กับข้าวที่เธอสั่งมาก็มี ยำไข่เยี่ยวม้า ยำผักกาดดอง ผัดผักบุ้งไฟแดง ปลากระพงทอดน้ำปลา ไข่เจียวกุ้งสับและคะน้าหมูกรอบจานใหญ่ เธอเอาข้าวสวยให้ออสติน ส่วนเธอช่วงอาหารเย็นแบบนี้ เธอจะชอบทานข้าวต้มมากกว่าเพราะไม่หนักท้อง อีกอย่างอาทิตย์นี้เธอแทบไม่ได้เข้าฟิตเนสเลย เพราะเอาแต่อ่านบทละครดึกดื่นทุกคืน เลยต้องเริ่มควบคุมอาหาร
“เป็นไง อร่อยไหม” “ก็ดี”คำว่าก็ดีของเขาทำเธอส่ายหน้าออกมา เพราะเขาเล่นทานข้าวสวยไปสองจานพูน กับคะน้าหมูกรอบที่เธอสั่งเน้นหมูกรอบมาจุก ๆ เธอได้ทานแค่สองชิ้นเท่านั้น ที่เหลือเขาซัดจนเรียบ รวมถึงกับข้าวอย่างอื่นที่เธอสั่งมาเขาก็กวาดจนเรียบไม่เหลือเช่นเดียวกัน “เก็บตังค์ด้วยค่ะเฮีย” พอเธอตะโกนบอกเจ้าของร้านให้มาเก็บตังค์ ออสตินก็รีบควักกระเป๋าตังค์เตรียมออกมาจ่ายทันที แต่ทว่าเขาไม่ได้พกเงินสดติดตัวมา เลยส่งบัตรเครดิตให้พนักงานแทน “ฉันจ่ายเอง ร้านนี้ไม่มีที่รูดบัตรหรอกนะ”เธอส่งแบงค์พันให้พนักงาน ค่าอาหารทั้งหมดแค่หกร้อยกว่าบาทเท่านั้น “คราวหลังฉันจะพกเงินสดตลอด” “พกทำไม ถ้านายไม่ได้มาร้านนี้ ร้านอื่นก็มีที่รูดบัตรให้นายอยู่แล้ว” “แต่ฉันอยากมาร้านนี้กับเธอ” พูดจบเขาก็แย่งกุญแจรถจากมือเธอไปขับเอง เขาเป็นคนไม่ชอบให้ผู้หญิงขับรถให้นั่ง มันดูไม่เป็นลูกผู้ชาย “อะไร?”นินิวมองโทรศัพท์ของเขาที่ยื่นมาตรงหน้าเธอแบบงง ๆ “ขอไลน์เธอหน่อย” “จะเอาไปทำไม อีกอย่างนายก็มีเบอร์ฉันอยู่แล้วนิ” “ฉันอยากได้ไลน์เธอมากกว่า มันดูเป็นคนสำคัญดี” “รู้ได้ยังไงว่าถ้าฉันให้ไลน์ใคร คนนั้นคือคนสำคัญ” “งั้นไอ้พระเอกนั่นมีไลน์เธอหรือเปล่า?” นินิวส่ายหน้าทันที ไลน์เป็นช่องทางติดต่อส่วนตัวของเธอ มีแค่อัญชัน พี่แจงและครอบครัวของเธอเท่านั้นที่มีไลน์ของเธอ หากลูกค้าต้องการติดต่องาน จะติดต่อผ่านพี่แจงผู้จัดการเท่านั้น “เห็นไหม เพราะงั้นเอาไลน์เธอมาให้ฉันซะดี ๆ ไม่งั้นฉันจะโทรกวนเธอทั้งคืน” เธอจำใจต้องรับโทรศัพท์มาสแกนคิวอาร์โค้ดไลน์ของเธอให้เขา เพราะรู้ว่าหากเขาต้องการไลน์เธอจริง ๆ เขาคงมีหนทางจะหาได้อยู่แล้ว อีกอย่างเธอก็กลัวว่าเขาจะทำตามที่ขู่เธอด้วย “ถ้านายส่งข้อความไร้สาระมากวนฉัน ฉันจะบล็อกนายทันที” “ส่งรูปให้เธอดูได้หรือเปล่า” “รูปบ้าบออะไรของนายอีก” “ก็รูป…”เขาเว้นจังหวะพูดและก้มมองหน้าตักของตัวเอง พอเธอมองตามสายตาของเขา ก็ต้องยกมือขึ้นทุบแขนแกร่งของเขาทันที “ไอ้บ้า!! นี่นายวิตถารเหรอ ถึงจะส่งรูปอันนั้นมาให้ฉันดู