วันนี้แพนธารินยังขังมิณไอริณไม่ให้หนีไปไหน เขาใส่กุญแจล็อกข้างนอก มาสั่งแม่บ้านทำอาหารโปรดของหญิงสาวทั้งหมด แล้วเขาเอาไปเสิร์ฟเอง
“มากินข้าวสิ”
“คุณจะปล่อยฉันได้หรือยัง ฉันไม่ใช่นักโทษนะที่คุณจะขังฉันไว้”
“แทนตัวเองแบบเดิมสิไอริณ”
“ทำไมฉันต้องทำแบบเดิม” เธอไม่ใช่คนเดิมและไม่อยากทำอะไรเหมือนเดิม
“เผื่อฉันอารมณ์ดีจะได้ปล่อยเธอไง” หญิงสาวมีมุมน่ารักไม่น้อย ทำไมเมื่อก่อนเขาถึงไม่สังเกต แววตาที่ซุกซนนั้นเขาเพิ่งจ้องดวงตาเธอครั้งแรก
“ฉะ…ไอริณหิวแล้ว” ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงเห็นอาหารตรงหน้ามากมาย เธอหิวจึงนั่งทานอาหารเงียบโดยมีเข้านั่งเฝ้าไม่ห่าง
แพนธารินจ้องมองมิณไอริณเขาพิจารณาใบหน้าดวงตาก็เป็นหญิงสาวคนเดิม ทำไมนิสัยถึงได้เปลี่ยนไปแบบชีวิตนี้ไม่เอาอะไรแล้ว
“ไอริณอยากได้ยา”
“ยา? เธอป่วยเหรอ” เขากำลังกดโทรหาแม่บ้านให้เอายามาให้
“ยาคุมฉุกเฉินไอริณต้องกินยา” เธอไม่ต้องการให้ลูกเกิดมา โดยพ่อแม่เกลียดขี้หน้ากันหากเขาเกิดมาเวลานี้ทุกอย่างต้องแย่ลง
“เธอไม่อยากมีลูกกับฉันเหรอ!” ไม่รู้ต้องอึ้งอะไรก่อนดี ทั้งขอหย่าทั้งไม่อยากมีลูกกับเขาทั้งที่เราก็เป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย
“เด็กคนหนึ่งเกิดมาต้องมีปมพ่อแม่แยกทางไอริณสงสารลูก” การที่พ่อแม่ไม่พร้อมเลี้ยงดู คนที่เกิดมาต้องมารับกรรมแทนอย่างเช่นชีวิตของเธอ
“อยากจะทำอะไรก็ตามใจ!” แพนธารินไม่พอใจเมื่อหญิงสาวไม่ต้องมีลูกกับเขา เป็นแบบนั้นดีแล้วเขาจะกระวนกระวายใจทำไม
“หย่ากับฉันเถอะ”
“เธอนี่มันใจง่ายดีนะเอาแต่ใจ”
“ฉันหมดรักคุณแล้ว” เธอพูดคำนี้จนเหนื่อย แต่การพูดครั้งนี้มันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด
“เลิกคิดแล้วเรื่องหย่า จะอยู่ให้ทรมานกันไปแบบนี้แหละ” แพนธารินเดินปึงปังออกไป เขาอยากจับตัวหญิงสาวเขย่าถามให้รู้แล้วรู้รอดว่าเพราะถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้
“คุณเทวัญขอพบคุณไอริณค่ะ”
“ไปบอกมันว่าเมียฉันไม่รับแขก”
ป้าแจ่มยิ้มเขินพูดว่าเมียได้เต็มปากเต็มปาก เมื่อก่อนแถมจะฆ่ากันทุกเวลา เวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงใกล้เข้ามาแล้ว
“เดี๋ยว ถ้าไอ้เทวัญมันถามบอกว่าผัวเมียเขาเล่นเกมผัวเมียกันอย่าเข้ามายุ่ง”
“จะไม่ให้ยุ่งได้ยังไงนั่นน้องสาวฉัน” ที่เขาติดต่อมิณไอริณไม่ได้เพราะมันนี่เอง แสดงว่ามันขังหญิงสาวไว้เขาไม่ยอมให้แพนธารินทำอะไรกับน้องสาวเขา
“มาทำไม”
“นายขังไอริณไว้ใช่ไหม!”
“ก็บอกว่าผัวเมียเขาเล่นกันมึงเสือกอะไรด้วย” เริ่มทนไม่ไหวแล้วมาถามหาเมียคนอื่นถึงบ้าน มันไม่อายเลยหรือไง
“ไอ้แพท!”
“มาหาเมียคนอื่นถึงบ้านไม่อายหรือไงวะ ใครอยู่แถวนี้ส่งแขกด้วย!”
เดี๋ยวหมอเดี๋ยวไอ้เทวัญเสน่ห์แรงเกินไปแล้ว ขังไว้แบบนั้นจะได้ไม่ต้องไปอ่อยผู้ชายคนไหนอีก เขาหงุดหงิดทั้งวันเพราะในหัวมีแต่เรื่องมิณไอริณ
มิณไอริณโกรธเขาแต่ทำอะไรไม่ได้เมื่อเขาประกาศไม่ยอมหย่า คงบังคับเขาไม่ได้คงเหลือวิธีเดียว
หญิงสาวนั่งๆ นอนๆ อยู่แต่ในบ้านรู้สึกเบื่อจึงออกมาเดินเล่น วันนี้เขาไม่ได้ขังเธอไว้ในห้องแล้วแต่ขังเธอไว้ในบริเวณบ้านแทน
“ช่วงนี้เพลงนารากับภูวเรศเงียบหายไปเลยหรือวางแผนคิดจะทำอะไรอยู่”
“คุณหนูค่ะแดดเริ่มร้อนแล้วเข้าบ้านดีกว่าค่ะ”
“ป้าแจ่มไอริณยืมมือถือหน่อยค่ะ” ผู้ชายบ้าคนนั้นยึดมือถือเธอไป แล้วยังขังเธอไว้ไม่ยอมให้ออกไปเจอหน้าผู้คน
มิณไอริณต่อสายหาเทวัญถามเรื่องความคืบหน้าแต่ต้องผิดหวังอีกครั้ง เพราะยังตามหาตัวคนร้ายไม่เจอ
“พี่เทวัญช่วยเตรียมทนายให้ไอริณหน่อยค่ะ ไอริณต้องการฟ้องหย่า” ในเมื่อพูดดีๆ ไม่ฟังเธอต้องทำแบบนั้นเพื่อปกป้องหัวใจตัวเอง
“คุยกับชู้ที่ไหนอ้อนวอนให้มันมาช่วยหรือไง!”
