มิณไอริณกับเทวัญนัดพบกันเพื่อถามความคืบหน้าของเรื่องที่หญิงสาวตกน้ำ แต่ป่านนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเจอคนร้าย
“ไอริณศัตรูรอบด้านไม่รู้ไปขัดขาใคร”
“ตอนนั้นก็มีแต่ไอ้แพทนะที่เกลียดไอริณ” เทวัญปักใจเชื่อว่ายังไงแพนธารินต้องเป็นร้าย
“เขาจะกล้าทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“ไม่แน่นะตอนนั้นมันบีบบังคับไอริณทุกทาง เรื่องที่มันจ้างคนไปข่มขืนเราก็เลวพอแล้ว เสียดายไม่มีหลักฐานเอาผิด”
หญิงสาวคิดตามเรื่องนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากแพนธาริน ที่เกลียดภรรยาตัวเองเข้าไส้ เขาใจร้ายถึงขั้นจ้างคนมาข่มขืนให้ตายทั้งเป็น เรื่องที่ผลักเธอตกน้ำก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะกำจัดเธอ
“ขอบคุณนะคะที่มาส่งไอริณ”
“เบลท์น่าจะเสียพี่ปลดให้” เทวัญโน้มตัวมาช่วยปลดเบลท์ หากใครผ่านเข้ามาคงเข้าใจผิดว่าทั้งสองกำลังจูบกัน แต่ทุกอย่างไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย
แพนธารินเห็นเทวัญจูบแก้มของมิณไอริณ เขาจึงโมโหมากรีบเขาไปเปิดประตูรถแล้วลากหญิงสาวออกมา เขาด่าทอหญิงสาวที่ทำตัวไร้ค่า
“อะไรของคุณ”
“ร่านยังไม่หย่ากับฉันแต่ยอมให้มันจูบแล้วเหรอ ไปไหนมา ถึงกลับเอาป่านนี้!” เขาไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่บอกรักเขาเช้าเย็นจะเปลี่ยนไปจนเขาแทบไม่รู้จัก
เธอโกรธแต่ไม่ตอบโต้คนเมาเพราะได้กลิ่นแอลกอฮอล์ออกมาจากตัวเขา เธอจึงรีบแยกตัวออกไปแต่เขาเข้าไปหาเรื่องมิณไอริณถึงในห้องนอน ทั้งสองปะทะคารมกันอีกครั้ง
“คนทำชั่วก็คิดได้แค่ว่า คนอื่นจะชั่วเหมือนตัวเอง”
“ฉันจะชั่วจะเลวก็ไม่เท่าเธอหรอก” เขาที่เมากรึ่มๆ เข้ามาคุกคามหญิงสาว จนเจ้าของห้องเริ่มหวาดหวั่น
“คุณจะทำอะไรออกไปจากห้องฉันอย่ามากอดสิ”
“กอดเมียตัวเองมันผิดไหน” ร้อยวันพันปีไม่เคยยอมรับว่าหญิงสาวเป็นเมีย “แต่งงานกันมายังไม่เคยแตะตัวเลย ขอค่าเสียเวลาชีวิตหน่อย”
“อร้าย ปล่อยนะคุณเมามากแล้ว”
แพนธารินทาบทับตัวลงมาเขาจับมือทั้งสองข้างหญิงสาวตรึงไว้เหนือศีรษะ ใบหน้าของเขาเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนเธอต้องหลับตาเพราะสู้แรงเขาไม่ได้
“อื้อ...” เขากดจูบเธออย่างไม่ปรานี ริมฝีปากของเขากดแนบแน่นกับริมฝีปากของเธอ ราวกับจะดึงความรู้สึกทั้งหมดของเธอออกมา
จากที่ขัดขืนเริ่มคล้อยตามเขา ขณะที่มือของเขาลูบคลำไปตามแผ่นหลังของเธออย่างปรารถนา กลิ่นหอมของผิวเนื้อที่ร้อนแรงของเธอทำให้เขารู้สึกคลั่ง ริมฝีปากสัมผัสกับลำคอของเธอ ราวกับจะกลืนกินเธอลงท้อง
มือหนาลูบไล้ไปที่ทรวงอกของเธอที่มีสิ่งขวางกั้น จนเขากระชากชุดสวยของหญิงสาวขาดติดมือ เขาปล่อยมือของเธอให้เป็นอิสระ
“ฮึก~ ปล่อยฉัน” เธอส่ายหน้าไปมาจนผมสยายเต็มหมอน หนีบขาไว้แน่นเพราะกลัวเขาจะรุกล้ำเข้ามา
“อืม...อยากได้ฉันเป็นผัวมากไม่ใช่เหรออย่ามาทำเป็นไม่เคยแถวนี้”
“ฮือ ไม่ใช่แบบนั้น...อ๊ะ” นิ้วมิของเขาเล่นกับปลายหัวนมอย่างชำนาญ
เขาจูบเธออีกครั้งไต่ลงมาที่ลำคอแบะเนินเนื้อหน้าอก รู้สึกกลิ่นหอมอ่อนๆ จากผัวเนื้อของเธอ แล้วปรับองศาริมฝีปากให้ครอบเต้านมดูดดึงจนเธอเปล่งเสียงคราง
“อื้อ อ๊ะ ปล่อยฉันไป...”