ทุเรศที่สุด” “ฮ่า! ฮ่า! เธอหมายถึงอะไรนิว ฉันแค่ก้มดูหน้าท้องของตัวเองหรอก ดูว่ามีพุงยื่นออกมาหรือเปล่า เพราะกินเยอะไปหน่อย” ออสตินขำท่าทางของเธอไม่หยุด“เธอคิดลึกไปหรือเปล่า ก็ไหนเธอบอกว่าเราเป็นเพื่อนกันไง เพื่อนที่ไหนเขาจะส่งรูปของลับให้กันดูแบบที่เธอคิด” “จะไปรู้เหรอ ผู้ชายอย่างนายมันวิปริตจนฉันระแวงไปหมดแล้ว” นินิวทำท่าขนลุกขนพองให้เขาดู ยิ่งเขาหัวเราะเธอก็ยิ่งคิดว่าเขาต้องคิดอะไรแปลก ๆ ในหัวจริง ๆ ผู้ชายอย่างเขานิสัยเหมือนตอนเรียนมัธยมไม่มีผิด ชอบพูดทะลึ่งตึงตังกับผู้หญิง หว่านคารมไปทั่ว จนสาว ๆ หลงเกือบทั้งโรงเรียน “แล้วอยากรู้หรือเปล่าว่าฉันอยากส่งรูปอะไรให้เธอ” “ไม่อยากรู้ ไม่ต้องพูดออกมานะ ขับรถไปดี ๆ เลย” “แต่ถ้าฉันไม่ได้บอก คืนนี้ฉันจะนอนไม่หลับนะนิว เธอไม่สงสารฉันเหรอ” คนตัวสูงทำเสียงอ้อนเธอ อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะทนใจแข็งได้สักกี่น้ำ เมื่อเจอลูกอ้อนของคนที่คารมเป็นต่ออย่างเขา“นะ ๆ อยากรู้หน่อยนะครับ” “แหวะ เลิกพูดคงพูดครับได้ไหม ฟังแล้วเลี่ยนยังไงไม่รู้” “อันนั้นก็ไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ได้ ฉันเริ่มคิดแล้วนะ ว่าเธอรังเกียจฉันจริง ๆ” เขาทำปากยื่น แสดงอาการงอนเต็มที่ จนคนตัวเล็กที่นั่งมองอยู่เริ่มรู้สึกสงสาร เพิ่งจะเคยเห็นผู้ชายตัวโตงอนแก้มป่องแบบนี้ เธอก็มองว่ามันน่ารักดี จนเผลอยิ้มออกมา “ก็ได้ งั้นบอกมาว่านายอยากส่งรูปอะไรให้ฉัน” “…..”ไม่มีเสียงตอบกลับจากเขา ที่กำลังตั้งใจขับรถ ทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินที่เธอพูด “ออสติน นายจะพูดไม่พูด” “…..” “งั้นไม่ต้องมาพูดกัน…” “ง้อนิดง้อหน่อยก็ไม่ได้ เธอต้องมีความพยายามในการง้อมากกว่านี้สิ แสดงความจริงใจออกมาเยอะ ๆ ไม่ใช่ง้อแบบขอไปทีแบบนี้” “นี่นาย จะเยอะไปแล้วนะ ฉันให้ได้แค่ไหน นายก็ควรพอใจแค่นั้น ฉันง้อนายก็ดีแค่ไหนแล้ว” “งั้นฉันเป็นคนพิเศษของเธอนะสิ เธอถึงได้ง้อฉัน”เขาแสดงอาการดีใจจนออกนอกหน้า ทำให้นินิวรู้สึกหมั่นไส้จนต้องเอามือไปยิกแขนซ้ายเขาสุดแรง “โอ้ยย!!! นิว ฉันเจ็บนะ” “นายมันคนเจ้าเล่ห์ ไม่ว่าเวลาจะผ่านมากี่ปี นายก็ยังคงเจ้าเล่ห์เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน” “คอนโดเธออยู่ไหน?” อยู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนเรื่องมาถามเธอเรื่องนี้แทน ทำเอาคนตัวเล็กตั้งตัวไม่ทัน ไม่เข้าใจว่าเขาถามถึงที่อยู่เธอทำไม