หญิงสาวยังคงให้เทวัญตามหาหลักฐานเพื่อเอาผิดคนที่คิดฆ่ามิณไอริณ รวมถึงหลักฐานต่างๆ ให้การฟ้องหย่าแพนธารินเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียอะไรเลย และจะให้เขาตายทั้งเป็นให้สมกับความเจ็บปวดของเจ้าของร่างเดิม
“ต้องมีสักวันที่เรื่องแดงขึ้นมาพี่เทวัญดูแลตัวเองดีๆ นะคะไอริณเป็นห่วง...แค่นี้ก่อนนะคะ” สายตามองไปเห็นแพนธารินกำลังเดินมาทางนี้พอดี
“จะรีบวางสายไปจากชู้ทำไม?” เขากอดอกมองหญิงสาว ผู้ชายคนอื่นเดินเข้าออกบ้านเหมือนเป็นบ้านตัวเอง มิณไอริณไม่เกรงใจเขาสักนิด
“มีอะไร”
“วันนี้คุณพ่อกับคุณแม่นัดทานข้าวให้ชวนเธอไปด้วย” ความจริงคือเขานัดพ่อแม่เองต่างหากแค่เอาท่านมาอ้าง
“ฉะ...”
“ไอริณเธอต้องแทนตัวเองว่าไอริณ...ทำไมทำตัวห่างเหินกับฉัน?”
หญิงสาวจ้องหน้าเขาผู้ชายสมัยนี้แปลกทำร้ายจิตใจผู้หญิงสารพัดความเลว ผู้หญิงอดทนหนึ่งร้อยครั้งพอครั้งต่อไปทนไม่ไหวหันกลับมารักตัวเอง กลายเป็นคนผิดทันทีแต่ผู้ชายไม่มองตัวเองเลย
“ฉันหมดรักคุณไปตั้งนานแล้ว”
“ไม่ต้องย้ำ!” ขยี้อยู่นั่นแหละรู้ว่าหมดรัก ไม่เคยดูไร้ค่าขนาดนี้มาก่อน ตอนแต่งก็บังคับแต่งพอตอนเลิกยังต้องมาบังคับเขาเลิกอีก
“เราไปหย่ากันดีๆ ไหมคะ”
“ฉันไม่หย่า! จำไว้ว่าห้ามพาผู้ชายคนไหนเข้ามาในบ้านและห้ามเธอไปไหนกับพวกมัน”
เธอเม้มริมฝีปากแน่น หัวใจเต้นแรงขึ้นเมื่อดวงตาคมจ้องมองราวกับจะเผาผลาญเธอทั้งเป็น "คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉันนะ..."
"ไม่มีสิทธิ์?" น้ำเสียงเขาแผ่วลงแต่ยังเต็มไปด้วยแรงอารมณ์ ฝ่ามือใหญ่จับคางเธอให้เงยขึ้นรับสายตา "งั้นให้ฉันแสดงให้ดูไหม...ว่าฉันมีสิทธิ์แค่ไหน"
ไม่ทันให้เธอได้เอ่ยอะไร ริมฝีปากร้อนก็ทาบทับลงมาหนักแน่นและเอาแต่ใจ สัมผัสนั้นเต็มไปด้วยความหึงหวงและเรียกร้อง เขาจูบเธออย่างดุดัน บังคับให้เธอจมดิ่งลงไปในห้วงอารมณ์ที่ปั่นป่วน
เธอพยายามผลักเขาออก แต่ยิ่งทำแบบนั้น วงแขนแข็งแกร่งก็ยิ่งโอบรัดแน่นขึ้น ความร้อนจากร่างกายแผ่ซ่านไปทั่วจนเธอแทบจะละลายอยู่ตรงนั้น
เขาถอนจูบออกมาเล็กน้อย กระซิบชิดริมฝีปากเธอ
"จำไว้ ว่าเธอเป็นของใคร"
หัวใจของเธอเต้นแรงจนเธอแทบไม่ได้ยินอะไรนอกจากเสียงในอกตัวเอง เธอเม้มริมฝีปากแน่น รับรู้ถึงความอุ่นที่ยังหลงเหลืออยู่ ดวงหน้าร้อนวูบขึ้นจนไม่กล้าสบตาเขาอีก
นี่สินะ...จูบแรกของเธอ
แพนธารินนั่งพิงเก้าอี้ถอนหายใจหนัก เขาไม่เคยคิดมากเรื่องจูบของใครมาก่อน แต่ครั้งนี้มันต่างออกไปมันติดอยู่ในหัวเขา ยิ่งคิดถึง...ยิ่งรู้สึกว่ามันไม่เพียงพอ
"บ้าเอ๊ย..." เขาพึมพำกับตัวเอง มือขยี้ผมอย่างหงุดหงิด
Rrrrrrrrrr
“ครับคุณแม่”
“แพททำไมปล่อยให้น้องไปหาหมอคนเดียว ห๊ะ ทำน้องเจ็บไม่พออีกเหรอ” ปอไหมโวยวายเพราะเห็นลูกสะใภ้นั่งอยู่ในโรงพยาบาล
“ผม...”
“ไม่รักก็หย่ากับน้องซะ! ตอนนี้แม่มองหน้าคุณอรอรไม่ติดแล้ว”
สายถูกตัดไปแพนธารินมองหน้าจอมือถือ เขาไม่รู้ว่ามิณไอริณมีนัดกับหมอน่าจะตัดไหมวันนี้ เขารีบสั่งให้ลูกเตรียมรถเพื่อออกไปที่โรงพยาบาล
มิณไอริณมีนัดตัดไหมโชคดีที่หน้าผากไม่เป็นแผลใหญ่ การตัดไหมผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
“ไปดื่มกาแฟกับพี่ไหมครับ”
“เอาสิคะ...แต่ขอเป็นโกโก้แทนกาแฟนนะคะ ไอริณไม่ชอบกาแฟค่ะ”
คัมภีร์พยักหน้าตอบอะไรที่เคยชอบตอนนี้กลับไม่ชอบ เวลาเปลี่ยนใจคนเราก็เปลี่ยนได้ตลอดเวลาความรู้สึกของมนุษย์เข้าถึงยากและคาดหวังอะไรไม่ได้
ทั้งสองนั่งพูดคุยเรื่องอาการป่วยของมิณไอริณ ผู้คนที่เดินไปมาต่างพากันมองอย่างชื่นชมทั้งสองดูเหมาะสมกันมาก แต่ติดที่หญิงสาวมีสามีอยู่แล้ว แถมชื่อเสียงดังพอๆ กับชื่อเสีย
“ไอริณครับ”
“คะ?”
“เพราะอะไรเราถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้”
“หลายคนอาจจะไม่เชื่อเรื่องโชคชะตาพูดไปอาจหาว่าไอริณป่วย”
เธอเองยังไม่อยากเชื่อว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้ วีริณในอีกโลกตายแล้วมาโผล่อีกโผล่เป็นเรื่องเหลือเชื่อมาก แต่มันเกิดขึ้นแล้ว
“พี่หมอชอบแบบไหนมากกว่ากันคะ”
“พี่ชอบเวอร์ชันนี้ไอริณดูเข้มแข็งและมีสติขึ้นมาก ดูโตเป็นผู้ใหญ่”
“แต่หมอจะชอบเมียคนอื่นไม่ได้!” แพนธารินเดินมากระชากแขนหญิงสาวให้ลุกขึ้น สายตาของเขาจ้องหมอพร้อมจะเอาเรื่อง
“คุณแพทฉันเจ็บ”
“คุณปล่อยไอริณดีกว่าเธอเจ็บอยู่” คัมภีร์ลุกขึ้นพยายามพูดให้แพนธารินใจเย็น เพราะเขากลัวว่าคนตัวเล็กจะบาดเจ็บ
“เสือก! กับเมียกูจัง” เผลอหน่อยไม่ได้มีผู้ชายล้อมหน้าล้อมหลัง
“ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันกับพี่หมอเราไม่ได้ทำอะไรเสียหาย” มีแต่เขาที่คิดอกุศลไปไหน จิตใจต่ำตมเหมือนการกระทำตัวเองไม่มีผิด
"เธอคิดว่าฉันโง่เหรอ?" เขาเอ่ยเสียงต่ำดวงตาวาวโรจน์ "ออกมานั่งดื่มกาแฟด้วยกันสองต่อสองแบบนี้...หรือว่ากำลังแอบคบชู้?"
"พูดอะไรของคุณ!" เธอพยายามสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุม แต่เขากลับยิ่งจับแน่นขึ้น
"ฉันเห็นนะว่ามันมองเธอยังไง แล้วเธอล่ะ? เธอกำลังคิดอะไรอยู่ตอนอยู่กับมัน?" เสียงของเขาเต็มไปด้วยความกดดัน "
"ฉันมาหาคุณหมอ! คุณไม่มีสิทธิ์มาหาว่าฉันเป็นแบบนั้น!"
"ไม่มีสิทธิ์งั้นเหรอ?" เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้จนปลายจมูกแทบชนกัน "งั้นต้องทำยังไงถึงจะมีสิทธิ์? หืม"
เธอเม้มริมฝีปากแน่น หัวใจเต้นแรงไม่ใช่เพราะความกลัว แต่เพราะสายตาของเขากำลังแสดงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน
"ใจเย็นก่อนครับ คุณกำลังเข้าใจผิด" เรื่องชักจะไปกันใหญ่แล้ว
"หุบปาก!" แพนธารินตวาดโดยไม่หันไปมองมิณไอริณอีกครั้ง "เธอเป็นของฉัน!"
ไม่รอให้หญิงสาวได้เถียง มือข้างที่ว่างของเขาตวัดโอบรัดรอบเอว กระชากเธอเข้ามาแนบชิดก่อนจะกดจูบลงไปอย่างแรง ราวกับต้องการย้ำเตือนให้เธอรู้ว่าเธอเป็นของใคร
จูบนั้นไม่ใช่เพียงแค่แสดงความรู้สึก แต่มันเต็มไปด้วยความหึงหวง ความต้องการและแรงอารมณ์ที่เอ่อล้น
เธอพยายามดันเขาออก แต่ยิ่งดิ้นเขากลับยิ่งจูบหนักขึ้น เธอรู้ว่าเขากำลังโมโห และนี่คือบทลงโทษจากความเข้าใจผิดของเขา...