เผลอไม่ได้เลยมีผู้ชายเข้ามาวุ่นวายเขาคว้าเอวบางเข้ามาปะทะหน้าอกของตัวเอง และอุ้มหญิงสาวเดินหายเข้าไปในห้องนอน
มิณไอริณดิ้นเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการของเขา เธอไม่ต้องการตกเป็นเบี้ยล่างของเขาอีก เธอทั้งจิกทั้งข่วนเพื่อให้เขาปล่อย
“ปล่อยฉันนะคุณแพท”
“หึ ที่อยากหย่าเพราะจะไปหามันใช่ไหมไอริณ! ฉันไม่ปล่อยเธอไปเด็ดขาดและไม่หย่าด้วย”
มิณไอริณก็ไม่พูดอะไร ใช่วิธีเงียบดีกว่าพูดมาก คนก็รู้ความคิดของตัวเองหมด ปล่อยให้เขาเป็นบ้าอยู่คนเดียว
“เงียบทำไมเธอยอมรับแล้วใช่ไหม”
“คุณแพทคุณจะเอายังไงฉันเงียบคุณก็หาว่าฉันยอมรับ พอฉันเถียงคุณก็ว่าฉันร้อนตัวคุณคิดเองเออเองแบบนั้นจะมาถามฉันทำไม ในเมื่อตัดสินว่าฉันไม่ได้”
ไม่มีอะไรดีในสายตาเขาเลยหรือมิณไอริณรักเขาเสียขนาดนั้น แต่อย่างว่าความดีไม่ใช่ความรักคนจะรักยืนเฉยๆ เขาก็รัก
“ก็เธอไม่มีอะไรดีสำหรับฉัน ฉันจะทรมานเธอไปวันตาย” ดวงตาเขาดุร้ายเขาผลักหญิงสาวล้มลงบนเตียงกว้าง แล้วทิ้งน้ำหนักตัวลง ใบหน้าทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก
“จะทำอะไร!”
“เอาเธอไง” เขาบีบแก้มเธอแน่นและจูบลงมาด้วยความเร่าร้อน บังคับให้เธอเปิดปากให้เขาล่วงล้ำเข้าไปในโพรงปาก แต่หญิงสาวไม่ยอมกัดลิ้นของเขา
“โอ๊ยยย ไอริณ”
“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” เธอกลัวว่าเขาจะทำอะไรรุนแรงไปมากกว่านี้ ครั้งก่อนยังเจ็บไม่หาย
“หวงไว้เก็บไว้ให้มันเชยชมหรือไง” เขาควบคุมอารมณ์ตัวเองแล้ว แต่มิณไอริณยั่วยวนเขา
“โอ๊ย ฮึก~ ฉันยังเจ็บอย่าทำอะไรเลย” เธอร้องไห้เพราะความตื่นตระหนก ร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสารผู้หญิงตัวเล็กจะสู้แรงเขาได้อย่างไร
ทำให้เขาสงสารและหยุด แพนธารินมองใบหน้าที่มีน้ำตาเปรอะเปื้อน เขาเอื้อมจะเช็ดน้ำตาให้แต่เธอกลับปัดมือเขาออก
แพนธารินลุกขึ้นเขาเดินออกมาแต่หยุดหันไปมองมิณไอริณอีกครั้ง เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกผิดและอยากไถ่โทษสิ่งที่ทำไว้
“ฉันขอโทษ” และออกไปจากห้อง
แพนธารินทำดีเพื่อไถ่โทษทั้งป้อนข้าวป้อนยา แต่มิณไอริณไม่ต้องการ แต่ก็เหมือนคนบ้า เพราะร่างนี้อ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ
“ต้องทำยังไงเราถึงจะกลับมาแข็งแรงมิณไอริณร่างกายอ่อนแอมาก” เธอจึงคิดว่า “ฉันจะออกกำลังกาย แล้วจะกลับไปเป็นวีริณที่ปีนต้นไม้ได้เหมือนลิง และวิ่งรอกเหมือนทำงานสองสามที่แบบไม่ตาย ไม่เหนื่อย ไม่ล่า”
ผ่านมานานแล้วที่เจ้าของร่างจากไปแต่ยังไม่มีวี่แววของคนที่ผลักหญิงสาวตกน้ำ ไม่ว่าจะตามหาก็ไม่ทิ้งร่องรอยไว้ หรือจะเป็นแพนธารินจริงๆ
ยังจ้างคนไปข่มขืนเมียตัวเองได้ลงคอแค่ฆ่าปิดปากหญิงสาวคงไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับเขา เธอต้องอยู่ให้ห่างจากเขา และรีบตามสืบหาความจริง
“เขาไปไหนแล้ว”
“คุณแพทบอกจะออกไปหาเพื่อนค่ะ”
“คงออกไปหาเพลงนารา”
หญิงร้ายชายชั่วจิตใจทำด้วยอะไรถึงได้กล้าทำแบบนั้น เพลงนาราชอบผู้ชายที่มีภรรยาฐานะทางสังคมก็แทบเท่ามิณไอริณแต่นิสัยไม่ต้องพูดถึง