“ฉันคงไม่ต้องเร้าอารมณ์หรอกนะ เธอคงเคยมาแล้ว” เขาลุกไปจัดการสิ่งขวางบนร่างกาย มังกรร้ายผงาดต่อหน้ามิณไอริณ เขาจับเอ็นท่อนรูดขึ้นรูดลงนำมาจ่อที่ปากทางเข้า
“อย่าทำแบบนี้คุณแพทฉันไม่ต้องมัน”
“เยิ้มขนาดนี้ยังจะปฏิเสธ”
เขาไม่รอช้ารีบดันเอ็นร้อนเข้าไปเขาไปได้เพียงครึ่งทางเขาจึงหยุดนิ่งตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขามองจุดเชื่อมที่มีของเลวสีแดงไหลปนออกมา
“จะ เจ็บฉันเจ็บ” เธอรู้สึกเจ็บเหมือนร่างกายจะฉีกขาด
“ทำไมเธอถึงไม่เคย!” เขานิ้วหน้าเพราะความอึดอัดยามที่รูร่องกำลังบีบรัดตัวตนของเขาแน่น เขาดันเขาไปจนสุดและกดกายแช่ไว้แบบนั้น ปากหนาพรมจูบไปทั่วใบหน้าของเธอ
เมื่อทุกอย่างลงตัวเขาจึงเริ่มขยับสะโพกเข้าออกอย่างเชื่องช้า มันรู้สึกดีมากจนเขาไม่อยากปล่อยเธอไปไหนอีก ภรรยาของเขายังบริสุทธิ์ไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน
เขากระแทกเข้าไปอย่างรุนแรงจนเตียงสั่นสะท้าน เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องในห้อง ร่างกายของเธอสั่นสะท้านไปตามแรงของเขา ความรู้สึกเร่าร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เธอครางออกมาด้วยความสุขที่ท่วมท้น
“อืมมม อ๊า” เธอบีบรัดตัวตนของเขาแน่นจนชายหนุ่มครางเสียงกระเส่า
“อ๊า...ซี๊ดดด...ไม่ไหวแล้ว...” มือของเขาลูบไล้ไปทั่วร่างกาย ความรู้สึกเสียวซ่านแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เขากระแทกเข้าออกอย่างไม่หยุดหย่อน จนกระทั่งเขาปลดปล่อยน้ำกามเข้าไปในตัวของหญิงสาว
การปลดปล่อยกระแสธารออกมาทำให้รู้สึกถึงความสุขที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัว เขากอดเธอไว้แน่นรู้สึกดีจนบอกไม่ถูก
“อื้อ” ถึงจะไม่เคยมีอะไรกับคนอื่นแต่ความอุ่นที่แผ่ซ่านไปในท้องน้อย ทำให้หญิงสาวทุบที่แผ่นหลังของเขา เมื่อเขาไม่ยอมป้องกัน เธอเหนื่อยเกินว่าจะต่อว่าเขา
“ฉันต้องการมันอีก”
“อย่านะ อร้ายยย”
มิณไอริณไม่สามารถห้ามเขาได้ถูกแพนธารินจับพลิกตัวไปมา ไม่รู้ว่าเขาเสร็จกี่รอบแต่เธอหมดแรงตั้งแต่รอบแรก และผล็อยหลับไปปล่อยให้เขาเสพสุขกับร่างกายของเธอจนพอใจ
เสียงนกที่ดังอยู่ด้านนอกหน้าต่างมิณไอริณจึงเปิดเปลือกตาขึ้นมาในช่วงสายของอีกวัน แค่ขยับตัวไปร้าวไปทั้งร่างกาย เมื่อคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นน้ำตาที่กักเก็บไว้ไหลออกมา
“ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยไหนว่าจะหย่าแต่ทำไมถึงมานอนบนเตียงกับเขา”
แม้จะเสียใจแต่อะไรที่เสียไปแล้วไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ มิณไอริณจึงลุกมาอาบน้ำแต่งตัวจะออกไปข้างนอกเพราะไม่กล้าสู้หน้าเขา
แอด
“แต่งตัวจะไปไหน” แพนธารินมองคนตัวเล็กที่นั่งแต่งหน้าไม่สนในสิ่งที่เขาถาม
“ฉันถามอย่ากวนประสาทหรืออยากโดนแบบเมื่อคืน” ได้ผลเมื่อเธอหันมามองหน้าเขา
“เมื่อคืนถือว่าฉันให้ทานหมา” ประสาทมาประสาทกลับไม่โกง
“ไอริณมันจะมากไปแล้วนะเมื่อคืนไม่เห็นปฏิเสธเห็นร้องว่าให้ฉันทำแรงๆ”
“พูดจบแล้วใช่ไหมหลีกไปด้วย” ไม่อยากพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาขยันขยี้เหลือเกิน ผู้ชายอะไรปากก็ดีความจำเป็นเลิศทำอะไรไว้ดันจำได้ทุกอย่าง
“จะออกไปหาชู้อย่างมันใช่ไหม”
“คุณแพทฉันเบื่อที่จะเถียงกับคุณแล้ว”
“ได้ฉันแล้วบอกว่าเบื่อ ผู้หญิงใจง่าย”
เขาเข้ามาเขย่าตัวหญิงสาวคิดว่าพอตื่นเช้าจะมาคุยกับเธอดีๆ แต่คนตรงหน้าขยันยั่วประสาทเข้ามาก มือหนาบีบต้นแขนของเธอแน่น
“ฉันเจ็บปล่อย”
“ฉันไม่ปล่อยเธอไปไหน...คิดจะออกไปนัดพบชู้ไม่มีทาง!”
