Share

บทที่ 5

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2024-12-23 15:18:37

ซูหนี่ยังไม่ทันได้อาบน้ำ หัวเล็กๆสองหัวก็โผล่ออกมาจากประตูห้องครัว 

"หิวหรือไม่ มาสิข้าต้มปลาใส่หัวมันไว้มากินเร็ว" ซูหนี่ตักน้ำแกงที่มีเนื้อปลากับหัวมันจนเต็มถ้วยส่งให้เด็กทั้งสองคนละถ้วย

"กินเองได้หรือไม่ ข้าไปอาบน้ำก่อน" ทั้งสองนั่งลงพร้อมตักน้ำแกงเข้าปาก อาจจะเป็นเพราะได้ลิ้มรสฝีมือของซูหนี่สองมื้อแล้วให้พวกเขาไม่ปฏิเสธเมื่อนางตักให้กิน ทั้งสองบอกกินเองได้นางจึงไปอาบน้ำ 

เมื่อนางออกมาเด็กทั้งสองกินอิ่มเรียบร้อยแล้ว นางตักน้ำเย็นผสมน้ำร้อนให้พวกเขาล้างหน้าบ้วนปากแล้วส่งเขากลับไปที่หน้าห้องนอนของจ้าวหนิงหลง เสียงพูดคุยดังออกมาจากในห้องเป็นเสียงของเด็กน้อยทั้งสองแย่งกันเล่าที่พวกตนได้กินน้ำแกงปลาที่แสนอร่อย

ซูหนี่เมื่อเช็ดผมจนแห้งแล้วนางก็ล้มตัวลงนอนแล้วหลับไปทันที โดยไม่รู้เลยว่ามีคนเปิดเข้ามาในห้องนอนของตน จ้าวหนิงหลงยืนมองนางที่ประตูห้อง ห้องของนางสะอาดเก็บของอย่างเป็นระเบียน เครื่องนอนก็ดูสะอาดไม่มีกลิ่นเหม็นอับดังเช่นที่ผ่านมา ซูหนี่ที่มีลมพัดเข้ามาในห้องนางก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมจนเกือบมิดหัว ตอนแรกจ้าวหนิงหลงก็ตกใจคิดว่านางจะตื่นแต่นางก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด

เมื่อเห็นเช่นนั้นจ้าวหนิงหลงก็ปิดประตูแล้วออกไป ซูหนี่ยังคงขึ้นเขาอยู่ทุกวันนอกจากของที่ได้เช่นเดิมนางก็ยังไม่มีสิ่งใดแปลกใหม่ติดมือกลับมา วันนี้วันที่สามแล้วที่นางขึ้นเขาหลังจากที่ทำอาหารไว้ให้ทุกคนเช่นเดิม นางจะกลับลงมาอีกทีก็เมื่อต้องทำมื้อเย็น 

ตอนนี้เด็กๆเริ่มที่จะยืนรอนางหน้าบ้านแล้ว เมื่อเห็นนางกลับมาก็จะเข้ามาช่วยถือของแล้วนั่งรอนางทำอาหารเย็นให้กิน เมื่อนางตั้งโต๊ะให้ทั้งสามแล้วนางยังคงหลบออกมากินในห้องครัวเช่นเดิม แม้เด็กๆจะให้นางนั่งกินด้วยกัน แต่ใครใช้ให้คนพ่อทำหน้าตาเช่นนั้น แล้วนางจะกินลงได้อย่างไง กินในครัวเช่นเดิมสบายใจกว่า

เมื่อเก็บของล้างจานแล้วนางก็จับเด็กๆอาบน้ำแปรงฟัน ตัวนางจึงจะไปอาบเป็นคนสุดท้าย ถึงแม้นางกับจ้าวหนิงหลงจะไม่ได้คุยกันแต่ทุกอย่างนางยังคงทำเช่นเคยน้ำก็ต้มเพื่อเขาเช่นกันเพียงแต่นางไม่ยกไปให้ก็เท่านั้น รับปากเพียงแค่จะดูบุตรให้เท่านั้นคงไม่ต้องถึงกับต้องดูแลตัวพ่อไปด้วย