เธอทั้งอายทั้งโกรธที่เขาทำแบบนี้มือบางยกขึ้นตบหน้าเขาเต็มแรง หญิงสาวหันมาขอโทษพี่หมอที่ทำให้อับอายไปด้วย เธอรีบวิ่งออกจากร้านกาแฟ
“เลิกยุ่งกับเมียชาวบ้านได้แล้วมีจรรยาบรรณบ้างไหมว่ะ” แพนธารินรีบตามหญิงสาวออกไป
“วันก่อนอยากหย่าใจจะขาด”
คัมภีร์ส่ายหน้าตอนนี้เข้าแน่ใจแล้วว่าตัวเองหมดหวัง เพราะสายตาของแพนธารินที่มองมิณไอริณนั้นเปลี่ยนไปมาก ความหึงหวงที่แสดงออกมามันบอกเขาว่าทั้งสองอาจจะเริ่มตกหลุมรักกันขึ้นมาแล้วจริงๆ
เพลงนารานั่งไม่ติดตั้งแต่ไปเยี่ยมมิณไอริณที่โรงพยาบาลในวันนั้น ไม่กล้าไปสู้หน้าหญิงสาวอีกเลยและยังถูกแพนธารินห้ามเข้าใกล้ เธอทำมาถึงขนาดนี้จะถอยหลังกลับไม่ได้“คิดจะทิ้งฉันไปง่ายๆ เหรอไม่มีทาง” เธอร้อนใจราวกับคนบ้าไม่ว่าจะขู่เขาแค่ไหนแต่แพนธารินกลับไม่ไยดี ที่เขาไม่ทิ้งเธอเพราะมีไพ่ลับอยู่ในมือ“ถ้าคุณไม่ยอมติดต่อเพลงมา เพลงจะแฉคุณให้หมดเลยว่าได้เพลงแล้วไม่สนใจเอาให้อายคนทั้งประเทศไปเลย”เธอนั่งรอข้อความตอบกลับแต่เขากลับไม่ยอมตอบ หญิงสาวนั่งมือไม้สั่นกัดเล็บตัวเองกำลังคิดว่าต้องทำอย่างไร คนอย่างแพนธารินถึงจะสยบแทบเท้าเธอได้“อร้ายยย เพราะอีไอริณคนเดียวเลยทำไมแกไม่ตายไปเลยฉันเกลียดแก!!” เพลงนาราปาแก้วน้ำจนไปกระแทกกับรูปของเธอกับมิณไอริณจนร่วงลงมาแตกรู้ความสัมพันธ์ของเธอกับแพนธารินแต่หญิงสาวกลับเงียบไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นไม่ใช่มิณไอริณปกติจะตามจิกตามกัดผู้หญิงของเขา แต่ตอนนี้แปลกไปเธอกอดรูปเขาไว้พร่ำเพ้อบอกรักคิดถึง แพนธารินคือผู้ชายที่เธอรักที่สุดในชีวิต ไม่มีผู้ชายคนไหนแทนที่เขาได้เลยสักคน.บ้านของพ่อแม่แพนธาริน มิณไอริณนั่งตัวเกร็งความสัมพันธ์ไม่เหมือนเดิม แต่คนบ้านนี้กลับปั้นหน้า
มิณไอริณกับเทวัญนัดพบกันเพื่อถามความคืบหน้าของเรื่องที่หญิงสาวตกน้ำ แต่ป่านนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเจอคนร้าย“ไอริณศัตรูรอบด้านไม่รู้ไปขัดขาใคร”“ตอนนั้นก็มีแต่ไอ้แพทนะที่เกลียดไอริณ” เทวัญปักใจเชื่อว่ายังไงแพนธารินต้องเป็นร้าย“เขาจะกล้าทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอคะ”“ไม่แน่นะตอนนั้นมันบีบบังคับไอริณทุกทาง เรื่องที่มันจ้างคนไปข่มขืนเราก็เลวพอแล้ว เสียดายไม่มีหลักฐานเอาผิด”หญิงสาวคิดตามเรื่องนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากแพนธาริน ที่เกลียดภรรยาตัวเองเข้าไส้ เขาใจร้ายถึงขั้นจ้างคนมาข่มขืนให้ตายทั้งเป็น เรื่องที่ผลักเธอตกน้ำก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะกำจัดเธอ“ขอบคุณนะคะที่มาส่งไอริณ”“เบลท์น่าจะเสียพี่ปลดให้” เทวัญโน้มตัวมาช่วยปลดเบลท์ หากใครผ่านเข้ามาคงเข้าใจผิดว่าทั้งสองกำลังจูบกัน แต่ทุกอย่างไม่ได้เป็นแบบนั้นเลยแพนธารินเห็นเทวัญจูบแก้มของมิณไอริณ เขาจึงโมโหมากรีบเขาไปเปิดประตูรถแล้วลากหญิงสาวออกมา เขาด่าทอหญิงสาวที่ทำตัวไร้ค่า“อะไรของคุณ”“ร่านยังไม่หย่ากับฉันแต่ยอมให้มันจูบแล้วเหรอ ไปไหนมา ถึงกลับเอาป่านนี้!” เขาไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่บอกรักเขาเช้าเย็นจะเปลี่ยนไปจนเขาแทบไม่รู้จักเธอโกรธแต่ไม่ตอ