“ฉันหิวจะลงไปกินข้าว” คนอะไรคิดเองเออเองไปเสียทุกอย่าง
“ไม่ให้ลงไปฉันจะจับเธอขังไว้ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันเลย” แพนธารินเดินไปคว้ามือถือของหญิงสาวแล้วขว้างลงพื้นจนไม่เหลือชิ้นดี
“คุณทำอะไร”
“ต่อจากนี้เธอต้องฟังคำสั่งของฉัน และจำไว้ว่าฉันไม่หย่าอยู่แบบเกลียดๆ ไปจนตายนี่แหละ”
“อร้าย คุณมาเปิดประตูให้ฉันก่อนนะ”
หญิงสาวทุบประตูหลายครั้งเมื่อแพนธารินล็อกห้องจากทางด้านนอก เธอไม่สามารถติดต่อใครได้ หิวก็หิวเขาจะทรมานให้เธอตายไปเลยหรือ เป็นกังวลเรื่องเมื่อคืนเพราะเขาไม่ได้ป้องกัน เช้านี้จึงจะออกไปซื้อยาคุมฉุกเฉินแต่กลับถูกเขาจับขังเสียก่อน
วันนี้แพนธารินยังขังมิณไอริณไม่ให้หนีไปไหน เขาใส่กุญแจล็อกข้างนอก มาสั่งแม่บ้านทำอาหารโปรดของหญิงสาวทั้งหมด แล้วเขาเอาไปเสิร์ฟเอง “มากินข้าวสิ” “คุณจะปล่อยฉันได้หรือยัง ฉันไม่ใช่นักโทษนะที่คุณจะขังฉันไว้” “แทนตัวเองแบบเดิมสิไอริณ” “ทำไมฉันต้องทำแบบเดิม” เธอไม่ใช่คนเดิมและไม่อยากทำอะไรเหมือนเดิม “เผื่อฉันอารมณ์ดีจะได้ปล่อยเธอไง” หญิงสาวมีมุมน่ารักไม่น้อย ทำไมเมื่อก่อนเขาถึงไม่สังเกต แววตาที่ซุกซนนั้นเขาเพิ่งจ้องดวงตาเธอครั้งแรก “ฉะ…ไอริณหิวแล้ว” ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงเห็นอาหารตรงหน้ามากมาย เธอหิวจึงนั่งทานอาหารเงียบโดยมีเข้านั่งเฝ้าไม่ห่าง แพนธารินจ้องมองมิณไอริณเขาพิจารณาใบหน้าดวงตาก็เป็นหญิงสาวคนเดิม ทำไมนิสัยถึงได้เปลี่ยนไปแบบชีวิตนี้ไม่เอาอะไรแล้ว “ไอริณอยากได้ยา” “ยา? เธอป่วยเหรอ” เขากำลังกดโทรหาแม่บ้านให้เอายามาให้ “ยาคุมฉุกเฉินไอริณต้องกินยา” เธอไม่ต้องการให้ลูกเกิดมา โดยพ่อแม่เกลียดขี้หน้ากันหากเขาเกิดมาเวลานี้ทุกอย่างต้องแย่ลง “เธอไม่อยากมีลูกกับฉันเหรอ!” ไม่รู้ต้องอึ้งอะไรก่อนดี ทั้งขอหย่าท
หญิงสาวทั้งจ้างนักสืบ และขอให้เทวัญช่วย ในเรื่องการสืบหาความจริงเกี่ยวกับชีวิตของมิณไอริณคนเดิม และคนร้ายที่ผลักหญิงสาวตกน้ำ หากเป็นแพนธารินเขาต้องทิ้งหลักฐานไว้บ้าง แต่ไม่อาจทิ้งความสงสัยได้เขาคือคนที่น่าสงสัยที่สุด “หรือจะเป็นคนใกล้ตัวมากๆ” เทวัญคิดวิเคราะห์เขาฟันธงว่าต้องเป็นแพนธาริน “...” เธอคิดได้อีกหนึ่งคนคือเพลงนาราก็มีความเป็นไปได้เพราะหญิงสาวชอบแพนธาริน อาจจะอยากกำจัดมิณไอริณให้พ้นทาง เทวัญใช้สกิลมีกิ๊กและคู่ขาเป็นตำรวจ จึงวิ่งหากล้องวงจรปิดที่ใกล้จุดที่มิณไอริณ บอกว่าถูกถีบตกลงไปและแนะนำให้หญิงสาวรู้จักกับตำรวจเพื่อนสนิทที่บางทีก็ลำตัวประสานกัน ชื่อว่าสารวัตรธันวา ซึ่งเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ และสารวัตรธันวาก็ได้ค้นพบว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับอุบัติเหตุของมิณไอริณมิณไอริณนั่งดูผลงานและความชั่วร้ายของสามีในอดีตที่ผ่านมา เธอให้อภัยเขาไม่ได้แน่ๆ ภาพในโรงแรมหรูคืนนั้นที่เขากับเพลงนาราหายเข้าไปในห้องนอนด้วยกันและออกมาอีกทีตอนเช้าอีกวัน“เพลงนารานี่มันจริงๆ เลย”“...”พอเห็นคลิปเต็มตาทำให้เธอรู้สึกปวดที่หัวใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำแบบน
แพนธารินนั่งคุยกับลูกค้าที่ร้านอาหารชื่อดัง ในระหว่างที่กำลังทานอาหารกันกลับมีบุคคลที่ไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามาทักทายเขา “คุณแพทจะมาทานข้าวไม่บอกกันเลยนะคะ” เพลงนาราถือวิสาสะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างกายเขา พร้อมกับส่งยิ้มทักทายลูกค้าของเขา ทำเหมือนว่าตัวเองเป็นภรรยาตัวจริงของแพนธาริน “ผมขอตัวสักครู่นะครับคุณลีโอ” เขาลากเพลงนาราออกมาด้านนอกร้านพร้อมต่อว่าหญิงสาวที่ทำตัวไม่มีมารยาทกับเขา “ผมคุยกับลูกค้าอยู่ทำตัวไม่มีใครสั่งใครสอน และอย่าแสดงความเป็นเจ้าของ” เขาเคยเตือนไปหลายครั้งแล้วแต่เหมือนหญิงสาวไม่สนใจ “เพลงคิดถึงคุณนะคะ” “ผมให้เงินคุณไปตั้งเยอะมันไม่พอใช้หรือไง” “ประจำเดือนเพลงยังไม่มาเลยค่ะ” เพลงนาราพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ หากพลาดท้องขึ้นมาอย่างไรแล้วเขาต้องรับผิดชอบเธอ “...” เขานิ่งเงียบกำลังใช้สมาธิ “ถ้าเพลงท้องคุณไม่รักเพลงไม่ว่าแต่รักลูกของเราบ้างได้ไหม” มิณไอริณที่บังเอิญผ่านมาและได้ยินประโยคนั้นถึงกับช็อกไปชั่วขณะ แพนธารินต้องทำถึงขนาดนั้นเลยหรือแล้วเพลงนารายังจะปล่อยท้องเพื่อจับเขา ดีเลยเธอจะได้เขาข้อ
เพลงนาราพยายามติดต่อเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่กลับไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากแพนธารินเลย จนทำให้เธอไม่สามารถหาทางออกได้ในการจ่ายค่าฟ้องที่ยังค้างอยู่...ราคาที่ต้องจ่ายนั้นแพงคนแบบเธอไม่มีปัญญาจ่ายสุดท้ายเพลงนาราที่อยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่สุดๆ ก็ได้ตัดสินใจปล่อยข่าวลือที่ไม่เป็นความจริงออกไป โดยบอกว่าเธอกำลังตั้งท้อง เพื่อให้ทุกคนเห็นใจและดึงความสนใจจากสังคมกลับมาหาตัวเองข่าวนี้แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้ทุกคนเริ่มตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ระหว่างเธอกับสามีของมิณไอริณก่อนที่เพื่อนสาวจะออกมาเปิดเผยว่า“เพลงท้องกับคุณแพทจริงๆ และตอนนี้เขาทิ้งเพลงไปแล้ว!”“ลูกคุณหนูที่ดูดีภายนอก แต่กลับทิ้งเพลงให้เป็นคนที่ถูกทอดทิ้งมิณไอริณทำให้ลูกของเพลงไม่มีพ่อ” เธอกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อที่มารุมล้อมในขณะที่ข่าวนี้กำลังแรงขึ้นเรื่อยๆ มิณไอริณกลับได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากการสัมภาษณ์ของเพื่อนสนิทผ่านโทรทัศน์ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตกใจและความเจ็บปวด “เธอต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ?”“น่ารังเกียจจริงๆ” เทวัญปิดทีวีเขาเห็นอกเห็นใจน้องสาวสุดที่รักที่ต้องเจอคนไม่จริงใจ“เวรกรรมกำลังทำงานเพลงนาราพยายา
แพนธารินนั่งดื่มตามลำพังทำให้เขาคิดถึงผู้หญิงที่เขารัก หากไม่มีมิณไอริณเข้ามาในชีวิตเขากับนุนีคงได้แต่งงานใช้ชีวิตอย่างมีความสุข นุนีประสบอุบัติเสียชีวิตในที่เกิดขึ้น ข้อความสุดท้ายมีคนส่งภาพถ่ายของเขากับมิณไอริณที่นอนอยู่ด้วยกันบนเตียง ตอนนั้นเขากับนุนียังไม่ตกลงเป็นแฟนกันทุกอย่างกำลังไปได้ดี แต่ทุกอย่างกลับพังเพราะนางร้ายอย่างมิณไอริณ และที่เขาเสียใจมากกว่านั้นคือนุนีกำลังตั้งท้องลูกอ่อนๆ หญิงสาวจากไปพร้อมลูกในท้อง ทำให้เขาแปลกใจว่าทำไมถึงไม่ยอมบอกเขาสักคำ ยิ่งไปกว่านั้นในผลชันสูตรมีสารเสพติดในร่างกายของนุนี จนถึงวันนี้เขายังหาคำตอบไม่ได้ว่าเพราะมิณไอริณวางแผนหรืออย่างไร เช้าของอีกวันแพนธารินแปลกใจเพราะเห็นรถไม้คุ้นตาจอดอยู่ในโรงจอดรถ เขาได้ยินเสียงพูดหัวเราะกันซึ่งอีกเสียงเป็นเสียงผู้ชายเขาไม่รอช้าเดินไปกระชากประตูออกทันที ภาพที่เขาเห็นคือชายหนุ่มกล้ามโตกำลังจับโพกมิณไอริณ ท่าทางไม่น่าดูเท่าไรความหึงหวงทำให้เขาเดินไปกระชากหญิงสาวออกมา “โอ๊ยยย ทำอะไรของคุณ” “มันเป็นใคร! พามันมาเย้ยฉันถึงในบ้านเลยเหรอ” “พูดอะไรของคุณ” “แ