วันนี้นางไม่ขึ้นเขาเพราะจะอยู่เก็บบ้าน แล้วซักผ้า ซักผ้าห่ม นางก็นำไปซักที่ริมแม่น้ำเช่นเดิมแต่เพียงตอนนี้เด็กทั้งสองตามไปเล่นใกล้ๆด้วย ชาวบ้านล้วนแต่ตกใจกับสิ่งที่เห็นบางคนคิดว่านางเปลี่ยนนิสัย แต่บางคนก็คิดว่านางเสแสร้งคงทำเช่นนี้ได้อีกไม่นาน เรื่องเสื้อผ้าของจ้าวหนิงหลงครั้งนี้นางนำมาซักด้วย คิดซะว่าอาศัยเขาอยู่ช่วยเขาทำงานบ้านซักผ้าเป็นการตอบแทนแล้วกัน

เมื่อนางกลับถึงบ้านก็เห็นลี่อินนั่งคุยกับจ้าวหนิงหลงตรงแคร่ใต้ต้นไม้ นางเดินผ่านพวกเขาไปโดยไม่สนใจ ลี่อินรีบหลบไปยืนด้านหลังจ้าวหนิงหลงทันทีคงกลัวว่านางจะพุ่งเข้าไปตบ สตรีที่ดีที่ไหนจะเข้ามาหาสามีชาวบ้านตอนภรรยาเขาไม่อยู่ นางสะดุ้งกับความคิดของตนเอง นางคงลืมไปว่าร่างนี่ไปแย่งของเขามา

จ้าวหนิงหลงมองตามไปเขาคิดว่าซูหนี่จะเข้ามาด่าทอหรือตบตีกับลี่อินเช่นเคยแต่นางไม่แม้แต่จะมองเขาทั้งสองคนเลย นางยังคงทำงานของตนเองคุยหัวเราะกับบุตรชายทั้งสอง เวลาที่นางหัวเราะจะปรากฏลักยิ้มสองข้างอย่างน่ามอง

ที่วันนี้เขาปล่อยให้ลี่อินเข้ามาเพราะเขาอยากรู้ว่าเรื่องที่นางจะไปจากเขาแล้วยอมหย่าง่ายๆ เป็นเพราะนางแสร้ง ปล่อยเพื่อจับหรือเปล่า แต่ที่เขาดูนางไม่แม้แต่จะสนใจคงอยากจะไปจากเขาจริงๆ เขาควรจะดีใจที่สลัดนางออกไปจากชีวิตได้ แต่ทำไมเขาต้องหงุดหงิดเช่นนี้ก็ไม่รู้

"พี่หลง พี่หลงเจ้าค่ะ" ลี่อินเรียกจ้าวหนิงหลงเสียงดัง 

"เจ้ากลับไปได้แล้ว ออกมาเช่นนี้ชาวบ้านจะนินทาได้" ลี่อินรู้ว่าตั้งแต่เขาแต่งงานก็ไม่พบนางอีกเลย แม้นางจะมาหาแต่เขาก็จะคุยที่หน้าประตูเท่านั้น 

นางไม่อยากจะเชื่อว่าวันนี้เขาจะให้นางเข้ามาในบ้าน เมื่อซูหนี่กลับมาเขายังพูดคุยกับนางอย่างสนิทสนมเช่นเคย แล้วตอนนี้เขาไล่นางให้กลับไป ลี่อินน้ำตาคลอจ้องมองหนิงหลงอย่างน่าสงสาร

นางมาพบเขาเพื่อขอให้เขาเลิกกับซูหนี่แล้วแต่งกับนางแทน เพราะมารดาของนางเริ่มจะรำคาญที่ชาวบ้านนินทาว่านางมายุ่งกับสามีชาวบ้าน มารดาของนางจึงหาลูกคหบดีที่อยู่ในเมืองให้นางแต่งออกไป

"พี่หลงท่านยังไม่ได้รับปากข้าเลยนะเจ้าค่ะ" ลี่อินน้ำตาไหล นางรักเขา นางไม่อยากแต่งกับคนอื่น ถึงเขาจะไม่ร่ำรวยแต่งมาต้องลำบากแต่หากปีนี้เขาสอบได้นางก็มีสิทธิ์ได้เป็นฮูหยินท่านใต้เท้าแน่นอน

