หลังจากวันที่แสนวุ่นวายจบลง ตอนนี้นินิวก็ขึ้นมาบนห้องของตัวเองแล้ว เธอยืนรอเลขาฯ ของออสตินมารับเขาเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าอีกฝ่ายจะมาถึง พอขึ้นห้องมาได้ เธอก็ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาห้องนั่งเล่นทันที
รู้สึกว่าวันนี้เธอหมดพลังไปกับออสตินมากกว่าการไปเวิร์คช็อปวันสุดท้ายเสียอีก เขาเป็นผู้ชายที่ต่อปากต่อคำกับผู้หญิงเก่งและรู้จุดอ่อนของผู้หญิง วิธีการพูดจาของเขาก็น่ากลัว ปกติเขาไม่ต้องทำอะไร แค่หน้าหล่อ ๆ ของเขาก็ทำผู้หญิงติดกันตรึมแล้ว แต่ทว่ายิ่งเขาพูดเขาจะกลายเป็นคนมีเสน่ห์ขึ้นมาอีกเท่าตัว ติ้ง! เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ที่ยังคงอยู่ในกระเป๋าสะพายของเธอดังขึ้น พอล้วงหยิบมาดูว่าใครเป็นคนส่งข้อความมาหาเธอ ก็ต้องถอนหายใจออกมาทันที เพิ่งห่างกันไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเขาก็ส่งข้อความมาหาเธอเสียแล้ว ออสติน: ส่งรูป พลันนิ้วเรียวก็ชะงักไปทันทีเมื่อเห็นว่าเขาส่งรูปมาหาเธอ ในหัวมันอดคิดไม่ได้ว่าเขาจะเป็นพวกโรคจิตส่งรูปของลับมาให้เธอดูเหมือนนิสัยทะลึ่งตึงตังของเขาหรือเปล่า เลยตัดสินใจไม่เปิดเข้าไปดู เพราะไม่ไว้ใจเขา ติ้ง! ออสติน: ไม่เปิดอ่าน? ผู้ชายคนนี้จิตไม่ปกติไปแล้วแน่ ๆ เธอตัดสินใจวางโทรศัพท์ไว้และลุกขึ้นเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำแทนที่จะเปิดอ่านข้อความของเขา แต่ทว่าเหมือนเธอจะคิดผิดที่ทำแบบนั้น เพราะทันทีที่เธอออกมาจากห้องน้ำ ก็ได้ยินเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นไม่หยุด เมื่อหยิบขึ้นมาดู ก็เป็นเบอร์แปลกที่เธอไม่ได้เมมชื่อไว้ พอเธอไม่รับก็โทรเข้ามีรัว ๆ จนเธอตัดสินใจรับทันทีเพราะกลัวว่าจะเป็นที่บ้านมีเรื่องด่วนอะไรโทรมา "ฮัลโหล" (ทำไมเธอไม่อ่านข้อความฉัน) พอได้ยินเสียงปลายสายเท่านั้นแหละ เธอแทบอยากจะเขวี้ยงโทรศัพท์ออกไปให้ไกล อุตส่าห์คิดว่าเป็นใครโทรมาเพราะเรื่องเดือดร้อนอะไรหรือเปล่า ที่ไหนได้ออสตินโทรมาแค่เพราะว่าเธอไม่อ่านข้อความเขา "นายบ้าไปแล้วหรือไง โทรมาแค่เพราะว่าฉันไม่อ่านข้อความเนี่ยนะ ปัญญาอ่อนมาก" (แล้วทำไมเธอไม่อ่าน บอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าเธอไม่อ่านฉันจะโทรมากวนเธอทั้งคืน) "นายบอกตอนไหน ฉันจำได้ว่าที่นายบอกจะโทรมากวนทั้งคืนคือฉันไม่ให้ไลน์นาย แต่ฉันก็ให้ไปแล้วไง" (เหมือนกันนั่นแหละ ฉันอุตส่าห์ส่งรูปไปให้เธอ แค่เปิดอ่านสักนิดจะเป็นอะไร) น้ำเสียงน้อยใจเหมือนตอนอยู่ในรถ ทำให้นินิวถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าเขาจะขยันน้อยใจอะไรนักหนา ทั้งที่เราสองคนเป็นแค่เพื่อนกัน "ถามจริงเถอะ นายมีเวลาว่างมาล้อเล่นเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ ไม่ใช่ว่าต้องทำงานทำการอะไรหรือไง วันนี้ฉันก็เห็นนายไปนั่งเฝ้าผู้หญิงทั้งวัน" (ตอนนี้มันกี่โมงแล้วนิว ที่เธอยังไล่ให้ฉันไปทำงานอยู่อีก) "งั้นปกติเวลานี้ นายทำอะไร" (ถ้าตอนอยู่อเมริกาก็ไปทำงานไง) "แล้วหลังจากกลับมาล่ะ" (ฉันไปอยู่อเมริกามาแปดปีแล้วนะ เพื่อนฝูงที่นี่นอกจากเธอกับโมนา ฉันก็ไม่เจอใครอีก ยังไม่ได้บอกใครด้วยว่ากลับมาแล้ว) เหตุผลที่เขาเอ่ยขึ้นมา มันฟังดูน่าเชื่อถือก็จริง แต่คาสโนว่าตัวพ่อแบบเขา เธอก็ยังเชื่อไม่ได้อย่างสนิทใจ "ถามตรง ๆ นะ ตอนนายอยู่เมืองนอกนายไม่มีแฟนเหรอ นายไปอยู่ที่โน่นตั้งหลายปีนะ" (ไม่มี) "โกหก คนแบบนายนะเหรอจะไม่มีผู้หญิง ขนาดตอนเรียนมอปลาย นายยังควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเลย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ รุ่นน้อง นายก็รวบหมดทุกคน" (เธอถามถึงแฟนไม่ใช่เหรอนิว ถ้าแฟนฉันไม่มีจริง ๆ) "แล้วพวกผู้หญิงที่นายควง นายให้คำนิยามกับพวกเธอว่าอะไรติน" จากตอนแรกที่เธอกำลังยืนอยู่ข้างเตียง แต่ทว่าพอบทสนทนาเริ่มยาวขึ้น ก็ทิ้งตัวลงนอนและหยิบผ้าห่มมาคลุมกายทันที (คู่นอน) "เหอะ" (เธออยากรู้เองนะนิว พอฉันพูดตรง ๆ เธอก็รับไม่ได้) "รับไม่ได้อะไร ฉันพูดตอนไหน?" (แค่ได้ยินเสียงถอนหายใจเธอ ฉันก็รู้แล้ว ฟังฉันนะนิว มันเรื่องธรรมดาของผู้ชายไหม ที่จะมีคู่นอนบ้าง เธอจะให้ฉันช่วยตัวเองไปจนตายหรือไง แล้วฉันก็ไม่เคยไปบังคับฝืนใจใครที่ไหน ผู้หญิงพวกนั้นเต็มใจทั้งนั้น เป็นการยินยอมทั้งสองฝ่ายเธอเข้าใจไหม) "....." (เข้าใจที่พูดหรือเปล่า?) "เข้าใจแต่ไม่ทั้งหมด ที่เข้าใจคือนายไม่ได้บังคับฝืนใจใคร เรื่องนั้นมันก็แน่อยู่แล้ว เพราะนายทั้งหล่อ ทั้งรวย ผู้หญิงที่ไหนจะไม่ชอบล่ะว่าไหม แต่ที่ไม่เข้าใจคือถ้านายมีความต้องการขนาดนั้น ทำไมไม่หาแฟนเป็นตัวเป็นตนสักคนล่ะ จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อย ๆ" (งั้นเธอเป็นแฟนกับฉันไหมล่ะ) "นี่นายอย่ามาล้อเล่นนะ" (เห็นไหม ขนาดเราเคยเป็นเพื่อนกัน เธอยังไม่อยากเป็นแฟนกับฉันเลย) "มันไม่ใช่แบบนั้น แล้วนายก็หยุดล้อเล่นเรื่องพวกนี้สักที ไม่งั้นฉันจะบล็อกนายจริง ๆ นะ" เสียงหวานเริ่มพูดยานคางขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อรู้สึกมีอาการง่วงนอน (ง่วงแล้วใช่ไหม) "อือ นิดหน่อย" (งั้นนอนเถอะ ไว้ฉันค่อยโทรหาใหม่) "นายก็นอนได้แล้วนะ" (ฝันดีนะนิว แล้วอย่าลืมอ่านข้อความของฉัน ไม่งั้นฉันจะตามไปหลอกหลอนเธอในฝัน) "ไอ้บ้านี่ ถ้านายทำแบบนั้นฉันก็จะบล็อกนายในฝันเหมือนกัน" (หึ เอาสิ ถ้าเธอบล็อกฉันจูบ) ประโยคนั้นของออสตินเธอไม่ได้ยิน เพราะสติดับไปก่อนหน้านั้นแล้ว โทรศัพท์ยังคงขึ้นเวลาการโทรจากปลายสายอยู่แบบนั้น อีกฝ่ายไม่ได้กดวางอย่างที่คิด จนกระทั่งเธอตื่นมาตอนเช้า ก็ยังเห็นเวลาการโทรเดินไปเรื่อย ๆ แต่เมื่อเอาโทรศัพท์มาแนบหู เธอก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร เป็นไปได้ว่าเขาเองก็หลับคาสายไปเหมือนกัน จึงกดวางสายทันที แล้วตัดสินใจกดเข้าดูข้อความของเขาที่ส่งมาหาเธอเมื่อคืน ผิดคาดที่ไม่ใช่รูปโป๊เปลือยเหมือนที่เธอจินตนาการ แต่มันเป็นรูปหน้ากระดาษที่มีลายมือขยุกขยิกเขียนเอาไว้ ถึงจะไม่ได้สวยมากแต่ก็พออ่านข้อความพวกนั้นออก ไดอารี่ถึงนินิว ฟังดูเหมือนตลกนะ ที่ฉันมานั่งเขียนอะไรแบบนี้ แต่คิดไว้แล้วว่าจะให้เธออ่านหลังจากฉันกลับไปและได้เจอเธออีกครั้ง เสียใจนะที่ไม่ได้บอกลาเธอก่อนมาที่นี่ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะฉันไม่อยากบอกลาเธอเอง เพราะคิดว่ายังไงฉันก็จะต้องกลับมาหาเธอ หลังจากนี้มีสองข้อที่ฉันภาวนา ข้อแรกคือขอให้เธอมีชีวิตที่ดี ไม่ต้องดิ้นรนทำงาน ได้ใช้ชีวิตปกติเหมือนเด็กผู้หญิงคนอื่น ข้อที่สองคือขอให้เธอยังโสด ฟังดูเห็นแก่ตัวนะที่ขออะไรแบบนี้ แต่ฉันก็จะโสดจนกว่าจะกลับไปเจอเธอเหมือนกัน อ่านจบมือเล็กก็ยกขึ้นกุมอกข้างซ้ายที่หัวใจกำลังกระหน่ำเต้นอย่างรุนแรง ไม่คิดมาก่อนว่าผู้ชายแบบออสติน จะมาเขียนอะไรแบบนี้ได้ มันเกินความคาดหมายของเธอไปมากจริง ๆ อีกทั้งข้อความที่เธออ่านมันดูไม่ใช่ตัวเขาที่เธอรู้จัก พยายามนึกว่าอันนี้คือลายมือเขาจริงหรือเขากำลังล้ออะไรเธอเล่นหรือเปล่า แต่เวลามันผ่านมานานจนเธอจำไม่ได้ว่าเมื่อก่อนอันนี้คือลายมือของเขา ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มออกมา ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีที่รู้ว่าผู้ชายคนหนึ่งเขียนไดอารี่ถึงตัวเองแบบนี้ และดูเหมือนเขาจะตั้งใจส่งให้เธอดูแค่หน้านี้หน้าเดียว เขากำลังทำให้เธอกระหายอยากรู้ข้อความต่อไป เปรียบเหมือนละครที่ตัดจบแบบทิ้งปมเอาไว้ให้เราสงสัยและต้องตามดูตอนต่อไปเรื่อย ๆ "นายมันคนเจ้าเล่ห์ออสติน" เสียงหวานพึมพำออกมา เธอกำลังแพ้เสียงในหัวตัวเองอย่างหนัก ได้แต่บอกตัวเองว่าอย่าไปตามเกมส์ของผู้ชายคนนี้ เขายังมีอะไรที่เธอคาดไม่ถึงมากกว่านี้แน่นอน“ไปกันใหญ่แล้วนิว” นินิวสะบัดแขนแกร่งของออสตินที่รีบลุกขึ้นเดินมาจับเธอ ตอนที่เธอกำลังจะเดินเข้าห้อง“ปล่อยติน ฉันจะไปอาบน้ำ” “แต่เธอกินข้าวไม่หมดเลยนะ” "ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าไม่อยากงี่เง่า แต่นายก็ยังทำให้ฉันเป็นแบบนี้" คนตัวสูงเข้าไปสวมกอดเธอจากด้านหลังทันที เขาวางคางเกยไว้กับไหล่บางของเธอพลางพูดเสียงอ้อน "ขอโทษ ต่อไปฉันจะบอกเธอทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ ฉันจะไม่โกหกเธออีก" ฟอด!! เขาฉวยโอกาสหอมแก้มป่องฟอดใหญ่ เธอเองก็ไม่ได้อิดออดอะไร เพราะไม่ได้โกรธเขาขนาดนั้น "ฉันจะให้โอกาสนายแก้ตัว แต่หากหลังจากนี้นายยังมีอะไรปิดบังอีก ฉันจะไม่ทนแล้วนะ" "ไม่มี หลังจากนี้ไม่มีอีกแล้ว ฉันขาดเธอไม่ได้ เธอก็รู้" นินิวอมยิ้มเหลือบตามองคนขี้อ้อน ที่กำลังคลอเคลียเธอไม่ห่าง "อาบน้ำด้วยกันไหม" "อาบน้ำอย่างเดียวนะ" คนตัวเล็กเอ่ยดักทางคนหื่นที่จ้องจะจับเธอกินตลอดเวลา เห็นสีหน้าเซ็ง ๆ ของเขาก็เดาได้ทันทีว่าเขาคิดไม่ซื่อกับเธอจริง ๆ อ่างน้ำอุ่นที่เต็มไปด้วยฟองสีขาวลอยละล่อง ส่งไอร้อนระเหยปกคลุมไปทั่วห้องน้ำหรูหรา แสงไฟสลัวสะท้อนกับผิวกระเบื้องเงางาม ออสตินเอนกายลงในอ่างน้ำขนาดใหญ่ ข้า
หลังจากถ่ายละครเสร็จ วันนี้เลิกกองถ่านค่อนข้างดึก ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว นินิวเลยบอกคนขับรถตู้ของพี่แจงที่มารับเธอให้แวะร้านข้าวต้มเจ้าประจำข้างทาง เพราะถ่ายละครลากยาวตลอดช่วงบ่าย ทำให้เธอรู้สึกหิวมากกว่าทุกวัน "เอาเหมือนเดิมนะคะเฮีย” เฮียเจ้าของร้านพยักหน้าเข้าใจ แต่ทว่ายังคงจ้องหน้าเธอไม่หยุด เหมือนมีอะไรอยากจะพูดกับเธอ “มีอะไรหรือเปล่าคะ เห็นเฮียมองหน้าหนูแปลก ๆ" เฮียเจ้าของร้านทำสีหน้าหนักใจ เพราะไม่รู้ว่าเรื่องนี้ควรถามออกไปหรือเปล่า แต่เพราะไม่อยากให้ลูกค้าประจำที่เขาเอ็นดูเหมือนลูกหลานอย่างนินิวต้องถูกอีกฝ่ายหลอกเลยตัดสินถามออกไป “ผู้ชายที่มากับเราครั้งก่อน เขาเป็นแฟนเราหรือเปล่า” “เฮียถามทำไมคะ มีอะไรบอกหนูได้เลยค่ะ หรือว่าเขามาค้างค่าอาหารเฮีย เดี๋ยวหนูจ่ายให้เองค่ะ”นินิวรีบหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าสะพาย เพราะคิดว่าออสตินมาทานข้าวแล้วไม่มีเงินสดจ่ายเฮียเจ้าของร้าน “ไม่ใช่หนู วันก่อนเขามาทานข้าวที่นี่ดึกแล้ว น่าจะเกือบห้าทุ่ม เขามากับผู้หญิงท่าทางดูดี แต่นิสัยน่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่” นินิวชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ“เป็นเพื่อนร่วมงานกันค่ะ” “อ๋อเห