คงไม่ได้คิดอะไรพิเรนทร์อีกใช่ไหม “ถามทำไม?” “ก็ฉันอยากไปส่งเธอ” “นี่มันรถฉันนะ นายลืมไปหรือเปล่า” “ไม่ได้ลืม ไปส่งเธอก่อน แล้วฉันค่อยโทรให้เลขาฯ มารับ” “ไม่ต้องลำบากเลย ขับไปคอนโดนายเลย เดี๋ยวฉันขับกลับคอนโดของฉันเอง” เขาอยากไปส่งเธอ ไม่อยากให้เธอขับรถกลับคนเดียว แต่ทว่าเธอเหมือนไม่เข้าใจความหวังดีของเขา“ฉันรู้ว่าเธอขับได้ แต่ฉันอยากไปส่งเธอ แค่นี้มันไม่ได้เลยเหรอ” “โอเค ๆ ไปส่งก็ไปส่ง” สุดท้ายเธอก็ยอมให้เขาขับรถมาส่งเธอที่คอนโด เพราะไม่ว่าเธอจะพูดยังไง เขาก็ไม่ยอมท่าเดียว ผู้ชายคนนี้นอกจากจะพูดไม่รู้เรื่องแล้ว ยังดื้อเป็นที่สุด รถหรูขับเข้ามาจอดลานคอนโดหรูของหญิงสาว เขายกโทรศัพท์ดูข้อความจากเลขาฯ ที่เขาส่งไปบอกก่อนหน้าว่าให้มารับที่คอนโดของนินิว ได้ข้อความตอบกลับมาว่ากำลังมา จึงลงจากรถเพื่อจะเดินไปรอเลขาฯ ที่หน้าคอนโด “ไหนล่ะ เลขาฯ ของนาย” “อีกเดี๋ยวก็มา เธอขึ้นห้องไปก่อนเลย ฉันจะรอตรงนี้แหละ” นินิวมองการแต่งตัวของเขา ที่ดูดีทุกกระเบียดนิ้ว แล้วต้องมายืนรอเลขามารับอยู่ตรงหน้าคอนโดของเธอตอนมืดค่ำแบบนี้ ซึ่งมันดูไม่เหมาะสมกันอย่างมาก เลยกำลังลังเลว่าควรชวนเขาขึ้นไปรอบนห้องดีหรือเปล่า “ทำไมยังไม่ไปอีก” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามเธอ เมื่อเห็นเธอยังยืนอยู่ที่เดิม แววตาเธอกำลังสับสนอะไรบางอย่าง และไม่กล้าพูดออกมา“เป็นอะไรนิว มีอะไรจะพูดก็รีบพูด มัวแต่อ้ำอึ้งอยู่ได้” “โทรไปถามเลขาฯ นายสิว่าใกล้ถึงหรือยัง” “คิดว่าเธอจะใจดีให้ฉันขึ้นไปรอบนห้องเสียอีก เห็นยืนอ้ำอึ้งอยู่ตั้งนาน” “ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะ แค่จะบอกว่าฉันยืนรอเป็นเพื่อนนายดีกว่า” เธอตัดสินใจได้ในวินาทีนั้น พลางหลบสายตาของเขาที่มองมาอย่างจับผิด มันคงไม่ดีถ้าชวนผู้ชายแบบเขาขึ้นไปบนห้อง ยิ่งวันนี้เขาพูดจาแปลก ๆ ใส่เธอ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาพูดจริงหรือพูดเล่น แต่ทว่าเธอก็ต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน กลัวว่าเขาจะคิดว่าเธอให้ท่าเขาด้วยการชวนขึ้นไปบนห้อง ทั้งที่จริงเธอไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสักนิดเดียวนินิวขับรถมาถึงบ้านพ่อกับแม่ตอนสิบโมงเช้า ก่อนที่จะมาเธอได้โทรมาบอกแม่เอาไว้แล้ว เมื่อมาถึงท่านเลยทำอาหารไว้รอเธอหลายอย่าง วันนี้โชคดีหน่อยที่น้องสาวของเธอก็อยู่ที่บ้านด้วย เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาว “โอ้โห อาหารเยอะขนาดนี้จะกินหมดเหรอจ๊ะ” อาหารน่าตาหน้ากินหลายอย่างวางเรียงรายบนโต๊ะอาหาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมนูที่เธอชอบทานทั้งสิ้น เห็นทีวันนี้เธอคงต้องพับเก็บการไดเอ็ทลงกล่องไปก่อน ขอเกเรทานอาหารตามใจปากสักวัน “แม่ไม่รู้ว่านิวอยากกินอะไร เลยทำทุกเมนูเลย กินเยอะ ๆ นะ พักนี้นิวดูผอมไปหน่อยนะลูก” นิสาคนเป็นแม่ยิ้มกริ่ม ดีใจที่ลูกสาวคนโตกลับบ้าน แต่ก็ไม่วายบ่นเรื่องที่ลูกสาวชอบอดข้าวลดน้ำหนัก ปกติถ้ามีเวลาเธอก็จะชวนคนเป็นสามีไปหาลูกสาวที่คอนโดอยู่บ่อย ๆ แต่ช่วงนี้รู้ว่าลูกถ่ายละครทุกวัน กลัวว่าจะไปกวนเวลาพักผ่อนของลูก เลยตัดสินใจไม่ไปหา “จริงพี่นิว วันนี้รินเป็นลูกมือของแม่เองเลยนะ อันไหนอร่อยแม่ทำ อันไหนไม่อร่อยรินทำ ฮ่า! ฮ่า!” นิรินน้องสาวของเธอพูดออกมาเชิงหยอกล้อ โดยนินิวได้หันไปมองด้วยความเอ็นดู คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่ตัดสินใจกลับบ้านวันนี้ เพราะหากไม่ใช่วันหยุดยาว เธอก็จะไม่ได้เห็นหน้านิ
"พรุ่งนี้ฉันจะกลับบ้านนะ" นินิวเอ่ยบอกออสตินขณะที่กำลังนอนกอดก่ายกันบนที่นอน หลังจากเธอโดนเขารังแกในห้องน้ำไปหลายยก "เธอพักกองเหรอ?" "อืม สามวัน" "ฉันก็เหงานะสิ เธอไม่อยู่"กิจวัตรประจำวันของเขาตอนนี้คือทำงานที่บริษัท เลิกงานหรือมีเวลาว่างไปกองถ่าย ตอนเย็นก็มาขลุกอยู่คอนโดนินิว เป็นแบบนี้จนเขารู้สึกชินไปแล้ว พอรู้ว่าจะไม่ได้เจอหน้าเธอสามวัน ไม่ได้นอนกอดกันแบบนี้ ก็รู้สึกใจโหวง ๆ ทันที "งานนายก็มีให้ทำ อีกอย่างกองถ่ายไม่ได้หยุดเสียหน่อย คนอื่นยังมีคิวถ่าย" "ที่ฉันไปกองถ่ายทุกวัน ไม่ได้ไปเพราะเป็นสปอนเซอร์ ฉันไปเพราะอยากเห็นหน้าเธอ" "แหวะ!! หยุดพูดอะไรเลี่ยน ๆ สักทีเหอะ" "เลี่ยนตรงไหน เธอยังไม่ชินที่ฉันพูดแบบนี้อีกเหรอ ฉันเลี่ยนได้กว่านี้อีกนะ ถ้าเธออยากฟัง" เขาเอาหน้าไปซุกตรงอกอวบของเธอ"ถ้าทนคิดถึงไม่ไหว ขอไปหาได้หรือเปล่า" "นายกล้าไปเหรอ อีกอย่างบ้านฉันก็ไม่ได้สบายเหมือนที่นี่ด้วย เป็นบ้านหลังเล็ก ๆ แถวชานเมืองเองนะ คงไม่เหมาะกับฐานะเศรษฐีรวยล้นฟ้าแบบนายหรอก" นินิวเอ่ยบอกเขาไปตรง ๆ ถึงเธอจะทำงานหาเงินได้มากแค่ไหน แต่พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ต้องการบ้านหลังใหญ่โต เธอเสนอจะซื้อให้ท่า