หญิงสาวทั้งจ้างนักสืบ และขอให้เทวัญช่วย ในเรื่องการสืบหาความจริงเกี่ยวกับชีวิตของมิณไอริณคนเดิม และคนร้ายที่ผลักหญิงสาวตกน้ำ หากเป็นแพนธารินเขาต้องทิ้งหลักฐานไว้บ้าง แต่ไม่อาจทิ้งความสงสัยได้เขาคือคนที่น่าสงสัยที่สุด “หรือจะเป็นคนใกล้ตัวมากๆ” เทวัญคิดวิเคราะห์เขาฟันธงว่าต้องเป็นแพนธาริน “...” เธอคิดได้อีกหนึ่งคนคือเพลงนาราก็มีความเป็นไปได้เพราะหญิงสาวชอบแพนธาริน อาจจะอยากกำจัดมิณไอริณให้พ้นทาง เทวัญใช้สกิลมีกิ๊กและคู่ขาเป็นตำรวจ จึงวิ่งหากล้องวงจรปิดที่ใกล้จุดที่มิณไอริณ บอกว่าถูกถีบตกลงไปและแนะนำให้หญิงสาวรู้จักกับตำรวจเพื่อนสนิทที่บางทีก็ลำตัวประสานกัน ชื่อว่าสารวัตรธันวา ซึ่งเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ และสารวัตรธันวาก็ได้ค้นพบว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับอุบัติเหตุของมิณไอริณมิณไอริณนั่งดูผลงานและความชั่วร้ายของสามีในอดีตที่ผ่านมา เธอให้อภัยเขาไม่ได้แน่ๆ ภาพในโรงแรมหรูคืนนั้นที่เขากับเพลงนาราหายเข้าไปในห้องนอนด้วยกันและออกมาอีกทีตอนเช้าอีกวัน“เพลงนารานี่มันจริงๆ เลย”“...”พอเห็นคลิปเต็มตาทำให้เธอรู้สึกปวดที่หัวใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำแบบน
แพนธารินนั่งคุยกับลูกค้าที่ร้านอาหารชื่อดัง ในระหว่างที่กำลังทานอาหารกันกลับมีบุคคลที่ไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามาทักทายเขา “คุณแพทจะมาทานข้าวไม่บอกกันเลยนะคะ” เพลงนาราถือวิสาสะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างกายเขา พร้อมกับส่งยิ้มทักทายลูกค้าของเขา ทำเหมือนว่าตัวเองเป็นภรรยาตัวจริงของแพนธาริน “ผมขอตัวสักครู่นะครับคุณลีโอ” เขาลากเพลงนาราออกมาด้านนอกร้านพร้อมต่อว่าหญิงสาวที่ทำตัวไม่มีมารยาทกับเขา “ผมคุยกับลูกค้าอยู่ทำตัวไม่มีใครสั่งใครสอน และอย่าแสดงความเป็นเจ้าของ” เขาเคยเตือนไปหลายครั้งแล้วแต่เหมือนหญิงสาวไม่สนใจ “เพลงคิดถึงคุณนะคะ” “ผมให้เงินคุณไปตั้งเยอะมันไม่พอใช้หรือไง” “ประจำเดือนเพลงยังไม่มาเลยค่ะ” เพลงนาราพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ หากพลาดท้องขึ้นมาอย่างไรแล้วเขาต้องรับผิดชอบเธอ “...” เขานิ่งเงียบกำลังใช้สมาธิ “ถ้าเพลงท้องคุณไม่รักเพลงไม่ว่าแต่รักลูกของเราบ้างได้ไหม” มิณไอริณที่บังเอิญผ่านมาและได้ยินประโยคนั้นถึงกับช็อกไปชั่วขณะ แพนธารินต้องทำถึงขนาดนั้นเลยหรือแล้วเพลงนารายังจะปล่อยท้องเพื่อจับเขา ดีเลยเธอจะได้เขาข้อ
เพลงนาราพยายามติดต่อเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่กลับไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากแพนธารินเลย จนทำให้เธอไม่สามารถหาทางออกได้ในการจ่ายค่าฟ้องที่ยังค้างอยู่...ราคาที่ต้องจ่ายนั้นแพงคนแบบเธอไม่มีปัญญาจ่ายสุดท้ายเพลงนาราที่อยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่สุดๆ ก็ได้ตัดสินใจปล่อยข่าวลือที่ไม่เป็นความจริงออกไป โดยบอกว่าเธอกำลังตั้งท้อง เพื่อให้ทุกคนเห็นใจและดึงความสนใจจากสังคมกลับมาหาตัวเองข่าวนี้แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้ทุกคนเริ่มตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ระหว่างเธอกับสามีของมิณไอริณก่อนที่เพื่อนสาวจะออกมาเปิดเผยว่า“เพลงท้องกับคุณแพทจริงๆ และตอนนี้เขาทิ้งเพลงไปแล้ว!”“ลูกคุณหนูที่ดูดีภายนอก แต่กลับทิ้งเพลงให้เป็นคนที่ถูกทอดทิ้งมิณไอริณทำให้ลูกของเพลงไม่มีพ่อ” เธอกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อที่มารุมล้อมในขณะที่ข่าวนี้กำลังแรงขึ้นเรื่อยๆ มิณไอริณกลับได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากการสัมภาษณ์ของเพื่อนสนิทผ่านโทรทัศน์ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตกใจและความเจ็บปวด “เธอต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ?”“น่ารังเกียจจริงๆ” เทวัญปิดทีวีเขาเห็นอกเห็นใจน้องสาวสุดที่รักที่ต้องเจอคนไม่จริงใจ“เวรกรรมกำลังทำงานเพลงนาราพยายา