"เจ้ากลับไปเสียแล้วไม่ต้องมาแล้ว ข้าแต่งงานแล้วมิ หากเจ้าทำเช่นนี้เจ้าจะเสียหายได้" เขาถอนหายใจ มองหญิงสาวที่เคยคิดจะแต่งงานด้วยอย่างสงสาร เพราะตอนนี้เขาเสียท่านย่าไปก็มีเพียงลี่อินที่ทำดีกับเขา เขาจึงคิดจะแต่งนางเพื่อดูแลนางบ้าง

ตอนนี้นางจะได้หมั้นหมายกับคุณชายเจียงแล้ว นางควรจะมีชีวิตที่ดี ด้วยหน้าตาของนางเมื่อคุณชายเจียงเห็นก็พึงใจทันที การหมั้นหมายครั้งนี้จึงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ลี่อินที่ได้ยินจ้าวหนิงหลงเอ่ยปากไล่อีกครั้งนางก็วิ่งร้องไห้ออกจากบ้านไป หากแต่งให้คุณชายเจียงถึงจะได้เป็นถึงภรรยาเอกแต่อนุและสาวใช้ข้างห้องที่คุณชายเจียงมีอยู่แล้วทำให้นางไม่อยากแต่งเข้าไป

ซูหนี่มองตามร่างของลี่อินไปอย่างไม่เข้าใจตอนแรกก็คุยหัวเราะกันอยู่ดีๆ แล้วนางร้องไห้วิ่งออกไปได้อย่างไร นางเลิกสนใจแล้วเดินเข้าครัวเพื่อทำมื้อเที่ยงให้เด็กๆ ช่วงนี้ยังคงเป็นปลาเช่นเคย นอกจากน้ำแกงปลาแล้ว นางยังนำหน่อไม้มาต้มให้หายขมแล้วหั่นให้เป็นเส้นผัดกับไข่อีกด้วย

จ้าวหนิงหลงซื้อข้าวสารกับแป้งมาเก็บไว้ให้นางจึงได้หุงข้าวสวยในวันนี้ ทั้งสามกินข้าวกันได้เยอะขึ้นนางจึงทำมากขึ้นในแต่ละมื้อ ต่อให้ทำมากแค่ไหนทั้งสามก็กินหมด นางยังคงตักเก็บไว้ในครัวถ้วยเดียวเช่นเคย ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้นางก็กินเพียงถ้วยเดียวก็อิ่ม อาจจะเป็นเพราะความเคยชินที่กลัวน้ำหนักจะขึ้นจึงควบคุมอาหารการกินในทุกมื้อ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   ตอนพิเศษ

    องค์รัชทายาทจ้องมองจ้าวหนิงหลงอย่างขอร้อง จ้าวหนิงหลงถอนหายใจก่อนจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง เขารู้เรื่องเจ้าเมืองหานกับสิ่งที่บุตรสาวของเขาทำแล้ว แต่อยากจะรู้ว่าองค์รัชทายาทจะทำอย่างไร แต่เรื่องที่บุตรสาวของตนเสียใจเป็นเรื่องจริง บิดาอย่างเขาทนเห็นไม่ได้เขาเลี้ยงนางมาแทบจะอมไว้ในปาก หากนางต้องเจ็บปวดเช่นนี้เขายอมให้นางแต่งออกไปกับคนธรรมดาเสียดีกว่าองค์รัชทายาทที่ได้รู้เจียวเจียวอยู่ที่ใดก็ไม่รั้งรออีก เขารีบออกจากวังไปพบนางทันที "เจ้ารอรับราชโองการได้เลยหนิงหลง ครั้งนี้เจิ้นยังยอมให้อวี่เออร์ไม่แต่งอนุเข้าตำหนัก เจ้าก็คงต้องยอมถอยก้าวหนึ่งได้แล้วกระมัง" ฮ่องเต้ถลึงตาใส่จ้าวหนิงหลงอย่างไม่สบอารมณ์ซูหนี่กับซูฉีมองหน้ากันแล้วอมยิ้ม สุดท้ายก็ต้องยินยอมเช่นนี้ แล้วตาเฒ่าของตนจะดื้อด้านตั้งแต่แรกกันทำไมเซี่ยเฟยอวี่ที่ควบม้าเร็วโดยไม่หยุดพักตลอดสองชั่วยามก็มาถึงเรือนพักอากาศของตระกูลจ้าว เขาให้คนไปแจ้งจ้าวเหว่ยว่าบิดาเขาเรียกตัวกลับด่วน เพราะที่จวนเกิดปัญหา ส่วนตัวเขาได้รับอนุญาตให้มาแก้ไขเรื่องที่ซูเจียวเข้าใจผิดจ้าวเหว่ยแม้ไม่อยากจะเชื่อเซี่ยเฟยอวี่แต่ก็จับผิดเขาไม่ได้จึงรีบกลับจวน