วันนี้แพนธารินยังขังมิณไอริณไม่ให้หนีไปไหน เขาใส่กุญแจล็อกข้างนอก มาสั่งแม่บ้านทำอาหารโปรดของหญิงสาวทั้งหมด แล้วเขาเอาไปเสิร์ฟเอง “มากินข้าวสิ” “คุณจะปล่อยฉันได้หรือยัง ฉันไม่ใช่นักโทษนะที่คุณจะขังฉันไว้” “แทนตัวเองแบบเดิมสิไอริณ” “ทำไมฉันต้องทำแบบเดิม” เธอไม่ใช่คนเดิมและไม่อยากทำอะไรเหมือนเดิม “เผื่อฉันอารมณ์ดีจะได้ปล่อยเธอไง” หญิงสาวมีมุมน่ารักไม่น้อย ทำไมเมื่อก่อนเขาถึงไม่สังเกต แววตาที่ซุกซนนั้นเขาเพิ่งจ้องดวงตาเธอครั้งแรก “ฉะ…ไอริณหิวแล้ว” ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงเห็นอาหารตรงหน้ามากมาย เธอหิวจึงนั่งทานอาหารเงียบโดยมีเข้านั่งเฝ้าไม่ห่าง แพนธารินจ้องมองมิณไอริณเขาพิจารณาใบหน้าดวงตาก็เป็นหญิงสาวคนเดิม ทำไมนิสัยถึงได้เปลี่ยนไปแบบชีวิตนี้ไม่เอาอะไรแล้ว “ไอริณอยากได้ยา” “ยา? เธอป่วยเหรอ” เขากำลังกดโทรหาแม่บ้านให้เอายามาให้ “ยาคุมฉุกเฉินไอริณต้องกินยา” เธอไม่ต้องการให้ลูกเกิดมา โดยพ่อแม่เกลียดขี้หน้ากันหากเขาเกิดมาเวลานี้ทุกอย่างต้องแย่ลง “เธอไม่อยากมีลูกกับฉันเหรอ!” ไม่รู้ต้องอึ้งอะไรก่อนดี ทั้งขอหย่าท
หญิงสาวทั้งจ้างนักสืบ และขอให้เทวัญช่วย ในเรื่องการสืบหาความจริงเกี่ยวกับชีวิตของมิณไอริณคนเดิม และคนร้ายที่ผลักหญิงสาวตกน้ำ หากเป็นแพนธารินเขาต้องทิ้งหลักฐานไว้บ้าง แต่ไม่อาจทิ้งความสงสัยได้เขาคือคนที่น่าสงสัยที่สุด “หรือจะเป็นคนใกล้ตัวมากๆ” เทวัญคิดวิเคราะห์เขาฟันธงว่าต้องเป็นแพนธาริน “...” เธอคิดได้อีกหนึ่งคนคือเพลงนาราก็มีความเป็นไปได้เพราะหญิงสาวชอบแพนธาริน อาจจะอยากกำจัดมิณไอริณให้พ้นทาง เทวัญใช้สกิลมีกิ๊กและคู่ขาเป็นตำรวจ จึงวิ่งหากล้องวงจรปิดที่ใกล้จุดที่มิณไอริณ บอกว่าถูกถีบตกลงไปและแนะนำให้หญิงสาวรู้จักกับตำรวจเพื่อนสนิทที่บางทีก็ลำตัวประสานกัน ชื่อว่าสารวัตรธันวา ซึ่งเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ และสารวัตรธันวาก็ได้ค้นพบว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับอุบัติเหตุของมิณไอริณมิณไอริณนั่งดูผลงานและความชั่วร้ายของสามีในอดีตที่ผ่านมา เธอให้อภัยเขาไม่ได้แน่ๆ ภาพในโรงแรมหรูคืนนั้นที่เขากับเพลงนาราหายเข้าไปในห้องนอนด้วยกันและออกมาอีกทีตอนเช้าอีกวัน“เพลงนารานี่มันจริงๆ เลย”“...”พอเห็นคลิปเต็มตาทำให้เธอรู้สึกปวดที่หัวใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำแบบน
แพนธารินนั่งคุยกับลูกค้าที่ร้านอาหารชื่อดัง ในระหว่างที่กำลังทานอาหารกันกลับมีบุคคลที่ไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามาทักทายเขา “คุณแพทจะมาทานข้าวไม่บอกกันเลยนะคะ” เพลงนาราถือวิสาสะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างกายเขา พร้อมกับส่งยิ้มทักทายลูกค้าของเขา ทำเหมือนว่าตัวเองเป็นภรรยาตัวจริงของแพนธาริน “ผมขอตัวสักครู่นะครับคุณลีโอ” เขาลากเพลงนาราออกมาด้านนอกร้านพร้อมต่อว่าหญิงสาวที่ทำตัวไม่มีมารยาทกับเขา “ผมคุยกับลูกค้าอยู่ทำตัวไม่มีใครสั่งใครสอน และอย่าแสดงความเป็นเจ้าของ” เขาเคยเตือนไปหลายครั้งแล้วแต่เหมือนหญิงสาวไม่สนใจ “เพลงคิดถึงคุณนะคะ” “ผมให้เงินคุณไปตั้งเยอะมันไม่พอใช้หรือไง” “ประจำเดือนเพลงยังไม่มาเลยค่ะ” เพลงนาราพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ หากพลาดท้องขึ้นมาอย่างไรแล้วเขาต้องรับผิดชอบเธอ “...” เขานิ่งเงียบกำลังใช้สมาธิ “ถ้าเพลงท้องคุณไม่รักเพลงไม่ว่าแต่รักลูกของเราบ้างได้ไหม” มิณไอริณที่บังเอิญผ่านมาและได้ยินประโยคนั้นถึงกับช็อกไปชั่วขณะ แพนธารินต้องทำถึงขนาดนั้นเลยหรือแล้วเพลงนารายังจะปล่อยท้องเพื่อจับเขา ดีเลยเธอจะได้เขาข้อ