เพลงนารานั่งหน้าเครียดเพราะไม่ว่าจะปล่อยข่าวออกไปเช่นไร แพนธารินกลับไม่สนใจและไม่ติดต่อมา ขนาดเธอยอมโกหกว่าตัวเองท้องเขากลับนิ่งเฉย เธอรอไม่ได้ต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่อง “ไปบอกคุณแพทว่าฉันเพลงนาราต้องการพบ” เธอเข้ามาในบ้านของมิณไอริณ ครั้งหนึ่งเคยเดินเข้าออกบ้านหลังนี้ได้สบาย “ค่ะ” เพลงนารานั่งรออย่างใจเย็นเธอเห็นรถมิณไอริณจอดอยู่ในโรงรถแสดงว่าวันนี้ไม่ได้ออกไปไหน ไม่นานร่างคุ้นตาก้าวเข้ามาใกล้ “คุณไม่ยอมติดต่อเพลงเลย ฮึก คุณรู้ไหมเพลงต้องเจอกับอะไรบ้าง” ถูกสังคมตราหน้าไม่เจ็บเท่าสิ่งที่ลงทุนลงแรงมาทั้งหมดกลับไร้ค่า “คุณต้องการอะไร” “เพลงอยากให้คุณรับผิดชอบเพลงกับลูก” บรรยากาศอึมครึมเหมือนพายุที่กำลังก่อตัวขึ้น ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังร่างของแขกไม่ได้รับเชิญอย่างเย็นชา แววตาดุกร้าวเต็มไปด้วยความชิงชัง “เธอฟังฉันให้ดีนะ” เขาหยุดพูด “ตอนนี้ฉันเลือกเมีย ไม่ได้จะเลิกเมีย”คำพูดที่หนักแน่นและเฉียบขาดทำให้อีกฝ่ายหน้าชาวาบ สีหน้าแปรเปลี่ยนจากความท้าทายเป็นกระอักกระอ่วนเล็กน้อย แต่ก็ยังพยายามรักษาท่าที ทว่า นั่นไม่อาจหลบหนีจากสายตา
“ผมทำอะไรให้คุณไอริณไม่พอใจหรือเปล่าครับถึงไม่จ้างผมต่อ” เพิ่งจะมาทำงานได้ไม่ถึงสองวัน กลับโดนเลิกจ้างเสียอย่างนั้น “คุณธามคะไม่ใช่แบบนั้น...พอดีไอริณมีความจำเป็นค่ะ” หมอสั่งห้ามไม่ให้ออกกำลังกลัวว่าจะเกิดภาวะแท้งคุกคาม “แล้วเรื่องอะไรครับ” “ไอริณท้องค่ะ” “คะ...ครับ” ธามไทตกใจไหนเทวัญบอกว่าหญิงสาวกำลังหย่าสามี แล้วเอาไปเอามาทำไมถึงป่องได้ แบบนี้คงไม่หย่ากันแล้ว “ขอบคุณมากนะคะที่เสียเวลามาสอนไอริณ” “ผมยินดีครับ” แพนธารินได้ยินสิ่งที่มิณไอริณพูดเขาตัวชาวาบ มือไม้สั่นเทาเพราะความตื่นเต้น หากหญิงสาวท้องเรื่องหย่าคงไม่มีทางเป็นไปได้อีก ปัง “นายออกไปได้แล้วฉันไล่นายออก” เขารีบไล่เทนเนอร์คนนั้นไปจากบ้านทันที พอคนนอกออกไปได้แล้วเขาจึงนั่งลงข้างหญิงสาว “เรากำลังจะมีลูกด้วยกันใช่ไหม” “คุณเป็นอะไรยิ้มอะไร ดีใจเหรอ?” เธอลองใจเขาดู “แล้วถ้าตอบว่าใช่ล่ะ” เขาตอบไม่อายว่ากำลังดีใจที่มีลูกกับมิณไอริณ “....”“เธอแน่ใจใช่ไหม” เสียงของเขาแผ่วต่ำ แต่แฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง “แน่ใจอะไร” “
เสียงสั่นของโทรศัพท์ดังขึ้นในห้องมืด ร่างสูงที่นั่งอยู่บนโซฟามองมันแวบหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจแล้วกดปิดหน้าจอ มันเป็นสายที่ห้าของคืนนี้แล้ว...“รับสายสักทีเถอะว่ะ” ปลายสายบ่นพึมพำขณะยืนอยู่ใต้แสงไฟข้างถนน เสียงสัญญาณตัดไปอีกครั้ง ทำให้เขาเผลอกำโทรศัพท์แน่นขึ้นอีกฝ่ายไม่เคยเมินเฉยต่อเขาแบบนี้มาก่อนเลย...เขาสูดลมหายใจลึก แล้วตัดสินใจกดโทรออกอีกครั้ง และครั้งนี้ คนปลายสายก็รับในที่สุด“ไอ้...”“กูว่า... เราควรห่างกันสักพัก” น้ำเสียงแสนเย็นชาตอบกลับมาโดยไม่ต้องคิดอะไรเสียงนั้นเบาแผ่ว ทว่ากระแทกเข้าเต็มอกคนฟัง“หมายความว่าไง?” ภูวเรศหัวเราะเบาๆ คล้ายไม่เข้าใจ แต่หัวใจเต้นแรงราวกับจะหยุดทำงาน“ไอริณท้องและฉันอยากแก้ตัว” คำตอบที่ได้รับมาพร้อมกับเสียงถอนหายใจของอีกฝ่าย “กูต้องรับผิดชอบ กูต้องอยู่ข้างเธอ”“แกรักนางมารร้ายนั่นเหรอ?” เสียงนั้นเบาและสั่นไหว แต่ก็ชัดเจนพอจะทำให้คนฟังหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน “แกรู้ใช่ไหมเพราะอะไรฉันถึงอยากอยู่ห่าง” เพราะเหตุการณ์นั่น ทำให้เขามองภูวเรศไม่เหมือนเดิม“งั้นเหรอ...ตอนนั้นแกเกลียดไอริณจะตายแล้วทำไมตอนนี้... ช่างเถอะแกลืมไปแล้วเหรอว่าครั้งหนึ่งลูกก
