ยิ่งเรื่องเข้ารับใช้แผ่นดินหนึ่งแผ่นดินใดด้วยแล้ว นับว่าผิดวิสัยพรรคมารอันเย่อหยิ่งที่ก่อร่างสร้างตัวอยู่ในสถานที่ที่รายรอบด้วยทะเลทรายอันแห้งแล้ง ปกครองตนเองเสมือนหนึ่งชนเผ่าอิสระย่อมๆ ชนเผ่าหนึ่งก็ไม่ปานรองแม่ทัพจ้าวสงสัยยิ่งนัก ว่า “กุนซือหวาง” ผู้พุ่งทะยานนำหน้าด้วยแววตามั่นอกมั่นใจถึงเพียงนั้น ไปเอาความเชื่อมั่นเช่นนี้มาจากที่ใดขณะกระโดดข้ามหุบเหวเคียงกัน จ้าวเหว่ยซงอดออกปากถามไม่ได้“กุนซือหวาง...ท่านมีวิธีทำให้ประมุขตำหนักพันพิษยอมช่วยเหลือฝ่ายเราอย่างนั้นรึ?”“เรื่องนั้นยังไม่แน่นอนนัก เพียงแต่ข่าวลือพวกนั้นช่างน่าสนใจยิ่ง” หวางมู่ตอบตามตรงนอกจากข่าวเล่าลือเรื่องลูกศิษย์ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นสตรีของจ้าวหุบเขา กับเรื่องนายน้อยสกุลซุน ยังมีเรื่องที่ประมุขตำหนักพันพิษมาพำนักที่นี่อยู่อีกเรื่องจากข่าวสารที่พวกเขาได้รับ...ก่อนหน้าที่พวกเ

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 111

    ท่ามกลางความเงียบงัน กุนซือหน้าหยกเอ่ยเสียงไม่ดัง ไม่เบา “จ้าวหุบเขาผู้นั้น ดูจะเร่งรีบเกินไปหน่อยหรือไม่...?” หวางมู่ยกมือจับคางตัวเองเบาๆ “เจ้าว่าคนผู้นั้นรีบร้อนถึงเพียงนั้นเพราะเหตุใด เพราะอยากรีบออกตามหาดรุณีน้อยในข่าวลืออย่างนั้นรึ?”ก่อนหน้านี้ ผู้คนในโรงเตี๊ยมใกล้ลานชุมนุมชาวยุทธไม่ไกลจากหุบเขา ล้วนพูดถึงสตรีเยาว์วัยผู้หนึ่งซึ่งจ้าวหุบเขาเดียวดายประกาศไว้ว่า“หากผู้ใดพบเห็นสตรีเช่นที่กล่าวถึงและพาตัวนางกลับมาส่งโดยปลอดภัย หรือแม้จะมีข่าวสารใดมอบให้แม้เพียงนิด ก็จะมอบรางวัลให้อย่างงาม”เมื่อเข้าไปสอบถามจึงพบว่า แม้จะบรรยายรูปลักษณ์และอุปนิสัยตลอดจนกิริยาอาการของนางละเอียดนัก จ้าวหุบเขาผู้นี้กลับไม่ยอมทิ้งภาพเขียนใบหน้านางเอาไว้สักฉบับแม้ต่อมาจะมีชาวบ้านหาของป่าที่เคยพบหน้านางพยายามชี้แนะศิลปินผู้ผ่านทางให้ทดลองวาดภาพจำลองจากความทรงจำ จ้าวหุบเขารู้เข้า ไม่เพียงไม่รู้สึกขอบคุณยังบุกทำลายภาพเขียนเหล่านั้นและสั่งห้ามไม่ให้ผู้ใดวาดรูปนางทั้งสิ้น ผู้คนจึงได้แต่ส่ายหน้าแล้วพูดกันลับหลังว่า "ท่านจ้าวหุบเขาช่างห