เพลงนาราพยายามติดต่อเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่กลับไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากแพนธารินเลย จนทำให้เธอไม่สามารถหาทางออกได้ในการจ่ายค่าฟ้องที่ยังค้างอยู่...ราคาที่ต้องจ่ายนั้นแพงคนแบบเธอไม่มีปัญญาจ่ายสุดท้ายเพลงนาราที่อยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่สุดๆ ก็ได้ตัดสินใจปล่อยข่าวลือที่ไม่เป็นความจริงออกไป โดยบอกว่าเธอกำลังตั้งท้อง เพื่อให้ทุกคนเห็นใจและดึงความสนใจจากสังคมกลับมาหาตัวเองข่าวนี้แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้ทุกคนเริ่มตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ระหว่างเธอกับสามีของมิณไอริณก่อนที่เพื่อนสาวจะออกมาเปิดเผยว่า“เพลงท้องกับคุณแพทจริงๆ และตอนนี้เขาทิ้งเพลงไปแล้ว!”“ลูกคุณหนูที่ดูดีภายนอก แต่กลับทิ้งเพลงให้เป็นคนที่ถูกทอดทิ้งมิณไอริณทำให้ลูกของเพลงไม่มีพ่อ” เธอกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อที่มารุมล้อมในขณะที่ข่าวนี้กำลังแรงขึ้นเรื่อยๆ มิณไอริณกลับได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากการสัมภาษณ์ของเพื่อนสนิทผ่านโทรทัศน์ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตกใจและความเจ็บปวด “เธอต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ?”“น่ารังเกียจจริงๆ” เทวัญปิดทีวีเขาเห็นอกเห็นใจน้องสาวสุดที่รักที่ต้องเจอคนไม่จริงใจ“เวรกรรมกำลังทำงานเพลงนาราพยายา
แพนธารินนั่งดื่มตามลำพังทำให้เขาคิดถึงผู้หญิงที่เขารัก หากไม่มีมิณไอริณเข้ามาในชีวิตเขากับนุนีคงได้แต่งงานใช้ชีวิตอย่างมีความสุข นุนีประสบอุบัติเสียชีวิตในที่เกิดขึ้น ข้อความสุดท้ายมีคนส่งภาพถ่ายของเขากับมิณไอริณที่นอนอยู่ด้วยกันบนเตียง ตอนนั้นเขากับนุนียังไม่ตกลงเป็นแฟนกันทุกอย่างกำลังไปได้ดี แต่ทุกอย่างกลับพังเพราะนางร้ายอย่างมิณไอริณ และที่เขาเสียใจมากกว่านั้นคือนุนีกำลังตั้งท้องลูกอ่อนๆ หญิงสาวจากไปพร้อมลูกในท้อง ทำให้เขาแปลกใจว่าทำไมถึงไม่ยอมบอกเขาสักคำ ยิ่งไปกว่านั้นในผลชันสูตรมีสารเสพติดในร่างกายของนุนี จนถึงวันนี้เขายังหาคำตอบไม่ได้ว่าเพราะมิณไอริณวางแผนหรืออย่างไร เช้าของอีกวันแพนธารินแปลกใจเพราะเห็นรถไม้คุ้นตาจอดอยู่ในโรงจอดรถ เขาได้ยินเสียงพูดหัวเราะกันซึ่งอีกเสียงเป็นเสียงผู้ชายเขาไม่รอช้าเดินไปกระชากประตูออกทันที ภาพที่เขาเห็นคือชายหนุ่มกล้ามโตกำลังจับโพกมิณไอริณ ท่าทางไม่น่าดูเท่าไรความหึงหวงทำให้เขาเดินไปกระชากหญิงสาวออกมา “โอ๊ยยย ทำอะไรของคุณ” “มันเป็นใคร! พามันมาเย้ยฉันถึงในบ้านเลยเหรอ” “พูดอะไรของคุณ” “แ
เพลงนารานั่งหน้าเครียดเพราะไม่ว่าจะปล่อยข่าวออกไปเช่นไร แพนธารินกลับไม่สนใจและไม่ติดต่อมา ขนาดเธอยอมโกหกว่าตัวเองท้องเขากลับนิ่งเฉย เธอรอไม่ได้ต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่อง “ไปบอกคุณแพทว่าฉันเพลงนาราต้องการพบ” เธอเข้ามาในบ้านของมิณไอริณ ครั้งหนึ่งเคยเดินเข้าออกบ้านหลังนี้ได้สบาย “ค่ะ” เพลงนารานั่งรออย่างใจเย็นเธอเห็นรถมิณไอริณจอดอยู่ในโรงรถแสดงว่าวันนี้ไม่ได้ออกไปไหน ไม่นานร่างคุ้นตาก้าวเข้ามาใกล้ “คุณไม่ยอมติดต่อเพลงเลย ฮึก คุณรู้ไหมเพลงต้องเจอกับอะไรบ้าง” ถูกสังคมตราหน้าไม่เจ็บเท่าสิ่งที่ลงทุนลงแรงมาทั้งหมดกลับไร้ค่า “คุณต้องการอะไร” “เพลงอยากให้คุณรับผิดชอบเพลงกับลูก” บรรยากาศอึมครึมเหมือนพายุที่กำลังก่อตัวขึ้น ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังร่างของแขกไม่ได้รับเชิญอย่างเย็นชา แววตาดุกร้าวเต็มไปด้วยความชิงชัง “เธอฟังฉันให้ดีนะ” เขาหยุดพูด “ตอนนี้ฉันเลือกเมีย ไม่ได้จะเลิกเมีย”คำพูดที่หนักแน่นและเฉียบขาดทำให้อีกฝ่ายหน้าชาวาบ สีหน้าแปรเปลี่ยนจากความท้าทายเป็นกระอักกระอ่วนเล็กน้อย แต่ก็ยังพยายามรักษาท่าที ทว่า นั่นไม่อาจหลบหนีจากสายตา