แพนธารินนั่งดื่มตามลำพังทำให้เขาคิดถึงผู้หญิงที่เขารัก หากไม่มีมิณไอริณเข้ามาในชีวิตเขากับนุนีคงได้แต่งงานใช้ชีวิตอย่างมีความสุข นุนีประสบอุบัติเสียชีวิตในที่เกิดขึ้น ข้อความสุดท้ายมีคนส่งภาพถ่ายของเขากับมิณไอริณที่นอนอยู่ด้วยกันบนเตียง ตอนนั้นเขากับนุนียังไม่ตกลงเป็นแฟนกันทุกอย่างกำลังไปได้ดี แต่ทุกอย่างกลับพังเพราะนางร้ายอย่างมิณไอริณ และที่เขาเสียใจมากกว่านั้นคือนุนีกำลังตั้งท้องลูกอ่อนๆ หญิงสาวจากไปพร้อมลูกในท้อง ทำให้เขาแปลกใจว่าทำไมถึงไม่ยอมบอกเขาสักคำ ยิ่งไปกว่านั้นในผลชันสูตรมีสารเสพติดในร่างกายของนุนี จนถึงวันนี้เขายังหาคำตอบไม่ได้ว่าเพราะมิณไอริณวางแผนหรืออย่างไร เช้าของอีกวันแพนธารินแปลกใจเพราะเห็นรถไม้คุ้นตาจอดอยู่ในโรงจอดรถ เขาได้ยินเสียงพูดหัวเราะกันซึ่งอีกเสียงเป็นเสียงผู้ชายเขาไม่รอช้าเดินไปกระชากประตูออกทันที ภาพที่เขาเห็นคือชายหนุ่มกล้ามโตกำลังจับโพกมิณไอริณ ท่าทางไม่น่าดูเท่าไรความหึงหวงทำให้เขาเดินไปกระชากหญิงสาวออกมา “โอ๊ยยย ทำอะไรของคุณ” “มันเป็นใคร! พามันมาเย้ยฉันถึงในบ้านเลยเหรอ” “พูดอะไรของคุณ” “แ
เพลงนารานั่งหน้าเครียดเพราะไม่ว่าจะปล่อยข่าวออกไปเช่นไร แพนธารินกลับไม่สนใจและไม่ติดต่อมา ขนาดเธอยอมโกหกว่าตัวเองท้องเขากลับนิ่งเฉย เธอรอไม่ได้ต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่อง “ไปบอกคุณแพทว่าฉันเพลงนาราต้องการพบ” เธอเข้ามาในบ้านของมิณไอริณ ครั้งหนึ่งเคยเดินเข้าออกบ้านหลังนี้ได้สบาย “ค่ะ” เพลงนารานั่งรออย่างใจเย็นเธอเห็นรถมิณไอริณจอดอยู่ในโรงรถแสดงว่าวันนี้ไม่ได้ออกไปไหน ไม่นานร่างคุ้นตาก้าวเข้ามาใกล้ “คุณไม่ยอมติดต่อเพลงเลย ฮึก คุณรู้ไหมเพลงต้องเจอกับอะไรบ้าง” ถูกสังคมตราหน้าไม่เจ็บเท่าสิ่งที่ลงทุนลงแรงมาทั้งหมดกลับไร้ค่า “คุณต้องการอะไร” “เพลงอยากให้คุณรับผิดชอบเพลงกับลูก” บรรยากาศอึมครึมเหมือนพายุที่กำลังก่อตัวขึ้น ดวงตาของเขาจับจ้องไปยังร่างของแขกไม่ได้รับเชิญอย่างเย็นชา แววตาดุกร้าวเต็มไปด้วยความชิงชัง “เธอฟังฉันให้ดีนะ” เขาหยุดพูด “ตอนนี้ฉันเลือกเมีย ไม่ได้จะเลิกเมีย”คำพูดที่หนักแน่นและเฉียบขาดทำให้อีกฝ่ายหน้าชาวาบ สีหน้าแปรเปลี่ยนจากความท้าทายเป็นกระอักกระอ่วนเล็กน้อย แต่ก็ยังพยายามรักษาท่าที ทว่า นั่นไม่อาจหลบหนีจากสายตา
“ผมทำอะไรให้คุณไอริณไม่พอใจหรือเปล่าครับถึงไม่จ้างผมต่อ” เพิ่งจะมาทำงานได้ไม่ถึงสองวัน กลับโดนเลิกจ้างเสียอย่างนั้น “คุณธามคะไม่ใช่แบบนั้น...พอดีไอริณมีความจำเป็นค่ะ” หมอสั่งห้ามไม่ให้ออกกำลังกลัวว่าจะเกิดภาวะแท้งคุกคาม “แล้วเรื่องอะไรครับ” “ไอริณท้องค่ะ” “คะ...ครับ” ธามไทตกใจไหนเทวัญบอกว่าหญิงสาวกำลังหย่าสามี แล้วเอาไปเอามาทำไมถึงป่องได้ แบบนี้คงไม่หย่ากันแล้ว “ขอบคุณมากนะคะที่เสียเวลามาสอนไอริณ” “ผมยินดีครับ” แพนธารินได้ยินสิ่งที่มิณไอริณพูดเขาตัวชาวาบ มือไม้สั่นเทาเพราะความตื่นเต้น หากหญิงสาวท้องเรื่องหย่าคงไม่มีทางเป็นไปได้อีก ปัง “นายออกไปได้แล้วฉันไล่นายออก” เขารีบไล่เทนเนอร์คนนั้นไปจากบ้านทันที พอคนนอกออกไปได้แล้วเขาจึงนั่งลงข้างหญิงสาว “เรากำลังจะมีลูกด้วยกันใช่ไหม” “คุณเป็นอะไรยิ้มอะไร ดีใจเหรอ?” เธอลองใจเขาดู “แล้วถ้าตอบว่าใช่ล่ะ” เขาตอบไม่อายว่ากำลังดีใจที่มีลูกกับมิณไอริณ “....”“เธอแน่ใจใช่ไหม” เสียงของเขาแผ่วต่ำ แต่แฝงไปด้วยความหมายลึกซึ้ง “แน่ใจอะไร” “