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 110

    “จ้าวหุบเขาช่างเข้าใจพูดจานัก”“ข้าล้วนคิดใคร่ครวญตามถ้อยคำกุนซือหวางทั้งสิ้น”ฝีปากของจ้าวหุบเขาผู้นี้... รองแม่ทัพเห็นท่าจะไม่ดี รีบเอาตัวเข้าแทรกการสนทนาบรรยากาศตึงมึนนี้อย่างทันท่วงที “ที่จ้าวหุบเขาเอ่ยมานั้นชอบแล้ว เมื่อพิจารณาตามถ้อยคำกุนซือหวาง หุบเขาเดียวดายก็ยากจะนับว่าอยู่ในอาณาจักรหนึ่งอาณาจักรใดจริงๆ” เขาประสานมือคารวะเจ้าของสถานที่ กิริยายิ่งกว่านอบน้อมหากคนอื่นๆ ณ ที่นี่ใบหน้าดำคล้ำเหมือนเปื้อนหมึก สีหน้าท่านรองแม่ทัพในยามนี้ก็ดำคล้ำและแข็งเกร็งราวกับแท่งหมึกเลยทีเดียว“ท่านจ้าวหุบเขา” จ้าวเหว่ยซงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มขรึม จริงจัง “บิดาข้านั้นเลื่อมใสศรัทธาในตัวท่านยิ่งนัก ตัวข้าเองที่ได้ยินชื่อเสียงท่านมาร่วมสิบปีก็ศรัทธาในตัวท่านเหลือจะกล่าว หากชาตินี้ไม่อาจร่วมรบก็คงได้แต่เสียใจที่ไร้วาสนา...”“รองแม่ทัพช่างเจรจายิ่งนัก เสียแต่ที่เรื่องการทหารดูจะเหลือบ่ากว่าแรงจนเกินไป อีกทั้งตัวข้ายังไม่มีเวลามากพอจะอยู่ฟัง หากพวกท่านมีธุระเท่านี้ เห็นทีจ้าวหุบเขาเช่นข้าต้องขอตัว&rd

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 109

    กุนซือหนุ่มจ้องมองร่างที่ก้าวออกมาด้วยสีหน้าตกตะลึง แต่เพียงวูบหนึ่งก็ปรับสีหน้าเป็นปกติ “ข้าน้อยหวางมู่คารวะท่านจ้าวหุบเขา” ยามเอ่ยชื่อตัวเอง หวางมู่ลอบจับสังเกตสีหน้าบุรุษสูงสง่าเจ้าของสถานที่ เมื่อไม่เห็นว่ามีสิ่งใดผิดปกติจึงค่อยเอ่ยต่อไป “ไม่ทราบว่าจ้าวหุบเขามีชื่อเรียงเสียงไร?” กุนซือหวางถามด้วยรอยยิ้มสว่างสดใส ดูเป็นมิตรเป็นอย่างยิ่ง“ดำรงอยู่เสมือนไม่ดำรงอยู่ มีก็เหมือนหนึ่งไม่มี ไม่ว่าก่อนหน้าสืบทอดที่แห่งนี้จะชื่อเสียงเรียงไร นับแต่รับสืบทอดทุกสิ่งจากปรมาจารย์จ้าวหุบเขารุ่นก่อน จ้าวหุบเขาเช่นข้าก็ได้ละวางชื่อแซ่ไปนานแล้ว” จ้าวหุบเขายังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สีหน้าดูไร้อารมณ์ความรู้สึก “บอกธุระพวกท่านมา หากไม่มีธุระอันใด ก็เร่งลงจากเขาเสีย จ้าวหุบเขาเช่นข้ามีกิจธุระรัดตัว ไม่สะดวกรับรองผู้ใดทั้งนั้น” ประโยคหลังนี้ฟังดูไร้มารยาทนัก ทว่าท่าทีอันสงบนิ่งภูมิฐานเปี่ยมมารยาทจรรยาของบุรุษเจ้าของสถานที่ กลับขับให้ประโยคที่ว่านี้ดูถูกต้องชอบธรรมเป็นอย่างยิ่ง“อา...ท่านคือจ้าวหุบเขาเดียวดายผู้โด่งดังผู้นั้นไม่ผิดแน่” กุนซือหวางยังคงเอ่ยด้วยใบหน้าอาบรอยยิ้มเจือจาง ทว่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status