หลังจากที่น้องไบรท์กับน้องแบล็คได้เข้าเรียนอนุบาลแล้ว แพนธารินก็คิดแต่ว่าชีวิตช่วงกลางวันเขาจะดีขึ้น แต่กลับไม่เป็นแบบนั้นเพราะลูกชายของเขาดันไปก่อเรื่องที่โรงเรียนเอาไว้จนเขาถูกเรียกให้ไปรับทราบพฤติกรรมของลูกชายทั้งสอง“เสร็จหรือยังคะ” เสียงของมิณไอริณดังขึ้นหลังจากเธอนั่งรอแพนธารินกับลูกสาวมาได้สักพักแล้ว“เสร็จแล้วครับ อันนี้เอาให้คุณแม่ด้วยครับ” แพนธารินส่งหน้ากากอนามัยให้กับลูกสาวเพื่อให้เจ้าหนูเอาไปให้แม่“อะไรคะเนี่ย” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างเป็นคำถาม เมื่อเห็นสิ่งที่สามีฝากลูกสาวเอามาให้เธอ“หน้ากากไงครับ”“เอามาทำอะไรคะ ไอริณไม่ได้เป็นไข้นะคะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจสามีของเธอ“พี่ไม่ได้บอกว่าไอริณเป็นไข้ แต่พี่ไม่ชอบเวลาคนอื่นมอง”“หึงเหรอคะ” มิณไอริณลุกจากเก้าอี้ตรงไปหาแพนธารินเธอจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มอย่างต้องการคำตอบ“ครับ หึง ไม่ชอบเลยเวลามีคนมอง”“ก็ไอริณสวยนิคะ”“ก็เพราะแบบนี้ไง พี่เลยไม่อยากให้เราไปไหน” แพนธารินหน้าตึงขึ้นมาทันที เวลาเขาเห็นใครมองมิณไอริณเขารู้สึกหงุดหงิดจนไม่อยากให้หญิงสาวออกไปไหน“ไม่แกล้งแล้ว เขาอยากมองก็มองไป แต่ไอริณไม่สนใจสักหน่อย น้องทิ
เช้าอันสดใสที่ใครหลายๆ คนต่างนับว่าเป็นการเริ่มต้นวันที่ดี แต่เหมือนจะไม่ใช่กับแพนธารินเขายังคงวนเวียนอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าให้กับภรรยากับลูกชายฝาแฝดชายหนุ่มใช้เวลานานนับชั่วโมงในการเตรียมอาหารก่อนขึ้นไปดูภรรยาที่ยังคงนอนหลับอยู่ซึ่งตอนนั้นเองลูกชายของเขาทั้งสองคนกลับตื่น แพนธารินตรงเข้าไปอุ้มเด็กน้อยทั้งสองขึ้นแนบอกหวังเพียงว่าทั้งคู่จะไม่ร้อง“ชู่ว์ ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวพ่อพาลงไปเล่นข้างล่าง” แพนธารินเอ่ยเปล่า เขาอุ้มลูกชายฝาแฝดลงมาจากห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับการหยอกล้ออย่างสนุกสนานชายหนุ่มทำหน้าที่เลี้ยงเด็กทั้งสองแทนผู้เป็นแม่ของพวกเขาอย่างมิณไอริณ เพราะเธอเพิ่งคลอดลูกมาได้เพียงแค่เดือนเศษ ร่างกายของหญิงสาวยังคงต้องพักผ่อนเพื่อฟื้นฟู“มาแล้ว ระวังให้ดี” เสียวหยอกล้อของพ่อลูกยังดังขึ้นเรื่อยๆ“ทำอะไรกันอยู่คะ” มิณไอริณที่แอบมองดูสามีเล่นกับลูกชายทั้งสองอย่างสนุกสนาน มาได้สักพักก็เอ่ยถาม “อ้าวไอริณมาตั้งแต่ตอนไหน” แพนธารินเดินไปประคองมิณไอริณมานั่งที่โซฟา ก่อนอุ้มลูกน้อยที่หญิงสาวอุ้มมาด้วยขึ้นแนบอก“มาทันเห็นคนโดนลูกแกล้ง” ใบหน้าสวยเอ่ยด้วยยิ้ม“งั้นเหรอครับ แล้วอยากโดน
แสงแดดส่องเข้ามาในห้องนอนแพนธารินพลิกตัวไปมาอย่างเกียจคร้าน แต่พอจะลุกแค่นั้นแหละ มีอะไรหนักๆ มาทับที่หน้าอกคิดว่าผีอำ “น้องแบล็คทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้” เขาจับลูกชายวางลงข้างกาย “เย่นๆ” เด็ดน้อยพยายามปืนป่ายขึ้นมานั่งบนหน้าอกของผู้เป็นพ่ออีกครั้ง “อืมมม พักก่อนนะลูก” เล่นปลุกเขาตั้งแต่เช้าแล้วภรรยาเขาหายไปไหนตั้งแต่เช้า แพนธารินลุกขึ้นและอุ้มลูกลงไปตามหาภรรยา ในห้องโถงได้ยินเสียงแฝดพี่ร้องไห้เสียงดัง โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังปลอบอยู่ “นายเป็นใคร! เข้ามาทำอะไรในบ้านฉัน” “เอ่อ!” ลุกกำลังจะตอบแต่คนถามไม่ยอมปล่อยโอกาสแถมยังต่อว่าเขา มิณไอริณกับเทวัญที่ได้ยินเสียงของแพนธารินจึงรีบเข้ามา “พี่แพทเสียงดังทำไมคะ? ลูกก็อยู่ด้วย” “มัน...เขาคนนี้คือใคร” ในสมองของเขาไม่เคยรู้จักหรือเคยเห็นหน้ามาก่อน แต่พอโดนดุจึงเงียบทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับสิ่งที่เกิดขึ้น “พี่ลุกแฟนพี่เทวัญค่ะ” แพนธารินจึงเงียบเพราะเหมือนว่ากำลังทำให้เมียโกรธมากขึ้น และเขาต้องเป็นฝ่ายพาตัวเองออกไปจากห้องโถงเพราะถูกเชิญออกไป “พี่แพทมีประชุมเช้านี่คะต