“นี่พี่ได้ยินที่ฉันคุยกับพยาบาลเหรอ ไม่มีมารยาทเอาซะเลย” “ถึงฉันไม่แอบฟัง เธอพูดดังขนาดนั้น ใครเดินผ่านไปมาก็ได้ยินทั้งนั้นแหละ” อัญชันเม้มปากแน่น สายตาโฟกัสไปตรงสวนของโรงพยาบาล ที่ตอนนี้มีผู้ป่วยหลายคนกำลังนั่งรับลมยามเย็น เธอรู้สึกอายที่ขุนเขาต้องมารับรู้เรื่องอะไรแบบนี้ของเธอ “พี่ห้ามบอกนิวเด็ดขาด ไม่ว่าเรื่องที่แม่ฉันกำลังรักษาตัวอยู่ที่นี่หรือเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาแม่ของฉัน ตอนนี้นิวเองมันก็เพิ่งได้กลับเข้าวงการมา ฉันไม่อยากเอาความทุกข์ของฉันไปใส่หัวมันอีก” “เธอคิดว่าเพื่อนเธอเห็นเรื่องของเธอเป็นความทุกข์ใจเหรอ เธอประเมินเพื่อนเธอต่ำไปหรือเปล่าอัญชัน” “เพราะฉันรู้ว่านิวมันคงไม่นิ่งเฉย มันต้องช่วยฉันแน่นอนถ้ารู้ ยิ่งเป็นแบบนั้น ฉันยิ่งไม่อยากให้เพื่อนรู้" ขุนเขาหันไปมองเสี้ยวหน้าของอัญชันตอนนี้ ทั้งน้ำเสียงและแววตาเธอดูเศร้าเหมือนคนทุกข์ใจอย่างหนัก แสดงว่าที่ผ่านมาทำเป็นเข้มแข็งเพื่อกลบเกลื่อนความอ่อนแอของตัวเอง "แล้วเธอจะหาเงินจากที่ไหน" "ฉันยังไม่รู้เลยค่ะ ตอนนี้ก็ทำทุกทางแล้วเหมือนกัน แต่ดาราตัวประกอบอย่างฉัน นอกจากเล่นละคร งานอื่นก็ไม่มีเข้ามาหรอกค่ะ" "เท่าไหร่?"
เสร็จสิ้นการถ่ายทำที่โรงพยาบาล พรุ่งนี้กองถ่ายจะยกกองไปถ่ายที่บ้านหลังใหญ่ เป็นบ้านของพระเอกของเรื่องอย่างขุนเขา หลังจากเลิกกอง ระหว่างที่ขุนเขากำลังเดินไปขึ้นรถตู้ของผู้จัดการส่วนตัว สายตาคมของเขาเหลือบไปเห็นอัญชันเดินแกมวิ่งเข้าไปยังตึกผู้ป่วยในของโรงพยาบาล หัวคิ้วขมวดกันด้วยความสงสัย การแต่งตัวของเธอบ่งบอกว่าเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ทำให้เขายิ่งสงสัยว่าเธอเดินเข้าไปในตึกผู้ป่วยในทำไมเวลานี้ ในเมื่อตอนนี้ทีมงานทุกคนต่างแยกย้ายและเคลียร์สถานที่กันแล้ว จะว่าไปสองสามวันที่ผ่านมาเขาก็เห็นเธอเดินไปทางตึกผู้ป่วยในหลายครั้ง บางครั้งก็เป็นในระหว่างถ่ายทำ แต่ทว่าตอนนั้นเขาไม่สนใจ เพราะเป็นช่วงที่ยังมีการถ่ายทำที่นี่อยู่ แต่ทำไมวันนี้เขาเกิดอยากจะรู้ขึ้นมาว่าเธอเข้าไปในตึกนั้นทำไมทั้งที่เลิกกองไปแล้ว “เดี๋ยวผมกลับเองครับ” “จะไปไหนขุน?” “ผมเห็นเพื่อนนะครับ ขอไปหาหน่อยนะ“เขาบอกผู้จัดการก่อนจะหยิบหมวกแก๊ป ผ้าปิดจมูกใส่และเดินลงจากรถทันที ขาเรียวยาวรีบวิ่งให้ทันร่างเล็กของอัญชันที่เขาเห็นหลังเธอไว ๆ เดินเข้าไปลิฟท์ แต่ทว่าเขาไม่ทันขึ้นลิฟท์ตัวเดียวกับเธอ เลยหยุดรอดูเลขชั้นที่เธอขึ้