เสียงสั่นของโทรศัพท์ดังขึ้นในห้องมืด ร่างสูงที่นั่งอยู่บนโซฟามองมันแวบหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจแล้วกดปิดหน้าจอ มันเป็นสายที่ห้าของคืนนี้แล้ว...“รับสายสักทีเถอะว่ะ” ปลายสายบ่นพึมพำขณะยืนอยู่ใต้แสงไฟข้างถนน เสียงสัญญาณตัดไปอีกครั้ง ทำให้เขาเผลอกำโทรศัพท์แน่นขึ้นอีกฝ่ายไม่เคยเมินเฉยต่อเขาแบบนี้มาก่อนเลย...เขาสูดลมหายใจลึก แล้วตัดสินใจกดโทรออกอีกครั้ง และครั้งนี้ คนปลายสายก็รับในที่สุด“ไอ้...”“กูว่า... เราควรห่างกันสักพัก” น้ำเสียงแสนเย็นชาตอบกลับมาโดยไม่ต้องคิดอะไรเสียงนั้นเบาแผ่ว ทว่ากระแทกเข้าเต็มอกคนฟัง“หมายความว่าไง?” ภูวเรศหัวเราะเบาๆ คล้ายไม่เข้าใจ แต่หัวใจเต้นแรงราวกับจะหยุดทำงาน“ไอริณท้องและฉันอยากแก้ตัว” คำตอบที่ได้รับมาพร้อมกับเสียงถอนหายใจของอีกฝ่าย “กูต้องรับผิดชอบ กูต้องอยู่ข้างเธอ”“แกรักนางมารร้ายนั่นเหรอ?” เสียงนั้นเบาและสั่นไหว แต่ก็ชัดเจนพอจะทำให้คนฟังหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน “แกรู้ใช่ไหมเพราะอะไรฉันถึงอยากอยู่ห่าง” เพราะเหตุการณ์นั่น ทำให้เขามองภูวเรศไม่เหมือนเดิม“งั้นเหรอ...ตอนนั้นแกเกลียดไอริณจะตายแล้วทำไมตอนนี้... ช่างเถอะแกลืมไปแล้วเหรอว่าครั้งหนึ่งลูกก
สองวันที่ชีวิตเงียบเหงาเพราะแพนธารินไปดูงานแทนผู้เป็นพ่อ ตอนอยู่กับเขาแม้ปากบอกจะรำคาญแต่พอห่างกันเธอกลับรู้สึกอ้างว้าง “คิดถึงฉันอยู่ละสิ” ปลายสายพูดเหมือนเห็นทุกอย่าง “โทรมาทำไม” เธอดีใจจนเก็บอาการตื่นเต้นไว้ไม่อยู่ “อย่าลืมกินยาด้วยนะเดี๋ยวลูกไม่แข็งแรง” “รู้หรอกน่า” พูดเหมือนเธออายุน้อยไม่รู้ความ “ฉันต้องวางแล้วอีก 2 วันกลับคิดถึงเอน่ะ”มิณไอริณรีบกดวางสายเพราะตอนนี้หัวใจของเธอเต้นแรงจนจะทะลุออกมาข้างนอก ยอมรับว่าตกหลุมรักพ่อของลูกเข้าแล้ว“คุณหนูคะคุณเทวัญมาขอพบค่ะ”“ค่ะ” แสดงว่ามีความคืบหน้าทางคดีเทวัญต้องมาขอพบ แต่แปลกใจว่าทำไมสารวัตรธันวาต้องมาด้วย สีหน้าเคร่งเครียดทำให้เธอเริ่มรู้สึกไม่ดี“มีอะไรหน้าเครียดจังเลยคะ”“ผมได้ข่าวมา...” เขาเว้นจังหวะการพูด “คนอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดคือภูวเรศรวมถึงคดีของคุณนุนี”สารวัตรธันวาที่กำลังมีสายคนหนึ่ง ซึ่งก็ได้รับการติดต่อมาจากภูวเรศให้กำจัดแพนธาริน เขาจึงเอาเรื่องนี้มาบอกมิณไอริณ“เขาเกี่ยวอะไรกับคนที่ชื่อนุนี”ไม่เห็นถึงความเชื่อมโยงกัน“ภูวเรศให้คนมาข่มเหงคุณนุนีจนตั้งท้อง และจัดฉากว่ารถประสบอ
หลังจากที่น้องไบรท์กับน้องแบล็คได้เข้าเรียนอนุบาลแล้ว แพนธารินก็คิดแต่ว่าชีวิตช่วงกลางวันเขาจะดีขึ้น แต่กลับไม่เป็นแบบนั้นเพราะลูกชายของเขาดันไปก่อเรื่องที่โรงเรียนเอาไว้จนเขาถูกเรียกให้ไปรับทราบพฤติกรรมของลูกชายทั้งสอง“เสร็จหรือยังคะ” เสียงของมิณไอริณดังขึ้นหลังจากเธอนั่งรอแพนธารินกับลูกสาวมาได้สักพักแล้ว“เสร็จแล้วครับ อันนี้เอาให้คุณแม่ด้วยครับ” แพนธารินส่งหน้ากากอนามัยให้กับลูกสาวเพื่อให้เจ้าหนูเอาไปให้แม่“อะไรคะเนี่ย” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างเป็นคำถาม เมื่อเห็นสิ่งที่สามีฝากลูกสาวเอามาให้เธอ“หน้ากากไงครับ”“เอามาทำอะไรคะ ไอริณไม่ได้เป็นไข้นะคะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจสามีของเธอ“พี่ไม่ได้บอกว่าไอริณเป็นไข้ แต่พี่ไม่ชอบเวลาคนอื่นมอง”“หึงเหรอคะ” มิณไอริณลุกจากเก้าอี้ตรงไปหาแพนธารินเธอจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มอย่างต้องการคำตอบ“ครับ หึง ไม่ชอบเลยเวลามีคนมอง”“ก็ไอริณสวยนิคะ”“ก็เพราะแบบนี้ไง พี่เลยไม่อยากให้เราไปไหน” แพนธารินหน้าตึงขึ้นมาทันที เวลาเขาเห็นใครมองมิณไอริณเขารู้สึกหงุดหงิดจนไม่อยากให้หญิงสาวออกไปไหน“ไม่แกล้งแล้ว เขาอยากมองก็มองไป แต่ไอริณไม่สนใจสักหน่อย น้องทิ