มิณไอริณนั่งมองลูกชายคนโตที่อยู่ในอ้อมแขนของหมอคัมภีร์ ส่วนอีกคนหลับอยู่ในรถเข็นเด็ก “คนนี้หน้าเหมือนไอริณมาก” เขาจ้องมองเด็กน้อยในอ้อมแขน ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนสุดท้ายแล้วเขากับมิณไอริณก็เป็นได้แค่พี่น้อง “พี่หมอไม่คิดจะมีบ้างเหรอคะ” “พี่จะหาแม่ของลูกมาจากไหนบ้างานขนาดนี้” “มัวแต่ทำงานระวังจะแก่ก่อนนะคะ” เขาหล่อเขารวยหน้าที่การงานก็ดี สักวันต้องมีคนที่ดีเข้ามา พี่ไม่เคยคิดเรื่องนั้นถ้ามันใช่มันใช่ไปตั้งนานแล้ว” เหมือนที่เขาตามจีบหญิงสาว สุดท้ายแล้วความดีไม่ใช่ผลตอบแทนของความรัก “ไอริณต้องกลับแล้วค่ะพ่อเด็กๆ รออยู่” เธอกล่าวลาเขา พอเดินออกมาไม่ไกลก็เห็นแพนธารินนั่งรออยู่ พร้อมกับใบหน้าบูดบึ้ง “เบื่อทำไมต้องไม่ให้พี่ตามไปด้วย” ทำเหมือนแอบคบชู้ จะโกรธก็ไม่ได้เพราะตอนนี้เมียอยู่เหนือทุกอย่าง “ไม่ทำหน้างอแบบนั้นสิคะฝากลูกหน่อยนะคะ ไอริณจะไปเดินเล่น” เธอส่งลูกให้แพนธารินรีบเดินขึ้นรถอีกคันไม่อยากให้เขาหอบลูกตามเธอไปชอปปิ้งด้วย จากมาเฟียสู่พ่อลูกอ่อนอีกมืออุ้มลูก อีกมือเข็นรถการเลี้ยงลูกมันเหนื่อยกว่าทำงานหลายเท่า
แพนธารินขอเข้าไปดูหน้าลูกด้วย ในห้องคลอดหญิงสาวก็คิดว่า เจ้าของร่างเดิมคงต้องการแบบนี้ชายหนุ่มร้องไห้เมื่อเห็นหน้าลูกเขานั่งเฝ้าลูกทั้งสองกำลังหลับปุ๋ยอยู่บนรถเข็นเปลเด็ก ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะอุ้มท้องลูกเขาถึงสองคน“แพนธวัฒน์ – แพนเมธา ชื่อเล่นน้องอะไรดีนะ” เขานั่งครุ่นคิด“ไบรท์กับแบล็ค” เธอแอบตั้งชื่อลูกไว้แล้วมีแสงสว่างก็ต้องมีความมืดมน และเธอชอบชื่อนี้มาก“ชื่อเพราะดี” เขาเอามือจิ้มแก้มของลูกทำให้เด็กน้อยร้องไห้เสียงดัง จนมิณไอริณต้องต่อว่าเขาที่ไปแกล้งลูกเป็นครั้งแรกที่เธอให้นมลูกซึ่งเด็กน้อยดูดจนเธอรู้สึกเจ็บ พออีกคนดื่มนมจนอิ่มอีกคนร้องตาม แค่คนเดียวก็ว่าหนักแล้วตอนนี้มีถึงสองคนคืนนั้นมิณไอริณฝัน เจ้าของร่างเดิมมาขอร้อง ว่าให้เธอคืนดีกับแพนธาริน เธอจะไปเกิดแล้วและอวยพรให้หญิงสาวมีความสุขแพนธารินนอนกระสับกระส่ายไปมาในความฝันของเขา เห็นผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนมิณไอริณมายืนร้องไห้ ซึ่งเขาจำได้ว่าคนนี้คือมิณไอริณตัวจริง“ไอริณมาลาพี่แพทค่ะ ชาตินี้เราจากกันแล้วรักผู้หญิงคนนั้นให้มากๆ นะคะ”“ไอริณ” น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาหาเสียงตัวเองไม่เจอ นี่เป็นครั้งแรกที่ในใจของเขาไม่ได้
ภีมกับภามนั่งเฝ้าเจ้านายอยู่เกือบสามชั่วโมง ตั้งแต่ทั้งสองทะเลาะกันเจ้านายของพวกเขากลายเป็นคนเงียบขรึม ตามง้อภรรยาแต่เหมือนนายหญิงจะไม่ยอมยกโทษให้ง่ายๆ แพนธารินนั่งฟังคุณครูสอนอย่างตั้งอกตั้งใจ วันนี้เขาเข้าคอร์สเรียนการเลี้ยงลูก ทั้งสองเรียนมีเขาที่เป็นผู้ชายเพียงคนเดียว ชวนมิณไอริณมาแล้วแต่รายนั้นยังโกรธเขาอยู่ เขารู้สึกผิดที่ทำให้หญิงสาวเกือบเสียลูกไป จะโกรธเขาก็ไม่แปลก “คุณแพทฟังอีกรอบนะคะเวลาลูกอาเจียนเราต้องลูบหลังเบาๆ แบบนี้ค่ะ” คุณครูสาธิตให้เขาดูก่อน และลองให้เขาทำ “แบบนี้เหรอครับ” เขาทำตามที่คุณครูสอนทุกอย่าง“ใช่ค่ะเบาๆ นะคะ” ขนาดตุ๊กตายังทำแรงขนาดนี้ ถ้าเป็นคนจริงๆ น่าจะเหลือแค่ชื่อแพนธารินค่อยๆ ลูบหลังตุ๊กตาเด็กแต่เขาน่าจะลงแรงไปเยอะ ลูบไปลูบมาหัวตุ๊กตาหลุดร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น ทำให้ทุกคนหัวเราะเสียงดัง“เบาๆ สิคะ”“ผมขอเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ”คุณครูจึงพามาสอนเรื่องการอาบน้ำให้เด็กแรกเกิด แพนธารินทำตามทุกอย่างเช่นเดิม แต่เหมือนจะหนักมืออีกเพราะตุ๊กตาเด็กคว่ำหน้าจมน้ำไปต่อหน้าต่อหน้า“กูไม่เรียนแล้ว” เขาเดินออกมาทันทีพร้อมใบหน้าที่