หลังจากที่น้องไบรท์กับน้องแบล็คได้เข้าเรียนอนุบาลแล้ว แพนธารินก็คิดแต่ว่าชีวิตช่วงกลางวันเขาจะดีขึ้น แต่กลับไม่เป็นแบบนั้นเพราะลูกชายของเขาดันไปก่อเรื่องที่โรงเรียนเอาไว้จนเขาถูกเรียกให้ไปรับทราบพฤติกรรมของลูกชายทั้งสอง“เสร็จหรือยังคะ” เสียงของมิณไอริณดังขึ้นหลังจากเธอนั่งรอแพนธารินกับลูกสาวมาได้สักพักแล้ว“เสร็จแล้วครับ อันนี้เอาให้คุณแม่ด้วยครับ” แพนธารินส่งหน้ากากอนามัยให้กับลูกสาวเพื่อให้เจ้าหนูเอาไปให้แม่“อะไรคะเนี่ย” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างเป็นคำถาม เมื่อเห็นสิ่งที่สามีฝากลูกสาวเอามาให้เธอ“หน้ากากไงครับ”“เอามาทำอะไรคะ ไอริณไม่ได้เป็นไข้นะคะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจสามีของเธอ“พี่ไม่ได้บอกว่าไอริณเป็นไข้ แต่พี่ไม่ชอบเวลาคนอื่นมอง”“หึงเหรอคะ” มิณไอริณลุกจากเก้าอี้ตรงไปหาแพนธารินเธอจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มอย่างต้องการคำตอบ“ครับ หึง ไม่ชอบเลยเวลามีคนมอง”“ก็ไอริณสวยนิคะ”“ก็เพราะแบบนี้ไง พี่เลยไม่อยากให้เราไปไหน” แพนธารินหน้าตึงขึ้นมาทันที เวลาเขาเห็นใครมองมิณไอริณเขารู้สึกหงุดหงิดจนไม่อยากให้หญิงสาวออกไปไหน“ไม่แกล้งแล้ว เขาอยากมองก็มองไป แต่ไอริณไม่สนใจสักหน่อย น้องทิ
เช้าอันสดใสที่ใครหลายๆ คนต่างนับว่าเป็นการเริ่มต้นวันที่ดี แต่เหมือนจะไม่ใช่กับแพนธารินเขายังคงวนเวียนอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าให้กับภรรยากับลูกชายฝาแฝดชายหนุ่มใช้เวลานานนับชั่วโมงในการเตรียมอาหารก่อนขึ้นไปดูภรรยาที่ยังคงนอนหลับอยู่ซึ่งตอนนั้นเองลูกชายของเขาทั้งสองคนกลับตื่น แพนธารินตรงเข้าไปอุ้มเด็กน้อยทั้งสองขึ้นแนบอกหวังเพียงว่าทั้งคู่จะไม่ร้อง“ชู่ว์ ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวพ่อพาลงไปเล่นข้างล่าง” แพนธารินเอ่ยเปล่า เขาอุ้มลูกชายฝาแฝดลงมาจากห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับการหยอกล้ออย่างสนุกสนานชายหนุ่มทำหน้าที่เลี้ยงเด็กทั้งสองแทนผู้เป็นแม่ของพวกเขาอย่างมิณไอริณ เพราะเธอเพิ่งคลอดลูกมาได้เพียงแค่เดือนเศษ ร่างกายของหญิงสาวยังคงต้องพักผ่อนเพื่อฟื้นฟู“มาแล้ว ระวังให้ดี” เสียวหยอกล้อของพ่อลูกยังดังขึ้นเรื่อยๆ“ทำอะไรกันอยู่คะ” มิณไอริณที่แอบมองดูสามีเล่นกับลูกชายทั้งสองอย่างสนุกสนาน มาได้สักพักก็เอ่ยถาม “อ้าวไอริณมาตั้งแต่ตอนไหน” แพนธารินเดินไปประคองมิณไอริณมานั่งที่โซฟา ก่อนอุ้มลูกน้อยที่หญิงสาวอุ้มมาด้วยขึ้นแนบอก“มาทันเห็นคนโดนลูกแกล้ง” ใบหน้าสวยเอ่ยด้วยยิ้ม“งั้นเหรอครับ แล้วอยากโดน
แสงแดดส่องเข้ามาในห้องนอนแพนธารินพลิกตัวไปมาอย่างเกียจคร้าน แต่พอจะลุกแค่นั้นแหละ มีอะไรหนักๆ มาทับที่หน้าอกคิดว่าผีอำ “น้องแบล็คทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้” เขาจับลูกชายวางลงข้างกาย “เย่นๆ” เด็ดน้อยพยายามปืนป่ายขึ้นมานั่งบนหน้าอกของผู้เป็นพ่ออีกครั้ง “อืมมม พักก่อนนะลูก” เล่นปลุกเขาตั้งแต่เช้าแล้วภรรยาเขาหายไปไหนตั้งแต่เช้า แพนธารินลุกขึ้นและอุ้มลูกลงไปตามหาภรรยา ในห้องโถงได้ยินเสียงแฝดพี่ร้องไห้เสียงดัง โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังปลอบอยู่ “นายเป็นใคร! เข้ามาทำอะไรในบ้านฉัน” “เอ่อ!” ลุกกำลังจะตอบแต่คนถามไม่ยอมปล่อยโอกาสแถมยังต่อว่าเขา มิณไอริณกับเทวัญที่ได้ยินเสียงของแพนธารินจึงรีบเข้ามา “พี่แพทเสียงดังทำไมคะ? ลูกก็อยู่ด้วย” “มัน...เขาคนนี้คือใคร” ในสมองของเขาไม่เคยรู้จักหรือเคยเห็นหน้ามาก่อน แต่พอโดนดุจึงเงียบทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับสิ่งที่เกิดขึ้น “พี่ลุกแฟนพี่เทวัญค่ะ” แพนธารินจึงเงียบเพราะเหมือนว่ากำลังทำให้เมียโกรธมากขึ้น และเขาต้องเป็นฝ่ายพาตัวเองออกไปจากห้องโถงเพราะถูกเชิญออกไป “พี่แพทมีประชุมเช้านี่คะต