  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   ตอนพิเศษ

    เวลาสามปีที่ผ่านมา เซี่ยเฟยอวี่ส่งจดหมายมาไม่ได้ขาด จ้าวซูเจียวตอนนี้เป็นสาวสะพรั่ง ไม่ว่าจะก้าวเดินไปที่ใดล้วนแต่ได้รับความสนใจ จนหลังๆนางเบื่อสายตาที่แทะโลมของบุรุษกักขฬะที่ไม่กลัวบิดาของนางควักลูกตาทั้งหลาย จึงเลือกที่จะอยู่ในจวนหรือไม่ก็ไปเที่ยวเล่นที่ตำหนักองค์หญิงฟางเซียนที่ตอนนี้แต่งราชบุตรเขยจนมีท่านชายน้อยแล้ว"เจ้ารู้หรือยังว่าองค์รัชทายาทจะเสด็จกลับเมืองหลวงแล้ว" ฟางเซียนกล่าวกับซูเจียวที่หยอกล้อบุตรของตนอยู่ นางพยักหน้ารับรู้แต่มิได้พูดสิ่งใด เซี่ยเฟยอวี่ส่งข่าวให้นาง ตอนนี้เขาคงจะถึงกลางทางแล้ว แต่เรื่องคืนนั้นที่เขาลอบเข้ามาพบนางไม่มีใครรู้ และเรื่องที่นางติดต่อกับเขาก็มีเพียงคนในครอบครัวที่รู้เท่านั้น นางจึงไม่พูดออกไปวันที่เซี่ยเฟยอวี่เสด็จกลับถึงเมืองหลวง นางไม่ได้ไปรอรับเขา แต่ข่าวลือที่องค์รัชทายาทพาสตรีแดนเหนือกลับมาด้วยเรื่องนี้นางย่อมได้ยิน จ้าวหนิงหลงแทงจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่เขาอยากจะเข้าไปพังตำหนักขององค์รัชทายาทแต่ก็ทำมิได้ บุตรชายทั้งสี่เช่นกัน งานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาครั้งนี้จ้าวซูเจียวมิยอมไป จ้าวหนิงหลงกับซูหนี่เห็นเช่นนั้นก็ปวดใจ ทุกคนต่างรู้ว่าบุตรสา