เช้าอันสดใสที่ใครหลายๆ คนต่างนับว่าเป็นการเริ่มต้นวันที่ดี แต่เหมือนจะไม่ใช่กับแพนธารินเขายังคงวนเวียนอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าให้กับภรรยากับลูกชายฝาแฝดชายหนุ่มใช้เวลานานนับชั่วโมงในการเตรียมอาหารก่อนขึ้นไปดูภรรยาที่ยังคงนอนหลับอยู่ซึ่งตอนนั้นเองลูกชายของเขาทั้งสองคนกลับตื่น แพนธารินตรงเข้าไปอุ้มเด็กน้อยทั้งสองขึ้นแนบอกหวังเพียงว่าทั้งคู่จะไม่ร้อง“ชู่ว์ ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวพ่อพาลงไปเล่นข้างล่าง” แพนธารินเอ่ยเปล่า เขาอุ้มลูกชายฝาแฝดลงมาจากห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับการหยอกล้ออย่างสนุกสนานชายหนุ่มทำหน้าที่เลี้ยงเด็กทั้งสองแทนผู้เป็นแม่ของพวกเขาอย่างมิณไอริณ เพราะเธอเพิ่งคลอดลูกมาได้เพียงแค่เดือนเศษ ร่างกายของหญิงสาวยังคงต้องพักผ่อนเพื่อฟื้นฟู“มาแล้ว ระวังให้ดี” เสียวหยอกล้อของพ่อลูกยังดังขึ้นเรื่อยๆ“ทำอะไรกันอยู่คะ” มิณไอริณที่แอบมองดูสามีเล่นกับลูกชายทั้งสองอย่างสนุกสนาน มาได้สักพักก็เอ่ยถาม “อ้าวไอริณมาตั้งแต่ตอนไหน” แพนธารินเดินไปประคองมิณไอริณมานั่งที่โซฟา ก่อนอุ้มลูกน้อยที่หญิงสาวอุ้มมาด้วยขึ้นแนบอก“มาทันเห็นคนโดนลูกแกล้ง” ใบหน้าสวยเอ่ยด้วยยิ้ม“งั้นเหรอครับ แล้วอยากโดน
แสงแดดส่องเข้ามาในห้องนอนแพนธารินพลิกตัวไปมาอย่างเกียจคร้าน แต่พอจะลุกแค่นั้นแหละ มีอะไรหนักๆ มาทับที่หน้าอกคิดว่าผีอำ “น้องแบล็คทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้” เขาจับลูกชายวางลงข้างกาย “เย่นๆ” เด็ดน้อยพยายามปืนป่ายขึ้นมานั่งบนหน้าอกของผู้เป็นพ่ออีกครั้ง “อืมมม พักก่อนนะลูก” เล่นปลุกเขาตั้งแต่เช้าแล้วภรรยาเขาหายไปไหนตั้งแต่เช้า แพนธารินลุกขึ้นและอุ้มลูกลงไปตามหาภรรยา ในห้องโถงได้ยินเสียงแฝดพี่ร้องไห้เสียงดัง โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังปลอบอยู่ “นายเป็นใคร! เข้ามาทำอะไรในบ้านฉัน” “เอ่อ!” ลุกกำลังจะตอบแต่คนถามไม่ยอมปล่อยโอกาสแถมยังต่อว่าเขา มิณไอริณกับเทวัญที่ได้ยินเสียงของแพนธารินจึงรีบเข้ามา “พี่แพทเสียงดังทำไมคะ? ลูกก็อยู่ด้วย” “มัน...เขาคนนี้คือใคร” ในสมองของเขาไม่เคยรู้จักหรือเคยเห็นหน้ามาก่อน แต่พอโดนดุจึงเงียบทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับสิ่งที่เกิดขึ้น “พี่ลุกแฟนพี่เทวัญค่ะ” แพนธารินจึงเงียบเพราะเหมือนว่ากำลังทำให้เมียโกรธมากขึ้น และเขาต้องเป็นฝ่ายพาตัวเองออกไปจากห้องโถงเพราะถูกเชิญออกไป “พี่แพทมีประชุมเช้านี่คะต