“ไปกันใหญ่แล้วนิว” นินิวสะบัดแขนแกร่งของออสตินที่รีบลุกขึ้นเดินมาจับเธอ ตอนที่เธอกำลังจะเดินเข้าห้อง“ปล่อยติน ฉันจะไปอาบน้ำ” “แต่เธอกินข้าวไม่หมดเลยนะ” "ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าไม่อยากงี่เง่า แต่นายก็ยังทำให้ฉันเป็นแบบนี้" คนตัวสูงเข้าไปสวมกอดเธอจากด้านหลังทันที เขาวางคางเกยไว้กับไหล่บางของเธอพลางพูดเสียงอ้อน "ขอโทษ ต่อไปฉันจะบอกเธอทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ ฉันจะไม่โกหกเธออีก" ฟอด!! เขาฉวยโอกาสหอมแก้มป่องฟอดใหญ่ เธอเองก็ไม่ได้อิดออดอะไร เพราะไม่ได้โกรธเขาขนาดนั้น "ฉันจะให้โอกาสนายแก้ตัว แต่หากหลังจากนี้นายยังมีอะไรปิดบังอีก ฉันจะไม่ทนแล้วนะ" "ไม่มี หลังจากนี้ไม่มีอีกแล้ว ฉันขาดเธอไม่ได้ เธอก็รู้" นินิวอมยิ้มเหลือบตามองคนขี้อ้อน ที่กำลังคลอเคลียเธอไม่ห่าง "อาบน้ำด้วยกันไหม" "อาบน้ำอย่างเดียวนะ" คนตัวเล็กเอ่ยดักทางคนหื่นที่จ้องจะจับเธอกินตลอดเวลา เห็นสีหน้าเซ็ง ๆ ของเขาก็เดาได้ทันทีว่าเขาคิดไม่ซื่อกับเธอจริง ๆ อ่างน้ำอุ่นที่เต็มไปด้วยฟองสีขาวลอยละล่อง ส่งไอร้อนระเหยปกคลุมไปทั่วห้องน้ำหรูหรา แสงไฟสลัวสะท้อนกับผิวกระเบื้องเงางาม ออสตินเอนกายลงในอ่างน้ำขนาดใหญ่ ข้า
หลังจากถ่ายละครเสร็จ วันนี้เลิกกองถ่านค่อนข้างดึก ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว นินิวเลยบอกคนขับรถตู้ของพี่แจงที่มารับเธอให้แวะร้านข้าวต้มเจ้าประจำข้างทาง เพราะถ่ายละครลากยาวตลอดช่วงบ่าย ทำให้เธอรู้สึกหิวมากกว่าทุกวัน "เอาเหมือนเดิมนะคะเฮีย” เฮียเจ้าของร้านพยักหน้าเข้าใจ แต่ทว่ายังคงจ้องหน้าเธอไม่หยุด เหมือนมีอะไรอยากจะพูดกับเธอ “มีอะไรหรือเปล่าคะ เห็นเฮียมองหน้าหนูแปลก ๆ" เฮียเจ้าของร้านทำสีหน้าหนักใจ เพราะไม่รู้ว่าเรื่องนี้ควรถามออกไปหรือเปล่า แต่เพราะไม่อยากให้ลูกค้าประจำที่เขาเอ็นดูเหมือนลูกหลานอย่างนินิวต้องถูกอีกฝ่ายหลอกเลยตัดสินถามออกไป “ผู้ชายที่มากับเราครั้งก่อน เขาเป็นแฟนเราหรือเปล่า” “เฮียถามทำไมคะ มีอะไรบอกหนูได้เลยค่ะ หรือว่าเขามาค้างค่าอาหารเฮีย เดี๋ยวหนูจ่ายให้เองค่ะ”นินิวรีบหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าสะพาย เพราะคิดว่าออสตินมาทานข้าวแล้วไม่มีเงินสดจ่ายเฮียเจ้าของร้าน “ไม่ใช่หนู วันก่อนเขามาทานข้าวที่นี่ดึกแล้ว น่าจะเกือบห้าทุ่ม เขามากับผู้หญิงท่าทางดูดี แต่นิสัยน่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่” นินิวชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ“เป็นเพื่อนร่วมงานกันค่ะ” “อ๋อเห