“ฉันจำไม่ได้หรอก มันนานมากแล้วนะ” “โกหก เธอยังจำได้เลยว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้น แต่กลับบอกว่าจำความรู้สึกตัวเองไม่ได้ ที่จริงเธอจำได้แต่ไม่กล้าพูดออกมามากกว่า”ชายหนุ่มทำสีหน้าน้อยใจ หันหน้าหนีไปมองอีกทาง ทำตัวงอนเหมือนเด็กสามขวบก็ไม่ผิด ไม่รู้ว่าเรื่องแค่นี้เขาจะเล่นใหญ่อะไรขนาดนี้ไปเพื่ออะไร “นายต้องการให้ฉันตอบว่าอะไรติน ถ้านายอยากรู้จริงนายก็ต้องรับคำตอบให้ได้นะ” “แน่สิ เธอไม่เคยเห็นฉันอยู่ในสายตาอยู่แล้วนี่ ตอนนี้ฉันก็ยังงงอยู่นะ ว่าไปทำอิท่าไหนให้เธอยอมคบกับฉันได้ หรือเพราะว่าเธอไม่อยากให้ฉันไปยุ่งกับโมนา ถึงได้ยอมฉันขนาดนี้” “ก็แค่ส่วนหนึ่ง” ออสตินหันขวับมามองหน้าเธอทันที ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะกล้าพูดออกมาตรง ๆ ขนาดนี้ แต่ทว่าหญิงสาวกลับระบายยิ้มขบขันท่าทางของเขาออกมา “โมนาเป็นแค่ตัวเร่งปฏิกริยาของฉันเท่านั้นแหละ คนอย่างฉันถ้าไม่รู้สึกอะไรจริง ฉันไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้หรือเข้ามายุ่งพื้นที่ส่วนตัวของฉันขนาดนี้หรอก นายก็น่าจะรู้” เมื่อได้คำตอบที่พอใจ ชายหนุ่มก็ยิ้มออกมาได้เล็กน้อย ก่อนจะดึงตัวเธอเข้ามากอด จูบขมับเบา ๆ อย่างแสนรัก“ผู้หญิงคนนั้นตอนมอห้าที่ฉันขอคบด้วย ไม่ใช่เพราะฉั
นินิวกลับถึงคอนโด ก็รีบเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำทันที ถึงแม้ตาแทบจะปิดแต่ผู้หญิงรักความสะอาดแบบเธอ ก็ต้องฝืนตัวเองไปอาบน้ำก่อนนอนให้ได้ อีกทั้งเครื่องสำอางที่แน่นหน้าตอนนี้ เธอก็ต้องล้างออกให้หมด เธอใช้เวลาอาบน้ำนานพอสมควร ตอนที่เปิดประตูออกจากห้องน้ำ สายตาก็เหลือบไปเห็นออสตินนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงด้วยท่าทีสบาย ๆ เขาทำราวกับว่าห้องนี้เป็นห้องของเขาไม่ใช่ของเธอ "ฉันหิวแล้วอ่ะ สั่งข้าวมากินกันดีกว่า" "ฉันกินสลัดของพี่แจงบนรถตู้มาแล้ว" เธอตอบด้วยสีหน้าราบเรียบ ไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ เดินตรงเข้าไปในห้องแต่งตัว เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบชุดนอนลายการ์ตูนแบบที่เธอชอบมาสวมใส่ ก่อนจะเดินออกจากห้องแต่งตัวมานั่งที่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อทาครีมบำรุง "แต่ฉันหิว" "หิวนายก็สั่งข้าวมากินสิ" ออสตินขยับตัวลุกขึ้นนั่งที่ปลายเตียง จ้องมองหญิงสาวที่กำลังหยิบครีมต่าง ๆ มาประโคมบนหน้าของเธอ"ทำไมเธอไม่อ่านข้อความฉัน" "แล้วทำไมนายต้องส่งมา นายกับฉันยืนห่างกันไม่ถึงสามเมตรเลยนะ เดินมาไม่ง่านกว่าเหรอ" "ก็ตอนนั้นฉันกำลังคุยเรื่องงานกับทีมงานอยู่ เธอก็เห็น" "ก็รอให้คุยเสร็จก่อนสิ แล้วค่อยเดินมาคุย" ชายหน