มิณไอริณนั่งมองลูกชายคนโตที่อยู่ในอ้อมแขนของหมอคัมภีร์ ส่วนอีกคนหลับอยู่ในรถเข็นเด็ก “คนนี้หน้าเหมือนไอริณมาก” เขาจ้องมองเด็กน้อยในอ้อมแขน ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนสุดท้ายแล้วเขากับมิณไอริณก็เป็นได้แค่พี่น้อง “พี่หมอไม่คิดจะมีบ้างเหรอคะ” “พี่จะหาแม่ของลูกมาจากไหนบ้างานขนาดนี้” “มัวแต่ทำงานระวังจะแก่ก่อนนะคะ” เขาหล่อเขารวยหน้าที่การงานก็ดี สักวันต้องมีคนที่ดีเข้ามา พี่ไม่เคยคิดเรื่องนั้นถ้ามันใช่มันใช่ไปตั้งนานแล้ว” เหมือนที่เขาตามจีบหญิงสาว สุดท้ายแล้วความดีไม่ใช่ผลตอบแทนของความรัก “ไอริณต้องกลับแล้วค่ะพ่อเด็กๆ รออยู่” เธอกล่าวลาเขา พอเดินออกมาไม่ไกลก็เห็นแพนธารินนั่งรออยู่ พร้อมกับใบหน้าบูดบึ้ง “เบื่อทำไมต้องไม่ให้พี่ตามไปด้วย” ทำเหมือนแอบคบชู้ จะโกรธก็ไม่ได้เพราะตอนนี้เมียอยู่เหนือทุกอย่าง “ไม่ทำหน้างอแบบนั้นสิคะฝากลูกหน่อยนะคะ ไอริณจะไปเดินเล่น” เธอส่งลูกให้แพนธารินรีบเดินขึ้นรถอีกคันไม่อยากให้เขาหอบลูกตามเธอไปชอปปิ้งด้วย จากมาเฟียสู่พ่อลูกอ่อนอีกมืออุ้มลูก อีกมือเข็นรถการเลี้ยงลูกมันเหนื่อยกว่าทำงานหลายเท่า
แพนธารินขอเข้าไปดูหน้าลูกด้วย ในห้องคลอดหญิงสาวก็คิดว่า เจ้าของร่างเดิมคงต้องการแบบนี้ชายหนุ่มร้องไห้เมื่อเห็นหน้าลูกเขานั่งเฝ้าลูกทั้งสองกำลังหลับปุ๋ยอยู่บนรถเข็นเปลเด็ก ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะอุ้มท้องลูกเขาถึงสองคน“แพนธวัฒน์ – แพนเมธา ชื่อเล่นน้องอะไรดีนะ” เขานั่งครุ่นคิด“ไบรท์กับแบล็ค” เธอแอบตั้งชื่อลูกไว้แล้วมีแสงสว่างก็ต้องมีความมืดมน และเธอชอบชื่อนี้มาก“ชื่อเพราะดี” เขาเอามือจิ้มแก้มของลูกทำให้เด็กน้อยร้องไห้เสียงดัง จนมิณไอริณต้องต่อว่าเขาที่ไปแกล้งลูกเป็นครั้งแรกที่เธอให้นมลูกซึ่งเด็กน้อยดูดจนเธอรู้สึกเจ็บ พออีกคนดื่มนมจนอิ่มอีกคนร้องตาม แค่คนเดียวก็ว่าหนักแล้วตอนนี้มีถึงสองคนคืนนั้นมิณไอริณฝัน เจ้าของร่างเดิมมาขอร้อง ว่าให้เธอคืนดีกับแพนธาริน เธอจะไปเกิดแล้วและอวยพรให้หญิงสาวมีความสุขแพนธารินนอนกระสับกระส่ายไปมาในความฝันของเขา เห็นผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนมิณไอริณมายืนร้องไห้ ซึ่งเขาจำได้ว่าคนนี้คือมิณไอริณตัวจริง“ไอริณมาลาพี่แพทค่ะ ชาตินี้เราจากกันแล้วรักผู้หญิงคนนั้นให้มากๆ นะคะ”“ไอริณ” น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาหาเสียงตัวเองไม่เจอ นี่เป็นครั้งแรกที่ในใจของเขาไม่ได้
ภีมกับภามนั่งเฝ้าเจ้านายอยู่เกือบสามชั่วโมง ตั้งแต่ทั้งสองทะเลาะกันเจ้านายของพวกเขากลายเป็นคนเงียบขรึม ตามง้อภรรยาแต่เหมือนนายหญิงจะไม่ยอมยกโทษให้ง่ายๆ แพนธารินนั่งฟังคุณครูสอนอย่างตั้งอกตั้งใจ วันนี้เขาเข้าคอร์สเรียนการเลี้ยงลูก ทั้งสองเรียนมีเขาที่เป็นผู้ชายเพียงคนเดียว ชวนมิณไอริณมาแล้วแต่รายนั้นยังโกรธเขาอยู่ เขารู้สึกผิดที่ทำให้หญิงสาวเกือบเสียลูกไป จะโกรธเขาก็ไม่แปลก “คุณแพทฟังอีกรอบนะคะเวลาลูกอาเจียนเราต้องลูบหลังเบาๆ แบบนี้ค่ะ” คุณครูสาธิตให้เขาดูก่อน และลองให้เขาทำ “แบบนี้เหรอครับ” เขาทำตามที่คุณครูสอนทุกอย่าง“ใช่ค่ะเบาๆ นะคะ” ขนาดตุ๊กตายังทำแรงขนาดนี้ ถ้าเป็นคนจริงๆ น่าจะเหลือแค่ชื่อแพนธารินค่อยๆ ลูบหลังตุ๊กตาเด็กแต่เขาน่าจะลงแรงไปเยอะ ลูบไปลูบมาหัวตุ๊กตาหลุดร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น ทำให้ทุกคนหัวเราะเสียงดัง“เบาๆ สิคะ”“ผมขอเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ”คุณครูจึงพามาสอนเรื่องการอาบน้ำให้เด็กแรกเกิด แพนธารินทำตามทุกอย่างเช่นเดิม แต่เหมือนจะหนักมืออีกเพราะตุ๊กตาเด็กคว่ำหน้าจมน้ำไปต่อหน้าต่อหน้า“กูไม่เรียนแล้ว” เขาเดินออกมาทันทีพร้อมใบหน้าที่