“นี่พี่ได้ยินที่ฉันคุยกับพยาบาลเหรอ ไม่มีมารยาทเอาซะเลย” “ถึงฉันไม่แอบฟัง เธอพูดดังขนาดนั้น ใครเดินผ่านไปมาก็ได้ยินทั้งนั้นแหละ” อัญชันเม้มปากแน่น สายตาโฟกัสไปตรงสวนของโรงพยาบาล ที่ตอนนี้มีผู้ป่วยหลายคนกำลังนั่งรับลมยามเย็น เธอรู้สึกอายที่ขุนเขาต้องมารับรู้เรื่องอะไรแบบนี้ของเธอ “พี่ห้ามบอกนิวเด็ดขาด ไม่ว่าเรื่องที่แม่ฉันกำลังรักษาตัวอยู่ที่นี่หรือเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาแม่ของฉัน ตอนนี้นิวเองมันก็เพิ่งได้กลับเข้าวงการมา ฉันไม่อยากเอาความทุกข์ของฉันไปใส่หัวมันอีก” “เธอคิดว่าเพื่อนเธอเห็นเรื่องของเธอเป็นความทุกข์ใจเหรอ เธอประเมินเพื่อนเธอต่ำไปหรือเปล่าอัญชัน” “เพราะฉันรู้ว่านิวมันคงไม่นิ่งเฉย มันต้องช่วยฉันแน่นอนถ้ารู้ ยิ่งเป็นแบบนั้น ฉันยิ่งไม่อยากให้เพื่อนรู้" ขุนเขาหันไปมองเสี้ยวหน้าของอัญชันตอนนี้ ทั้งน้ำเสียงและแววตาเธอดูเศร้าเหมือนคนทุกข์ใจอย่างหนัก แสดงว่าที่ผ่านมาทำเป็นเข้มแข็งเพื่อกลบเกลื่อนความอ่อนแอของตัวเอง "แล้วเธอจะหาเงินจากที่ไหน" "ฉันยังไม่รู้เลยค่ะ ตอนนี้ก็ทำทุกทางแล้วเหมือนกัน แต่ดาราตัวประกอบอย่างฉัน นอกจากเล่นละคร งานอื่นก็ไม่มีเข้ามาหรอกค่ะ" "เท่าไหร่?"
เสร็จสิ้นการถ่ายทำที่โรงพยาบาล พรุ่งนี้กองถ่ายจะยกกองไปถ่ายที่บ้านหลังใหญ่ เป็นบ้านของพระเอกของเรื่องอย่างขุนเขา หลังจากเลิกกอง ระหว่างที่ขุนเขากำลังเดินไปขึ้นรถตู้ของผู้จัดการส่วนตัว สายตาคมของเขาเหลือบไปเห็นอัญชันเดินแกมวิ่งเข้าไปยังตึกผู้ป่วยในของโรงพยาบาล หัวคิ้วขมวดกันด้วยความสงสัย การแต่งตัวของเธอบ่งบอกว่าเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ทำให้เขายิ่งสงสัยว่าเธอเดินเข้าไปในตึกผู้ป่วยในทำไมเวลานี้ ในเมื่อตอนนี้ทีมงานทุกคนต่างแยกย้ายและเคลียร์สถานที่กันแล้ว จะว่าไปสองสามวันที่ผ่านมาเขาก็เห็นเธอเดินไปทางตึกผู้ป่วยในหลายครั้ง บางครั้งก็เป็นในระหว่างถ่ายทำ แต่ทว่าตอนนั้นเขาไม่สนใจ เพราะเป็นช่วงที่ยังมีการถ่ายทำที่นี่อยู่ แต่ทำไมวันนี้เขาเกิดอยากจะรู้ขึ้นมาว่าเธอเข้าไปในตึกนั้นทำไมทั้งที่เลิกกองไปแล้ว “เดี๋ยวผมกลับเองครับ” “จะไปไหนขุน?” “ผมเห็นเพื่อนนะครับ ขอไปหาหน่อยนะ“เขาบอกผู้จัดการก่อนจะหยิบหมวกแก๊ป ผ้าปิดจมูกใส่และเดินลงจากรถทันที ขาเรียวยาวรีบวิ่งให้ทันร่างเล็กของอัญชันที่เขาเห็นหลังเธอไว ๆ เดินเข้าไปลิฟท์ แต่ทว่าเขาไม่ทันขึ้นลิฟท์ตัวเดียวกับเธอ เลยหยุดรอดูเลขชั้นที่เธอขึ้