มิณไอริณนอนอยู่บนเตียงกว้างเธออ่านข่าวของเพลงนารากับภูวเรศ คำสารภาพของชายหนุ่มทำให้มิณไอริณต้องช็อกอีกรอบ เรื่องที่เกิดขึ้นกับเพลงนาราเขาเป็นคนทำทั้งหมด และเป็นคนสั่งเก็บเพลงนารา “เวรกรรมโรคจิตมาก” ถ้าวันนั้นพวกมันทำกับมิณไอริณสำเร็จไม่อยากจะคิดเลย ว่าต่อจากนั้นชีวิตของหญิงสาวจะเป็นอย่างไรต่อ “ว้าย...คุณเข้ามาทำอะไร!” เธอมองหน้าคนที่บุกเข้ามาในห้องนอน “คืนนั้นบอกจะนอนกับฉันแต่ทำไมล็อกห้องหนีล่ะ” แต่งงานกันมาตั้งนานเพิ่งได้ร่วมเตียงกันแค่ไม่กี่ครั้ง คืนนั้นก็ชิงหนีเขาก่อน เจ้าเล่ห์เหลือคณาปล่อยให้เขาแห้งเหี่ยว “ไอริณแค่พูดลอยๆ” “คืนนี้ต้องเข้าไปทักทายลูก” ทำเลื่อนมือเข้าไปใต้ร่มผ้า “พอ...หยุด! ผู้ชายสำส่อนแบบคุณควรอยู่คนเดียว” “แรงมาก จะบอกให้นะทุกอย่างแค่ละครฉากหนึ่ง” “อะไร!” งงละครอะไร “ที่ผ่านมาฉันเคยนอนกับใครเสียที่ไหนกันเล่า” เขาไม่ใช่คนชั่วมั่วไม่เลิกเสียหน่อยไม่มีนิสัยแบบนั้น คนไม่รักษาศีลข้อความชีวิตไม่ตายดี “คุณแพท” ที่ผ่านมาเขาหลอกมิณไอริณมาตลอด “ฉันจ้างพวกหล่อนมาเล่นละครเพ
แพนธารินได้หลักฐานจากสารวัตร และทีมสืบสวน จนได้รู้ผู้บงการตัดสายเบรกของเขา ภูวเรศนั่นเองเขามาก แต่เทวัญก็ปลอบใจ “นายไม่รู้จริงเหรอว่าไอ้ภูวเรศมันแอบรักนาย” “หมายถึงอะไร?” แพนธารินทำหน้างุนงงแอบรักแบบไหน “มันเป็นเกย์และหวังจะเอานายไง” เรื่องที่เพื่อนเกย์เขารับได้แต่เรื่องที่จะฟันเขา คิดดูแล้วยังมองหาความเป็นจริงไม่เจอเพราะภูวเรศไม่เคยแสดงออกเลย “แต่ไอ้ภู...” “นายดูคลิปนี้ซะ” แพนธารินเห็นคลิปที่ภูวเรศอมกระสวย เขาถึงกับรับไม่ได้ เขากับภูวเรศมันมีอะไรที่มากกว่านั้น ทั้งเปลือยกาย อาบน้ำด้วยกัน เพราะเรียนกันมาตั้งแต่อนุบาล “อย่าไปหามันเลยมันคงไม่กล้าสู้หน้าปล่อยให้ตำรวจจัดการเถอะ เรื่องของคุณนุนีฟังคลิปเอาแล้วกัน” เทวัญสะเทือนใจจนไม่สามารถพูดออกมาได้ ภูวเรศไม่ยอมให้แพนธารินมาเยี่ยม เพราะไม่กล้าสู้หน้า แต่คำสารภาพก็ทำให้แพนธารินเจ็บปวดคือ รักมาก และเมื่อไม่ได้ครอบครองก็อยากฆ่าให้ตาย “เรื่องของนุนีทั้งหมดเป็นกูทำเอง” ภูวเรศอัดคลิปสารภาพเรื่องราวทั้งหมด แพนธารินมือไม้สั่นเพราะภูวเรศเล่าตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้
เสียงเคาะประตูดังขึ้นถี่ๆ ตามด้วยเสียงเข้มของเจ้าหน้าที่ตำรวจ“คุณเพลงนาราเปิดประตูเดี๋ยวนี้ นี่คือหมายจับของคุณในข้อหาพยายามฆ่า!”ภายในคอนโดหรูกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียดเพลง นารานั่งนิ่งอยู่กลางห้อง ดวงตาเบิกโพลง ริมฝีปากแห้งผาก เธอรู้ดีว่าวันนี้ต้องมาถึง แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้“ไม่... ไม่จริง” เธอพึมพำกับตัวเอง น้ำเสียงสั่นเครือเสียงเคาะประตูดังขึ้นแรงกว่าเดิม ก่อนที่ประตูจะถูกพังเข้ามา ตำรวจหลายนายกรูกันเข้ามาภายในห้องนอน พร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่เธอรู้จักดี เขายืนอยู่ด้านหลังตำรวจ สีหน้าเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยความสะใจ“มอบตัวซะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แต่กลับเป็นเหมือนเสียงฟ้าผ่ากลางใจเธอสั่นไปทั้งตัว ก่อนจะกรีดร้องสุดเสียง“ไม่! พวกแกโกหก! ฉันไม่ได้ทำ! ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น!!”เธอถอยกรูดไปจนหลังชนกำแพง มือทั้งสองขยุ้มผมตัวเองราวกับอยากฉีกศีรษะให้ขาดจากร่าง ดวงตาวาวโรจน์ไปด้วยความบ้าคลั่ง“เขาใส่ร้ายฉัน! พวกแกมันโกหก!!”เธอกรีดร้องลั่น ก่อนจะคว้าข้าวของขว้างปาใส่ตำรวจที่กำลังเข้ามาประชิดตัว ขวดแก้วแตกกระจายบนพื้น โต๊ะล้มระเนระนาด แต่ไม่มีอะไรสามารถหยุดเจ้าหน้าที่ที่ก