มิณไอริณนอนอยู่บนเตียงกว้างเธออ่านข่าวของเพลงนารากับภูวเรศ คำสารภาพของชายหนุ่มทำให้มิณไอริณต้องช็อกอีกรอบ เรื่องที่เกิดขึ้นกับเพลงนาราเขาเป็นคนทำทั้งหมด และเป็นคนสั่งเก็บเพลงนารา “เวรกรรมโรคจิตมาก” ถ้าวันนั้นพวกมันทำกับมิณไอริณสำเร็จไม่อยากจะคิดเลย ว่าต่อจากนั้นชีวิตของหญิงสาวจะเป็นอย่างไรต่อ “ว้าย...คุณเข้ามาทำอะไร!” เธอมองหน้าคนที่บุกเข้ามาในห้องนอน “คืนนั้นบอกจะนอนกับฉันแต่ทำไมล็อกห้องหนีล่ะ” แต่งงานกันมาตั้งนานเพิ่งได้ร่วมเตียงกันแค่ไม่กี่ครั้ง คืนนั้นก็ชิงหนีเขาก่อน เจ้าเล่ห์เหลือคณาปล่อยให้เขาแห้งเหี่ยว “ไอริณแค่พูดลอยๆ” “คืนนี้ต้องเข้าไปทักทายลูก” ทำเลื่อนมือเข้าไปใต้ร่มผ้า “พอ...หยุด! ผู้ชายสำส่อนแบบคุณควรอยู่คนเดียว” “แรงมาก จะบอกให้นะทุกอย่างแค่ละครฉากหนึ่ง” “อะไร!” งงละครอะไร “ที่ผ่านมาฉันเคยนอนกับใครเสียที่ไหนกันเล่า” เขาไม่ใช่คนชั่วมั่วไม่เลิกเสียหน่อยไม่มีนิสัยแบบนั้น คนไม่รักษาศีลข้อความชีวิตไม่ตายดี “คุณแพท” ที่ผ่านมาเขาหลอกมิณไอริณมาตลอด “ฉันจ้างพวกหล่อนมาเล่นละครเพ
แพนธารินได้หลักฐานจากสารวัตร และทีมสืบสวน จนได้รู้ผู้บงการตัดสายเบรกของเขา ภูวเรศนั่นเองเขามาก แต่เทวัญก็ปลอบใจ “นายไม่รู้จริงเหรอว่าไอ้ภูวเรศมันแอบรักนาย” “หมายถึงอะไร?” แพนธารินทำหน้างุนงงแอบรักแบบไหน “มันเป็นเกย์และหวังจะเอานายไง” เรื่องที่เพื่อนเกย์เขารับได้แต่เรื่องที่จะฟันเขา คิดดูแล้วยังมองหาความเป็นจริงไม่เจอเพราะภูวเรศไม่เคยแสดงออกเลย “แต่ไอ้ภู...” “นายดูคลิปนี้ซะ” แพนธารินเห็นคลิปที่ภูวเรศอมกระสวย เขาถึงกับรับไม่ได้ เขากับภูวเรศมันมีอะไรที่มากกว่านั้น ทั้งเปลือยกาย อาบน้ำด้วยกัน เพราะเรียนกันมาตั้งแต่อนุบาล “อย่าไปหามันเลยมันคงไม่กล้าสู้หน้าปล่อยให้ตำรวจจัดการเถอะ เรื่องของคุณนุนีฟังคลิปเอาแล้วกัน” เทวัญสะเทือนใจจนไม่สามารถพูดออกมาได้ ภูวเรศไม่ยอมให้แพนธารินมาเยี่ยม เพราะไม่กล้าสู้หน้า แต่คำสารภาพก็ทำให้แพนธารินเจ็บปวดคือ รักมาก และเมื่อไม่ได้ครอบครองก็อยากฆ่าให้ตาย “เรื่องของนุนีทั้งหมดเป็นกูทำเอง” ภูวเรศอัดคลิปสารภาพเรื่องราวทั้งหมด แพนธารินมือไม้สั่นเพราะภูวเรศเล่าตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้
เสียงเคาะประตูดังขึ้นถี่ๆ ตามด้วยเสียงเข้มของเจ้าหน้าที่ตำรวจ“คุณเพลงนาราเปิดประตูเดี๋ยวนี้ นี่คือหมายจับของคุณในข้อหาพยายามฆ่า!”ภายในคอนโดหรูกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียดเพลง นารานั่งนิ่งอยู่กลางห้อง ดวงตาเบิกโพลง ริมฝีปากแห้งผาก เธอรู้ดีว่าวันนี้ต้องมาถึง แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้“ไม่... ไม่จริง” เธอพึมพำกับตัวเอง น้ำเสียงสั่นเครือเสียงเคาะประตูดังขึ้นแรงกว่าเดิม ก่อนที่ประตูจะถูกพังเข้ามา ตำรวจหลายนายกรูกันเข้ามาภายในห้องนอน พร้อมกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่เธอรู้จักดี เขายืนอยู่ด้านหลังตำรวจ สีหน้าเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยความสะใจ“มอบตัวซะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แต่กลับเป็นเหมือนเสียงฟ้าผ่ากลางใจเธอสั่นไปทั้งตัว ก่อนจะกรีดร้องสุดเสียง“ไม่! พวกแกโกหก! ฉันไม่ได้ทำ! ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น!!”เธอถอยกรูดไปจนหลังชนกำแพง มือทั้งสองขยุ้มผมตัวเองราวกับอยากฉีกศีรษะให้ขาดจากร่าง ดวงตาวาวโรจน์ไปด้วยความบ้าคลั่ง“เขาใส่ร้ายฉัน! พวกแกมันโกหก!!”เธอกรีดร้องลั่น ก่อนจะคว้าข้าวของขว้างปาใส่ตำรวจที่กำลังเข้ามาประชิดตัว ขวดแก้วแตกกระจายบนพื้น โต๊ะล้มระเนระนาด แต่ไม่มีอะไรสามารถหยุดเจ้าหน้าที่ที่ก