  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   ตอนพิเศษ

    องค์รัชทายาทเสด็จมาเยี่ยมดูอาการของซูเจียวทุกวันแต่นางไม่ให้เขาเข้าพบ มีเพียงพี่ขายของนางที่หมุนเวียนออกมาต้อนรับเขาเท่านั้น เขาไม่เข้าใจว่านางทำเช่นนี้กับเขาเพื่ออันใดจนบุกเข้าไปถึงเรือนของนางเพื่อคำตอบซูหนี่สั่งให้บุตรชายทั้งสี่ของตนหลบทางให้องค์รัชทายาทเข้าไปพบจ้าวซูเจียว นางรู้ว่าบุตรสาวของตนเป็นเช่นเดียวกับตนหากเรื่องใดที่ไม่สมควรดึงดัน จ้าวซูเจียวจะถอยห่างทันที"เจียวเจียวเหตุใดเจ้าไม่ยอมพบหน้าข้า" เซี่ยเฟยอวี่มองนางในดวงใจอย่างปวดใจ นางหายป่วยมาเกือบเดือนแล้ว มิใช่ว่านางสบายดีตั้งแต่อาทิตย์แรกหรือ ทำไมต้องหลบหน้าตน"ถวายพระพรองค์รัชทายาทเพคะ หม่อมฉันกลัวนำโรคไปติดพระองค์จึงไม่ได้ออกไปต้อนรับเพคะ" ท่าทีที่ห่างเหินทำให้เซี่ยเฟยอวี่ปวดใจจนแทบคลั่ง นางไม่เคยพูดเป็นทางการเช่นนี้กับเขาเลยสักครั้งเมื่ออยู่เพียงลำพัง แต่วันนี้นางขีดเส้นชัดเจนมิให้เขาล่วงล้ำเข้าไป"เจียวเจียว เจ้าอย่าได้ทำเช่นนี้กับข้า" เขาทนไม่ได้หากนางหันหลังให้เขา นางคือความสดใสเดียวในชีวิตของเขา"พระองค์เลิกดึงดันเถิดเพคะ ตำแหน่งที่พระองค์ต้องการมอบให้หม่อมฉัน หม่อมฉันรับไม่ไหวจริงๆ หากพระองค์ไม่มีเรื่องอันใดแล้ว ห

  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   ตอนพิเศษ

    "เจียวเจียว" เสียงเด็กหนุ่มวัยสิบสองหนาว ร้องเรียกจ้าวซูเจียวเสียงดังลั่นเมื่อเดินผ่านประตูจวนตระกูลจ้าวเข้ามา เซี่ยเฟยอวี่ องค์รัชทายาท แขกประจำจวนตระกูลจ้าว"พี่อวี่" เสียงเด็กน้อยวัยแปดหนาวร้องเรียกพร้อมวิ่งมาหาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เด็กน้อยตากลมโต ความงามที่หากนางเป็นที่สองในเมืองหลวงคงหาที่หนึ่งมิได้ นอกจวนจะลือว่านางอ่อนแอเปาะบางเพียงใด แต่ความจริงแล้วนางแข็งแรง สดใสร่าเริง ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดที่นั่นล้วนแล้วแต่น่ามองไปเสียทุกอย่างองค์รัชทายาทในปีนี้ก็เริ่มมองหาพระชายาเพื่อหมั้นหมายแล้ว แต่เสนาบดีจ้าวยังคงมิใจอ่อนยอมให้เขาได้เข้าใกล้เจียวเจียวมากเกินไป วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขาแอบหนีออกจากวังมาพบนาง เพียงได้เห็นรอยยิ้มของนาง ได้พูดคุย เรื่องต่างๆในวังที่แสนเบื่อหน่ายก็หายไปในพริบตาเพราะบิดาของนางไม่อยากให้บุตรสาวของตนโดนกักขังอยู่ในวังหลัง และไม่ต้องการให้ว่าที่บุตรเขยมีอนุหรือสาวใช้ข้างห้อง เมื่อมองตนเองแทบจะไม่มีความเป็นไปได้ที่จะได้ครอบครองตัวนางเมื่อจ้าวซูเจียวอายุได้สิบสามหนาว บิดาอย่างจ้าวหนิงหลงก็ขังนางไว้แต่ในจวนมิได้เสียแล้ว เจียวเจียวติดตามบิดามารดาและพี่ชายทั้งสี่เข้า