มิณไอริณนั่งมองลูกชายคนโตที่อยู่ในอ้อมแขนของหมอคัมภีร์ ส่วนอีกคนหลับอยู่ในรถเข็นเด็ก “คนนี้หน้าเหมือนไอริณมาก” เขาจ้องมองเด็กน้อยในอ้อมแขน ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนสุดท้ายแล้วเขากับมิณไอริณก็เป็นได้แค่พี่น้อง “พี่หมอไม่คิดจะมีบ้างเหรอคะ” “พี่จะหาแม่ของลูกมาจากไหนบ้างานขนาดนี้” “มัวแต่ทำงานระวังจะแก่ก่อนนะคะ” เขาหล่อเขารวยหน้าที่การงานก็ดี สักวันต้องมีคนที่ดีเข้ามา พี่ไม่เคยคิดเรื่องนั้นถ้ามันใช่มันใช่ไปตั้งนานแล้ว” เหมือนที่เขาตามจีบหญิงสาว สุดท้ายแล้วความดีไม่ใช่ผลตอบแทนของความรัก “ไอริณต้องกลับแล้วค่ะพ่อเด็กๆ รออยู่” เธอกล่าวลาเขา พอเดินออกมาไม่ไกลก็เห็นแพนธารินนั่งรออยู่ พร้อมกับใบหน้าบูดบึ้ง “เบื่อทำไมต้องไม่ให้พี่ตามไปด้วย” ทำเหมือนแอบคบชู้ จะโกรธก็ไม่ได้เพราะตอนนี้เมียอยู่เหนือทุกอย่าง “ไม่ทำหน้างอแบบนั้นสิคะฝากลูกหน่อยนะคะ ไอริณจะไปเดินเล่น” เธอส่งลูกให้แพนธารินรีบเดินขึ้นรถอีกคันไม่อยากให้เขาหอบลูกตามเธอไปชอปปิ้งด้วย จากมาเฟียสู่พ่อลูกอ่อนอีกมืออุ้มลูก อีกมือเข็นรถการเลี้ยงลูกมันเหนื่อยกว่าทำงานหลายเท่า
แพนธารินขอเข้าไปดูหน้าลูกด้วย ในห้องคลอดหญิงสาวก็คิดว่า เจ้าของร่างเดิมคงต้องการแบบนี้ชายหนุ่มร้องไห้เมื่อเห็นหน้าลูกเขานั่งเฝ้าลูกทั้งสองกำลังหลับปุ๋ยอยู่บนรถเข็นเปลเด็ก ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะอุ้มท้องลูกเขาถึงสองคน“แพนธวัฒน์ – แพนเมธา ชื่อเล่นน้องอะไรดีนะ” เขานั่งครุ่นคิด“ไบรท์กับแบล็ค” เธอแอบตั้งชื่อลูกไว้แล้วมีแสงสว่างก็ต้องมีความมืดมน และเธอชอบชื่อนี้มาก“ชื่อเพราะดี” เขาเอามือจิ้มแก้มของลูกทำให้เด็กน้อยร้องไห้เสียงดัง จนมิณไอริณต้องต่อว่าเขาที่ไปแกล้งลูกเป็นครั้งแรกที่เธอให้นมลูกซึ่งเด็กน้อยดูดจนเธอรู้สึกเจ็บ พออีกคนดื่มนมจนอิ่มอีกคนร้องตาม แค่คนเดียวก็ว่าหนักแล้วตอนนี้มีถึงสองคนคืนนั้นมิณไอริณฝัน เจ้าของร่างเดิมมาขอร้อง ว่าให้เธอคืนดีกับแพนธาริน เธอจะไปเกิดแล้วและอวยพรให้หญิงสาวมีความสุขแพนธารินนอนกระสับกระส่ายไปมาในความฝันของเขา เห็นผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนมิณไอริณมายืนร้องไห้ ซึ่งเขาจำได้ว่าคนนี้คือมิณไอริณตัวจริง“ไอริณมาลาพี่แพทค่ะ ชาตินี้เราจากกันแล้วรักผู้หญิงคนนั้นให้มากๆ นะคะ”“ไอริณ” น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาหาเสียงตัวเองไม่เจอ นี่เป็นครั้งแรกที่ในใจของเขาไม่ได้
ภีมกับภามนั่งเฝ้าเจ้านายอยู่เกือบสามชั่วโมง ตั้งแต่ทั้งสองทะเลาะกันเจ้านายของพวกเขากลายเป็นคนเงียบขรึม ตามง้อภรรยาแต่เหมือนนายหญิงจะไม่ยอมยกโทษให้ง่ายๆ แพนธารินนั่งฟังคุณครูสอนอย่างตั้งอกตั้งใจ วันนี้เขาเข้าคอร์สเรียนการเลี้ยงลูก ทั้งสองเรียนมีเขาที่เป็นผู้ชายเพียงคนเดียว ชวนมิณไอริณมาแล้วแต่รายนั้นยังโกรธเขาอยู่ เขารู้สึกผิดที่ทำให้หญิงสาวเกือบเสียลูกไป จะโกรธเขาก็ไม่แปลก “คุณแพทฟังอีกรอบนะคะเวลาลูกอาเจียนเราต้องลูบหลังเบาๆ แบบนี้ค่ะ” คุณครูสาธิตให้เขาดูก่อน และลองให้เขาทำ “แบบนี้เหรอครับ” เขาทำตามที่คุณครูสอนทุกอย่าง“ใช่ค่ะเบาๆ นะคะ” ขนาดตุ๊กตายังทำแรงขนาดนี้ ถ้าเป็นคนจริงๆ น่าจะเหลือแค่ชื่อแพนธารินค่อยๆ ลูบหลังตุ๊กตาเด็กแต่เขาน่าจะลงแรงไปเยอะ ลูบไปลูบมาหัวตุ๊กตาหลุดร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น ทำให้ทุกคนหัวเราะเสียงดัง“เบาๆ สิคะ”“ผมขอเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ”คุณครูจึงพามาสอนเรื่องการอาบน้ำให้เด็กแรกเกิด แพนธารินทำตามทุกอย่างเช่นเดิม แต่เหมือนจะหนักมืออีกเพราะตุ๊กตาเด็กคว่ำหน้าจมน้ำไปต่อหน้าต่อหน้า“กูไม่เรียนแล้ว” เขาเดินออกมาทันทีพร้อมใบหน้าที่