  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   บทที่ 33

    จ้าวหนิงหลงพาซูหนี่ไปบ้านพักตากอากาศนอกเมือง เขาทิ้งบุตรชายทั้งสี่ไว้ที่เรือน แม้เหว่ยเออร์จะโวยวายเพียงใด บิดาเช่นเขาก็ไม่ยอมใจอ่อนพามาด้วย อันเออร์มองน้องชายจอมโง่ที่ได้แต่ร้องไห้ ตัวเขาก็เคยผ่านมาแล้ว น้ำตาไม่ทำให้ท่านพ่อใจอ่อนเรือนสี่ประสานหลังใหญ่ที่เขาได้รับพระราชทานจากฝ่าบาท ห้อมล้อมไปด้วยขุนเขาและสายน้ำ สวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่ได้รับการดูแลอย่างดี บ่อแช่น้ำร้อนมีกว้างขวางพอให้คนนับสิบลงไปแช่ได้ แต่ตอนนี้คนที่แช่มีเพียงสองสามีภรรยาเท่านั้นจ้าวหนิงหลงที่แช่น้ำรอภรรยารักอยู่ก่อนแล้ว ซูหนี่แม้จะบอกว่านางคลอดบุตรออกมาแล้วสี่คน แต่เขายังคงหลงใหลในความงามของนางอยู่เช่นเดิม ร่างกายทรวดทรงส่วนเว้าสวนโค้งของนางงดงามดั่งภาพวาด ยิ่งนางเยื้องย่างก้าวเดินเข้ามา เหมือนกันทุกก้าวเดินของนางกระแทกลงไปที่ใจของเขาเพียงเห็นแค่นั้น จ้าวหนิงหลงก็ลุกพรวดขึ้นจากน้ำอุ้มซูหนี่ลงน้ำทันที ไม่ต้องรอให้นางเอ่ยปากอนุญาตเขาที่แทบจะอดกลั้นไม่ไหวก็จู่โจมเสียแล้ว บทรักอันร้อนแรงใต้น้ำได้เริ่มขึ้นอย่างไม่รู้จบ เสียงอันน่าอับอายที่ดังไปทั่วก็ไม่ต้องอดกลั้นกลัวใครได้ยิน บ่าวที่ติดตามมาก็เป็นคนเก่าที่รู้งานอย่างดีตอน

  • นางร้ายของท่านเสนาบดี   บทที่ 32

    กว่าซูหนี่จะฟื้นขึ้นมาก็ผ่านมาสองวัน จ้าวหนิงหลงไม่ออกห่างจากนางเลย เขานั่งจับมือมองนางเช่นนั้นทั้งวันทั้งคืน เพราะกลัวว่าหากปล่อยมือนางเมื่อใดนางจะทิ้งเขาไปในที่ที่นางจากมา (ก็บอกแล้วว่ากลับไม่ได้แล้ว เห้อออ)เพียงลืมตาขึ้น ภาพแรกที่เห็น จ้าวหนิงหลงเริ่มมีหนวดขึ้นร่ำไร ดูดิบเถื่อนไปอีกแบบ "ท่านพี่" เสียงเบาราวยุงบินผ่านเรียกสติของจ้าวหนิงหลงให้กลับมาเขาดึงนางเข้ามาในอ้อมกอด อยากจะหลอมนางให้อยู่ในกระดูกของเขา เมื่อซูหนี่บอกหิวน้ำ เขาถึงได้ปล่อยตัวนาง "ลูกละเจ้าคะ" "อยู่กับแม่นม เจ้าลุกไหวหรือไม่ กินอะไรเสียหน่อยแล้วข้าจะให้แม่นมพาลูกมาให้เจ้าดู" เขาเรียกให้คนยกอาหารมาให้ แล้วป้อนนางทีละคำ"ท่านต้องกินด้วย ไม่เช่นนั้นข้าก็ไม่กินแล้ว" นางรู้ว่าเขาคงไม่ยอมกินอะไรหรือลุกไปไหน นางลูบหน้าเขาอย่างปวดใจ เพียงสองวันเท่านั้นเขาดูซูบผอมไปเยอะจ้าวหนิงหลงต้องยอมกินกับนาง เขาป้อนนางคำตักใส่ปากตนเองคำ ตอนนี้อีกห้องที่แม่นมดูแลเด็กน้อยอยู่ เฉิงเออร์กับอันเออร์นั่งจ้องน้องสามกับน้องสี่ด้วยสายตาเคร่งขรึม เขาต้องกำราบน้องชายตั้งแต่เล็กๆ ยังไม่ออกมาก็ทำให้ท่านแม่เจ็บปวดจนแทบขาดใจ"พี่ใหญ่ ดูเจ้าสามเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status