มิณไอริณนอนอยู่บนเตียงกว้างเธออ่านข่าวของเพลงนารากับภูวเรศ คำสารภาพของชายหนุ่มทำให้มิณไอริณต้องช็อกอีกรอบ เรื่องที่เกิดขึ้นกับเพลงนาราเขาเป็นคนทำทั้งหมด และเป็นคนสั่งเก็บเพลงนารา “เวรกรรมโรคจิตมาก” ถ้าวันนั้นพวกมันทำกับมิณไอริณสำเร็จไม่อยากจะคิดเลย ว่าต่อจากนั้นชีวิตของหญิงสาวจะเป็นอย่างไรต่อ “ว้าย...คุณเข้ามาทำอะไร!” เธอมองหน้าคนที่บุกเข้ามาในห้องนอน “คืนนั้นบอกจะนอนกับฉันแต่ทำไมล็อกห้องหนีล่ะ” แต่งงานกันมาตั้งนานเพิ่งได้ร่วมเตียงกันแค่ไม่กี่ครั้ง คืนนั้นก็ชิงหนีเขาก่อน เจ้าเล่ห์เหลือคณาปล่อยให้เขาแห้งเหี่ยว “ไอริณแค่พูดลอยๆ” “คืนนี้ต้องเข้าไปทักทายลูก” ทำเลื่อนมือเข้าไปใต้ร่มผ้า “พอ...หยุด! ผู้ชายสำส่อนแบบคุณควรอยู่คนเดียว” “แรงมาก จะบอกให้นะทุกอย่างแค่ละครฉากหนึ่ง” “อะไร!” งงละครอะไร “ที่ผ่านมาฉันเคยนอนกับใครเสียที่ไหนกันเล่า” เขาไม่ใช่คนชั่วมั่วไม่เลิกเสียหน่อยไม่มีนิสัยแบบนั้น คนไม่รักษาศีลข้อความชีวิตไม่ตายดี “คุณแพท” ที่ผ่านมาเขาหลอกมิณไอริณมาตลอด “ฉันจ้างพวกหล่อนมาเล่นละครเพ
แพนธารินได้หลักฐานจากสารวัตร และทีมสืบสวน จนได้รู้ผู้บงการตัดสายเบรกของเขา ภูวเรศนั่นเองเขามาก แต่เทวัญก็ปลอบใจ “นายไม่รู้จริงเหรอว่าไอ้ภูวเรศมันแอบรักนาย” “หมายถึงอะไร?” แพนธารินทำหน้างุนงงแอบรักแบบไหน “มันเป็นเกย์และหวังจะเอานายไง” เรื่องที่เพื่อนเกย์เขารับได้แต่เรื่องที่จะฟันเขา คิดดูแล้วยังมองหาความเป็นจริงไม่เจอเพราะภูวเรศไม่เคยแสดงออกเลย “แต่ไอ้ภู...” “นายดูคลิปนี้ซะ” แพนธารินเห็นคลิปที่ภูวเรศอมกระสวย เขาถึงกับรับไม่ได้ เขากับภูวเรศมันมีอะไรที่มากกว่านั้น ทั้งเปลือยกาย อาบน้ำด้วยกัน เพราะเรียนกันมาตั้งแต่อนุบาล “อย่าไปหามันเลยมันคงไม่กล้าสู้หน้าปล่อยให้ตำรวจจัดการเถอะ เรื่องของคุณนุนีฟังคลิปเอาแล้วกัน” เทวัญสะเทือนใจจนไม่สามารถพูดออกมาได้ ภูวเรศไม่ยอมให้แพนธารินมาเยี่ยม เพราะไม่กล้าสู้หน้า แต่คำสารภาพก็ทำให้แพนธารินเจ็บปวดคือ รักมาก และเมื่อไม่ได้ครอบครองก็อยากฆ่าให้ตาย “เรื่องของนุนีทั้งหมดเป็นกูทำเอง” ภูวเรศอัดคลิปสารภาพเรื่องราวทั้งหมด แพนธารินมือไม้สั่นเพราะภูวเรศเล่าตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้
เสียงเคาะประตูดังขึ้นถี่ๆ ตามด้วยเสียงเข้มของเจ้าหน้าที่ตำรวจ“คุณเพลงนาราเปิดประตูเดี๋ยวนี้ นี่คือหมายจับของคุณในข้อหาพยายามฆ่า!”ภายในคอนโดหรูกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียดเพลง นารานั่งนิ่งอยู่กลางห้อง ดวงตาเบิกโพลง ริมฝีปากแห้งผาก เธอรู้ดีว่าวันนี้ต้องมาถึง แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้“ไม่... ไม่จริง” เธอพึมพำกับตัวเอง น้ำเสียงสั่นเครือเสียงเคาะประตูดังขึ้นแรงกว่าเดิม ก่อนที่ประตูจะถูกพังเข้ามา ตำรวจหลายนายกรูกันเข้ามาภายในห้องนอน พร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่เธอรู้จักดี เขายืนอยู่ด้านหลังตำรวจ สีหน้าเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยความสะใจ“มอบตัวซะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แต่กลับเป็นเหมือนเสียงฟ้าผ่ากลางใจเธอสั่นไปทั้งตัว ก่อนจะกรีดร้องสุดเสียง“ไม่! พวกแกโกหก! ฉันไม่ได้ทำ! ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น!!”เธอถอยกรูดไปจนหลังชนกำแพง มือทั้งสองขยุ้มผมตัวเองราวกับอยากฉีกศีรษะให้ขาดจากร่าง ดวงตาวาวโรจน์ไปด้วยความบ้าคลั่ง“เขาใส่ร้ายฉัน! พวกแกมันโกหก!!”เธอกรีดร้องลั่น ก่อนจะคว้าข้าวของขว้างปาใส่ตำรวจที่กำลังเข้ามาประชิดตัว ขวดแก้วแตกกระจายบนพื้น โต๊ะล้มระเนระนาด แต่ไม่มีอะไรสามารถหยุดเจ้าหน้าที่ที่ก